Monday, 7 July 2025
NEWS

Foxconn ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์ระดับโลก ยืนยันว่าจะเปิดโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในไทย ผ่านความร่วมมือกับ ปตท.

กลายเป็นอีกข่าวใหญ่​ เม​ื่อ​ Foxconn ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์ระดับโลก ยืนยันว่าจะเปิดโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในไทย ผ่านความร่วมมือกับ ปตท.​ โดย​เฟซบุ๊กเพจ​ 'Billionway'​ ได้ฉายภาพวิเคราะห์เกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้อย่างน่าสนใจว่า...

กลายเป็นอีกข่าวใหญ่​ เม​ื่อ​ Foxconn ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์ระดับโลก ยืนยันว่าจะเปิดโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในไทย ผ่านความร่วมมือกับ ปตท.

Foxconn เป็นใคร?

Foxconn​ บริษัทผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ มีมูลค่าประมาณ 1.8 ล้านล้านบาท ใหญ่เป็นอันดับสองของไต้หวัน​ โดยชิ้นส่วนที่เอ่ยปุ๊บจะรู้จักทันที​ ก็คือ​ การผลิตชิ้นส่วนให้กับ iPhone และสมาร์ทโฟนอีกหลาย ๆ เจ้า

แต่ปัจจุบันตลาดสมาร์ทโฟนเริ่มชะลอตัว โตปีละประมาณ 10% ขณะที่ตลาดยานยนต์ไฟฟ้าเติบโตอย่างรวดเร็ว เฉลี่ยปีละ 40% ทำให้ Foxconn หันมาขยายธุรกิจทำชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าด้วย

ตัดกลับมาที่ ปตท. หลายคนทราบดีอยู่แล้วว่านี่คือบริษัทมูลค่าเกือบ 1 ล้านล้านบาท เป็นทั้งบริษัทพลังงานที่ใหญ่ที่สุด และบริษัทจดทะเบียนใหญ่ที่สุดของไทย

ปตท. มีบริษัทลูกที่ทำธุรกิจครอบคลุมด้านพลังงานแทบทุกอย่าง ทั้งสำรวจปิโตรเลียม โรงกลั่น ปิโตรเคมี บริหารปั๊มน้ำมัน ผลิตไฟฟ้า ไปจนถึงประกันภัย​ ซึ่งพอธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าเริ่มเติบโต จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่บริษัทพลังงานรายใหญ่ จะให้ความสนใจในเรื่องนี้ด้วย

ล่าสุดทาง Foxconn ประกาศแผนงานของบริษัท ว่าจะมีการเปิดโรงงานรถยนต์ไฟฟ้าใน 'สหรัฐอเมริกา'​ เพื่อใช้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ Fisker และ 'ประเทศไทย'​ ภายในปี 2022 นี้

สำหรับในสหรัฐอเมริกา คงไม่ใช่เรื่องน่าตื่นเต้นของคนท้องถิ่นมากนัก แต่สำหรับไทย เรื่องดังกล่าวถือว่าเป็นเรื่องน่าสนใจพอสมควร

ทั้งนี้ทางบริษัทฯ​ ก็ยืนยันอย่างชัดเจนว่า โรงงานในไทย จะเป็นการร่วมมือกันกับ ปตท. เพื่อผลิตใช้งานในประเทศ ก่อนที่จะขยายสู่การขายในตลาดอาเซียนต่อไป

โดยโรงงานแห่งนี้ จะมีกำลังการผลิตแรกเริ่ม 150,000 - 200,000 คันต่อปี และน่าจะเริ่มผลิตจริงได้ภายในปี 2023

ข่าวดังกล่าว ตรงกับข่าวที่ ปตท. เคยออกมาให้ข้อมูลก่อนหน้านี้​ โดยย้อนกลับไปในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ได้มีการเซ็นข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่าง ปตท. และ Foxconn เรียบร้อยแล้ว

ข้อตกลงดังกล่าว เป็นการศึกษาโอกาสในสร้างฐานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในไทย เพื่อผลักดันไทยให้เปลี่ยนจากอุตสาหกรรมยานยนต์แบบเก่า สู่เทคโนโลยียานยนต์ใหม่

เบื้องต้น คาดว่าจะเป็นการลงทุนร่วมกันราว ๆ 30,000 - 60,000 ล้านบาท ก่อนที่จะขยายต่อไปในอนาคต

ย้อนกลับไปในปี 2019 เคยมีข่าวว่าทาง ปตท. จับมือกับ WM Motors ค่ายสตาร์ทอัปรถยนต์ไฟฟ้าจากจีน ศึกษาเรื่องการทำรถยนต์ไฟฟ้าขายในแบรนด์ตัวเอง หรืออาจจะเป็นตัวแทนเพื่อผลิตและจำหน่ายในประเทศไทย​ ซึ่งก็ดูเหมือนว่าภาพของความพยายามเข้าสู่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของ ปตท. นั้น จะชัดเจนมากขึ้นเรื่อย ๆ

อย่างไรก็ตาม ในเรื่องของโรงงานผลิตที่ระบุว่าจะเปิดในปีหน้า และเริ่มผลิตได้จริงในปี 2023 นั้น ทาง ปตท. ยังไม่มีการเปิดเผยอะไรออกมา

เพราะฉะนั้น จนกว่าจะมีการเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติม เราก็ยังไม่มีสามารถยืนยันได้แน่นอน 100% ว่าโรงงานดังกล่าวจะเป็นการทำรถยนต์ไฟฟ้าในแบรนด์ของ ปตท. เอง หรือจะเป็นแบรนด์ที่รับผลิตชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ไปจนถึงรถทั้งคันให้กับเจ้าใหญ่รายอื่น ๆ ในตลาดหรือไม่

แต่สิ่งที่น่าสนใจก็คือการลงทุนของ 2 บริษัทยักษ์ใหญ่ใน 2 ประเทศนี้ เป็นอีกก้าวหนึ่งที่น่าจับตามอง และอาจจะเป็นสัญญาณถึงจุดเปลี่ยนแปลงในวงการยานยนต์ของไทยด้วย ก็เป็นได้เช่นกัน


ที่มา : https://www.facebook.com/331394447302302/posts/1274010556374015/

https://techcrunch.com/2021/08/12/foxconn-plans-to-build-ev-factories-in-the-us-and-thailand-in-2022/


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

“พระครูแจ้” ภิกษุ พระผู้มีแต่ให้ ได้เมตตาช่วยเหลือประชาชนให้ฉีดวัคซีน พร้อมแจกปัจจัยบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อเทิดพระเกียรติในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหา

วันที่ 12 สิงหาคม 2564 ที่ภายในวัดบางพลีใหญ่กลาง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ได้มีการจัดกิจกรรมเพื่อเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยท่านพระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ (พระครูแจ้) เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ มีความเมตตาต่อประชาชนผู้ประกอบอาชีพ วินมอเตอร์ไซค์รับจ้างและผู้ประกอบอาชีพขับรถแท็กซี่  จึงได้ประสานความร่วมมือกับทาง  นายแพทย์พิเชษฐ พัวพันกิจเจริญ  ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบางพลี สมุทรปราการ จัดกิจกรรมเทิดพระเกียรติเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ให้ประชาชนทั่วไปและผู้ที่ขับขี่วินมอเตอร์ไซค์รับจ้างรวมถึงคนขับรถแท็กซี่  ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนให้ได้รับการฉีดวัคซีน ฟรี จำนวน 2,000 คน เพื่อเป็นการร่วมเทิดพระเกียรติเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหา ณ ศูนย์ฉีดวัคซีนวัดบางพลีใหญ่กลาง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ

โดยท่านพระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง ได้เห็นถึงความสำคัญของประชาชนที่ประกอบอาชีพ 2 อาชีพนี้ เนื่องจากเป็นงานบริการที่มีความเสี่ยงในการรับเชื้อโควิด-19 ประกอบกับสถานการณ์ในปัจจุบันที่ยังคงมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงเช้าทางวัดบางพลีใหญ่กลาง ได้มีพิธีเปิดกรวยถวายราชสักการะหน้าพระฉายาลักษณ์  โดยนายแพทย์ พิเชษฐ พัวพันกิจเจริญ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบางพลี เป็นผู้เปิดกรวยดอกไม้

จากนั้น ในช่วงบ่ายของวันที่ 12 สิงหาคม 64 ท่านพระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง พร้อมด้วย นายแพทย์พิเชษฐ พัวพันกิจเจริญ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบางพลี ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนและให้กำลังใจบุคคลากรทางการแพทย์ยังโรงพยาบาลสนาม โดยท่านพระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง ได้เมตตามอบเงินสดให้บุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ที่ปฎิบัติหน้าที่ดูแลผู้ป่วยภายในโรงพยาบาลสนาม คนละ 500 บาท เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการปฎิบัติหน้าที่ อีกทั้ง ยังเป็นการแสดงออกถึงความห่วงใยที่มีต่อบุคลากรทางการแพทย์ และเพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหา อีกด้วย


ภ่พ/ข่าว  คิว-ข่าวสมุทรปราการ  รายงาน

สมเด็จธงชัย มอบชื่อไทยใหม่ 'ชัชชัย ชเว' ให้โค้ชเช หัวหน้าผู้ฝึกสอนเทควันโดทีมชาติไทย

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 12 สิงหาคม 2564 ณ วัดไตรมิตร ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย “โค้ชเช” ชเว ยอง ซอก หัวหน้าผู้ฝึกสอนเทควันโดทีมชาติไทย และ “น้องเทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก 2020 เข้าพบ สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี หรือ “สมเด็จธงชัย”

โดยโอกาสนี้ “สมเด็จธงชัย” ได้มอบชื่อไทย ชัชชัย ชเว ให้กับ โค้ชเช หัวหน้าผู้ฝึกสอนเทควันโดทีมชาติไทย

ก่อนหน้านี้ มีการเปิดเผยด้วยว่า ก่อนเดินทางไป “โตเกียวเกมส์” ทีมเทควันโดของไทย ได้เข้าพบ “สมเด็จธงชัย” โดยได้รับมอบยันต์มาทั้งทีม ซึ่งตัว “โค้ชเช” เผยว่า ตนได้พกติดตัวไปด้วย และนำไปใช้ระหว่างการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศอีกด้วย

สำหรับชื่อ ชัชชัย ของ “โค้ชเช” แปลว่า “มีชัยชนะที่มั่นคง” โดยวันนี้ (13 ส.ค.) จะยื่นเอกสารใช้ชื่อ "ชัชชัย" อย่างเป็นทางการ


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

อาสาสมัครฉีดวัคซีน ChulaCOV-19 เผย รอดจากการติดเชื้อได้ หลังจากใกล้ชิดผู้ติดเชื้อหลายครั้ง

จากเฟซบุ๊ก​ 'Sukrit Terapanyarat'​ โดย​ สุกฤษฏิ์ ธีระปัญญารัตน์​ นักเขียนอิสระ และเจ้าของร้านหนังสือเปเปอร์ ยาร์ด ได้นำเสนอประสิทธิภาพวัคซีน​ ChulaCOV-19 ที่ผลิตขึ้นโดยคนไทยผ่านมุมมองของเขาที่ได้เป็นอาสาสมัครจริงในการทดสอบผลลัพธ์ของวัคซีนว่า..

ก่อนอื่นต้องอธิบายว่า ทางโครงการวิจัยไม่ได้มีการเปิดเผยเลขภูมิคุ้มกันของวัคซีนแก่ อสม. เพียงแต่บอกได้ว่ามันดีมาก

ดังนั้น นี่จะเป็นการรีวิวและอธิบายจากประสบการณ์จริง เมื่อที่บ้านและออฟฟิศของผม ติดโควิดเกือบยกครัว แต่ "ผม" เป็นคนเดียวที่ไม่ติด

1.) วัคซีน ChulaCOV ถูกพัฒนาขึ้นโดยศูนย์วิจัยวัคซีน คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ โดย ศ.นพ.เกียรติ รักษ์รุ่งธรรม

2.) วัคซีน ChulaCOV เป็นวัคซีนชนิด mRNA ที่มีพัฒนาและวิจัยต่อยอดจาก Moderna ดังนั้นประสิทธิภาพที่ออกมาจึงมั่นใจได้ว่าเทียบเท่า Pfizer และ Moderna หรืออาจจะดีกว่าสำหรับการป้องกันไวรัสสายพันธุ์เดลตา เพราะกำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาต่อไปหลังจากทดสอบกับ อสม. กลุ่มแรก

3.) ผมได้รับวัคซีนขนาด 25 ไมโครกรัม (ใช้น้อยกว่า Pfizer) จำนวน 2 โดส ฉีดห่างกัน 3 สัปดาห์

4.) อาการและผลข้างเคียง :

[โดสแรก] วันที่ 24 มิ.ย. 64 - มีอาการปวดหัวและอ่อนเพลียอย่างเห็นได้ชัดต่อเนื่องราว ๆ 2-3 วัน ไม่มีไข้ และยังทำงานได้ปกติ

[โดสสอง] วันที่ 15 ก.ค. 64 - ปวดหัวหนักกว่าโดสแรก หลังจากฉีด 2 ชั่วโมง และถึงขั้นซมหลังฉีด 6 ชั่วโมง มีไข้หรือตัวรุม ๆ แต่ไข้ไม่สูง ปวดหัวตลอดทั้งคืน กว่าจะทุเลาลงก็คือวันที่สอง ซึ่งนอนซม รบกวนการทำงานแน่นอน หลังจากนั้นไข้หายในสองวัน ส่วนอาการปวดหัวจะต่อเนื่องไปร่วม 3-4 วันเลยทีเดียว

5.) หลังจากฉีดวัคซีนครบสองโดสได้ราวหนึ่งสัปดาห์ พ่อของผมเริ่มมีอาการป่วย ปวดหัว ไอ ส่วนพนักงานที่ออฟฟิศไปตรวจโควิด Rapid Antigen Test ผลปรากฏว่าติดโควิด จึงมีการตรวจกันทั้งบ้าน

ผลลัพธ์ : พนักงานออฟฟิศติด 2 คน ไม่ติด 1 (ซึ่งคนที่บ้านของพนักงานติดเกือบยกครอบครัว), และพ่อของผม

6.) เพื่อความแน่ใจ ทางโครงการวิจัยได้นัดให้ผมไปตรวจ RT-PCR อีกรอบ เพราะผมกลายเป็นกลุ่มเสี่ยงใกล้ชิดผู้ป่วย ซึ่งผลออกมาว่า ผมไม่มีเชื้อโควิดจริง ๆ

7.) คุณพ่อมีอาการหนักสุด ส่วนพนักงานแทบไม่มีอาการ ได้ทำการรักษาตามอาการแบบ Home Isolation แยกบ้านกันอยู่

8.) เหตุการณ์เหมือนจะไม่มีอะไร แต่หลังจากนั้นประมาณ 1 สัปดาห์ อยู่ ๆ อาการคุณพ่อก็ทรุดหนัก ไข้ขึ้นสูง SpO2 ลดลงต่อเนื่องจาก 95 เหลือ 92 ในตอนเย็น และเหลือ 89 ในตอนกลางคืน ไม่ค่อยมีสติและลำบากในการสื่อสาร

9.) ด้วยความจำเป็นที่จะต้องหาโรงพยาบาลด่วน ซึ่งอย่างที่ทุกคนทราบคือ ทุกที่เตียงเต็ม แต่โชคดีที่ติดต่อโรงพยายาลสมุทรสาครได้ ถึงกระนั้น โรงพยาบาลก็ไม่มีรถฉุกเฉิน จำเป็นที่เราจะต้องขับรถไปเอง

วันนั้น (29 ก.ค.) หลังจากเพิ่งตรวจ RT-PCR ในวันเดียวกัน ผมต้องใกล้ชิดคุณพ่อที่เป็นผู้ป่วยอีกครั้ง ครั้งนี้มีการสัมผัสและใกล้ชิดมาก แต่ด้วยความจำเป็นต้องพาไปโรงพยาบาล จึงไม่มีทางเลือก (อุปกรณ์ป้องกันมีเพียง หน้ากากอนามัยสองชั้น face shield และถุงมือยาง)

10.) พ่อของผมโชคดีที่ห้อง ER มีเตียงว่าง ได้รับการรักษาและรับยาฟาวิฯ ทันที แม้จะยังไม่เคยตรวจ PCR มาก่อน ก่อนจะได้แอดมิทที่โรงพยายาลสมุทรสาคร แม้จะเป็นผู้ป่วยนอก ซึ่งปัจจุบันอาการดีขึ้นมากแล้ว ย้ายไปโรงพยาบาลสนาม และใกล้จะได้กลับมารักษาตัวต่อที่บ้าน

11.) ส่วนตัวผมเองยังมีนัดต้องไปเจาะเลือดเก็บตัวอย่างกับทางโรงพยาบาลจุฬาฯ เพื่อวัดภูมิวัคซีนหลังฉีด 3 สัปดาห์ ซึ่งเป็นเวลาหลังจากผมสัมผัสผู้ป่วยโดยตรงประมาณ 12 วัน ไม่ได้มีอาการอะไร จึงได้ทำการ Rapid Antigen Test อีกครั้ง และผลก็ออกมาบอกว่า ผมไม่มีเชื้อ

อย่างที่เห็นก็คือว่า ผมผ่านการเสี่ยงติดเชื้อมาแล้วถึงสามครั้ง และตรวจสามรอบ

ครั้งที่ 1 - คือการทำงานในออฟฟิศ อยู่กับผู้ที่ติดเชื้อโควิด ในช่วงที่เชื้อกำลังฟักตัวและไม่มีอาการ

ครั้งที่ 2 - หลังจากคนรอบข้างอาการเริ่มออก ผลจรวจออกมา เริ่มมีการให้พนักงาน WFH แต่ก่อนหน้านั้น ผมเองยังคงต้องขับรถ ร่วมโดยสารกับผู้ที่ติดเชื้อทุกวัน

ครั้งที่ 3 - กลับมาสัมผัสผู้ป่วยโควิดโดยตรงอีกครั้ง หลังจาก distancing กันมานานสัปดาห์นึง

ด้วยผลทดสอบนี้ น่าจะบ่งบอกได้ดีถึงประสิทธิภาพของวัคซีน mRNA ได้ดีในระดับนึง และเป็นเหตุผลว่า ทำไมวัคซีน ChulaCOV น่าจะเป็นวัคซีนตัวความหวังของคนไทย สำหรับคำถามว่า "คนไทยจะได้ฉีดวัคซีนตัวนี้เมื่อใด"

คำตอบก็คือ กว่าจะวิจัยพัฒนาและทดสอบกลับ อสม. กลุ่มสอง กลุ่มสามเสร็จ น่าจะช่วงไตรมาส 1-2 ของปี 2565 เลยครับ ถึงกระนั้น ถ้ามันฉุกเฉินจริง ๆ ไม่แน่ว่า อาจจะมีการใช้วัคซีนตัวนี้เป็น เข็มสาม ในช่วงปลายปี

และที่สำคัญที่สุด ถึงแม้จะได้วัคซีนที่ดีแล้วยังไง การ social distancing ก็ยังสำคัญ เพราะผลลัพธ์ที่เกิดกับสหรัฐฯ ตอนนี้ เป็นตัวอย่างที่ดีของการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรค


ที่มา : https://www.facebook.com/peecee131


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

“สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี” ทรงกรุณาโปรดฯพระราชทานผ้าไตร เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2564

เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2564 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงกรุณาโปรดฯพระราชทานผ้าไตร จำนวน ๓๙ไตร ถวายพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์เจริญพระพุทธมนต์โพชฌังคปริตร ๑๐๘ จบ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ "สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง" ในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2564 เวลา 17.07 น. ณ.วัดคลองใหม่ แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กรุงเทพมหานครนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้

ในการนี้ "หม่อมราชวงศ์ปณิธาน จรูญโรจน์" ร่วมเป็นเกียรติในพิธีฯ พร้อมทั้งพุทธศาสนิกชน ประชาชน ทุกหมู่เหล่า น้อมเกล้า "ถวายพระพรชัยมงคล ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน" อีกทั้งยังเป็นการร่วมกันแสดงออกถึงความจงรักภักดีและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์

ผู้นำสิงโปร์ ออกโรงเตือน!! ‘สหรัฐฯ’ อย่าเดินเกมงัดข้อกับ ‘พญามังกร’ เพราะทุกแรงปฏิปักษ์​ เต็มไปด้วย​ ‘อันตราย’ | Knowledge Times EP.10

???? รอบรู้แบบรู้ลึก ในรายการ ‘Knowledge Times’
???? ผู้นำสิงโปร์ ออกโรงเตือน!! ‘สหรัฐฯ’ อย่าเดินเกมงัดข้อกับ ‘พญามังกร’ เพราะทุกแรงปฏิปักษ์​ เต็มไปด้วย​ ‘อันตราย’

ไม่นานมานี้​ นายกรัฐมนตรี ลี เซียนลุง ของสิงคโปร์ กล่าวเตือนท่าทีของสหรัฐฯ​ ที่มีต่อจีนได้อย่างน่าสนใจว่า นาทีนี้สหรัฐฯ​ ไม่ควรท้าทายจีนในทุก ๆ​ ด้านด้วยความก้าวร้าว และทัศนะอันแข็งกร้าว เพราะอาจนำมาสู่สิ่ง “อันตรายอย่างมาก”

โดย นายกฯ ลี ได้ให้มุมมองว่า ตอนนี้สหรัฐฯ​ เริ่มกลับมาเปลี่ยนท่าทีกับจีน จากการที่คิดจะมุ่งสร้างประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่าย สู่ท่าทีที่ สหรัฐฯ “ต้องชนะ” ด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง ซึ่งท่าทีนี้ไม่แน่ใจว่าจะนำไปสู่ความถูกต้องเพียงใด

ผู้นำสิงคโปร์ กล่าวอีกว่า ไม่รู้ว่าสหรัฐฯ ได้ตระหนักหรือไม่ ว่าจีนขณะนี้ถือเป็นปรปักษ์ที่น่าเกรงขามอยากมากในการรับมือ ถ้าหากสหรัฐฯ ตัดสินใจว่า จีนเป็น “ศัตรู”

เพราะ​ผู้นำสิงคโปร์ ซึ่งนับว่าเป็นอีกบุคคลที่มีความเข้าใจทั้งสองชาติอย่างลึกซึ้ง​ เชื่อว่า​ ทัศนะแบบแข็งกร้าวของสหรัฐฯ ที่มีต่อจีน ยิ่งตอกย้ำความเชื่อของจีนที่ว่า สหรัฐฯ​ นั้นไม่สามารถไว้วางใจได้และต้องการที่จะขัดขวางการก้าวขึ้นมาของจีน

ซึ่งอย่างน้อย ๆ​ ก็มี 5 ประเด็นอ่อนไหวในตอนนี้​ ที่จีนจะไม่มีวันยอม หากสหรัฐฯ หรือชาติอื่นใดจะมาล้ำเส้นจีน​ จนเกินงาม!! อาทิ​ เรื่องของ​ ไต้หวัน​ / ฮ่องกง​ / ทิเบต​ / ซินเจียง​ และ​ ทะเลจีนใต้

นอกจากนี้ นายกฯ ลี ยังวิพากษ์วิจารณ์การที่คณะบริหารไบเดนแสดงความแข็งกร้าวในการพบปะหารือทวิภาคีระดับสูงครั้งแรกกับฝ่ายจีนที่เมืองแองเคอเรจ รัฐอะแลสกา ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมาว่า ในความเป็นจริง​ ก็คือ​ ไม่มีฝ่ายไหนสามารถดูหมิ่นหรือบดขยี้อีกฝ่ายหนึ่งได้

แต่ในขณะเดียวกันก็ได้ชื่นชมคณะบริหารไบเดน ที่เลือกใช้นโยบายการต่างประเทศ “ที่มีแบบแผนมากขึ้น” หลังจากคณะบริหารของโดนัลด์ ทรัมป์ ได้สร้างความยุ่งเหยิงไว้ หลังจากประเทศต่าง ๆ​ ทั่วโลก ยังคงเฝ้าคอยยุทธศาสตร์ระยะยาวที่คงเส้นคงวาจากทางสหรัฐฯ รวมทั้งนโยบายที่พึ่งพาอาศัยและคาดการณ์ได้

ผู้นำสิงคโปร์ ยังเตือนถึงประเด็นไต้หวันที่สามารถเป็นชนวนลุกลามได้มากเป็นพิเศษ โดยมองว่าจีนคงไม่อยากเดินหมากฝ่ายเดียว เช่น การรุกรานไต้หวัน และเชื่อว่ายังมีอันตรายจากการคิดคำนวณที่ผิดพลาดครั้งใหญ่จากเรื่องนี้ พร้อมชื่นชม ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ซึ่งได้กล่าวเตือนการเปลี่ยนแปลงสถานะเดิมที่เป็นอยู่ของสถานการณ์ไต้หวัน 

เรียกได้ว่า​ ถ้าหากสหรัฐฯ รักษาจุดยืนเช่นนี้ได้ ก็จะสามารถประคับประคองสันติภาพและเสถียรภาพข้ามช่องแคบไต้หวันไว้ได้

โดยสรุปแล้ว​ ผู้นำสิงคโปร์​ ก็หวังเห็น​ ฝั่งจีนและสหรัฐฯ​ รักษาปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อกันเอาไว้​ ภายใต้สถานการณ์โลก​ ณ​ ปัจจุบัน​ และทั้งสองฝ่ายควรหยุด และคิดอย่างรอบคอบก่อนที่จะตัดสินใจเดินหน้าทำการณ์บางอย่างแบบ​ Fast​ Foward 

เพราะอาจเกิดอันตราย ที่จะสร้างหายนะให้กับทั้งสองฝ่ายและทั้งโลกได้ในอนาคต...

.

.


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
- ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
- รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
- สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
- แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ยุติบทบาทสภาเมืองพัทยา 'ปธ.-สม.'​ อำลาตำแหน่ง

ประธานสภาเมืองพัทยา เผย สม.ยื่นหนังสือลาออกไม่ทราบเหตุผล ส่งผลให้ สม.ที่เหลือมีจำนวนไม่ครบกึ่งหนึ่งตามกฎหมายที่ต้องยุติบทบาทอำลาตำแหน่ง

นายอนันต์ อังคณาวิศัลย์ ประธานสภาเมืองพัทยา เปิดเผยว่า คสช.ได้แต่งตั้งประธานคณะกรรมการสรรหาแต่งตั้งสมาชิกสภาเมืองพัทยา ตามข้อบังคับกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกสภาท้องถิ่นเมืองพัทยาและผู้บริหารเมืองพัทยาเป็นการชั่วคราว พ.ศ.2559 

จึงแต่งตั้งสมาชิกสภาเมืองพัทยาจำนวน 12 คน ต่อมาสมาชิกสภาเมืองพัทยา 4 ราย ต้องย้ายไปดำรงตำแหน่งเป็นนายกเมืองพัทยา ย้ายไปดำรงตำแหน่งราชการที่สูงขึ้น และเกษียณอายุราชการไปทำให้ปัจจุบันมีสมาชิกสภาเมืองพัทยาเหลือเพียง 8 คน

การประชุมสภาเมืองพัทยา ที่ผ่านมา สมาชิกสภาเมืองพัทยา จำนวน 4 คน คือ นายวันต์ หนาวเหนียว, นายโชฎึก โชติกำจร, นายศักดิ์สิทธิ์ แย้มศรี และนายชาคร กัญจนะวัตตะ ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่ง โดยไม่ทราบเหตุผล จึงทำให้เหลือสมาชิกสภาเมืองพัทยา เพียง 4 คน ไม่ครบกึ่งหนึ่งตามที่กฎหมายกำหนด

ทำให้สมาชิกที่เหลืออีก 4 คน คือนายอนันต์ อังคณาวิศัลย์, พลเรือเอกศรีวิสุทธิ์ รดารุณ, นายธเนศ ศุภรสหัสรังสี และนายสินธ์ไชย วัฒนศาสตร์สาธร ต้องยุติบทบาทการทำหน้าที่ไปโดยปริยายตามกฎหมาย หรือเรียกว่าสภาเมืองพัทยา ชุดปัจจุบันหมดภาระหน้าที่ทั้งหมด

ดังนั้น เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ถือว่าสมาชิกที่เหลือต้องหมดหน้าที่ตั้งแต่วันที่ 10 สิงหาคม 2564 เพราะมีจำนวนไม่ถึงกึ่งหนึ่งตามกฎหมายกำหนด ขณะนี้ได้มอบหมายให้ทางรองปลัดเมืองพัทยา เร่งทำหนังสือไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ว่าจะดำเนินการเสนอแต่งตั้งใครมารับตำแหน่งต่อไป

นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี ก012 ชลบุรี 0909535645

 

“เฮียเอี๋ยว” ผู้บริหาร บริษัท โคมอส จับมือร่วมกุศล มอบ 100,000 บาท พร้อมอาหารปรุงสุก 300 กล่อง ถวายพระครูแจ้ เทิดพระเกียรติ 12 สิงหา

นายสุดใจ จิรยาภากร กรรมการบริหาร บริษัท โคมอส คอร์ปอเรชั่น จำกัด และประธานที่ปรึกษา กต.ตร.สภ.เมืองสมุทรปราการ พร้อมด้วย นายเอนกพงศ์ คูณทรัพย์สิน ประธานมูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ คณะเจ้าหน้าที่ร่วมกุศลสมุทรปราการ / นายธงชัย อัศวสุขี กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็กซ์ตร้า สตีลไพล์ แอนด์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด และนางสุภานัน นันต์ธนะ นายกสโมสรโรตารี่สำโรง และสมาชิกสโมสรโรตารี่สำโรง ร่วมมอบเงินสด จำนวน 100,000 บาท  พร้อมอาหารปรุงสุก จำนวน 300 กล่อง และน้ำดื่มจำนวน 100 แพค

โดยทางสโมสรโรตารี่ นำมาถวายให้กับทางศูนย์ฉีดวัคซีนวัดบางพลีใหญ่กลาง โดยมีท่านพระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ (พระครูแจ้) เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง เป็นตัวแทนรับมอบ พร้อมด้วย นายธวัชชัย นามสมุทร เลขา ศอ.บต. ร่วมรับมอบเพื่อร่วมเทิดพระเกียรติเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม

นายสุดใจ จิรยาภากร กรรมการบริหาร บริษัท โคมอส คอร์ปอเรชั่น จำกัด และประธานที่ปรึกษา กต.ตร.สภ.เมืองสมุทรปราการ กล่าวว่า ในวันนี้ในฐานะกรรมการบริหาร บริษัท โคมอส คอร์ปอเรชั่น จำกัด และประธานที่ปรึกษา กต.ตร.สภ.เมืองสมุทรปราการ ได้ร่วมกับทางมูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ มอบเงินสดจำนวน 100,000 บาท เพื่อจัดซื้อน้ำมันเชื้อเพลิงและโรงศพ ไว้เผาศพเหยื่อโควิด-19 พร้อมทั้งมอบอาหารปรุงสุกจำนวน 300 กล่อง รวม 5 วัน วันละ 300 กล่อง และน้ำดื่ม นำมาถวายให้กับทางวัดบางพลีใหญ่กลาง 

โดยมี ท่านพระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลางเป็นผู้รับมอบ เพื่อแทนความห่วงใยที่มีต่อบุคลากรทางการแพทย์เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2564 

อีกทั้ง ได้มีความห่วงใยคณะเจ้าหน้าที่บุคลากรทางการแพทย์ที่ปฎิบัติหน้าที่อย่างเหน็ดเหนื่อย และคอยให้บริการฉีดวัคซีนให้กับประชาชน ประกอบกับสถานการณ์ในปัจจุบันมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง จึงขอแสดงความห่วงใยไปถึงประชาชนในจังหวัดสมุทรปราการ อย่าประมาทและดูแลตัวเองสวมใส่หน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง เพื่อความปลอดภัย


ภาพ/ข่าว  คิว-ข่าวสมุทรปราการ รายงาน

ศาลอาญาทุจริตฯ สั่งเดินหน้าคดี ‘วัชระ’ ฟ้อง ‘ชัชวาลย์’ มาตรา 137 และ 157 จากมหากาพย์ก่อสร้างอาคารรัฐสภาล่าช้า

วันนี้ 12 ส.ค. 64 นายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ตนเป็นโจทก์ฟ้องนายชัชวาลย์ อภิบาลศรี อดีตประธานคณะกรรมาธิการติดตามเร่งรัดการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ จำเลย คดีอาญาหมายเลขคดีดำที่ อท 23/2563 คดีอาญาหมายเลขคดีแดงที่ อท 34/2564 ซึ่งศาลอุทธรณ์แผนกคดีทุจริตฯมีคำพิพากษาแก้เป็นว่า ให้ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องในความผิดตามป.อาญา ม.137 และ 157 โดยนัดพร้อมที่ห้อง 702 ศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลางเมื่อวันที่ 11 ส.ค.64 เวลา 9.30 น.ปรากฏว่านายชัชวาลย์  จำเลยได้ส่งผู้รับมอบอำนาจมาขอเลื่อนคดีโดยอ้างว่ายังหาทนายความไม่ได้ แต่ศาลสั่งไม่ให้เลื่อนคดีและให้พิจารณาตามกำหนดนัด โดยนัดตรวจสอบและรวบรวมพยานหลักฐานของเจ้าพนักงานคดีวันจันทร์ที่ 14 ก.ย.64 นัดตรวจสอบพยานหลักฐานของศาลวันที่ 12 ต.ค. 64 เวลา 9.30 น.และวันที่ 11 พ.ย. 64 เวลา 9.00-16.00 น.นัดไต่สวนมูลฟ้อง 5 ปาก

สำหรับคดีนี้นายชัชวาลย์ อภิบาลศรี อดีตประธานคณะกรรมาธิการติดตามเร่งรัดการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ถูกนายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ตรวจสอบและชี้ข้อพิรุธของโครงการ เป็นเหตุให้นายชัชวาลย์ ไม่พอใจจึงไปฟ้องคดีที่ศาลอาญากับนายวัชระ ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และเรียกค่าเสียหายจำนวนเงิน 100 ล้านบาท ซึ่งนายวัชระได้ขอให้นายชวน หลีกภัย  อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มาเป็นคนกลางไกล่เกลี่ย แต่นายชัชวาลย์ แจ้งว่า ไม่ประสงค์จะเจรจา   ซึ่งมาทราบภายหลังว่า นายชัชวาลย์เป็นเพื่อนสนิทกับนายชวนตั้งแต่สมัยเรียน อนึ่ง นายชัชวาลย์ เป็นสมาชิกวุฒิสภาที่มาจากการแต่งตั้งของคณะทหารถึง 6 สมัย กว่า 24 ปี แต่ไม่ได้รับการแต่งตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภาครั้งล่าสุด.                                  

ต่อมานายวัชระ ได้ฟ้องนายชัชวาลย์ ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม. 137 ,157 จงใจแจ้งความเท็จว่า ไม่มีการจดบันทึกการประชุมของคณะกรรมการเร่งรัดและติดตามโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ เพื่อจะได้ไม่ต้องส่งแถบเสียง ชวเลข หรือรายงานการประชุมดังกล่าวต่อศาล ตามที่โจทก์ร้องขอเพื่อให้เป็นหลักฐานในการต่อสู้คดีดังกล่าว ซึ่งในการแจ้งข้อความเท็จนี้เป็นการปฏิบัติหรือละเว้นหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ ผู้อื่นหรือประชาชน หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต

ซึ่งหากศาลพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตาม ม.137 ผู้ใดแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงานซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนม.157 บัญญัติว่า "ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2,000 -20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

บก.ทท.จัดงานพิธีเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2564  

พล.อ.เฉลิมพล  ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) เป็นประธานในพิธีเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2564 ของกองบัญชาการกองทัพไทย ณ ห้องนเรศวร กองบัญชาการกองทัพไทย โดยมี รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด เข้าร่วมพิธี

กองบัญชาการกองทัพไทยได้จัดพิธีเฉลิมพระเกียรติฯ ในครั้งนี้ ขึ้นแบบเรียบง่ายอย่างสมพระเกียรติถึงแม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2018 (COVID-19) ในปัจจุบันยังปรากฏความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีกิจกรรมที่สำคัญ คือ พิธีถวายเครื่องราชสักการะ และถวายพระพรชัยมงคล สำหรับกิจกรรม เฉลิมพระเกียรติฯ อื่น ๆ ซึ่งดำเนินการเป็นประจำทุกปี อาทิ การบริจาคโลหิต การบำเพ็ญสาธารณประโยชน์เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล กองบัญชาการกองทัพไทยยังคงจัดให้มีขึ้นในรูปแบบวิถีใหม่ (New normal) เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดตามที่รัฐบาลกำหนด

การจัดพิธีเฉลิมพระเกียรติฯ ในครั้งนี้ เป็นการแสดงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณอย่างใหญ่หลวงแก่พสกนิกรชาวไทยทั่วทุกหมู่เหล่า ทั้งนี้ กองบัญชาการกองทัพไทย ขอน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ และจะสืบสานพระราชปณิธานในด้านต่าง ๆ ของพระองค์มาเป็นแนวทางในการปฏิบัติราชการเพื่อประโยชน์สุขแก่ประเทศชาติและประชาชนตลอดไป

สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ เดินหน้าปลุกเศรษฐกิจ จัด +BLOOMS FESTIVAL 2021 (พลัส บลูมส์ เฟสติวัล) สร้างแรงจูงใจเลือกจังหวัดเชียงใหม่เป็นจุดหมายในการจัดงานประชุมและนิทรรศการ

สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. จัด Plus Blooms Festival 2021 ซึ่งเป็นโครงการขยายผลของ Chiang Mai Blooms 2021 ซึ่งจัดไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ที่ผ่านมา งาน Plus Blooms Festival 2021 ในเดือนสิงหาคมนี้ จัดเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจ สร้างแรงจูงใจในการเลือกจังหวัดเชียงใหม่ให้เป็นจุดหมายของการจัดงานประชุมและนิทรรศการ การท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล และการจัดกิจกรรมองค์กรต่าง ๆ ดึงดูดนักท่องเที่ยวและนักเดินทางธุรกิจ จึงได้ส่งเสริมสนับสนุนให้เกิดเทศกาลที่จะเป็นเทศกาลท้องถิ่น ให้เป็นเทศกาลในระดับประเทศและระดับนานาชาติ ขอเชิญร่วมงาน +BLOOMS FESTIVAL 2021 (พลัส บลูมส์ เฟสติวัล) ตั้งแต่วันที่ 18 สิงหาคม 2564 เป็นต้นไป ณ จังหวัดเชียงใหม่

วันนี้ (11 ส.ค. 64) คุณจุฑา ธาราไชย ผู้อำนวยการ สำนักส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ ภาคเหนือ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) พร้อมทั้งผู้แทนหน่วยงานความร่วมมือในจังหวัดเชียงใหม่ คุณมรกต ยศธำรงค์ ที่ปรึกษาสมาคมผู้ผลิตและผู้ส่งออกสินค้าหัตถกรรม ภาคเหนือ (NOHMEX) คุณรามาริน บุญสม ผู้แทนเครือข่ายงานคราฟท์ อ.ชัชวาลย์ ทองดีเลิศ ประธานมูลนิธิสืบสานล้านนา และคุณดวงรัตน์ ญานะ เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตร สหกรณ์เกษตรอินทรีย์เชียงใหม่ จำกัด ร่วมแถลงข่าวการจัดงาน Plus Blooms Festival 2021 ณ โฮงเฮียนสืบสานภูมิปัญญาล้านนา จังหวัดเชียงใหม่

เพื่อขับเคลื่อนจากชุมชนในพื้นที่ ดำเนินการโดยเครือข่ายในพื้นที่ ที่จะนำไปสู่การกระตุ้นเศรษฐกิจ การจ้างงาน การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ การประสานงานร่วมกันระหว่างชุมชน องค์กรเอกชน ผู้ประกอบการท้องถิ่น ไปจนถึงระดับจังหวัด ซึ่งอยู่ในห่วงโซ่คุณค่าของอุตสาหกรรมไมซ์ สร้างกระบวนการพัฒนาศักยภาพของทุนในพื้นที่สำหรับนักเดินทางไมซ์ ทั้งทางด้านวิถีชีวิตที่เอกลักษณ์ การเชื่อมโยง ช่างฝีมือและศิลปินพื้นบ้านเข้ากับผู้ประกอบการโรงแรมร้านอาหาร สร้างจุดขายใหม่ ๆ ให้กับไมซ์

โดย Chiang Mai Blooms : Plus Blooms Festival 2021 ประกอบไปด้วยกิจกรรม 4 โครงการ ได้แก่
1. เทศกาลคราฟท์ บลูมส์ 2021 (Crafts Blooms Festival 2021) ระหว่างวันที่ 18-22 สิงหาคม 2564
2. โครงการวิถีราชดำเนิน ตั้งแต่วันที่ 18 สิงหาคมเป็นต้นไป
3. โครงการการเดินทางของดอกไม้ ตั้งแต่วันที่ 18 สิงหาคมเป็นต้นไป
4. การประชุมวิชาการงานหัตถกรรมของเครือข่ายช่างฝีมือจากเมืองหัตถกรรมสร้างสรรค์ขององค์การยูเนสโก (UNESCO Creative City of Craft and Folk Art Network) ในวันที่ 18 สิงหาคม 2564

“เทศกาลคราฟท์ บลูมส์ 2021” (Crafts Blooms Festival 2021) เทศกาลที่จะรวบรวมคนทำงานคราฟท์ทุกประเภทและเครือข่าย มาร่วมรังสรรค์บรรยากาศงานคราฟท์ให้มีสีสันมากกว่าที่เคย ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18 – 22 สิงหาคม 2564 เวลา 12.00 – 18.00 น. ด้วยกิจกรรมหลากหลาย ได้แก่ กิจกรรมเสวนา 5 หัวข้อ ได้แก่ The Taste of Craft, The Taste of the City, City of Craft and Folk Art, Go wide, Go online, Creative District และ Craft Local to Global โดยวิทยากรจากหลากหลายวิชาชีพ กิจกรรมเวิร์คช็อป 15 งานคราฟท์ เช่น การทำผ้าอุ๊ก เพ้นท์เซรามิก การทำผ้ามัดย้อม ถักทอผลิตภัณฑ์จากวัสดุเหลือทิ้ง, นิทรรศการเชื่อมโยงเส้นทางการท่องเที่ยวและกิจกรรมสร้างสรรค์, กิจกรรมแนะนำร้านค้า สินค้างานคราฟท์จากผู้ผลิต อีกทั้งกิจกรรมย่อยอื่นๆ เช่น นิทรรศการเชิดชูผลงานศิลปินเอก (Lanna Wisdom Masterpiece), เซียมซีดอกไม้, Flower Kinetic Installation, และดนตรี ในรูปแบบ ONSITE (รับจำนวนจำกัด) ณ Weave Gallery (Weave Artisan Society) หรือร่วมกิจกรรมในรูปแบบONLINE โดยรับชมการถ่ายทอดสดผ่าน Facebook live ได้ที่ page : www.facebook.com/PlusBlooms รวมถึง นำเสนอร้านค้าจากเครือข่ายเทศกาลคราฟท์กว่า 80 ร้านที่ https://www.plusblooms.com

“วิถีราชดำเนิน” (Rachadamnoen Model) เป็นกิจกรรมที่หอศิลปวัฒนธรรมเมืองเชียงใหม่ร่วมกับภาคีเครือข่ายชุมชนเมืองรักษ์เชียงใหม่ โรงแรมแทมมาริน วิลเลจ และผู้ประกอบการ ผู้อยู่อาศัยในชุมชนราชดำเนิน ร่วมกันปรับปรุงย่านถนนราชดำเนินให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีการจัดแยกขยะ ปรับทัศนียภาพ เพิ่มพื้นที่สีเขียว และทำให้เป็นต้นแบบของเมืองน่าเดิน (Walkable City) โดยสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) ได้ร่วมเชื่อมโยงชุมชนช่างศิลป์สู่งานเชิงฟังก์ชั่น From Community to Function จับคู่สถานประกอบการ 10 แห่ง และ 10 พ่อครูแม่ครูและชุมชนช่างศิลป์ สร้างงานศิลปะเพื่อให้เป็นจุดสนใจ (Landmark) สำหรับประชาชนได้เดินชื่นชมและถ่ายรูปบนถนนราชดำเนิน ส่งผลให้เกิดมิติใหม่แห่งการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม จุดที่มีการติดตั้งงานศิลปะแลนด์มาร์ค 10 แห่ง ตลอดถนนราชดำเนิน ได้แก่ แอดราชดำเนินพลาซ่า, โรงแรมอักษราเฮอริเทจ, กาดกลางเวียง, โรงแรมแทมมาริน วิลเลจ, พิพิธภัณฑ์ธนารักษ์จังหวัดเชียงใหม่, ร้านกาแฟอาข่าอาม่า, บุรีแกลลอรี่, ศูนย์สถาปัตยกรรมล้านนา คุ้มเจ้าบุรีรัตน์, คราม สปา และโรงแรมเดอ ลานนา

“การเดินทางของดอกไม้” (Flowers journey) โครงการรวบรวมเมล็ดพันธุ์ กล้าดอกไม้พันธุ์พื้นเมือง จากภาคีเครือข่ายในเชียงใหม่ อาทิ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สหกรณ์เกษตรอินทรีย์เชียงใหม่ เครือข่ายเชียงใหม่เขียว สวย หอม เพื่อทำการเพาะปลูกในพื้นที่ต้นแบบ เชื่อมโยงเครือข่ายต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำของการรณรงค์การปลูกและประชาสัมพันธ์ดอกไม้พันธุ์พื้นเมือง สร้างเศรษฐกิจท้องถิ่นกระจายรายได้สู่ชุมชน โดยโครงการได้รวบรวมเมล็ดพันธุ์กล้าดอกไม้พันธุ์พื้นเมือง 20 ชนิด จากภาคีเครือข่ายในเชียงใหม่ อาทิ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สหกรณ์เกษตรอินทรีย์เชียงใหม่ เครือข่ายเชียงใหม่เขียว สวย หอม เพื่อนำไปเพาะปลูกในพื้นที่ต้นแบบ 5 พื้นที่ ได้แก่ พื้นที่ภายในหอศิลปวัฒนธรรมเมืองเชียงใหม่ พื้นที่ในสวนผักคนเมือง ถ.ช้างคลาน พื้นที่สวนหลวงล้านนา ร.9 (พื้นที่ริมคลองแม่ข่า) พื้นที่ในสวนสาธารณะหนองบวกหาด และพื้นที่หน้าสำนักงานยาสูบเชียงใหม่

“การประชุมวิชาการนานาชาติของเครือข่ายช่างฝีมือจากเมืองหัตถกรรมสร้างสรรค์ขององค์การยูเนสโก” (UNESCO Creative City of Craft and Folk-Art Network) หัวข้อ “จากภูมิปัญญาพื้นบ้าน สู่เศรษฐกิจวัฒนธรรม” From Local Wisdom to Cultural Economy โดยมีการเชิญทั้งวิทยากรและผู้เข้าร่วมจากนานาชาติผ่านการประชุมแบบไฮบริดกับผู้เข้าร่วมที่อยู่ในประเทศไทย เป็นการเชื่อมเครือข่ายคนทำเทศกาล Craft และช่างฝีมือจากทุกมุมโลก เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การแบ่งปันประสบการณ์และความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ เพื่อให้เกิดองค์ความรู้ให้ช่างฝีมือในงานเทศกาลฯ ตลอดจนช่างฝีมือที่อยู่ห่างไกลได้นำไปพัฒนา ต่อยอดสินค้าได้


ภาพ/ข่าว  นภาพร / เชียงใหม่

‘พลเอก เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์’ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธานการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ ครั้งที่ 5 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 ณ ห้องศรียานนท์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

วันที่ 11 สิงหาคม 2564 เวลา 14.00 น. พลเอก เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธานการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ ครั้งที่ 5 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 โดยมี ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้าร่วมประชุม ณ ห้องศรียานนท์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้กล่าวขอบคุณเหล่าทัพ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ให้การสนับสนุนรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่ผ่านมาอย่างเต็มขีดความสามารถ รวมทั้งได้เน้นย้ำให้ดำรงความพร้อมในการสนับสนุนศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) และกระทรวงสาธารณสุข โดยเฉพาะการสนับสนุนกำลังพล ยุทโธปกรณ์ และบุคลากรทางการแพทย์ในการจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม และการเคลื่อนย้ายผู้ติดเชื้อ COVID-19

นอกจากนี้ ที่ประชุมได้รับทราบข้อมูลที่สำคัญของกองบัญชาการกองทัพไทย เหล่าทัพ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดังนี้

- แนวทางการรองรับการสื่อสารของกองทัพไทยในการบูรณาการความร่วมมือระหว่างสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม กองบัญชาการกองทัพไทย และเหล่าทัพ เพื่อให้ระบบการสื่อสารของกองทัพไทย

มีความต่อเนื่อง และมีเสถียรภาพในการใช้งาน

- การรับทหารกองเกินเข้าประจำการผลัดที่ 1/64 และการฝึกทหารใหม่ในห้วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ COVID-19 ของกองทัพบก เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดในหน่วยฝึกทหารใหม่

- การเตรียมความพร้อมของทีมค้นหาและกู้ภัยในเขตเมือง (USAR Team : Urban Search And Rescue Team) ในการบรรเทาสาธารณภัยของกองทัพเรือ

- การจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการทางอวกาศของกองทัพอากาศ เพื่อวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงทางภูมิศาสตร์ จัดทำแผนงานป้องกันภัยธรรมชาติ และเป็นกำลังหลักที่จะดูแลความปลอดภัยทางอวกาศของประเทศ

- การเพิ่มประสิทธิภาพระบบฐานข้อมูล และการเชื่อมโยงข้อมูลด้านนิติวิทยาศาสตร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้สามารถค้นหาและทราบตัวผู้กระทำความผิดจนสามารถจับกุมมาลงโทษได้อย่างรวดเร็ว โปร่งใส และมีมาตรฐานสากล

การประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ เป็นกลไกที่สำคัญในการบูรณาการการปฏิบัติงานร่วมกันระหว่างกองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อรักษาอธิปไตยและความมั่นคงของชาติ รวมทั้งสนองตอบนโยบายของรัฐบาล และแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้ศักยภาพและทรัพยากรที่มีอยู่ในการสนับสนุนการแก้ไขปัญหาของภาครัฐ เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ในปัจจุบัน


ภาพ/ข่าว  กองประชาสัมพันธ์ สำนักประชาสัมพันธ์ / กรมกิจการพลเรือนทหาร

กองทัพอากาศ จัดกิจกรรมวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 

พลอากาศเอก แอร์บูล  สุทธิวรรณ ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) เป็นประธานกิจกรรมเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 89 พรรษา 12 สิงหาคม 2564 ณ ห้องรับรองกองทัพอากาศ กองบัญชาการกองทัพอากาศ โดยมีนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของกองทัพอากาศ ร่วมในพิธี

ทั้งนี้เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ กองทัพอากาศได้จัดกิจกรรม ประกอบด้วย พิธีถวายเครื่องราชสักการะ พิธีถวายพระพรชัยมงคล และการลงนามถวายพระพร การใส่บาตรถวายพระสงฆ์ถวายเป็นพระราชกุศล ณ วัดดอนเมือง

นอกจากนี้ หน่วยงานต่าง ๆ ของกองทัพอากาศ ยังได้ร่วมจัดกิจกรรมเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง อาทิ

- การจัดพิธียิงสลุตหลวง 21 นัด เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดย กรมทหารต่อสู้อากาศยานรักษาพระองค์ หน่วยบัญชาการทหารอากาศโยธิน ณ ลานอเนกประสงค์ โรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช

-พิธีไถ่ชีวิตโค-กระบือ ณ ธนาคารโค-กระบือ เพื่อเกษตรกรตามพระราชดำริ ตำบลบางปรอก อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)

- การจัดตั้งโต๊ะหมู่ประดิษฐานพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พร้อมเครื่องราชสักการะ

-กิจกรรมลงนามถวายพระพรชัยมงคล ผ่านระบบออนไลน์

ผบ.ทร.เป็นประธานกล่าวถวายพระพรชัยมงคล และกิจกรรมเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2564

พล.ร.อ.ชาติชาย ศรีวรขาน ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) พร้อมด้วยคณะนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของกองทัพเรือ ถวายราชสักการะ พร้อมกล่าวถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2564 ณ กองบัญชาการกองทัพเรือ พระราชวังเดิม เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร จากนั้น ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้นำคณะนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของกองทัพเรือ ร่วมลงนามถวายพระพร สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ผ่านระบบออนไลน์ ณ บริเวณโถง ชั้น 1 อาคารส่วนบัญชาการกองทัพเรือ พื้นที่วังนันทอุทยาน เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ

ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้มอบหมายให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพเรือ ร่วมกับ สมาคมภริยาทหารเรือ พร้อมด้วยกำลังพลจิตอาสากองทัพเรือ แจกจ่ายอาหารกล่อง และถุงยังชีพให้แก่ประชาชน ตามพื้นที่ต่าง ๆ ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาด ของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) ในการจัดกิจกรรม “กองทัพเรือเพื่อประชาชน ร่วมใจต้านภัย COVID - 19” เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ตามจุดบริการประชาชนกองทัพเรือพร้อมกัน 5 จุด โดยมีผู้แทนชุมชน เป็นผู้แทนรับมอบในพื้นที่ต่าง ๆ ดังนี้

จุดที่ 1. พล.ร.ท.ประชาชาติ ศิริสวัสดิ์ รองเสนาธิการทหารเรือ สายงานกิจการพลเรือน เป็นประธานในการแจกจ่ายอาหารกล่องและถุงยังชีพ ให้แก่ผู้แทนชุมชน เขตบางกอกน้อย บางกอกใหญ่ และธนบุรี ณ บริเวณลานจอดรถหน้าอาคารนันทอุทยานสโมสร ฐานทัพเรือกรุงเทพ

จุดที่ 2. พล.ร.ท.วุฒิชัย สายเสถียร รองเสนาธิการทหารเรือ สายงานข่าว เป็นประธาน
ในการแจกจ่ายอาหารกล่องและถุงยังชีพ ให้แก่ผู้แทนชุมชน เขตบางกอกใหญ่ ณ จุดบริการประชาชนกองทัพเรือ บริเวณถนนหน้ากองบัญชาการกองทัพเรือ พื้นที่วังนันทอุทยาน

จุดที่ 3. พล.ร.ท.ถลิงศักดิ์ ศิริสวัสดิ์ รองเสนาธิการทหารเรือ สายงานยุทธการ เป็นประธานในการแจกจ่ายอาหารกล่องและถุงยังชีพ ให้แก่ผู้แทนชุมชน จากเขตธนบุรี ณ จุดบริการประชาชนกองทัพเรือ บริเวณ
หน้าวัดกัลยาณมิตร

จุดที่ 4. พล.ร.ท.ธานี แก้วเก้า รองเสนาธิการทหารเรือ สายงานกำลังพล เป็นประธาน ในการแจกจ่ายอาหารกล่องและถุงยังชีพ ให้แก่ผู้แทนชุมชน จากเขตตลิ่งชัน ณ จุดบริการประชาชนกองทัพเรือ บริเวณแยกจุดตัดถนนราชพฤกษ์กับถนนพรานนก - พุทธมณฑลสาย 4

จุดที่ 5. พล.ร.ท.สุรนันท์ แสงรัตนกูล รองเสนาธิการทหารเรือ สายงานส่งกำลังบำรุงเป็นประธานในการแจกจ่ายอาหารกล่องและถุงยังชีพ ให้แก่ผู้แทนชุมชน จากเขตบางพลัด ณ จุดบริการประชาชนทหารเรือ บริเวณลานจอดรถ 35 โบว์ลและในเวลา 12.00 น. กองทัพเรือจะจัดให้มีการ ยิงสลุตหลวงเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง จำนวน 21 นัด ณ ป้อมวิไชยประสิทธิ์ พระราชวังเดิมกองทัพเรือ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ

 

‘กระทรวงแรงงาน’ มอบเตียงและชุดเครื่องนอนแก่โรงพยาบาลสนาม รักษาผู้ป่วยโควิด จ.เพชรบุรี

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ นางธิวัลรัตน์ อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานการประชุมหัวหน้าส่วนราชการหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดเพชรบุรี เพื่อขับเคลื่อนภารกิจของกระทรวงแรงงาน

ตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ณ ห้องประชุมสำนักงานประกันสังคมจังหวัดเพชรบุรี จากนั้นในช่วงบ่าย ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้ส่งมอบเตียง 2 ชั้น จำนวน 40 เตียง ที่นอนและหมอน จำนวน 142 ชุด รวมเป็นเงินมูลค่า 169,660 บาท สำหรับโรงพยาบาลสนามหนองชุมพล อำเภอเขาย้อย จังหวัดเพชรบุรี โดยมี นางวันเพ็ญ มังศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี นายบุญลาภ ทิพย์จันทร์ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเพชรบุรี นายประเสริฐ ปลอดโปร่ง สาธารณสุขอำเภอเขาย้อย เป็นผู้รับมอบ พร้อมด้วย จัดหางานจังหวัดและสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดเพชรบุรี เข้าร่วมในครั้งนี้ด้วย

นางธิวัลรัตน์ กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ท่านนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และท่านรองนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ซึ่งท่านกำกับดูแลกระทรวงแรงงาน ได้มีความห่วงใยพี่น้องผู้ใช้แรงงานและประชาชนทั่วไปจากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 และกำหนดให้การฉีดวัคซีนเป็นวาระแห่งชาตินั้น เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดและเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ให้ในกลุ่มแรงงาน เช่นเดียวกับจังหวัดเพชรบุรีที่มีสถานประกอบการเป็นจำนวนมาก หลายหน่วยงานจึงร่วมมือกันในการบูรณาการความช่วยเหลือ โดยเฉพาะสิ่งของที่จำเป็นในการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามสำหรับรองรับผู้ป่วยโควิด-19

“ในวันนี้ กระทรวงแรงงาน ภายใต้การนำของท่านสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ได้เห็นความยากลำบากและความเดือดร้อนของพี่น้องผู้ใช้แรงงานจากผลกระทบโควิด-19 จึงมอบหมายให้ดิฉันลงพื้นที่ผนึกกำลังกับผู้ว่าราชการจังหวัด สำนักงานสาธารณสุข องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งเดินเคียงข้างสังคมให้รอดพ้นสถานการณ์นี้ไปด้วยกัน สนับสนุนการปฏิบัติงานของบุคลากรทางการแพทย์ และบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน เพื่อแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคได้โดยเร็ว ตามเจตนารมณ์ของรัฐบาลที่จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” นางธิวัลรัตน์ กล่าวในท้ายสุด


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top