Tuesday, 8 July 2025
POLITICS NEWS

"อนุทิน" ขอทุกฝ่าย ฟังข้อเสนอ สธ.ย้ำ เข้มมาตรการเพื่อความปลอดภัยของ ปชช.

ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังประชุมคณะผู้บริหาร ถึงสถานการณ์ การระบาดของโควิด 19 ว่า 

ยอดผู้ติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้นหลังเทศกาลปีใหม่ เป็นสิ่งที่อยู่ในการประเมิน ซึ่งเรามีแผนจัดการในหลายระดับของความรุนแรงของการระบาด เราได้ปรับมาตรการทุกด้าน  เช่น มาตรการการคัดกรอง การควบคุมโรค การแยกกักตัว 

จำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มมากขึ้น ก็ต้องสังเกต และวิเคราะห์ในรายละเอียด ว่า จากยอดผู้ติดเชื้อที่สูงขึ้น ในนั้น อาการเป็นอย่างไรบ้าง มีอาการหนักเท่าไร ต้องใช้ห้องไอซียูเท่าไร ซึ่งก็หวังว่าจะไม่เพิ่มขึ้นมากนัก เพราะได้ฉีดวัคซีนแล้ว การระบาดระลอกนี้ ต้องขอเวลาประมาณ 7-10 วัน เพื่อดูรายละเอียดที่ชัดเจน อาทิ วันนี้ ป่วยไป 5.7 พันร้าย แต่ความสูญเสียไม่ถึง 20 ราย  ในอนาคต อัตราส่วนจะยังคงที่หรือเพิ่มขึ้น เราอยู่กับข้อมูล และปรับแผนต่อเนื่องให้ทันกับสถานการณ์ของโรค

สำหรับการรักษา ขอให้เป็นดุลย์พินิจของแพทย์ ถ้าอาการไม่รุนแรง แล้วแพทย์ ให้กักตัวที่บ้าน ก็ต้องเข้าใจว่า เพราะเราต้องเตรียมอุปกรณ์ และทรัพยากรอื่น ไว้รักษาผู้ที่มีอาการปานกลาง ไปจนถึงหนัก เพื่อจำกัดยอดความสูญเสียให้ได้มากที่สุด ส่วนเรื่องมาตรการ ขอย้ำว่า เราคำนึงถึงในทุก มิติ 

ทางกรมควบคุมโรค จะยกระดับบางพื้นที่ให้ขึ้นเป็นสีส้ม ซึ่งจะมีการจำกัดการบริโภคของมึนเมา นอกจากนั้น ก็ยังมีเรื่อง Test And Go ที่ผู้ลงทะเบียนไว้ ต้องกลับมาในเวลาที่กำหนด และต้องปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด เรากำลังจัดการปัญหาเรื่องนี้อยู่ ล่าสุด ได้เสนอให้เลื่อนเดดไลน์การเข้าประเทศไทย จากวันที่ 10 มกราคม ไปเป็นวันที่ 15 มกราคมแทน

รองโฆษกรัฐบาล เผย ไทยเป็นประเทศแรกในเอเซีย ที่ประกาศใช้แผนปฏิบัติการระดับชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน 

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ผลการดำเนินการตามแผนปฏิบัติการระดับชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน ระยะที่ 1 (พ.ศ.2562-2565) ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบ เมื่อ 29 ต.ค.2562 โดยประเทศไทยเป็นประเทศแรกในเอเซีย และเป็นหนึ่งใน 30 ประเทศของโลก ที่ได้ประกาศใช้แผนปฏิบัติการระดับชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน เพื่อเป็นกรอบแนวทางให้กับทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ ธุรกิจ และประชาสังคม ดำเนินการส่งเสริม คุ้มครอง ป้องกัน บรรเทา เยียวยา และแก้ไขปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนอันเป็นผลจากการทำธุรกิจ ส่งเสริมการดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบ รัฐบาลมอบหมายให้กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม เป็นหน่วยงานหลักรับผิดชอบในการขับเคลื่อนร่วมกับส่วนราชการต่างๆ โดยมีผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งแรกของแผนฯ ประเด็นหลักๆใน 4 ด้าน ดังนี้

ด้านแรงงาน 1) การกําหนดมาตรการลดหย่อนภาษีให้ภาคธุรกิจที่จ้างงานผู้พ้นโทษ 2) การบริหารจัดการแรงงานในช่วงสถานการณ์ COVID-19 3) การประกาศนโยบายและเจตนารมณ์ ส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศ และการขจัดการเลือกปฏิบัติในที่ทํางาน 

ด้านชุมชน ที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม 1) การกําหนดให้บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เปิดเผยข้อมูลการดําเนินงานด้านสิทธิมนุษยชนในรูปแบบOneReport 2)การจัดต้ังศูนย์ ไกล่เกลี่ยระงับข้อพิพาทในระดับพื้นท่ีทั่วประเทศ 3) กำหนดให้สินค้าและผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สินค้าจากวิสาหกิจเพื่อสังคม ได้รับการส่งเสริมในการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ

ด้านนักปกป้องสิทธิมนษุยชน 1) การยกร่างกฎหมายป้องกันการฟ้องปิดปาก ในความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่และประพฤติมิชอบ 2) การเสนอแก้ไขพ.ร.บ.คุ้มครองพยาน ในคดีอาญา เพื่อขยายขอบเขตบคุคลที่ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ฯ 3) การศึกษามาตรการที่เป็นรูปธรรมในการคุ้มครองนักปกป้องสิทธิมนุษยชน

ด้านการลงทุนระหว่างประเทศและบรรษัทข้ามชาติ 1) การเพิ่มเงื่อนไขในการตรวจประเมินสิทธิมนุษยชน ก่อนการให้เงินกู้สําหรับดําเนินโครงการในประเทศเพื่อนบ้าน 2) การลงนามและดําเนินการตาม MOU ของธนาคารแห่งประเทศไทยเพื่อส่งเสริมให้ธนาคารพาณิชย์ยึดถือหลักการเงินที่มีความรับผิดชอบ (Responsible Financing) และส่งเสริมหลักการ สิ่งแวดล้อม-สังคม-ธรรมาภิบาล 4) การจัดทํารูปแบบสัญญามาตรฐานที่เพิ่มประเด็นสิทธิมนุษยชนเป็นหนึ่งในประเด็นที่จะต้องพิจารณาเมื่อมีการเจรจาการค้าหรือการลงทุน

“เจ๊หลี” ควง “ ชัยวุฒิ”สมัครชิงลต.ซ่อมส.ส.กทม. มวลชนแห่รับ ด้าน ผอ.ลต.พปชร.เชื่อ รักษาเก้าอี้ส.ส.ได้ 

นางสรัลรัศมิ์ เจนจาคะ ผู้สมัครส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ พร้อมนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะผู้อำนวยการเลือกตั้งซ่อมส.ส.กทม. รวมถึงส.ส.กทม.ของพรรค เดินเท้าจากสำนักงาน ไปที่สำนักงานเขตหลักสี่ เพื่อยื่นใบสมัครรับเลือกตั้งซ่อม ท่ามกลางประชาชนที่มาให้กำลังใจ

นางสรัลรัศมิ์ กล่าวว่า วันนี้กำลังใจดี โดยเฉพาะจากนายสิระ เจนจาคะ ในฐานะอดีต ส.ส.ที่ให้กำลังใจกันทุกวัน รวมถึงประชาชนที่มาร่วมให้กำลังใจ หลังจากได้หมายเลขผู้สมัครจะเดินหน้าลงพื้นที่อย่างต่อเนื่องทุกพื้นที่จนกว่าจะถึงวันเลือกตั้ง ทั้งนี้ที่ผ่านมาตนช่วยเหลือประชาชนในทุกมิติอย่างต่อเนื่อง สิ่งใดที่ประชาชนเรียกร้องเร่งด่วนจะรีบทำก่อน 

“นายกฯ“ สั่ง คุมเข้มชายแดน สกัดแรงงานเถื่อนเข้าเมืองผิดกฎหมาย-ค้ายาเสพติด ขยายผลปราบปราม ป้องก่อเหตุกระทำผิด

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดตามแนวชายแดน เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง เพิ่มความเข้มงวด เฝ้าระวังสกัดกั้นขบวนการขนย้าย ค้าแรงงานต่างด้าวที่แอบลักลอบเข้าประเทศไทยตามแนวชายแดนโดยผิดกฎหมาย รวมถึงการลักลอบขนยาเสพติดเข้าประเทศไทย  หลังพบการรายงานการจับกุมการลักลอบขนย้ายแรงงานเถื่อนผ่านชายแดนมีความถี่มากขึ้น 

นายธนกร กล่าวว่า เมื่อวันที่ 5 ม.ค. 65 เจ้าหน้าที่ตรวจยึดของกลางยาบ้า บริเวณเส้นทางธรรมชาติริมฝั่งแม่น้ำโขง พื้นที่บ้านแพงใต้ จังหวัดนครพนม  จำนวน 5 กระสอบ 378 มัด ประมาณ 756,000 เม็ด และส่งมอบให้กับ สภ.บ้านแพง ดำเนินการตามกฎหมาย ขณะที่กองกำลังผาเมือง จับกุมผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย สัญชาติเมียนมา จำนวน 34 คน เป็นชาย14 หญิง 16 คน เด็กชาย2 คน เด็กหญิง2คน บริเวณ บ.หนองบัวคำ ต.ม่อนปิ่น อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ จากการสอบถามต้องการมาทำงานในพื้นที่จังหวัด และกทม.

สรุปมาตรการแก้หมูแพง ห้ามส่งออกสามเดือน จัดมาตรการดูแลทั้งระบบ ลดต้นทุน-ส่งเสริมเลี้ยงหมูไม่ให้ขาดตลาด ทำฟาร์มมีระบบป้องกันโรค

รัฐบาลกำหนดมาตรการแก้เนื้อหมูแพง เหตุหมูไม่พอบริโภคบวกต้นทุนเพิ่ม สั่งห้ามส่งออกชั่วคราว ช่วยลดต้นทุน เร่งกระจายพันธ์ุ หาแหล่งเงินทุนทำฟาร์มที่เหมาะสมลดเสี่ยงโรคระบาด

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงแนวทางการแก้ปัญหาเนื้อหมูราคาแพง สืบเนื่องจากปริมาณสุกรที่ลดลง ต้นทุนการเลี้ยงสุกรปรับสูงขึ้น ส่งผลให้เนื้อหมูปัจจุบันมีราคาสูงมาก ทั้งนี้กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้หารือร่วมกัน และได้ข้อสรุปดังนี้

1) มาตรการเร่งด่วน ได้แก่ 
-การห้ามส่งออกหมูมีชีวิตเป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 6 ม.ค.65 ถึง วันที่ 5 เม.ย. 65 เพื่อเพิ่มปริมาณเนื้อหมูภายในประเทศ และกระทรวงพาณิชย์จะพิจารณาตามสถานการณ์ว่าควรให้มีการต่ออายุหรือไม่ โดยจะมีการติดตมาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ตัวเลขเบื้องต้นในปี 2564 มีการเลี้ยงหมูป้อนเข้าสู่ตลาด ประมาณ 19 ล้านตัว บริโภคในประเทศ 18 ล้านตัว ส่งออกไปต่างประเทศประมาณ 1 ล้านตัว

-การช่วยเหลือด้านราคาอาหารสัตว์ โดยเฉพาะส่วนที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ เช่น การงดเว้นการเก็บค่าธรรมเนียมหรือภาษี การจัดสินเชื่อพิเศษของ ธ.ก.ส. เพื่อให้เกษตรกรที่สามารถปฏิบัติตามหลักเกณฑ์เงื่อนไขได้กลับมาเลี้ยงใหม่ในพื้นที่ความเสี่ยงต่อโรคระบาดต่ำ การตรึงราคาจำหน่ายที่เหมาะสมและสอดคล้องกับต้นทุนที่เกิดขึ้น 

-การเร่งสำรวจภาพรวมสถานการณ์การผลิตสุกร เพื่อกำหนดพื้นที่เป้าหมายและมาตรการที่เหมาะสม พร้อมเพิ่มกำลังการผลิตแม่สุกรทดแทน โดยให้เกษตรกรใช้สุกรขุนตัวเมียมาใช้ทำพันธุ์ชั่วคราว เร่งรัดเจรจาฟาร์มรายใหญ่ในการกระจายพันธุ์และลูกสุกรขุนให้กับรายย่อยและเล็กที่ต้องการกลับเข้ามาสู่ระบบใหม่ กำหนดโซนเลี้ยงและออกมาตรการบังคับใช้อย่างเหมาะสมเพื่อควบคุมโรค และเร่งรัดการวิจัยพัฒนาวัคซีนป้องกันโรค 

2. มาตรการระยะสั้น ได้แก่ การส่งเสริมการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เพื่อทดแทนการนำเข้าจากต่างประเทศ การขยายกำลังผลิตแม่สุกร สนับสนุนศูนย์วิจัยและบำรุงสัตว์ ในสังกัดกรมปศุสัตว์และเครือข่ายคู่ขนานกับฟาร์มเกษตรกรและภาคเอกชน เร่งเดินหน้าการศึกษาวิจัยยาและสารกระตุ้นภูมิคุ้มกันเพื่อลดความสูญเสียจากโรคระบาด  

3.มาตรการระยะยาว กระทรวงเกษตรฯจะผลักดันการยกระดับมาตรฐานฟาร์มของเกษตรกรเพื่อป้องกันโรคระบาด ส่งเสริมให้ปรับปรุงเป็นฟาร์มที่มีระบบการป้องกันโรคและการเลี้ยงสัตว์ที่เหมาะสม (GFM) มีค่าใช้จ่ายต่ำกว่ามาตรฐานฟาร์ม GAP ซึ่งจะเป็นแรงจูงใจให้เกษตรกรกลับมาเลี้ยงสุกรใหม่และเพิ่มปริมาณการผลิตหมูให้เพียงพอต่อความต้องการบริโภค ทั้งยังจะมีการสนับสนุนการเลี้ยงโดยจะมีสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้กู้ยืมจาก ธ.ก.ส. ในโครงการสานฝันสร้างอาชีพ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้กรมปศุสัตว์ เร่งขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรรายย่อยเพื่อช่วยเหลือให้เข้าถึงแหล่งสินเชื่อได้ง่ายและสะดวกรวดเร็ว รวมทั้งการรวมกลุ่ม สนับสนุน และหาตลาดในราคาที่เกษตรกรอยู่ได้อย่างดี

‘พิชิต’ ซัด ‘โทนี่’ หลังอวย ‘ได้กลับไทย’ = พรปีใหม่ หากคิดกลับจริงหนีบน้องมาด้วย พร้อมไล่รวดเดียว 

ไม่นานมานี้ นายพิชิต ชัยมงคล อดีตแกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า... 

โทนี่แม้วอวยพรปีใหม่ แต่ใจยังคับแคบคิดถึงแต่เรื่องตัวเอง…

1.) อยากกลับมาเลี้ยงหลาน 
2.) อยากมาช่วยรัฐบาล ไม่ว่ารัฐบาลจะเป็นใคร 
3.) อยากมาบรรยาย ใครเชิญก็จะไป เอาแค่โอเลี้ยงแก้วเดียว 
และ 4.) จะเชิญเศรษฐีเมืองไทยมาลงหุ้น สตาร์ทอัพคนรุ่นใหม่

นี่มันเป็นคำอวยพรปีใหม่ตรงไหน ผมจำได้ว่าปีใหม่ ทักษิณ เคยประกาศให้ 31 ธ.ค. เป็นวันทำงาน เพื่อคุณหญิงพจมานจะได้ซื้อที่ดินรัชดาได้โดยไม่เสียภาษีเยอะ เพราะถ้าข้ามปีภาษีจะเป็นอีกแบบ

สภาฯ เปิดผลสอบ ‘นายกฯ’ แจกเงิน ส.ส. แจงไม่พบหลักฐาน ตามที่ ‘ส.ส.วิสาร’ ปูด

5 ม.ค. 65 - ที่รัฐสภา นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร แถลงผลคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีนายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย อภิปรายกล่าวหา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จ่ายเงินจำนวน 5 ล้านบาท ที่บริเวณชั้น 3 ภายในอาคารรัฐสภาให้กับส.ส. เพื่อให้ลงคะแนนไว้วางใจให้กับนายกรัฐมนตรี ในช่วงที่มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล เมื่อวันที่ 2 ก.ย. 64 ว่า นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร มีคำสั่งสภาผู้แทนราษฎร เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ในเรื่องดังกล่าว จำนวน 5 ราย โดยให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน ต่อมาคณะกรรมการฯ ขอขยายระยะเวลาออกไปอีกครั้งละ 30 วัน จำนวน 2 ครั้ง

นพ.สุกิจ กล่าวต่อว่า กระทั่งเมื่อวันที่ 28 ธ.ค. 64 คณะกรรมการส่งรายงานผลการตรวจสอบต่อประธานสภาฯ ผู้แทนราษฎร โดยมีเนื้อหาระบุถึงแนวทางการตรวจสอบข้อเท็จจริงของคณะกรรมการ (1.) ได้เชิญนายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ในฐานะบุคคลซึ่งได้อภิปรายมาให้ข้อมูล ซึ่งได้มาให้ข้อมูลต่อคณะกรรมการ เมื่อวันที่ 9 ก.ย. 64 (2.) ตรวจสอบและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการเดินทางเข้ามาภายในอาคารรัฐสภา การเข้าปฏิบัติภารกิจภายในห้องรับรองนายกฯ ที่ชั้น 3 อาคารรัฐสภา ของนายกฯ และผู้ติดตามนายกฯ (3.) ตรวจสอบการเข้าพบนายกฯ ของส.ส. ที่ห้องรับรองนายกรัฐมนตรี ชั้น 3 อาคารรัฐสภา ในช่วงเวลาที่มีการกล่าวอ้างจากการอภิปรายของส.ส. ในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 2 ก.ย. 64

‘ก้าวไกล’ รุกหนักช่วย ‘เพชร กรุณพล’ ลงพื้นที่หาเสียง - ด้านเจ้าตัวรอลุ้นชู 3 นิ้ว

ทีม ‘ก้าวไกล’ เดินตลาดบางเขน ‘เพชร-กรุณพล’ ขอเป็นตัวแทน ‘การเมืองแห่งความหวัง’ ชวนลุ้นหลังสมัคร ส.ส. กทม. เขต 9 พรุ่งนี้ หากจับได้หมายเลข 3 ชู 3 นิ้ว แน่นอน ไม่หวั่นโดน ‘สิระ’ ขู่ฟ้อง 50 ล้าน

วันที่ 5 ม.ค. 65 นายกรุณพล เทียนสุวรรณ หรือ เพชร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต 9 พรรคก้าวไกล พร้อมด้วย นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส. เขต 1 จังหวัดพิษณุโลก และนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส. เขต 28 บางแค กรุงเทพฯ เดินทางไปแนะนำตัวและพบปะพูดคุยกับประชาชนย่านตลาดบางเขน

“หาเสียงมาระยะหนึ่งรู้สึกสนุก ยอมรับตอนแรกกังวลว่าประชาชนที่เคยชื่นชอบผลงานละครจะไม่เห็นด้วยกับการมาทำงานการเมืองหรือเปล่า แต่พอได้พูดคุยกันจึงรู้ว่าได้รับการตอบรับที่ดีมาก ยิ่งรู้สึกดีใจเมื่อเขาบอกว่าอยากให้เราเป็นปากเสียงให้เขาด้วย มีหลายคนกล้าที่จะเดินมาบอกสะท้อนถึงปัญหาที่ต้องการแก้ไขกับเรา ผมตั้งความหวังในการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ว่าจะชนะเลือกตั้ง ผมเชื่อว่าคนกรุงเทพและคนในเขตเลือกตั้ง ไม่ว่าเขตบางเขน จตุจักร หรือหลักสี่ ต้องการเห็นการเมืองในรูปแบบที่แตกต่างออกไป หลายปีที่ผ่านมา ประชาธิปไตยไม่ได้เบ่งบานเต็มที่ ประชาชนได้รับผลกระทบมากน้อยแตกต่างกันไปก็จริง แต่สิ่งหนึ่งที่ทุกคนได้รับผลกระทบเหมือนกันคือความฝืดเคืองรายได้ลด ภาระค่าใช้จ่ายที่มากขึ้น แต่การเมืองที่แตกต่างจากเดิมได้ทำให้ประชาชนรู้สึกถึงความหวังมากขึ้น และในครั้งนี้ผมจึงขอโอกาสเป็นตัวเลือกเพื่อเป็นตัวแทนของความหวังนั้น”  

นายกรุณพล กล่าวต่อไปว่า หากได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส. จะรับปัญหาในพื้นที่ไปสู่การผลักดันแก้ไข ไม่ว่าด้วยกลไกสภาหรือด้วยนโยบายของพรรคที่มุ่งเปลี่ยนแปลงในระดับโครงสร้างประเทศ ซึ่งจะส่งผลถึงคุณภาพชีวิตของคนทุกคนด้วยเป้าหมายการสร้างสวัสดิการของรัฐที่ถ้วนหน้าเท่าเทียมกัน นอกจากนี้ เรายังมีเป้าหมายที่ต้องการให้เกิดการกระจายอำนาจเป็นจริง เพื่อคืนศักยภาพในการบริหารจัดการทรัพยากรต่างๆ ให้ประชาชนสามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจ มีความเข้มแข็ง สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ส่วน ส.ส. และพรรคก้าวไกล จะเป็นส่วนหนึ่งของการหนุนเสริมขับเคลื่อนให้หน่วยงานภาครัฐตื่นตัวและคล่องตัวในการตอบสนองต่อปัญหาของประชาชนผ่านกลไกรัฐสภาและองคาพยพต่างๆ ที่พรรคมี 

นายกรุณพล ชี้ว่า การลงสมัครรับเลือกตั้งของพรรคการเมืองฝ่ายค้านไม่เป็นการตัดคะแนนกันเอง เนื่องด้วยแต่ละพรรคมีผู้สนับสนุนของตัวเอง หากบอกว่าจะเอาประชาชนที่ชอบนโยบายของพรรคก้าวไกล ไปเลือกพรรคการเมืองอื่นเพื่อให้ชนะการเลือกตั้ง คงเป็นการไม่เคารพต่อเจตนารมณ์ของประชาชนในฐานะพรรคการเมืองและคงไม่สามารถเรียกได้ว่าเป็นการส่งเสริมให้ระบอบประชาธิปไตยเข้มแข็ง แต่จะเป็นการฮั๊วการเลือกตั้ง ซึ่งไม่ใช่แนวทางที่พรรคก้าวไกลต้องการเห็น 

'บิ๊กตู่' สั่ง ยกระดับ ระบบขนส่งสินค้าเกษตร-ผลไม้ไทย กำชับ รักษามาตรฐานคุณภาพสินค้า-คำนึงถึงมาตรการป้องกันการปนเปื้อนของเชื้อโควิด-19 ปลอดภัย  ได้มาตรฐานสากล

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลเร่งเดินหน้าเสริมศักยภาพพัฒนาระบบการขนส่งสินค้าเกษตรและผลไม้ไทย โดยเป็นการขับเคลื่อนการทำงานอย่างบูรณาการทั้งภาครัฐ เอกชน และเกษตรกร ตั้งแต่สนับสนุน และตรวจสอบการผลิตที่ได้มาตรฐาน สอดคล้องความต้องการผู้บริโภค มีคุณภาพ ประสิทธิภาพ และมีการจัดการที่สอดคล้องกับมาตรการด้านสาธารณสุข ล่าสุด เป็นที่น่ายินดีที่ว่า จีนได้เปิดด่านรถไฟผิงเสียง (เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง) นำเข้าผลไม้ไทย ตั้งแต่วันที่ 4 ม.ค. ถึงวันที่ 17 มกราคม 2565 ทดแทนกรณีด่านตงซิง (เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ประเทศจีน) ปิดด่าน ทําให้ทุเรียนและลําไยสดของประเทศไทยติดค้างอยู่ที่ด่านเป็นจำนวนมาก โดยในปีที่ผ่านมา ไทยส่งออกผลไม้ไปยังประเทศจีน ได้กว่า 2 ล้านตัน เป็นมูลค่ากว่า 148,000 ล้านบาท โดยปริมาณการส่งออกผลไม้สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ทุเรียน ลำไย และมะพร้าวอ่อน 

นายธนกร กล่าวว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เห็นว่าด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก การส่งออกสินค้าเกษตรมีแนวโน้มลดลง จึงได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเสริมศักยภาพ ยกระดับและพัฒนาระบบขนส่งสินค้าเกษตรและผลไม้ไทยให้มีประสิทธิภาพ ดำเนินมาตรการบริหารจัดการผลไม้อย่างรอบครอบและครอบคลุม รับมือให้ทันต่อสถานการณ์ เพื่อให้สินค้าเกษตรได้รับผลกระทบน้อยที่สุด ซึ่งผลไม้ไทยถือเป็นสินค้าเกษตรที่มีความสำคัญ สร้างรายได้ให้กับประเทศ กำชับให้รักษามาตรฐานคุณภาพผลไม้ส่งออก พร้อมคำนึงถึงมาตรการป้องกันการปนเปื้อนของเชื้อโควิด-19 ที่ปลอดภัย และได้มาตรฐานในระดับสากล สามารถแข่งขันได้ในเวทีโลก รองรับการพัฒนาอุตสาหกรรมบริการที่ให้ความสำคัญในด้านคุณภาพและความปลอดภัยของสินค้า          

'แรมโบ้' อัด 'ทักษิณ' ให้ไปดูดวงตัวเองก่อน แนะ กลับมาซ้อม ตีกอล์ฟในคุกก่อน ค่อยมาท้าออกรอบกับบิ๊กตู่

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ประเมินปี 65 เป็นปีที่หนักเพราะเงินเฟ้อสูง ดอกเบี้ยขึ้น ค่าครองชีพจะสูงมาก ขอให้คนไทยอดทน ผ่านพ้นวิกฤตไปให้ได้ ประคองตัวให้พ้นครึ่งปีแรก ครึ่งปีหลังน่าจะดีขึ้น โดยครึ่งปีหลังน่าจะเป็นรัฐบาลใหม่มานั่งบริหาร โดยจุดจบรัฐบาลนี้ คือยุบสภา เลือกตั้งใหม่ แล้วไม่ได้เลือกกลับมา เป็นจุดจบที่สวยงามที่สุด นายทักษิณยังมั่นใจว่าปี 65 จะได้กลับประเทศไทย ว่า 

นายทักษิณ อย่าคิดเข้าข้างตัวเองว่ามีแต่ตัวเองที่คิดว่าตัวเองเป็นคนดีและเก่งอยู่คนเดียว ทำงานแก้ไขปัญหาประเทศได้หมด แต่เป็นคนขี้โกง ทุจริต มีคดีติดตัวจนหนีออกไปอยู่ต่างประเทศ ประชาชนในประเทศก็ไม่เอา แบบนี้ถามกลับว่าน่าภาคภูมิใจตรงไหน และที่บอกว่าจะได้รัฐบาลใหม่ครึ่งปีหลัง ขออย่าทำตัวเป็นหมอเดา นายกฯประยุทธ์เคยออกมายืนยันหลายครั้งแล้วว่าไม่ยุบสภาหรือลาออก ต้องอยู่ครบเทอมเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชน  

นายทักษิณ คงอยากกลับประเทศมาก จนคิดว่านายกฯประยุทธ์จะลาออกหรือยุบสภา แล้วพรรคเพื่อไทยจะได้เป็นรัฐบาลแล้วพาตัวเองกลับบ้าน คงฝันหวานอยู่ เห็นพูดมาหลายครั้งแล้ว หากอยากทำประโยชน์เพื่อชาติบ้านเมือง และอยากออกรอบตีกอล์ฟกับนายกฯประยุทธ์ก็ขอให้กลับมาแล้วไปซ้อมในคุกกรมราชฑัณฑ์ก่อนดีกว่า ขอให้รับโทษที่ก่อเอาไว้ก่อน นายกฯประยุทธ์คงไม่อยากตีกอล์ฟกับนักโทษหนีคดี 

ถ้ากลับมานายทักษิณบอกจะกระซิบลูกสาว น้องอุ๊งอิ๊ง ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมพรรคเพื่อไทยเป็นคนแรก คงไม่เห็นหัวหมอชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทยเลยหรืออย่างไร จึงไม่ยอมบอก คงหวังจะให้ลูกสาวเป็นนายกฯเสียเอง แล้วสั่งให้ออกกฎหมาย พ.ร.บ.นิรโทษสุดซอยอีก ล้างคดีและช่วยให้นายทักษิณและนางสาวยิ่งลักษณ์กลับประเทศ เหมือนที่เคยทำมาแล้ว 

สิ่งที่นายทักษิณกำลังทำตัวเป็นหมอดูอยู่ในขณะนี้ มันสะท้อนชัดเจนว่า นายทักษิณนั้นอยากกลับมาประเทศไทยเสียเต็มที อันที่จริงเรื่องกลับบ้านนั้นตนเองก็บอกหลายครั้งแล้วว่า ไม่มีใครไม่ให้นายทักษิณกลับมา แต่ที่ผ่านมานายทักษิณ เลือกที่จะไม่กลับมาเองใช่หรือไม่ เป็นเพราะกลัวว่ากลับมาแล้วต้องมาติดคุกติดตะราง จึงอยากกลับมาอย่างเท่ ๆ โดยอยู่เหนือกฎหมายบ้านเมือง ซึ่งอย่าได้หวังอีกเลย ถ้าจะกลับมาโดยไม่ต้องรับโทษ เพราะคนไทยเขาไม่ยอมเด็ดขาด ยกเว้นเสียว่ากลับมารับโทษ เข้าคุกก็อาจจะยังพอมีโอกาสอยู่บ้าง 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top