Wednesday, 2 July 2025
NEWS FEED

ทร. แจง จัดหายุทโธปกรณ์เน้นการใช้งาน ที่สำคัญในการปฏิบัติงานในทะเลเพื่อรักษาความมั่นคงและผลประโยชน์ของชาติทางทะเล

ที่กองบัญชาการกองทัพเรือ (บก.ทร.) พล.ร.อ.เชษฐา  ใจเปี่ยม โฆษกกองทัพเรือ  เปิดเผยถึงแนวทางการจัดหายุทโธปกรณ์ของกองทัพเรือ ที่ปรากฏรายการต่าง ๆ ตามการพิจารณางบประมาณอยู่ในขณะนี้นั้น ได้ผ่านกระบวนการพิจารณาโดยละเอียดอย่างถูกต้อง เปิดเผย และเป็นไปตามแนวคิดที่มีความจำเป็นตามยุทธศาสตร์ของกองทัพเรือในการป้องกันประเทศและอธิปไตยทางทะเล การรักษาความมั่นคง และ ผลประโยชน์ของชาติทางทะเลของไทย 

โฆษกกองทัพเรือ กล่าวอีกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งกองทัพเรือต้องรับผิดชอบภารกิจการรักษาความมั่นคงทางทะเลมีพื้นที่สองฝั่งทะเล ซึ่งรับผิดชอบอาณาเขตทางทะเลประมาณ 323,388.32 ตารางกิโลเมตร  คิดเป็นร้อยละ 60 ของอาณาเขตทางบกที่มีเนื้อที่อยู่ประมาณ 513,115 ตารางกิโลเมตร ซึ่งจะต้องจัดกำลังทางเรือและอากาศยานปฏิบัติการในพื้นที่รับผิดชอบตลอด 24 ชั่วโมง ทุกวันโดยไม่มีวันหยุด เพื่อลาดตระเวนเฝ้าตรวจ รวมทั้งช่วยเหลือประชาชนในทะเลและเกาะแก่งต่าง ๆ ทั้งฝั่งอ่าวไทย และฝั่งทะเลอันดามัน ซึ่งการปฏิบัติการตลอด 24 ชั่วโมง เป็นเรื่องที่กองทัพเรือให้ความสำคัญสูงสุด ทั้งนี้เพราะเมื่อเกิดเหตุการณ์ต่างๆ ในทะเล จะทำให้เรือและอากาศยานของกองทัพเรือสามารถปฏิบัติการได้อย่างทันท่วงที เนื่องจากระยะทางในการเกิดเหตุในทะเล มักไม่เกิดใกล้ฝั่ง
      
พล.ร.อ.เชษฐา กล่าวต่อไปว่า ปัจจุบันสถานภาพของเรือและอากาศยานของกองทัพเรือนั้น จากการที่ต้องมีการปฏิบัติการอย่างต่อเนื่องในการดำรงภารกิจการลาดตระเวนและเฝ้าตรวจในทะเล ซึ่งการปฏิบัติการในทะเลนั้นจะทำให้เรือและอากาศยานมีผลการเสื่อมสภาพและสึกหรอมากกว่าปกติ ซึ่งมีผลต่ออายุการใช้งานของยุทโธปกรณ์ของกองทัพเรือ อีกทั้งเรือและอากาศยานส่วนใหญ่ก็มีอายุการใช้งานเกินเกณฑ์กำหนด รวมทั้งงบประมาณด้านปฏิบัติการของเรือรบและอากาศยานที่มีนักบินที่ได้รับแต่ละปีมีจำนวนจำกัด จึงส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติการของกองทัพเรือโดยตรง อาทิ  การใช้อากาศยานไร้คนขับ (UAV) ซึ่งสามารถสนับสนุนการลาดตระเวนตรวจการณ์ของเรือรบและอากาศยานที่มีนักบินทั้งด้านอ่าวไทยและทะเลอันดามัน เข้าถึงพื้นที่ปฏิบัติการได้อย่างรวดเร็ว และสามารถปฏิบัติการบนอากาศได้อย่างยาวนานมากยิ่งขึ้น และช่วยประหยัดงบประมาณด้านการปฏิบัติการ รวมทั้งยังเป็นการใช้บุคลากรที่เป็นนักบิน ช่างเครื่อง และสิ่งอำนวยความสะดวกน้อยกว่าอากาศยานที่ใช้นักบิน ซึ่งจะสามารถช่วยเสริมการใช้นักบินและช่างเครื่องของกองทัพเรือจากการปฏิบัติการบินในพื้นที่รับผิดชอบอย่างต่อเนื่องอันเป็นการลดความเสี่ยงได้ 

ดังนั้นจึงเป็นการแสดงให้เห็นว่าทุกรายการนั้นมีเหตุผลที่เหมาะสมรองรับการจัดหาดังกล่าว  ประการสำคัญที่สุด คือ ในภาวะปัจจุบันที่มีการระบาดของโควิด-19 ประเทศต้องมีภาระด้านงบประมาณค่าใช้จ่ายที่จะต้องรับมือ กองทัพเรือจึงได้ตระหนักในเรื่องดังกล่าวนี้เป็นอย่างมาก และต้องการมีส่วนในการร่วมมือกับหลายภาคส่วนในการช่วยเหลือรัฐบาล และพี่น้องประชาชนดังจะเห็นได้จากการที่กองทัพเรือได้ขอเลื่อนโครงการจัดหาเรือดำน้ำลำที่ 2 และ 3 ออกไปก่อน อย่างไรก็ตาม ใคร่จะขอเรียนทำความเข้าใจว่า ในส่วนของยุทโธปกรณ์อื่น ๆ ที่เหลือนั้น ยังคงมีความจำเป็นด้วยจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการที่จะทำให้การปฏิบัติงานในทะเลเพื่อรักษาความมั่นคงและผลประโยชน์ของชาติทางทะเล รวมทั้งผลกระทบต่ออธิปไตยของชาติทางทะเลมีประสิทธิภาพสูงสุด อันจะเป็นหลักประกันในการสร้างความมั่นคงทางทะเลและสร้างความเชื่อมั่นในการดูแลพี่น้องประชาชนที่มีกิจกรรมทางทะเลให้ปลอดภัยตลอดไป
       
“ขอให้ทุกฝ่ายอย่าได้นำการทำหน้าที่และความจำเป็นเหล่านี้ ไปสร้างความเข้าใจที่ผิด สร้างความแตกแยก และทำให้เกิดผลกระทบและบั่นทอนต่อกำลังใจของพี่น้องประชาชน หรือผลในด้านอื่น ๆ อันจะเป็นการสร้างความเสียหายให้กับหลายๆ ฝ่าย เพราะความจำเป็นดังกล่าวอยู่บนพื้นฐานที่ไม่กระทบต่อภาระจำเป็นที่มีอยู่ หากทุกฝ่ายได้พิจารณาในรายละเอียดด้วยเหตุและผล และมีความเป็นธรรมจากจิตใจ กองทัพเรือจึงขอเรียนชี้แจงด้วยความจริงใจ และความสำนึกในหน้าที่ความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่ที่มีต่อประเทศชาติที่เรารักในการดูแลอาณาเขตทางทะเลของไทยที่มีพื้นที่มหาศาลและมีทรัพยากรทางทะเลที่มีค่าเป็นจำนวนมากให้เกิดความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน และ ปลอดภัย นั้น กองทัพเรือจะทำหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถด้วยจิตใจที่มั่นคง เพราะทะเลนั้นเป็นเหมือนถิ่นของเรา จะขอเฝ้าตราบจนชีวิตเราสิ้น”โฆษกกองทัพเรือ กล่าว

รมว.แรงงาน ชื่นชมแรงงานไทยที่ทำงานต่างประเทศ มอบอธิบดีกกจ.  ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจแรงงานก่อนเดินทางไปเก็บผลไม้ป่าประเทศฟินแลนด์ และประเทศสวีเดน

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมาย นายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน ตรวจเยี่ยมพร้อมให้กำลังใจแรงงานไทย จำนวน 384  คน ก่อนเดินทางไปทำงานเก็บผลไม้ป่า และทำงานในตำแหน่งคนงานตามฤดูกาล (Seasonal Work) ในประเทศฟินแลนด์ และประเทศสวีเดน  

นายไพโรจน์  โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน เปิดเผยว่า ในวันนี้ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้มอบหมายให้ตน ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจแรงงานไทยที่กำลังจะเดินทางไปทำงานเก็บผลไม้ป่า และทำงานในตำแหน่งคนงานตามฤดูกาล (Seasonal Work) ในประเทศฟินแลนด์ และประเทศสวีเดน   ณ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ  จังหวัดสมุทรปราการ สำหรับวันนี้ มีแรงงานเดินทาง จำนวน 384 คน แบ่งเป็นฟินแลนด์ จำนวน 296 คน สวีเดน  จำนวน 88 คน ก่อนที่ทั้งหมดจะเดินทางด้วยเครื่องบินของสายการบิน QATAR AIRWAYS เที่ยวบิน QR 833 

นายไพโรจน์ กล่าวต่อว่า ท่านรัฐมนตรี สุชาติ ยังฝากแสดงความห่วงใยและมอบคำกล่าวให้กำลังใจแก่แรงงานไทยที่จะเดินทางว่า ขอให้ทุกคนตั้งใจทำงาน ตั้งใจเรียนรู้ และดูแลสุขภาพให้ดี หากรู้จักเก็บออม เมื่อกลับมาจะสามารถยกระดับคุณภาพชีวิตให้ตนเองและครอบครัวได้ นอกจากนี้ขอให้ทุกคนภูมิใจในตัวเอง ในสถานการณ์ที่ประเทศอยู่ในช่วงวิกฤตินี้ ทุกคนคือฮีโร่ ที่นำรายได้กลับเข้าสู่ประเทศไทย

“สำหรับฤดูกาลเก็บผลไม้ป่าปี 2021 มีเป้าหมายจัดส่งแรงงานไทยเดินทางไปเก็บผลไม้ป่าในฟินแลนด์และสวีเดน จำนวน 8,200 คน โดยเดินทางไปเก็บผลไม้ป่าในฟินแลนด์ จำนวน 3,000 คน เดินทางแล้ว 1,112 คน และเดินทางไปเก็บผลไม้ป่าในสวีเดน จำนวน 5,200 คน เดินทางแล้ว 833 คนซึ่งจะทยอยเดินทางตั้งแต่ต้นเดือน ไปจนถึงสิ้นเดือนกรกฎาคม 2564 จนครบจำนวนตามเป้าหมาย" อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าว

ทั้งนี้ คนหางานที่ต้องการเดินทางไปทำงานในต่างประเทศ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 -10 หรือสายด่วนกระทรวงแรงงาน 1506 กด 2 กรมการจัดหางาน หรือสายด่วนกรมการจัดหางาน 1694 หรือเว็บไซต์ www.doe.go.th/overseas

'ผบ.ร.7 พัน.5' จัดรถครัวสนาม ร่วมกิจกรรมมีแล้วแบ่งปัน ณ รพ.ปาย ทำอาหารปรุงสุก แจกประชาชนฉีดวัคซีน สู้ภัยโควิด-19

(21 ก.ค.64)​ น.พ.อ.สันติพงษ์ ชิงดวง ผบ.ร.7 พัน.5 กับภารกิจดูแลช่วยเหลือพี่น้องประชาชน โดยร่วมกับส่วนราชการในพื้นที่ ได้จัดรถครัวสนาม ออกทำการประกอบอาหารบรรจุกล่อง พร้อมน้ำดื่ม จำนวน 250 ชุด หน้ากากอนามัย, เจลล้างมือและแผ่นพับประชาสัมพันธ์ แจกจ่ายให้แก่ประชาชนทั่วไปที่เข้ามารับการฉีดวัคซีน เพื่อเป็นการช่วยเหลือแบ่งเบาค่าใช้จ่ายในห้วงปฎิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส (โควิด-19) ณ โรงพยาบาลปาย ต.เวียงใต้ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน

น.พ.อ.สันติพงษ์ ชิงดวง ผบ.ร.7 พัน.5 กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยมีผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นในหลายพื้นที่ของประเทศ ส่งผลให้ประชาชนได้รับผลกระทบและความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก และทางรัฐบาลได้มีมาตรการช่วยเหลือดูแล ป้องกัน ควบคุมต่างๆ รวมถึงจัดให้มีการฉีดวัคซีนให้กับพี่น้องประชาชน เพื่อลดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส 

โดยทางหน่วย กองพันทหารราบที่ 5 กรมทหารราบที่ 7 ได้มีความห่วงใยพี่น้องประชาชน พร้อมที่จะดูแล และสนับสนุนในทุกๆ ด้านอย่างต่อเนื่อง จึงได้จัดรถครัวสนาม ร่วมกับกำลังพลจิตอาสา ประกอบอาหารปรุงสุกใหม่ๆ ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่มารับการฉีดวัคซีนได้รับประทานอิ่มท้อง เป็นการช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในครัวเรือนของประชาชน โดยมีประชาชนมารับแจกอาหารเป็นจำนวนมาก และได้มีการปฏิบัติตามมาตรการในการป้องกันควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19  ทุกคนต้องสวมใส่หน้ากากอนามัย และมีการเว้นระยะห่างในการเดินเข้ามารอรับอาหาร   

ทั้งนี้ ทางกองพันทหารราบที่ 5 กรมทหารราบที่ 7 พร้อมที่จะดูแลช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่อง ไปจนกว่าสถานการณ์ในพื้นที่ต่างๆ จะคลี่คลายลง เราคนไทยไม่เคยทอดทิ้งกัน และขอส่งกำลังใจให้พี่น้องประชาชนให้ก้าวข้ามผ่านวิกฤติโควิดนี้ไปด้วยกัน 

ผบช.สตม.​ เดินทางตรวจเยี่ยม ติดตามความคืบหน้า การก่อสร้างอาคารที่ทำการ ตม.จว.สิงห์บุรี และตรวจเยี่ยม ด่านตรวจแยกต่างระดับสิงห์เหนือ ต.บางมัญ อ.เมืองฯ จว.สิงห์บุรี

ตามนโยบาย พล.ต.อ.สุวัฒน์  แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. (มค) ให้ผู้บังคับบัญชา ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติหน้าที่ผู้ใต้บังคับบัญชาที่ และให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน 

วันนี้ (21 ก.ค.64) เวลา 14.00 น. พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม.เดินทางตรวจเยี่ยม ติดตามความคืบหน้า การก่อสร้างอาคารที่ทำการ ตม.จว.สิงห์บุรี 

เวลา 16.00 น.เดินทางมาตรวจเยี่ยมด่านตรวจแยกต่างระดับสิงห์เหนือ ต.บางมัญ อ.เมือง จว.สิงห์บุรี พบ พล.ต.ต.วีรวิชญ์ บัวประเสริฐยิ่ง ผบก.ภ.จว.สิงห์บุรี, พ.ต.อ.สุรพจน์ รอดบำรุง รอง ผบก.ภ.จว.สิงห์บุรี, พ.ต.อ.เมธาพงษ์ บุญศรี ผกก.สภ.เมืองสิงห์บุรี, พ.ต.ท.วิษณุ พงศ์พันธุ์อนุสร​ สว.ตม.จว.สิงห์บุรี พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้ปฏิบัติหน้าที่ประจำจุด และเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานอื่น ได้แก่ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข และเจ้าหน้าที่กรมการขนส่ง ว.4 ร่วมบริเวณจุดตรวจฯ 

ทั้งนี้ ได้มอบสิ่งของบำรุงขวัญ อาทิ หน้ากากอยามัย เจลแอลกอฮอล์ และเครื่องอุปโภค บริโภค ให้แก่เจ้าหน้าที่ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่เจ้าหน้าตำรวจ ในการปฏิบัติหน้าที่ และได้แสดงความห่วงใยเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงาน และการใช้ชีวิต เนื่องจาก ห้วงเวลานี้มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด 19 และได้กล่าวขอบคุณในความเสียสละ และอวยพรให้เจ้าหน้าที่จากทุกหน่วยงาน ปลอดภัยจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19

พร้อมทั้งได้มอบนโยบาย กำชับการปฏิบัติราชการ ดังนี้

1.ให้ศึกษาข้อกำหนดฯฉบับที่ 27 และข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะในเรื่องการห้ามออกนอกเคหสถาน  การปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ การปฏิบัติในการเข้าช่วยเหลือประชาชนและให้เตรียมพร้อมสนับสนุนกำลังพลและอุปกรณ์ให้กับตำรวจภูธรในพื้นที่ และถือปฏิบัติตามแนวทางด้านสาธารณสุขหรือ ศบค.กำหนด

2.กำชับการปฏิบัติตามข้อสั่งการ ตร. เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 รุนแรงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ให้หน่วยปรับรูปแบบการปฏิบัติงานให้เกิดความเหมาะสมตามแนวทางที่ ตร.กำหนด โดยพิจารณาปรับรูปแบบการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง (Work From Home) ต้องไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อราชการและการบริการประชาชน

3.จากเหตุคนจีนยิงตำรวจชลบุรี กำชับให้เพิ่มความเข้มในการบังคับใช้กฎหมาย กรณีคนต่างด้าวสัญชาติจีนให้ตรวจสอบ สืบสวนก่อนการอนุญาต และตรวจสอบหลังได้รับอนุญาตว่าเป็นไปตามวัตถุประสงค์หรือไม่ หากพบว่าไม่ถูกต้องให้ดำเนินการเพิกถอนทุกราย ให้มีผลการปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม

4.สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิดสายพันธ์ใหม่ ให้มีมาตรการในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาด ในส่วนของเจ้าหน้าที่ให้ดำเนินการตามมาตรการที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดอย่างเคร่งครัด

5.กำชับให้ปฏิบัติตามข้อสั่งการ ตร. เรื่อง แนวทางการปฏิบัติกรณีคนต่างด้าวเป็นผู้เสียหาย หรือผู้ต้องหาในคดีอาญา หรือถึงแก่ความตายโดยผิดธรรมชาติ

ร่วมบริจาค​ ก่อสร้างหอผู้ป่วยสนามเร่งด่วน​ รองรับผู้ป่วยโควิด​ โรงพยาบาล​จุฬาลงกรณ์​ สภากาชาดไทย

ขอเชิญร่วมบริจาคเพื่อก่อสร้างหอผู้ป่วย สนามเร่งด่วนจัดซื้อเครื่องมืออุปกรณ์การแพทย์รองรับผู้ป่วย โควิด-19 โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์​ สภากาชาดไทย

ในวันที่บุคลากรด่านหน้าต้องการกำลังเสริม

ทั้งอุปกรณ์และสถานที่รองรับผู้ติดเชื้อโควิดที่เพิ่มขึ้นทุกวัน

โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ขยายพื้นที่รองรับผู้ติดเชื้อโควิด

"สร้างหอผู้ป่วยสนามเร่งด่วน และจัดซื้อเครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์ 11 ชนิด" 

หอผู้ป่วยสนามเร่งด่วน กำหนดระยะเวลาก่อสร้าง 12 -15 วัน บริเวณลานหลังอาคารแพทยพัฒน์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ • สร้างอาคารแบบโครงสร้างชั่วคราว จำนวน 6 หลัง เมื่อแล้วเสร็จจะรองรับผู้ป่วยได้ 83 - 90 เตียง ภายในหอผู้ป่วย ประกอบด้วย พื้นที่พักผู้ป่วยที่มีความดันอากาศเป็นลบ ห้องทำงานพยาบาลและแพทย์ พื้นที่เก็บวัสดุการแพทย์ ห้องน้ำ ห้องเปลี่ยนชุด PPE ระบบกล้องวงจรปิดติดตามสภาพผู้ป่วยและอื่นๆ 

ร่วมส่งพลังใจให้บุคลากรด่านหน้ามีพลังในการสู้เพื่อพวกเราต่อไปนะคะ 

บริจาคเงินผ่าน QR code E-donation​ รับสิทธิ์ลดหย่อนภาษีโดยไม่ต้องขอรับใบเสร็จ โดยท่านสามารถเช็คประวัติการบริจาคผ่านระบบ E-donation ของกรมสรรพากร ได้ที่ https://bit.ly/redcross-edonation (หลังการบริจาค 3-5 วันทำการ)

หรือบริจาคเงินผ่านบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสภากาชาดไทย ชื่อบัญชี "สภากาชาดไทย เพื่อภัยพิบัติ" ประเภทบัญชี “กระแสรายวัน” เลขที่ 045-3-04637-0

แจ้งความประสงค์รับใบเสร็จดังนี้
✔️ ชื่อ-นามสกุล
✔️ เลขประจำตัวผู้เสียภาษี
✔️ ที่อยู่จัดส่งใบเสร็จ และเบอร์โทรศัพท์
✔️ แนบหลักฐานการโอนเงิน
✔️ ระบุ "พลังใจอาสาช่วยหมอ"

ส่งมาที่​ อีเมล [email protected]

#DonationHubรับเพื่อให้ #TRConlineDonation #พลังใจอาสาช่วยหมอ

‘กรณ์’ เดินหน้าเปิด ‘ศูนย์กล้าดูแล’ แห่งที่ 2 ชุมชนเทพลีลา รองรับผู้ติดเชื้อระดับสีเขียว สกัดโควิดระบาด ปลูกต้นกล้าฟ้าทะลายโจร ให้คนในชุมชนได้ใช้ประโยชน์ ย้ำความพร้อมร่วมมือชุมชน แก้วิกฤตชาติ

นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า เดินหน้าเปิดศูนย์กล้าดูแลแห่งที่ 2 ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในปัจจุบัน ที่มียอดผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงมากขึ้นทุกวัน โดยระบุว่า สถานการณ์ขณะนี้ทำให้พรรคกล้ายิ่งต้องรีบเดินหน้าช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในทุก ๆ ช่องทาง โดยล่าสุด ได้ร่วมกับชุมชน จัดตั้ง ’ศูนย์กล้าดูแล’ ชุมชนเทพลีลา เขตวังทองหลาง เป็นศูนย์พักคอยแห่งที่ 2 เพื่อดูแลผู้ติดเชื้อโควิดระดับสีเขียว แยกกักตัวจากครอบครัว เป็นการตัดวงจรการแพร่เชื้อในบ้านและชุมชน

นายกรณ์ เน้นย้ำแนวคิด ชุมชนเป็นผู้ริเริ่ม พรรคกล้าจะเข้ามาช่วยจัดระบบ นำเตียง หมอน ผ้าห่ม และสิ่งของต่าง ๆ มาสมทบ ติดต่อประสานกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และนำต้นกล้าฟ้าทะลายโจร ที่ได้รับการสนับสนุนทางอภัยภูเบศร มาปลูกในสวนส่วนกลางของชุมชน เพื่อดูแลผู้ป่วยในอนาคตต่อไป

“นี่คือตัวอย่างที่ดี ที่พรรคกล้ากับชุมชนที่มีความเข้มแข็ง มีความตั้งใจที่อยากจะลดภาระสาธารณสุขของรัฐ ด้วยการดูแลผู้ป่วยด้วยตนเอง ซึ่งวันนี้มีโรงพยาบาลขอรับผู้ป่วยไป แต่ผู้ป่วยขอรักษาตัวอยู่ในศูนย์พักคอยของชุมชน เพราะเขาสามารถอยู่ในชุมชน อยู่ใกล้ญาติพี่น้อง และทางโรงพยาบาลจะได้ปล่อยเตียงให้ผู้ที่มีอาการหนักกว่าได้ใช้ นี่คือประโยชน์ของศูนย์พักคอยชุมชน ที่พรรคกล้ามีความภาคภูมิใจที่มีโอกาสได้ช่วยชุมชนให้สามารถช่วยตนเองได้” นายกรณ์ กล่าวทิ้งท้าย


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

‘หมอนิธิพัฒน์’ เตือนถังออกซิเจนขาดตลาด ห่วงนำไปใช้กับผู้ป่วย COVID-19 โดยไม่มีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์และไม่อยู่ในการดูแลของแพทย์อาจเป็นอันตราย ขณะที่เจ้าของร้านแห่งหนึ่งยอมรับคนถามซื้อวันละ 100 สาย แต่ของขาดตลาด

นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาโรคระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล โพสต์เฟซบุ๊ก ‘นิธิพัฒน์ เจียรกุล’ กล่าวถึงกรณีภาวะถังออกซิเจนขาดตลาด ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19

นพ.นิธิพัฒน์ ระบุว่า ถังออกซิเจนขาดตลาดจากการแห่ซื้อไปตุน ทั้งถังออกซิเจนทางการแพทย์และเครื่องผลิตออกซิเจนสำหรับใช้ที่บ้าน ทำให้แผนการจัดตั้งศูนย์พักคอยผู้ป่วย COVID-19 ในชุมชนก่อนส่งต่อเข้าโรงพยาบาลเกิดความไม่สมบูรณ์ เพราะไม่สามารถให้ออกซิเจนกับผู้ป่วยที่เริ่มมีอาการรุนแรงและร่างกายขาดออกซิเจน ในระหว่างที่รอเตรียมการย้ายเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลหลัก

“การนำออกซิเจนไปใช้เมื่อเริ่มป่วย COVID-19 โดยไม่มีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ และปราศจากการกำกับดูแลของแพทย์ อาจเป็นอันตรายต่อเนื้อเยื่อทั่วร่างกายถ้าได้รับออกซิเจนมากเกินไป”

นอกจากนี้ ยังไม่นับเรื่องความสิ้นเปลือง และการเสี่ยงต่ออัคคีภัย ถ้าใช้เป็นถังบรรจุออกซิเจน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งทำความกระจ่างให้กับประชาชน พร้อมตรวจสอบความเพียงพอของการผลิตและจัดส่งออกซิเจนในทุกพื้นที่ของประเทศ

ทางด้าน ไทยพีบีเอสออนไลน์ ได้สัมภาษณ์เจ้าของร้านขายถังออกซิเจนแห่งหนึ่ง ยอมรับว่า

“ตอนนี้ที่หน้าร้านไม่มีถังออกซิเจนวางขายมา 2 วันแล้ว ของขาดตลาดจริง และบริษัทคนกลางที่นำถังออกซิเจนเข้ามาจากจีน ก็ไม่มีสินค้าเช่นกัน ตอนนี้มีคนติดต่อมาวันละเป็น 100 สาย แต่ไม่มีสินค้าให้”

สถานการณ์ที่เกิดขึ้นยืนยันไม่ใช่กระแสการปั่นราคาสินค้า เพราะการปรับราคาถังออกซิเจนปรับขึ้นมาระยะหนึ่งแล้ว ปัจจัยจากเหล็กในตลาดโลกขึ้นราคา 10% ราคาปรับมาแล้ว เช่น ราคาถังขนาด 0.5 คิวจาก 1,800 บาทเป็น 2,000 บาท

เจ้าของร้านขายถังออกซิเจน บอกอีกว่า นอกจากคนไทยที่มาหาซื้อถังออกซิเจนเพื่อเตรียมพร้อมรับมือ COVID-19 ยังมีคนจากประเทศเมียนมา เข้ามาหาซื้อ ตามหาซื้อออกซิเจนคราวละ 40-50 ถัง เพื่อส่งกลับไปให้กับคนในเมียนมาด้วย และจะดีลกับเจ้าใหญ่ ๆ ในไทย

แต่สำหรับทางร้านยังจะขายให้กลุ่มลูกค้าประจำ ที่ต้องนำไปดูแลคนป่วย และให้กับผู้ที่นำไปบริจาคในนามขององค์กรเท่านั้น จะไม่ขายให้กับคนที่จะกักตุนสินค้าแล้วนำไปขายต่อ

ส่วนกรณีที่หมอมีคำแนะนำเรื่องการใช้ถังออกซิเจนว่าอาจจะมีความเสี่ยง ปกติคนที่ดูแลคนป่วย แพทย์และพยาบาลที่ดูแลการใช้ถังออกซิเจน จะต้องรู้ระดับการปล่อยออกซิเจนให้กับผู้ป่วย

ส่วนรายใหม่ หากมาซื้อกับทางร้านจะอธิบายทำความเข้าใจอย่างชัดเจนเพื่อไม่ให้เกิดอันตราย อีกทั้งยังขายเฉพาะถังใหม่ ไม่ขายแลกถังเก่า


ที่มา : https://news.thaipbs.or.th/content/306097

https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=3809193532519635&id=100002870789106


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ส.ส.ปชป. ชู โมเดล รับคนกระบี่กลับบ้าน ช่วยผู้ป่วยโควิดรักษาตัวบ้านเกิด แนะรัฐ เร่งออกนโยบายให้ชัด วางมาตรการรองรับ ตรวจสอบความพร้อม รพ.ทั่วประเทศ

เมื่อวันที่ 21 ก.ค. น.ส.พิมพ์รพี พันธุ์วิชาติกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขอสนับสนุนนโยบายรับคนป่วยโควิด-19 กลับไปรักษาตัวที่บ้านเกิด ซึ่งครม.ออกมาขานรับแล้ว แต่ขอให้มีการเตรียมระบบให้พร้อม และรัฐบาลจะทำโดยลำพังไม่ได้ เพราะเกินกำลัง จึงอยากให้รัฐบาลจัดวางระบบเพื่อเป็นหลักการร่วมกันดังนี้

1.) ตรวจสอบโรงพยาบาลทั่วประเทศ จังหวัดไหนตึง จังหวัดไหนยังมีความพร้อมที่จะรับผู้ป่วยกลับไปรักษาที่บ้านได้ ให้ได้ข้อสรุปโดยเร็วว่าในแต่ละพื้นที่มีความพร้อมแค่ไหน ปริมาณผู้ป่วยในพื้นที่นั้น ๆ เป็นอย่างไร เพราะต้องกันพื้นที่เตียงไว้สำหรับผู้ป่วยในพื้นที่ด้วย

2.) ให้มีศูนย์กลางประสานงานรับตัวส่งต่อร่วมกับเครือข่ายภาคประชาชน จัดงบประมาณให้เพียงพอในการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยจาก กทม.ไปต่างจังหวัด กรณีผู้ป่วยที่จะเคลื่อนย้าย ต้องมีโรงพยาบาลปลายทางรองรับแล้วเท่านั้น

3.) การออกใบผ่านทางจากส่วนกลางที่ใช้ได้ทุกจังหวัด กรณีต้องมีการเคลื่อนย้าย เพื่อไม่ให้ติดขัดในช่วงที่มีการจำกัดการเดินทาง ขณะเดียวกัน ต้องมีการวางมาตรการป้องกันพวกฉวยโอกาสใช้ช่วงเวลานี้ขนแรงงานต่างด้าว หรือใช้วิกฤตที่กำลังเปิดช่องทางช่วยเหลือประชาชนไปแสวงหาประโยชน์ด้วย

และ 4.) ต้องทำความเข้าใจกับคนในพื้นที่เพื่อไม่ให้เกิดการต่อต้าน จนกลายเป็นความขัดแย้งระหว่างประชาชน

"ถ้าทำสิ่งเหล่านี้อย่างเป็นระบบได้ วางแนวป้องกันล่วงหน้า เปิดช่องทางให้เกิดความร่วมมือทุกภาคส่วน การฝ่าวิกฤตครั้งนี้จะเป็นความร่วมแรงร่วมใจของคนไทยอย่างแท้จริง เหมือนที่จังหวัดกระบี่ทำโครงการ รับคนกระบี่กลับบ้าน ที่ประสานรวมใจทั้งฝ่ายปกครอง คือ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้แทนประชาชน จิตอาสา และสำคัญที่สุด คือ ความเข้าใจของคนในพื้นที่ ทำให้โครงการไปได้ คนกระบี่อยู่รอด" น.ส.พิมพ์รพี กล่าว


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

โฆษกทำเนียบสหรัฐฯ เผย พบผู้ติดเชื้อหลังฉีดวัคซีนครบโดสจริง แต่ไม่ได้ใกล้ชิด 'โจ ไบเดน'

เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวรายหนึ่งซึ่งฉีดวัคซีนครบแล้ว มีผลตรวจโควิด-19 เป็นบวก แต่บุคคลรายดังกล่าวไม่ได้สัมผัสใกล้ชิดกับประธานาธิบดีโจ ไบเดน หรือเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนอื่น ๆ จากการเปิดเผยของโฆษกเมื่อ 20 ก.ค.64

อย่างไรก็ตาม ขณะเดียวกันก็ยอมรับว่าเจ้าหน้าที่คนนี้ไม่ใช่เคส Breakthrough Cases รายแรกของทำเนียบขาว!!

"ฉันยืนยันว่ามีเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวรายหนึ่งซึ่งฉีดวัคซีนครบแล้วมีผลตรวจโควิด-19 ออกมาเป็นบวก และเมื่อวานนี้เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวได้ออกนอกบริเวณแล้ว" เจน ซากี เลขานุการฝ่ายสื่อสารมวลชนของไบเดนกล่าวระหว่างแถลงข่าว พร้อมเผยว่าเจ้าหน้าที่รายนี้ซึ่งไม่เปิดเผยชื่อ มีอาการแค่เล็กน้อย

เธอบอกว่าเพื่อเป็นไปตามกฎระเบียบอันเข้มงวด เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวจะอยู่ห่างจากทำเนียบขาวจนกว่าจะมีการตรวจเชื้อเพิ่มเติม และเวลานี้ได้ดำเนินการติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดแล้ว

ซากี ยอมรับว่า มีผู้ฉีดวัคซีนแล้วแต่ยังติดเชื้อโควิด-19 (Breakthrough Cases) รายอื่น ๆ อีกหลายเคสที่ทำเนียบขาว แต่ไม่ยืนยันว่ามีจำนวนมากน้อยแค่ไหนหรือเกิดขึ้นเมื่อไหร่

"เรารู้ดีว่าจะมีเคสฉีดวัคซีนแล้วแต่ยังติดเชื้อ" ซากี บอกกับผู้สื่อข่าวระหว่างแถลงที่ทำเนียบขาว

"อย่างไรก็ตาม ดังที่เคสนี้แสดงให้เห็น เคสในบุคคลที่ฉีดวัคซีนโดยทั่วไปแล้วจะมีอาการเล็ก ๆ น้อย ๆ ทำเนียบขาวเตรียมพร้อมรับมือกับเคสฉีดวัคซีนแล้วแต่ยังติดเชื้อด้วยการตรวจหาเชื้อเป็นประจำ"

โฆษกหญิงรายนี้ระบุว่า เคสโควิดเหล่านั้น "เป็นการตอกย้ำอีกครั้งว่า วัคซีนโควิด-19 มีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อที่มีอาการรุนแรงหรือเข้าโรงพยาบาล"

อีกด้านหนึ่งสำนักงานของแนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ยืนยันว่าโฆษกระดับอาวุโสของเธอรายหนึ่ง มีผลตรวจโควิด-19 ออกมาเป็นบวก หลังพบปะกับเหล่าสมาชิกรัฐสภาประจำรัฐเทกซัส จากพรรคเดโมแครต ที่เดินทางมายังอาคารรัฐสภา

อย่างไรก็ตาม บุคคลรายดังกล่าวไม่ได้สัมผัสกับเปโลซี นับตั้งแต่ติดเชื้อ

หลังมีความคืบหน้าอย่างมากในการต่อสู้กับโรคระบาดใหญ่ โครงการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ของสหรัฐฯ มีอันต้องสะดุดลงในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา จนถึงตอนนี้มีประชากรวัยผู้ใหญ่ราว 68% ของอเมริกาที่ฉีดวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 โดส แต่มีความเหลื่อมล้ำทางภูมิศาสตร์เป็นอย่างมาก

การต่อต้านวัคซีนมีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญกับความแตกแยกทางการเมืองในสหรัฐฯ ซึ่งพบว่าบรรดาผู้ลังเลเข้ารับวัคซีนส่วนใหญ่แล้วมักเป็นกลุ่มคนหัวคิดอนุรักษนิยม โดยเฉพาะในบรรดาผู้สนับสนุนอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์


(ที่มา : รอยเตอร์)

ที่มา : https://mgronline.com/around/detail/9640000071140


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ปปร.21 สถาบันพระปกเกล้า รวมพลังมอบน้ำใจเงินสด 50,000 บาท ผ่านโครงการ Com Covid-19 ของมูลนิธิ IHRI เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยที่ไม่สามารถหาเตียงรักษาในโรงพยาบาล

เมื่อวันพุธที่ 21 ก.ค. 64 เวลา 14.00 น. พลตำรวจโท สุรเชษฐ์ หักพาล ประธานนักศึกษาหลักสูตร การเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยสำหรับนักบริหารระดับสูงรุ่นที่ 21 (ปปร.21) สถาบันพระปกเกล้า พร้อมด้วย คุณแสนผิน สุขี และคุณศุภสิทธิ์ สิมะอารีย์ เป็นตัวแทนรุ่นมอบเงินจำนวน​ 50,000 บาท สนับสนุนโครงการ Com Covid-19 ของมูลนิธิ IHRI เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยที่ไม่สามารถหาเตียงรักษาในโรงพยาบาลได้

นอกจากนี้ยังสนับสนุนการจัดให้มีหมอพยาบาลคอยดูแล ผู้ป่วยโควิดแบบออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมง โดยหวังว่า ปปร.21 จะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือเยียวยาและเป็นกำลังใจให้แก่คนไทยทุกคน เราจะผ่านวิกฤต Covid-19 ไปด้วยกัน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top