Tuesday, 1 July 2025
NEWS FEED

'จีน' ชี้ฉีด Sinovac เข็ม 3 ช่วยกระตุ้นแอนติบอดีต่อเชื้อเดลตาได้ 2.5 เท่าของเข็ม 2

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานโดยอ้างถึงผลการศึกษาจากสถาบันวิทยาศาสตร์จีน มหาวิทยาลัยฟูตัน เมืองเซี่ยงไฮ้ ซึ่งจัดทำร่วมกับบริษัท Sinovac และสถาบันอื่น ๆ ในประเทศจีน เพื่อวิเคราะห์ประสิทธิภาพของวัคซีน Sinovac ในการต่อสู้กับโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาเมื่อมีการฉีดวัคซีนเป็นเข็มที่ 3

ทีมวิจัยได้ทำการเก็บตัวอย่างจากผู้เข้าร่วม 66 คนและอาสาสมัคร 38 คนที่ได้รับวัคซีน 2 หรือ 3 โดส พบว่าเมื่อฉีดวัคซีน Sinovac เข็มที่ 2 ไปแล้ว 6 เดือน ไม่พบการทำงานของแอนติบอดีที่จะสามารถต้านทานโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา

แต่หากกระตุ้นด้วยการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 พบว่าสามารถเพิ่มแอนติบอดีต่อเชื้อเดลตาได้ถึง 2.5 เท่า หลังฉีดเข็มที่ 3 ไปแล้วประมาณ 4 สัปดาห์ เมื่อเทียบกับระดับแอนติบอดีที่พบหลังฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ไปแล้ว 4 สัปดาห์เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม การศึกษาดังกล่าวไม่ได้ระบุชัดเจนว่าระดับแอนติบอดีที่เพิ่มขึ้นนั้นมีผลต่อประสิทธิภาพของวัคซีนในการต่อต้านไวรัส หรือช่วยลดความเสี่ยงในการเจ็บป่วยอาการหนักหรือเสียชีวิตได้หรือไม่

โดยก่อนหน้านี้ทางผู้ผลิตวัคซีนยังไม่เคยเปิดเผยข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับประสิทธิภาพของวัคซีนดังกล่าวในการต่อต้านโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา

ผลการศึกษาเกิดขึ้นท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับประสิทธิภาพของวัคซีนดังกล่าวในการรับมือกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาซึ่งมีศักยภาพในการแพร่ระบาดสูงอันเป็นที่น่าวิตกกังวลของทั่วโลก เนื่องจากส่งผลให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในหลายประเทศ แม้ในประเทศที่มีอัตราการฉีดวัคซีนสูง

โดยหลายประเทศที่พึ่งพาวัคซีน Sinovac เป็นหลักเริ่มดำเนินการฉีดวัคซีนอื่น ๆ ที่พัฒนาโดยชาติตะวันตกเป็นวัคซีนเข็มที่ 3 ให้แก่ประชาชนเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน

ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลก (WHO) วางแผนที่จะส่งมอบวัคซีน Sinovac และ Sinopharm ประมาณ 100 ล้านโดสไปยังแอฟริกาและเอเชียภายในสิ้นเดือนนี้ โดยเป็นการส่งมอบวัคซีนที่ผลิตโดยประเทศจีนครั้งแรกผ่านโครงการ COVAX

ขณะที่บางประเทศปฏิเสธรับวัคซีนดังกล่าว โดยให้เหตุผลว่าวัคซีนขาดข้อมูลด้านประสิทธิภาพในการต่อต้านโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา


ที่มา : https://www.posttoday.com/world/662521

'ลาว' เตรียมพร้อมเปิดเดินรถไฟเส้นทาง 'จีน-ลาว' ตรงกับวันชาติลาว 2 ธันวาคมนี้

1.) เฟซบุ๊ก ‘ແອໂຣລາວ AEROLAOS’ เผยแพร่ภาพพนักงานต้อนรับบนรถไฟสายประวัติศาสตร์ จีน-ลาว พร้อมข้อความ ‘พร้อมมั้ย? อีกแค่ 3 เดือนเท่านั้น!’ 

2.) สำหรับการก่อสร้างและการเตรียมความพร้อมในด้านต่าง ๆ ใกล้ 100% เข้าไปทุกที รัฐบาลลาวมั่นใจในความพร้อม เริ่มเปิดเดินรถไฟเส้นทางจีน-ลาว วันที่ 2 ธันวาคมนี้ ตรงกับวันชาติลาวพอดี

3.) การก่อสร้างทางรถไฟจีน-ลาว เริ่มดำเนินงานมาตั้งแต่ปี 2559 ใช้เวลาก่อสร้างรวม 5 ปี มีระยะทางยาว 414 กิโลเมตร เป็นเส้นทางรถไฟระบบรางเดี่ยว ใช้งบประมาณ 191,000 ล้านบาท เป็นการลงทุนจากจีนเป็นส่วนใหญ่

4.) ตลอดเส้นทางรถไฟความเร็วสูงจีน-ลาว มี 32 สถานี แบ่งเป็นสถานีขนส่งสินค้า 22 แห่ง สถานีโดยสาร 10 แห่ง เชื่อมระบบรถไฟกับจีนที่เมืองคุนหมิง เมืองเอกของมณฑลยูนนาน ตะวันตกเฉียงใต้ของจีน เข้าสู่เขตลาวที่เมืองบ่อเต็น แขวงหลวงน้ำทา ผ่านแขวงหลวงพระบาง แขวงอุดมไซ มาถึงแขวงเวียงจันทน์

5.) ธนาคารโลกระบุว่า เส้นทางรถไฟสายนี้ตอบโจทย์หลายข้อ ส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างสองประเทศ เพิ่มความสะดวกให้กับประชาชนในการเดินทาง เรียกได้ว่าเป็นผลประโยชน์ร่วมทางยุทธศาสตร์ระหว่างจีน-ลาว สอดคล้องกับจุดมุ่งหมายยุทธศาสตร์หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของจีน ที่ต้องการให้ทุกประเทศได้ผลประโยชน์ร่วมกัน

6.) การมีเส้นทางรถไฟเชื่อมกับจีน ลาวสามารถพัฒนาประเทศทางเศรษฐกิจได้มากขึ้นกว่านี้ สามารถเพิ่มกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เป็นระบบและมีประสิทธิภาพตามพื้นที่ที่ทางรถไฟตัดผ่านได้มากขึ้นอีก


ที่มา: https://www.facebook.com/178839832836368/posts/882384835815194/

อ้างอิง: www.facebook.com/478509568864279/posts/4190207557694443/

China Xinhua News

Laos-China Railway on Track for December Opening 

https://thediplomat.com/2021/08/laos-china-railway-on-track-for-december-opening-official/

Main structure of longest bridge along China-Laos Railway completed

www.globaltimes.cn/page/202106/1226387.shtml

‘บูลเทค ซิตี้’ ลงพื้นที่มอบถุงยังชีพ ให้ผู้กักตัวช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ ต.บางวัว อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา

วันนี้ 7 ก.ย. 64  ทีมงานฝ่ายความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) โครงการนิคมอุตสาหกรรม ฉะเชิงเทรา บลูเทค ซิตี้ ลงพื้นที่มอบ เครื่องอุปโภคบริโภค ในพื้นที่ ต.บางวัว อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา

โดยมีนายจำเรียง พร้อมมณี ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านลตำบลบางวัว เป็นตัวแทน รับมอบ เพื่อนำไปแจกจ่ายให้แก่ผู้ประสบปัญหาและครอบครัว ที่ได้รับผลกระทบเนื่องจากเป็นกลุ่มเสี่ยงสูงที่มีการสัมผัสผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ต้องกักตัว 14 วัน เพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้กำลังใจในการดำรงชีพต่อไป

โอกาสนี้ บลูเทค ซตี้ ร่วมสนับสนุนมาม่า จำนวน 900 ซอง , ปลากระป๋อง จำนวน 900 กระป๋อง เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ที่กักตน 14 วัน ในพื้นที่ ต.บางวัว อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา

'ญี่ปุ่น' เตรียมคลายล็อกเปิดประเทศ อนุญาตกลุ่มนักธุรกิจก่อน ส่วนนักท่องเที่ยงยังต้องรอ

สมาพันธ์ธุรกิจแห่งญี่ปุ่น เสนอรัฐบาลให้ผ่อนคลายมาตรการควบคุมการเดินทางสำหรับผู้ที่ฉีดวัคซีนโรคโควิด-19 แล้ว นายกฯ รับปากจะเปิดประเทศอย่างเป็นขั้นเป็นตอน คาดเปิดทางให้นักธุรกิจและครอบครัวชาวญี่ปุ่นก่อน

สมาพันธ์ธุรกิจแห่งญี่ปุ่น หรือเคดันเร็ง ได้ยื่นชุดข้อเสนอต่อนายกฯ โยชิฮิเดะ ซูงะ เป็นต้นว่า ให้ผู้ที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วได้รับการยกเว้นไม่ต้องกักตัวเมื่อเดินทางเข้าญี่ปุ่น และให้ลดระยะเวลากักตัวสำหรับผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนเป็นไม่เกิน 10 วัน รวมทั้งให้อนุญาตให้จำหน่ายชุดตรวจหาเชื้อได้ในร้านขายยาทั่วไป

นายมาซาคาสุ โทคูระ ประธานไคดันเร็ง ระบุว่าเอกสารรับรองการฉีดวัคซีนจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการฟื้นฟูเศรษฐกิจในต่างประเทศ ข้อมูลรับรองการฉีดวัคซีนสามารถใช้เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ เข้าร้านอาหาร และใช้บริการระบบขนส่งสถานที่สาธารณะ

นายกฯ โยชิฮิเดะ ซูงะ รับปากว่า รัฐบาลจะพิจารณาข้อเสนอทั้งหลายอย่างเป็นขั้นเป็นตอน พร้อมระบุว่า รัฐบาลจะออกเอกสารรับรองการฉีดวัคซีนแบบดิจิทัลในสมาร์ทโฟนได้ในเดือนธันวาคมนี้

ญี่ปุ่นได้ออกเอกสารรับรองการฉีดวัคซีนสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางไปต่างประเทศ แต่ไม่ใช้การฉีดวัคซีนเป็นเงื่อนไขในการเข้าใช้บริการต่าง ๆ ภายในประเทศ โดยอ้างว่าเพื่อหลีกเลี่ยงการเลือกปฏิบัติต่อคนที่ไม่อยากฉีดวัคซีน หรือไม่สามารถฉีดวัคซีนได้

ญี่ปุ่นได้ระงับการเข้าประเทศของชาวต่างชาติมานานเกือบ 2 ปีจากการระบาดของโรคโควิด ผู้ที่สามารถเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นได้ในขณะนี้ คือผู้ที่มีสิทธิ์พำนักในญี่ปุ่นอยู่แล้วเท่านั้น แม้แต่นักศึกษาต่างชาติ คนทำงาน ครอบครัวที่ยื่นขอวีซ่าใหม่ก็ยังไม่สามารถเข้าประเทศญี่ปุ่นได้

ล่าสุด มีรายงานว่า สถานทูตญี่ปุ่นในหลายประเทศได้เริ่มออกวีซ่าใหม่ให้กับนักศึกษาทุนรัฐบาล และครอบครัวของชาวญี่ปุ่นแล้ว สมาคมนักธุรกิจต่างชาติในญี่ปุ่นคาดว่า รัฐบาลญี่ปุ่นจะเปิดทางให้นักธุรกิจระหว่างประเทศเดินทางได้ก่อนปลายปีนี้ แต่นักท่องเที่ยวต่างชาติยังต้องรออีกนานกว่าจะมาเที่ยวญี่ปุ่นได้อีกครั้ง


ที่มา : https://mgronline.com/japan/detail/9640000088412

'จีน' เตรียมเปิดตลาดหุ้นแห่งใหม่ เน้นรองรับธุรกิจ SMEs ของจีน เข้าทำนอง 'จีนทำ จีนใช้  จีนเจริญ จีนไม่สนฝรั่ง'

รศ.ดร.อักษรศรี พานิชสาส์น อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อดีตผู้อำนวยการศูนย์วิจัยยุทธศาสตร์ไทย-จีน แห่ง วช.

รศ.ดร.อักษรศรี พานิชสาส์น โพสต์ลง Facebook ในเรื่องนี้ว่า…

#ตลาดหุ้นจีนแห่งใหม่ คงตอบโจทย์คาใจใครหลายคนนะคะ การที่จีนคุมเข้มบริษัทจีนออกไป IPO ต่างประเทศ แล้วบริษัทจีนเหล่านั้นจะไประดมทุนที่ไหน ? จะเติบโตได้อย่างไร ? don’t worry นะ จีนเตรียมการไว้แล้ว ก่อนจะลงมือ #จัดระเบียบทุน จนสั่นสะเทือนไปทั้งโลกทุนนิยม !!!  #สีจิ้นผิง ประกาศจะตั้งตลาดหุ้นแห่งใหม่ #ตลาดหุ้นปักกิ่ง เตรียมเปิดรองรับการระดมทุนจีนเองเลยจ้า แถมจะเป็นตลาดหุ้นจีนที่เน้นรองรับ SMEs จีนด้วยนะ เข้าทำนองว่า “จีนทำ จีนใช้  จีนเจริญ จีนไม่สนฝรั่ง” ???? #จีนโนแคร์

Note: จีนมีตลาดหุ้น 2 แห่งแล้วบนแผ่นดินใหญ่ คือ #ตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ และ #ตลาดหุ้นเสิ่นเจิ้น แล้วก็ยังมี #ตลาดหุ้นฮ่องกง ด้วยนะ ดังนั้น บริษัทจีนมีทางเลือกตรึมเลยจ้า ไม่ต้องไปแคร์ฝรั่ง #โลกแตกแกน #TheGreatDecoupling ????

พร้อมสาระสำคัญขยายความ อ้างอิงจากเพจ Nihao-Sawadee ว่า... 
Credit: https://www.facebook.com/117547923447097/photos/a.130779808790575/333247238543830/?type=3

#บทวิเคราะห์ เปิดเหตุผล “ทำไมจีนเตรียมเปิดตลาดหุ้นแห่งใหม่ในปักกิ่ง แม้ปัจจุบันมีตลาดหุ้นถึง 2 แห่ง ในจีน”

กลายเป็นหนึ่งในประเด็นที่ถูกพูดถึงในช่วงสุดสัปดาห์นี้เลย สำหรับการกล่าวสุนทรพจน์ของ สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ในการประชุมสุดยอดการค้าภาคบริการโลกของงานมหกรรมการค้าบริการนานาชาติจีน (China International Fair for Trade in Services: CIFTIS) 

ใจความสำคัญของการกล่าวสุนทรพจน์ของสี จิ้นผิง เป็นการแสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับการพัฒนาการค้าภาคบริการของจีนและความร่วมมือกับนานาประเทศ เพื่อฟื้นเศรษฐกิจโลก หลังจากเผชิญวิกฤติแพร่ระบาดโควิด-19 

โดย “แผนเปิดตลาดหุ้นแห่งใหม่ในกรุงปักกิ่งของประเทศจีน” จากถ้อยแถลงของสี จิ้นผิง ได้รับการจับตามองจากทั่วโลกทันที จึงขอสรุปเหตุผล “ทำไมจีนต้องเปิดตลาดหุ้นแห่งใหม่ เป็นแห่งที่ 3 ของประเทศจีน” 

จากการรายงานของสถานีวิทยุและโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน ชี้ให้เห็นว่า ทางสี จิ้นผิง ให้ความสำคัญกับการพัฒนาธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ SMEs ของจีน เป็นอย่างมาก จีนจึงจะเปิดตลาดหุ้นแห่งใหม่ที่ปักกิ่ง เพื่อสนับสนุนและรองรับธุรกิจ SMEs ที่มีเป้าหมายในการพัฒนาด้านนวัตกรรม 

อีกเหตุผลหนึ่งคือ เป็นการดึงดูดเงินลงทุนหลั่งไหลจากบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นต่างประเทศเข้ามาซื้อขายในตลาดหุ้นจีนแห่งนี้ ซึ่งก็ส่งผลดีโดยตรงต่อธุรกิจ SMEs ตามเหตุผลแรกที่ระบุไปแล้วว่า เปิดตลาดหุ้นเพื่อรองรับ SMEs จีน ที่มุ่งเน้นในการพัฒนานวัตกรรม ซึ่งสี จิ้นผิง ได้กล่าวถึงการพัฒนาเขตสาธิตการพัฒนาเชิงนวัตกรรมการค้าภาคบริการของรัฐ และเขตสาธิตการค้าดิจิทัล เป็นข้อบ่งชี้ถึงวิสัยทัศน์ในการบริหารประเทศจีนภายใต้การนำของสี จิ้นผิง ว่าเน้นทางนวัตกรรม และให้ความสำคัญกับ SMEs อย่างแท้จริง


แหล่งข้อมูล:
https://news.cgtn.com/news/2021-09-02/Xi-Jinping-China-to-establish-new-stock-exchange-in-Beijing-13exDdi89CE/index.html
http://m.news.cctv.com/2021/09/02/ARTIfvz5TL90CyY0GoLTyLkW210902.shtml

'รมว.แรงงาน' ห่วงใยแรงงานนอกระบบยะลา มอบบัณฑิตแรงงาน และอสร. เดินรณรงค์เคาะประตูบ้าน เชิญชวนฉีดวัคซีน ยึดหลัก "D-M-H-T-T-A" คุมการแพร่ระบาดกลุ่มเปราะบาง 1,740 ครัวเรือน

วันที่ 6 ก.ย. 2564 นางสาวพุทธชาติ อินทร์สวา รักษาราชการแรงงานจังหวัดยะลา Kick off เริ่มกิจกรรมสร้างการรับรู้ต้านภัยโควิด-19ให้แก่แรงงานนอกระบบ 1,740 ครัวเรือน ระหว่างวันที่ 6-8 ก.ย.2564 ตามข้อสั่งการของ นายสุชาติ ชมกลิ่น รมต.แรงงาน ซึ่งมีความห่วงใยแรงงานนอกระบบในจังหวัดยะลา ให้เร่งสร้างการรับรู้ในการป้องกันภัยจากโรคติดเชื้อโควิด-19

โดยมอบบัณฑิตแรงงานและอสร.เดินรณรงค์เคาะประตูบ้าน ยึดหลัก "D-M-H-T-T-A" พร้อมเชิญชวนฉีดวัคซีน ลดความเสี่ยงและควบคุมการแพร่ระบาดในกลุ่มเปราะบางซึ่งเป็นแรงงานนอกระบบ 1,740 ครัวเรือน

นางสาวพุทธชาติ อินทร์สวาได้เปิดเผยเพิ่มเติมว่า การลงพื้นที่เดินรณรงค์ต้องการให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ของ 8 อำเภอ จ.ยะลา โดยบัณฑิตแรงงาน 76 คน และอาสาสมัครแรงงาน 58 คน จัดทีมงานเดินรณรงค์เคาะประตูบ้านแรงงานนอกระบบที่เป็นกลุ่มเปราะบางให้มีความรู้เพื่อป้องกันตัวจากโควิด-19 ตามมาตรการ D-M-H-T-T-A และแจกหน้ากากอนามัยเป็นอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล

พร้อมเชิญชวนให้เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด ภายใต้โครงการศูนย์แรงงานอำเภอเคลื่อรที่ด้วยรอยยิ้ม จังหวัดยะลา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ครั้งนี้ 2 สำนักงานแรงงานจังหวัดยะลา

‘อนุทิน’ ยอมรับ ข้อมูลสาธารณสุขโดนแฮกจริง แต่แค่ข้อมูลเบื้องต้น ย้ำไม่ต้องตื่นตระหนก

วันที่ 7 ก.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมคณะรัฐมนตรี กรณีที่โซเชียลเปิดเผยว่าข้อมูลผู้ป่วยของกระทรวงสาธารณสุขถูกแฮก ว่า เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นที่จ.เพชรบูรณ์ และเคยเกิดที่สระบุรี เมื่อทราบข่าวได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ไปดำเนินการและได้สั่งการเรียบร้อยแล้ว โดยข้อมูลที่ถูกโจรกรรมเป็นข้อมูลเบื้องต้นทั่วไป ไม่ได้เป็นความลับอะไร 

เมื่อถามว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 จะปรับมาตรการอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า หลังจากนี้จะปรับมาตรการทางปลอดภัยทางไซเบอร์เพิ่มขึ้น เราไม่คิดจะมีคนคิดทำได้ขนาดนี้ แต่เชื่อว่าทางโรงพยาบาลจะมีการจัดข้อมูลชั้นความลับของคนไข้ซึ่งเป็นเรื่องที่สำนักปลัดกระทรวงต้องไปแก้ไขให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ไม่มีอะไรตื่นตระหนก

เมื่อถามถึงแนวทางการยุบ ศบค.กระทรวงสาธารณสุข พร้อมรับไม้ต่ออย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า ด้านการสาธารณสุข มีความพร้อม แต่ต้องหาวิธีการบูรณาการกับภาคส่วนอื่นโดยเฉพาะด้านความมั่นคง การบังคับใช้กฎหมาย เรื่องการสนับสนุนระหว่างกันของหน่วยงาน แต่คิดว่าจะต้องหารือกัน

‘คุณสมบัติ’ ประธานกลุ่ม อินเตอร์ลิ้งค์ฯ จัดสัมมนา PoE "Power Over Ethernet" พร้อมทีมวิทยากรชั้นนำมาเจาะลึกเทคโนโลยี PoE

คุณสมบัติ อนันตรัมพร ประธาน กลุ่ม อินเตอร์ลิ้งค์ฯ จัดงานสัมมนา PoE "Power Over Ethernet" เทคโนโลยีการส่งไฟฟ้าในสายสัญญาณสำหรับงานภายในอาคารและภายนอกอาคาร

พร้อมนำทีมวิทยากรชั้นนำมาเจาะลึกเทคโนโลยี PoE ที่จะเข้ามาช่วยให้การเชื่อมต่อระบบของลูกค้าเป็นเรื่องง่ายยิ่งขึ้น โดยงานสัมมนาครั้งนี้ได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้ากลุ่มผู้บริหารไอที จากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนทั่วประเทศกว่า 350 คน

???? LIVE จากสนง.ใหญ่ อินเตอร์ลิ้งค์ กรุงเทพฯ

ก.อุตฯ ร่วมกับผู้ประกอบการญี่ปุ่น มอบวัสดุอุปกรณ์ใช้ป้องกันและรักษาโรคโควิด-19 มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท ส่งต่อ รพ.สนามพื้นที่ 7 จังหวัดควบคุมสูงสุดและเข้มงวด

ผู้ประกอบการในจังหวัดชิมาเนะ ของประเทศญี่ปุ่น มอบวัสดุอุปกรณ์ใช้ป้องกันและรักษาโรคโควิด-19 มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท ให้กระทรวงอุตสาหกรรม ส่งมอบให้โรงพยาบาลสนามพื้นที่สีแดงเข้ม ผ่านสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด (สอจ.)

นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวภายหลังเป็นประธาน ในกิจกรรมรับมอบวัสดุอุปกรณ์ป้องกันและรักษาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จากบริษัท ฮิโรเสะ โปรดักส์ (ไทยแลนด์) จำกัด ว่า จากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ในประเทศ ส่งผลให้มีผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมากและอุปกรณ์ทางการแพทย์ไม่เพียงพอ

ทางบริษัท ฮิโรเสะฯ ได้ห่วงใยคนไทยจึงให้การสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ในการป้องกันและรักษาโรคฯ จำนวน 5 รายการ ประกอบด้วย เครื่องผลิตออกซิเจน ขนาด 5 ลิตร จำนวน 18 เครื่อง หน้ากากอนามัย N95 จำนวน 8,634 ชิ้น ชุดป้องกันส่วนบุคคล หรือ PPE สำหรับบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน จำนวน 2,050 ชุด ถุงหุ้มรองเท้า จำนวน 1,800 คู่  หมวกคลุมผม จำนวน 3,600 ชิ้น รวมมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท มอบให้กระทรวงอุตสาหกรรมนำไปส่งต่อให้แก่โรงพยาบาลสนามในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 7 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสมุทรปราการ นนทบุรี ปทุมธานี นครปฐม ฉะเชิงเทรา สมุทรสาคร ชลบุรี โดยให้สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด (สอจ.) ในพื้นที่นั้น ๆ เป็นผู้ประสานงานและส่งมอบ และได้ปล่อยขบวนรถ เพื่อส่งต่อวัสดุอุปกรณ์ฯ โดยเร็ว โดยเฉพาะเครื่องผลิตออกซิเจนที่มีความจำเป็นต่อผู้ป่วยอาการหนัก และในปัจจุบันเครื่องดังกล่าวมีไม่เพียงพอต่อจำนวนผู้ป่วย

“นอกจากนี้ ผมได้อนุมัติงบประมาณ 8 แสนบาท เพื่อให้เจ้าหน้าที่กระทรวงฯ ส่วนภูมิภาคจัดซื้อชุดตรวจโควิด (Antigen Test Kit) และชุด PPE สำหรับใช้ปฏิบัติงานเมื่อลงพื้นที่ตรวจประเมินสถานประกอบการ ในฐานะที่กระทรวงฯ เป็นเจ้าภาพหลักในการป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19 ในโรงงาน ซึ่งขณะนี้มีการติดเชื้อลดลง อย่างต่อเนื่อง และจากคำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ 14/2564 สั่งการ ณ วันที่ 28 สิงหาคม 2564 ได้มอบหมายให้

ผมเป็น “หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการด้านการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ในส่วนที่เกี่ยวกับการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (Covid-19) ในสถานประกอบกิจการและโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งจะครอบคลุมทั้ง ภาคการค้า การบริการ และการท่องเที่ยว ที่ต่างได้รับผลกระทบจากโควิด

ขณะนี้ กระทรวงฯ ได้ยกร่างคำสั่งฯ แล้วเสร็จ และมีแผนที่จะประชุมคณะกรรมการศูนย์ฯ ในวันที่ 8 กันยายน 2564 โดยจะหารือเพื่อนิยามสถานประกอบกิจการที่ภาครัฐเข้าไปดูแล ซึ่งจะสอดคล้องกับมาตรการผ่อนคลาย และเป้าหมายของภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เดินหน้าต่อจากนี้ธุรกิจอุตสาหกรรมในยุคปกติใหม่ (New Normal) จะต้องดำเนินกิจการไปพร้อมกับมาตรการควบคุมโรค และทุกฝ่ายต้องให้ความร่วมมือปฏิบัติ ไม่ว่าจะรัฐ เอกชน รวมทั้งประชาชน” นายกอบชัย กล่าว

นายมานาบุ เทะสึโมโตะ (Mr. Manabu Tetsumoto) ประธานบริษัท ฮิโรเสะ โปรดักส์ สำนักงานใหญ่ จังหวัดชิมาเนะ ประเทศญี่ปุ่น จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯ ตระหนักถึงผลกระทบจากการระบาดของโรค โควิด-19 ต่อคนไทยจึง ให้การสนับสนุนและคาดหวังที่จะช่วยเหลือผู้คนได้เป็นจำนวนมาก แม้ปัจจุบันบริษัทฯ จะมีเพียงฝ่ายขายในไทยก็ตาม ทั้งนี้ก่อนที่โรคโควิด-19 จะระบาด ตลาดสินค้าที่ทำจากไม้ในไทย มีการขยายตัวสร้างผลประกอบการที่ดี เพราะนอกจากเมืองไทยมีร้านอาหารมากมายแล้ว สินค้าของบริษัทฯ ยังตอบสนองนโยบายลดการใช้พลาสติกของรัฐบาลไทย และกระแสผู้บริโภคที่รักษ์สิ่งแวดล้อมมากขึ้น ดังนั้น หลังจากสถานการณ์โรคโควิด-19 คลี่คลายลง บริษัทฯ มีแผนที่จะลงทุนตั้งโรงงานผลิตในไทยในอีก 1- 2 ปีข้างหน้า

ทั้งนี้ บริษัท ฮิโรเสะฯ มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในจังหวัดชิมาเนะ ประกอบธุรกิจจำหน่ายและส่งออกสินค้าทุกชนิดซึ่งทำจากไม้หรือไม้ไผ่ เช่น ไม้เสียบอาหาร/ไอศกรีมแท่ง ช้อนส้อม ตะเกียบ โดยมียอดขายเป็นอันดับ 1 ของญี่ปุ่น และได้มีการขยายการลงทุนในอาเซียน คือ ประเทศเวียดนาม ฟิลิปปินส์ และไทย

อบจ.พัทลุง​ จัดสรรงบ 1 ล้านบาท ซื้อถุงยังชีพ 2,000 ถุง ช่วยเหลือชาวพัทลุงที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19

(6 ก.ย.64)​ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงสายที่ผ่านมา ที่โรงยิมเนเซี่ยม 1,000 ที่นั่ง สนามกีฬากลางจังหวัดพัทลุง นายวิสุทธิ์ ธรรมเพชร นายก อบจ.พัทลุง ร่วมกับ นางสาวสุพัชรี  ธรรมเพชร ผู้ช่วยเลขานุการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และหัวหน้าส่วนราชการมอบถุงยังชีพ จำนวน 2,000 ชุด ผ่านโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ในเขตจังหวัดพัทลุง​ นำไปช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้ง 11 อำเภอ 

นายวิสุทธิ์ ธรรมเพชร นายก อบจ.พัทลุง  กล่าวว่า องค์การบริหารส่วนจังหวัดพัทลุง ได้ตระหนักและให้ความสำคัญในการให้ความช่วยเหลือประชาชนในด้านการดำรงชีพของประชาชนชาวพัทลุงที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ (COVID-19) 

ทาง อบจ. จึงได้จัดสรรงบประมาณจำนวน 1,000,000 บาท เพื่อจัดหาถุงยังชีพ จำนวน 2,000 ชุด ช่วยเหลือประชาชนที่ได้ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าว

นายก อบจ.พัทลุง ยังกล่าวด้วยว่า ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิดที่ผ่านมา ทาง​ อบจ.​ ได้ร่วมมือกับทาง สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพัทลุง โรงพยาบาลพัทลุง  และทางจังหวัดในการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโควิดมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการจัดซื้อวัสดุและอุปกรณ์การแพทย์มอบให้กับโรงพยาบาลต่างๆ การจัดซื้อหน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ สเปรย์แอลกอฮอล์ ช่วยเหลือประชาชนผ่านทางโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ฯลฯ 

ส่วนในกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า ทำไม  อบจ.พัทลุง​ ไม่พิจารณาจัดซื้อวัคซีนมาฉีดให้กับประชาชนนั้น นายวิสุทธิ์ฯ นายก อบจ.ได้ชี้แจงว่า จากการหารือกับทางจังหวัดได้รับการยืนยันว่า ในเดือน ตุลาคม 2564 ที่จะถึงนี้จะมีการฉีดวัคซีนให้ประชาชนเกือบ 100  เปอร์เซ็นต์​

ส่วนในเดือน พฤศจิกายน 2564 ก็จะมีการฉีดวัคซีนให้กับนักเรียนด้วย จึงไม่ต้องการทำงานซ้ำซ้อนกัน และที่สำคัญนั้นทาง อบจ.พัทลุงมีงบประมาณที่จำกัด ซึ่งในปีงบประมาณ 2564 นี้ ทางรัฐบาลยังค้างการจัดสรรงบประมาณให้ อบจ.พัทลุงมากกว่า 50 ล้านบาท

​​​​​​


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top