Tuesday, 1 July 2025
NEWS

โปรดเกล้าฯ ประกาศสถาปนาสมณศักดิ์ 'พระพรหมดิลก' หลังพ้นมลทินกระทำผิดอาญา คดีเงินทอนวัด

(18 มี.ค.66) เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ประกาศสถาปนาสมณศักดิ์ ความว่า พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ มหิศรภูมิพลราชวรางกูร กิติสิริสมบูรณอดุลยเดช สยามินทราธิเบศรราชวโรดม บรมนาถบพิตร พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ประกาศว่า

ตามที่ พระพรหมดิลก (เอื้อน กลิ่นสาลี) ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดอาญาและได้มีพระบรมราชโองการถอดถอนสมณศักดิ์เมื่อวันที่ ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๖๑ นั้น บัดนี้ คดีถึงที่สุดแล้ว

โดยพฤติการณ์ถือได้ว่าไม่ใช่ความผิดอุกฉกรรจ์ หรือความผิดร้ายแรง หรือเป็นผู้ร้ายสำคัญ ประกอบกับไม่มีการกล่าวคำลาสิกขา และไม่มีการดำเนินการให้สละสมณเพศ ทั้งปรากฎข้อเท็จจริงว่า ยังคงดำรงตน อย่างพระภิกษุโดยตลอดระหว่างถูกคุมขัง จึงมีสภาวะเป็นพระภิกษุ มีสถานะเป็น พระมหาเอื้อน หาสธมุโม (เปรียญธรรม ๙ ประโยค) ซึ่งมหาเถรสมาคมมีมติรับทราบแล้วเมื่อวันที่ ๑o มีนาคม ๒๕๖๖

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๕ ตรี แห่งพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๕๐๕ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๖๑

‘ครม.’ ไฟเขียว ปลดล็อกบังกะโล-แพ-บ้านต้นไม้-เต็นท์เป่าลม ผู้ประกอบการ ขอยื่นจดทะเบียนธุรกิจโรงแรมได้

รัฐบาลปลดล็อกบังกะโล แพ บ้านต้นไม้ เต็นท์แบบเป่าลม จดทะเบียนธุรกิจโรงแรมได้

(18 มี.ค.66) คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะและระบบความปลอดภัยของอาคารที่ใช้ประกอบธุรกิจโรงแรม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ เพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการและผู้ให้บริการสถานที่พักโดยเฉพาะผู้ประกอบการ SMEs ภาคธุรกิจขนาดย่อมและขนาดเล็กในเมืองท่องเที่ยวเมืองรองสามารถนำอาคารที่ มีรูปแบบพิเศษอื่นมาประกอบธุรกิจโรงแรมได้ เพื่อให้ธุรกิจที่พักโรงแรมในประเทศไทยสามารถแข่งขันได้อย่างยั่งยืน ซึ่งคณะกรรมการควบคุมอาคารได้เห็นชอบด้วยแล้ว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเห็นชอบแล้ว

สำหรับปัจจุบันอาคารที่ใช้ประกอบธุรกิจโรงแรมมีลักษณะของอาคารที่มีความหลากหลายมากขึ้น มีการนำอาคารตามประเภทอื่นมาให้บริการที่พักแก่ประชาชนเป็นการทั่วไป เช่น การสร้างบังกะโลชั้นเดียวแบ่งเป็นห้อง ตู้คอนเทนเนอร์ แพที่อยู่ตามเขื่อนต่าง ๆ บ้านต้นไม้ เต็นท์แบบเป่าลม เป็นต้น ซึ่งลักษณะและโครงสร้างของอาคารไม่สอดคล้องกับอาคารที่จะนำมาประกอบธุรกิจโรงแรมตามที่กฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคารกำหนด  ทำให้ไม่สามารถขอรับใบอนุญาตให้ใช้อาคารเป็นโรงแรม เพื่อจะขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมได้ 

ตำรวจรวบแล้วคนร้ายแต่งชุดบุรุษไปรษณีย์ควงอาวุธปืนบุกเดี่ยวเข้าชิงร้านทองย่านอำเภอสามพราน

ที่แท้เป็นพ่อค้าขายสินค้าออนไลน์ลอกเลียนแบบไปรษณีย์ส่งจดหมาย ประวัติก่อคดีในเขตกรุงเทพฯเกี่ยวกับร้านทอง2ครั้ง 

คืบคดีเมื่อเวลา 13.20 น.วันที่ 16 มี.ค.66 คนร้ายใช้ปืนจี้ชิงทอง ร้านจำหน่ายทองเยาวราชเอ็มโกลด์ ถนนเข้าอำเภอสามพราน 27/22 หมู่ 1 ต.ท่าตลาด อ.สามพราน จ.นครปฐม โดยคนร้ายแต่งกายสวมใส่เสื้อแขนยาวชุดบุรุษไปรษณีย์ สวมหมวกกันน็อคแบบบุรุษไปรษณีย์ ถือจดหมายพร้อมกล่องพัสดุเดินมาอยู่หน้าร้าน ทำทีจะมาส่งจดหมาย ก่อนมีพนักงานร้านทองออกไปรับ คนร้ายได้ผลักประตูและดันพนักงานเข้ามาในร้าน และคนร้ายได้ชักอาวุธปืนพกสั้นออกมาขู่ และบอกพนักงานให้หยิบทองเส้นละ 10 บาทจำนวน 10 เส้น พร้อมโยนถุงผ้าให้พนักงานและคนร้ายได้ขู่ว่า “มึงอย่ากดสัญญาณถ้ากดกูจะยิงจริงๆจนพนักงานร้องว่าอย่ายิง” และพนักงานอาศัยจังหวะวิ่งเข้าไปหลบหลังร้าน จนคนร้ายเห็นว่าไม่ได้สร้องทอง  จึงรีบวิ่งหนีออกจากร้านไป และไปขึ้นรถยนต์ ฮอนด้า ซิตี้ สีดำไม่ติดทะเบียน ที่จอดอยู่ห่างจากจุดเกิดหตุ ประมาณ 100 เมตร ไม่ทราบเส้นทางหลบหนี

ต่อมาตำรวจชุดสืบสวน สภ.สามพรานได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายใช้หลบหนี ทั้งขาย้อนกลับที่คนร้ายมุ่งมาก่อนเหตุที่ร้านทองและเส้นทางหลบหนีหลังก่อเหตุ จนพบว่ารถยนต์ของคนร้ายก่อนมาก่อเหตุได้จอดเปลี่ยนสลับแผ่นป้ายทะเบียนที่ซอยข้างโรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน ตำรวจได้ตรวจสอบเช็คทะเบียนรถยนต์จึงทราบที่มาของรถยนต์คันดังกล่าว และสามารถจับกุมนายธีรพล เส็งสมวงศ์ อายุ40ปี คนร้ายที่ก่อเหตุได้ที่คอนโดแห่งหนึ่ง ย่านถนนอิสรภาพ แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย กทม.เมื่อเวลา17.00น.วันที่17มีค.ที่ผ่านมา พร้อมของกลางอาวุธปืนปลอม1กระบอก, เสื้อคลุมไปรษณีย์ไทย1ตัว, กางเกงวอร์มสีดำ1ตัว ,หมวกนิรภัยไปรษณีไทย1ใบ, ถุงมือสีดำ1คู่, หมวกแก๊ปสีน้ำเงิน1ใบ, แว่นตา1อันและรถยนต์ ทะเบียน 1กย306กทม.ที่ใช้ก่อเหตุ1คัน ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีในห้อหา “ พยายามในห้อหาชิงทรัพย์ (ลักทรัพย์โดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าในทันใดนั้นจะใช้กำลังประทุษร้าย เพื่อให้ความสะดวกแก่การลักทรัพย์ หรือการพาทรัพย์นั้นไป) ” 

ต่อมาเวลา 09.00น.วันที่18 มี.ค.66 ที่สภ.สามพราน จ.นครปฐม พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรง ผบช.ภ.7 ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.ทรงวุฒิ เจริญวชยเดช ผกก.สภ.สามพราน แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน เผยว่า นายธีรพล เส็งสมวงศ์ ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุ ประวัติเคยต้องคดีที่ลักทรัพย์ สน.จักรวรรดิ และสน.ประเวศ เมื่อ2565 ซึ่งทั้งสองคดีอยู่ระหว่างอุธรณ์ โดยทั้ง2 โดยสน.จักรวรรดิเมื่อวันที่9สค.65 สน.ประเวศเมื่อวันที่12 ส.ค. 65 โดยนายธีรพลผู้ต้องหาใช้ทองปลอมสับเปลี่ยนทองจริงของร้านทองหลบหนีไป

‘วิกรม กรมดิษฐ์’ เปิดพินัยกรรม มอบทรัพย์สินส่วนตัวให้กับมูลนิธิอมตะ เพื่อเป็นสาธารณประโยชน์

กลายเป็นอีกเรื่องดี ๆ ที่คนในสังคมต่างใจฟู เมื่อ นายวิกรม กรมดิษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานกรรมการ บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) และประธานมูลนิธิอมตะ เปิดเผยว่า ในโอกาสครบรอบวันคล้ายวันเกิดปีที่ 70 นับเป็นวาระสำคัญของการวางแผนชีวิตเพื่อส่งต่อความมั่นคง ต่อการดำเนินงานของมูลนิธิอมตะอย่างไม่สิ้นสุด จึงได้ทำพินัยกรรมมอบทรัพย์สินส่วนตัวให้กับมูลนิธิอมตะมูลค่ากว่า 95% ของทรัพย์สินทั้งหมดที่มีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นที่ดิน อาคาร คอนโดมิเนียม หุ้นในตลาดหลักทรัพย์ ตลอดจนทรัพย์สินส่วนตัวอื่น ๆ เพื่อให้เป็นสาธารณประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ของการก่อตั้ง อันจะนำไปสู่หนึ่งในกลไกการยกระดับคุณภาพสังคม สิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจไทย

ทั้งนี้มูลนิธิอมตะได้ก่อตั้งเมื่อ 27 ปีที่แล้วโดย นายวิกรม กรมดิษฐ์ มีโครงการภายใต้วัตถุประสงค์ เช่น โครงการรางวัล ‘นักเขียนอมตะ’, โครงการทุนเรียนดี, โครงการประกวดศิลปกรรม ‘อมตะ อาร์ต อวอร์ด’ โครงการด้านนวัตกรรม, โครงการหนังสือดีมีประโยชน์สร้างการเปลี่ยนแปลง และโครงการปรับปรุงอุทยานเขาใหญ่สู่อุทยานมาตรฐานโลกภายในเวลา 10 ปี

“ตั้งแต่วันแรกที่เริ่มต้นสู่ธุรกิจ ผมยึดมั่นในเป้าหมาย All Win และความมุ่งมั่นของการทำแต่สิ่งดีงามให้ไว้กับทุกคนมาโดยตลอด โดยเฉพาะเมื่อประสบความสำเร็จในธุรกิจการงานแล้วก็ควรแบ่งผลกำไรกลับคืนสู่สังคมและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้สังคมไทยเป็นสังคมที่มีคุณภาพน่าอยู่เช่นประเทศที่เจริญแล้ว ซึ่งผมได้นำประสบการณ์ชีวิตตั้งแต่วัยเด็กมาเรียบเรียง มาถ่ายทอดเป็นตัวหนังสือพิมพ์เผยแพร่ไปแล้วกว่า 11.6 ล้านเล่ม เพื่อให้สังคมสามารถเรียนรู้ และนำไปปรับใช้ได้ในโอกาสต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น

‘นิกกี้-ก้อย’ จับมือแถลงเปิดใจ รับเลิกแล้ว’ เผยลดสถานะทั้งที่ยังรักกันอยู่ ยันไม่มีมือที่ 3

นิกกี้-ก้อย เปิดใจครั้งแรก รับเลิกกันแล้ว เผยเหตุผลลดสถานะทั้งที่ยังรักกัน

จากกรณีที่สังคมจับตา สำหรับความรักของ ก้อย อรัชพร และ นิกกี้ ที่คบหากันมาราว 3 ปี ว่ากำลังรักร้าวหรือไม่ โดยชาวเน็ตต่างพูดถึง มือที่ 3 หรือ ปมอื่นๆ

ล่าสุด ก้อย และ นิกกี้ ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอ เปิดเผยเป็นครั้งแรกร่วมกันว่า เลิกกันแล้ว เป็นการเลิกกันด้วยดี จริง ๆได้คุยกัน ว่าเป็นการเลิกกันด้วยดี แต่ว่าก็อาจจะยังมีการจัดการอารมณ์ อยู่
โดยก้อย บอกว่า สาเหตุหลักๆ เหมือนลองใช้ชีวิตด้วยกันดู ไม่ได้สื่อสารอย่างตรงไปตรงมาจริง ๆ แต่แรก มีจุดยืน และ ความคิด และปรับกันไม่ได้จริง ๆ งั้นเราแยกไปอยู่กับตัวเอง ไปใช้ชีวิตแบบตัวเองดีกว่า

และย้ำว่าไม่มีปัญหามือที่ 3
นิกกี้ กล่าวเสริมว่า ก็เลิกกันด้วยความรัก เขามีน้ำตา เราก็มีน้ำตา ให้เขาอยู่กับตัวเอง จริง ๆ ทำงานเยอะทั้งคู่ ก่อน ก้อย เสริมว่า พอมาลองใช้ชีวิตแล้ว มีบางอย่างที่เหนื่อยต่อการปรับกันแล้ว

พลเอกกิตติศักดิ์ บุญพระธรรมชัย ที่ปรึกษาพิเศษกองทัพบก ตรวจเยี่ยมภารกิจการป้องกันชายแดนไทย-กัมพูชา เน้นเรื่องระบบน้ำชายแดน ในห้วงหน้าแล้ง

วันที่ 17 มีนาคม 2566 ที่ฐานปฏิบัติการป้อมปูน ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์  พลเอกกิตติศักดิ์ บุญพระธรรมชัย ที่ปรึกษาพิเศษกองทัพบก พร้อมคณะ ลงพื้นตรวจเยี่ยมกำลังพลหน่วยขึ้นตรง กองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 ที่ปฏิบัติหน้าที่ชายแดนไทย – กัมพูชาโดยมี พันเอกสมภพ ภาระเวช รองผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี ให้การต้อนรับ และบรรยายสรุป ถึงสถานการณ์ในพื้นที่ 

มทบ.25 จัดโครงการ 'ราษฎร์ รัฐ ร่วมใจ ช่วยภัยแล้ง ประจำปี 2566' ณ ลานสโมสรค่ายวีรวัฒน์โยธิน

(17 มี.ค. 66) พลตรีสาธิต เกิดโภค ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 25 มอบหมายให้ พันเอก ชินวิช เจริญพิบูลย์ รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 25 เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ 'ราษฎร์ รัฐ ร่วมใจ ช่วยภัยแล้ง ประจำปี 2566' ณ ลานสโมสรค่ายวีรวัฒน์โยธิน อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ ตามประกาศกรมอุตุนิยมวิทยาให้ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูร้อนอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม 2561 ส่งผลให้ในห้วงเดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคมมีอากาศร้อนอบอ้าวและแห้ง ความชื้นในอากาศมีน้อยและมีอากาศร้อนจัดเป็นบางวัน ทำให้ปริมาณน้ำที่เก็บกักในอ่างเก็บน้ำและเขื่อนหลักระเหยอย่างรวดเร็ว จนทำให้ปริมาณน้ำต่ำกว่าเกณฑ์ 

ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดสถานการณ์ภัยแล้งในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่งผลให้ขาดแคลนน้ำสำหรับอุปโภค บริโภค กองทัพบก จึงได้เชิญหน่วยงานภาคี โดยการนำศักยภาพของหน่วยงาน อันได้แก่ กำลังพล ทรัพยากรเครื่องมือและอุปกรณ์ต่างๆมาตรวจสภาพความพร้อม ในการเตรียมการช่วยเหลือประชาชน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกลและทุรกันดาร ซึ่งผู้บัญชาการทหารบก มีนโยบายเตรียมความพร้อมด้านกำลังพลและยึดตัวอุปกรณ์ ให้สามารถช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยแล้ง

เปิดโครงการ Think park Shibuya Chiangmai อย่างเป็นทางการในธีม บรรยากาศสไตล์ญี่ปุ่น

โครงการ Think park Shibuya Chiangmai เปิดตัวอย่างเป็นทางการในธีม บรรยากาศสไตล์ญี่ปุ่น Think park Shibuya Carnival วันที่ 17 – 26 มีนาคม 2566 ที่มีมุมถ่ายภาพ น่ารักๆ หลายมุมภายในโครงการสามารถเข้ามาถ่ายภาพได้ทุกมุมไม่มีค่าใช้จ่าย และมีร้านค้าที่มีการตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่น อีกกว่า 30 ร้านค้า มีร้านเครื่องประดับ ร้านขาย งานคร๊าฟ คาเฟ่ ร้านอาหารและเครื่องดื่ม ร้านอาหารที่ได้รับรางวัล Michelin Guide2023 ร้าน Aquila pasta bar และร้านต่างๆในโครงการ 

อาทิ  Playwork.caféart คาเฟ่ที่มางานคร๊าฟให้เลือกซื้อ, Misae Chiang Mai มิซาเอะ เชียงใหม่ แหล่งรวมวัตถุดิบและขนมนำเข้าจากญี่ปุ่น, JOJI Secrect Young ร้านขายผลิตภัณฑ์ดูแลความงาม, labella nail & lash ร้านทำเล็บต่อขนตา,days in and days out ร้านขายเสื้อผ้าฝ้าย, Yin Silver ร้านขายเครื่องประดับแนวมินิมอล, Chiang mai Amulet ขายเครื่องประดับแนวหินนำโชค, NW8 ร้านสัก, MALAA SILVER เครื่องประดับ, papa handcrafted, อมรปุระ, KAMLOR HANDMADE, boobunboobun, Sugoi senbei, Genpukan Chiangmai (เก็นปุคัน), ซัปปะหริ Sappari, Muchies, ติ่งเกาหลี BBQ Buffet เชียงใหม่, The Camellia Music Bar, Gyusen premium yakiniku, Tora,  Shakariki432, หมึกเกยตื้น, Ban'yan Bar, kintaro takoyaki, kinkai, อิชิปัง, matsuri, super grill ทุกร้านค้าภายในโครงการ ยังมีโปรโมชั่นส่วนลดให้ลูกค้าที่มาใช้บริการช่วงวันที่ 17 – 26 มีนาคม 2566 นี้

‘ม้า อรนภา’ เปิดใจ เหตุหายหน้าหายตาไปนาน เผย ไม่ได้อยากออกจากวงการเอง แต่ถูกบังคับ!!

(18 มี.ค. 66) หลังจากหายหน้าหายตาออกจากวงการไปนาน ‘ม้า อรนภา กฤษฎี’ ล่าสุดได้มาออกรายการ ‘คนดังนั่งเคลียร์’ ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 ให้แฟน ๆ หายคิดถึง หลังจากเคยมีประเด็นตบหน้า ณ กรุงโซลมาแล้ว 1 รอบ ก็มิวายโดนชาวเน็ตแซะเรื่อง ‘น้องเมญ่า ซันซัน’ Miss Fabulous Thailand 2023 อีกรอบ แถมโดนด่าแรงว่า “อีแก่” ซึ่งเจ้าตัวเปิดใจว่าโกรธมาก แถมในรายการยังมีการเล่าถึงสาเหตุที่แท้จริงว่าออกจากวงการเอง หรือถูกใครสั่งออกกันแน่อีกด้วย

เมื่อถามว่า วันที่ม้าตัดสินใจหันหลังให้วงการบันเทิง วันนั้นมันเกิดอะไรขึ้น?

“จริง ๆ ดิฉันไม่ได้หันหลังให้กับวงการบันเทิง แต่เขาเพียงแต่ว่า ไม่ให้ดิฉันอยู่ในวงการบันเทิงมากกว่า” ม้า อรนภา ตอบ

เมื่อถามว่า ใครจะกล้ามาสั่งม้าให้ออกจากวงการบันเทิง?

“ก็วันนั้นที่ดิฉันต้องไปออกรายการอ่านข่าว และเขาก็บอกว่าอย่าเพิ่งมาให้หยุดก่อน ตั้งแต่วันนั้นที่หยุด ก็หยุดไปจนถึงวันนี้ กระทั่งรายการที่เป็นรายการวาไรตี้” ม้า อรนภา ตอบ

เมื่อถามถึงเหตุผลที่ทำให้หยุดงานคืออะไร ม้า อรนภาไปทำผิด ไปทำคดี หรืออะไรที่เป็นคำสั่งศาลห้ามปรากฎตัวในสื่อหรือ?

“ก็มันไม่มีอะไรทั้งสิ้น แต่ว่าเขาก็มีคำสั่งมาเอง ด้วยเหตุที่ว่าตอนนั้นกระแสมันออกมารุนแรงมากขึ้นใช่ไหมคะ อย่างบ้านเมืองเราวันนี้ มันเป็น 2 ฝ่ายใช่ไหม มันก็เป็น 2 ฝ่ายตลอดมาถึงทุกวันนี้ นั้นอีกฝ่ายหนึ่งมันก็รุมกระหน่ำ จนกระทั่งมันเป็นกระแสที่ทำให้ดิฉันวินาศสันตะโรได้ จากเรื่องที่ 1 คือในเฟซบุ๊กของน้องคนหนึ่งที่อยู่ในวงการ ซึ่งตอนนี้เขาก็ไม่ได้อยู่แล้วนะคะ ฉันก็อยู่ในวงการ เสร็จแล้วเขาก็โพสต์เกี่ยวกับเด็กเมื่อก่อนที่เรากำลังมีปัญหาในสังคมกับการยกนิ้ว 3 นิ้วค่ะ และก็มีการแอนตี้ หรือวิธีการก่อม็อบกันในโรงเรียน เสร็จแล้วเขาก็จะมีกฎหมายซึ่งจะไม่ให้เด็ก ๆ มีพฤติกรรมแบบนี้ในโรงเรียนก็จะให้ผู้ปกครองเซนเด็กก็มาฉีกจดหมายแล้วเผา ยกมือ 3 นิ้ว เขาก็เอามาโพสต์แล้วก็บอกว่าเป็นพฤติกรรมที่แย่มาก ก็มีคนเข้ามาคอมเมนต์เยอะมากด่า ๆ กัน คือ ด่าเด็กไม่ควรทำอย่างนั้นอย่างนี้ ดิฉันอ่านแล้วก็มีความรู้สึกว่า โรงเรียนนี้ดิฉันมีความผูกพันเพราะไม่ว่าจะเป็นพี่ น้อง ญาติ หลาน เรียนที่นี่กันหมด และเราก็รู้จักกับเบื้องบนด้วย นึกออกไหมคะ ดังนั้นเนี่ย เราเคยทำงานให้กับโรงเรียนนี้ด้วย ผลปรากฎว่าดิฉันก็ทนไม่ได้ว่า มันไม่ควรทำแบบนี้ เราก็เลยคอมเมนต์บ้าง ลักษณะคอมเมนต์ของดิฉันก็ ชัดเจน รุนแรง ตรงไป ตรงมา ถ้าทำแบบนี้ก็ให้ไปแหกนอนอยู่ที่บ้าน ไม่ต้องมาเรียนแล้วกัน ง่ายดี นึกออกไหม มันก็เป็นสิ่งที่ถูกต้องนึกออกไหมคะ ก็คือจบ” ม้า อรนภา ตอบ

เมื่อถามว่าม้า อรนภา มีความเห็น ก็เลยคอมเมนต์บ้าง แต่ก็ไม่ใช่คอมเมนต์เพียงแค่ผู้เดียว ทุกคนก็คอมเมนต์?

“ใช่ค่ะ ทุกคนก็คอมเมนต์หมด แล้วเสร็จแล้วเนี่ย ดิฉันก็มีความรู้สึกว่าโอเค ก็ไปแต่งตัวจะไปทำงาน พอแว็บนึงประมาณ 5 นาที ดิฉันก็มีความคิดว่า เอ๊ะ มันคงแรงไปนะ ดิฉันเลยกลับมา แล้วลบออก แค่ 5 นาทีมาลบออก พอลบเสร็จ ทางฝ่ายรายการที่จะไปทำอ่านข่าว เขาก็โทรมาบอกเกิดอะไรขึ้น ทำไมมันแบบว่า มันกระจายไวมากเลย ไม่ใช่พี่ใช่ไหม ก็บอกอันนี้เหรอพี่เอง อุ้ยทำไมมันไปเร็วขนาดนั้น  ทุกคนก็รุมเข้ามาด่าดิฉันในไอจีกับเฟซบุ๊ก ดิฉันโดนด่าแบบว่าเป็นหมื่น เป็นแสนคือด่าแบบวินาศสันตะโร จนกระทั่งผู้จัดบอกอย่ามาเลยให้หยุดก่อน นั้นก็คือเหตุผลเลย” ม้า อรนภา ตอบ

เมื่อถามถึงรายการอื่น ๆ ก็เลยแอนตี้ไปด้วยเลย ไม่ต้อนรับ ม้า อรนภาอีกเลยใช่หรือไม่?

“คงจะเป็นเช่นนั้น เพราะเขากลัว พอดิฉันไปออกโทรทัศน์ก็จะทำให้กระแสเนี่ยโดนรุมชาวเน็ตบอกว่าที่ ม้า อรนภาไม่มีงาน ไม่มีอะไรจะทำ เป็นเพราะทำตัวเอง ม้าคิดอย่างไร? อันนี้ก็อาจจะเป็นสิ่งที่ใช่ก็ได้ เพราะดิฉันเองก็เป็นคนคอมเมนต์ลงไปเอง ก็เหมือนกับที่ดิฉันตบหน้าเด็ก อันนั้นดิฉันก็ยอมรับว่าดิฉันทำ แต่มันมีเหตุที่ต้องทำ เหมือนกับอันนี้มันก็มีเหตุ ที่ทำให้ดิฉันต้องคอมเมนต์ แต่ดิฉันทำทุกอย่างมันไม่ได้นุ่มนวลหรือเป็นแบบว่าผู้ลากมากดี ดิฉันแบบตรงไปตรงมาชัดเจน” ม้า อรนภา ตอบ

ความหวังคนอ้วน!! 'โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 3 อินเตอร์' จัดกิจกรรม 'วันอ้วนโลก' ผ่าตัดกระเพาะเพื่อชีวิตใหม่ที่ดีขึ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุม ชั้น 7 อาคาร 1 โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 3 อินเตอร์ ได้มีการจัดกิจกรรม 'วันอ้วนโลก' เพื่อดูแลรักษาคนไข้ที่มีน้ำหนักเกิน หรือ โรคอ้วน ซึ่งตรงกับวันที่ 4 มีนาคม ของทุกปี ถูกกำหนดให้เป็น 'วันอ้วนโลก' (Worid Obesity Day) ซึ่งในแต่ละปีมีผู้ป่วยจาก 'โรคอ้วน' เพิ่มสูงขึ้นทุกเพศทุกวัย เนื่องจากขาดการออกกำลังกายและรับประธานอาหารสำเร็จรูปที่มักจะประกอบไปด้วยแป้งและไขมัน ซึ่งล้วนเป็นสาเหตุที่ส่งเสริมให้เป็นโลกอ้วนและมีโรคแทรกซ้อนโรคอื่นร่วมด้วยเพิ่มมากขึ้น 

โดยโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 3 อินเตอร์ ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของวัน"อ้วนโลก" (Worid Obesity Day) จึงได้มีการจัดกิจกรรม 'วันอ้วนโลก' ในหัวข้อ 'ผ่าตัดกระเพราะอาหาร ลดอ้วน ลดโรค' ในวันที่ 17 มีนาคม 2566 เพื่อให้ความรู้และวิธีการรักษาโรคอ้วน ที่มีโรคอื่นร่วมด้วย อาทิโรคในกลุ่ม NCDs โรคที่เกิดขึ้นจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต เพื่อให้ผู้ป่วยมีชีวิตใหม่ที่ดีขึ้น หายจากโรคและกลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าเดิม

โดย แพทย์หญิงขวัญนรา เกตุวงศ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมผ่าตัดส่องกล้องประจำโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 3 อินเตอร์ ที่มีประสบการณ์การผ่าตัดกระเพราะอาหารมามากกว่า 1,400 เคส ร่วมพูดคุยและให้ความรู้ในกิจกรรมครั้งนี้ 

นอกจากนี้ ยังมีผู้ที่เข้ารับการผ่าตัดกระเพราะเพื่อลดอ้วน ลดโรคเข้าร่วมถ่ายทอดประสบการณ์ การเปลี่ยนชีวิตหลังจากการลดน้ำหนัก ด้วยวิธีการผ่าตัดกระเพราะให้กับผู้ที่สนใจ ประกอบด้วย คนไข้เคสแรกโรคเบาหวาน คุณภักตร์พิมล ชำนาญเศรษฐกุล คุณพัชรินทร์  มีดี ภาวะมีบุตรยาก หลังผ่าตัดสามารถมีบุตรได้ และคุณโยษิตารวีร์ มนต์วิมุต 

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ สั่งตำรวจภาค 8 ช่วยเหลือเด็กถูกนำมาขายบริการทางเพศ และขยายผลหาผู้ใช้บริการ หลังพบมีเครือข่ายหลายจังหวัดพื้นที่ท่องเที่ยว มีต่างชาติเป็นเจ้าของทำธุรกิจกลางคืนแบบนอมินี

จากกรณี เมื่อวันที่ 15 มี.ค.66  เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองได้ดำเนินการล่อซื้อบริการทางเพศเด็ก ที่สถานบริการแห่งหนึ่งในพื้นที่ป่าตอง จังหวัดภูเก็ต สามารถช่วยเด็กหญิงออกมาได้ 6 คน ซึ่งต่อมาได้มีคำสั่งย้าย 5 เสือ สภ.ป่าตอง ไป ศปก.ภ.8 ตามที่สื่อมวลชนและโซเชียลมีเดียได้นำเสนอไปแล้ว นั้น

ต่อมาวันนี้ (18 มี.ค.66) เวลาประมาณ 10.30 น. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร ได้เรียกประชุมทีมสืบสวนสอบสวนภาค 8 ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จ.ภูเก็ต และ พมจ.จว.ภูเก็ต เพื่อเร่งรัดติดตามความคืบหน้าในคดีดังกล่าว พบว่าล่าสุดตำรวจได้ขยายผลเข้าช่วยเหลือเด็กหญิงเพิ่มอีก 2 ราย โดยได้ส่งตัวเข้ารับการดูแลที่บ้านพักเด็กและเยาวชนจังหวัดภูเก็ต เพื่อรอเข้ากระบวนการคัดแยกเหยื่อว่าเข้าข่ายเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์หรือไม่ นอกจากนี้ยังพบว่า ยังมีเด็กที่อยู่ในเครือข่ายถูกนำมาค้าประเวณีลักษณะเดียวกันอีก 7 คน ขณะนี้อยู่ระหว่างการขยายผล และเข้าสู่กระบวนการกลไกการส่งต่อระดับชาติ หรือ NRM เพื่อคัดกรอง และคัดแยก โดยสหวิชาชีพ

ส่วนการติดตามตัวเจ้าของสถานบริการซึ่งเป็นชาวต่างชาติ (สวิส) ขณะนี้หลบหนีออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน แต่ยังมีเพื่อนร่วมธุรกิจอีก 2 คน ซึ่งขณะนี้ ตม. ได้ขึ้นทะเบียนเฝ้าระวังไว้แล้ว โดยพบว่าการทำธุรกิจบริการของคนกลุ่มนี้ เป็นการทำธุรกิจแบบนอมินี มีคนไทยรับออกหน้าเป็นตัวแทน และยังมีสาขาอีกหลายแห่งในพื้นที่จังหวัดท่องเที่ยว 

วิษณุ -พิพัฒน์ เปิดงาน 'มหัศจรรย์แห่งวิถีลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา สู่การเป็นพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน' ประกาศพื้นที่พิเศษฯ เป้า 5 ปี ยกระดับ 142 ท้องถิ่นพัฒนากิจกรรมท่องเที่ยว สู่การกระจายและเพิ่มรายได้ให้แก่ท้องถิ่น

ช่วงเย็นวันนี้ ( 17 มี.ค.66 ) ที่บริเวณท่าเรือ บริษัท เซ้าท์เธิร์นโลจิสติกส์ (2009) จำกัด อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เดินทางมาเป็นประธานเปิดงาน “มหัศจรรย์แห่งวิถีลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา สู่การเป็นพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน” โดยมี นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายอารัญ บุญชัย ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นาวาอากาศเอก อธิคุณ คงมี ผู้อำนวยการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) พร้อมด้วยผู้แทนผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ผู้แทนผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หัวหน้าส่วนราชการ ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน นักวิชาการ ชุมชนและประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงเข้าร่วม

สำหรับงานมหัศจรรย์แห่งวิถีลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา สู่การเป็นพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน จัดขึ้นระหว่างวันที่ 17 - 19 มีนาคม 2566 ณ พื้นที่ย่านเมืองเก่าสงขลา โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. เพื่อยกระดับและเพิ่มมูลค่ากิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ที่มีคุณภาพมาตรฐาน โดยใช้แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เป็นกลไกในการขับเคลื่อนและนำไปสู่เป้าหมายที่กำหนดไว้ร่วมกัน โดยพื้นที่พิเศษฯ ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา ที่ได้รับการประกาศเป็นพื้นที่พิเศษ ครอบคลุมพื้นที่ใน 15 อำเภอ ของ 3 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดสงขลา รวม 8 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองสงขลา ระโนด สทิงพระ กระแสสินธุ์ สิงหนคร หาดใหญ่ ควนเนียง บางกล่ำ จังหวัดพัทลุง รวม 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองพัทลุง ปากพะยูน บางแก้ว เขาชัยสน ควนขนุน รวมทั้งจังหวัดนครศรีธรรมราช รวม 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอชะอวด และหัวไทร ทั้งนี้มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่รวม 142 แห่ง และจะได้รับการพัฒนาและจะมีกิจกรรมการ ท่องเที่ยวโดยชุมชน อย่างน้อยท้องถิ่นละ 1 กิจกรรม หรือ 1 เส้นทาง ภายในระยะ 5 ปี ของแผนยุทธศาสตร์ฯ รวมถึงการผลักดันพื้นที่เมืองเก่าสงขลา เพื่อเสนอต่อยูเนสโกประกาศให้เป็นเมืองมรดกโลก

กรมสมเด็จพระเทพฯ เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ไปพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ ‘คุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี’

(วันนี้ ( 17 มี.ค.) เมื่อเวลา 17.23 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร มหาวชิราลงกรณวรราชภักดี สิริกิจการิณีพีรยพัฒน รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ไปพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ คุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี
ม.ป.ช.,ม.ว.ม.,ป.ภ.,ท.จ.,ว.ป.ร.๔ และทรงวางพวงมาลาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พวงมาลาของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พวงมาลาของสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี และพวงมาลาส่วนพระองค์ ที่หน้าโกศศพ ณ ศาลากวีนิรมิต วัดเทพศิรินทราวาส เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร

‘ศธ.’ เสนอ ‘ยูเนสโก’ ดัน ‘ครูบาศรีวิชัย’ บุคคลสำคัญของโลก ด้าน ‘การศึกษา-ศาสนา-วัฒนธรรม-สันติภาพ’

วันนี้ (17 มี.ค.66) ที่วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวภายหลังการร่วมคณะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ร่วมรับฟังข้อเสนอการสนับสนุนแผนแม่บทโครงการเสนอชื่อครูบาเจ้าศรีวิชัย เป็นบุคคลสำคัญของโลก และติดตามการดำเนินงานในจังหวัดเชียงใหม่ว่า ศธ.มีบทบาทหลักในการสนับสนุนการดำเนินงานขับเคลื่อนการเสนอชื่อ ครูบาเจ้าศรีวิชัย (อินท์เฟือน สีวิเชยฺย) ให้ได้รับการยกย่องเป็นบุคคลสำคัญของโลก ด้านการศึกษา ศาสนา วัฒนธรรม และสันติภาพ ในวาระครบรอบ 150 ปี ชาตกาล ครูบาเจ้าศรีวิชัย ในปี พ.ศ. 2571 ต่อองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก

สำหรับ ‘ครูบาศรีวิชัย’ หรือ ‘พระสีวิไชย’ เป็นพระเถระชาวจังหวัดลำพูน ผู้มีบทบาทสำคัญในการสร้างและบูรณะพุทธศาสนสถานหลายแห่งทั่วภาคเหนือของประเทศไทย จนได้รับการขนานนามว่า ‘ตนบุญแห่งล้านนา’

ครูบาศรีวิชัยเกิดเมื่อวันอังคารที่ 11 มิถุนายน 2421 ปีขาล เวลาพลบค่ำ ขณะนั้นมีพายุฟ้าร้องรุนแรง จึงตั้งชื่อว่า อินตาเฟือน หรือ อ้ายฟ้าร้อง บิดาชื่อควาย ส่วนมารดาชื่ออุสา นายควายบิดาเป็นบุตรของนายอ้าย กับนางน้อยธิดาของหมื่นผาบ (มาต่า) หมอคล้องช้างชาวกะเหรี่ยงแดงจากเมืองกันตรวดีที่เจ้าดาราดิเรกรัตนไพโรจน์ชวนมาอยู่ลำพูนด้วยกัน ส่วนนางอุสามารดาของท่าน บางแห่งว่าเป็นชาวเมืองเชียงใหม่ บ้างว่าเป็นธิดาหนานไจยา ชาวเมืองลี้ เพ็ญสุภา สุขคตะสรุปว่าครูบาศรีวิชัยมีเชื้อสายกะเหรี่ยงแดงจากฝั่งบิดา และอาจมีเชื้อสายกะเหรี่ยงขาวและยองจากฝั่งมารดา

เมื่ออายุได้ 18 ปี ท่านคิดว่าชาตินี้เกิดมายากจนเพราะในอดีตไม่ได้ทำบุญไว้เพียงพอ จึงควรออกบวชรักษาศีลปฏิบัติธรรมไว้เพื่อประโยชน์สุขในภายหน้า และจะได้ตอบแทนพระคุณมารดาบิดาทางหนึ่งด้วย ท่านจึงลาบิดามารดาไปอยู่วัดบ้านปาง ศึกษาเล่าเรียนและบวชเป็นสามเณรกับพระอาจารย์ขัติยะ (หรือครูบาแข้งแขะ เพราะท่านเดินขากะเผลก) จนอายุได้ 21 ปีจึงได้อุปสมบทในอุโบสถวัดบ้านโฮ่งหลวง อำเภอบ้านโฮ่ง จังหวัดลำพูน โดยมีครูบาสมณะ วัดบ้านโฮ่งหลวง เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาในการอุปสมบทว่า ‘สีวิเชยฺย’ มีนามบัญญัติว่า พระศรีวิชัย

หลังจากอุปสมบท ท่านได้ศึกษาไสยศาสตร์กับครูบาขัตติยะและครูบาอุปปละ แล้วมาศึกษากรรมฐานกับพระอุปัชฌาย์ที่วัดบ้านโฮ่งหลวง เมื่อกลับมาอยู่วัดบ้านปาง ท่านมักเจริญภาวนาในป่า ฉันภัตตาหารมื้อเดียว ฉันมังสวิรัติ ไม่ฉันของเสพติด เช่น หมาก พลู บุหรี่ เมี่ยง ทำให้ประชาชนเลื่อมใสท่านมาก เมื่อท่านทราบว่าที่ใดยังขาดเสนาสนะที่จำเป็นหรือกำลังชำรุดทรุดโทรม ท่านจะเป็นผู้นำชาวบ้านไปก่อสร้างจนสำเร็จ ผลงานที่สร้างชื่อเสียงมากที่สุดคือการถนนขึ้นวัดพระธาตุดอยสุเทพ ที่มีระยะทางทั้งหมด 11.530 กิโลเมตร โดยเริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2477 แล้วเสร็จในวันที่ 30 เมษายน 2478

ชื่อเสียงของครูบาเจ้าศรีวิชัย ทำให้พระสังฆาธิการในจังหวัดลำพูนบางรูปนำโดยเจ้าคณะจังหวัดลำพูนตั้งอธิกรณ์กล่าวหาว่าท่าน 8 ข้อ เช่น ทำตัวเป็น “ผีบุญ” อวดอิทธิฤทธิ์ ซ่องสุมกำลังผู้คน คิดขบถต่อบ้านเมือง และนำท่านไปจำไว้ที่ลำพูนและวัดศรีดอนไชย เชียงใหม่ จากนั้นจึงได้ส่งตัวท่านไปไต่สวนที่กรุงเทพฯ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส จึงทรงตั้งคณะกรรมการพิจารณาเรื่องพระศรีวิชัย ประกอบด้วย พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นชินวรสิริวัฒน์ พระญาณวราภรณ์ (ม.ร.ว.ชื่น สุจิตฺโต) และพระธรรมไตรโลกาจารย์ (เจริญ ญาณวโร) ได้ถวายรายงานมีความเห็นว่า ข้อ 1-5 ซึ่งเกี่ยวกับการไม่ให้ความร่วมมือกับฝ่ายปกครอง พระศรีวิชัยรับสารภาพและได้รับโทษแล้ว ข้อที่เหลือซึ่งเกี่ยวกับการอ้างคุณวิเศษ พระศรีวิชัยไม่มีความผิด เพราะประชาชนเล่าลือไปเอง และเจ้าคณะลงโทษเกินไป ควรปล่อยพระศรีวิชัยกลับภูมิลำเนา สมเด็จกรมพระยาวชิรญาณโรรสทรงเห็นชอบ

ครูบาเจ้าศรีวิชัยมรณภาพเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2481 (เมื่อก่อนนับศักราชใหม่ในวันสงกรานต์ ถ้าเทียบปัจจุบันจะเป็นต้นปี พ.ศ.2482) ที่วัดบ้านปาง อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน สิริอายุได้ 60 ปี ตั้งศพไว้ที่วัดบ้านปาง เป็นเวลา 1 ปี จึงได้เคลื่อนศพมาตั้งไว้ ณ วัดจามเทวี อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน จนกระทั่งวันที่ 21 มีนาคม 2489 จึงได้รับพระราชทานเพลิงศพ โดยมีประชาชนมาร่วมในพิธีพระราชทานเพลิงศพจำนวนมาก และประชาชนเหล่านั้นได้เข้าแย่งชิงอัฏฐิธาตุของครูบาศรีวิชัย ตั้งแต่ไฟยังไม่มอดสนิท แม้แต่แผ่นดินตรงที่ถวายพระเพลิง ก็ยังมีผู้ขุดเอาไปสักการบูชา อัฏฐิธาตุของท่านที่เจ้าหน้าที่สามารถรวบรวมได้ได้ถูกแบ่งออกเป็น 7 ส่วน แบ่งไปบรรจุตามสถานที่ต่าง ๆ ทั่วแผ่นดินล้านนาดังนี้

‘หนุ่ม’ แชร์อุทาหรณ์ ซด ‘น้ำกระท่อม’ แทนน้ำเปล่า เผยลำไส้อุดตันเฉียดตาย 14 วัน น้ำหนักหายฮวบ 12 กก.

หนุ่มเตือนเลิกได้เลิก ซดแต่น้ำกระท่อม ลำไส้อุดตันเฉียดตาย เผย 14 วันน้ำหนักฮวบ 12 กิโลกรัม

(17 มี.ค.66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าผู้ใช้เฟซบุ๊กคนหนึ่งออกมาแชร์ประสบการณ์เพื่อเป็นอุทาหรณ์ หลังต้องเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลเนื่องจากซดน้ำกระท่อมแทนน้ำเปล่ามาเป็นเวลานาน โดยโพสต์ภาพขณะนอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาล


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top