Saturday, 5 July 2025
NEWS

‘ป้าเขียด นภาพร’ นักแสดงอาวุโสเสียชีวิตแล้ว ในวัย 76 ปี หลังมีโรครุมเร้า มานานนับปี

(7 มี.ค. 66) วงการละครไทยพบกับข่าวเศร้าอีกแล้ว เมื่อเพจ สื่อปราจีนบุรี ได้โพสต์แจ้งข่างการเสียชีวิตของดาราอาวุโส ‘ป้าเขียด นภาพร หงสกุล’ หรือที่แฟนละครเรียกกันติดปากจากบทละครว่า อีตุ่ม ได้เสียชีวิตอย่างสงบที่บ้านพัก ด้วยวัย 76 ปี หลังจากที่รักษาอาการป่วยมานานหลายปี ด้วยหลายโรครุมเร้า

ขณะนี้ทางครอบครัวเตรียมนำศพไปชันสูตรที่ รพ.ก่อนจะนำร่างป้าเขียดมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดสุทธิธรรม(คลองรั้ง)

ป้าเขียด มีใจรักในการแสดงมาตั้งแต่จำความได้ป้าเขียดเริ่มเล่นละครเร่มาตั้งแต่อายุ 2 – 3 ขวบ จากการที่พ่อแม่เป็นนักแสดงละครโบราณ

ป้าเขียด นภาพร เดินทางเข้า กทม. ก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงเต็มตัว โดยใช้วิชาที่สั่งสมมาจากวงดนตรี ละครเร่ มาเป็นนักร้อง เล่นหนังบ้างเป็นครั้งคราว

ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2023 ขับเคลื่อนแรงบันดาลใจ และสร้างปรากฏการณ์แห่งความทรงจำ

'ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2023' จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 16 ณ สยามคันทรีคลับ โอลด์คอร์ส จังหวัดชลบุรี ระหว่างวันที่ 23-26 กุมภาพันธ์ 2566 ได้กลายเป็น 'ปรากฏการณ์' การต่อสู้ของนักกอล์ฟทั้ง 72 คน รวมถึงนักกอล์ฟไทย 11 คน ที่เชียร์สนุกและบีบหัวใจสำหรับแฟนกอล์ฟในสนามและในจอพีพีทีวี รวมทั้งความสำเร็จของฝ่ายจัดการแข่งขันและพันธมิตรหลัก ได้แก่ 

ฮอนด้า ไอเอ็มจี กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รวมทั้งการกีฬาแห่งประเทศไทย ร่วมมือกันเพื่อจัดการแข่งขันทัวร์นาเมนต์อันทรงเกียรติที่ช่วยพัฒนากีฬากอล์ฟหญิงในประเทศไทย ซึ่งรวมถึงประโยชน์ต่อภูมิภาค โดยรวม อีกทั้งเป็นที่น่าปลาบปลื้มใจที่การแข่งขันปีนี้มีแฟนกอล์ฟ ทั้งรุ่นจิ๋วที่ผู้ปกครองพามาหาแรงบันดาลใจ รวมทั้งแฟนกอล์ฟรุ่นใหญ่ที่หลั่งไหลเข้าไปชมในสนามมากที่สุดอันดับสอง รองจากการแข่งขันในปี 2013  และรับการกล่าวถึงว่าเป็นหนึ่งในทัวร์นาเมนต์กีฬาที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของประเทศไทย แม้ปิดฉากการแข่งขันเป็นที่เรียบร้อยแต่มีสถิติและข้อมูลที่น่าสนใจในแง่มุมต่างๆ ซึ่งควรค่าแก่การจดจำ

ยอดผู้ชมในสนามมากที่สุดลำดับสอง ตั้งแต่จัดการแข่งขัน ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ เรียกได้ว่าเป็นปรากฏการณ์ 'ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2023 ฟีเวอร์' เมื่อแฟนกอล์ฟทุกเพศ ทุกวัย ทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาชมและเชียร์นักกอล์ฟชั้นนำของโลกตั้งแต่เช้าตลอดการแข่งขันทั้ง 4 วัน บรรยากาศในสยามคันทรีคลับ โอลด์คอร์ส เป็นไปอย่างคึกคัก ทั้งเสียงเชียร์ เสียงปรบมือรอบสนามยามนักกอล์ฟหวดวงสวิงการถ่ายภาพและแจกลายเซ็นอย่างใกล้ชิด ส่วนบรรยากาศตามบูทของผู้สนับสนุนก็เต็มไปด้วยการเล่นเกมลุ้นรับของที่ระลึก พร้อมอาหารและเครื่องดื่มซึ่งเป็นภาพความสนุกที่ไม่ได้เห็นมาตั้งแต่ปี 2019 ซึ่งหลังจากผ่านพ้นช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 แฟนกอล์ฟต่างอัดอั้นส่งผลให้ยอดผู้ชมตลอดการแข่งขันทั้งสิ้น 46,879 คน กลายเป็นยอดผู้ชมสูงที่สุดอันดับสองของฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์โดยยอดผู้ชมสูงสุดคือปี 2013 ที่เอรียา จุฑานุกาล ได้รองแชมป์ ซึ่งมียอดผู้ชมกว่า 47,000 คน

ลิเลีย วู ชูถ้วยแชมป์ 'ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์' ในการเข้าร่วมแข่งขันเป็นปีแรก นักกอล์ฟจากสหรัฐอเมริกาเดินทางมาร่วมแข่งขัน 'ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์' เป็นครั้งแรกพร้อมกับรู้สึกขอบคุณที่ฝ่ายจัดการแข่งขันและแฟนกอล์ฟให้การต้อนรับเธออย่างอบอุ่น คว้าแชมป์ในสยามคันทรีคลับ โอลด์คอร์ส พาร์ 72 ด้วยสกอร์รวม 22 อันเดอร์พาร์ 262  (66,70,64,64) สถิติ ทำ 1 อีเกิ้ล 25 เบอร์ดี้ ทำพาร์ได้ 41 ครั้ง และเสีย 5 โบกี้ ตลอดสี่วันของการแข่งขัน 

สกอร์รวมที่เธอทำได้นับเป็นสกอร์ต่ำสุดในการเล่น 72 หลุมของเธอในแอลพีจีเอ ทัวร์นักกอล์ฟวัย 25 ปีสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักกอล์ฟที่คว้าแชมป์ 'ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์' ได้ตั้งแต่เข้าร่วมแข่งขันเป็นปีแรก อีกทั้งเป็นแชมป์แรกในปีนี้ของเธอและแชมป์แรกในแอลพีจีเอ ทัวร์ หรือ Rolex First-Time Winner พร้อมกับทำสถิติเงินรางวัลรวมในอาชีพทะลุ 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเธอได้เงินรางวัลในฐานะแชมป์ 255,000 ดอลลาร์สหรัฐ ทำให้มีเงินรางวัลรวมทั้งสิ้น 1,177,769 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนอันดับโลกพุ่งจากอันดับ 21 มารั้งอันดับ 12 ของโลก

ซิม-ณัฐกฤตา วงศ์ทวีลาภ สร้างประวัติศาสตร์ นักกีฬารับเชิญจากการแข่งขันรอบคัดเลือกระดับประเทศ Honda LPGA Thailand 2023 National Qualifiers ที่ขึ้นนำและได้ลุ้นแชมป์เป็นคนแรกของการแข่งขัน  

'ซิม 300' เพิ่งเทิร์นโปรในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วและเพิ่งคว้าทัวร์การ์ดแอลพีจีเอมา เพิ่งมีประสบการณ์เวทีแอลพีจีเอครั้งแรก แต่ฝีมือบวกกับความมุ่งมั่นแรงกล้าที่พร้อมขับเคลื่อนแรงบันดาลใจของตัวเองเพื่อประสบความสำเร็จในอาชีพนักกอล์ฟที่ทำให้ 'ซิม' ชนะ Honda LPGA Thailand 2023 National Qualifiers เข้าร่วมแข่งขันในฐานะนักกอล์ฟรับเชิญ

รุกกี้แอลพีจีเอ ทัวร์ จอมหวดไกล วัย 20 ปี สร้างความฮือฮาตลอดทัวร์นาเมนต์ ทำสกอร์อยู่ในช่วง 60 สามวันแรก (67,65,64) ขึ้นมารั้งตำแหน่งผู้นำหลังจบรอบสาม หวังสร้างประวัติศาสตร์นักกอล์ฟไทยคนที่สองที่คว้าแชมป์ ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ต่อจาก เม-เอรียา จุฑานุกาล   เมื่อต้องเล่นท่ามกลางสภาพลมแรงที่ไม่ถนัดในวันสุดท้าย และความคาดหวังของแฟนกอล์ฟที่แห่มาชมกันแน่นขนัด 'ซิม' พยายามเล่นให้ดีที่สุด เสียงเชียร์ ไทยแลนด์ ไทยแลนด์ดังขึ้นในวินาทีที่ซิมเดินขึ้นมาถึงลูก น่าเสียดายที่สุดท้ายพลาดแชมป์ไปแบบทำแฟนกอล์ฟน้ำตาซึม เพียง 1 สโตรกเท่านั้น ซิม-ณัฐกฤตา เป็นนักกอล์ฟจาก Honda LPGA Thailand 2023 National Qualifiers คนแรกที่ขึ้นนำและจบตำแหน่งสูงสุดคือรองแชมป์ ที่สำคัญทำให้อันดับโลก Rolex Rankings พุ่งทะยานจากอันดับ 470 ขึ้นมาเป็นอันดับ 91 ของโลก และมีโอกาสลุ้นรางวัลดาวรุ่งแห่งปีของแอลพีจีเอ

การแจ้งเกิดแบบเต็มตัวของซิมยังถือเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนรุ่นใหม่เพราะซิมได้พิสูจน์แล้วว่า “ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ หากเรามุ่งมั่นและตั้งใจ”

จีโน่-อาฒยา ฐิติกุล จบใน 10 อันดับแรก ปีที่สามติดต่อกัน อาฒยา ฐิติกุล อดีตมือ 1 ของโลกขวัญใจแฟนกอล์ฟที่เคยคว้ารองแชมป์ปี 2021 ทำสกอร์อยู่ในช่วง 60 ทั้งสี่รอบ คือ 67, 69, 64, 68 จบในอันดับ 3 ของรายการ สกอร์รวม 20 อันเดอร์พาร์ 268 แม้พลาดแชมป์แต่ ”จีโน่” ยังคงทำผลงานอยู่ในมาตรฐานที่ดี จบใน 10 อันดับจากการลงเล่น 3 ปีติดต่อกัน และจบใน 5 อันดับแรกสองครั้งในการเล่นรายการนี้

“การที่มีแฟนกอล์ฟเข้ามาเชียร์ในสนามกันเยอะขนาดนี้นับเป็นสัญญาณที่ดีของวงการกอล์ฟไทย แต่เราก็ยังจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนทั้งจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ภาคธุรกิจ รวมถึงแฟนกอล์ฟชาวไทย เพื่อช่วยกันพัฒนาวงการกอล์ฟไทยให้ก้าวไกลมากกว่านี้ ฝีมือนักกอล์ฟไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก ทั้งจากผลงานนักกีฬาไทยที่ไปคว้าแชมป์รายการต่าง ๆ มาแล้วทั่วโลก รวมถึงรายการฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ ตลอดจนผลงานของนักกีฬาหน้าใหม่ ๆ ที่ทำได้อย่างยอดเยี่ยมในการแข่งขันปีนี้ จึงอยากให้ทุกภาพส่วนมาร่วมกันพัฒนาและสนับสนุนกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยกันผลักดันมาตรฐานวงการกีฬากอล์ฟและนักกีฬากอล์ฟของไทยให้เทียบชั้นกับระดับสากลได้ในทุก ๆ ด้านค่ะ” อาฒยา กล่าวยกย่องผลงานของ 'ซิม' และนักกอล์ฟไทยนักกอล์ฟไทยหลังจบการแข่งขัน

สรุปผลงาน จีโน่-อาฒยา ฐิติกุล 'ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์' 
2017    -3,285    อันดับ 37 ร่วม
2019    E,288    อันดับ 54 ร่วม
2021         -21,267      อันดับ 2
2022.        -20,268     อันดับ 8 ร่วม
2023.       -20,268       อันดับ 3

สมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย ร่อนจดหมายเปิดผนึก เรื่อง 'การจัดโรงและรอบฉายที่ไม่เป็นธรรม' ตัดโอกาสหนังไทย

(7 มี.ค. 66) สมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย ได้โพสต์ จดหมายเปิดผนึก เรื่อง 'การจัดโรงและรอบฉายภาพยนตร์ไทย ที่ไม่เป็นธรรม' ระบุว่า...

สืบเนื่องจากมีประเด็นการจัดโรงและรอบฉายภาพยนตร์ไทยหลายครั้ง ล่าสุด คือ เรื่อง 'ขุนพันธ์ 3' โดยปัญหาการจัดโรงและรอบฉายที่ไม่เป็นธรรม ตัดโอกาสของภาพยนตร์ไทย เป็นปัญหาเรื้อรังที่เกิดขึ้นเรื่อยมา เป็นที่รับรู้กันอย่างกว้างขวางในหมู่คนทำงานในวงการภาพยนตร์ไทย

เมื่อการสร้างภาพยนตร์ไม่อาจเป็นหลักประกันได้ว่าภาพยนตร์เรื่องนั้นจะมีโรงและรอบฉายที่มากเหมาะสมสำหรับการสร้างรายได้ให้กับภาพยนตร์ จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ผู้สร้างจำนวนมากไม่กล้าลงทุนในภาพยนตร์คุณภาพที่มีเนื้อหาหลากหลาย จนเป็นเหตุให้ผู้ชมจำนวนมากรู้สึกเสื่อมศรัทธากับภาพยนตร์ไทย เพราะมีเนื้อหาที่ซ้ำซาก ไร้การพัฒนา แต่ในขณะเดียวกัน ภาพยนตร์ไทยหลายเรื่องที่มีเนื้อหาแปลกใหม่ มีคุณภาพ กลับได้รับการจัดโรงและรอบที่น้อยจนหมดโอกาสในการสร้างผู้ชมและรายได้

จบดรามา ‘ATTO 3’ หลังพบเสียหายจริงแค่เปลือกนอกหุ้มแบตฯ 'เจ้าของรถ' วอน!! อย่าเชื่อค่าซ่อมผิดๆ ที่แชร์ในโซเชียล

(7 มี.ค. 66) เจ้าของรถ BYD ที่กำลังเป็นประเด็นถึงเรื่องค่าซ่อมมหาโหด ได้ออกแถลงผ่านเฟซบุ๊ก ‘Seksan Laekreing’ ปมความไม่สบายใจของผู้ใช้งาน โดยระบุว่า

สวัสดีครับ ผมเป็นเจ้าของรถ ATTO3 ที่เกิดอุบัติเหตุที่เป็นข่าว 2-3 วันที่ผ่านมา จนทำให้เรื่องราวเป็นข่าวไปในวงผู้ใช้รถ BYD จนทำให้เกิดความไม่สบายใจที่ข่าวในบางสื่อบางช่องทางทำให้ข้อมูลไม่ตรงกับความเป็นจริง ขออนุญาตใช้พื้นที่ตรงนี้เข้ามาชี้แจงและ update ให้ทุกท่านทราบหน่อยนะครับ

หลังจากที่รถได้เกิดอุบัติเหตุ ผมก็ได้โทรแจ้งบริษัทประกันฯเพื่อทำเรื่องเคลม และได้รับการประสานงานจากศูนย์บริการและบริษัทประกันภัยเข้ามาร่วมกันตรวจสภาพรถประเมิณความเสียหายต่าง ๆ ว่ามีอะไรต้องเปลี่ยนหรือมีอะไรสามารซ่อมได้ เพื่อจะได้ทำใบประเมิณราคาตามขั้นตอนประกัน ชิ้นส่วนต่าง ๆ โดยทางประกันก็ได้ให้ทางศูนย์บริการและทีมช่างเทคนิคจากเรเว่เข้าตรวจสอบด้วย และผมได้รับการติดต่อจากบริษัทประกันว่า ทางบริษัทประกันได้รับใบสรุปค่าเสียหายมาจากทางศูนย์บริการแล้ว ตามที่ทุกคนเห็นจากรูปที่ถูกเผยแพร่ โดยบริษัทประกันแจ้งว่าจะต้องเป็นการคืนทุนประกัน แต่ผมไม่สบายใจเพราะว่า มีรายการหลายรายการที่มีมูลค่าสูง ไม่อยากให้เป็นการคืนทุนประกัน เลยไปปรึกษาเพื่อนในวงการ เพื่อขอคำแนะนำ

ซึ่งต้องขอขอบคุณ PricezaMoney ที่ทำให้ผมเข้าใจในกระบวนการประกันภัยมากขึ้นว่า ราคาไม่น่าสูงขนาดนั้นเพราะบางอย่างอาจจะไม่ต้องเปลี่ยนหรือเป็นการซ่อมแซมได้ ทำให้ผมสบายใจขึ้น

‘ทนายตั้ม’ เตือนแม่ค้าขาย ‘กล่องสุ่มลุ้นรางวัล’ ระวังผิด พรบ. การพนันฯ ถึงขั้นติดคุก

(7 มี.ค. 66) นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ หรือ 'ทนายตั้ม' โพสต์เฟซบุ๊ก 'ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ' ระบุว่า “ตอนนี้มีประเด็นดรามากล่องสุ่มนะครับ เนื่องจากมีหลายท่านที่อยากรวยทางลัด สั่งซื้อกล่องสุ่มที่ผู้ขายอวดอ้างว่า แจกรางวัลเป็นเงิน เป็นทอง หรือของแบรนด์เนม มูลค่าหลายเท่าของเงินที่ซื้อ จนมีผู้หลงเชื่อมากมาย พอสุดท้ายถึงวันครบกำหนด ก็ไม่ส่งของให้ และทยอยคืนเงิน ใครโกรธ ใครทวงก็บอกให้ไปแจ้งความ”

แชร์อุทาหรณ์ อย่าปล่อย ‘เต่าบก’ ลงน้ำ อาจจมน้ำตาย จนกลายเป็นได้บาปแทน

เมื่อไม่นานมานี้ เฟซบุ๊ก ‘VolunteerInthai’ ได้แชร์เรื่องราวถึงนักบุญ ที่ชอบปล่อยสัตว์ แต่ด้วยความไม่รู้อาจทำให้ไม่ได้บุญ เพราะมีสัตว์บางชนิดที่ไม่สารถอยู่ในน้ำลึกได้ โดยระบุว่า

เผื่อช่วยอีกหลายชีวิต

อยากบอกว่า ประเภทของเต่ามีหลายชนิด 

‘ตระกูลรัตนพันธ์’ โดน ‘SC’ จี้ หลังให้ข้อมูลสื่อตีแผ่ข้อมูล พร้อมขู่!! ‘Top News’ หยุดนำเสนอข่าว-ลบข้อมูลทิ้ง

ครอบครัวรัตนพันธ์ ทำหนังสือถึงทีวีดาวเทียมช่องหนึ่ง เผื่อแผ่สื่อมวลชนทุกสำนัก กรณีแถลงข่าวแล้วเอสซี แอสเสท คู่กรณียื่นโนติสทีวีดาวเทียม หยุดนำเสนอข่าวและลบข่าวออกจากระบบ ขณะที่ก่อนหน้านี้เอสซีฯ แจงคดีอยู่ในศาล เคยแจ้งตลาดหลักทรัพย์แล้ว

(7 มี.ค. 66) จากกรณีที่ กลุ่มครอบครัวรัตนพันธ์ ได้เปิดแถลงข่าวที่ห้องกมลพร โรงแรมเดอะสุโกศล กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 2 มี.ค. ระบุว่า ถูกบริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ไม่ปฏิบัติตามบันทึกข้อตกลงการรวบรวมที่ดินเพื่อเสนอขาย เนื้อที่กว่า 34 ไร่ บริเวณถนนรัชดา-รามอินทรา แขวงรามอินทรา เขตคันนายาว กรุงเทพฯ เป็นเหตุให้ครอบครัวรัตนพันธ์ ต้องสูญเสียบ้านและที่ดินตามสัญญาประนีประนอมยอมความ มูลค่ากว่า 200 ล้านบาท และต้องบ้านแตกสาแหรกขาด เนื่องจากทรัพย์สินทั้งหมดตกไปเป็นของนายทุนเงินกู้ ครอบครัวรัตนพันธ์ต่อสู้คดีกันด้วยตนเอง มายาวนานกว่า 3 ปี ซึ่งศาลได้มีคำสั่งรับฟ้องแย้งของครอบครัวรัตนพันธ์จำนวน 1,503 ล้านบาท เมื่อวันที่ 19 ม.ค. 2566 ที่ผ่านมา

ต่อมานายสมบูรณ์ คุปติมนัส เลขานุการ บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้ทำหนังสือถึงบรรณาธิการ สำนักข่าว Top News (หรือสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมท็อปนิวส์) ลงวันที่ 3 มี.ค. ขอให้ยุติเสนอข่าว อ้างว่าข้อมูลทั้งหมดที่กลุ่มครอบครัวรัตนพันธ์แถลงเป็นความเท็จ ข้อเท็จจริงทั้งหมดอยู่ในกระบวนการพิจารณาของศาล ซึ่งบริษัทฯ ได้เป็นโจทก์ฟ้องดำเนินคดีกลุ่มบุคคลนี้ ในข้อหาหมิ่นประมาท ทั้งทางแพ่งและทางอาญา ขณะนี้ อยู่ในกระบวน การพิจารณาของศาล จึงขอแจ้งให้สำนักข่าว Top News ยุติการนำเสนอข่าว และนำออกจากสื่อออนไลน์ระบบคอมพิวเตอร์โดยทันที มิฉะนั้น บริษัทฯ จำเป็นที่จะต้องดำเนินคดีกับตามกฎหมายต่อไป

ล่าสุด ครอบครัวรัตนพันธ์ ทำหนังสือเรื่อง ครอบครัวรัตนพันธ์ขอยืนยันว่าสิ่งที่ได้แถลงข่าว และหรือการให้สัมภาษณ์เป็นความจริงทุกประการ ลงวันที่ 6 มี.ค. ที่ผ่านมา ถึงกองบรรณาธิการ สำนักข่าว Top News และพี่น้องสื่อมวลชนทุกสำนักข่าว ระบุว่า ตามที่ บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ส่งหนังสือมายังกองบรรณาธิการ สำนักข่าว Top News โดยมีเนื้อหาให้ยุติการนำเสนอข่าวและนำออกจากสื่อออนไลน์โดยทันที โดยกล่าวอ้างเพียงว่าข้อมูลทั้งหมดที่ ครอบครัวรัตนพันธ์แถลงเป็นความเท็จทั้งสิ้นนั้น

ครอบครัวเราขอยืนยันว่า ทุกข้อมูลที่ได้นำเรียนไปในการแถลงข่าว ตลอดจนการได้รับเชิญให้มาร่วมรายการ การให้ข้อมูลผ่านการสัมภาษณ์ ต่าง ๆ นั้น เป็นความจริงโดยทั้งสิ้น และประการสำคัญที่ครอบครัวต้องตัดสินใจนำเรื่องดังกล่าวมาเปิดเผยต่อสาธารณะ เพราะตลอดระยะเวลา 6 ปีที่ผ่านมา ครอบครัวเราต้องต่อสู้ เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม อย่างโดดเดี่ยวมาโดยตลอด ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้ใช้ความพยายาม ในการร้องเรียนและติดตามไปในหลายช่องทาง แต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับแต่อย่างใด จนทำให้ทางครอบครัวรู้สึกท้อใจ เพราะสิ่งที่กำลังต่อสู้อยู่นั้น คือ กลุ่มคนที่มีอำนาจ แต่ครอบครัวเราตระหนักดีว่าหากไม่สู้หรือยอมแพ้ พฤติกรรมแบบนี้ของคนกลุ่มนี้ อาจส่งผลกระทบให้กับประชาชนอื่น ๆ ตลอดจนครอบครัวอื่น ๆ ได้อีกเช่นกัน ครอบครัวรัตนพันธ์จึงตัดสินใจนำเสนอความจริงสู่สาธารณะ เนื่องจากเหตุการณ์เกี่ยวข้องกับกลุ่มบุคคลที่มีอำนาจทางการเมืองและบริษัท (มหาชน) ในตลาดหลักทรัพย์ที่ประชาชนทั่วไปเข้าลงทุนได้ การเปิดเผยข้อมูลที่เกิดขึ้นจากการให้ครอบครัวรัตนพันได้รับประโยชน์จากส่วนต่างราคาที่ดินกว่า 200 ล้านบาทหรือการนำเงิน 20 ล้านบาทออกมาจากบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ มาให้กับครอบครัวรัตนพันธ์ เพื่อปกปิดพฤติการณ์ของตนเองในขณะนั้น กระทำได้หรือไม่ ถูกต้องชอบธรรมกับผู้อื่นหรือไม่ เหตุใดคุณณัฐพงศ์ CEO ต้องให้เงิน 20 ล้านบาท และถ้าไม่ให้ในขณะนั้นได้หรือไม่ การเปิดเผยข้อมูลที่เกิดขึ้นของบริษัทมหาชนในตลาดหลักทรัพย์ย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะ และเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะทำให้ครอบครัวรัตนพันธ์ได้รับความเป็นธรรม

ครอบครัวรัตนพันธ์เห็นด้วยว่า ในการที่สาธารณะได้รับทราบข้อเท็จจริงจากครอบครัวเราเพียงฝ่ายเดียวนั้น ย่อมไม่เป็นธรรมกับบริษัทเอสชีฯ และครอบครัวชินวัตร ดังนั้นครอบครัวรัตนพันธ์จึงประสงค์ให้บริษัทเอสซีฯ และครอบครัวชินวัตรได้นำเสนอข้อเท็จจริงออกมาเพื่อให้ประชาชนได้รับฟังความจริงจากท่านเพื่อความเป็นธรรมกับตัวท่านเอง หาใช่ว่าจะใช้วิธีการข่มขู่ คุกคามให้สื่อมวลชน ยุติการนำเสนอข่าว ซึ่งการจำกัดเสรีภาพในการนำเสนอข่าวสาร เพื่อปิดกั้นการรับรู้ของประชาชนในสังคมเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นในยุคประชาธิปไตย เพราะเสรีภาพสื่อคือเสรีภาพประชาชน การก้าวก่ายสื่อมวลชน ก็เท่ากับประชาชนขาดอิสรภาพในการรับรู้ข่าวสารไปด้วยไม่ต่างกัน นอกจากความจริงที่ได้เปิดเผยต่อสาธารณะไปแล้วนั้น ครอบครัวรัตนพันธ์ยังมีข้อมูลความจริงอีกมาก ทั้งที่เป็นลายลักษณ์อักษรและคลิปเสียงหลักฐานในเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ทั้งที่เกี่ยวข้องกับบริษัทเอสซีฯ และบุคคลในครอบครัวชินวัตรโดยตรง เช่น กรณีของคุณพานทองแท้ ชินวัตร (โอ๊ค) ก่อนการตัดสินคดีความเมื่อปี 2562 ข้อมูลที่เราแถลงออกมาเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของหลักฐานที่มีอยู่เท่านั้น

‘ลิซ่า BLACKPINK’ งานเข้า ชาวเน็ตแห่จับผิดภาพรอยสัก ชี้ เป็นผู้หญิง ไม่ควรสัก ด้านชาวบลิ๊งค์โต้กลับดุเดือด!!

(6 มี.ค. 66) ดรามามาเต็ม ชาวเน็ตแห่จับผิด ภาพรอยสัก ‘ลิซ่า BLACKPINK’ วิจารณ์เดือด มันไม่ดี อยู่ ๆ ก็เกิดดรามา งานเข้าแบบไม่ทันตั้งตัว สำหรับศิลปินระดับโลก ‘ลิซ่า BLACKPINK’ หรือ ‘ลลิษา มโนบาล’ ที่มีผลงานระดับโลกและเป็นที่ภาคภูมิใจคนพี่น้องคนไทย

เพราะล่าสุด ‘ลิซ่า BLACKPINK’ ได้ไปถ่ายแบบแฟชั่นชั้นนำ Harper’s BAZAAR จนมีเสียงฮือฮาตามมา เพราะรูปที่ปล่อยออกมาเหมือนว่า จะมีรอยสักอยู่ด้านหลังของลิซ่า ทำให้มีชาวเน็ตบางคนถึงกับไม่เห็นด้วยกับที่ลิซ่าสักบนเรือนร่าง

โดยระบุว่า ‘ผิวเนียน ๆ สวย ๆ สักทำไม คนไทยถือว่าเป็นผู้หญิงไม่ดี ไปสักอะ เตือนเพราะหวังดี สักไปทำงานที่ไหนเขาก็ไม่รับ ผู้ใหญ่เห็นก็ไม่ชอบ โดยเฉพาะพวกข้าราชการ เป็นไอดอลน่ารักให้เด็ก ๆ ทุกเพศ ทุกวัย ก็ดีอยู่เเล้ว ภาพลักษณ์ภายนอกมีผล

ตำรวจไซเบอร์เตือนภัย หวั่นเยาวชนตกเป็นเหยื่อซื้อไอเทมเกมออนไลน์

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษก กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ขอประชาสัมพันธ์เตือนภัยกรณีการซื้อสินค้า หรือไอเทมเกมออนไลน์ ดังต่อไปนี้

ตามที่ปรากฏเป็นข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ กรณีมีผู้เสียหายหลายรายถูกผู้ต้องหาหลอกลวงประกาศโฆษณาขายสินค้าประเภทไอเทมเกมออนไลน์ หรือสกุลเงินในเกมออนไลน์ผ่านเพจในเฟซบุ๊ก โดยเสนอขายในราคาถูกกว่าราคาของบริษัทผู้ผลิตและพัฒนาเกมดังกล่าว เช่น สกุลเงินในเกม 1 แพ็ก มี 7,200 เหรียญ ราคา 3,700 บาท แต่ผู้ต้องหาขายในราคาเพียง 2,050 บาท นอกจากนี้ผู้ต้องหายังอ้างว่าปลอดภัย ไม่มีการขอ Refund หรือยกเลิกการซื้อแน่นอน (หมายถึงการขอคืนเงินที่ชำระค่าสินค้าภายในเกมในภายหลัง) 

เมื่อผู้เสียหายโอนเงินแล้วปรากฏว่าได้รับสกุลเงินในเกมจริง ต่อมาผู้เสียหายได้รับอีเมลจากบริษัทผู้ผลิตและพัฒนาเกมว่า มีการขอยกเลิกการซื้อสกุลเงินภายในเกม เนื่องจากได้ตรวจสอบพบธุรกรรมที่เป็นการฉ้อโกง หรือธุรกรรมเท็จ ส่งผลให้ไอเทม หรือสกุลเงินในเกมของผู้เสียหายสูญหายไป และไม่ได้รับเงินที่ซื้อสกุลเงินกลับคืนแต่อย่างใด ผู้เสียหายเชื่อว่าถูกหลอกลวงและได้รับความเสียหาย จึงแจ้งความผ่านระบบรับแจ้งความออนไลน์ www.thaipoliceonline.com ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาให้ได้รับโทษตามกฎหมาย

กระทั่งที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.สอท. ได้ทำการจับกุมตัวผู้ต้องหา 2 ราย ตามหมายจับศาลอาญา โดยกล่าวหาว่า “ ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชนฯ ” พร้อมตรวจยึดของกลาง นำตัวส่ง พงส.ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดย พล.ต.ท.วรวัฒน์  วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) ได้ขับเคลื่อนตามนโยบายของรัฐบาล โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. ซึ่งรับผิดชอบงานในด้านการป้องกันปราบปราม ได้ให้ความสำคัญและมีความห่วงใยต่อภัยการหลอกลวงผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายสินค้าออนไลน์ โดยได้กำชับไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งวางมาตรการในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดในโลกออนไลน์ทุกรูปแบบอย่างต่อเนื่อง และจริงจัง พร้อมสร้างการรับรู้แนวทางป้องกันให้ประชาชน ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ

โฆษก บช.สอท. กล่าวเพิ่มเติมว่า การหลอกลวงที่แฝงมากับเกมออนไลน์ยังมีอีกหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น การหลอกลวงขายไอเทมที่ไม่มีอยู่จริง การหลอกลวงจ้างให้เล่นเกม หรือที่เรียกว่า การปั๊มแรงค์ การหลอกลวงเอาข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลทางการเงินไปใช้ประโยชน์ในทางมิชอบ เช่น นำไปเปิดบัญชีธนาคาร ไปแฮ็กบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ นอกจากนี้ที่ผ่านมายังปรากฎว่ามีบุตรหลานนำไปสร้างเรื่องหลอกลวงผู้ปกครองว่าถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกลวงให้โอนเงิน แต่แท้จริงแล้วนำเงินผู้ปกครองไปใช้ซื้อไอเทมภายในเกม ไปสนับสนุนช่องยูทูบเบอร์เกมออนไลน์ เป็นต้น

จี๊ดด...ทุกคำ!! เพจ ‘สภ.สงขลา’ สุดแนว!! ยอดฟอลพุ่ง 3 แสน หลังโพสต์แคปชันเด็ด ‘โดนใจ-เข้าถึง’ ปชช.

เพจตำรวจภูธรเมืองสงขลา ฮอตหนัก มีผู้ติดตามแล้ว 3.3 แสนคน โดยข้อความที่โพสต์นั้น แม้จะเป็นการแจ้งเตือนให้ประชาชนปฏิบัติตามกฎหมาย แต่ก็แฝงด้วยการใช้คำที่ขำขัน รวมถึงใช้ภาษาถิ่นใต้ ทำให้การเตือนเรื่องการบังคับใช้กฎหมายเป็นเรื่องที่สร้างรอยยิ้มด้วย

(6 มี.ค. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟซบุ๊ก ‘ตำรวจภูธรเมืองสงขลา’ กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก มีผู้ติดตามแล้ว 3.3 แสนคน หลังแอดมินเพจ ซึ่งเป็นตำรวจ มีการโพสต์ข้อความที่เป็นการตักเตือนให้ประชาชนปฏิบัติตามกฎหมาย และแจ้งรายงานการปฏิบัติหน้าที่ รวมถึงการแจ้งกิจกรรมต่าง ๆ นั้น มีข้อความที่เป็นคำกลอนบ้าง แฝงไปด้วยความขำขัน รอยยิ้มบ้าง ทำให้มีผู้ติดตามเพิ่มขึ้นอย่างเร็ว
 

ดองนานจนลืม!! ‘แพทย์ชนบท’ ทวง ‘เสี่ยหนู’ ปมโรคนอกสิทธิ์บัตรทอง ชี้ 4 เดือน ไร้ความคืบหน้า วอน รีบแก้ปัญหาก่อนยุบสภาฯ

(6 มี.ค. 66) เพจเฟซบุ๊ก ‘ชมรมแพทย์ชนบท’ โพสต์ข้อความระบุว่า…

นานแล้วนะ ที่ปัญหาถูกดองไม่ถูกแก้

งบส่งเสริมป้องกันของกลุ่มประชากรที่ไม่ได้ใช้บัตรทอง เช่น กลุ่มสวัสดิการข้าราชการและครอบครัว กลุ่มประกันสังคม กลุ่มครูเอกชน กลุ่มรัฐวิสาหกิจ รวมแล้ว 20 ล้านคน ยังไม่ได้งบลงสู่พื้นที่ สธ. บอกให้โรงพยาบาลให้บริการไปก่อน แต่จริง ๆ ยังมีโรงพยาบาลนอก สธ.และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ สธ. สั่งไม่ได้อีกด้วย

นี่ผ่านมากว่า 4 เดือน ไร้ความคืบหน้า ใกล้ยุบสภาฯ เป็นรัฐบาลรักษาการ จะส่งเรื่องให้ ครม.อนุมัติเห็นชอบทันไหม สงสัยจะไม่ทัน เพราะดองลืม ไม่ใส่ใจแก้ปัญหา สนใจแต่เดินสายหาคะแนนเสียง

ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ ยาต้านไวรัส วัคซีนพื้นฐาน ฝากท้อง แว่นสายตาผู้สูงอายุ งบกองทุนสุขภาพตำบล มากมายหลายรายการที่หน่วยบริการปวดหัวมาก เดิมให้ทุกคนทุกสิทธิ ตอนนี้ต้องมาอธิบายชาวบ้าน บ่อยครั้งชาวบ้านไม่เข้าใจ ไม่พอใจ เลยต้องบอกชาวบ้านว่า ให้ไปต่อว่าคนคนนั้นที่ดองงบแทน อย่ามาว่าพยาบาล
 

ช่วยด้วยใจ!! เปิดใจ ‘ไรเดอร์’ ทิ้ง จยย. ช่วยเด็ก 4 ขวบวิ่งข้ามถนน เผย ดีใจที่ช่วยเด็กไว้ได้ทัน ไม่ขอรับสิ่งตอบแทนใดๆ

(6 มี.ค. 66) ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ‘ม๋อง ม๋อง’ ได้โพสต์ข้อความว่า…

“เกือบขิตทั้งคู่ ถนนสาวประชาราษฎร์ ลำลูกกาคลอง 4”

พร้อมกันนี้ ได้โพสต์คลิปวิดีโอขณะขับรถจักรยานยนต์ จากนั้น มีเด็กวิ่งข้ามถนนไปอีกฝั่งจนเจ้าตัวได้ทิ้งรถจักรยานยนต์แล้ววิ่งเข้าไปคว้าเด็กวัย 4 ขวบ ได้ทัน

หลังจากที่โพสต์ได้ถูกเผยแพร่ออกไป ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นบริเวณ ถนนไสวประชาราษฎร์ ลำลูกกา คลอง 4 ตรงข้ามโรงเรียนแย้มสะอาด ตำบลลาดสวาย อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี โดยคลิปหมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่งสามารถบันทึกเหตุการณ์ได้ และได้พบหนุ่มไรเดอร์ ภายหลังทราบชื่อว่า นายพีรพงศ์ ชุมพลวดี อายุ 32 ปี ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า หลังจากที่รับอาหารเสร็จเพื่อที่จะไปส่งให้ลูกค้า ขณะกำลังจะขับรถกลับไปยังอีกฝั่ง ได้หยุดจอดรถอยู่หน้าหมู่บ้านจัดสรร ในระหว่างนั้น ได้ยินเสียง รปภ.ตะโกน บอกว่า เด็กวิ่งข้ามถนน ตนเองได้ตัดสินใจทิ้งรถทันที แล้วรีบวิ่งเข้าไปคว้าตัวเด็ก ซึ่งในระหว่างที่วิ่งไปนั้นตัวเองไม่ได้คิดอะไรเลย และได้อุ้มเด็ก แต่ก็โชคดีรถที่วิ่งมาทางตรงนั้นได้เบรกทัน เด็กปลอดภัย ส่วนอาหารที่สั่งนั้นก็ได้รับความเสียหายก็มีกาแฟ 2 แก้ว หกหมดเลย ส่วนรถจักรยานยนต์นั้นก็ไม่ได้เสียหายอะไรมาก รู้สึกดีใจที่น้องปลอดภัย แต่ก็อยากจะเตือนให้ดูแลเด็กที่อยู่ใกล้ริมถนนให้มากขึ้น ฝากให้ผู้ปกครองช่วยดู สวนสินน้ำใจที่ผู้ปกครองมอบให้ก็ไม่รับ เพราะการทำในครั้งนี้ไม่ได้หวังสิ่งตอบแทนใด ๆ 
 

ยับมาก ขออนุญาตรีด!! ร้านค้าจัดโปรฯ ขายเตารีด 70 บาท ให้ ‘เด็กผี’ เยียวยาแผลใจ หลังแพ้ศึกแดงเดือด 7-0

(6 มี.ค. 66) ภายหลังจาก ‘ลิเวอร์พูล’ เปิดรังแอนฟิลด์ ถล่ม ‘ปิศาจแดง’ แมนฯ ยูไนเต็ด 7-0 พร้อมเก็บ 3 แต้ม กลับไปลุ้นพื้นที่ ‘ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก’ ฤดูกาลหน้าแบบช็อกเด็กผีทั่วโลก

ล่าสุดในโลกออนไลน์ มีการแชร์โพสต์ของผู้ใช้เฟซบุ๊ก ‘คุณาวุธ กีรตินันท์วัฒนา’ แห่งร้านค้า ‘จักรทองการไฟฟ้า’ ที่จัดโปรโมชั่นพิเศษ จำหน่ายเตารีด สำหรับแฟน แมนฯ ยูไนเต็ด เนื่องจากพ่ายแพ้แบบย่อยยับ พร้อมข้อความระบุ…

สืบเนื่องจากผลบอลเมื่อคืน คาดว่าจะมีแฟนบอลกลุ่มหนึ่งได้รับผลกระทบด้านจิตใจ​ เพื่อเป็นการบรรเทาและเยียวยา​ ทำงานเชิงรุก ​บูรณาการ​เข้าถึงพี่น้องให้รวดเร็ว

พรรคคำว่าแร้!!! (แพ้คำว่ารัก)​
จัดโปรฯ เตารีดปกติ 299 บาท… ขายเพียง 70 บาท

7 0 ‘นันยาง’ หั่นโปร ‘ช้างดาวสีแดง’ ขยี้!! ศึกแดงเดือด เหลือคู่ละ 70 บาท ขายหมดเกลี้ยงในหนึ่งชั่วโมง

(6 มี.ค. 66) จบศึกหั่นโปรทันที!! ‘นันยาง’ กร้าวประกาศลดราคา ‘ช้างดาวสีแดง’ ทุกคู่เหลือ 70 บาท ชั่วโมงเดียวหมดเกลี้ยง!!

หลัง ‘แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด’ บุกพ่าย ‘ลิเวอร์พูล’ คู่ปรับตลอดกาลแบบหมดรูป 0-7 ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัด ‘แดงเดือด’ เมื่อวันที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมา

เลข 07, 70 ก็ได้กลายเป็นเลขแสลงใจเหล่าแฟนแมนฯ ยู ส่งผลให้กระแสเกี่ยวกับเลขดังกล่าวมีมาตลอด

ล่าสุด เมื่อช่วงสายวันนี้ (6 มี.ค. 66) แม้แต่แบรนด์รองเท้าชื่อดังอย่าง นันยาง ก็ออกมาใช้กลยุทธ์การตลาด เกาะกระแสดังกล่าว โดยโพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า “ด่วน! ช้างดาวสีแดง ลดเหลือ 70 จาก 99 บาท 70 คู่เท่านั้น ลิงก์ในเมนต์ #แซวดังระวังช้างดาวบิน”

‘บิ๊กตู่’ เตรียมออกจาก รพ. กลับบ้านวันนี้ หลังอาการเรียบร้อยดีทุกอย่างแล้ว

‘บิ๊กฉัตร’ รุดเยี่ยม ‘ประยุทธ์’ ด้านผอ.รพ.พระมงกุฎเกล้า เผย อาการเรียบร้อยดี เย็นถึงค่ำนี้ ออกจากรพ. กลับบ้านได้ ขอบคุณปชช.ที่เป็นห่วง

วันนี้ (6 มี.ค. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ ที่อาคารสมเด็จย่า 90 โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม พักรักษาตัวจากอาการมือขวาอักเสบ เป็นวันที่ 3 เพื่อให้ยาปฏิชีวนะ ว่า เมื่อเวลา08.35 น. พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ ส.ว. อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตรมว.เกษตรและสหกรณ์ เพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหาร รุ่น 12 ของพล.อ.ประวิตร เดินทางเข้าเยี่ยมอาการป่วย ประมาณ 30 นาที จึงเดินทางกลับ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top