Wednesday, 4 December 2024
POLITICS

‘อุ๊งอิ๊ง’ โพสต์ข้อความใน X ขอบคุณที่มอบความไว้วางใจ ให้เป็น ‘นายกรัฐมนตรี’ เผย!! จะจัดตั้งรัฐบาลให้เร็วที่สุด ให้ประเทศไทยเดินหน้าต่อ เพื่อคนไทยทุกคน

(17 ส.ค.67) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความใน X ว่า ...

ดิฉันขอขอบคุณสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกท่าน ที่มอบความไว้วางใจให้ดิฉันรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี นับเป็นเกียรติสูงสุดในฐานะประชาชนคนไทย

หลังจากนี้ การจัดตั้งรัฐบาลจะดำเนินการตามกระบวนการ และจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ค่ะ

ดิฉัน พรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมรัฐบาลทุกคนพร้อมทำงาน ให้ประเทศไทยเดินหน้าต่อ เพื่อคนไทยทุกคนค่ะ

‘ดร.อานนท์’ ชี้ ‘อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร’ น่าสงสาร คนเกลียดพ่อ ‘ไม่แยกแยะ’ พาลเกลียดลูกไปด้วย

(17 ส.ค.67) ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) โพสต์เฟซบุ๊ก ภายหลังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โหวตเลือก นางสาวแพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี โดยได้ระบุว่า …

‘น่าสงสาร ตอนนี้คนเกลียดพ่อไม่แยกแยะเลยพาลเกลียดลูกสาวไปด้วย’

✨สำหรับ ‘เศรษฐา’ ทุกวัน คือ ความเท่าเทียม

หากศึกษาประวัติของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของไทย แล้วจะพบว่า เขาใส่ใจกับ 'ความเท่าเทียมกันทางสังคม' ในสำนึกและได้ลงมือปฏิบัติจริงตั้งแต่นั่งอยู่บนองค์กร 'แสนสิริ' นานก่อนย่างก้าวเข้าสู่แวดวงการเมือง

จากประสบการณ์ทางด้านธุรกิจระดับนานาชาติ หรือการศึกษาที่ต่างประะเทศ ทำให้นายกฯ เศรษฐาเข้าใจความเป็นไปของบริบทโลก ทั้งในทางเศรษฐศาสตร์ และสังคมศาสตร์ จึงเชื่อได้ว่าความเข้าใจต่อ 'ความเท่าเทียม' นั้น มิได้เป็นแค่เพียงการเอาใจคนบางกลุ่ม บางพวก ชาย หญิง หรือกลุ่มหลากหลายทางเพศ (LGBTQ) เท่านั้น

คำกล่าวผ่านสาธารณะล่าสุดคงเป็นเครื่องยืนยัน 'ความเท่าเทียม' ของสังคมไทยยุครัฐบาลเศรษฐาได้ "...รัฐบาลเดินหน้าลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างความเสมอภาคเท่าเทียมทางเพศอย่างต่อเนื่อง ครม. จึงได้เห็นชอบตามที่กระทรวงพัฒนาสังคมฯ เสนอในการร่วมแถลงการณ์รัฐมนตรีเอเปคด้านสตรีและเศรษฐกิจประจำปี 2567 เกี่ยวกับการส่งเสริมสตรีในอาชีพด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์การสร้างโอกาส และการมีส่วนร่วมของสตรีในระบบการเงิน และการต่อต้านความรุนแรงต่อผู้หญิง"

ทุก ๆ วัน คือ ความเท่าเทียม

‘โบว์ ณัฏฐา’ ซูฮก ‘อนุทิน-ณัฐพงษ์’ ชี้!! แสดงความสง่างาม ไว้อย่างน่าชื่นชม

(17 ส.ค.67) น.ส.ณัฏฐา มหัทธนา หรือ โบว์ พิธีกรรายการวิเคราะห์ข่าว และนักกิจกรรมเพื่อสิทธิมนุษยชน โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ... 

วิกฤตการเมืองครั้งนี้ มีนักการเมืองที่แสดงความสง่างามไว้อย่างน่าชื่นชมและอยากบันทึกไว้สองคน

‘อนุทิน’ ไม่ว่าใครจะคาดเดาอนาคตทางการเมืองของเขาไว้อย่างพิสดารเพียงใด คุณอนุทินยืนยันกฎกติกามารยาทและสปิริตทางการเมือง วันนี้พิสูจน์แล้วว่าคำพูดนั้นเชื่อถือได้ ไม่ใช่วาทกรรม

‘ณัฐพงษ์’ ผู้นำฝ่ายค้านคนใหม่ ไม่อภิปรายคุณสมบัติแคนดิเดตนายกฯ แต่ใช้โอกาสนั้นยืนยันหลักการประชาธิปไตย ชักชวนให้ใช้รัฐสภาแก้ปัญหาของระบอบให้บ้านเมือง เป็นคำอภิปรายที่ดีที่สุดครั้งหนึ่งที่ควรได้ย้อนฟัง

💸 ‘นายกฯ เศรษฐา’ พาคนไทยเป็นเศรษฐี

หลักการที่เป็นหัวใจในการบริหารประเทศของพรรคเพื่อไทย ภายใต้การบริหารของนายกรัฐมนตรีหนึ่งเดียว ‘เศรษฐา ทวีสิน’ คือ ‘เพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย ขยายโอกาส’ โดยจะทำให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ GDP เติบโตเฉลี่ยอย่างต่ำปีละ 5% โดยเพื่อไทยใช้แนวคิด ‘รดน้ำที่ราก’ เพื่อให้ต้นไม้งอกงามทั้งต้น

คือปฐมบทแห่งนโยบายรัฐบาล ‘เศรษฐา’

ประเทศไทยติดกับดัก ‘กำลังพัฒนา’ มาอย่างเนิ่นนาน การสร้างเขตธุรกิจใหม่ 4 แห่งเป็นพื้นที่นำร่อง ได้แก่ กรุงเทพ เชียงใหม่ ขอนแก่น และหาดใหญ่ ด้วยความพร้อมทางด้านมหาวิทยาลัย สนามบิน และโครงสร้างพื้นฐานที่พร้อมเพื่อขับเคลื่อน Startup และ SMEs สู่การสร้างรายได้ใหม่ให้แก่ประชาชน จึงเป็นเสมือนคำตอบที่ถูกต้องกับโจทย์

การพาดหัวบนหน้าปกนิตยสารข่าวระดับโลกเช่น 'Time' ว่านายกรัฐมนตรีของไทยกำลังทำงานแบบ ‘เซลล์แมน’ จึงมิใช่ภาพความฝันที่ไกลเกินเอื้อม หากกำลังจะเป็นความจริงซึ่งจับต้องได้

นายกฯ ‘เศรษฐา’ จะพาให้คนไทยทุกคนเป็น ‘เศรษฐี’

🙏 ‘เศรษฐา’ นายกฯ ไทยผู้พกพาความนอบน้อมไปทุกๆ ที่

แม้จะร่ำเรียนต่างประเทศอยู่หลายปี แต่คุณลักษณะเด่นอย่างหนึ่งซึ่งเห็นได้จากนายกฯ 'เศรษฐา ทวีสิน' ก็คือ ความเคารพนบนอบอย่างไทย ไม่ว่าผู้อาวุโสกว่า ผู้สูงศักดิ์กว่า หรือแม้ชาวบ้านผู้เฒ่าผู้แก่ยามลงพื้นที่เยี่ยมเยียนพี่น้องประชาชน ดังคำกล่าวที่ว่า "...คุณต้องรู้จักให้เกียรติ และให้ความเคารพ อีกฝ่ายหนึ่งเสียก่อน เขาจึงจะเกิดความเชื่อถือในตัวคุณ"

หรือภาพการให้ความเคารพต่อ 'ผู้มาก่อน' ก็เห็นเป็นประจักษ์โดยทั่วไป

การแสดงความเคารพ ถือเป็นมารยาทไทยอย่างหนึ่ง ซึ่งแสดงความอ่อนน้อมถ่อมตนของผู้เยาว์ที่มีต่อผู้ใหญ่ ของผู้ด้อยอาวุโสต่อผู้อาวุโสกว่า ขนาดสภาวิจัยแห่งชาติ ยังได้เคยสำรวจและประมวลไว้เกี่ยวกับลักษณะนิสัยประจำชาติของคนไทยว่า

"รักสงบ เคารพอาวุโส"

ทว่าความ 'อ่อนน้อม' มิได้หมายถึง 'อ่อนแอ' และ 'นอบน้อม' ก็ไม่ใช่ 'พินอบพิเทา'

พรรคร่วมรัฐบาล มีมติ ส่ง 'แพทองธาร' เข้ารับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 'แพทองธาร' ประกาศ 'ประเทศไทยต้องไปต่อ' พร้อมเดินหน้านำพาประชาชนหลุดพ้นวิกฤตเศรษฐกิจ

เมื่อวันที่ (15 สิงหาคม 2567) นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย และ สส.สระแก้ว กล่าวว่า นับตั้งแต่ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยว่าความเป็นรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี คนที่ 30 ของประเทศไทย สิ้นสุดลงวานนี้ (14 สิงหาคม 2567) พวกเราทุกคนในนามของพรรคเพื่อไทย พรรคร่วมรัฐบาล วันนี้มีจุดยืนเดียวกัน โดยหลังจากในการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยในวันนี้ ได้มีมติเสนอชื่อนางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เข้าเสนอชื่อเป็นบุคคลที่สมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 31 เพื่อเสนอต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ตามที่นายวันมูหะหมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้ออกหนังสือนัดประชุมสภาเป็นพิเศษ พรรคเพื่อไทยจะเป็นผู้เสนอชื่อ และพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค ให้ความเห็นชอบนางสาวแพทองธาร ชินวัตร เสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นบุคคลที่สมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 31 กล่าวขอบคุณกรรมการบริหารพรรค และสมาชิกพรรคเพื่อไทย ที่ให้ความไว้วางใจ เสนอชื่อให้เป็นบุคคลที่สมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ขอขอบคุณพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคสำหรับการสนับสนุนนี้ แน่นอนว่าจะทำงานอย่างเต็มความสามารถ และขอให้รอดูผลการลงมติในวันพรุ่งนี้อย่างเป็นทางการ

ตลอดเวลาที่ผ่านมาเราทุกคนชื่นชมในการทำงานของอดีตนายกฯเศรษฐา ทวีสิน เสียดายที่เกิดเรื่องนี้ขึ้น เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างที่เราไม่ได้คาดฝันเอาไว้ นายเศรษฐา เป็นผู้ใหญ่ที่เคารพรักนับถือมาตั้งแต่ก่อนเป็นนายกรัฐมนตรี มีความมุ่งมั่นตั้งใจทำงาน แม้เสียดายโอกาสนี้ แต่ประเทศต้องไปต่อ  พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตัังรัฐบาล วันนี้เรามีความพร้อม  ดิฉันมั่นใจในพรรคเพื่อไทย มั่นใจในพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค ที่จะช่วยกันนำพาประเทศของเราให้หลุดพ้นจากวิกฤตเศรษฐกิจ  เรามารวมตัวกันในวันนี้เพื่อให้พี่น้องประชาชนเห็นว่าเรามีความตั้งใจ มีความมุ่งมั่น มีความพร้อมเพรียงกัน ในการผลักดันประเทศให้ไปต่อ ขอขอบคุณทุกท่านเป็นอย่างมากที่มาร่วมกัน รวมกัน ตกลงกัน ทำเพื่อประเทศชาติร่วมกันต่อไป 

นางสาวแพทองธาร ตอบคำถามผู้สื่อข่าวว่าได้มีการปรึกษาครอบครัวหรือไม่  นางสาวแพทองธารระบุว่า ทุกเรื่องปรึกษาครอบครัวอยู่แล้ว เรามาถึงจุดที่ทำให้ประเทศชาติไปต่อ เรายินดีและตั้งใจ เราได้พูดคุยกันและเคารพการตัดสินใจเสมอ พร้อมกับปรึกษา ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่เป็นบิดา เป็นผู้มีประสบการณ์ และยังเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีมาก่อนด้วย  

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะปรึกษากับ ดร.ทักษิณ ใกล้ชิดมากขึ้นหรือไม่ นางสาวแพทองธารระบุว่า “ไม่ค่ะ เท่าเดิม เพราะใกล้มากอยู่แล้ว”

ผู้สื่อข่าวถามว่าได้มีการพูดคุยหารือกับนายเศรษฐา หรือไม่ นางสาวแพทองธาร ตอบว่า คุณเศรษฐา เป็นคนสนับสนุนให้ดิฉันได้รับการเสนอชื่อ ส่วนตัวมีความเคารพคุณเศรษฐาอยู่แล้ว พูดคุยกันตั้งแต่เมื่อวาน และท่านให้การสนับสนุนเรื่องนี้มาก ท่านเป็นคนที่มีแพชชันเยอะมากๆ อยากผลักดันนโยบายให้สำเร็จ มีเอเนอจี้เต็มร้อย มุ่งมั่นในการทำงานมาก ๆ ดิฉันหวังว่าจะผลักดันนโยบายต่างๆของพรรคเพื่อไทย ของพรรคร่วมรัฐบาลให้สำเร็จ

ผู้สื่อข่าวถามว่า นอกจากมติของกรรมการบริหารพรรคและสมาชิกพรรคที่เสนอชื่อนางสาวแพทองธารเป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว คุณแพทองธาร เป็นคนเสนอทำงานต่อจากนายเศรษฐาใช่หรือไม่ นางสาวแพทองธารตอบว่า “ใช่ค่ะ” 

‘เสก โลโซ’ ยัน!! รักและเคารพ ‘แอ๊ด คาราบาว’ เสมอมา ไม่เคยตะเพิดหรือมองเป็นศัตรู อย่างที่บางเพจนำเสนอ

สืบเนื่องจากกรณีที่ ‘แอ๊ด คาราบาว’ หรือ ‘ยืนยง โอภากุล’ นักร้องเพื่อชีวิตชื่อดัง ได้โพสต์เฟซบุ๊กให้กำลังใจ ‘พรรคก้าวไกล’ หลังศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรค ด้วยข้อความขอแสดงความเสียใจด้วย กับความไม่เป็นธรรมในบ้านเมืองเรายุคนี้ จนเกิดกระแสต่อต้าน เรียกร้องให้ถอดแอ๊ด คาราบาว ออกจากตำแหน่ง ‘ศิลปินแห่งชาติ’

ล่าสุด เฟซบุ๊ก ‘SEK LOSO’ ของ ‘เสก โลโซ’ หรือ ‘เสกสรรค์ ศุขพิมาย’ ร็อกเกอร์ชื่อดัง ได้แชร์โพสต์เพจหนึ่งซึ่งนำเสนอข้อมูลว่า “แอ๊ด คาราบาว ฟัง เสก โลโซ ‘กูไม่มีเงินเยอะ แต่กูมีหัวใจที่งดงาม’ ตะเพิดพวกล้มล้าง มึงเป็นศัตรูกับกู” พร้อมยืนยันว่าข่าวดังกล่าวมั่วมาก ตนไม่เคยให้สัมภาษณ์แบบนี้ 

“ข่าวนี้เป็นข่าวที่มั่วมาก ผมไม่เคยพูดหรือให้สัมภาษณ์แบบนี้ ผมรักพี่แอ๊ดอย่างบริสุทธิ์หัวใจ เคารพในการตัดสินใจของพี่แอ๊ดเสมอ ผมและพี่แอ๊ดรักและเทิดทูนในชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์สุดหัวใจ จึงแจ้งมาเพื่อความเข้าใจและให้ทราบโดยทั่วกัน…”

'วิโรจน์' ยกเมฆ!! 'มรดกบาป 'คสช.' - ‘รธน.60' บั่นทอนประชาธิปไตย เหตุผล 'ปชช.' ไม่โหวต 'อุ๊งอิ๊ง' แต่ยังดีได้นายกฯ จาก 'สภาผู้แทนราษฎร'

(16 ส.ค.67) นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า...

การ ‘ไม่เห็นชอบ’ ของผม เป็นการสะท้อนให้ประชาชนได้เห็นว่า ปัจจุบันอำนาจอธิปไตยที่เป็นของปวงชนชาวไทย อย่างน้อย ๆ สองในสาม ซึ่งก็คือ อำนาจบริหาร และอำนาจนิติบัญญัติ กำลังถูกบั่นทอนจากนิติสงคราม โดยองค์กรที่ขาดการยึดโยงกับประชาชนอย่างแนบแน่น ไร้กลไกในการตรวจสอบถ่วงดุลที่ได้สัดส่วนกับอำนาจ

ทั้งหมดนี้ ล้วนมีสารตั้งต้นมาจากการจัดตั้งรัฐบาลข้ามขั้ว ซึ่งทำให้มรดกบาปของ คสช. และอำนาจใด ๆ ของรัฐธรรมนูญปี 60 ยังคงอยู่บั่นทอนระบอบประชาธิปไตยต่อไป

การยุบพรรคการเมืองที่ได้รับการเลือกตั้งมาเป็นอันดับ 1 จากประชาชน การพ้นจากตำแหน่งของนายกรัฐมนตรี และผู้นำฝ่ายค้าน ที่มีที่มาจากระบบรัฐสภา โดยองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญปี 60 ทำให้ประชาชนจำนวนไม่น้อยตั้งข้อสังเกตว่า อำนาจอธิปไตยที่เป็นของปวงชนชาวไทย กำลังถูกบั่นทอนอยู่หรือไม่

อย่างไรก็ตาม สำหรับการเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ก็ยังมีเรื่องที่พอจะเป็นความหวังอยู่บ้าง นั่นก็คือ นายกฯ คนใหม่ ยังคงมีที่มาจาก ‘สภาผู้แทนราษฎร’ ตามระบบรัฐสภา

ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ผู้แทนราษฎร ที่มาจากการเลือกของประชาชนทุกคน จะร่วมกันฟื้นฟู และปกป้องอำนาจอธิปไตยของประชาชนอย่างเต็มที่ร่วมกัน ผ่านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และ การแก้ไขพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวข้อง

ในฐานะฝ่ายค้าน ผมจะทำหน้าที่ในการติดตามตรวจสอบการทำงานของนายกรัฐมนตรี และรัฐบาลนี้อย่างเต็มความสามารถ เพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดิน และการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลมีประสิทธิภาพ โปร่งใส และปราศจากการคอร์รัปชัน

และยืนยันว่า หากนายกรัฐมนตรีคนนี้จะต้องพ้นจากตำแหน่ง ก็ต้องพ้นจากตำแหน่งด้วยระบบรัฐสภา หรือจากการเลือกตั้งของประชาชน ไม่ใช่ว่าจะต้องมีอันเป็นไปจากการแทรกแซงอำนาจอธิปไตย จากอำนาจอื่นใด ที่ไม่ได้ยึดโยงกับประชาชน

‘สรรเพชญ’ หวัง ‘รัฐบาลอุ๊งอิ๊ง’ แก้ปัญหาปากท้อง-เศรษฐกิจจริงจัง เตือน!! อย่าริทำอะไรเสี่ยงผิดกฎหมาย พรรคฝ่ายค้านจับตาดูผลงาน

(16 ส.ค. 67) นายสรรเพชญ บุญญามณี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดสงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ได้ให้ความเห็นภายหลังการประชุมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งตนและพรรคประชาธิปัตย์ มีมติงดออกเสียงกับการเลือกนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ นายสรรเพชญ ได้ให้เหตุผลว่า การลงมติงดออกเสียงในครั้งนี้เพื่อให้ประเทศชาติเดินหน้าและไม่ให้เกิดสุญญากาศทางการเมือง เพราะมีการเสนอชื่อนางสาวแพทองธาร ชินวัตร เพียงชื่อเดียว อีกทั้งเพื่อให้คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ได้เข้าแถลงนโยบายกับรัฐสภาและทำหน้าที่ก่อน หลังจากนั้นจึงจะดำเนินการทำหน้าที่ฝ่ายค้านในการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล 

นายสรรเพชญ กล่าวว่า ตนมีความหวังว่ารัฐบาลชุดใหม่จะเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาเรื่องต่าง ๆ ที่คั่งค้างของรัฐบาลโดยเฉพาะเรื่องที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้ปรึกษาหารือผ่านประธานสภาผู้แทนราษฎร เพราะเป็นปัญหาที่ประชาชนในพื้นที่ต่าง ๆ ร้องเรียนและสะท้อนผ่านมายังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรโดยตรง ดังนั้น สิ่งที่รัฐบาลต้องดำเนินการ คือ การเร่งแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าให้ประชาชน นอกจากการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าที่รัฐบาลสามารถทำได้ทันที สิ่งที่เป็นโจทย์หลักและท้าทายความสามารถของรัฐบาลทุกชุด คือ ปัญหาเรื่องเศรษฐกิจ กำลังซื้อของประชาชนกำลังถดถอยเพราะรายได้สวนทางกับรายได้ ปัญหาปากท้อง หนี้สินครัวเรือนอันมหาศาลของประชาชน ทั้งเรื่องราคาสินค้าที่พุ่งสูงขึ้น ไม่เว้นแม้กระทั่งผงชูรส หรือราคาสินค้าทางการเกษตรที่เกษตรกรขายมีราคาตกต่ำ แต่เมื่อถึงมือของประชาชนกลับมีราคาที่สูงขึ้น ส่งผลให้ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนมีความลำบากมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเรื่องค่าครองชีพ 

นอกจากนี้ ปัญหาที่กำลังทดสอบความสามารถของรัฐบาล คือ การแก้ไขปัญหาที่ประชาชนไม่สามารถประกอบอาชีพเหมือนเดิมได้ เห็นได้จากการปิดตัวของร้านค้าต่าง ๆ ที่ได้ปิดตัวลงเป็นจำนวนมาก ทั้งการสู้เรื่องต้นทุนไม่ไหว และสำคัญกว่านั้น คือ การเข้ามาของสินค้าจีน ทุนจีน ที่เข้ามาผ่านแอปพลิเคชันออนไลน์ขายราคาถูก ทำให้ธุรกิจขนาดเล็กในประเทศไปไม่รอดหลายราย ซ้ำยังมีปัญหาเรื่องการทุจริตคอร์รัปชัน ปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยี คอลเซ็นเตอร์ ปัญหาเชิงโครงสร้าง โดยเฉพาะเรื่องพลังงาน ที่เกือบ 1 ปี ที่มีรัฐบาลเพื่อไทยเป็นแกนนำไม่สามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ 

ดังนั้น รัฐบาลต้องเร่งหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ไม่ให้บานปลายไปมากกว่านี้ ควบคู่กับการเร่งมาตรการเพิ่มกำลังซื้อให้ประชาชนและการฟื้นความเชื่อมั่นจากต่างประเทศให้มากยิ่งขึ้น อีกทั้งรัฐบาลต้องหาทางออกในเรื่องนโยบายแจกเงินผ่านระบบดิจิทัลที่ประชาชนได้ลงทะเบียนไปแล้วรัฐบาลจะเดินหน้าต่อไปหรือไม่อย่างไร 

นายสรรเพชญ ได้กล่าวในตอนท้ายว่า ขอให้รัฐบาลทำงานอย่างตรงไปตรงมา อย่าริอาจทำอะไรที่สุ่มเสี่ยงผิดกฎหมาย การเอื้อประโยชน์ให้พวกพ้องหรือปล่อยให้ใครมาครอบงำนายกรัฐมนตรี และตนจะทำหน้าที่ฝ่ายค้านและคอยจับตาดูการทำงานของรัฐบาลต่อไป

👍‘เศรษฐา ทวีสิน’ เชื่อมั่น!! คนไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก

ด้วยความที่มีพื้นฐานมาจากนักธุรกิจระดับหมื่นล้าน การพบปะชนชั้นนำทั่วโลกทั้งในงานสังคม การประชุม เสวนา ฯลฯ จึงเป็นที่มาของวิสัยทัศน์ซึ่งส่งผลต่อความเชื่อ "คนไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก" จริง ๆ

แรกรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 'เศรษฐา ทวีสิน' จึงลงรายละเอียดทั้งในเชิงนโยบาย ทั้งการบริหารประเทศเพื่อพัฒนา 'ศักยภาพคนไทย' ชนิด 'ลงลึก' ทุกรายละเอียด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการผลักดันสร้างความเปลี่ยนแปลงทางสังคม โดยพัฒนา 'คน' ตั้งแต่ครั้งยังนั่งกุมบังเหียนบนตำแหน่งประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ แห่ง 'แสนสิริ' บ.อสังหาฯ เบอร์ต้นของประเทศ

อย่างที่เห็นจากสื่อ ภาพของนายกฯ คนที่ 30 ของประเทศคนนี้ มักจะลงไปพบปะพูดคุยกับชาวบ้านตัวจริงยามลงพื้นที่เสมอ ๆ ด้วยความอยากรู้ถึงต้นตอปัญหาจากผู้อยู่ในพื้นที่ อีกประการก็คือ จะได้หยั่งถึง 'ภูมิปัญญา' อันพ่วงมากับ 'คำแนะนำ' จากประชาชนคนไทย

นั่นเพราะนายกฯ นิด 'เชื่อในศักยภาพคนไทย' ว่า 'ไม่แพ้ชาติใดในโลก'

‘คุณหญิงหน่อย’ ติง!! 6 สส.ไทยสร้างไทย โหวต ‘อุ๊งอิ๊ง’ นั่งนายกฯ ผิดจริยธรรมการเป็นฝ่ายค้าน ด้าน ‘ฐากร’ โต้กลับ “จะปล่อยให้ประเทศไม่มีนายกฯ ต่อไปได้อย่างไร?”

จากกรณีที่ประชุมรัฐสภา มีมติเห็นชอบให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คนที่ 31 ด้วยเสียงเห็นชอบ 319 เสียง ไม่เห็นชอบ 145 เสียง และงดออกเสียง 27 เสียง

ปรากฏว่า 6 สส. จากพรรคไทยสร้างไทย คือ นายชัชวาล แพทยาไทย สส.ร้อยเอ็ด, นางรำพูล ตันติวณิชชานนท์ สส.อุบลราชธานี, นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ สส.บัญชีรายชื่อ, ​นายอดิศักดิ์ แก้วมุงคุณทรัพย์ สส.อุดรธานี, นายหรั่ง ธุรพล สส.อุดรธานี และนางสุภาพร สลับศรี สส.ยโสธร ที่เคยเป็นพรรคร่วมฝ่ายค้าน ลงมติเห็นชอบให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกฯ คนที่ 31

ต่อมา คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก ต่อกรณี 6 สส.พรรคไทยสร้างไทย โหวตเห็นชอบให้ น.ส.แพทองธาร เป็นนายกรัฐมนตรี ระบุว่า...

ดิฉัน และผู้บริหารพรรคไทยสร้างไทย ขอยืนยันว่าพรรคไทยสร้างไทย เรามีจุดยืนรักษาอุดมการณ์ประชาธิปไตย และทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้านที่ซื่อสัตย์ต่อเสียงประชาชน และต้องปฏิบัติตามมติของพรรคฝ่ายค้านร่วม 

ดังนั้นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคไทยสร้างไทย ควรมีจิตสำนึกต่อการทำหน้าที่อย่างสุจริต ในฐานะพรรคฝ่ายค้านในสภา การลงมติเห็นชอบการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี จากพรรครัฐบาลในวันนี้ ถือว่าเป็นการขัดต่อจุดยืนและอุดมการณ์ของพรรคไทยสร้างไทย และผิดมารยาทในการทำงานร่วมกับพรรคฝ่ายค้าน

ซึ่งในเวลา 14:00 น. วันนี้จะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค เพื่อพิจารณาการกระทำของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคไทยสร้างไทย ที่ขัดต่อจุดยืนและอุดมการณ์ของพรรคไทยสร้างไทย 

จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบในเบื้องต้น

โดยหลังประชุมกรรมการบริหาร จะมีการออกแถลงการณ์ให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบ

และต้องกราบขอโทษต่อพี่น้องประชาชนสำหรับการกระทำของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคที่ไม่ซื่อสัตย์ต่อเสียงของประชาชน

ทางฟาก นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยสร้างไทย ได้ให้สัมภาษณ์ว่า เราได้มีการประชุม สส.พรรคไทยสร้างไทย ซึ่งนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน ได้แจ้งมติของพรรคประชาชน ว่าจะโหวตไม่เห็นชอบ เนื่องจากขัดกับหลักประชาธิปไตย และการที่อดีตพรรคก้าวไกลเคยมีเสียงข้างมาก จึงควรเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาล แต่ในส่วนพรรคไทยสร้างไทย เรามองว่าเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจของประเทศอยู่ในช่วงตกต่ำ และมีชื่อเสนอมาชื่อเดียว หากเราไม่โหวตเห็นชอบในวันนี้ แล้วจะทำอย่างไร

นายฐากรกล่าวต่อว่า หากมีชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคประชาชนเสนอมา อย่างไรพรรคไทยสร้างไทยก็โหวตให้อยู่แล้ว หรือพรรคประชาธิปัตย์ก็เช่นกัน แต่เนื่องจากไม่มีชื่อแคนดิเดตฯ จากพรรคฝ่ายค้านเลย พรรคไทยสร้างไทยจึงเห็นชอบร่วมกันว่า เพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ เราจะต้องรออีกนานเท่าไหร่ กว่าจะทูลเกล้าฯ กว่าจะยกร่างนโยบาย ซึ่งเราคาดว่าจะใช้เวลาร่วมเดือนในการให้รัฐบาลใหม่เข้ามาบริหารประเทศ ดังนั้นหากเราปล่อยไปเรื่อย ๆ ประเทศชาติจะมีความเสียหาย

“เราไม่ได้โหวตเพื่อที่จะบอกว่าจะเข้าร่วมรัฐบาล เราต้องการคิดถึงความเสียหายที่เกิดกับประชาชนและประเทศชาติ” นายฐากรกล่าว

นายฐากรกล่าวว่า พรรคไทยสร้างไทยยังอยู่กับพรรคร่วมฝ่ายค้านเช่นเดิม ดังนั้น การอภิปรายงบประมาณ เราก็จะโหวตไม่เห็นด้วยเช่นเดิม ยืนยันว่าเราโหวตโดยเจตนาบริสุทธิ์ ไม่มีการติดต่อกับพรรคเพื่อไทยทั้งสิ้น จะเดินหน้าในฐานะพรรคร่วมฝ่ายค้านต่อ

เมื่อถามว่า จะถูกมองว่าเป็นพรรคงูเห่าหรือไม่ นายฐากรกล่าวว่า ไม่มี ไม่มีเด็ดขาด เพราะการโหวตไม่ได้เป็นมติพรรค แต่เป็นมติที่ประชุม สส. ทั้งนี้ เราไม่เห็นด้วยที่จะโหวตไม่เห็นชอบ เพราะยึดหลักการว่าต้องมีนายกรัฐมนตรีบริหารประเทศ ยอมรับว่าสื่ออาจพาดหัวข่าวว่าเป็น ‘งูเห่า’

เมื่อถามว่า หลังจากนี้จะทำงานกับพรรคฝ่ายค้านยากขึ้นหรือไม่ นายฐากรปฏิเสธว่าไม่ยาก เพราะจุดยืนเราชัดเจน ส่วนได้พูดคุยกับนายปกรณ์วุฒิหรือยังนั้น นายฐากรกล่าวว่า นายปกรณ์วุฒิได้ให้ตนลงมาพูดคุยกับสื่อมวลชน

เมื่อถามว่า การที่โหวตลักษณะนี้มีผลประโยชน์แลกใช่หรือไม่ นายฐากรกล่าวว่า ไม่มี เราไม่เคยรับผลประโยชน์จากใครทั้งสิ้นในการโหวตครั้งนี้ แม้แต่เก้าอี้รัฐมนตรีก็ไม่เคยพูดคุย จะเห็นได้ว่าที่ผ่านมาพรรคไทยสร้างไทยเป็นพรรคที่เงียบที่สุด แม้จะมีกระแสข่าวว่าเราจะเข้าร่วมรัฐบาล แต่เราก็ยังอภิปรายในสภาอยู่ตลอดเวลา

เมื่อถามว่า หากไม่มีเสียงจากไทย เสียงในสภาก็เพียงพอที่จะให้ น.ส.แพทองธาร เป็นนายกรัฐมนตรีอยู่แล้ว นายฐากร กล่าวว่า สส.ในพื้นที่ บอกว่าหากลงคะแนนไม่เห็นชอบ ประชาชนในพื้นที่จะไม่เห็นด้วย เพราะเขาต้องการให้มีรัฐบาลบริหารประเทศ ตนได้ถาม สส.ทุกคนแล้ว ซึ่งเมื่อตนเดินทางถึงสภาในตอนเช้า ก็ได้เรียกประชุม สส. เพื่อแสดงความเห็น ยืนยันว่าเราดำเนินการตามขั้นตอนทั้งหมด

เมื่อถามว่า จะทำให้พรรคไทยสร้างไทยถูกมองว่าไม่มีจุดยืนหรือไม่ นายฐากรกล่าวว่า ไม่ ยืนยันว่าเราโหวตตามหลักการของเรา แต่ละพรรคก็มีหลักการของตัวเอง ดังนั้น ถ้าเอาหลักการของพรรคอื่นมาเชื่อมโยงกับเรา ก็เชื่อมโยงไม่ได้

“ย้ำว่าจุดยืนของเราคือสิ่งไหนที่รัฐบาลทำไม่ถูก ก็จะเดินหน้าอภิปราย ทั้งนี้ หากเราโหวตแล้วเสียงแตก นั่นคืองูเห่า ถ้าเราเป็นฝ่ายค้านก็ต้องโหวตเหมือนกัน”

เมื่อถามว่า ได้พูดคุยกับคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทยหรือไม่ นายฐากรกล่าวว่า ไม่ได้คุยกันเลย

เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่า นายฐากรแตกหักกับคุณหญิงสุดารัตน์ เพราะอยากไปร่วมรัฐบาล นายฐากรกล่าวว่า ไม่ ตนไม่เคยแตกหัก ใครจะไปกล้าแตกหักกับคุณหญิง แต่ยอมรับว่าไม่ได้พูดคุยกับคุณหญิงสุดารัตน์ก่อนจะโหวต ก็เราเพิ่งตัดสินใจเมื่อเช้าก่อนโหวต

เมื่อถามย้ำว่า จะเป็นการลอยแพคุณหญิงสุดารัตน์หรือไม่ นายฐากรร้องโอ๊ย ก่อนกล่าวว่า ใครจะกล้าลอยแพคุณหญิง ไม่มีหรอก ยืนยันว่าไม่ลอยแพ แต่กลัวคุณหญิงจะลอยแพพวกเรา พร้อมย้ำว่าคุณหญิงสุดารัตน์มีความสำคัญต่อพรรคไทยสร้างไทย ดังนั้น เราต้องให้ความสำคัญ เพราะพรรคไทยสร้างไทยคือพรรคที่คุณหญิงสุดารัตน์สร้างมา

เมื่อถามว่า ในอนาคตหากมีการเทียบเชิญ จะร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายฐากรกล่าวว่า ต้องไปพูดคุยกัน แต่วันนี้ขออยู่ในโลกความเป็นจริง วันนี้เราเป็นพรรคร่วมฝ่ายค้าน ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด วันนี้ขออยู่ในโลกปัจจุบัน อย่าเพิ่งอยู่ในโลกอนาคต แต่ไม่ได้บอกว่าไม่ปิดประตู ขอตอบเพียงว่า ทำหน้าที่วันนี้ให้ดีที่สุด

เมื่อถามว่า น.ส.แพทองธารได้เป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว เหมาะสมหรือไม่ นายฐากรกล่าวว่า เมื่อผลออกมาแล้วก็แสดงความยินดี เพราะไม่ว่าจะอยู่ฝ่ายใดทุกคนก็ทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติ แต่ถึงแม้จะเป็นคนอื่นที่เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเช่นเดียวกัน เราก็ยินดีที่จะโหวต

‘สส.สัญญา’ ให้การต้อนรับ ‘คณะที่ปรึกษาประธาน กมธ. กิจการศาลฯ’ ขอบคุณที่เสียสละ เชื่อ!! ใช้ความรู้ความสามารถ เพื่อประเทศชาติอย่างเต็มที่

เมื่อวานนี้ (15 ส.ค. 67) นายสัญญา นิลสุพรรณ สส.นครสวรรค์ เขต 3 พรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน ได้ให้การต้อนรับแพทย์หญิงกนกวรรณ จันทอุปฬี พร้อมด้วย พันเอกนายแพทย์ลัทธพล ม้าลายทอง, นายแพทย์ภูศิษฐ์ จิตติละอองวงศ์, นายแพทย์พัชร์พล สุภาวงค์

ซึ่งคณะแพทย์ได้เดินทางเข้าขอบคุณนายสัญญา นิลสุพรรณ จากการเสนอแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาลฯ เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา

โดยนายสัญญา นิลสุพรรณได้กล่าวขอบคุณคณะแพทย์ที่ได้เสียสละ และให้เกียรติรับตำแหน่งที่ปรึกษาประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาลฯ และขอให้ใช้ความรู้ความสามารถเพื่อประโยชน์ของประชาชน และประเทศชาติต่อไป

'สุริยะ' มั่นใจ!! 'อุ๊งอิ๊ง' มุ่งมั่นทำงาน คนไทยฝากความหวังได้ เชื่อ!! บทเรียนในอดีตช่วยให้ไม่พลาด ส่วนอายุน้อยไม่ใช่ปัญหา

(16 ส.ค. 67) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคม กล่าวภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้รับการโหวตจากสภาให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีว่า…

ต้องขอแสดงความยินดีกับนายกฯ คนใหม่ ซึ่งเป็นคนที่ 3 แล้วของคนในตระกูลชินวัตร น.ส.แพทองธารอยู่ในแวดวงการเมืองตั้งแต่สมัยที่ตนเป็นเลขาธิการพรรคไทยรักไทยแล้ว ซึ่งนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ไม่ว่าจะไปไหนก็จะพา น.ส.แพทองธารไปด้วย เชื่อว่า น.ส.แพทองธารได้เรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องการเมืองมานาน และตอนที่ น.ส.แพทองธาร มาเป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ก็มีการสะสมประสบการณ์มาเรื่อย ๆ จึงคิดว่า เมื่อ น.ส.แพทองธารมารับตำแหน่งนายกฯ ในวันนี้ ได้รับเสียงโหวตจากสภาฯ และหลังจากได้รับโปรดเกล้าฯ เป็นนายกฯ อย่างเป็นทางการ ก็เชื่อมั่นว่า น.ส.แพทองธารจะสามารถช่วยประเทศชาติได้หลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเศรษฐกิจ สังคม ได้อย่างดี

ต่อคำถามที่ว่า แม้ น.ส.แพทองธารจะตามนายทักษิณมานาน แต่ด้วยอายุและประสบการณ์ยังน้อยเกินไปสำหรับการเป็นนายกฯ ที่จะมาบริหารประเทศ นายสุริยะ กล่าวว่า ยุคนี้เป็นยุคของคนรุ่นใหม่ อย่างนายกฯฝรั่งเศสก็อายุยังน้อย ฉะนั้น คนรุ่นใหม่มีความกระฉับกระเฉง โลกวันนี้ไม่ได้แข่งกันที่ความใหญ่ แต่มันแข่งกันที่ความรวดเร็ว โลกยุคใหม่ คนรุ่นใหม่ จะทำได้ดีมาก ตนเชื่อมั่นอย่างนั้น

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า มองอย่างไรที่คนมองว่า น.ส.แพทองธารอาจจะมีจุดจบทางการเมืองเหมือนกับพ่อและอา นายสุริยะ กล่าวว่า ตนไม่เชื่ออย่างนั้น แต่เชื่อว่า ถ้าตราบใดที่เรามีบทเรียนในอดีตอยู่แล้ว ที่ผ่านมามีความผิดพลาดอย่างไร แต่ต้องยอมรับว่า ในอดีตมันมีระบบที่เข้ามาพยายามทำลายระบอบประชาธิปไตย แต่ทุกครั้งเราก็กลับมาได้ ดังนั้น จึงเชื่อว่า จากบทเรียนที่ผ่านมา นายกฯ คนใหม่จะเอาบทเรียนในอดีตมาพิจารณา

ผู้สื่อข่าวถามซักต่อว่า เรื่องของดิจิทัลวอลเล็ต ไม่น่าห่วงสำหรับนายกฯ ใหม่ใช่หรือไม่ นายสุริยะ กล่าวว่า โครงการนี้หลังจากฟอร์มรัฐบาลเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทางพรรคร่วมรัฐบาลจะมาดูกันอีกทีว่า จะดำเนินการกันอย่างไร 

ผู้สื่อข่าวถามเพิ่มว่า ยังต้องรับฟังความคิดเห็นจากรัฐบาลอีกหรือ ในเมื่อให้ประชาชนลงทะเบียนไปแล้ว นายสุริยะ กล่าวว่า เนื่องจากตอนนี้มีการเปลี่ยนนายกฯ คนใหม่ พรรคร่วมรัฐบาลก็ต้องมาคุยกันอีกครั้ง 

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ยืนยันว่าโครงการนี้จะไม่หยุดชะงักกลางคันใช่หรือไม่ นายสุริยะ กล่าวว่า รอพรรคร่วมรัฐบาลคุยกันอีกครั้ง

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ประชาชนฝากความหวังกับนายกฯ คนใหม่ได้ใช่หรือไม่ นายสุริยะ กล่าวว่า เชื่อว่า น.ส.แพทองธาร จะมุ่งมั่นและตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ ในส่วนของพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลทุกคนก็มั่นใจว่า น.ส.แพทองธาร จะทำหน้าที่ได้ดี ฉะนั้น มั่นใจว่า ประชาชนฝากความหวังไว้ได้

⚽‘เศรษฐา’ ผู้คลั่งบอลไทย เชื่อมั่นคนไทย บอลไทย ไปบอลโลก

เมื่อปลายเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา คอลูกหนังไทยต่างพุ่งความสนใจไปที่ศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก รอบสอง กลุ่มซี ระหว่างทีมชาติไทย ปะทะ เกาหลีใต้ ณ สนามราชมังคลากีฬาสถาน แม้สกอร์จะจบลงที่ช้างศึกแพ้โสมขาว 0-3 แต่หนึ่งในแฟนพันธุ์แท้ (กิตติมศักดิ์) ฟุตบอลไทย ก็ยังส่งกำลังใจจากให้พลพรรคทีมชาติทั้งในสนามและผ่านบัญชี X.COM

"...วันนี้ทีมชาติไทยทำเต็มที่แล้วครับ ตัวผมเป็นแฟนคลับที่ติดตามเชียร์ และส่งกำลังใจให้ทุกคน ในทุก ๆ แมตช์แน่นอน" นั่นคือข้อความจากใจนายกรัฐมนตรี 'เศรษฐา ทวีสิน' ผู้เชื่อมั่นในศักยภาพนักเตะไทย

ก่อนเกมเริ่ม 'นายกฯ นิด' ยังบอก “...ตั้งแต่ผมดูฟุตบอลไทยในบ้านเรา ไม่เคยเห็นคนเยอะขนาดนี้เลย ดีใจที่วันนี้ได้มาส่งกำลังใจ และส่งเสียงเชียร์แบบติดขอบสนาม ก่อนการแข่งขันผมจึงแวะมาให้กำลังใจนักกีฬาทุกคนที่ห้องพักนักกีฬาครับ”

ส่งใจสนับสนุนและพาบอลไทยไปบอลโลก


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top