Saturday, 5 July 2025
POLITICS

รองโฆษกรัฐบาล แจง ศบค.ส่วนหน้าดูแล 4 จว.ชายแดนใต้ ไม่ซ้ำซ้อน ตั้งเป้า สกัดให้ได้ใน 2 เดือน

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ "แจงให้เคลียร์กับทีมโฆษกรัฐบาล" ถึงการตั้งศูนย์บูรณาการแก้ไขสถานการณ์โควิด - 19 ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศบค. ส่วนหน้า ว่า ศบค. ส่วนหน้า จะทำหน้าที่ดูแล และป้องกันการแพร่ระบาด โควิด-19 ใน 4 จังหวัดคือ นราธิวาส ยะลา ปัตตานี และสงขลา ซึ่งมีอัตราการแพร่ระบาดสูง โดยจะไม่ซ้ำซ้อนกับศบค. ส่วนกลาง ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความมั่นใจว่าจะดูแลสถานการณ์ให้ได้อย่างทั่วถึง เป็นการทำงานบูรณาการจากกระทรวงสาธารณสุข การดูแลการเข้าออกด่านทางบก และการประสานงานทางศาสนา ตั้งเป้าว่าจะควบคุมและลดการระบาดภายใน 1-2 เดือน หรือลดผู้ติดเชื้อ โควิด-19 ให้ได้ร้อยละ 10 ต่อสัปดาห์

น.ส.รัชดา กล่าวว่า ในแต่ละจังหวัดก็จะมีมาตรการที่สอดคล้องกับพื้นที่ เช่น จังหวัดยะลา จะตั้งเป้าฉีดวัคซีนให้กับประชาชนให้ได้ 70% ภายในเดือนตุลาคม ล่าสุดการฉีดวัคซีนจนถึงวันที่ 18 ตุลาคมนี้ได้ฉีดไปแล้ว 62% ของจำนวนประชากรในจังหวัด นอกจากนี้ในจังหวัดยะลายังมีมาตรการเพิ่มเติมขึ้นมาโดยผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ได้ออกประกาศ 2 ฉบับ คือ ผู้ที่อยู่ในด่านรอยต่อขาเข้า ทั้ง 12 ด่าน ต้องได้รับวัคซีนอย่างน้อยหนึ่งเข็ม ถึงจะสามารถเข้ามาในจังหวัดยะลาได้ และในวันที่ 20 ตุลาคม ได้ประกาศให้ประชาชนที่จะเข้ามาติดต่อหน่วยงานราชการ  ธนาคาร หรือการละหมาด ต้องได้รับวัคซีนอย่างน้อย หนึ่งเข็มเพื่อลดการแพร่เชื้อ 

“รองโฆษกรัฐบาล”ย้ำ 1 พ.ย. นี้ ให้ “เปิดมหาลัย-โรงเรียน” เรียนในที่ตั้ง เผย ฉีดวัคซีนเด็กมหาลัย กว่า1 ล้านคน 

น.ส.รัชดาธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “แจงให้เคลียร์กับทีมโฆษกรัฐบาล” ถึงการเปิดเรียนในที่ตั้งและการฉีดวัคซีนให้นักเรียนนักศึกษา ว่า ในระดับอุดมศึกษา ทางกระทรวงการอุดมศึกษา วิจัย วิทยาศาสตร์และนวัตกรรม เห็นว่ามหาวิทยาลัยจะมีความพร้อมให้ไปเรียนที่มหาวิทยาลัยตั้งแต่วันที่1พ.ย.นี้โดยขึ้นอยู่กับความพร้อมของแต่ละสถานที่ ส่วนการฉีดวัคซีนให้นักศึกษาและบุคลากรในมหาวิทยาลัย ได้ฉีดแล้วกว่า 1 ล้านคน

สำหรับนักเรียนก็ตั้งเป้าเปิดเรียนในที่ตั้งตั้งแต่วันที่1 พ.ย.เช่นกัน ขึ้นอยู่กับความพร้อมของแต่ละโรงเรียนในแต่ละพื้นที่อาจมีความพร้อมไม่เท่ากัน โรงเรียนบ้านแห่งที่อยู่นอกพื้นที่เสี่ยงพิจารณาเปิดเรียนได้ง่ายและรวดเร็วกว่า ส่วนการฉีดวัคซีนมีผู้ปกครองแสดงความประสงค์ให้ลูกหลานฉีดวัคซีนเพิ่มมากขึ้น โดยฉีดให้เด็กนักเรียนตั้งแต่อายุ 12 ปีขึ้นไปถึงวันที่ 18 ต.ค.จำนวน 1,130,000 คน

'วิษณุ' ชี้คลิปวิดีโอคอล ‘ทักษิณ’ ไม่ได้ครอบงำ แค่พูดคุยธรรมดา ปัด!! เข้าข่ายยุบพรรคเพื่อไทย

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เตรียมยื่นคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้พิจารณายุบพรรคเพื่อไทย สืบเนื่องจากกรณีที่ปรากฏคลิปงานเลี้ยง ส.ส. พรรคเพื่อไทย ที่มีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี วิดีโอคอลเข้ามาพูดคุย ถึงงานการวางตัวหัวหน้าพรรคคนใหม่ ว่า ไม่รู้ ยังไม่ทราบเรื่อง

เมื่อถามว่า นิยามคำว่าครอบงำพรรคเป็นอย่างไร นายวิษณุ กล่าวว่า เคยมีการวินิจฉัยไว้แล้วว่าการครอบงำคือ การใช้อิทธิพลโดยที่ตัวเองไม่มีส่วนได้เสีย ไม่ได้เป็นสมาชิก และไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรค แล้วไปชี้นำให้ผู้อื่นปฏิบัติตาม ส่วนเรื่องนี้จะเข้าข่ายครอบงำหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ

'อดีตบิ๊กข่าวกรอง' ถาม 'ดีอี' ทำอะไรอยู่ ปล่อยโพสต์แยกดินแดนล้านนา อีสาน ปัตตานี เกลื่อน

18 ต.ค. 64 - นันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์เฟซบุ๊ก Nantiwat Samart ถาม ดีอีทำอะไรอยู่

อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ระบุว่า กระทรวงดีอีโพสต์ของกลุ่มคนที่เรียกตัวเองว่า anti fascist action thailand ประกาศโค่นล้มทั้งระบอบการปกครองและยุยงให้ปลดปล่อยล้านนา อีสาน ปัตตานี ดังข้อความที่เผยแพร่

“บิ๊กตู่”ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยจัดการดำเนินการอำนวยความสะดวกให้ชาวต่างชาติในไทยได้รับวัคซีน ซึ่งรับแล้วมากกว่า 1 ล้านคน 

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กรณีที่กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงสาธารณสุขได้ประสานงานร่วมกันเปิดเว็บไซต์ให้ชาวต่างชาติที่มีถิ่นพำนักในไทย โดยไม่คำนึงถึงสัญชาติ ทุกกลุ่มอายุและทุกจังหวัด ลงทะเบียนเพื่อรับวัคซีนทางเว็บไซต์ https://expatvac.consular.go.th ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2564 นั้น ภาพรวมมีชาวต่างชาติที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้วทั้งสิ้นกว่า 1 ล้านคน ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบผลการดำเนินการดังกล่าว และขอบคุณทุกหน่วยงานที่พร้อมดำเนินการตามแนวนโยบายของรัฐบาลอย่างเต็มที่เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ชาวต่างชาติที่ใช้ชีวิตในประเทศไทยอย่างเท่าเทียม เพื่อให้ทุกคนในประเทศไทยมีสุขภาพที่ดี และได้ฝากความห่วงใยยังชาวไทยทุกคนที่ดำรงชีวิตในต่างประเทศด้วย

“ราเมศ” ขอบคุณนิด้าโพล สำรวจความคิดเห็น ยกคะแนนนิยม ประชาธิปัตย์ภาคใต้ ยังเป็นอันดับ 1

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ระบุถึงภาพรวมของผลโพลล์ของพรรคประชาธิปัตย์ในภาคใต้ว่า สำหรับความนิยมของพรรคในภาคใต้ถือว่ายังมีคะแนนนิยมสูงกว่าพรรคการเมืองอื่นๆ ซึ่งที่ผ่านมามีมากถึง ร้อยละ 84.94 และในการเลือกตั้งครั้งหน้า แม้จะมีตัวเลขในผลโพลล์ ระบุว่าส่วนใหญ่ ร้อยละ 48.14 ยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ แต่หากมองอันดับรองลงไปคือร้อยละ 30.04 ก็ระบุว่า จะเลือกพรรคประชาธิปัตย์  

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า สำหรับกลุ่มที่ระบุว่ายังไม่แน่ใจนั้น เชื่อว่าในสัดส่วนนี้ยังมีความนิยมในพรรคประชาธิปัตย์อยู่ เพราะเมื่อย้อนไปดูผลโพลล์ของหลายสำนักที่สำรวจในช่วงระหว่างสมัยของสภาก็พบว่า ตัวเลขของผู้ที่ตอบว่าไม่มั่นใจจะมีตัวเลขสูงในทุกครั้ง เพราะมีเหตุปัจจัยที่อยู่ในช่วงเวลาที่ยังไม่ได้มีการกำหนดเวลาในการเลือกตั้ง

ซูเปอร์โพล เช็กเรตติ้ง คู่ชิงเก้าอี้นายกฯ 'บิ๊กตู่ - จุรินทร์' 2 แคนดิเดต คะแนนยังนำ

17 ต.ค. 64 นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เสนอผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง ประเมินคู่ชิงนายกรัฐมนตรี กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศโดยดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) จำนวน 1,348 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 11 - 16 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา พบว่า

ผลประเมินความเหมาะสมเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีอันดับแรกได้แก่ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 68.2 ระบุ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพราะจงรักภักดีต่อสถาบันหลักของชาติ อดทน อดกลั้น มุ่งมั่นทุ่มเททำงานให้ประเทศชาติและประชาชนต่อเนื่องมา ปรับปรุงตนเอง กำลังทำงานต่อเนื่องฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศแก้ปัญหาปากท้องให้กลับมาเปิดประเทศได้ ยังไม่พบปัญหาทุจริตคอร์รัปชันที่รุนแรงเอื้อต่อผลประโยชน์ส่วนตัวและพวกพ้อง ไม่เหมือนอดีตนายกรัฐมนตรีที่มีปัญหาทุจริตคอร์รัปชันเอื้อผลประโยชน์ต่อครอบครัวและพวกพ้อง เป็นต้น

อันดับสอง ที่ตามมา ได้แก่ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 59.3 ระบุ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ เพราะมีอุดมการณ์ ขยันทุ่มเททำงานแก้ปัญหาเดือดร้อนของประชาชน มีประสบการณ์การเมืองมายาวนาน เชื่อมประสานทุกฝ่ายฝ่าวิกฤตต่าง ๆ ได้ไม่มีประวัติด่างพร้อย จงรักภักดีต่อสถาบันหลักของชาติ จุดยืนมั่นคงกับพรรคประชาธิปัตย์ ไม่พบทุจริตคอร์รัปชัน ไม่เอื้อผลประโยชน์แก่ครอบครัวและพวกพ้อง เป็นต้น

อันดับสาม ที่ตามมาติด ๆ ได้แก่ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 58.6 ระบุ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เพราะเป็นผู้หญิงกล้า แกร่ง มุ่งมั่นทุ่มเท ทำงานใกล้ชิดประชาชน อยู่เบื้องหลังความสำเร็จพรรคไทยรักไทยในอดีต มีความละเอียดอ่อนไหวต่อความรู้สึกของประชาชนตัวเล็กตัวน้อย เป็นต้น

อันดับสี่ ได้แก่ ร้อยละ 58.5 ระบุ นายกรณ์ จาติกวณิช เพราะเป็นนักการเมือง เป็นตัวของตัวเองสูง การศึกษาดี พูดจาดี มีประสบการณ์สูง เชี่ยวชาญเศรษฐกิจ การเงิน เป็นต้น 

อันดับห้า ได้แก่ ร้อยละ 54.4 ระบุ นายอนุทิน ชาญวีรกูล เพราะเป็นนักธุรกิจเคยผ่านวิกฤตเศรษฐกิจอยู่เบื้องหลังความสำเร็จผ่านวิกฤตโควิด อดทน อดกลั้นต่อการถูกโจมตี จิตใจดีช่วยเหลือประชาชน ไม่เป็นพิษเป็นภัยกับใคร เป็นต้น 

และรอง ๆ ลงไปได้แก่ ร้อยละ 53.9 ระบุ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เพราะเป็นคนรุ่นใหม่ หัวก้าวหน้า พูดจาดีมีเหตุผล มีวิสัยทัศน์ มีการศึกษาดี เป็นต้น และร้อยละ 46.7 ระบุ นายแพทย์ วรงค์ เดชกิจวิกรม เพราะเป็นนักการเมือง นักประชาธิปไตยที่มีความรู้ มีจุดยืนเข้มแข็งจงรักภักดีต่อสถาบันหลักของชาติ แก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน ผลงานเปิดโปงทุจริตจำนำข้าว เป็นต้น

ที่น่าพิจารณา คือ จุดยืนทางการเมืองของประชาชนที่พบว่า จำนวนมากหรือร้อยละ 40.7 สนับสนุนรัฐบาล ในขณะที่ร้อยละ 21.2 ไม่สนับสนุนรัฐบาล และ ร้อยละ 38.1 ระบุ พลังเงียบ ขออยู่ตรงกลาง

ที่น่าสนใจคือ เมื่อจำแนกแบ่งจุดยืนทางการเมืองของประชาชนออกตามภูมิภาคต่าง ๆ ของประเทศ พบว่า ประชาชนในภาคใต้ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 77.7 สนับสนุนรัฐบาลมากที่สุด ในขณะที่คนอีสานสนับสนุนรัฐบาลน้อยที่สุดคือร้อยละ 23.9 โดยคนในภาคกลางสนับสนุนรัฐบาลเป็นอันดับสองได้ร้อยละ 38.5 และคนกรุงเทพมหานครสนับสนุนรัฐบาลร้อยละ 31.5 และคนภาคเหนือสนับสนุนรัฐบาลร้อยละ 29.9

“ประวิตร” สั่ง เร่งขับเคลื่อนโครงการพัฒนาท้องถิ่น เห็นชอบ แนวทางแก้ปัญหาเร่งด่วน กรณีฉุกเฉินปี 65โดยยึดปชช.เป็นศูนย์กลาง  

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นรม.เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค ครั้งที่ 1/2564 

โดยที่ประชุมเห็นชอบนโยบาย มาตรการและแนวทางการกำกับ ติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาคประจำปี65 คือ 1.นโยบาย มาตรการและแนวทางในการกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค 2.การลงพื้นที่เพื่อกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการของรองนายกฯและ3.การรายงานผลการดำเนินงาน และกรอบงบประมาณ กรณีฉุกเฉินฯจำเป็น เพื่อแก้ปัญหาเร่งด่วนประจำปี65 โดยยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ที่มีการบูรณาการ และยึดพื้นที่ รวมทั้งประชาชนเป็นหลัก และรับทราบรายงาน ผลการตรวจติดตาม และประเมินผล การดำเนินการตามแผนพัฒนาจังหวัด และกลุ่มจังหวัดประจำปี64 ของผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี และกระทรวงมหาดไทย และรับทราบผลการกำกับ ติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาคของรองนายกรัฐมนตรีประจำปี64 ซึ่งมีทั้งหมด 899 โครงการ ในการพัฒนาพื้นที่ และท้องถิ่นทั่วประเทศ เพื่อช่วยเหลือประชาชน 

แฉ!! รัฐบาลสหรัฐฯ​ หนุนบริษัทวัคซีน​ มุ่งทำ​ 'กำไร'​ จากชีวิตมนุษย์ | NEWS GEN TIMES ชวนคิด กับ กิตติธัช EP.24

สุดท้ายผลประโยชน์​ ก็ยังเป็นสิ่งหอมหวนของคนที่เห็นแก่ได้เสมอ!! 

แอบถ่าย!! นักวิทยาศาสตร์ Pfizer หลุดเผยนโยบายรัฐบาลสหรัฐฯ หนุนบริษัทวัคซีนให้มุ่งทำ​ 'กำไร'​ จากชีวิตมนุษย์

NEWS GEN TIMES ชวนคิด กับ กิตติธัช

โดย อ.ต้อม - กิตติธัช ชัยประสิทธิ์ นักวิชาการอิสระและอาจารย์ประจำคณะสถาปัตยกรรม ศิลปะและการออกแบบ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง

‘ก้าวไกล’ ถกปัญหา ‘คนจนเมืองขอนแก่น’ ปมไล่ที่ ทำรถไฟความเร็วสูง แต่ไร้เยียวยา

ฟังคนขอนแก่น ‘วีรนันท์’ ว่าที่ผู้สมัครสส.เขต 1 ขอนแก่นนำทีม ‘ก้าวไกล’ ตั้งโต๊ะถกปัญหา ‘คนจนเมืองขอนแก่น’ เผยโครงการ ‘รถไฟฟ้า’ เส้นอีสานไล่ที่ไร้เยียวยา กระทบกว่า 10,000 ครอบครัว ‘วิโรจน์’ จ่อตั้งกระทู้ถาม ‘ศักดิ์สยาม’ ด้าน ‘อภิชาติ’ รับนำเข้ากมธ.ที่ดิน เตรียมเชิญหน่วยงานชี้เเจง

เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2564 ณ ชุมชนมิตรภาพริมทางรถไฟ วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล, อภิชาติ ศิริสุนทร และสุรวาท ทองบุ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เดินทางไปรับฟังเสียงสะท้อนปัญหาจากพื้นที่ชุมชนริมทางรถไฟต่อกรณีที่ได้รับผลกระทบจากโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง โดยมี วีรนันท์ ฮวดศรี ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 จังหวัดขอนแก่น พรรคก้าวไกล ตัวเเทนจากเครือข่ายสลัมสี่ภาค และประชาชนที่ได้รับผลกระทบร่วมกันจัดวงเสวนาโต๊ะกลมเพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองต่อกรณีดังกล่าว

วิโรจน์ กล่าวในวงเสวนาว่า สิ่งที่เกิดขึ้นแม้ว่าเป็นกรณีที่ไม่มีสัญญาเช่า แต่รัฐจะทำเป็นไม่รู้เรื่องแล้วใช้กฎหมายมาปิดปากเพื่อจัดการประชาชนไม่ได้ จึงมีความจำเป็นอย่างมากที่จะต้องเอาเรื่องที่รัฐไม่พูดถึงมาอยู่บนโต๊ะเพื่อเปิดให้มีการเจรจาและหาทางออกร่วมกัน  

“เบื้องต้นพรรคก้าวไกลมอบหมายให้ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ขอนแก่น สรุปเรื่องราวเข้ามา เพื่อเป็นข้อมูลข้อเท็จจริงในการตั้งกระทู้ถามต่อไปยัง นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ให้ตอบและชี้แจงถึงมาตรการของการเยียวยารวมถึงความชัดเจนของหน่วยงานที่รับผิดชอบในการแก้ไขปัญหานี้ ทราบว่าประชาชนจำนวนมากไม่มีสัญญาเช่า ไม่มีโฉนดที่ดิน แต่ในการพัฒนาเมืองประชาชนก็ไม่ได้ต่อต้าน จึงอยากให้ทางรัฐเข้าใจหัวอกของพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบด้วย ผมอยากเห็นเมืองที่คนตัวเล็กตัวน้อยสามารถอยู่ร่วมในเมืองได้อย่างมีคุณภาพชีวิตที่ดี ไม่ใช่เมืองที่พัฒนาแต่ความศิวิไลซ์ อยากเห็นเมืองที่มีการแบ่งปันพื้นที่ให้กับประชาชนรากหญ้าอย่างเป็นธรรมและเข้าใจวิถีชีวิตที่เขาเคยอยู่ ไม่ใช่เป็น Smart City แต่ผู้อยู่อาศัยได้รับความเดือดร้อน รัฐมองแผ่นดิน แต่ไม่มองประชาชนที่อยู่อาศัยไม่ได้” วิโรจน์ กล่าว 

‘ยิ่งลักษณ์’ ส่งตัวแทนช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม โทษรัฐประหาร ส่งผลแผนจัดการน้ำถูกยับยั้ง

15 ต.ค. 64 - น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ส่งตัวแทนมอบสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ตำบลบางกระบือ อำเภอเมือง จังหวัดสิงห์บุรี นำโดย ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช อดีตหัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) น.ส.ชยิกา วงศ์นภาจันทร์ หลานสาวและอดีตนายทะเบียนพรรคทษช. นายวิม รุ่งวัฒนจินดา อดีตรองเลขาธิการพรรคทษช. และทีมเลขาน.ส.ยิ่งลักษณ์

ร.ท.ปรีชาพล กล่าวว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ฝากให้กำลังใจพี่น้องประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วมทุกๆ ครอบครัว เชื่อว่าทุกอย่างจะผ่านพ้นไปโดยเร็ว และอยากฝากถึงรัฐบาล เรื่องการเยียวยาหลังน้ำท่วมขอให้ทั่วถึงและเป็นธรรมต่อพี่น้องประชาชนที่เดือดร้อน โดยเฉพาะเกษตรกร ที่จะต้องขาดรายได้ไปตลอดทั้งปี เพราะพืชผลทางการเกษตรได้รับความเสีย สำหรับพี่น้องชาวจังหวัดสิงห์บุรี ท่านนายกฯ ฝากให้กำลังใจ ขอให้ทุกคนผ่านพ้นความลำบากนี้ไปให้ได้ ในช่วงปี 54 ท่านนายกฯ ได้เดินทางมาตรวจงานที่สิงห์บุรีบ่อยมากๆ เนื่องจากมีเหตุที่ประตูระบายน้ำบางโฉมศรีแตก ที่อำเภออินทร์บุรี

นายวิม กล่าวว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้โทรมาสอบถามถึงสถานการณ์น้ำท่วม หลังจากมีข่าวว่าหลายจังหวัดถูกน้ำท่วมจนทำให้พี่น้องประชาชนต้องกลายเป็นผู้ประสบภัย โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง และภาคกลาง ตลอดจนภาคอีสาน ที่ปีนี้ภาคอีสานกลายเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมมากที่สุด น.ส.ยิ่งลักษณ์จึงคิดว่าเบื้องต้นเพื่อลดปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนผู้ประสบภัยก่อน โดยเฉพาะเรื่อง อาหาร น้ำดื่ม และยาสามัญประจำบ้าน ที่จำเป็นต้องใช้ ท่านจึงให้ทีมงานช่วยกันจัด ”ถุงน้ำใจ จากยิ่งลักษณ์“ เพื่อนำมามอบให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ประสบภัย ที่หน่วยงานรัฐยังไม่เข้ามาช่วยเหลือ หรือบางพื้นที่ที่อาจถูกมองข้ามไป ซึ่งทางทีมงานก็ได้ประสานไปยังกลุ่มผู้ประสบภัยที่ได้รับความเดือดร้อนจริงๆ

“ประวิตร” สั่งเข้ม ห้ามจนท.โยงค้ามนุษย์ ลั่น อย่าเกียร์ว่างในกาาช่วยเหยื่อ

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุมคณะกรรมการประสานและกำกับการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ เพื่อขับเคลื่อนยกระดับการแก้ปัญหาค้ามนุษย์ให้มีประสิทธิภาพ

โดยที่ประชุมเห็นชอบแนวทางการพัฒนาศักยภาพเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในสองระยะ คือ ระยะเร่งด่วน ในการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ และระยะปานกลางในการจัดตั้งสำนักวิชาการ เพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ในรูปแบบเสมือนจริง เพื่อยกระดับความสามารถเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านการป้องกันและปราบปราม การจัดการคดีและคุ้มครองผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ 

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า การแก้ปัญหาการค้ามนุษย์เป็นนโยบายสำคัญเร่งด่วนของรัฐบาล ซึ่งสังคมไม่สามารถยอมรับเรื่องการกักขัง หน่วงเหนี่ยว กรรโชกทรัพย์เหยื่อ และบังคับทรมานขืนใจหรือข่มขืน โดยเฉพาะเด็กและสตรี ไม่ว่าจะเป็นชนชาติใด รัฐบาลจะไม่เพิกเฉยปล่อยปละละเลยให้เกิดขึ้นในไทยอีกต่อไป

ดังนั้นให้ทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ทั้งตำรวจ ทหาร กระทรวงแรงงาน กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สำนักงานอัยการสูงสุด กรมประมง กรมสอบสวนคดีพิเศษ ร่วมมือกันโดยเฉพาะแรงงานในภาคประมง ต้องไม่ปล่อยปละละเลย ให้นึกถึงใจเขาใจเรากับเหยื่อ ต้องขับเคลื่อนแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ทั้งระบบ และเจ้าหน้าที่ที่มีประสบการณ์จากทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เข้ารับการพัฒนาศักยภาพและปฏิบัติงานไปด้วยกันให้ครบทุกมิติ ทั้งด้านป้องกันและปราบปราม การจัดการคดี การคัดแยกเหยื่อและการคุ้มครองสิทธิผู้เสียหาย 

 

ประชาธิปัตย์ เปิดตัว ‘เมธี ลาบานูน’ เตรียมส่งลงชิงเก้าอี้ส.ส.นราธิวาส พร้อมได้เลือดเก่าไหลกลับ ‘เจะอามิง’ พร้อมใจหนุน ‘จุรินทร์’ นั่งนายกฯ

เมื่อวันที่ 15 ต.ค.ที่จ.นราธิวาส นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยนายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ลงพื้นที่ อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส โดยนายจุรินทร์ ระบุว่า แคมเปญ ‘เลือดใหม่ไหลเข้า เลือดเก่าไหลกลับ’ ยังเดินหน้าและประสบความสำเร็จโดยต่อเนื่อง จึงได้เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. จ.นราธิวาส ประกอบด้วย นายเมธี อรุณ นักร้องดัง วงลาบานูน นายเจะอามิง โตะตาหยง  อดีตผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมพลังประชาชาติไทย ที่กลับเข้าพรรคประชาธิปัตย์อีกครั้ง และนายกูอาเซ็ม กูจินามิง อดีต ส.ส. ประชาธิปัตย์ พร้อมมอบเสื้อแจ็กเกต ตราสัญลักษณ์พรรคประชาธิปัตย์ให้กับว่าที่ผู้สมัคร

นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า วันนี้ เมธี ลาบานูน ตัดสินใจเข้าร่วมอุดมการณ์กับพรรคประชาธิปัตย์ในฐานะคนรุ่นใหม่ที่เดินเข้าพรรค ถือเป็นเลือดใหม่ที่ไหลเข้ามาสู่พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งการก้าวมาสู่วงการเมืองครั้งนี้ไม่ใช่ไม่มีการเตรียมการ ที่ผ่านมาก็ทำกิจกรรมเพื่อสังคมในนามจิตอาสา องค์กรแห่งความรักมาเป็นเวลาหลายปีต่อเนื่อง เพื่อช่วยเหลือสังคมทั้งด้านการศึกษา และกลุ่มเยาวชน ที่สำคัญยังเป็นอาจารย์สอนรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ เป็นเวลากว่า 4 ปี ดังนั้นการก้าวเข้ามาสู่พรรคประชาธิปัตย์ เพื่อลงสมัครรับเลือกตั้งของเมธี จึงถือว่าเป็นช่วงเวลาที่มีความเหมาะสม และเชื่อว่าจะได้รับการต้อนรับจากพี่น้องชาวนราธิวาส และคนไทยทั้งประเทศอย่างอบอุ่น

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า ส่วนนายเจะอามิง ตัวแทนของ ‘เลือดเก่าไหลกลับ’ นั้น เป็นผู้ร่วมอุดมการณ์กับพรรคมายาวนาน เป็นเพื่อนผู้แทนราษฎรในช่วงเดียวกับตนมาหลายสมัย มาถึงวันนี้ นายเจะอามิง เป็นผู้แทนราษฎรมาแล้ว 5 สมัย เพียงแต่การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาได้ลาออกจากพรรค และไปลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคการเมืองอื่น สำหรับครั้งนี้ได้ตัดสินใจแล้วชัดเจนว่าจะขอเป็นเลือดเก่าไหลกลับ พรรคประชาธิปัตย์ เพื่อมาร่วมกันสร้างพรรคให้เติบโตต่อไปโดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส และจังหวัดชายแดนภาคใต้ 

"หมอวรงค์" แนะวิธีหยุดรัฐประหาร รัฐบาลต้องไม่เลวร้ายจนปชช.เบื่อหน่าย

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม รักษาการหัวหน้าพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความผ่านเพจ Warong Dechgitvigrom มีเนื้อหาระบุว่า..  #วิธีหยุดรัฐประหาร 

ช่วงนี้พวกโกงชาติออกมาคลับเฮาส์บ่อย จนไม่มีจิตสำนึก หรือละอาย เขาอาจคิดว่าคนไทยโง่และลืมง่าย คนพวกนี้ก็จะเคลมตัวเองว่าเป็นฝ่ายประชาธิปไตย พยายามด้อยค่ากองทัพว่า เป็นพวกทำลายประชาธิปไตยด้วยการรัฐประหาร 

อีกกลุ่มที่ออกมาคล้ายกัน ยังไม่มีประเด็นโกงชาติ แต่อนาคตไม่แน่ เพราะยังไม่เคยเป็นรัฐบาล แต่แน่ ๆ คนพวกนี้ ก็มีพฤติกรรมต้องการล้มเจ้าชัดเจน แต่เลี่ยงภาษาที่พูด แม้จะมีการต่อต้านจากประชาชน แต่ก็ยังไม่ละความพยายาม อาจเป็นเพราะมีแรงหนุนที่ดีจากต่างชาติ 

ทั้งพวกโกงชาติ พวกล้มเจ้า จะใช้ยุทธศาสตร์หลักคล้ายกันคือ เป็นฝ่ายประชาธิปไตย ปล่อยเฟคนิวส์ และพยายามแสดงออกเรื่องต้านรัฐประหาร ทั้ง ๆที่ความเป็นจริง ตอนคนกลุ่มนี้มีอำนาจนั้น มีพฤติกรรมเผด็จการสุด ๆ 

“เสกสกล” โว ปชช.หนุน “นายกฯ”เปิดประเทศ ชี้ สร้างรายได้เข้าประเทศ พร้อมเหน็บ "ปลอดประสพ" แนะบิ๊กตู่แก้น้ำท่วม แล้วทำไม ตอนเป็นรมต.บริหารน้ำไม่ทำ ปล่อยท่วมใหญ่ปี54

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนสนับสนุนและมองว่าเป็นเรื่องที่ดีที่นายกรัฐมนตรี ประกาศเปิดประเทศในวันที่ 1 พ.ย.นี้ เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวโดยไม่ต้องกักตัวสำหรับผู้ที่ฉีดวัคซีนครบโดส เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวภายในประเทศ ให้ประชาชนค้าขายมีรายได้ มั่นใจว่าประชาชนส่วนใหญ่ทั้งประเทศรอวันที่จะเปิดประเทศเช่นกัน และมั่นใจว่าศบค.จะมีมาตรการรองรับการเปิดประเทศ ไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดเป็นจำนวนมากอีก ซึ่งจากการจัดอันดับหลายแห่งแสดงให้เห็นว่าประเทศไทยเป็น 1 ในประเทศที่มีระบบสาธารณสุขที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก  จึงขอให้ประชาชนไว้วางใจได้ว่ารัฐบาล ศบค. กระทรวงสาธารณสุข จะดำเนินการด้วยความรัดกุมอย่างดีที่สุดและขอให้ประชาชนทุกคน ทุกภาคส่วนร่วมมือกับรัฐบาลในการรับนักท่องเที่ยวพร้อมกับและดูแลตัวเองตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด เพื่อให้สถานการณ์คลี่คลายลงให้ได้ 

นอกจากนี้นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายปลอดประสพ สุรัสวดี อดีตรองนายกรัฐมนตรี และแกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊ก อวดผลงานเจรจากับคณะสมัชชาคนจนเปิดเขื่อนปากมูลพร้อมบอกความลับแก้ปัญหาน้ำท่วม ว่า การแก้ไขปัญหาน้ำของรัฐบาลนายกฯประยุทธ์ ไม่ได้แก้ไขปัญหาเฉพาะบางจังหวัด แต่ทำทั่วประเทศที่ประสบปัญหา วางโครงการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม พัฒนาแหล่งน้ำ รัฐบาลได้เร่งดำเนินการโครงการแก้มลิงทั่วประเทศ ในพื้นที่ 65 จังหวัด  บริหารจัดการน้ำพื้นที่ลุ่มต่ำ 13 ทุ่ง เพื่อใช้เป็นแก้มลิงขนาดใหญ่ในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ชะลอน้ำหลาก และได้มีการจัดทำแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี พ.ศ.2561 – 2580 เป็นครั้งแรกที่มีการดำเนินงานจากทุกหน่วยงาน โดยตลอดระยะเวลา 7 ปี ที่ผ่านมามีความก้าวหน้าโดยลำดับ ส่งผลให้สถิติความเสียหายภัยจากน้ำลดลงอย่างชัดเจน 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top