Monday, 7 July 2025
NEWS

'หมอมนูญ' ชี้ ประชากรโลกมีโอกาสติดเชื้อโควิดทั้งหมด ย้ำ วัคซีนช่วยให้รอด โควิดอาจกลายเป็นโรคประจำถิ่น

ประเทศอินเดียมีการแพร่ระบาดอย่างหนัก ช่วงเดือนพฤษภาคมปีนี้ มีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 วันละ 400,000 คน แต่ปัจจุบันเดือนสิงหาคม ตัวเลขผู้ติดเชื้อลดลงเหลือวันละ 40,000 กว่าคน

จากผลการวิจัยระดับประเทศสุ่มตรวจเลือดหาแอนติบอดีบ่งบอกถึงมีภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสโควิดจากการติดเชื้อ พบคนอินเดีย 2 ใน 3 ของประชากร คือ 900 ล้านคนติดเชื้อตามธรรมชาติแล้ว พบติดเชื้อตั้งแต่อายุ 6 ปีขึ้นไปเกินครึ่งแล้วทุกอายุ

ทั้งนี้มีบุคลากรทางการแพทย์มีแอนติบอดีร้อยละ 85 มีคนอินเดียอีก 1 ใน 3 คือ 400 ล้านคนที่ยังไม่ติดเชื้อ อินเดียฉีดวัคซีนครบโดสแค่ร้อยละ 8 หรือประมาณ 100 ล้านคนเท่านั้น

จากรายงานอย่างเป็นทางการด้วยการตรวจหารหัสพันธุกรรมของเชื้อไวรัสโควิด ประเทศอินเดียพบผู้ติดเชื้อ 31.8 ล้านคน และคนเสียชีวิต 426,000 ราย ทั้ง 2 ตัวเลขนี้ต่ำกว่าความเป็นจริงมาก คนอินเดียติดเชื้อไปแล้ว 900 ล้านคน ขนาดปรับจำนวนคนเสียชีวิตขึ้น 5 เท่า คือ 2.13 ล้านคน อัตราการเสียชีวิตของคนอินเดียที่ติดเชื้อไวรัสโควิดร้อยละ 0.24

ประเทศอินเดียรายงานพบไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลตาครั้งแรกเดือนตุลาคม 2563 มีการศึกษาระดับประเทศสุ่มตรวจเลือดหาแอนติบอดีเดือนกุมภาพันธ์ และเดือนกรกฎาคม 2564 พบตัวเลขผู้ติดเชื้อในประเทศอินเดียเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 21 คือ 270 ล้านคน เป็น 900 ล้านคนในเวลา 5 เดือน อีกไม่นานคนที่เหลือ 400 ล้านคนก็จะติดเชื้อ เมื่อนั้นโรคโควิดคงจะหยุดการแพร่ระบาด

อัตราตายของโรคโควิดถูกประเมินว่าร้อยละ 1 อัตราตายจริง ๆ น่าจะต่ำกว่านั้น ดูสถิติของประเทศอินเดียอัตราตายของโรคโควิดประมาณร้อยละ 0.24

สรุป : เหตุผลหลักที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อประเทศอินเดียขณะนี้ลดลง ก็เพราะคนอินเดียติดเชื้อแล้วมากกว่า 2 ใน 3 เชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลตาแพร่เชื้อทางอากาศ ติดทางการหายใจ ติดต่อกันง่ายมากเหมือนเชื้อไวรัสโรคอีสุกอีใส ดูจากสถิติของประเทศอินเดียแล้ว เชื่อว่าทุกคนในโลกนี้คงต้องติดเชื้อไวรัสโควิดไม่ช้าก็เร็ว โรคนี้จะหยุดการแพร่ระบาดก็ต่อเมื่อมากกว่าร้อยละ 90 ของคนในประเทศติดเชื้อ เพราะเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ตามธรรมชาติ และโรคนี้จะกลายเป็นโรคประจำถิ่นเหมือนโรคไข้หวัดใหญ่

เราต้องยอมรับความจริงและทำใจวันหนึ่งคงติดเชื้อ ต่อให้มีการล็อกดาวน์ ป้องกันตัวเองเต็มที่ และฉีดวัคซีนแล้วก็ตาม การฉีดวัคซีนไม่ได้ป้องกันการติดเชื้อและการแพร่เชื้อ แต่ลดการป่วยหนักและการเสียชีวิตได้มากถึง 10 เท่าเมื่อเทียบกับคนที่ไม่ได้รับวัคซีน เพราะฉะนั้นขอให้ทุกคนรีบฉีดวัคซีนให้เร็วที่สุดเพื่อป้องกันการป่วยหนักและเสียชีวิตเมื่อติดเชื้อไวรัสโควิด-19


ที่มา : https://www.facebook.com/604030819763686/posts/2004697906363630/


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ธุรกิจญี่ปุ่นสู้โควิดไม่ไหว หลังรัฐบาลประกาศมาตรการควบคุมโรค ด้านผู้ประกอบการวอนรัฐช่วยเหลือก่อนล้มละลาย

อุตสาหกรรมท่องเที่ยวของญี่ปุ่นสูญเสียโอกาสทองทางธุรกิจในช่วงวันหยุดฤดูร้อน เนื่องจากรัฐบาลประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อควบคุมโรคโควิด-19 ผลสำรวจพบกว่า 1 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจต่าง ๆ มากกว่า 1,800 บริษัทปิดกิจการแล้ว

ภายหลังจากญี่ปุ่นได้ขยายเวลาภาวะฉุกเฉินและมาตรการที่เข้มงวดเพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิดในหลายจังหวัด ส่งผลให้ประชาชนจำนวนมากต้องยกเลิกแผนการเดินทางในช่วงวันหยุดฤดูร้อน ซึ่งเป็นช่วงเวลาหนึ่งที่ธุรกิจการท่องเที่ยวคึกคัก

นายคิกูมะ จุนโงะ ประธานของสมาคมบริษัทท่องเที่ยวแห่งญี่ปุ่นระบุว่า การตัดสินใจขยายเวลาภาวะฉุกเฉินทำให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเสียหายอย่างหนัก ส่งผลต่อความอยู่รอดของผู้ประกอบการจำนวนมาก เขากล่าวว่า บรรดาผู้ประกอบการจะร่วมมือกับมาตรการควบคุมการระบาด แต่ก็เป็นเรื่องยากลำบากอย่างยิ่งในการบริหารจัดการ

ตัวแทนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเรียกร้องให้รัฐบาลจ่ายเงินเยียวยา เพื่อให้ผู้ประกอบการต่าง ๆ อยู่รอดได้

การสำรวจโดยบริษัทวิจัย เทโกกุ เดต้าแบงก์ พบว่า บริษัท 1,860 แห่ง ต้องปิดกิจการตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว ถึงต้นเดือนสิงหาคมปีนี้ บริษัทเหล่านี้มีทั้งปิดกิจการไปแล้วหลังจากยื่นขอล้มละลาย หรืออยู่ระหว่างเตรียมการเพื่อขายทรัพย์สิน

ร้านอาหารคือธุรกิจที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด ธุรกิจร้านอาหารกว่า 300 แห่งยื่นขอปิดกิจการ ส่วนภาคก่อสร้างมีธุรกิจกว่า 180 แห่งที่ได้รับผลกระทบ อุตสาหกรรมโรงแรมมีประมาณ 100 แห่ง และกลุ่มผู้ค้าส่งอาหารเกือบ 100 แห่งไปไม่รอด

นักวิเคราะห์ระบุว่า เมื่อผู้ประกอบการปิดกิจการก็จะเกิดผลกระทบเป็นลูกโซ่ต่อบริษัทต่าง ๆ ข้ามอุตสาหกรรม ทำให้อาจมีบริษัทที่ยื่นขอล้มละลายเพิ่มมากขึ้นอีก เนื่องจากรัฐบาลได้ขยายภาวะฉุกเฉินออกไป

จำนวนผู้ติดเชื้อในญี่ปุ่นพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ ในวันพฤหัสบดีที่ 5 สิงหาคม ญี่ปุ่นมีผู้ติดเชื้อที่ 15,263 ราย เฉพาะกรุงโตเกียวยืนยันผู้ติดใหม่ 5,042 คน เป็นสถิติสูงที่สุด


ที่มา : https://mgronline.com/japan/detail/9640000076961


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

“บิ๊กตู่”แสดงความเสียใจกรณีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตที่ภูเก็ต กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งสืบสวนข้อเท็จจริง ย้ำให้เข้มงวดดูแลนักท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รับทราบกรณี Mrs. Nicole Sauvain-Weisskopf (นางนิโคล โซเวน ไวสคอป) สัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ นักท่องเที่ยวในโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ (Phuket Sandbox) เสียชีวิตบริเวณธารน้ำตกโตนอ่าวยน ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมา และขอแสดงความเสียใจไปถึงครอบครัวผู้เสืยชีวิตด้วย  

โดยขณะนี้ เจ้าหน้าทีตำรวจทั้งจากส่วนกลางและในพี้นที่ เร่งสืบสวนข้อเท็จจริงแล้ว พร้อมทั้งสั่งให้รายการกลับมาให้ทราบด้วย ทั้งนี้ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ  ได้โทรศัพท์แสดงความเสียใจกับเอกอัครราชทูตสวิสประจำประเทศไทย ไปยังครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วยตนเอง ซึ่งกระทรวงการต่างเทศจะประสานกับสถานเอกอัครราชทูตสมาพันธรัฐสวิสประจำประเทศไทย เพื่อรายงานความก้าวหน้าทางคดีอย่างต่อเนื่อง 

“นายกรัฐมนตรีกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการสืบสวนและจับกุมผู้กระทำความผิดให้ได้โดยเร็ว พร้อมเน้นย้ำให้ทุกส่วนราชการเพิ่มความเข้มงวดดูแลนักท่องเที่ยวตามโครงการฯ ให้มากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันก็มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศ และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เร่งประสานหน่วยงานต่างๆ เพื่อยกระดับมาตรการด้านสาธารณสฺขและความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและชาวต่างชาติโดยเร็ว พร้อมขอให้คนไทย ช่วยกันรักษาภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศไทย โดยเฉพาะภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเกิดรายได้ให้กับประเทศไทยต่อไป” นายอนุชา กล่าว

รองนายกฯ ‘ดอน ปรมัตถ์วินัย’ ต่อสายตรงแสดงความเสียใจต่อทูตสวิส กรณีนักท่องเที่ยวผู้หญิงถูกฆาตกรรมที่น้ำตกโตนอ่าวยน จังหวัดภูเก็ต ด้านผบ.ตร. บินด่วน พร้อมทีมหนุมานกองปราบ ลงพื้นที่ เร่งคลี่คลายคดี

วันที่ 6 สิงหาคม 2564 จากกรณีพบศพนักท่องเที่ยวสาวสัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ ผู้เสียชีวิต คือ MRS. NICOLE SAUVAIN WEISSKOPF (นิโคล ซาเว่น ไวครอป์) สัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ อายุ 57 ปี เป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาภายใต้โครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ เป็นเจ้าหน้าที่รองหัวหน้าพิธีการทูตสหพันธรัฐสาธารณรัฐเยอรมนี ใช้หนังสือเดินทางประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เดินทางเข้ามาประเทศไทย เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 64 ที่ผ่านมา และพักโรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จนครบ 14 วัน จากนั้นได้เดินทางไปท่องเที่ยวที่ จ.กระบี่ ก่อนจะกลับมาพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.วิชิต และมาพบเสียชีวิตดังกล่าว

ล่าสุ นายธานี แสงรัตน์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ต่างประเทศ ได้โทรศัพท์ด่วนแจ้งข่าวดังกล่าวต่อ นางเฮเลเนอ บุดลีเกอร์ อาร์ทีเอดา เอกอัครราชทูตสวิตเซอร์แลนด์ประจำประเทศไทยแล้ว

กระทรวงการต่างประเทศได้ประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตผ่านหัวหน้าสำนักงานหนังสือเดินทางของกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศที่จังหวัดภูเก็ต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตได้โทรศัพท์ถึงเอกอัครราชทูตสวิสประจำประเทศไทยเพื่อแสดงความเสียใจ และย้ำว่าจะเร่งผลชันสูตร และจับกุมผู้ต้องหาโดยเร็วที่สุด และจะประสานงานกับกระทรวงการต่างประเทศและสถานเอกอัครราชทูตสวิสประจำประเทศไทยอย่างใกล้ชิดต่อไป

ทางด้านพล.ต.ท.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องทั้งในส่วนของพื้นที่ จังหวัด และภาค 8 เพื่อติดตามและเร่งรัดคลี่คลายคดี เนื่องจากเป็นคดีอุฉกรรจ์และอยู่ในความสนใจของคนไทยและชาวต่างชาติ เนื่องจากมีรายงานว่า ผู้เสียชีวิตเป็นชาวต่างชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยวในภูเก็ตภายใต้โครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์

โดยตำรวจได้แบ่งทีมทำงานลงพื้นที่สืบสวนออกเป็น 3 ชุด ประกอบด้วย ทีมตรวจสอบไทม์ไลน์ของผู้เสียชีวิต ทีมตรวจสอบสภาพแวดล้อมในบริเวณที่เกิดเหตุและพื้นที่ใกล้เคียง และทีมสอบสวนหาพยานบุคคลและพยานหลักฐานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยในวันนี้ (6 ส.ค.) พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. จะลงพื้นที่ภูเก็ตเพื่อติดตามความหน้าของคดีด้วยตนเอง พร้อมนำเจ้าหน้าที่หนุมานกองปราบ ลงพื้นที่สืบหาเบาะแสคนร้ายด้วย

ภายหลังการประชุมด่วน พล.ต.ท.กิตติ์รัฐ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบข้อมูลเบื้อง ผู้เสียชีวิตเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ แต่จะเข้ามาตามโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์หรือไม่นั้น ขอตรวจสอบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ชัดเจนอีกครั้ง ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตยังอยู่ระหว่างการสอบสวน และรอผลการชันสูตรของแพทย์ว่า เกิดจากอะไรกันแน่

แต่จากที่มีการนำผ้ายางมาคลุมร่างของศพกึ่งห่อกึ่งคลุมนั้น ทำให้วิเคราะห์ได้ว่า ต้องมีคนนำมาคลุมไว้ จึงสันนิษฐานได้ว่าการเสียชีวิตน่าจะไม่ปกติ ส่วนที่มีกระแสข่าวทางโซเซียลมีเดียว่า เป็นการฆ่าข่มขืนหรือข่มขืนแล้วฆ่านั้น ในเรื่องนี้ยังไม่สามารถระบุได้ จะต้องรอผลชันสูตรของแพทย์เท่านั้น

หากดูจากสภาพศพที่เปลือยท่อนร่าง พอจะสันนิษฐานได้ว่า คนร้ายไม่ได้ประทุษร้ายต่อทรัพย์ เนื่องจากทรัพย์สินของผู้ตายยังอยู่ครบ ส่วนว่าผู้ก่อเหตุจะมากับผู้ตายหรือเป็นคนที่มาพบระหว่างที่นักท่องเที่ยวเดินเข้าป่ามาคนเดียว หรือเป็นคนที่นำพานักท่องเที่ยวเข้าไป ในเรื่องนี้ก็ต้องรอผลการสอบสวนเพื่อหาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นอีกครั้ง


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

'โมเดอร์นา' เผย วัคซีนป้องกันโควิด-19 ยังคงมีประสิทธิภาพสูงถึง 93% หลังฉีดโดสที่ 2 ผ่านไปแล้ว 4-6 เดือน

6 สิงหาคม 2564 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน โมเดอร์นาเปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดีว่า วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของโมเดอร์นายังคงมีประสิทธิภาพที่ประมาณ 93% หลังการฉีดโดสที่ 2 ผ่านไป 4-6 เดือน ซึ่งถือว่าลดลงเพียงเล็กน้อยจาก 94% ในผลการทดลองทางคลินิกฉบับดั้งเดิม แต่มากกว่าของวัคซีนไฟเซอร์-ไบออนเทคที่เหลือราว 84% หลังพ้นระยะ 6 เดือน

รายงานรอยเตอร์และเอเอฟพีกล่าวว่า ผลลัพธ์สุดท้ายของการวิเคราะห์จากการทดลองทางคลินิกระยะที่ 3 ที่เป็นระยะสุดท้าย บ่งชี้ว่าประสิทธิภาพของวัคซีนโมเดอร์นามีความคงทนแม้จะผ่านพ้นการฉีดโดสที่ 2 ไปแล้ว 6 เดือน

ตัวเลขประสิทธิภาพที่ยังคงสูงถึงราว 93% นี้ ถูกนำไปเปรียบเทียบกับประสิทธิภาพของวัคซีนจากบริษัทคู่แข่งที่ใช้เทคโนโลยี mRNA แบบเดียวกันคือ ไฟเซอร์-ไบออนเทค ที่เปิดเผยข้อมูลเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า วัคซีนของพวกเขาประสิทธิภาพลดลงราว 6% ทุก 2 เดือน หรือลดลงเหลือราว 84% หลังฉีดโดสที่ 2 ผ่านไปแล้ว 6 เดือน

บริษัทโมเดอร์นายังกำลังทำการทดลองทางคลินิกวัคซีนบูสเตอร์อีก 3 ชนิดด้วย ซึ่งทั้งหมดสร้างสารภูมิต้านทานหรือแอนติบอดีระดับสูงในการต่อต้านไวรัสโควิดสายพันธุ์ดั้งเดิมและสายพันธุ์ที่น่ากังวล ซึ่งรวมถึง แกมมา, บีตา และเดลตา

สเตฟาน บองเซล หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารของโมเดอร์นา กล่าวในแถลงการณ์เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 5 สิงหาคมว่า เรายินดีที่วัคซีนโควิด-19 ของโมเดอร์นาแสดงประสิทธิภาพที่คงทนถึง 93% ตลอดเวลา 6 เดือน แต่เราตระหนักดีว่าสายพันธุ์เดลตาเป็นภัยคุกคามใหม่ที่สำคัญ ดั้งนั้นเราจึงยังต้องระมัดระวังต่อไป

วัคซีนที่มีความคงทนนั้นจะทำให้ผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้วสามารถยืดเวลารอได้นานขึ้นหากจำเป็นต้องฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมิอีกโดส หรือบางทีอาจไม่จำเป็นต้องฉีดโดสเสริมเพื่อป้องกันโควิด-19 ก็ยังได้ โดยบองเซลชี้ว่า ความคงทนของวัคซีนจะเป็นประโยชน์ต่อผู้คนหลายร้อยล้านคนที่ได้ฉีดวัคซีนของโมเดอร์นาไปแล้ว

ปัจจุบัน เจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขทั่วโลกที่กำลังดิ้นรนรับมือไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลตา กำลังถกเถียงกันว่าวัคซีนบูสเตอร์นั้นมีความปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และจำเป็นหรือไม่ บริษัทไฟเซอร์มีแผนยื่นขออนุญาตวัคซีนโดสที่ 3 ต่อทางการสหรัฐฯ ในเดือนนี้ และบางประเทศ เช่น อิสราเอล ได้เริ่มหรือวางแผนจะฉีดวัคซีนโดสเสริมให้แก่ผู้สูงอายุหรือกลุ่มเสี่ยงกันแล้ว

โมเดอร์นาได้รับอนุมัติจากทางการสหรัฐฯ เพื่อใช้งานแบบฉุกเฉินกับคนวัยผู้ใหญ่เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว และถึงขณะนี้วัคซีนโควิด-19 เมื่อเดือนมิถุนายน และคาดว่ากระบวนการขออนุมัติจะเสร็จสิ้นภายในเดือนสิงหาคมนี้

ปีนี้โมเดอร์นาทำสัญญาขายวัคซีนโควิดมูลค่า 20,000 ล้านดอลลาร์ และคาดว่าจะผลิตวัคซีน 800-1,000 ล้านโดส สำหรับปี 2565 บริษัททำข้อตกลงไว้แล้วมูลค่า 12,000 ล้านดอลลาร์ พร้อมออปชันเสริมอีกราว 8,000 ล้านดอลลาร์ โดยคาดว่าจะสามารถผลิตวัคซีนได้ 2,000-3,000 ล้านโดส


ที่มา : https://www.naewna.com/inter/593053


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ผบช.สตม.ตรวจเยี่ยม ตม.จังหวัดกาญจนบุรี 

ตามนโยบาย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ให้ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจ แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. พร้อมด้วยพล.ต.ต.วรณัน สุขเจริญ ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี, พ.ต.อ.สถิตย์ พรหมอุทัย รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.มานะ นาคทั่ง รอง ผบก.ตม.5 และ พ.ต.อ.อาภากร โกมลสุทธิ รอง ผบก.สส.สตม. เดินทางตรวจเยี่ยม มอบนโยบาย กำชับการปฏิบัติราชการ ของเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จ.กาญจนบุรี 

พบ พ.ต.อ.หฤทธิ์ เอกอุรุ รอง ผบก.ฯ ปรท.ผกก.ตม.จว.กาญจนบุรี และข้าราชการ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ปฏิบัติหน้าที่โดยเคร่งครัดและได้ร่วมปฏิบัติกับ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และ เจ้าหน้าที่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข นำโดย นายชำนาญ ชื่นตา  รองผู้ว่าราชการ จว.กาญจนบุรี ตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลสนามห้องกัก ของ ตม.จว.กาญจนบุรี โดยให้คำแนะนำในการบริหารเหตุการณ์ เพื่อไม่ให้มีการติดเชื้อเพิ่มขึ้น โดยให้ประสานงานกับสาธารณสุขโดยใกล้ชิด และกำชับการปฏิบัติตัวให้อยู่ตามคำแนะนำของสาธารณสุขและปฏิบัติตาม SOP อย่างเคร่งครัด


ทั้งได้ร่วมกันมอบสิ่งของบำรุงขวัญ อาทิ หน้ากากอนามัย, เจลแอลกอฮอล์ และ เครื่องอุปโภค บริโภคที่จำเป็น ในการปฏิบัติงาน เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่เจ้าหน้าตำรวจ ในการปฏิบัติหน้าที่ ตามนโยบายของ ผบ.ตร.พร้อมทั้งได้มอบนโยบาย กำชับการปฏิบัติราชการดังนี้

1.ให้ศึกษาข้อกำหนดฯฉบับที่ 27 และข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะในเรื่องการห้ามออกนอกเคหสถาน  การปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ การปฏิบัติในการเข้าช่วยเหลือประชาชนและให้เตรียมพร้อมสนับสนุนกำลังพลและอุปกรณ์ให้กับตำรวจภูธรในพื้นที่ และถือปฏิบัติตามแนวทางด้านสาธารณสุขหรือ ศบค.กำหนด

2.กำชับการปฏิบัติตามข้อสั่งการ ตร. เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 รุนแรงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ให้หน่วยปรับรูปแบบการปฏิบัติงานให้เกิดความเหมาะสมตามแนวทางที่ ตร.กำหนด โดยพิจารณาปรับรูปแบบการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง (Work From Home) ต้องไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อราชการและการบริการประชาชน

3.จากเหตุคนจีนยิงตำรวจชลบุรี กำชับให้เพิ่มความเข้มในการบังคับใช้กฎหมาย กรณีคนต่างด้าวสัญชาติจีนให้ตรวจสอบ สืบสวนก่อนการอนุญาต และตรวจสอบหลังได้รับอนุญาตว่าเป็นไปตามวัตถุประสงค์หรือไม่ หากพบว่าไม่ถูกต้องให้ดำเนินการเพิกถอนทุกราย ให้มีผลการปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม

4.สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิดสายพันธ์ใหม่ ให้มีมาตรการในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาด ในส่วนของเจ้าหน้าที่ให้ดำเนินการตามมาตรการที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดอย่างเคร่งครัด

5.กำชับให้ปฏิบัติตามข้อสั่งการ ตร. เรื่อง แนวทางการปฏิบัติกรณีคนต่างด้าวเป็นผู้เสียหาย หรือผู้ต้องหาในคดีอาญา หรือถึงแก่ความตายโดยผิดธรรมชาติ

สภากาชาดไทยผนึกกำลัง 'รัฐ -​ เอกชน'​ ให้ความช่วยเหลือผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่บ้าน (Home Isolation)

จากสถานการณ์โควิด-19 ในปัจจุบัน โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานครมีผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวนมาก ทำให้การบริการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลไม่เพียงพอต่อการดูแล สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) จึงได้เปิดระบบดูแลผู้ป่วยโควิดกลุ่มสีเขียวที่บ้าน (Home Isolation: HI) แต่เนื่องจากมีผู้ลงทะเบียนเป็นจำนวนมาก ทำให้พบว่ายังคงมีบางส่วนที่ลงทะเบียนแล้วแต่ยังไม่ได้รับการติดต่อกลับจากเจ้าหน้าที่ ซึ่งผู้ป่วยบางส่วนที่รอการติดต่อเป็นระยะเวลานาน กลายเป็นผู้ป่วยสีเหลืองและสีแดงและบางส่วนก็เสียชีวิตแล้ว

สภากาชาดไทย โดยสำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ เล็งเห็นความสำคัญในส่วนนี้ จึงประสานความร่วมมือกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด19 (ศบค.) กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข สำนักอนามัย ศูนย์เอราวัณ แพทยสภา กรุงเทพมหานคร และทีมอาสาสมัครภาคเอกชน ผนึกกำลังร่วมดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่บ้าน (Home Isolation) หลังลงทะเบียนในระบบ Home Isolation ในกรุงเทพมหานคร นนทบุรี สมุทรปราการ และปทุมธานี และได้ขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการ Home Isolation กับ สปสช.

ทั้งนี้ สปสช. สภากาชาดไทย ร่วมกับทีมงานจิตอาสา เช่น Let’s be heroes หมอริทช่วยโควิด Thai CoCare HICV และอาสาสมัครของสภากาชาดไทยเอง ได้รับผู้ป่วยมาอยู่ในการดูแลในเบื้องต้น จำนวน 3,163 ราย ซึ่งผู้ป่วยจำนวนดังกล่าว ได้ลงทะเบียนในระบบ Home Isolation แล้ว โดยมีสถานีกาชาดที่ 11 วิเศษนิยม กรุงเทพฯ เป็นผู้ประสานงานหลักกับ สปสช. ในการให้ความช่วยเหลือผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่บ้าน ซึ่งหลังจากผู้ป่วยผ่านการติดต่อประสานงาน ประเมินและคัดกรองอาการแล้ว ผู้ป่วยจะได้รับการประเมินอาการทางโทรศัพท์วันละ 2 ครั้ง (Telemedicine) อาหาร 3 มื้อ ปรอทวัดไข้แบบดิจิตอล เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว ยา Favipiravir ยาฟ้าทะลายโจร และยาพื้นฐานอื่นๆ โดยด่วน

ตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคม – 5 สิงหาคม 2564  สำนักงานบรรเทาทุกข์ฯ สภากาชาดไทย ได้ให้ความช่วยเหลือผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่บ้าน (Home Isolation) ตามการประเมินและคัดกรองอาการของผู้ป่วยดังนี้... 

1. ลงทะเบียนผู้ป่วยและรับเข้าระบบรักษาพยาบาล จำนวน 3,163 ราย

2. ประเมินอาการทางโทรศัพท์วันละ 2 ครั้ง (Telemedicine) โดยทีมแพทย์ พยาบาลอาสาสมัคร จาก Let’s be heroes หมอริทช่วยโควิด Thai CoCare HICV และอาสาสมัครของสภากาชาดไทย จำนวน 2,778 ราย

3. ส่งชุดอาหารพร้อมรับประทาน จำนวน 1,600 ราย ถึงบ้านผู้ติดเชื้อโควิด-19 เบื้องต้นก่อนที่จะได้รับอาหารกล่อง

4. ส่งอาหารกล่อง 3 มื้อ จำนวน 1,383 ราย ถึงบ้านผู้ติดเชื้อโควิด-19 ตลอดระยะเวลา Home Isolation

5. ส่งปรอทวัดไข้แบบดิจิตอล จำนวน 1,012 ราย ถึงบ้านผู้ติดเชื้อโควิด-19

6. ส่งเครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว.จำนวน 868 ราย ถึงบ้านผู้ติดเชื้อโควิด-19

7. ส่งยา Favipiravir และยาอื่น ๆ จำนวน 1,400 ราย ถึงบ้านผู้ติดเชื้อโควิด-19

โดยมีอาสาสมัครจากหน่วยงานต่างๆ ทั้งภายในและภายนอกสภากาชาดไทย ได้ให้การสนับสนุนงานด้าน Telemedicine โทรศัพท์คัดกรองข้อมูลผู้ป่วย และจัดส่งอาหาร ยา เวชภัณฑ์ต่างๆ เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการติอต่อ ดูแล และรักษาพยาบาลได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น

‘วัชระ’ ยื่นป.ป.ช. เร่งสอบเอกชนส่อทุจริตเช่าที่ราชพัสดุ เมืองปากน้ำ เหตุไม่ผ่านการประมูลทำรัฐเสียหายกว่า 200 ล้านบาท

5 ส.ค. 64 เมื่อเวลา 13.48 น. ที่สำนักงานป.ป.ช. นายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.ประชาธิปัตย์ ยื่นหนังสือผ่านเจ้าหน้าที่งานสารบรรณถึง พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. และคณะกรรมการป.ป.ช. ขอให้เชิญผู้ร้องเรียนไปให้การ และขอพิจารณาด้วยความเที่ยงธรรมให้กันข้าราชการชั้นผู้น้อยไว้เป็นพยานและคุ้มครองพยานตามกฎหมายป.ป.ช.

นายวัชระ กล่าวว่า การมายื่นหนังสือในครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากที่ตนได้ยื่นหนังสือร้องเรียนป.ป.ช. กรณีนายนริศ ชัยสูตร อดีตอธิบดีกรมธนารักษ์กับพวก ได้กระทำการส่อว่ากระทำการผิดกฎหมายและระเบียบจากกรณีกรมธนารักษ์จัดให้ บริษัท เอเชียน มารีน เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) เช่าที่ราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ สป 668 ต.แหลมฟ้าผ่า อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ โดยไม่ต้องประมูล และแจ้งให้ธนารักษ์พื้นที่สมุทรปราการ จัดทำสัญญาเช่าที่ราชพัสดุ (แบบ ส 8/54) กับบริษัท เอเชียน มารีน เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ผิดประเภทการจัดให้เช่าที่ราชพัสดุ ตามกฎกระทรวงว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการปกครอง ดูแล บำรุงรักษา ใช้ และการจัดหาประโยชน์เกี่ยวกับที่ราชพัสดุ พ.ศ. 2545 ข้อ 23 ทำให้รัฐเสียหายไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาทนั้น

จนบัดนี้การร้องเรียนได้ผ่านมากว่า 2 ปีแล้ว คณะไต่สวนยังไม่เคยเรียกนายพิทักษ์ ดิเรกสุนทร ผู้ร้องเรียนไปให้ปากคำใด ๆ จึงขอให้เรียกนายพิทักษ์ มาให้ปากคำโดยด่วน ขณะเดียวกันอยากขอความเป็นธรรมให้กันพยานบุคคล ที่เป็นผู้แจ้งเบาะแสการทุจริตในครั้งนี้ รวมทั้งตนเองก็พร้อมมาให้การเป็นพยานกับคณะกรรมการ ป.ป.ช.ด้วย และหากคณะไต่สวนไม่สอบพยานหลักฐานจากผู้ร้องเรียน ตนอาจจะยื่นหนังสือให้ป.ป.ช.ชุดใหญ่ตั้งคณะกรรมการสอบสวนป.ป.ช.ชุดไต่สวนต่อไป เพื่อให้เกิดความยุติธรรมยิ่งขึ้น


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

สวทช. เตรียมทดสอบวัคซีนแบบหยอดจมูกกับอาสาสมัครคนไทย แย้ม วัคซีนกันสายพันธุ์เดลตาก็สร้างรอไว้แล้ว

4 ส.ค. 64 ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์และการจัดการ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) และนักไวรัสวิทยา สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ได้โพสต์เฟซบุ๊ก Anan Jongkaewwattana ระบุว่า...

วันนี้ Paper วัคซีนได้ตีพิมพ์ออกมาซะทีครับ หลังจากรอมานาน น้องนักศึกษาเขียนเล่ามาซะยาว เลยถือโอกาสแชร์ต่อนะครับ ไม่อยากเล่าซ้ำครับ

ทีม สวทช. เป็นทีมที่ถนัดเรื่อง Viral vector ครับ เราเลยรับอาสาพัฒนา Viral Vector ใหม่ ๆ มาเป็นวัคซีน ตัวนี้คือตัวแรก คือ นำ Influenza virus มาผสมกับสไปค์ของโควิด เป็นวัคซีนชนิดแบบหยอดจมูก ครับผม ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด…เราจะร่วมมือกับองค์การเภสัชกรรมนำวัคซีนตัวนี้ออกมาทดสอบในอาสาสมัครคนไทยครับ (วัคซีนสายพันธุ์เดลตาก็สร้างไว้รอแล้วนะครับ)”


ที่มา: https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=4646682162038336&id=100000897943637

https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=4825072830840144&id=100000124236509


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ร่วมบริจาคสมทบทุนช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 กับกลุ่ม Up for Thai "ต้องรอด"

กลุ่ม Up for Thai "ต้องรอด" ยังคงส่งต่อความช่วยเหลือด้านอาหารปรุงสุกและสิ่งของอุปโภคบริโภคออกไปอย่างต่อเนื่องในสังคมไทยทุกวันโดยไม่มีวันหยุด เพื่อให้กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19​ สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ ช่วยลดการเคลื่อนย้าย เพื่อลดความเสี่ยงและลดโอกาสการแพร่เชื้อ

เรายังไม่รู้ว่าวิกฤตนี้จะจบลงเมื่อไหร่ แต่สิ่งที่เรารับรู้ได้คือน้ำใจจากผู้บริจาคทุกท่านที่ทำให้เราช่วยเหลือพวกเขาได้

ขอขอบคุณทุก ๆ การบริจาคจากหัวใจ

_____________________________

ร่วมบริจาคกับ​ "ต้องรอด" โดยกลุ่ม​ Up​ for​ Thai

เพื่อส่งมอบความช่วยเหลือจนถึงมือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ต่อไป​ จนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้นได้ที่

????สถานที่ปฎิบัติงานและรับบริจาค :

ศูนย์อาสาต้องรอด Up For Thai วัดเทวสุนทร https://goo.gl/maps/X6VJJXWgD7FxVM6X6

????ที่อยู่ในการจัดส่งสิ่งของบริจาค :

กองอำนวยการ Up For Thai ต้องรอด วัดเทวสุนทร

เลขที่ 1 ม.19 ถ.กำแพงเพชร 6 ลาดยาว จตุจักร กทม. 10900

????หากส่ง Delivery กรุณาติดต่อสอบถาม​ ????โทร : 080-000-4566 (ทีมงานต้องรอด) หรือที่ LINE @upforthai

สมทบทุนเป็นเงินสดที่ :

กสิกรไทย 096-3-23974-2

(ม.ร.ว.เฉลิมชาตรี ยุคล และนางสมใจ พุ่มสมบัติ)

เพราะเรา #ต้องรอด ไปด้วยกัน

“เฉลิมชัย” สั่งประชุมฟรุตบอร์ดด่วนศุกร์นี้เตรียมอัดฉีดมาตรการใหม่หวังดันราคามังคุดเพิ่มต่อเนื่อง พร้อมเปิดแคมเปญวันที่ 8 เดือน 8 จองซื้อมังคุดล่วงหน้าราคาโดนใจช่วยชาวสวนภาคใต้

“อลงกรณ์”เผยข่าวดีทั้งล้งตะวันออกและตู้คอนเทนเนอร์ไหลไปใต้มากขึ้นส่งผลการค้ากลับมาคึกคักราคามังคุดดีขึ้น

ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เปิดเผยวันนี้ว่าแม้ราคามังคุดภาคใต้เริ่มขยับตัวสูงขึ้นจากผลของมาตรการต่างๆซึ่งตนต้องการเห็นการขึ้นราคาอย่างมีเสถียรภาพจึงได้เรียกประชุมคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้(Fruit Board)เป็นวาระพิเศษในวันศุกร์นี้เพื่อประเมินสถานการณ์ทั้งปริมาณและราคาของมังคุดในพื้นที่14จังหวัดภาคใต้รวมทั้งผลสัมฤทธิ์ของมาตรการต่างๆโดยเชิญผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะคณะกรรมการเพื่อแก้ไขปัญหาเกษตรกรอันเนื่องมาจากผลิตผลการเกษตร ระดับจังหวัด (คพจ.) ซึ่งเป็นกลไกการทำงานระดับจังหวัดร่วมประชุมโดยจะมีการพิจารณาถึงมาตรการเพิ่มเติมใหม่ๆและการปรับงบประมาณโครงการให้สอดคล้องกับการบริหารในสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นกรณีพิเศษรวมทั้งข้อเสนอของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรภาคใต้ของพรรคประชาธิปัตย์ในเรื่องการเยียวยาชาวสวนมังคุดที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19และแผนจัดการผลไม้ใน3จังหวัดชายแดนใต้เช่นลองกองเป็นต้นซึ่งกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาก็ได้มีการหารือกับทีมเกษตรและพาณิชย์ตลอดจนเกษตรกร ผู้ประกอบการและศอบต.ไปแล้วโดยมีข้อเสนอให้ฟรุ้ทบอร์ดพิจารณา โดยตนย้ำเสมอว่าเราต้องดูแลชาวสวนทุกจังหวัดในภาคใต้พาฝ่าวิกฤตโควิดไปด้วยกัน

“แม้ว่าราคาของมังคุดทั้งหน้าแผงและหน้าล้งจะมีราคาขยับตัวขึ้น แต่ก็ยังมีความไม่แน่นอนของเสถียรภาพราคาจำเป็นต้องพิจารณามาตรการเสริมเพิ่มเติมเช่นการดึงซัพพลายไปแช่แข็งและแปรรูป เป็นต้น รวมทั้งการขอการสนับสนุนวัคซีนโควิดให้กับผู้ประกอบการค้าทั้งภายในประเทศและส่งออกซึ่งเป็นห่วงโซ่กลไกการค้าที่จะสะดุดขาดตอนไม่ได้”

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในฐานะหัวหน้าทีมฟรุ้ทบอร์ดเฉพาะกิจกล่าวว่าสมาคมผู้ส่งออกทุเรียนและมังคุดแห่งประเทศไทยแจ้งว่า ขณะนี้ผู้ส่งออกและล้งจากภาคตะวันออกได้ทะยอยย้ายลงไปรับซื้อมังคุดที่ภาคใต้โดยเฉพาะชุมพรและนครศรีธรรมราชซึ่งเป็นตลาดและแหล่งผลิตใหญ่เพิ่มมากขึ้นจากมาตรการผ่อนปรนที่ภาครัฐช่วยแก้ไขปัญหาและตู้คอนเทนเนอร์ก็หมุนเวียนกลับมาจากจีนและเวียดนามมากขึ้นโดยการหนุนช่วยของทีมทูตเกษตรไทยในจีน ทำให้ล้งเปิดการรับซื้อเพิ่มขึ้นส่งผลให้ราคามังคุดเริ่มปรับตัวสูงขึ้นถือเป็นสัญญาณที่ดี

นอกจากนี้โดยข้อสั่งการของดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้ขยายโครงการ “เกษตรกรแฮปปี้”โดยจัดแคมเปญใหญ่วันที่8เดือน8 (8สิงหาคม)ให้ทุกภาคส่วนทั่วประเทศสั่งซื้อมังคุดล่วงหน้าในราคา4โล100สำหรับมังคุดคละเกรดคุณภาพสดอร่อยภายใต้ความร่วมมือกับทุกภาคส่วนเช่นบริษัทเซนทรัลพัฒนาของกลุ่มเซนทรัลกรุ๊ป บริษัทไปรษณีย์ไทย สมาคมขนส่งโลจิสติกส์ บริษัทแกร็บ ฯลฯโดยรัฐมนตรีเกษตรฯในฐานะประธานคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ (Fruit Board )จะเป็นผู้นำในการคิกออฟแคมเปญด้วยตัวเองในวันอาทิตย์นี้เวลา08.08นาฬิกา และก่อนหน้านี้รัฐมนตรียังสั่งการล่วงหน้าให้ทุกส่วนราชการในสังกัดกระทรวงเกษตรฯช่วยกันซื้อมังคุด เช่น กรมชลประทาน กรมส่งเสริมการเกษตรและกรมส่งเสริมสหกรณ์ทำให้ช่วยระบายมังคุดออกจากแหล่งผลิตหลายร้อยตันและขอให้ภาครัฐภาคเอกชนช่วยกันซื้อมังคุดให้มากที่สุดในขณะที่การขนส่งเพื่อส่งออกยังมีปัญหาติดขัดไม่คล่องตัว

โควิดระลอกใหม่ ซัดถล่ม’สหรัฐฯ-อังกฤษ’!! ดันยอดติดเชื้อพุ่ง เหตุคน ‘กังขารัฐ’ จน ‘ไม่รับวัคซีน’ !! I Knowledge Times EP.8

???? รอบรู้แบบรู้ลึก ในรายการ ‘Knowledge Times’
????โควิดระลอกใหม่ ซัดถล่ม’สหรัฐฯ-อังกฤษ’!! ดันยอดติดเชื้อพุ่ง เหตุคน ‘กังขารัฐ’ จน ‘ไม่รับวัคซีน’ !!

เมื่อพูดถึงสหรัฐฯและอังกฤษ นับว่าเป็นประเทศที่ประชากรส่วนใหญ่ได้รับวัคซีนโควิด-19 แล้ว แต่กลับกันต้องประสบปัญหายอดผู้ติดเชื้อที่พุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง เพราะยังคงมีประชากรอีกจำนวนหนึ่งที่เลือกไม่รับวัคซีนโควิด-19 

โดยด็อกเตอร์ แอนโธนี ฟาวซี หัวหน้าที่ปรึกษาด้านสาธารณสุขของสหรัฐฯ ได้เปิดเผยว่า แม้สหรัฐฯเคยครองสถิติประเทศที่ฉีดวัคซีนได้เร็วที่สุดในโลกจนถึงเดือนเมษายน แต่ต้องกลับเผชิญกับวิกฤติโควิด-19 อีกครั้ง เมื่อยอดผู้ติดเชื้อมีจำนวนที่พุ่งสูงขึ้นสวนทางกับจำนวนผู้เข้ารับวัคซีน

ซึ่งสถิติผู้ติดเชื้อรายวัน ยิ่งตอกย้ำว่าสหรัฐฯได้ก้าวเข้าสู่ภาวะวิกฤติ โดยในวันที่ 26 กรกฎาคม 2021 มีผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นถึง 88,696 คน เสียชีวิต 273 ราย แม้ว่าในสหรัฐฯจะมีผู้ที่ได้รับวัคซีนไปแล้วเกือบ 60% แต่ยังเหลืออีกกว่าร้อยล้านคนที่ยังไม่ได้รับวัคซีน

โดยข้อมูลจากรัฐฟลอริด้าที่เป็นหนึ่งในรัฐที่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และกว่า 99% ของผู้ติดเชื้อยังไม่ได้รับวัคซีน ซึ่งผู้ติดเชื้อหลายคนก็ตำหนิตนเองว่าน่าจะรีบออกมาฉีดวัคซีนตามแคมเปญของรัฐบาล

ยิ่งแสดงให้เห็นว่าสาเหตุของจำนวนผู้ติดเชื้อที่พุ่งสูงขึ้นมา ส่วนหนึ่งมาจากกลุ่มที่ไม่ยอมรับวัคซีน โดยเฉพาะกลุ่มรัฐทางตอนใต้ และกลุ่มต่อต้านการฉีดวัคซีน ที่เคยออกแคมเปญ My Body, My Choice ตามหลักสิทธิเสรีภาพในการเลือกไม่ฉีดวัคซีน

จากสถานการณ์ที่น่ากังวลขึ้นเรื่อยๆ ด็อกเตอร์ฟาวซี จึงได้เน้นย้ำว่า ประชาชนควรสวมหน้ากากอนามัย และรัฐควรประชาสัมพันธ์ถึงคนที่ยังลังเลจะมาฉีดวัคซีน ให้รีบมารับวัคซีนโดยไว พร้อมเร่งฉีดวัคซีนในกลุ่มเด็ก และเยาวชนโดยด่วน ส่วนวัคซีนกระตุ้นเข็ม 3 นั้น รัฐบาลกำลังพิจารณาอยู่

สำหรับกระแสการต่อต้านการฉีดวัคซีนในสหรัฐฯ ด้านประธานาธิบดี โจ ไบเดน ได้กล่าวถึงปัญหานี้ และทฤษฎีสมคบคิดที่สร้างความเชื่อผิดๆ กับโครงการฉีดวัคซีนของรัฐบาลนั้น ซึ่งถือเป็นอุปสรรคอย่างหนึ่งที่ทำให้การฉีดวัคซีนล่าช้าและจะปราบปรามกลุ่มที่เผยแพร่ข่าวปลอมเหล่านี้อย่างเด็ดขาด

ในด้านของอังกฤษ ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่ประสบความสำเร็จในโครงการวัคซีน แต่กลับพบยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นมากกว่า 3 หมื่นรายต่อวันในเดือนกรกฎาคมนี้ จากการแพร่ระบาดอย่างหนักของสายพันธุ์เดลตา และมากกว่า 60% ของผู้ป่วยอาการรุนแรง ล้วนยังไม่ได้รับวัคซีนเช่นกัน จนถึงขั้นมีผู้ป่วยหลายคนพร่ำบ่นเสียใจ และเสียดายที่ไม่ยอมไปรับวัคซีนแต่แรก จนต้องมาใส่เครื่องช่วยหายใจในวันนี้

เรื่องนี้ ทางทีมแพทย์อังกฤษ ได้มีการฝากเคสตัวอย่าง และขอร้องให้ประชาชนที่ยังลังเล วิตก ไม่ยอมออกไปฉีดวัคซีน ให้ออกมาฉีดกันเถอะ 'หมอขอ' เพราะผลข้างเคียงจากวัคซีนถือว่าน้อยมาก เมื่อเทียบกับความเสี่ยงที่ต้องมาอยู่ที่โรงพยาบาลบนเตียงผู้ป่วยวิกฤติ

และนี่ก็คือการกลับมาของวิกฤติโควิด-19 ในประเทศที่ขึ้นชื่อว่าประสบความสำเร็จในการฉีดวัคซีน แต่เมื่อยังมีคนกังขาในประสิทธิภาพและผลข้างเคียงจากวัคซีนที่รัฐจัดหามาให้ จึงนำไปสู่การเลือกไม่รับวัคซีน และทำให้กลายเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทั้งสหรัฐและ อังกฤษ ต้องกลับมาเผชิญกับวิกฤติโควิด-19 อีกครั้ง


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

องค์การอนามัยโลกเรียกร้องให้ชะลอการฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 หรือบูสเตอร์ออกไปก่อน เพื่อเปิดทางให้ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกฉีดวัคซีนให้ประชากรได้อย่างน้อยร้อยละ 10 เพื่อแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ

ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) กล่าวที่เจนีวาเมื่อวันพุธที่ 4 สิงหาคม เรียกร้องให้ประเทศต่าง ๆ พักการฉีดโดสกระตุ้นของวัคซีนโควิด-19 ไปถึงสิ้นเดือนกันยายนเป็นอย่างน้อย เพื่อช่วยบรรเทาความเหลื่อมล้ำอย่างมากในการกระจายวัคซีนระหว่างประเทศร่ำรวยและประเทศยากจน เขากล่าวว่า การระงับบูสเตอร์ชั่วคราวจะช่วยให้บรรลุเป้าหมายของการฉีดวัคซีนประชากรอย่างน้อยร้อยละ 10 ของทุกประเทศได้

เดือนที่แล้ว อิสราเอลเริ่มฉีดวัคซีนโดสที่ 3 ให้แก่ประชากรอายุเกิน 60 ปี ส่วนเยอรมนีกล่าวเมื่อวันอังคารว่า จะเริ่มฉีดวัคซีนโดสที่ 3 ของไฟเซอร์-ไบออนเทค และโมเดอร์นา ตั้งแต่เดือนกันยายนเป็นต้นไป

ทีโดรส กล่าวว่า เขาเข้าใจเหตุผลที่ประเทศต่าง ๆ ต้องการปกป้องพลเรือนของตนจากไวรัสสายพันธุ์เดลตา แต่เราไม่อาจยอมรับประเทศที่ใช้วัคซีนส่วนใหญ่ที่มีอยู่ในโลกไปแล้วและยังต้องการใช้เพิ่ม ในขณะที่คนในกลุ่มเปราะบางที่สุดในโลกยังไม่ได้รับการปกป้อง

จนถึงขณะนี้มีการฉีดวัคซีนให้ประชากรทั่วโลกแล้วมากกว่า 4,000 ล้านโดส และในจำนวนนี้มากกว่าร้อยละ 80 อยู่ในกลุ่มประเทศร่ำรวย และประเทศที่มีรายได้ปานกลางในระดับสูง

ข้อมูลจากเอเอฟพีระบุว่า นับแต่พบการระบาดครั้งแรกเมื่อปลายปี 2562 ถึงขณะนี้โรคโควิด-19 คร่าชีวิตผู้คนทั่วโลกแล้วไม่ต่ำกว่า 4,247,231 คน สหรัฐฯ มีผู้เสียชีวิตมากที่สุด 614,295 คน ตามด้วยบราซิล 558,432 คน และอินเดีย 425,757 คน


ที่มา : https://www.naewna.com/inter/592799


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

“BYD - บียอนด์” เตรียมพร้อมที่จะก้าวไปอีกขั้น! สู่อะไรที่มากกว่าโบรกเกอร์

บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) หรือ AEC จะเปลี่ยนเป็น “บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน)” และใช้ชื่อย่อหลักทรัพย์ใหม่เป็น BYD ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 9 สิงหาคม 2564 เป็นต้นไป ซึ่งเป็นไปตามที่ผู้ถือหุ้นของบริษัท ได้มีมติอนุมัติไว้ เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา

การเปลี่ยนโฉมบริษัทใหม่ในครั้งนี้ เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ในการขยายธุรกิจที่มุ่งไปสู่การเติบโตในธุรกิจที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นของแผนการปรับโครงสร้างธุรกิจครั้งสำคัญ ทั้งการเสริมสร้างศักยภาพภายในโดยการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้พัฒนาธุรกิจหลักทรัพย์ และเตรียมความพร้อมที่จะก้าวไปสู่การดำเนินธุรกิจใหม่ ๆ เพื่อเสริมสร้างรายได้และเพิ่มความมั่นคงให้บริษัทอย่างยั่งยืน โดยบริษัทมีแผนที่จะเข้าไปร่วมลงทุนในธุรกิจการเดินรถ โดยใช้รถโดยสารไฟฟ้าหรือ E-Bus ของบริษัท ไทยสมายล์บัส จำกัด โดยเป็นการร่วมลงทุนผ่านทางบริษัท เอซ อินคอร์ปอเรชั่น จำกัด ซึ่งอยู่ระหว่างการจัดซื้อรถโดยสารไฟฟ้าจากผู้ผลิต ตามแผนงานและคาดว่าจะมีการส่งมอบรถดังกล่าวภายในไตรมาสที่ 3 นี้

จากแผนธุรกิจดังกล่าว บริษัทมีความมั่นใจว่าจะสามารถสร้างรายได้และการเติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาวให้แก่ผู้ถือหุ้นได้ โดยในขณะนี้ แผนการดำเนินการสำเร็จลุล่วงไปแล้วกว่า 50% ซึ่งภายหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทุเลาลง ผู้คนออกมาใช้ชีวิตได้ตามปกติก็จะเริ่มได้เห็นรายได้จากธุรกิจรถโดยสารไฟฟ้าตามมาเช่นกัน

'ลี เซียนลุง' นายกรัฐมนตรีของสิงคโปร์ กล่าวเตือนสหรัฐฯ ไม่ควรที่จะท้าทายอย่างก้าวร้าวใส่จีน ย้ำ “อันตรายมาก”

นายกรัฐมนตรี ลี เซียนลุง ของสิงคโปร์ กล่าวเตือนในวันอังคาร (4 ส.ค.) ว่า สหรัฐฯ ไม่ควรที่จะท้าทายอย่างก้าวร้าวใส่จีน โดยเขาบอกว่า ทัศนะแบบแข็งกร้าวซึ่งกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ของวอชิงตัน สามารถที่จะกลายเป็นสิ่งที่มี “อันตรายมาก”

นายกฯ ลี กล่าวว่า สหรัฐฯ ได้เคลื่อนตัวออกจากแบบแผนวิธีการที่มุ่งแข่งขันกับจีนอย่างชนิดมุ่งสร้างผลดีโดยรวมขึ้นมา และหันไปสู่การมีความคิดเห็นที่ว่า อเมริกัน “ต้องชนะ ด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง”

“พรรคการเมืองใหญ่ทั้งสอง (ของสหรัฐฯ) ในทุกวันนี้ มีฉันทามติเห็นพ้องต้องกันอยู่อย่างหนึ่ง นั่นคือเรื่องความสัมพันธ์กับจีน” เขากล่าวในเวทีการประชุมความมั่นคงแอสเพน (Aspen Security Forum)

“ทว่าจุดยืนของพวกเขาคือการใช้แนวทางแข็งกร้าว และผมไม่แน่ใจเลยว่านี่เป็นฉันทามติที่ถูกต้องแล้ว” ผู้นำของสิงคโปร์บอก

“ผมไม่ทราบว่าฝ่ายอเมริกันจะตระหนักถึงความเป็นจริงหรือไม่ว่า พวกเขา (จีน) จะกลายเป็นปรปักษ์ที่น่าเกรงขามถึงขนาดไหนในการที่จะต้องรับมือ ถ้าหากพวกเขา (อเมริกัน) ตัดสินใจลงไปว่า จีนคือศัตรูรายหนึ่ง”

“ในสถานการณ์เช่นนี้ ผมจะขอพูดกับทั้งสองฝ่ายว่า (กดปุ่ม) “พอซ” เถอะ คิดกันให้รอบคอบก่อนที่พวกคุณจะ (กดปุ่ม) “ฟาสต์-ฟอร์เวิร์ด” มันมีอันตรายมาก” เขากล่าว

“เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งยวดสำหรับสหรัฐฯ และจีน ที่จะต้องเพียรพยายามเข้ามีปฏิสัมพันธ์ต่อกันเอาไว้ เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะกัน ซึ่งจะก่อให้เกิดความวิบัติหายนะแก่ทั้งสองฝ่าย และแก่โลกด้วย”

ลี ซึ่งมองเห็นกันว่าเป็นผู้หนึ่งที่มีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในคณะผู้นำของทั้งสองประเทศ กล่าวว่า ทัศนะแบบแข็งกร้าวของวอชิงตันที่มีต่อจีนนั้น กำลังผสมโรงเข้ากันกับความเชื่อของฝ่ายจีนที่ว่า สหรัฐฯ นั้นไม่สามารถไว้วางใจได้และต้องการที่จะสกัดกั้นการก้าวขึ้นมาของตน

เขายังวิพากษ์วิจารณ์การที่คณะบริหารไบเดนแสดงความแข็งกร้าวในการพบปะหารือทวิภาคีระดับสูงครั้งแรกกับฝ่ายจีนที่เมืองแองเคอเรจ รัฐอะแลสกา ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

“ความเป็นจริงก็คือไม่ว่าฝ่ายไหนก็ไม่สามารถดูหมิ่นหมายบดขยี้อีกฝ่ายหนึ่งได้หรอก” เขากล่าว

แต่ ลี แสดงความยินดีในเรื่องที่คณะบริหารไบเดนหวนกลับมาสู่นโยบายการต่างประเทศ “ที่มีแบบแผนมากขึ้น” ภายหลังการใช้วิธีการที่ยุ่งเหยิงกระจัดกระจายของคณะบริหารโดนัลด์ ทรัมป์

“ประเทศต่าง ๆ กำลังเฝ้ามองหาความคงเส้นคงวาทางยุทธศาสตร์ระยะยาวจากสหรัฐฯ” เขาบอก และย้ำว่า มันหมายถึงนโยบายที่ “พึ่งพาอาศัยได้และคาดการณ์ทำนายล่วงหน้าได้”

เขากล่าวเน้นว่า ไต้หวันคือจุดที่มีศักยภาพจะกลายเป็นชนวนลุกลามได้มากเป็นพิเศษ

“ผมไม่คิดว่าพวกเขาต้องการที่จะเดินหมากตามอำเภอใจฝ่ายเดียว” อย่างเช่นการเข้ารุกรานไต้หวัน ลีพูดโดยหมายถึงฝ่ายปักกิ่ง

“แต่ผมคิดว่ามีอันตราย (เกี่ยวกับเรื่องนี้) อันตรายที่ว่าคือการคาดคำนวณผิดอย่างใหญ่โตมโหฬาร”

เขาแสดงความซาบซึ้งสำหรับการที่รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ลอยด์ ออสติน แสดงความเห็นเอาไว้ระหว่างอยู่ที่สิงคโปร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยที่ออสตินกล่าวเตือนคัดค้านการเปลี่ยนแปลงสถานะเดิมของสถานการณ์ไต้หวัน ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงในรูปแบบใดก็ตาม

“ผมคิดว่าถ้าหากมีการระมัดระวังคอยประคับประคองจุดยืนกันเอาไว้อย่างชัดเจนและสม่ำเสมอแล้ว เราก็จะสามารถประคับประคองสันติภาพและเสถียรภาพของสองฟากช่องแคบไต้หวันเอาไว้ได้” ลี บอก

แต่ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม “คุณกำลังอยู่ในระยะเวลาที่ยากลำบากอย่างมากทีเดียว” เขากล่าวเสริม


(ที่มา : เอเอฟพี)

https://mgronline.com/around/detail/9640000076530


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top