Saturday, 5 July 2025
NEWS FEED

สมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ขอเชิญร่วมบริจาคเพื่อสมทบทุน โครงการจัดซื้อรถสปอร์ตวีลแชร์ สำหรับแจกนักกีฬาคนพิการและคนพิการที่ขาดแคลน

สมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์จัดโครงการแจกรถสปอร์ตวีลแชร์ 1,500 คัน 77 จังหวัด สำหรับแจกนักกีฬาคนพิการและคนพิการที่ขาดแคลน

ปัจจุบันนักกีฬาคนพิการยังขาดแคลนรถสปอร์ตวีลแชร์ สำหรับฝึกซ้อมกีฬาเป็นจำนวนมาก เนื่องจากอุปกรณ์ฝึกซ้อมหรือแข่งขันมีสภาพเก่า ชำรุด ทรุดโทรม ไม่สามารถใช้ฝึกซ้อมหรือแข่งขันได้ และยังมีคนพิการอีกจำนวนมากที่ยังใช้รถวีลแชร์คันใหญ่ ๆ ซึ่งทำให้การใช้ชีวิตประจำวัน เป็นไปด้วยความยากลำบากเป็นอย่างมาก “กองทุนส่งเสริมสวัสดิการ สมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์” เล็งเห็นปัญหาดังกล่าว จึงคิดโครงการที่จะแก้ปัญหาดังกล่าวข้างต้น เนื่องยังจากขาดงบประมาณเป็นจำนวนมาก รถวีลแชร์เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ถ้าหากขาดวีลแชร์จะไม่สามารถดำรงชีวิตหรือทำกิจกรรมประจำวันได้

กวาดล้าง!! โรงงานชำแหละ ‘ตัวเงินตัวทอง’ ส่งป้อนร้านอาหารป่า

บุกทลาย!! โรงงานชำแหละ 'ตัวเงินตัวทอง' จ.สุพรรณบุรี อ.อู่ทอง ฟาก ตำรวจสอบสวนกลาง ชี้ นำไปประกอบเป็นอาหารป่าขายแก่ผู้ชื่นชอบเท่านั้น

บุกจับพ่อค้าค้าตัวเงินตัวทองรายใหญ่ รอชำแหละส่งทำอาหาร ยึดของกลางนับ 100 ตัว จากการตรวจสอบ พบสัตว์ป่าคุ้มครองจำพวกสัตว์เลื้อยคลาน จำนวน 4 ชนิด ได้แก่ ตัวเหี้ยที่ยังมีชีวิตอยู่ในถุง จำนวน 32 ตัว ซากตัวเหี้ยวางกองอยู่กับพื้นและอยู่ในกะละมัง จำนวน 59 ซาก เต่านาจำนวน 20 ตัว เต่าหับจำนวน 2 ตัว และเต่าดำจำนวน 6 ตัว อยู่ในโอ่งมังกร และยังพบชาวบ้าน 5 คนที่มารับจ้างชำแหละ แปรรูป ตัวเหี้ย

ทว่าในเวลาต่อมา ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ได้ออกมายืนยันว่า เป็นการบุกทลายโรงชำแหละตัวเงินตัวทองเพื่อส่งร้านอาหารป่า ไม่ใช่โรงงานผลิตลูกชิ้น 

หลังจากกรณีที่มีเพจหนึ่งโพสต์รูปภาพตัวเงินตัวทอง พร้อมข้อความระบุว่า ‘บุกทลายโรงงานผลิตลูกชิ้นปลาเจ้าใหญ่ที่ดัดแปลงใช้เนื้อของตัวเงินตัวทองมาทำเป็นลูกชิ้นปลาเนื้อขาวใสไร้ความคาว ส่วนหนังน่านำไปตากแห้งทำเป็นหนังปลาทอดกรอบ จัดจำหน่ายส่งขายทั่วประเทศมานานแล้ว’

ดังนั้น ทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) จึงขอระบุว่า ภาพดังกล่าวเป็นผลงานการจับกุมของตำรวจ บก.ปทส. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ที่เข้าตรวจค้นและจับกุมผู้ต้องหาที่ลักลอบซื้อขายเพื่อการค้าและมีไว้ในครอบครองซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง จำพวกสัตว์เลื้อยคลาน ในพื้นที่ อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี เมื่อวานที่ผ่านมา

โดยจากการสอบถามผู้ต้องหา และจากการสืบสวน ยืนยันว่า ซากตัวเงินตัวทองเหล่านี้ เตรียมนำไปขายต่อที่ตลาดชายแดนภาคตะวันออก เพื่อนำไปประกอบเป็นอาหารป่าขายแก่ผู้ชื่นชอบเท่านั้น ไม่ได้เป็นไปตามที่มีกระแสข่าวแต่อย่างใด 

ไกลเกินเอื้อม!! คณะกรรมการโอลิมปิกยุโรป ไฟเขียว!! 'มวยไทย' ชิงชัยเหรียญทองในการแข่งขัน 'ยูโรเปียน เกมส์ 2023' 

คณะกรรมการโอลิมปิกยุโรป ประกาศอย่างเป็นทางการบรรจุกีฬามวยไทยในการแข่งขัน "ยูโรเปียน เกมส์ 2023" ที่ประเทศโปแลนด์ ระหว่างวันที่ 21 มิถุนายน - 2 กรกฎาคมนี้ ซึ่งจะชิงเหรียญทองทั้งในประเภทไหว้ครูและต่อสู้

ขอความร่วมมือทุกฝ่าย ต้นสังกัด ‘เฌอปราง BNK48’ ร่อนหนังสือ ถึงสื่อมวลชน งดส่งต่อภาพ ‘ฌาณ’  เพื่อให้เกียรติผู้เสียชีวิต และครอบครัว

ต้นสังกัด ‘เฌอปราง BNK48’ ขอความร่วมมือสื่อ งดเผยแพร่ หรือส่งต่อ ภาพและวิดีโอที่เกี่ยวข้องกับ ‘ณาน’ เพื่อเป็นการให้เกียรติผู้เสียชีวิต

1 มี.ค. 66 จากกรณีที่ "ฌาน อารีย์กุล" อดีตนักกีฬาโบว์ลิ่งทีมชาติดาวรุ่ง วัย 19 ปี น้องชายของไอดอลสาว 'เฌอปราง อารีย์กุล' หรือ 'เฌอปราง BNK48' ตกดาดฟ้าคอนโดมิเนียนหรูเสียชีวิต เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา

อย่าหลงเชื่อ ‘รมว.เฮ้ง’ สั่ง กรมจัดหางานเร่งตรวจสอบนายหน้าเถื่อน หลังหลอกคนไทยทำงาน 'ญี่ปุ่น-มัลดีฟส์' ด้วยวีซ่าท่องเที่ยว

(1 มี.ค. 66) นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า กรณีผู้เสียหายจากหลายจังหวัดร่วม 20 คน ถูกเฟซบุ๊กรายหนึ่งแอบอ้างพาไปทำงานตำแหน่ง พนักงานต้อนรับ ประเทศมัลดีฟส์ รายได้ 80,000-90,000 บาท และตำแหน่งคนงานสวน ประเทศญี่ปุ่น รายได้ 72,000 บาท โดยใช้วีซ่านักท่องเที่ยวเข้าประเทศ สุดท้ายถูกหลอกลวงสูญเงินรายละ 50,000-85,000 บาท และเลื่อนการเดินทางออกไปเรื่อย ๆ พร้อมบ่ายเบี่ยงไม่คืนเงิน จึงรวมตัวกันเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน  บก.ปคม. เพื่อตรวจสอบดำเนินคดี ซึ่งตนทราบเรื่องแล้วไม่ได้นิ่งนอนใจ สั่งการไปยังอธิบดีกรมการจัดหางาน เร่งติดตาม ช่วยเหลือ และร่วมฟ้องร้องดำเนินคดีกับผู้มีพฤติการณ์หลอกลวงคนไทยไปทำงานต่างประเทศตามพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. 2528 และที่แก้ไขเพิ่มเติม 

ล่าสุดกรมการจัดหางานตรวจสอบประวัติและพฤติการณ์ทางทะเบียนระบบคอมพิวเตอร์ออนไลน์แล้ว พบว่า สาย-นายหน้ากลุ่มดังกล่าวไม่ได้รับอนุญาตจัดหางานให้คนหางานเพื่อไปทำงานในต่างประเทศและไม่ได้จดทะเบียนเป็นลูกจ้าง หรือตัวแทนจัดหางานของผู้รับอนุญาต ซึ่งมีความผิด ตามมาตรา 66 ข้อหาการโฆษณาการจัดหางานไม่เป็นไปตามระเบียบที่รัฐมนตรีกำหนด มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมาตรา 91 ตรี ข้อหา "หลอกลวงผู้อื่นว่าสามารถหางาน หรือสามารถส่งไปฝึกงานในต่างประเทศได้ และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งเงินหรือทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากผู้ถูกหลอกลวง ซึ่งต้องระวังโทษจำคุกตั้งแต่ 3-10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 60,000-200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนี้ยังมีความผิดฐานนำเข้าข้อมูลเท็จตามพ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ” 

จงภูมิใจในความเป็นไทย ‘ผู้พันเบิร์ด’ เยือน ‘ปัตตานี’ ตีแผ่ประวัติศาสตร์ไทยถ่องแท้ หวังปลูกจิตสำนึกรักชาติ ไม่พลาดหลงข้อมูลบิดเบือน

(1 มี.ค. 66) พ.อ.วันชนะ สวัสดี หรือ ‘ผู้พันเบิร์ด’ พร้อมด้วย น.ส.ปัทมวดี ปานทอง (ปัทมา ปานทอง) หรือ ‘ดี้' นักแสดง ลงใต้พื้นที่จังหวัดปัตตานี ร่วมกิจกรรมขับเคลื่อนการจัดการเรียนการสอนประวัติศาสตร์ ชาติไทย ภูมิภาค : ภาคใต้ จังหวัดปัตตานี ชื่องาน ‘มรดกอารยธรรม ลุ่มน้ำปัตตานี ศิวิไลซ์ล้ำค่า ลังกาสุกะ’

โดยงานดังกล่าว จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.- 1 มี.ค. 66 ณ หอประชุมโรงเรียนเบญจมราชูทิศ อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี กิจกรรมขับเคลื่อนมีหลากหลาย โดยเปิดโอกาสให้เด็กได้คิดและแสดงออกกันเอง อาทิ ชมขบวนบุหงาซีเระ และการแสดง ‘ปาตานีเลิศล้ำ คู่วัฒนธรรมมลายู’, การแสดงชุด ‘มรดกอารยธรรม ลุ่มน้ำปัตตานี ดิเกอูลู’ คณะอาเนาะปูยู, กิจกรรมเสวนา : ความงามแห่งวิถีชุมชน มนต์เสน่ห์แห่งเมืองใต้ ในพหุวัฒนธรรม, นิทรรศการ ‘มรดกอารยธรรม ลุ่มน้ำปัตตานี ศิวิไลซ์ล้ำค่า ลังกาสุกะ’, กิจกรรมศึกษาแหล่งเรียนรู้ เส้นทางเรียนรู้ประวัติศาสตร์เมืองปัตตานี, กิจกรรมตอบปัญหาวิชาประวัติศาสตร์ ระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา เป็นต้น

ทุกวินาทีมีค่า!! ‘ชาวโซเชียล’ แห่ชื่นชม สองคุณหมอน้ำใจงาม เข้าช่วยอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ จากคราบน้ำมันรั่ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเพจของโรงพยาบาลด่านช้าง อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี ได้มีการโพสต์เรื่องราวของผู้อำนวยการโรงพยาบาล และนายแพทย์ ที่ระหว่างเดินทางกลับจากการปฏิบัติราชการได้พบอุบัติเหตุและมีผู้บาดเจ็บจึงได้รีบลงจากรถยนต์เพื่อเข้าช่วยเหลือผู้บาดเจ็บและทำความสะอาดพื้นถนนอีกด้วย โดยชาวโซเซียลต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นและชื่นชมคุณหมอทั้งสองท่าน

โดยทางเพจได้โพสต์ข้อความว่า "นายแพทย์เดชา พงษ์สุพรรณ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลด่านช้าง และนายแพทย์ธีรวัต รัตนพิชญชัย แพทย์ศัลยกรรมของโรงพยาบาลด่านช้างให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ลื่นล้มเนื่องจากคราบน้ำมันรั่วไหลบนพื้นถนนและโทรประสานงาน 1669 เพื่อให้มารับผู้ประสบเหตุเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลอู่ทองต่อไป"

'TDRI' ดันกลุ่ม 'คุณแม่วัยเรียน' เข้าสู่ระบบการศึกษา เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตทุกคน อย่างเท่าเทียม

(1 มี.ค. 66) สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) เผยแพร่บทความ “โอกาสที่หายไปของ ‘แม่วัยรุ่น’ และสังคมไทย” เนื้อหาดังนี้ “สังคมไทยมีอัตราแม่วัยรุ่นสูงห่างจากหลายประเทศ โดยเฉพาะประเทศพัฒนาแล้ว” ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นอยู่ในระดับที่สูง สะท้อนจากสถิติอัตราการคลอดของหญิงอายุ 15-19 ปี ต่อประชากรหญิงอายุเดียวกันพันคน (ปี 2563 หญิง 29 คน ต่อ 1 พันคน ตั้งครรภ์ในวัยรุ่น) แม้ว่าหลังปี 2555 เป็นต้นมา สถานการณ์แม่วัยรุ่นจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น 

แต่จำนวนยังสูงกว่าประเทศในแถบเอเชียแปซิฟิก ที่มีอัตราคลอด 23 ต่อพันคน และประเทศพัฒนาแล้วที่มีอัตราคลอด 12 ต่อพันคน รวมไปถึงแม่วัยรุ่นต้องเผชิญกับภาระทางสุขภาพและความต่างทางรายได้ในอนาคตเมื่อเข้าสู่วัยทำงาน สูญเสียโอกาสของตนเองและประเทศ การกำหนดมาตราการป้องกันและช่วยเหลือทั้งก่อนและหลังตั้งครรภ์ รวมถึงการสร้างความเข้าใจและให้โอกาสกับแม่วัยรุ่นจึงเป็นสิ่งสำคัญ

“แม่วัยรุ่นส่วนใหญ่จบการศึกษาสูงสุดในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น” เมื่อแบ่งกลุ่มอายุแม่วัยรุ่นเป็นกลุ่มช่วงอายุต่างๆ สามารถให้ผลที่ชัดเจนขึ้นในเรื่องการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น กลุ่มแม่วัยรุ่นที่ปัจจุบันอายุอยู่ระหว่าง 15-30 ปี มีสัดส่วนของการตั้งครรภ์ในขณะเรียนสูงในกลุ่มนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น (ร้อยละ 38.8) รองลงมาคือ ประถมปลาย ร้อยละ 34.5 และอันดับ 3 มัธยมปลาย ร้อยละ 21.4

“ลักษณะสภาพทางสังคมและเศรษฐกิจของแม่วัยรุ่นส่วนใหญ่” เมื่อทดสอบข้อมูลในกลุ่มหญิงอายุ 15-30 ปี โดยควบคุมลักษณะบุคคล และครัวเรือน พบปัจจัยร่วมที่ส่งผลต่อการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นส่วนใหญ่ ทั้งด้านลักษณะของครอบครัว ชั้นรายได้ของครอบครัว 3 ประการ ประกอบด้วย 1.อยู่นอกเขตเทศบาล 2.อยู่ในครัวเรือน เกษตรกร/ผู้ใช้แรงงาน และ 3.มักเกิดซ้ำในครัวเรือนที่มีแม่เป็นวัยรุ่น

“แม่วัยรุ่น (อายุ 15-19 ปี) มีรายได้เฉลี่ยต่อปีตํ่ากว่า แม่ที่ตั้งครรภ์เมื่ออายุ 20 ปีขึ้นไป” การตั้งครรภ์ในวัยรุ่นจะลดโอกาสในการศึกษาในระดับที่สูงขึ้น รวมทั้งโอกาสในอาชีพและการหารายได้ ข้อมูล socio economic survey แสดงให้เห็นว่ากลุ่มตั้งครรภ์ในวัยรุ่นมีรายได้เฉลี่ยต่อปีในระดับต่ำกว่ากลุ่มที่ตั้งครรภ์เมื่ออายุ 20 ปีขึ้นไป โดยแม่อายุ 20 ปีขึ้นไป มีรายได้อยู่ที่ 159,305 บาท/ปี ขณะที่แม่วัยรุ่น อยู่ที่ 121,867 บาท/ปี ทั้งนี้ “3 ลักษณะชีวิตด้านการศึกษาของแม่วัยรุ่น” มีอยู่ 3 รูปแบบ คือ 1.ตั้งครรภ์แต่ยังกลับเข้าเรียน 2.ตั้งครรภ์แล้วหลุดจากระบบการศึกษา และ 3.หลุดจากระบบการศึกษาแล้วตั้งครรภ์ 

“โอกาสทางรายได้ที่หายไปของแม่วัยรุ่น” หากแม่วัยรุ่นไม่ได้รับการดูแลและความเข้าใจจากสังคม การตั้งครรภ์ในวัยรุ่นจะนำไปสู่การแบกรับภาระหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นการต้องออกจากโรงเรียนกลางคัน สูญเสียรายได้ในอนาคต และเมื่อต้องเข้าสู่ตลาดแรงงานก็เป็นแรงงานที่ได้รับผลตอบแทนไม่สูงมาก ตลอดจนโอกาสที่ทารกจากแม่วัยรุ่นจะมีสุขภาพไม่ดี และนำไปสู่ภาวะพึ่งพิงทางการเงินของครอบครัวมากขึ้น สำหรับรายได้ของแม่วัยรุ่นที่หายไปนั้น แม่วัยรุ่นทั้ง 3 ลักษณะ จะมีรายได้เฉลี่ยตํ่ากว่ากลุ่มควบคุมวัยเดียวกันที่ไม่ได้ตั้งครรภ์ 2,811บาท/คน/เดือน

“ความต่างของรายได้ยิ่งมากหากไม่ได้กลับเข้าเรียน” การตั้งครรภ์ไม่ว่าจะเกิดโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ แม่วัยรุ่นกลุ่มนี้หากต้องการเข้าสู่ตลาดแรงงานหลังคลอดบุตร โอกาสในการทำงานและค่าจ้างที่ได้รับจะขึ้นอยู่กับ ระดับการศึกษา และ เวลาที่ต้องใช้ในการดูแลเด็กเล็ก ดังนั้นความต่างของรายได้เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ไม่ได้ตั้งครรภ์ จะยิ่งมากหากไม่ได้กลับเข้าเรียน โดยหากตั้งครรภ์แต่ยังได้กลับเข้าเรียน รายได้จะต่างจากกลุ่มที่ไม่ได้ตั้งครรภ์เฉลี่ย -3,936 บาท/คน/เดือน แต่หากตั้งครรภ์แล้วยังหลุดออกจากะบบการศึกษา รายได้จะยิ่งต่างมากขึ้นไปอีก โดยอยู่ที่เฉลี่ย -4,582 บาท/คน/เดือน

“ปรากฎการณ์ ‘แม่วัยรุ่น’ ส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจของประเทศ” ไม่เพียงแต่แม่วัยรุ่นจะเสียโอกาสทางเศรษฐกิจด้านรายได้ตลอดช่วงชีวิต แต่ยังส่งผลต่อเศรษฐกิจของประเทศในช่วงชีวิตของตนเอง มูลค่าถึง 8.3 แสนล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 5.1 ต่อผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP) ในอนาคต รายได้ของกลุ่มคนรุ่นใหม่ มีแนวโน้มแตกต่างกันมากขึ้น ทำให้ต้นทุนค่าเสียโอกาสทางเศรษฐกิจของแม่วัยรุ่นในรุ่นถัดไป มากยิ่งขึ้นไปอีกและจะส่งผลต่อเศรษฐกิจของประเทศ สูงขึ้นถึง 12 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 7.2 ต่อ GDP

“พาแม่วัยรุ่นกลับเข้าเรียน เพิ่มโอกาสสร้างรายได้” แม่วัยรุ่น ต้องได้กลับเข้าเรียนในระบบการศึกษาหรือกลับเข้าโรงเรียนโดยไม่มีอุปสรรค จนเรียนจบในระดับการศึกษาตามที่ได้ตั้งไจไว้ เพื่อให้มีโอกาสทำงานและมีรายได้ที่เหมาะสมในอนาคต อย่างไรก็ตาม แม่วัยรุ่นจำนวนไม่น้อยไม่กลับเข้าเรียนในระบบ แต่เลือกที่จะเข้าเรียนในการศึกษานอกระบบหรือการศึกษานอกโรงเรียน (กศน.) แทน การพัฒนาคุณภาพของการศึกษานอกระบบให้เท่าเทียมกับการศึกษาในระบบจึงเป็นสิ่งจำเป็น เนื่องจากแม่วัยรุ่นควรมีโอกาสเพิ่มพูนความรู้และทักษะเพื่อการหารายได้ในระดับที่ใกล้เคียงกับกลุ่มที่เรียนอยู่ในระบบ

เหตุผลที่ MRT สายสีชมพู ใช้คำว่า ‘Kor Mor’ แทน Km 6 เพราะต่างชาติเรียกแท็กซี่จะได้ไม่ต้องพูดว่า “คิล้อมิเถอะซิกส์”

(1 มี.ค. 66) หลังจาก เพจ ‘ฉันเป็นนักเสียดสี’ ได้โพสต์แซะป้ายสถานีรถไฟฟ้า MRT สายสีชมพู ‘สถานีรามอินทรา กม.6’ ระบุว่า “บ้านนอก ใช้คำว่า ‘Kor Mor’ ชี้ คนคิดน่าจะใกล้ปลดเกษียณภาษาอังกฤษไม่ค่อยจะแตก” จนถูกชาวเน็ตถล่มยับเละคาบ้านไปก่อนหน้านั้น

ด้านผู้ใช้เฟซบุ๊ก ‘Pat Sangtum’ ก็ได้ออกมาช่วยโพสต์ไขความกระจ่างให้อีกคำรบ ว่าเหตุใดจึงมีการเลือกใช้คำเขียนดังกล่าว ไว้ว่า...

ชาวแพร่ จัดพิธีชำระคัมภีร์ธัมม์เก่าแก่ครั้งแรก อนุรักษณ์คัมภีร์โบราณสืบทอดสู่ชนรุ่นหลัง

เมื่อวันที่ (27 ก.พ. 66) คณะศรัทธาวัดพระหลวง อ.สูงเม่น จ.แพร่ นำโดย นายอดุลย์ ดอกเกี๋ยง กำนัน ต.พระหลวง อ.สูงเม่น จัดพิธี ชำระธัมม์ วัดพระหลวง อ.สูงเม่น จ.แพร่ เนื่องในงานประเพณีนมัสการพระธาตุเนิ้ง ประจำปี 2566 ณ วัดพระหลวง โดยมี พระอธิการมิตร ถาวโร เจ้าอาวาสวัดพระหลวง เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ซึ่งพิธีดังกล่าว จัดโดยคณะสงฆ์และคณะศรัทธาวัดพระหลวง ร่วมกับ สถาบันอนุรักษ์คัมภีร์ใบลาน วัดสูงเม่น นำโดย พระครูวิบูลสรภัญ (ฉัตรเทพ) ผู้อำนวยการฯ พร้อมด้วย มจร.แพร่ และพระมหาสิทธิชัย ชยสิทฺธิ ป.ธ.9 ดร.ผอ.สำนักวิชาการ มจร.แพร่,เจ้าอาวาสวัดร่องฟอง,ผจก.ร.ร.บวรวิชชาลัย วัดร่องฟอง อ.เมือง จ.แพร่, ที่ปรึกษาสถาบันอนุรักษ์คัมภีร์ใบลาน วัดสูงเม่นแสดงธัมม์ 

นายบรรเลง ภิญโญ อายุ 69 ปี บ้านเลขที่ 15/2 ม.3 ต.พระหลวง อ.สูงเม่น ซึ่งเป็นปราชญ์ชาวบ้าน เผยว่า สำหรับพิธีชำระธัมม์ วัดพระหลวง พระธาตุเนิ้งในวันนี้ จัดขึ้นเป็นปีแรก ซึ่งวัดพระหลวง เป็นอีก 1 วัดเก่าแก่ นอกจากจะมีพระธาตุเนิ้ง หรือ พระธาตุเอียง (คล้ายหอเอน ประเทศอิตาลี่) ยังมีพระธัมม์คัมภีร์ใบลานโบราณ จำนวนมากประมาณ 5,400 ผูก ถือว่ามากมาย ที่ผ่านมาเก็บไว้ในหอธัมม์ภายในวัด แต่เมื่อเวลาผ่านไป บางส่วนก็ชำรุดเสียหายไปตามกาลเวลา


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top