Friday, 4 July 2025
NEWS

โลกใบที่สอง ค้นพบวิธีผลิตออกซิเจนจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ อาจเปลี่ยนดาวอังคารให้เป็นที่อยู่อาศัยได้

ทีมนักวิทยาศาสตร์ค้นพบวิธีผลิตก๊าซออกซิเจนจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ งานวิจัยนี้อาจเปลี่ยนดาวอังคารให้เป็นสถานที่ที่สิ่งมีชีวิตจากโลกสามารถอาศัยอยู่ได้ และอาจนำไปสู่การแก้ไขปัญหาภาวะโลกร้อน

ทีมนักวิทยาศาสตร์นานาชาติจากมหาวิทยาลัยลิสบอน (University of Lisbon), สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (Massachusetts Institute of Technology), มหาวิทยาลัยซอร์บอน (Sorbonne University), มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีไอนด์โฮเวน (Eindhoven University of Technology) และสถาบันดัตช์เพื่อการวิจัยพลังงานขั้นพื้นฐาน (Dutch Institute for Fundamental Energy Research) ได้ตีพิมพ์งานวิจัยชื่อ “พลาสมาสำหรับการใช้ทรัพยากรในแหล่งกำเนิดบนดาวอังคาร” ลงบนวารสารเอไอพี พับลิชชิ่ง (AIP Publishing) ซึ่งเป็นวารสารสำหรับงานวิจัยด้านฟิสิกส์

รายงานวิจัยนำเสนอวิธีผลิตก๊าซออกซิเจนจากชั้นบรรยากาศของดาวอังคารด้วยพลาสมา ซึ่งพลาสมาในทางฟิสิกส์นั้นหมายถึงเป็นสภาวะธรรมชาติลำดับที่สี่ของสสาร และประกอบด้วยอนุภาคที่มีประจุอิสระ เช่น อิเล็กตรอนและไอออน โดยนักวิจัยได้ใช้เครื่องให้กำเนิดพลาสมาในการทดลอง เพื่อไปกระทำกับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) เพื่อแยกออกซิเจนออกจากคาร์บอน จึงทำให้ได้ C และ O2 ซึ่ง O2 ก็คือก๊าซออกซิเจน

Thai Smile Bus รถโดยสารพลังงานไฟฟ้า 100% มอบสิทธิพิเศษ ลดค่าโดยสารให้ "คนพิการ" และ "บุคคลพิเศษ"

"นางสาวกุลพรภัสร์ วงศ์มาจารภิญญา" ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้งบริษัท "ไทย สมายล์ บัส จำกัด" หรือ TSB เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้เปิดตัวรถบัสโดยสารพลังงานไฟฟ้า พร้อมแพลตฟอร์มเทคโนโลยีสมัยใหม่ ภายใต้สโลแกน ”เดินทางด้วยรอยยิ้ม ใส่ใจสิ่งแวดล้อม” โดยลงทุนในระยะแรกกว่า 2 พันล้านบาท ในการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะ และจัดซื้อรถบัสโดยสารไฟฟ้าพลังงานบริสุทธิ์ 100% ที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ของบริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) มาให้บริการประชาชนในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่มีการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะมากถึง 2.72 ล้านคน

นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้ติดตั้งแพลตฟอร์มเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของประชาชน โดยเฉพาะสังคมไร้เงินสด เพราะสามารถชำระค่าโดยสารบนรถด้วยบัตรเครดิต และบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ของไทยสมายล์บัส หรือสามารถสแกนคิวอาร์โค้ดจ่ายค่าโดยสารได้ ช่วยลดการสัมผัส อีกทั้งภายในรถโดยสารทุกคันยังติดตั้งอุปกรณ์ฆ่าเชื้อโรคในอากาศ และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเคร่งครัด

พร้อมทั้งให้สิทธิพิเศษ เพื่อเป็นการช่วยเหลือสังคมไทยให้น่าอยู่ "ไทย สมายล์ บัส" ให้ความสำคัญแก่ "คนพิการ" และ "คนพิเศษ "
พร้อมอำนวยความสะดวกในการเดินทางทุกวันด้วยรอยยิ้ม😊

✅ลดหย่อนค่าโดยสาร ครึ่งราคา เพียงแสดงบัตรประจำตัวคนพิการ (ในกรณีพิการโดยประจักษ์ พนักงานจะไม่เรียกแสดงบัตร)

✅ที่นั่งพิเศษสำหรับคนพิการ และคนพิเศษ

✅แผ่นพับทางลาด ขึ้น - ลง รถโดยสารไฟฟ้า สำหรับวีลแชร์

✅เจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวก ขึ้น - ลง รถโดยสารไฟฟ้า เพื่อให้เดินทางต่อไปได้อย่างสะดวก

'ไฟไหม้' ภัยใกล้ตัวที่ป้องกันได้

“โจรปล้น 10 ครั้งไม่เท่าไฟไหม้ครั้งเดียว” คำกล่าวที่ดูแสนคร่ำครึ และถูกนำมาพูดเปรียบเปรยเตือนสติกันมาอย่างยาวนานยังคงความจริงอยู่เสมอ ไม่ว่าเทคโนโลยีในการป้องกันอัคคีภัย ความปลอดภัยจะก้าวไปไกลขนาดไหน แต่ก็ไม่สามารถเอาชนะความละเลย ความประมาทของมนุษย์ได้ 

สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะผู้คนส่วนใหญ่มักคิดว่า “อัคคีภัย” เป็นเรื่องไกลตัว แต่แท้จริงแล้วเป็นภัยใกล้ตัวที่มักเกิดขึ้นเสมอ และบ่อยครั้งก็สร้างความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินอย่างร้ายแรง

ในรอบปี 2565 ที่ผ่านมา เกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาทิ อาคาร 6 ชั้น สีลมซอย 2, ชุมชนบ่อนไก่, ตึกแถวย่านบางบอน, ตึกแถวสี่คูหาย่านสำเพ็ง, ที่เก็บแบตเตอรี่สำหรับรถกอล์ฟ สมุทรปราการ, ผับชลบุรี, ตึก EnCo อาคาร A ล่าสุด สถาบันจัสแมกไทย ถนนสาธร บางเคสมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 10 ราย 

เหตุการณ์ไม่คาดคิดเหล่านี้อาจไม่สามารถควบคุมได้ แต่หากมีมาตรการป้องกันที่ดี และอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน ก็จะช่วยบรรเทา ทุเลาความเสียหายในการเกิดเหตุ ประชาชนทั่วไป รวมถึงผู้ประกอบการธุรกิจต่างๆ ควรมีความรู้ และตระหนักถึงความสำคัญของการเลือกใช้อุปกรณ์และระบบดับเพลิงที่ได้มาตรฐาน เพื่อช่วยป้องกันและลดการสูญเสียต่อทรัพย์สินและอันตรายต่อชีวิต 

ข้อมูลจาก บริษัท ไฟร์เทรด เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน)  หรือ FTE ผู้ออกแบบระบบดับเพลิง และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดับเพลิงครบวงจรรายใหญ่ที่สุดในประเทศ ระบุว่า การสร้างความปลอดภัย การป้องกันอัคคีภัย ถือเป็นเรื่องสำคัญสำหรับ ที่อยู่อาศัย สถานประกอบการทุกขนาด ทั้งนี้ควรเลือกใช้อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันเหตุเพลิงไหม้ แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ได้แก่ 
1. อุปกรณ์และระบบเตือนภัย อาทิ อุปกรณ์ตรวจจับควันไฟ ตรวจจับความร้อน แจ้งเหตุเพลิงไหม้
2. อุปกรณ์และระบบดับเพลิง อาทิ เครื่องดับเพลิงแบบมือถือ ระบบดับเพลิงด้วยน้ำ, โฟม, สารสะอาด, ก๊าซ เป็นต้น

ม.แม่โจ้ เปิด ห้องปฏิบัติการวิจัยอาหารแห่งอนาคต Future Food Lab (FFL)สนับสนุนผู้ประกอบการ นักศึกษา ต่อยอดเชิงพาณิชน์กลุ่มธุรกิจอาหาร

วันพฤหัสบดีที่ 18 สิงหาคม  2565 ผศ. ดร.ณัฐวุฒิ  ดุษฎี รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ เป็นประธานในพิธีเปิด “ห้องปฏิบัติการวิจัยอาหารแห่งอนาคต Future Food Lab (FFL)” เมืองนวัตกรรมอาหารส่วนขยาย มหาวิทยาลัยแม่โจ้ โดยมี อาจารย์ ดร.พนมพร เฉลิมวรรณ์  รก.ผู้อำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีเกษตรและอาหาร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ กล่าวรายงาน ณ อาคารพัฒนาวิสัยทัศน์ ชั้น 1 มหาวิทยาลัยแม่โจ้ 

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ณัฐวุฒิ ดุษฎี รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้กล่าวว่า มหาวิทยาลัยได้จัดงานพิธีเปิด “ห้องปฏิบัติการวิจัยอาหารแห่งอนาคต Future Food Lab (FFL)” เมืองนวัตกรรมอาหารส่วนขยาย มหาวิทยาลัยแม่โจ้ (Food Innopolis@MAEJO) ภายใต้ธีมงาน “You are what you eat: better food better life (กินอาหารอย่างไรให้สุขภาพดี)”ในวันนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของผู้ประกอบการธุรกิจ ในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร รวมถึงนักศึกษามหาวิทยาลัย ที่ต้องการเช่าใช้พื้นเพื่อทำการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ในระยะสั้น อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมและผลักดันให้เกิดผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อต่อยอดสู่เชิงพาณิชย์ ช่วยให้เศรษฐกิจเจริญเติบโต อย่างมีเสถียรภาพ ยั่งยืน และกระจายรายได้สู่สังคมต่อไป

อย่างไรก็ตามเมื่อทำการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ได้ผลสำเร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้วหากปราศจากการนำไปใช้ประโยชน์ ก็คงจะไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงตามที่พวกเราคาดหวังไว้ การจัดงานในวันนี้ จะเป็นเวทีแห่งนี้สร้างความเข้าใจและเชื่อมโยงกันระหว่างภาครัฐ  ภาคการศึกษา ภาคธุรกิจ และภาคประชาชน นำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน จึงเป็นนิมิตรหมายที่ดี เพื่อแสดงว่ามหาวิทยาลัยแม่โจ้มีทรัพยากรที่พร้อมและสามารถผลักดันให้ผู้ประกอบการ และนักศึกษาได้เข้าถึงข้อมูลและมีโอกาสนำความรู้ ในมหาวิทยาลัยไปพัฒนาต่อยอดอย่างต่อเนื่อง  

อาจารย์ ดร.พนมพร  เฉลิมวรรณ์ รักษาการรองผู้อำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีเกษตรและอาหาร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ กล่าวว่า

“ห้องปฏิบัติการวิจัยอาหารแห่งอนาคต Future Food Lab (FFL)” เมืองนวัตกรรมอาหารส่วนขยาย มหาวิทยาลัยแม่โจ้ “You are what you eat: better food better (กินอย่างไรให้สุขภาพดี) อยู่ภายใต้โครงการเมืองนวัตกรรมอาหารส่วนขยาย  Food Innopolis@MAEJO  แผนงาน Future Food Lab  ที่อุทยานวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีเกษตรและอาหาร  มหาวิทยาลัยแม่โจ้  ได้ดำเนินการเพื่อส่งเสริมสนับสนุนผู้ประกอบธุรกิจในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร และนักศึกษาที่ต้องการใช้พื้นที่เพื่อทำการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อต่อยอดสู่เชิงพาณิชย์ ตลอดจนศึกษารวบรวมส่วนผสมที่ใช้เป็นวัตถุดิบอาหารอินทรีย์ที่เชื่อมโยงวัฒนธรรมอาหารท้องถิ่น รวมทั้งเพิ่มช่องทางการตลาดในการจำหน่ายสินค้า สร้างโอกาสการเติบโตได้อย่างมีศักยภาพ ช่วยให้เศรษฐกิจเจริญเติบโต อย่างมีเสถียรภาพ ยั่งยืน และกระจายรายได้สู่สังคมต่อไป

ทัพเรือภาคที่ 1 ร่วม กฟผ.จัดกิจกรรมฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมทางทะเล เกาะขาม

เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2565 ทัพเรือภาคที่ 1 ร่วมกับโครงการปรับปรุงและขยายระบบส่งไฟฟ้าที่เสื่อมสภาพตามอายุการใช้งานสถานีไฟฟ้า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) รวมถึงหน่วยงานภาครัฐ บริษัทเอกชน และโรงเรียนต่าง ๆ ในพื้นที่ อ.สัตหีบ จว.ชลบุรี จัดกิจกรรมฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมทางทะเล ณ อุทยานใต้ทะเลเกาะขาม ทัพเรือภาคที่ 1 อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อคืนความอุดมสมบูรณ์ และความสมดุลของระบบนิเวศน์ให้เหมาะสมต่อการดำรงชีวิตของสัตว์ทะเลบริเวณอุทยานใต้ทะเลเกาะขาม รวมทั้งสร้างจิตสำนึกและทัศนคติที่ดีในการช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อมให้กับผู้ร่วมกิจกรรมฯ และเยาวชนในพื้นที่ ที่เข้าร่วมกิจกรรม จำนวน 100 คน และมีกิจกรรมที่สำคัญ ได้แก่

ทัพเรือภาคที่ 1 โดย พลเรือตรี ขวัญชัย  อินกว่าง รองผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 เป็นผู้แทนรับมอบเงิน จำนวน 100,000 บาท จากนายพิธาน บุญเที่ยง ผู้ช่วยผู้อำนวยการโครงการปรับปรุงและขยายระบบส่งไฟฟ้าที่เสื่อมสภาพตามอายุการใช้งานสถานีไฟฟ้า ผู้แทนการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย สนับสนุนให้แก่อุทยานใต้ทะเลเกาะขาม บรรยายให้ความรู้แก่ผู้ร่วมกิจกรรมฯ เกี่ยวกับการอนุรักษ์และประโยชน์ของปะการัง และหญ้าทะเล รวมถึงให้คำแนะนำการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ โดยไม่ทำลายระบบนิเวศน์ใต้ทะเล ร่วมปล่อยพันธุ์เต่าทะเล จำนวน 12 ตัว

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ เป็นประธานเปิดอบรม โครงการ Smart Safety Zone 4.0 อบรมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้มีความเชี่ยวชาญการใช้เทคโนโลยี

หลังจากเมื่อวันที่ ๖ ส.ค.๖๕ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีการจัดงานประกาศความสำเร็จและพิธีมอบรางวัลสถานีชนะเลิศ ตามโครงการ Smart Safety Zone 4.0 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๕ ณ ลานหน้า สน.ลุมพินี โดยมี พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้ให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธีและมอบรางวัลดังกล่าว เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ถึงผลการดำเนินการของโครงการ Smart Safety Zone 4.0 รวมทั้งการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้กับงานป้องกันปราบปรามอาชญากรรมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนในการดูแลความเรียบร้อยของสังคม ตามที่ทราบแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (๑๘ ส.ค.๖๕) พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการฝึกอบรมเพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยีระบบ Smart Safety Zone 4.0 ตามโครงการวิจัยเรื่อง สมาร์ท เซฟตี้ โซน เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน (Smart Safety Zone for the Safety of People's Lives and Properties) รุ่นที่ 1 ซึ่งจะจัดอบรมระหว่างวันที่ ๑๘ - ๑๙ ส.ค.๖๕ ณ สถานีตำรวจนครบาลลุมพินี โดยการจัดการฝึกอบรมครั้งนี้ ได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดสถานีตำรวจนำร่องระยะที่ ๑

ในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้แก่ สน.ห้วยขวาง, สน.ลุมพินี และ สน.ภาษีเจริญ รวมทั้งสิ้น ๑๐๕ นาย มาทำการฝึกอบรมทำความเข้าใจเกี่ยวกับภาพรวมของการนำเอาเทคโนโลยีและงานวิจัยต่างๆ มาประยุกต์ใช้ในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม รวมทั้งฝึกฝนความเชี่ยวชาญในการใช้เทคโนโลยีต่างๆ ที่นำเข้ามาติดตั้งภายในพื้นที่รับผิดชอบของสถานีตำรวจ เพื่อพัฒนาระบบการทำงานตามแนวคิด Cyber Village

โดยระบบที่เกี่ยวข้อง อาทิเช่น ระบบบริหารจัดการกล้องโทรทัศน์วงจรปิด, ระบบการตรวจจับวัตถุต้องสงสัย, ระบบตรวจจับใบหน้าและทะเบียนรถ, ระบบการแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือ (S.O.S.), ระบบกระจายเสียงแบบเฉพาะจุดและพื้นที่ (Public Announcement) และ แพลตฟอร์มบริหารจัดการ Application แบบ One stop service เป็นต้น
 

‘นิพนธ์’ รุดติดตามสถานการณ์น้ำเขื่อนเจ้าพระยา กำชับจัดการแก้ปัญหาทั้งน้ำท่วมฤดูฝน - มีน้ำใช้ฤดูแล้ง

‘นิพนธ์’ รุดติดตามสถานการณ์น้ำเขื่อนเจ้าพระยา กำชับ การบริหารจัดการน้ำเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วม-มีน้ำใช้ฤดูแล้ง พร้อม มอบถุงยังชีพ ให้ประชาชนในพื้นที่อำเภอบางบาล จ.อยุธยา

เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2565 ที่ห้องประชุมสำนักงานชลประทานที่ 12  อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ตรวจราชการในพื้นที่จังหวัดชัยนาท เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำและการบริหารจัดการน้ำ จังหวัดชัยนาท ปี 2565 โดยมี นายรังสรรค์ ตันเจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการบรรเทาสาธารณภัย ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 12 รักษาราชการแทนหัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดชัยนาท หัวหน้าส่วนราชการ และนายอำเภอ ร่วมให้การต้อนรับ

โดยนายนิพนธ์  ได้มอบนโยบายสำคัญหลังการรับทราบสถานการณ์และการบริหารจัดการน้ำจังหวัดชัยนาท ปี 2565  ดังนี้ 1. ขอให้มีการบริหารจัดการน้ำให้เหลือน้ำไว้ใช้ในหน้าแล้ง  2. การบริหารจัดการกรณีน้ำท่วมให้คำนึงถึงความปลอดภัยของชีวิตประชาชนเป็นสำคัญ 3. ให้มีการฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุ เตรียมความพร้อมกำลังพล เครื่องจักร และดูแลผู้ประสบภัยอย่างทั่วถึง 4. กรณีเกิดสาธารณภัยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเร่งสำรวจและรายงานให้จังหวัดทราบ เพื่อดำเนินการของบกลางจากรัฐบาล 5. การเยียวยาช่วยเหลือต้องทำอย่างรวดเร็ว อย่าให้ล่าช้า โดยให้ดำเนินการตามระเบียบกฎหมายให้ถูกต้อง ซึ่งมีงบประมาณรองรับอยู่แล้ว และ 6. ประชาสัมพันธ์ทุกช่องทางการสื่อสารเพื่อสร้างการรับรู้แก่ประชาชนอย่างต่อเนื่อง

จากนั้น รมช.มหาดไทย ได้ตรวจสถานการณ์น้ำในเขื่อนเจ้าพระยา โดยให้บริหารจัดการน้ำและควบคุมปริมาณการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา ให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม สอดคล้องกับปริมาณน้ำฝนที่ตกทางตอนบนอย่างเต็มศักยภาพ และหากมีแนวโน้มปริมาณน้ำจะเพิ่มขึ้นอีก จะมีการแจ้งเตือนประชาสัมพันธ์จากหน่วยงานราชการเพื่อให้ประชาชนเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด

รอง ผบ.ตร. สั่งตรวจสอบเหตุรถขนแรงงานพม่า 32 คน พลิกคว่ำ พบอาจเกี่ยวโยงกับกระบวนการขนแรงงานข้ามชาติ

วันนี้ (18 ส.ค. 65) เวลา 10.30 น. ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. รับผิดชอบงานด้านความมั่นคง เปิดเผยกรณีเหตุรถบรรทุกกระบะขนแรงงานเมียนมาร์ 32 คน พลิกคว่ำที่จังหวัดนครศรีธรรมราช มีผู้เสียชีวิต 4 ราย บาดเจ็บอีก 4 ราย เหตุเกิดบริเวรถนนเอเชีย 41 ต.นาหมอบุญ อ.จุฬาภรณ์ จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 17 ส.ค.65 ช่วงสาย ที่ผ่านมา 

ความคืบหน้าล่าสุดได้สั่งการให้ ผบช.ภ.8, ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช และ ผบช.สตม. ลงไปตรวจสอบ เบื้องต้นพบว่ารถบรรทุกดังกล่าวได้ขนแรงงานชาวเมียนมาร์มาทั้งหมด 32 คน เป็นชาย 28 คน หญิง 4 คน มีนายนิวัฒน์ วัฒวรรร์ อายุ 29 ปี นั่งมาหน้ารถ กับคนไทยอีก 2 คน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างหลบหนี

สอบถามจาก นายนิวัฒน์ ฯ​ ยังให้การปฏิเสธ อ้างว่าตนแค่นั่งมาเป็นเพื่อนกับคนไทยอีก 2 คน ไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับกับการขนแรงงานต่างด้าว และรถกระบะคันเกิดเหตุได้เช่ามาจากพรรคพวก ที่ จ.ราชบุรี แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากสอบถามแรงงานงานต่างด้าวที่นั่งมาท้ายรถ ยืนยันว่า นายนิวัฒน์ ฯ ทำหน้าที่ในการติดต่อประสานงานกับคนต่างด้าวทั้งหมดที่อยู่หลังรถ 

สำหรับชาวเมียนมาร์ ทั้งหมดให้การตรงกันว่า พวกตนติดต่อผ่านนายหน้าชาวเมียนมาร์ ให้ช่วยพาข้ามแดนทางช่องทางธรรมชาติในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยตกลงกันว่าจะมีรถมารับช่วงต่อเพื่อส่งไปทำงานยังประเทศมาเลเซีย โดยต้องจ่ายให้กับนายหน้าคนละ 15,000 บาท และเมื่อไปถึงปลายทางต้องจ่ายอีก 15,000 บาท รวมเป็น 30,000 บาท แต่มาเกิดอุบัติเหตุเสียก่อน

จากการตรวจสอบคนต่างด้าวทั้ง 32 คน อยู่ในช่วงอายุประมาณ 20-32 ปี ไม่มีหนังสือเดินทาง (passport) แต่ยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต เนื่องจากจะต้องทำการสอบสวนก่อนว่าเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์หรือไม่ โดยวันนี้ได้มีการเชิญสหวิชาชีพ อัยการจังหวัดทุ่งสง นายอำเภอจุฬาภรณ์ พม.จังหวัดนครศรีธรรมราช และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด  มาร่วมในการคัดแยกผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ที่ สภ.จุฬาภรณ์ เพื่อจะได้สืบสวนขยายผลในทางลึกถึงผู้ร่วมกระบวนการต่อไป

ตร. เตือน มุกใหม่ SMS มิจฉาชีพ อ้างฉลองครบรอบ Central ให้แอดไลน์แจกเงิน

วันที่ 18 ส.ค. 2565 พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ตามที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้มีนโยบายให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แจ้งเตือนและประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนรู้เท่าทันถึงอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบสวนจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดนั้น

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่าหลังจากที่ได้ทำการประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนได้ทราบถึงมุกเด็ดของ SMS มิจฉาชีพทั้ง 5 แบบ ที่มิจฉาชีพมักจะใช้ในการหลอกลวงเหยื่อให้กดลิงก์หลอกเอาข้อมูลส่วนบุคคล หลอกเอาทรัพย์สินจากเหยื่อ หลอกให้กู้เงินนอกระบบ หรือหลอกให้เล่นพนันออนไลน์ นั้น

ปัจจุบัน พบว่ากลุ่มมิจฉาชีพดังกล่าวได้เปลี่ยนแผนประทุษกรรมในการหลอกลวงผ่าน SMS จากรูปแบบเดิม เปลี่ยนมาเป็นการส่งข้อความอ้างว่า เพื่อฉลองครบรอบ Central ทางบริษัทจะแจกเงินรางวัลให้กับทุกท่าน โดยให้แอดไลน์ผ่านลิงก์ที่แนบมากับข้อความ ซึ่ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้สอบถามไปยัง บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด หรือ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล แล้ว ได้รับการยืนยันว่าบริษัทฯไม่ได้มีการจัดกิจกรรมแจกเงินรางวัลในลักษณะดังกล่าวแต่อย่างใด โดยกรณีดังกล่าวหากเหยื่อหลงเชื่อแอดไลน์คนร้าย ก็อาจจะถูกคนร้ายหลอกลวงเอาข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลบัญชีธนาคาร ตลอดจนรหัสผ่านต่าง ๆ  นำไปใช้ทำให้เกิดความเสียหายต่อเจ้าของข้อมูลได้

สถาบันพระปกเกล้า ระดมสมอง จัดระเบียบการค้าออนไลน์ มุ่งปกป้อง สร้างภูมิคุ้มกัน เยียวยาผู้บริโภค

วันที่ 17 สิงหาคม ที่ห้องประชุมสัตมรามาธิราช สถาบันพระปกเกล้า นายถนัด มานะพันธุ์นิยม เลขานุการ คณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนฯ และรองประธานคณะอนุกรรมาธิการด้านการคุ้มครองผู้บริโภค คนที่หนึ่ง กล่าวเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการ การจัดระเบียบการค้าออนไลน์ :ความท้าทายในยุค Digital โดยกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา ร่วมกับ สถาบันพระปกเกล้า

ภายในกิจกรรม ผู้เข้าร่วมประชุมได้รับฟังการบรรยาย เรื่อง การจัดระเบียบการค้าออนไลน์ : ความท้าทายในยุค Digital โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ปิยะบุตร บุญอร่ามเรือง อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

พร้อมทั้งผู้เข้าร่วมการประชุม ได้ระดมความคิดเห็นเชิงปฏิบัติการ แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ระดมความเห็นใน 3 ประเด็นสำคัญ

1. การเสริมสร้างกลไก มาตรการ และแรงจูงใจให้ผู้ประกอบการค้าจดทะเบียนพาณิชย์

2. แนวทางการบูรณาการความร่วมมือเพื่อปกป้องคุ้มครอง และเยียวยาช่วยเหลือผู้บริโภคจากการซื้อสินค้าออนไลน์

และ3. การสร้างการรับรู้ ความเชื่อมั่นและเสริมภูมิคุ้มกันให้ประชาชนเกี่ยวกับการค้าออนไลน์

'อัษฎางค์ ' ฉะ 'ชัชชาติ' แก้น้ำท่วมแบบนี้ก็ได้เหรอ ไหนว่าศึกษามาถึง 2 ปีก่อนเลือกตั้ง

(18 ส.ค. 2565) นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก "เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค" ว่า “ความสามารถพิเศษในแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ที่ถูกนำมาใช้แก้ปัญหาน้ำท่วมที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี ของท่านผู้ว่าฯชัชชาติ

ท่านผู้ว่าฯ : น้ำท่วมทุกปีมั้ย
ชาวบ้าน : ปี 54 กับปีนี้ครับ

ปี 54 คือปีที่ยิ่งลักษณ์เป็นนายกฯ และท่านผู้ว่าฯชัชชาติเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลยิ่งลักษณ์
ปีนี้ 65 ท่านชัชชาติเป็นผู้ว่าฯ กทม.

สถิตินี้ไม่ได้บ่งบอกว่า รัฐบาลยิ่งลักษณ์และตัวท่านผู้ว่าฯ ชัชชาติดวงซวย ที่มาบริหารราชการในปีที่มีน้ำเยอะ แต่สถิตินี้บ่งบอกว่า ท่านมีความพร้อมและมีความสามารถในการจัดการกับปัญหาเรื่องน้ำมากน้อยแค่ไหน

ชาวบ้านอีกคนถาม: ทำไมคราวนี้ ฝนตกแค่ 2 ชั่วโมง น้ำก็ท่วมแล้ว
ท่านผู้ว่าฯ : เป็นเพราะภาวะโลกร้อน

ภาวะโลกร้อนคืออะไร ? ภาวะโลกร้อน (Global warming) หมายถึงการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิเฉลี่ยของอากาศใกล้พื้นผิวโลกและน้ำในมหาสมุทรตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของคริสต์ศตวรรษที่ 20 และมีการคาดการณ์ว่าอุณหภูมิเฉลี่ยจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ภาวะโลกร้อน ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้น แต่เริ่มมีการเฝ้าสังเกตมานับ 100 ปีแล้ว และเริ่มต้นศึกษาอย่างจริงจังโดยการสังเกตการณ์การเพิ่มอุณหภูมิโดยเฉลี่ยของโลกที่เกิดขึ้นตั้งแต่กลางคริสต์ศตวรรษที่ 20 (ประมาณตั้งแต่ พ.ศ. 2490) ซึ่งผลจากการศึกษาพบว่าเกิดจากการ “เพิ่มความเข้มของแก๊สเรือนกระจก” ที่เกิดขึ้นโดยกิจกรรมของมนุษย์ที่เป็นผลในรูปของปรากฏการณ์เรือนกระจก

ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมธรรมชาติและต่อการดำเนินชีวิตของมนุษย์ มีหลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือ การเปลี่ยนแปลงของหยาดน้ำฟ้าทั้งปริมาณและรูปแบบอาจทำให้เกิดน้ำท่วมและความแห้งแล้ง นอกจากนี้ยังเกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งความถี่และความรุนแรงของลมฟ้าอากาศสุดโต่ง

แผนตะวันตกโดดเดี่ยว 'รัสเซีย' ใน UN เริ่มกร่อย หลายชาติถอดใจไม่อยากเป็นศัตรูกับรัสเซีย

นับวันความพยายามของตะวันตกในการโดดเดี่ยวรัสเซียในยูเอ็นก็อยู่ในอาการกร่อยลงเรื่อย ๆ หลายประเทศกำลังตั้งคำถามว่า การร่วมมือต่อต้านรัสเซียเป็นการกระทำที่ฉลาดจริงหรือ รวมทั้งยังสงสัยว่า ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในขณะนี้มีสาระสำคัญอย่างแท้จริงถึงขั้นที่ต้องให้การสนับสนุนแบบไม่มีที่สิ้นสุด โดยที่ตะวันตกจัดหาอาวุธให้เคียฟ ขณะที่ไม่มีการเจรจาอย่างสันติที่แท้จริงเพื่อยุติความขัดแย้งกระนั้นหรือ

รอยเตอร์รายงานว่า คืนหนึ่งในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ภายใต้โคมระย้าของรัสเซียในที่ประชุมสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ในนิวยอร์ก เอกอัครราชทูตนับสิบคนจากแอฟริกา ตะวันออกกลาง ละตินอเมริกา และเอเชีย ร่วมงานสังสรรค์เนื่องในโอกาสวันชาติของรัสเซีย ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากกองทัพแดนหมีขาวบุกยูเครนไม่ถึง 4 เดือน

วาสสิลี เนเบนเซีย เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำยูเอ็น กล่าวขอบคุณทูตเหล่านั้นสำหรับการสนับสนุนและจุดยืนในการคัดค้านสงครามที่มุ่งต่อต้านรัสเซีย หลังจากกล่าวหาหลายประเทศโดยไม่เอ่ยชื่อว่าพยายาม 'ล้มล้าง' รัสเซียและวัฒนธรรมรัสเซีย

การไปร่วมงานเลี้ยงคราวนี้ของเอกอัครราชทูตเหล่านี้ สะท้อนให้เห็นความยากลำบากที่พวกนักการทูตตะวันตกต้องเผชิญ ในการพยายามธำรงรักษามาตรการแข็งกร้าวของนานาชาติมุ่งโดดเดี่ยวรัสเซียเอาไว้ หลังจากที่ระยะแรก ๆ สามารถผลักดันยูเอ็นออกมาประณามการรุกรานยูเครนได้หลายครั้ง

ขณะที่รับรู้ถึงความสับสนและความกังวลของบางชาติที่ว่า สงครามยูเครนเรียกร้องต้องการความสนใจของทั่วโลกมากเกินไป เป็นระยะเวลาเกือบ 6 เดือนแล้ว โดยยังไม่มีแนวโน้มว่ายูเอ็นจะทำอะไรได้นั้น พวกนักการทูตตะวันตกก็ยอมรับว่า นอกเหนือจากการพยายยามเรียกประชุมนานาชาติแล้ว วิธีการอื่น ๆ ซึ่งสามารถพุ่งเป้าจัดการกับรัสเซียก็ดูจำกัดเหลือเกิน

ริชาร์ด โกแวน ผู้อำนวยการฝ่ายยูเอ็นของกลุ่มคลังสมอง อินเตอร์เนชันแนล ไครซิส กรุ๊ป เป็นผู้หนึ่งซึ่งยอมรับว่า การหาวิธีที่มีความหมายในการลงโทษรัสเซีย กำลังทำได้ยากขึ้นทุกที ขณะที่สงครามยังคงยืดเยื้อต่อไป

พวกนักการทูตและผู้สังเกตการณ์หลายคนสำทับว่า ในบางกรณีชาติตะวันตกต้องหลีกเลี่ยงการดำเนินการเฉพาะเจาะจงบางอย่าง เนื่องจากกลัวว่า จะได้รับการตอบรับอย่างเฉยชา ขณะที่มีประเทศมากขึ้นงดออกเสียงในการลงมติซึ่งส่งสัญญาณถึงความไม่ยินดีต่อต้านมอสโกอย่างเปิดเผย

เมื่อเดือนมิถุนายน สหภาพยุโรป (อียู) ต้องพิจารณาทบทวนแผนการที่จะให้แต่งตั้งผู้เชี่ยวชาญยูเอ็นทำหน้าที่ตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนในรัสเซีย และสุดท้ายก็ตัดสินใจระงับเพราะกลัวว่า สมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนเกือบครึ่งจากทั้งหมด 47 ชาติอาจคัดค้าน

โอลาฟ วินต์เซค ผู้อำนวยการมูลนิธิคอนราด อาเดนาวร์ของเยอรมนีประจำเจนีวา ชี้ว่า หลายประเทศกำลังตั้งคำถามว่า การร่วมมือกันต่อต้านรัสเซียเป็นการกระทำที่ฉลาดจริงหรือ

ด้านนักการทูตรัสเซียประจำยูเอ็นในเจนีวา สำทับว่า ประเทศตะวันตกรู้ดีว่า เป็นไปไม่ได้ที่จะโดดเดี่ยวรัสเซียซึ่งเป็นหนึ่งในมหาอำนาจโลก

'แก๊งเด็กมะกัน' รุมทำร้ายหญิงชราชาวเอเชีย สุดช็อก!! 1 ในแก๊งมีอายุเพียง 11 ปี

เด็ก 3 คน อายุ 11, 13 และ 14 ปี กับชายอายุ 18 ปีรายหนึ่ง ก่อเหตุรุมทำร้ายและปล้นหญิงชราชาวเอเชียวัย 70 ปี ภายในอพาร์ตเมนต์ที่เธอพักอาศัย ในซานฟรานซิสโก สหรัฐฯ เมื่อเดือนที่แล้ว และเวลานี้ 2 คนอยู่ภายใต้การควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่ จากการเปิดเผยของตำรวจในช่วงต้นสัปดาห์ ในเหตุการณ์ที่ตำรวจถึงขั้นเอ่ยปากว่าน่าเศร้าและเป็นเรื่องช็อกอย่างยิ่ง

บิล สกอตต์ ผู้บัญชาการตำรวจซานฟรานซิสโก เปิดเผยว่าผู้หญิงรายดังกล่าวกำลังอยู่นอกอาคารที่พักอาศัยของเธอในย่านไชนาทาวน์เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ระหว่างนั้นพวกผู้ต้องสงสัยเดินเข้ามาหาและพูดคุยกับเธอ

ด้วยที่ไม่เข้าใจในสิ่งที่พวกผู้ต้องสงสัยพูด เนื่องจากอุปสรรคทางภาษา เธอจึงหลบเข้าไปในบริเวณล็อบบี้ของตัวอาคาร แต่พวกผู้ต้องสงสัยยังเดินตามเธอไป จากนั้นพวกผู้ต้องสงสัยลงมือทุบตีทำร้ายและปล้นสะดมเธอ ก่อนหลบหนีไป อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ทั้งหมดทั้งมวลนี้ถูกกล้องวงจรปิดจับภาพเอาไว้ได้

"เหยื่อถูกพาตัวส่งโรงพยาบาลท้องถิ่นแห่งหนึ่ง และขอบคุณพระเจ้า อาการบาดเจ็บของเธอไม่อันตรายถึงขั้นเสี่ยงต่อการเสียชีวิต" สกอตต์กล่าว แต่เขาไม่ได้เปิดเผยชื่อผู้หญิงรายนี้

นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ เลขาฯ ศอ.บต. เผย เหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่จชต.ส่งผลกระทบด้านเศรษฐกิจ ยัน! รัฐบาลเดินหน้าพัฒนาทุกมิติ พร้อม! เร่งช่วยเหลือภาคเอกชน และปชช. ที่ได้รับผลกระทบ

พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เข้าเยี่ยมนางประทุม นักทอง อายุ 55 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากเหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิด ที่บริเวณสวนยางพาราของประชาชนในพื้นที่บ้านโคกโก ตำบลโต๊ะเด็ก อำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส ขณะที่กำลังเข้าไปกรีดยางในสวนของตนเองจนทำให้ขาทั้ง 2 ข้างขาดและแพทย์ได้ทำการตกแต่งบาดแผลเรียบร้อยแล้วขณะนี้รู้สึกตัวดีแต่จะต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด พร้อมกันนี้ยังได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ชุด EOD ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าวระหว่างเข้าตรวจสอบพื้นที่จนทำให้มีเจ้าหน้าที่ทหารพรานเสียชีวิต 1 ราย และได้บาดเจ็บอีก 10 ราย เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา

ในการนี้พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. เปิดเผยว่าวันนี้เป็นการลงพื้นที่เยี่ยม และให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่อำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งไม่อยากกล่าวคำว่าเสียใจ แต่จำเป็นต้องกล่าวให้กับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนทุกคน ซึ่งขณะนี้นายกรัฐมนตรี และรองนายกรัฐมนตรีเอง ได้สั่งการและเน้นย้ำให้ดูแลอย่างดีไม่เพียงแค่เยี่ยมให้กำลังใจมอบเงินช่วยเหลือเยียวยาเท่านั้น แต่ต้องดูแลผู้ได้รับบาดเจ็บรวมถึงครอบครัวของผู้เสียหายให้ดีที่สุด ขณะที่ในส่วนของเจ้าหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บนั้นเชื่อว่า..ไม่ได้เกิดจากความประมาทเลินเล่อแต่คาดว่าเกิดจากการดัดแปลงและวิธีการทำลายล้าง ดังนั้นจึงขอให้ทุกส่วนร่วมกันผนึกกำลังช่วยกันแก้ไขปัญหาความรุนแรงที่เกิดนี้ เชื่อว่าหากทุกคนช่วยกันเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดจะสามารถคลี่คลายลงตามลำดับ และในนามรัฐบาลขอโดยให้คำมั่นสัญญาว่า จะไม่ทิ้งและจะช่วยดูแลกันต่อไป

'สันติ' ถามรัฐบาลออก พ.ร.ก.ค้ำเงินกู้กองทุนน้ำมัน เพิ่มหนี้สาธารณะ จำเป็นจริงหรือ? คาใจ 3 ปม แก้พลังงานแพงไร้คำตอบ ซัด ไร้ความสามารถบริหารประเทศ ปชช.ต้องทนรับสภาพอีกนานเท่าไหร่?

วันที่ 18 ส.ค. 65 ดร.สันติ กีระนันทน์ รองหัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย โพสต์เฟซบุ๊กแสดงความคิดเห็นที่คาใจต่อกรณีที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันอังคารที่ 16 ส.ค. ที่ผ่านมา มีการพิจารณาวาระลับที่มุ่งแก้ปัญหาฐานะกองทุนน้ำมัน ที่มีหนี้สินมากกว่าสินทรัพย์รวมไปถึง 117,394 ล้านบาท (รายงานเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2565) โดยมีมติอนุมัติการออก พ.ร.ก. เพื่อค้ำประกันการกู้ยืมของกองทุนน้ำมัน วงเงิน 1.5 แสนล้านบาท และยังอนุมัติงบกลาง 5 หมื่นล้านบาท เพื่อบริหารสภาพคล่องกองทุนน้ำมัน ในระหว่างรอการออก พ.ร.ก. ฉบับดังกล่าว

โดยระบุว่า เป็นที่เข้าใจได้ว่า ฐานะกองทุนน้ำมันมีปัญหาอย่างหนักในขณะนี้ จำเป็นต้องได้รับการแก้ไข แต่การออก พรก. ซึ่งจะสร้างภาระให้หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นอันเนื่องมาจากการค้ำประกันการกู้เงินดังกล่าวนั้น เป็นการกระทำที่เหมาะสมหรือไม่ และหากประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ต้องนำพระราชกำหนดฉบับดังกล่าว เข้าพิจารณาเพื่อให้สภาผู้แทนราษฎรให้ความเห็นชอบ หากสภาผู้แทนราษฎรไม่ให้ความเห็นชอบ รัฐบาลต้องแสดงความรับผิดชอบในการออกพระราชกำหนด อย่างไรหรือไม่

การแก้ไขปัญหาราคาพลังงานที่ผ่านมานั้น มีคำถามที่ยังค้างคาในสังคมอีกมาก ที่รัฐบาลไม่เคยอธิบายให้เกิดความชัดเจนได้ เช่น

1. โครงสร้างราคาน้ำมันบิดเบี้ยว เพราะค่าการกลั่นที่ประหลาดมหัศจรรย์ อย่างน้อยที่สุด ถ้ายอมรับว่าต้องอ้างอิงราคาหน้าโรงกลั่นที่สิงคโปร์ เพราะเป็นตลาดซื้อขายที่มีสภาพคล่องสูง (ซึ่งผมก็ยังไม่เห็นด้วยอย่างหมดใจ) แต่การบวก FIL (freight, insurance and loss) ซึ่งไม่เกิดขึ้นจริง เพราะไม่มีการขนส่งจากต่างประเทศ ทำไมไม่ลบออก ซึ่งสามารถทำได้ในระยะสั้น

2. กำไรโรงกลั่นที่เกิดขึ้นอย่างมากมายมหาศาลในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ (ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย) ชี้ให้เห็นได้ชัดเจนว่า การกำหนดราคาน้ำมันสำเร็จรูปที่เป็นผลผลิตจากโรงกลั่น เป็นการสร้างภาระให้แก่ประชาชนผู้บริโภคอย่างมากเกินกว่าสมควร ซึ่งประเด็นดังกล่าวนี้ รัฐบาลก็ไม่ได้ให้ความสนใจในการแก้ปัญหา แต่กลับไปอ้อนวอนขอร้องให้โรงกลั่นเสียสละกำไรบางส่วน (ซึ่งเล็กน้อยมาก) เพื่อมาช่วยชดเชยการขาดดุลของกองทุนน้ำมัน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top