Wednesday, 2 July 2025
NEWS

“เฉลิมชัย” เร่งเครื่องดันไทยฮับออร์แกนิคอาเซียน โชว์ผลงานกระทรวงเกษตรขยายพื้นที่เกษตรอินทรีย์ 1.5ล้านไร่

เกินเป้าหมายมอบ”อลงกรณ์”เปิดแนวรุกใหม่เดินหน้าโครงการ”เกษตรกรรมยั่งยืนในเมือง”สร้างคานงัดใหม่ยกระดับคุณภาพชีวิตคนเมือง

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารโครงการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนในเมืองกล่าวปาฐกถาพิเศษหัวข้อ"เกษตรกรรมยั่งยืนวิถีในเมือง จาก Post Covid-19 สู่ Next Normal"ในงานสัมมนาเกษตรอินทรีย์วิถีในเมืองจัดโดยสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.)โดยบรรยายถึง6ประเด็นสำคัญ 

(1) 5 ยุทธศาสตร์ปฏิรูปการเกษตรของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
(2) ตัวอย่างโครงการและนโยบายในหลายประเทศ แนวทางการพัฒนาเมืองสีเขียวเมืองน่าอยู่
(3)โครงการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนในเมือง
(4) 5 สาขาเกษตรกรรมยั่งยืน
(5) โครงสร้างการขับเคลื่อนเกษตรกรรมยั่งยืนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
(6)แผนปฏิบัติการด้านเกษตรอินทรีย์ พ.ศ.2566-2570

นายอลงกรณ์กล่าวว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน) ประธานคณะกรรมการบริหารการพัฒนาระบบเกษตรกรรมยั่งยืนเล็งเห็นความสำคัญการแก้ไขปัญหาภาวะความไม่มั่นคงทางอาหารในเมือง เนื่องจากในปี2562 ประเทศไทยมีประชากรในเมืองมากกว่าในชนบทเป็นครั้งแรกสะท้อนถึงการขยายตัวของเมือง(Urbanization)และชุมชนเมืองมีการผลิตอาหารได้เองไม่ถึง10% เป็นเหตุผลสำคัญที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในยุคปัจจุบันต้องเร่งขับเคลื่อนพัฒนาการเกษตรในเมือง(Urban Agriculture )โดยเฉพาะในสถานการณ์โควิด19และยุคต่อไป(Next normal) เป็นการพัฒนาเกษตรในเมืองควบคู่กับเกษตรในชนบทจึงได้จัดตั้งและเดินหน้าโครงการการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนในเมืองมอบหมายตนเป็นประธานบูรณาการทำงานเชิงรุกร่วมกับภาคีเครือข่ายต่างๆ มีวัตถุประสงค์ 6 ประการ ได้แก่ 1. การพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนในเมือง 2. การเพิ่มพื้นที่สีเขียว 3. การลด PM 2.5 และลดก๊าซเรือนกระจก (Green House Gas) 4. การเพิ่มคุณภาพอากาศ 5. การอัปเกรดคุณภาพชีวิตของประชาชน 6. การสร้างเศรษฐกิจสีเขียว ซึ่งสอดรับกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) ของสหประชาชาติ ในการรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ(Climate Change) ของโลก

รวมทั้งการส่งเสริมสนับสนุนเกษตรอินทรีย์ภายใต้วิสัยทัศน์ “ประเทศไทยเป็นผู้นำเกษตรอินทรีย์ในภูมิภาคอาเซียน ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ภายในปี 2565” โดยการพัฒนาเกษตรอินทรีย์ ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (ปีงบประมาณ 2560 – 2564) มีโครงการเพื่อขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์ รวมทั้งสิ้น 342 โครงการ เพื่อมุ่งสู่การเพิ่มพื้นที่เกษตรอินทรีย์ไม่น้อยกว่า 1.3 ล้านไร่ และมีเกษตรกรที่ทำเกษตรอินทรีย์ไม่น้อยกว่า 80,000 ราย รวมถึงมูลค่าสินค้าเกษตรอินทรีย์เพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 3 ต่อปี 

ซึ่งปรากฏว่าในปี 2564 มีพื้นที่เกษตรอินทรีย์ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน (ภาครัฐและภาคเอกชน) อยู่ที่ 1.51 ล้านไร่ มีเกษตรกรที่ทำเกษตรอินทรีย์จำนวน 95,752 ราย เกินกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้และกระทรวงเกษตรฯ.กำลังขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการด้านเกษตรอินทรีย์ พ.ศ. 2566 - 2570 ประกอบด้วย ประเด็นการพัฒนา ได้แก่ 1) ส่งเสริมการวิจัย พัฒนาเทคโนโลยี นวัตกรรม และฐานข้อมูลเกษตรอินทรีย์ 2) พัฒนาศักยภาพการผลิต และการบริหารจัดการตลอดโซ่อุปทานเกษตรอินทรีย์ 3) ยกระดับมาตรฐานและระบบการตรวจสอบรับรองเกษตรอินทรีย์ และ 4) พัฒนาการตลาด และสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับเกษตรอินทรีย์

รัสเซีย-ยูเครน ตั้งโต๊ะ เจรจาสันติภาพ รอบ 2 เห็นพ้อง เปิดเส้นทางให้ประชาชนอพยพ

รัสเซียและยูเครนได้ข้อตกลงเพิ่มเติมหลังร่วมเจรจารอบ 2 เห็นพ้องต้องจัดตั้ง “ฉนวนมนุษยธรรม” และอาจมีการหยุดยิงเพื่อเปิดทางให้ประชาชนอพยพได้

วันนี้ 4 มี.ค. 65 รัสเซียและยูเครน แถลงหลังการเจรจาสันติภาพรอบสองในวันพฤหัสบดีว่า ทั้งสองฝ่ายตกลงเห็นพ้องต้องกันถึงความจำเป็นในการจัดตั้ง “ฉนวนมนุษยธรรม” ขึ้น และมีความเป็นไปได้ว่าจะหยุดยิงเพื่อเปิดทางให้พลเรือนหลบหนี ซึ่งถือเป็นสัญญาณความคืบหน้าครั้งแรกในการแก้ปัญหาตั้งแต่รัสเซียยกกำลังบุกยูเครน

อย่างไรก็ตาม แม้ วลาดิเมียร์ เมดินสกี หัวหน้าคณะผู้แทนเจรจาของรัสเซียจะระบุว่า การเจรจามี “ความคืบหน้าสำคัญ” แต่กองกำลังรัสเซียก็ยังคงเดินหน้าปิดล้อมและโจมตีเมืองต่างๆ ในยูเครนเป็นสัปดาห์ที่ 2 สมาชิกคณะผู้แทนเจรจารายหนึ่งของยูเครนระบุว่า การเจรจายังไม่บรรลุผลตามที่ยูเครนต้องการ เช่น การหยุดยิงโดยทันทีและการพักรบ แต่ทั้งสองฝั่งรับทราบตรงกันถึงการอพยพประชาชน

มีไคโล โพโดลีแอค ที่ปรึกษาประธานาธิบดียูเครน กล่าวหลังการเจรจาครั้งนี้ว่า พวกเขาเห็นว่าอาจมีการหยุดยิงชั่วคราวเพื่อเปิดทางให้ประชาชนอพยพได้ รวมถึงเพื่อเปิดเส้นทางขนส่งเพื่อมนุษยธรรมด้วย

พร้อมระบุว่า การหยุดยิงชั่วคราวนี้ไม่ได้เกิดขึ้นทุกที่ และอาจเกิดขึ้นเพียงในพื้นที่ที่จะมีการเปิดเส้นทางดังกล่าวเท่านั้น และจะหยุดแค่ช่วงเวลาที่เปิดให้มีการอพยพประชาชน

วิกฤตด้านมนุษยธรรมเลวร้ายลง โดยสหประชาชาติ หรือยูเอ็น บอกว่า มีประชาชน 1 ล้านคนทิ้งบ้านเรือนหลบหนีในขณะนี้ ส่วนใหญ่เข้าไปขอลี้ภัยในโปแลนด์และประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆ ทางตะวันตกของประเทศ ส่วนคนที่ยังอยู่ในหลายเมืองของยูเครน ต้องเผชิญกับการโจมตีทั้งจากปืนใหญ่และจรวด ซึ่งมักเป็นพื้นที่เขตที่พักอาศัย เช่นเมืองคาร์คีฟ เมืองใหญ่อันดับ 2 ของยูเครนที่มีประชาชน 1.5 ล้านคน ก็ถูกโจมตีอย่างหนักเหลือแต่ซาก

สำนักข่าว Belta ของทางการเบลารุส ยังรายงานคำกล่าวของ โพโดลีแอค ที่ระบุว่า ทั้งสองฝ่ายรับทราบตรงกันถึงการจัดส่งยาและอาหารไปยังบริเวณที่มีการสู้รบรุนแรง โดยทั้งสองฝ่ายจะเจรจาอีกครั้งในสัปดาห์หน้า

ด้านกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียระบุว่า รัสเซียยังคงเน้นย้ำว่า ข้อตกลงสันติภาพกับยูเครนใดๆ ก็ตาม จะต้องกำหนดให้ยูเครน “ปลอดทหาร” โดยรัสเซียยังส่งสัญญาณว่า ต้องการให้ยูเครนรับ “สถานะเป็นกลาง” และตกลงที่จะยุติความพยายามเข้าร่วมองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต

หนุ่มวัย 20 ทะเลาะกับเพื่อน เถียงเรื่องข่าวแตงโม ก่อนเครียดจัด ดิ่งตึกชั้น 4 ย่านห้วยขวางดับสลด

วันนี้ 4 มี.ค. 65 เวลา 00.30 น. ที่ผ่านมา ร.ต.ท.สุชาติ ราษฎร์ดุษดี รอง สว.(สอบสวน) สน.สุทธิสาร รับแจ้งมีผู้ตกจากที่สูงเสียชีวิต ภายในอาคารพักอาศัยแห่งหนึ่ง ถนนลาดพร้าว ซอย 48 แยก 3 แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กทม. จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมฝ่ายสืบสวน สน.สุทธิสาร เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) แพทย์นิติเวช รพ.รามาธิบดี และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุลักษณะเป็นอะพาร์ตเมนต์ สูง 7 ชั้น บริเวณที่จอดรถจักรยานยนต์ข้างอาคาร 1 พบศพ นายชัย (นามสมมุติ) อายุ 20 ปี ชาว จ.ศรีสะเกษ สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีเทา นุ่งกางเกงขาสั้นสีน้ำตาล สภาพคางแตก ขาซ้ายหักผิดรูป เจ้าหน้าที่ได้ปิดกั้นบริเวณที่เกิดเหตุ เพื่อป้องกันผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าพื้นที่ พร้อมนำรถติดไฟส่องแสงสว่างมาอำนวยความสะดวก ก่อนเร่งรัดสำรวจสภาพศพเบื้องต้น และให้หน่วยอาสากู้ภัยนำร่างไปชันสูตรอย่างละเอียดที่สถาบันนิติเวช รพ.รามาธิบดี ในทันที

จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. วันที่ 3 มี.ค. 65 ที่ผ่านมา ผู้ตายได้เดินทางมาหา นายบิ๊ก (นามสมมุติ) เพื่อนชายคนสนิท ซึ่งเป็นเจ้าของห้องพักบนชั้นที่ 4 ประกอบอาชีพเป็นพนักงานควบคุมระบบขนส่งสินค้าของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง แต่ปัจจุบันทำงานแบบเวิร์กฟรอมโฮม โดยเจ้าของห้องและผู้ตายรู้จักกันผ่านโซเชียลมีเดียได้ประมาณ 2-3 เดือน และนัดหมายพบเจอกันที่ห้องนานๆ ครั้ง

'รองปลัดฯแรงงาน' สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงแรงงานในโอกาสเข้ารับตำแหน่ง

วันที่ 4 มีนาคม 2565 เวลา 07.49 น. นางบุปผา พันธุ์เพ็ง รองปลัดกระทรวงแรงงาน สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงแรงงาน ประกอบด้วย พระพุทธสุทธิธรรมบพิตร พระพุทธชินราช ศาลพ่อปู่ชัยมงคล ศาลท้าวมหาพรหมเทวฤทธิ์ และศาลพ่อปู่สุชินพรหมมา เนื่องในโอกาสเข้ารับตำแหน่งรองปลัดกระทรวงแรงงาน โดยมีผู้บริหารระดับสูง ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่กระทรวงแรงงานร่วมให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น

ด่วน!! ไฟไหม้ โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ยูเครน ถ้าระเบิดจะแรงกว่า เชียร์โนบีล 10 เท่า

เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา ตลาดหุ้นทั่วโลก ถูกเทขายอย่างหนัก หลังมีรายงานว่าโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ถูกกองทัพรัสเซียโจมตี และเกิดเพลิงไหม้ และตอนนี้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงยังไม่สามารถเข้าไปได้

โดยโรงไฟฟ้าดังกล่าว ชื่อว่า 'ซาปอริซเซีย' (Zaporizhzhia) เป็นโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปและเป็นกำลังการผลิตไฟฟ้าหลักราว 25% ของไฟฟ้าทั้งหมดที่ใช้ในยูเครน

นายดมิโทร ออร์ลอฟ นายกเทศมนตรีเมืองอีเนอร์โกดาร์ของยูเครนเปิดเผยว่า เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซีย (Zaporizhzhia) ในยูเครน หลังจากกองกำลังทหารของรัสเซียได้เข้าโจมตีในพื้นที่ดังกล่าว

นายออร์ลอฟกล่าวว่า เกิดการยิงปะทะกันระหว่างกองกำลังทหารของยูเครนและทหารของรัสเซียในเมืองอีเนอร์โกดาร์ และส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต

“ผลจากการที่ศัตรูได้ยิงถล่มอาคารและที่ตั้งของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซียซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรป ทำให้โรงงานแห่งนี้ไฟไหม้ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวถือเป็นภัยคุกคามความปลอดภัยของโลก” นายออร์ลอฟกล่าว

หน่วยงานยูเครนรายงานก่อนหน้านี้ว่า กองกำลังทหารรัสเซียพยายามรุกคืบเพื่อที่จะยึดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งนี้ และได้นำรถถังเข้ามาในเมืองอีเนอร์โกดาร์ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ดังกล่าว

ทอ.จัดอากาศยานร่วมปฏิบัติการฝนหลวงสู้ภัยแล้ง 

ที่กองบัญชาการกองทัพอากาศ (บก.ทอ.) พล.อ.อ.นภาเดช  ธูปะเตมีย์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ  (ผบ.ทอ.) สั่งการให้หน่วยเกี่ยวข้องจัดอากาศยานของกองทัพอากาศ เข้าร่วมการปฏิบัติการฝนหลวงสู้ภัยแล้ง ประจำปี 2565 โดยร่วมกับกรมฝนหลวงและการบินเกษตร  กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยเกี่ยวข้อง เพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่พี่น้องเกษตรกรที่ขาดแคลนน้ำทำการเกษตรในช่วงฤดูแล้งและลดผลกระทบที่เกิดจากพพายุลูกเห็บ 

โดยการปฏิบัติการฝนหลวงสู้ภัยแล้งในปี 2565 นี้ กองทัพอากาศได้จัดเครื่องบินพร้อมเจ้าหน้าที่และอุปกรณ์สนับสนุนกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ในโครงการพระราชดำริ “ฝนหลวง” จํานวน 3-5 เครื่อง ประกอบด้วย
    
เครื่องบินลำเลียงแบบที่ 2 ก (BT-67) จำนวน 2-3 เครื่อง ในการปฏิบัติการฝนหลวงด้านการป้องกันและแก้ปัญหาภัยแล้ง รวมทั้งการเติมน้ำต้นทุนให้เขื่อนกักเก็บน้ำ
     
เครื่องบินโจมตีแบบที่ 7 (Alpha Jet) จำนวน 1-2 เครื่อง ในการปฏิบัติการฝนหลวงด้านการยับยั้งการเกิดพายุลูกเห็บ 

รวมถึงให้ทุกสนามบินมีความพร้อมในการสนับสนุนและเป็นฐานปฏิบัติการฝนหลวง ซึ่งในขั้นต้นกรมฝนหลวงและการบินเกษตรขอรับการสนับสนุนจำนวน 7 กองบิน ประกอบด้วย 
     
กองบิน 1 จังหวัดนครราชสีมา เป็นที่ตั้งของหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จังหวัดนครราชสีมา
     
กองบิน2 จังหวัดลพบุรี เป็นที่ตั้งของศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคกลาง
     
กองบิน 7 จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นที่ตั้งของศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคใต้
     
กองบิน 21 จังหวัดอุบลราชธานี เป็นที่ตั้งของศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคตะวันออกเฉียงเหนือ(ตอนล่าง)
     
 กองบิน 23 จังหวัดอุดรธานี เป็นที่ตั้งของศูนย์ปฏิบัติการภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
     
กองบิน 41 จังหวัดเชียงใหม่ เป็นที่ตั้งของศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ
     
และ กองบิน 46จังหวัดพิษณุโลก เป็นที่ตั้งของศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ(ตอนล่าง)
 

วธ.-มธ.ส่งเสริมคนรุ่นใหม่ศึกษา เรียนรู้งานประณีตศิลป์โขน ยก“เครื่องโขน”ทั้งงานโบราณอายุไม่ต่ำกว่า 100 ปี และงานร่วมสมัยมาจัดแสดงกว่า 100 ผลงาน

วธ.-มธ.ส่งเสริมคนรุ่นใหม่ศึกษา เรียนรู้งานประณีตศิลป์โขน ยก“เครื่องโขน”ทั้งงานโบราณอายุไม่ต่ำกว่า 100 ปี และงานร่วมสมัยมาจัดแสดงกว่า 100 ผลงาน ชม“ศีรษะกุมภกรรณ” อายุ 135 ปี “เศียรพระคเณศ” ผลงานของครูชิต แก้วดวงใหญ่ “ศีรษะทศกัณฐ์หน้าทองเขี้ยวแก้ว” และ “ศีรษะหนุมานหน้ามุก” ฝีมือช่างยุครัชกาล 6 ตั้งแต่วันที่ 3 – 25 มี.ค. นี้ ณ หอศิลป์ร่วมสมัยราชดำเนิน

วันที่ 3 มีนาคม 2565 นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์  ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานเปิดนิทรรศการ “วิจิตราภรณ์และงานประณีตศิลป์แห่งโขน” พร้อมด้วยนางสาวลิปิการ์ กำลังชัย รองอธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม ผู้บริหารสถาบันไทยคดีศึกษาและผู้บริหารคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เข้าร่วม ณ ชั้น 2 หอศิลป์ร่วมสมัยราชดำเนิน กรุงเทพฯ

นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์  กล่าวว่า กระทรวงวัฒนธรรมมีภารกิจด้านการเทิดทูนสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และพระบรมวงศานุวงศ์ ตามนโยบายของนายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดยได้ดำเนินงานสืบสานพระราชปณิธานของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อการอนุรักษ์และพัฒนา“โขน” มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ ทรงพระโปรดเกล้าฯให้มีการศึกษาข้อมูลและหลักฐานเกี่ยวข้อง เช่น การแสดงโขนตามแบบโบราณราชประเพณี เครื่องแต่งกายโขนละครโบราณ ตลอดจนพัฒนาและส่งเสริมให้การแสดงโขนเป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติและเนื่องในโอกาสครบรอบ 4 ปีที่องค์การศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ประกาศรับรองให้ “โขน” เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมวลมนุษยชาติอย่างเป็นทางการในปี พ.ศ. 2561
ดังนั้น วธ.โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กรมศิลปากร และสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย ร่วมกับ สถาบันไทยคดีศึกษา และคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จัดนิทรรศการ “วิจิตราภรณ์และงานประณีตศิลป์แห่งโขน” ตั้งแต่วันที่ 3 – 25 มีนาคม 2565 เข้าชมได้ทุกวันอังคาร – อาทิตย์ เวลา 10.00-19.00 น. ณ หอศิลป์ร่วมสมัยราชดำเนิน กรุงเทพฯ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวอีกว่า นิทรรศการ “วิจิตราภรณ์และงานประณีตศิลป์แห่งโขน จัดขึ้นเพื่อนำเสนอคุณค่าของ “เครื่องโขน” ทั้งงานโบราณและงานร่วมสมัยโดยช่างฝีมือเครื่องโขนโบราณแต่ละท่านมีเอกลักษณ์ในการสร้างสรรค์งานในแบบฉบับของตนเอง ขณะเดียวกันช่างฝีมือเครื่องโขนรุ่นใหม่ได้สร้างสรรค์ศีรษะโขนและออกแบบเครื่องแต่งกายขึ้นใหม่ แต่ยังคงอิงลวดลายที่เป็นประเพณีไทยดั้งเดิมอยู่ เพื่อให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาเรียนรู้ศิลปะอันงดงามประณีตโดยเฉพาะลวดลายและวิธีการสร้างสรรค์งานของคนรุ่นเก่า สร้างแรงบันดาลใจแก่ผู้ที่มีใจรักการแสดงโขนและงานศิลปวัฒนธรรมไทย ภายในงานจัดแสดงเครื่องโขนโบราณในส่วนของศีรษะโขนที่เก่าแก่ที่สุด ได้แก่ “ศีรษะกุมภกรรณ”หน้าทองแดงซึ่งยืมมาจากพิพิธภัณฑ์วัดพระแก้ว จ.เชียงราย อายุ 135 ปี “เศียรพระคเณศ” ผลงานของครูชิต แก้วดวงใหญ่ และศีรษะโขนในตำนาน คือ“ศีรษะทศกัณฐ์หน้าทองเขี้ยวแก้ว” ที่เก็บรักษาไว้ที่สำนักการสังคีต กรมศิลปากร และ“ศีรษะหนุมานหน้ามุก” สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นสมัยรัชกาลที่ 6 ซึ่งเป็นของกรมมหรสพมาแต่เดิม รวมทั้งเครื่องประดับโขนโบราณสมัยรัชกาลที่ 6 ชุดห้อยหน้ารูปหัวกะโหลกพระคเณศและเครื่องแต่งกายโขนโบราณชุดของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาทิตย์ทิพอาภา และเครื่องโขนโบราณงานฝีมือชั้นครูอายุไม่ต่ำกว่า 100 ปี

Good Morning THE STATES TIMES | ประจำวันที่ 4 มีนาคม 2565

เช้านี้มีอะไรอัปเดต!!
#GoodMorningTHESTATESTIMES
ประจำวันที่ 4 มีนาคม 2565

พบกับประเด็นข่าวน่าลิงก์ Good Morning THE STATES TIMES
ข่าวยามเช้าที่จะมาสแตนบาย ทุกวันอังคาร-เสาร์ ตั้งแต่เวลา 5.00 น. เป็นต้นไป
โดย ปริม-กุญชนิตา กุญชร ณ อยุธยา

.

.

สปสช. เผยรายละเอียดแนวทาง รักษาโควิดไม่มีอาการ แบบผู้ป่วยนอก จ่ายยารักษาตามอาการ ก่อนให้กลับไปกักตัวที่บ้าน

สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ให้ข้อมูลกรณี เจอ-แจก-จบ ระบุ เป็นนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อรักษาผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ไม่มีอาการแบบผู้ป่วยนอก (OPD) ด้วยระบบ Tele-health ดังนี้ 

หลังจากผู้ที่สงสัยป่วยโควิด-19 ตรวจ ATK แล้วหากพบผลเป็นบวก (เจอ) ไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลตามสิทธิ แพทย์จะพิจารณาจ่ายยารักษาตามอาการ 3 สูตร (แจก) ได้แก่ 

1.) ยาฟ้าทะลายโจร 
2.) ยารักษาตามอาการ เช่น ยาลดไข้ แก้ไอ ลดน้ำมูก 
3.) ยาฟาวิพิราเวียร์ (การจ่ายยาขึ้นอยู่กับข้อบ่งชี้ของแพทย์) 

แพทย์จะแนะนำการดูแลรักษาต่อไป จ่ายยาแล้วให้ กลับมากักตัวที่บ้าน (จบ) แต่หน่วยบริการยังให้ผู้ป่วยดูแลป้องกันตนเองเหมือนเดิม และติดตามอาการ 1 ครั้งใน 48 ชั่วโมง

การดูแลผู้ป่วยโควิด-19 แบบผู้ป่วยนอก (OPD) เริ่มวันที่ 1 มี.ค. 65 โดยจะใช้การรักษาแบบผู้ป่วย (OPD) มาเสริม สำหรับผู้ป่วยที่ไม่มีอาการและไม่มีภาวะเสี่ยง สามารถรักษาแบบ OPD และแยกกักตัวเองที่บ้านได้ โดยระบบการดูแลผู้ป่วยโควิด-19 การรักษาจะมีการติดตามประเมินอาการ 48 ชั่วโมง หากอาการดีขึ้นทุกอย่าง ก็จะให้ผู้ป่วยแยกกักตัวที่บ้านต่อจนครบกำหนดระยะเวลากักตัว

'วอย' ขึ้น!! ฝากถึง 'กระติก' หลังฟังสัมภาษณ์ “คนแบบคุณไม่มีคุณสมบัติจะทำอาชีพนี้”

หลังจากที่ได้ฟังการให้สัมภาษณ์ของ กระติก-อิศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ เพื่อนสนิทและเป็นผู้จัดการส่วนตัวของ แตงโม-นิดา พัชรวีระพงษ์ ในหลายๆ ประเด็น เกี่ยวกับกรณีที่ แตงโม นิดา พลัดตกเรือสปีดโบ๊ทจมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยอดีตนักร้อง วอย-เกรียงไกร อังคุณชัย ได้ออกมาฟาดกลับแบบจุกๆ ว่า...

ผมขอใช้ช่องทางนี้สื่อสารถึงคุณกระติกนะครับ รู้สึกคุณเป็นเฟรนด์กับผมในเฟซบุ๊กด้วย (เคยเห็นคุณแว้บๆ ในหน้าฟีดผม) แต่ผมไม่รู้จักคุณ ไม่รู้ชื่อเฟซคุณ เลยไม่สามารถแท็กคุณได้ แต่หวังลึกๆ ว่าคุณจะผ่านมาเห็น เผื่อจะเรียกสติ และทำให้คุณคิดได้บ้าง..

กต.คุณให้สัมภาษณ์บอกแม่น้องว่า...

“ที่ไม่ได้ดูแลโมในวันเกิดเหตุ เพราะวันนั้นไปในฐานะเพื่อน ไม่ใช่ฐานะผู้จัดการส่วนตัว” 

ผมขอพูดบ้างนะครับ คำตอบคุณน่าสะอิดสะเอียนมาก ตั้งแต่ผมมีผู้จัดการส่วนตัวมาตั้งแต่วัยเด็ก รวมถึงผู้จัดการส่วนตัวดารา-ศิลปินท่านคนอื่นๆ ที่ผมรู้จัก “ทุกคน” เค้าจะมีสัญชาตญาณที่พร้อมปกป้องคนของเค้าเสมอ ไม่ว่าจะไปในสถานที่ใดก็ตาม (ทำงานหรือเที่ยว) “เค้าจะห่วงเราคนแรกเสมอ”

เค้าพร้อมจะดูแล ปกป้องเราตลอดเวลาตามสัญชาตญาณของเค้า 

แต่…ดูสิ่งที่คุณตอบแม่น้องโมสิ...ตรรกะคุณโคตรแย่ เห็นแก่ตัว และไม่มีความสำนึกจากแก่นแท้เลย

เลขาธิการสภากาชาดไทย เปิดโครงการรถคลินิกจักษุศัลยกรรมเคลื่อนที่ สภากาชาดไทยฯ จังหวัดชัยนาท

(2 มี..65) นายเตช บุนนาค เลขาธิการสภากาชาดไทย เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการรถคลินิกจักษุศัลยกรรมเคลื่อนที่สภากาชาดไทย ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยมีนายรังสรรค์ ตันเจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท พร้อมด้วยนาวาเอกหญิงอินทิรา ตันเจริญ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดชัยนาท และพลโท นายแพทย์อำนาจ บาลี ผู้อำนวยการสำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ สภากาชาดไทย ร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิด โครงการรถคลินิกจักษุศัลยกรรมเคลื่อนที่สภากาชาดไทยฯ ในครั้งนี้จัดขึ้น เพื่อทำการตรวจรักษาและผ่าตัดตาให้แก่ประชาชนผู้ด้อยโอกาสโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ – 3 มีนาคม 2565 ณ เทศบาลตำบลเนินขาม อำเภอเนินขาม จังหวัดชัยนาท

นายเตช บุนนาค กล่าวว่า หน่วยแพทย์จักษุศัลยกรรมสภากาชาดไทย ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้ดำเนินการมาเป็นเวลากว่า 27 ปีแล้ว โดยเริ่มปฏิบัติงานเมื่อวันที่ 1 เมษายน พ..2538 เพื่อเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจริญพระชนมายุครบ 40 พรรษา ปัจจุบันปฏิบัติงานทุกสัปดาห์ที่ 3 ของเดือน เป็นประจำที่สถานีกาชาดที่ 6 อรัญประเทศเฉลิมพระเกียรติฯ จังหวัดสระแก้ว โครงการนี้ได้รับการปรับปรุงและพัฒนางานมาเป็นลำดับ โดยปฏิบัติงานเชิงรุกด้วยการออกให้บริการสัญจร โดยออกปฏิบัติงานที่โรงพยาบาลอำเภอในพื้นที่ห่างไกลและไม่มีจักษุแพทย์ เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2545 เป็นต้นมา จนถึงปัจจุบัน และต่อมาในปี 2551 ได้เริ่มโครงการรถคลินิกจักษุศัลยกรรมเคลื่อนที่ฯ ปฏิบัติงานในรูปแบบการนำรถผ่าตัดเคลื่อนที่ ลงไปปฏิบัติงานเชิงลึกระดับตำบล ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ปีละ 6 ครั้ง และอีกทั้ง เมื่อปี 2554 ยังได้จัดทำโครงการที่ตรวจรักษาและผ่าตัดตา ให้แก่พระภิกษุ แม่ชี และนักบวชทุกศาสนาอีกด้วย ตั้งแต่ปี 2538 เป็นต้นมา หน่วยแพทย์จักษุฯ ให้การรักษาโดยไม่คิด ค่าใช้จ่ายไปแล้วกว่า 265,000 ราย ทำการผ่าตัดไปแล้วกว่า 67,000 ราย

สำหรับการดำเนินงานโครงการรถคลินิกจักษุศัลยกรรมเคลื่อนที่ สภากาชาดไทยฯ ครั้งนี้ เป็นการปฏิบัติงานครั้งที่ 71 ซึ่งสำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ สภากาชาดไทย ร่วมกับจังหวัดชัยนาท สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดชัยนาท โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชัยนาท ส่วนราชการทุกภาคส่วนและเทศบาลตำบลเนินขาม ตลอดจนภาคเอกชน มีเป้าหมายในการดำเนินงานให้บริการตรวจรักษาโรคตา ผ่าตัดโรคต้อกระจก และทำผ่าตัดโรคตาอื่นๆ เช่น ต้อเนื้อ ต้อหิน โรคของเปลือกตาในผู้ป่วยทุกรายที่จำเป็นต้องรักษา จำนวน 250 ราย เพื่อให้ผู้ป่วยโรคตาในท้องถิ่นทุรกันดารและมีฐานะยากจนได้รับบริการที่ดีเท่าเทียมกับผู้ป่วยในเมืองโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายและไม่เสียเวลาในการเดินทางมารับการรักษาในเมือง และผู้สูงอายุที่ยากไร้ในชนบทได้รับการตรวจรักษาอย่างถูกต้อง สามารถมองเห็นและช่วยเหลือตัวเองได้ ทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

‘อับราโมวิช’ ปักป้ายขาย ‘เชลซี’ เล็งนำรายได้ช่วยเหยื่อสงครามยูเครน

โรมัน อบราโมวิช มหาเศรษฐีชาวรัสเซีย ออกมาแถลงอย่างเป็นทางการในการขาย "สิงห์บลูส์" เชลซี ยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คาดว่าตั้งราคาอยู่ที่ 3,000 ล้านปอนด์ โดยสั่งการให้ เดอะ เรน กรุ๊ป ธนาคารจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาของเขา เป็นผู้ดูแลเรื่องการซื้อขายดังกล่าว

ตามการรายงานจาก "สกายสปอร์ต" สื่อชั้นนำของอังกฤษ ระบุว่า "เสี่ยหมี" มีความต้องการที่จะขาย เชลซี ให้แก่กลุ่มทุนจากสหรัฐอเมริกาเท่านั้น และไม่มีความสนใจที่จะขายทีมให้กับกลุ่มทุนจากฝั่งเอเชีย หรือยุโรปตะวันออก

ล่าสุดเจ้าตัวออกมาแถลงผ่านสื่ออย่างเป็นทางการว่าต้องการที่ขายสโมสรเชลซีจริง โดยระบุว่า "ผมได้ตัดสินใจขายสโมสร ซึ่งผมเชื่อว่าสิ่งนี้จะเป็นประโยชน์สูงสุดต่อทุกคนที่นั่น" 

"การขายสโมสรจะเป็นไปตามกระบวนการที่กำหนด สิ่งนี้ไม่เคยเกี่ยวกับธุรกิจหรือเงิน แต่เกี่ยวกับความหลงใหลในเกม และหลงใหลในสโมสรอย่างแท้จริง"

"ผมได้สั่งการให้ทีมงานตั้งมูลนิธิการกุศลเพื่อบริจาครายได้สุทธิทั้งหมดจากการขายสโมสร เพื่อช่วยเหลือเหยื่อของสงครามในยูเครน"

"นี่เป็นการตัดสินใจที่ยากมากๆ และผมก็ลำบากใจที่ต้องทำแบบนี้ แต่นี่จะเป็นผลประโยชน์สูงสุดของสโมสร"

"ผมหวังว่าจะได้ไปเยือนสแตมฟอร์ด บริดจ์เป็นครั้งสุดท้ายเพื่อบอกลาพวกคุณด้วยตัวของผมเอง ถือเป็นสิ่งที่พิเศษตลอดชีวิตที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของ เชลซี ผมภูมิใจในความสำเร็จทั้งหมดของสโมสรเชลซี และกองเชียร์ที่นี่จะอยู่ในใจผมเสมอ" เสี่ยหมี กล่าวทิ้งท้าย

‘นักวิชาการ’ เปิดข้อมูล 'ใครยืนข้างใคร' ในสงครามยูเครน ชี้ ประเทศไม่คว่ำบาตรรัสเซียเป็นคนกลุ่มใหญ่ของโลก

3 มี.ค. 65 ดร.ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์ นักวิชาการทางบูรพคดีศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง "ใครยืนอยู่ข้างใคร ณ เวลานี้?" โดยระบุว่า... 

ประเทศที่คว่ำบาตรรัสเซียมี ๒ กลุ่ม กลุ่มแรกคือชาตินักล่าอาณานิคม ซึ่งมักเรียกตนเองว่าเป็นผู้นำโลก (World Leaders) หลักๆ ก็คือพวกอียู ผมได้อธิบายแล้วว่าพวกนี้ เป็นพวกชนกลุ่มน้อย เมื่อรวมประชากรแล้ว มีอยู่ประมาณ ๙๐๐ กว่าล้านคนเท่านั้น https://www.youtube.com/watch?v=Du2qqfzFwIw

กลุ่มที่ ๒ คือประเทศบริวารของกลุ่มแรก มีทั้งประเทศที่เคยเป็นเมืองขึ้นหรือแพ้สงครามอย่างญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ เป็นต้น

ส่วนชาติที่ไม่คว่ำบาตรรัสเซีย มีมากกว่าครับ คือ
ก.กลุ่มประเทศ BRICS ได้แก่ อินเดีย, จีน, แอฟริกาใต้ แค่นี้ก็คิดเป็น ๔๑% ของประชากรโลกทั้งหมดแล้ว
ข.กลุ่มประเทศ OSC ได้แก่คาซักสถาน,เบลารุส, ทาจิกิสถาน, อาร์เมเนีย และคีร์กีซสถาน
ค.กลุ่มประเทศลาตินอเมริกา ได้แก่คิวบา, เวเนซุเอลา, นิคารากัว, แม็กซิโก, อาร์เจนตินา, กัวเตมาลา, โคลัมเบีย, ชิลี, เปรู
ง.กลุ่มประเทศเอเชีย ยกเว้นสิงคโปร์
จ.กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง ได้แก่ซีเรีย, อิรัก,อิหร่าน, อียิปต์, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, ซาอุดีอาระเบีย
ฉ.กลุ่มประเทศบอลข่าน คือ เซอร์เบีย, บอสเนีย, เฮอเซโกวินา
ช.ประเทศในกลุ่มอียู ได้แก่ ฮังการี
ซ.ประเทศเอเชียที่มีเอกราชอื่นๆ เช่น เกาหลีเหนือ

‘ก.เกษตร’ เปิดปฏิบัติการฝนหลวงสู่แล้ง บรรเทาภัยแล้งทั่วประเทศ

เจ้ากระทรวงเกษตรฯ เปิดปฏิบัติการฝนหลวงสู้ภัยแล้ง ประจำปี 2565 สร้างขวัญและกำลังใจต่อผู้ปฏิบัติงาน พร้อมปล่อยขบวนคาราวานเครื่องบินฝนหลวงออกปฏิบัติภารกิจป้องกันและบรรเทาความเดือดร้อนจากภัยแล้งและภัยพิบัติทั่วประเทศ

ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีเปิดปฏิบัติการฝนหลวงสู้ภัยแล้ง ประจำปี 2565 โดยมีผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าร่วม ณ สนามบินนครสวรรค์ จ.นครสวรรค์ วันนี้ (3มี..) ว่า

ในขณะนี้หลายพื้นที่ทั่วทุกภาคของประเทศเริ่มมีสถานการณ์ภัยแล้งเกิดขึ้น น้ำต้นทุนในอ่างเก็บน้ำและเขื่อนต่างๆ มีปริมาณน้ำเก็บกักลดลงตามลำดับ และในช่วงฤดูร้อนนี้ มีแนวโน้มของสถานการณ์การเกิดไฟป่า ปัญหาหมอกควัน และปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) เกินเกณฑ์มาตรฐาน ซึ่งมีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน รวมไปถึงแนวโน้มการเกิดพายุลูกเห็บในหลายพื้นที่ของประเทศไทย โดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมฝนหลวงและการบินเกษตร จึงได้จัดทำแผนปฏิบัติการฝนหลวง ประจำปี 2565 ตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จำนวน 10 หน่วยปฏิบัติการทั่วประเทศ โดยได้น้อมนำศาสตร์ตำราฝนหลวงพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 มาเป็นแนวทางในการปฏิบัติการป้องกันและช่วยบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน และพื้นที่การเกษตรที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาดังกล่าว

สำหรับแผนปฏิบัติการฝนหลวง ประจำปี 2565 กรมฝนหลวงและการบินเกษตร มีแผนปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรที่ประสบภัยแล้ง และสร้างความชุ่มชื้นให้กับป่าไม้ การเติมน้ำต้นทุนให้กับอ่างเก็บน้ำและเขื่อนต่าง ๆ ของประเทศ ป้องกันการเกิดไฟป่าและบรรเทาปัญหาหมอกควัน รวมทั้งสถานการณ์ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) เกินเกณฑ์มาตรฐาน ตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคม 2565 เป็นต้นไป โดยตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงประจำ 5 ภูมิภาค จำนวน 10 หน่วยปฏิบัติการ ได้แก่…

- ภาคเหนือตอนบน ตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงที่ จ.เชียงใหม่ และ จ.ตาก

- ภาคเหนือตอนล่าง ตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงที่ จ.แพร่ และ จ.พิษณุโลก

- ภาคกลาง ตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงที่ จ.นครสวรรค์ และ จ.กาญจนบุรี

- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตอนบน ตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงที่ จ.อุดรธานี

- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตอนล่าง ตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงที่ จ.บุรีรัมย์

- ภาคตะวันออก ตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงที่ จ.จันทบุรี

- ภาคใต้ ตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์

นอกจากนี้ ยังมีการจัดตั้งฐานเติมสารฝนหลวง จำนวน 2 แห่ง ที่ จ.ขอนแก่น และ จ.ระยอง โดยใช้เครื่องบินกรมฝนหลวงและการบินเกษตร จำนวน 24 ลำ และได้รับการสนับสนุนเครื่องบินกองทัพอากาศ ชนิด ALPHA JET จำนวน 1 ลำ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา กรมฝนหลวงและการบินเกษตรได้มีการจัดตั้งปฏิบัติการฝนหลวง จำนวน 4 หน่วยปฏิบัติการ เพื่อติดตามสถานการณ์และช่วงชิงสภาพอากาศในการปฏิบัติการฝนหลวงช่วยบรรเทาปัญหาภัยแล้งและความต้องการน้ำในบางพื้นที่ รวมถึงสนับสนุนเฮลิคอปเตอร์บินสำรวจสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันในพื้นที่ภาคเหนืออีกด้วย

เชื่อฝ่ายไหนดี?!! ‘เซเลนสกี’ อ้างทหารรัสเซียแล้วตายกว่า 9 พัน แต่มอสโกบอกแค่ 498 แถมปลิดชีพฝ่ายยูเครน 2.8 พัน

ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ระบุในวันพุธ (2 มี.ค.) คุยโวว่าประเทศของเขาได้ทลายแผนการต่างๆ ของรัสเซีย และรู้สึกภาคภูมิใจกับ "เหล่าวีรชน" ที่ช่วยกันต้านทานการรุกรานของมอสโก พร้อมอ้างว่าเวลานี้มีทหารรัสเซียสังเวยชีวิตไปแล้วกว่า 9,000 นาย สวนทางกับมอสโกที่บอกว่าพวกเขาสูญเสียกำลังพลไปในการสู้รบเพียง 498 นาย

เซเลนสกี กล่าวในวิดีโอที่โพสต์ลงบนเทเลแกรม ว่า "เราคือประเทศที่ทำลายแผนของศัตรูใน 1 สัปดาห์ แผนที่เขียนกันมานานหลายปี แผนลับๆ ล่อๆ เต็มไปด้วยความเกลียดชังประเทศของเรา ประชาชนของเรา"

ประธานาธิบดีรายนี้ระบุต่อว่า เขาชื่นชมด้วยความจริงใจ "พวกชาวบ้านวีรชนตามเมืองต่างๆ" ที่ต่อต้านขัดขืนการรุกคืบของกองกำลังรัสเซีย

เขาอ้างอีกว่ามีทหารรัสเซียราว 9,000 นายเสียชีวิตนับตั้งแต่ปฏิบัติการรุกรานเริ่มต้นขึ้นเมื่อ 1 สัปดาห์ก่อน แต่เป็นคำกล่าวอ้างที่ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้

จากนั้น เซเลนสกี ได้โพสต์ข้อความบนทวิตเตอร์ เผยว่าเขาได้พูดคุยกับ จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา และขอบคุณเขาสำหรับการเป็นแกนนำในการกำหนดมาตรการคว่ำบาตรต่อต้านรัสเซีย "เน้นย้ำถึงความจำเป็นต้องยกระดับมาตรการจำกัดต่างๆ ให้หนักหน่วงขึ้น การทิ้งระเบิดใส่ประชาชนในยูเครนต้องหยุดลงในทันที"


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top