Thursday, 10 July 2025
NEWS FEED

'เพื่อไทย' ปล่อยคลิปครบรอบ 1 ปี เปิดตัว ‘แพทองธาร’ ประธานที่ปรึกษาฯ ทีมนวัตกรรม พร้อมเดินหน้าสร้าง ‘พรุ่งนี้ของประเทศไทย’ ร่วมกัน

พรรคเพื่อไทย เผยแพร่คลิปสั้นผ่านโซเชียลมีเดียพรรค ‘ครบรอบ 1 ปี คณะที่ปรึกษาการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม’ ที่มีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร เป็นประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย โดยเนื้อหาภายในคลิป นางสาวแพทองธาร ระบุว่า 1 ปีที่ผ่านมา ตนและทีมนวัตกรรม ได้ทำหน้าที่ริเริ่มสร้างสรรค์กิจกรรมต่างๆ ร่วมกับพี่น้องประชาชน ผ่านหัวใจของ 2 สิ่งคือ นวัตกรรม และการมีส่วนร่วม โดยการนำเสนอนโยบายที่นำเอา ‘นวัตกรรมทางความคิด’ และ ‘นวัตกรรมด้านเทคโนโลยี’ เข้ามาผสมผสานการออกแบบนโยบายในทุกภาคส่วน ซึ่งเป็นการสร้างการมีส่วนร่วมทั้งในพรรค และนอกพรรค ผสานความร่วมมือของคนทุกเจเนอเรชัน เรามีคนรุ่นใหม่ๆ ที่อยากสร้างความเปลี่ยนแปลงเข้ามาในพรรคมากขึ้น มีการผนึกกำลังจากกลุ่มคนหลายภาคส่วนมากขึ้น มีไอเดียใหม่ๆ ที่คนหลายกลุ่มนำเสนอเข้ามา ซึ่งเราพยายามนำเอาไอเดียเหล่านี้มาพัฒนาเพื่อสร้างนโยบายที่ครอบคลุมตอบโจทย์คนทุกกลุ่ม ทุกรุ่น ทุกวัย ทั้งหมดนี้นำพาตนและทุกคนมาพบกัน ในการเปิดพื้นที่ เพื่อร่วมกันคิด ร่วมมือกันสร้างพลังแห่งความเปลี่ยนแปลงต่างๆ มากมาย

ทั้งนี้ภายในคลิปยังได้มีการรวบรวมกิจกรรมที่นางสาวแพทองธารและทีม ได้ร่วมกันหารือแลกเปลี่ยน และลงพื้นที่ในการรับฟังความคิดเห็นพี่น้องประชาชนในหลากหลายกลุ่ม ซึ่งถือเป็นการนำเอา ‘นวัตกรรมทางความคิด’ และ ‘นวัตกรรมด้านเทคโนโลยี’ มาใช้ผสมผสานเข้ากับการออกแบบนโยบาย ซึ่งเป็นไปตามแนวทางการบ้าน 5 ข้อ ที่นางสาวแพทองธาร ได้ประกาศไว้ในการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2565 เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2565 

ได้แก่...

1. การเพิ่มการมีส่วนร่วมของประชาชน ด้วยการเปิดพื้นที่แลกเปลี่ยนความรู้และความคิดเห็นในประเด็นต่างๆ เช่น UNISEC กลุ่มเยาวชนที่สนใจทางด้านอวกาศ การจัดกิจกรรมนิทรรศกี (นโยบายสวัสดิการผ้าอนามัยฟรีถ้วนหน้า),  ร่วมสนับสนุน PRIDE month (นโยบายการสมรสเท่าเทียม), การพูดคุยกลุ่มชาติพันธ์เพื่อผลักดันสิทธิความเท่าเทียม, การสร้าง Big data ทางด้านการศึกษา ที่ต้องการสร้าง platform การเรียนรู้แบบออนไลน์  (นโยบาย life long learning life long earning)

2. Soft power เฟ้นหาศักยภายในแต่ละครอบครัว เพื่อเพิ่มรายได้ใหม่ (One family one soft power : OFOS หนึ่งครอบครัวหนึ่งศักยภาพ ) 

3. นโยบายเกษตรสมัยใหม่ ด้วยการเข้าเยี่ยมชมศึกษาการทำการเกษตรของบริษัท  Sunsweet เพื่อผลักดันการใช้ application listenfield เพื่อปรับหน้าดิน,  ชูนโยบายตลาดนำนวัตกรรมเสริมเพิ่มรายได้ ตลอดจนส่งเสริมการใช้ foodtech agritech

4.ปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ราชการด้วยแพลตฟอร์มรัฐบาลดิจิทัล (Digital Government)  การทำรัฐราชการให้เข้าถึงง่ายและการกระจายอำนาจคือกุญแจสำคัญ ดังนั้นโครงการข้าราชการคลิกเดียวที่ทางพรรคได้วางแพลนไว้เป็นก้าวแรกของการมุ่งสู่เป้าหมายดังกล่าว

5.เตรียมคนไทยเข้าสู่ยุค metaverse คือการพยายามพูดคุยและเชื่อมต่อกับภาคธุรกิจ digital currency กับ เทคโนโลยีใหม่ๆ รวมทั้งการร่วมหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นทางธุรกิจและเศรษฐกิจกับนักธุรกิจในสาขาต่างๆ 

“ขอขอบคุณทุกท่าน ที่ร่วมเดินทางกับเรามาตลอด 1 ปี และจะร่วมเดินทางกับเราต่อไปบนเส้นทางนี้ อิ๊งค์เชื่อมั่นในศักยภาพของทุกคน ที่จะมาร่วมกันสร้างพรุ่งนี้ของประเทศไทยร่วมกัน” นางสาวแพทองธาร กล่าว 

กรมชลประทานเดินหน้าป้องกันน้ำท่วมเพชรบุรีส่งเรือขุดลอกลุยคลองบางจากช่วย 4 อำเภอ

กรมชลประทานเดินหน้าป้องกันน้ำท่วมเพชรบุรีส่งเรือขุดลอกลุยคลองบางจากช่วย 4 อำเภอ นายกอบต.ขอบคุณ 'เฉลิมชัย-อลงกรณ์-กรมชลฯ' ทำไวทำจริงร้องขอ 48 ชั่วโมงลงมือทันที

วันนี้ (28 ต.ค.) นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์นำทีมชลประทานเพชรบุรีและคณะทำงานเพชรบุรีโมเดลลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าการขุดลอกผักตบชวาและวัชชพืชในคลองบางจากโดยเรือขุดลอกของกรมชลประทานมีนายวิชา ทองยืน นายกอบต.บางจาก นางพรนภา คนคล่อง รองนายกอบต. ปลัดอบต.และสมาขิกอบต. ให้การต้อนรับร่วมลงพื้นที่โดยนายกอบต.ตำบลบางจาก ได้กล่าวขอบคุณดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรฯ.และกรมชลประทานที่ส่งเรือขุดลอกมาดำเนินการอย่างรวดเร็วภายใน2วันหลังจากแจ้งปัญหาคลองบางจากให้ที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรฯ.ทราบซึ่งเป็นคลองที่รับน้ำมาจากอำเภอท่ายาง อำเภอบ้านลาด อำเภอเมืองและอำเภอบ้านแหลมโดยก่อนหน้านี้มีผักตบชวาและวัชชพืชจำนวนมากกีดขวางทางน้ำ ทำให้หวั่นวิตกว่าหากมีพายุฝนตกหนักในจังหวัดเพชรบุรีจะทำให้น้ำท่วมพื้นที่การเกษตรและชุมชนหมู่บ้านที่คลองบางจากไหลผ่านโดยเฉพาะตำบลหัวสะพาน ตำบลวังตะโก ตำบลบางจากและคำบลบางครก เพราะส่วนใหญ่เพชรบุรีจะเกิดน้ำท่วมช่วงปลายเดือนตุลาคมถึงกลางเดือนพฤศจิกายน

‘อุ๊บ วิริยะ’ อัดแรง นางงามรุ่นเก่างามอย่างมีคุณค่า ส่วนนางงามรุ่นนี้ ‘ปากจัด-มั่นหน้า-เจ้าของเวทีให้ท้าย’

(28 ต.ค. 65) ‘อุ๊บ วิริยะ’ นักปั้นดาราชื่อดัง ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเตือนสติ ว่า นางงามรุ่นเก่า งามอย่างมีคุณค่า แต่นางงามรุ่นลูก-รุ่นเหลนพฤติกรรมปากจัด ด่าเก่ง กินเหล้า เจ้าของเวทีให้ท้าย จนทำตัวกร่างผยอง

จนคนอ่านคิดไปต่าง ๆ นานา ว่างานนี้ คุณอุ๊บ กำลังหมายถึงนางงามคนใดและเจ้าของเวทีคนไหนกันแน่?

“นางงามสมัยก่อน..ตัวอย่างเช่น คุณอาภัสรา หงสกุล, คุณจีรนันท์ เศวตนันท์, คุณสาวิณี ปะการะนัง, คุณภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก นั้นงามอย่างมีคุณค่า..

งามด้วยกาย..วาจาใจ..ชาติตระกูลและการศึกษาอย่างแท้จริง...พวกเธอจึงคู่ควรกับตำแหน่งของ #ยอดพธูไทย

'บิ๊กตู่' จูงมือ 'นายกฯ ลาว' เปิดสะพานมิตรภาพแห่งที่ 5 ตอกย้ำความสัมพันธ์​สองประเทศที่ไม่มีวันตัดขาด

ไทย-ลาวชื่นมื่น นายกรัฐมนตรีไทย​ - สปป.ลาว​ เดินจูงมือกระหนุงกระหนิง​​วาง ศิลาฤกษ์​ เปิดสะพานมิตรภาพไทย​- ลาวแห่งที่ 5 ด้าน ‘นายพันคำ​‘ ย้ำ ความสัมพันธ์​สองประเทศตัดไม่ขาด​ ‘กินข้าวร่วมนา กินปลาร่วมน้ำ’

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ (28 ต.ค. 65) ที่บริเวณพื้นที่โครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งที่ 5 แขวงบอลิคำไซ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป. ลาว) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมนายพันคำ วิพาวัน นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เป็นประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์ การก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย​ - ลาว​ แห่งที่ 5 บึงกาฬ​ - ​บอลิคำไซ

โดยนายพันคำ​ กล่าวว่า​ ตนมีความยินดี ที่ได้รับเกียรติ เป็นประธานร่วมกับนายกรัฐมนตรีของไทย ซึ่งมีคณะรัฐมนตรีเข้าร่วมในพิธีวางศิลาฤกษ์โครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย ​- ลาว เพื่อความเป็นสิริมงคล ซึ่งการวางศิลาฤกษ์​ล่าช้า เนื่องจากมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่ในส่วนของการก่อสร้างได้มีการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นไปตามแผนและเป้าหมายที่วางไว้ และเป็นที่น่าพึงพอใจ ซึ่งเกินความคาดหมาย 

ซึ่งโครงการนี้เป็นหนึ่งในความพยายามในการพัฒนาของ 2 รัฐบาล ภายใต้เงื่อนไขอำนวยความสะดวกในการสัญจรไปมาของประชาชนทั้งสองฝั่ง รวมไปถึงภาคการขนส่งระหว่างประเทศ ส่งเสริมการค้าและการลงทุน การท่องเที่ยว โดยใช้ที่ตั้งยุทธศาสตร์อันสำคัญของทั้งสองประเทศ เกี่ยวกับอนุภาคพื้นลุ่มแม่น้ำโขง และภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจ เป็นการอำนวยความสะดวกสนับสนุนการเชื่อมโยงการขนส่ง ทั้งฝั่งไทยลาวและอนุภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกให้เกิดผลประโยชน์สูง

นายกรัฐมนตรี สปป.ลาว กล่าวว่า โครงการนี้ได้มีการวางแผนการปฏิบัติงานว่า ด้วยการเป็นผู้ร่วมยุทธศาสตร์ การเจริญเติบโตและการพัฒนา ในระยะ 5 ปี 2022-2026 ซึ่งได้มีการลงนามข้อตกลง เมื่อ เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เพื่อตอบสนองต่อเจตนารมณ์ ของประชาชนทั้งสองชาติ ในการเป็นบ้านใกล้เรือนเคียงกัน และสายผูกพันมิตรภาพการร่วมมือ ที่มีมาอย่างยาวนาน พร้อมกันนี้โครงการสะพานมิตรภาพไทย ​- ลาวแห่งที่ 5 จะเป็นการตอบสนอง ให้แก่กันปฏิบัติเป้าหมายที่ 5 ในการร่วมมือเชื่อมโยง ภายในภาคพื้นสากลให้มีความทันสมัย เข้มแข็ง ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่ง ชาติตั้งแต่ปี 2021 -​ 2025 และยุทธศาสตร์ การพัฒนาเศรษฐกิจสังคมในระยะ 10 ปี 2016 -​ 2025 โดยการนำเอาสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวที่มีชายแดนติดต่อกัน เป็นการเชื่อมโยงศูนย์กลางการเชื่อมโยง

ผบ.ตร.มอบ รองฯต่อศักดิ์ ลุยจัดระเบียบสังคม ยาแรงฝ่าฝืนเสนอสั่งปิดทันที 5 ปี หากทำผิดซ้ำจำคุก 1 ปี เตือน ตร.ท้องที่ห้ามปล่อยปละละเลย

เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2565 เวลา 09.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. ที่ดูแลงานป้องกันปราบปราม เปิดเผยว่า “พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.ได้เรียกประชุมผู้บริหารระดับสูงงานป้องกันปราบปราม ที่ สง.ผบ.ตร. พร้อมมอบหมายให้ดูแลจัดระเบียบสถานบริการทั่วประเทศ โดยให้ดำเนินการตามคำสั่ง หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 22/2558 และแก้ไขเพิ่มเติมที่ 46/2559 โดยทุกสถานบริการ หรือสถานประกอบการที่เปิดบริการคล้ายสถานบริการ จะต้องไม่ยินยอม ปล่อยปละละเลยให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีเข้าไปใช้บริการไม่เปิดเกินเวลา ไม่ปล่อยให้มีการพกพาอาวุธ วัตถุระเบิด ยาเสพติดเข้าไปในสถานบริการ รวมถึงต้องไม่มีการค้ามนุษย์ในสถานบริการ หรือปล่อยให้มีการเล่นการพนันในสถานบริการ” 

มทบ. 18 จัดพิธีอำลาผู้บังคับบัญชาและมอบประกาศเกียรติคุณให้ทหารกองประจำการที่ครบกำหนดปลดประจำการรุ่นปี 2563 ผลัดที่ 2

เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2565 ณ หน้ากองบัญชาการมณฑลทหารบกที่ 18 พลตรี อภิชัยวิไลเนตร ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 18 เป็นประธานพิธีอำลาผู้บังคับบัญชาพร้อมมอบประกาศเกียรติคุณให้ทหารกองประจำการ รุ่นปี 2563 ผลัดที่ 2 ซึ่งทหารกองประจำการที่ครบกำหนดปลดประจำการ ในวันที่ 1 กันยายน 2565 ของหน่วยทหารปลดทั้งหมด จำนวน150 นาย และรับใบประกาศทหารดีเด่น 48 นาย ณ หน้ากองบัญชาการมณฑลทหารบกที่ 18 ด้วยทหารกองประจำการ รุ่นปี2563 ผลัดที่ 2 ซึ่งได้เข้ารับราชการทหาร ตามพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พุทธศักราช 2497ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2563 ซึ่งจะครบกำหนดปลดเป็นทหารกองหนุน ในวันที่ 1กันยายน 2565

โดยทหารกองประจำการเหล่านี้ ที่รับราชการอยู่ เป็นผู้ที่มีระเบียบวินัย มีความประพฤติดีเรียบร้อย มีความเสียสละ  ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ด้วยความวิริยะอุตสาหะ ไม่เคยนำความเสื่อมเสียมาสู่หน่วย และปฏิบัติหน้าที่ จิตอาสาฯ ด้วยความดีดังกล่าวข้างต้นนี้ จึงได้จัดให้มีพิธีอำลาผู้บังคับบัญชา และประกาศเกียรติคุณ ในวันนี้ขึ้นมาเพื่อตอบแทนคุณงามความดี ที่ได้กระทำมาเพื่อเป็นเกียรติยศแก่วงศ์ตระกูลของกำลังพลดังกล่าว 

เปิดม่าน 15 ปี สุขภาพแห่งชาติ 'พลังภาคีสร้างสังคมสุขภาวะ' สช. และภาคี! ชูผลงานประจักษ์ รวมพลังผลักดันนโยบายสุขภาพเพื่อคนไทย

สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) รวมพลังภาคีเครือข่าย รวบรวมผลงานตลอดระยะเวลา 15 ปี ของการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะเพื่อสุขภาพแบบมีส่วนร่วม พร้อมถอดบทเรียนความก้าวหน้าที่เป็นรูปธรรม นำเสนอประสบการณ์ และร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างภาคส่วนต่างๆ ในประเด็นสําคัญของประเทศ ในงาน 15 ปี สุขภาพแห่งชาติ “พลังภาคีสร้างสังคมสุขภาวะ” เพื่อนำไปสู่การสร้างความเป็นธรรมในระบบสุขภาพ โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และขับเคลื่อนแนวคิด “ทุกนโยบายห่วงใยสุขภาพ” ให้เป็นรูปธรรม

นพ.ประทีป ธนกิจเจริญ เลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ กล่าวในการจัดงาน 15 ปีสุขภาพแห่งชาติ “พลังภาคีสร้างสังคมสุขภาวะ” ว่า นับตั้งแต่ที่สังคมไทยมีพระราชบัญญัติสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2550 จวบจนปัจจุบันนับเป็นเวลา 15 ปีแล้ว ซึ่งกฎหมายดังกล่าวได้ก่อให้เกิดกลไกและกระบวนการขับเคลื่อนนโยบายแบบมีส่วนร่วม โดยการขับเคลื่อนวิธีคิด สร้างจิตสำนึกสุขภาพใหม่ ซึ่งจะนำไปสู่สังคมสุขภาวะ มีการขยายมิติสุขภาพที่กว้างขึ้นครอบคลุม 4 มิติ ได้แก่ กาย ใจ สังคม และปัญญา โดยมีภาคีเครือข่ายต่างๆ ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้และทำงานร่วมกันเพื่อแก้ไขปัญหาสุขภาพ ทั้งในระดับพื้นที่และระดับชาติ

โดยปีนี้ สช. ได้ร่วมกับภาคีเครือข่ายด้านสุขภาพกว่า 40 องค์กร นำผลงานจากการขับเคลื่อนการพัฒนานโยบายสาธารณะเพื่อสุขภาพแบบมีส่วนร่วมตลอดระยะเวลา 15 ปี มานำเสนอและแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันในงาน โดยมีการนําผลงานที่เป็นประสบการณ์และบทเรียน หรือความก้าวหน้าเชิงรูปธรรมที่เกิดขึ้นจากการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะเพื่อสุขภาพ อาทิ ธรรมนูญสุขภาพพื้นที่และธรรมนูญสุขภาพแห่งชาติ  การพัฒนาสิทธิหน้าที่ด้านสุขภาพของประชาชน การพัฒนากระบวนการสมัชชาสุขภาพทั้งเฉพาะพื้นที่/ประเด็นและ ระดับชาติ  การมีส่วนร่วมในการประเมินผลกระทบด้านสุขภาพ จากนโยบายยุทธศาสตร์แผนงานและโครงการ ตลอดจนกิจกรรมการพัฒนาที่มีต่อสุขภาพ ตามเจตนารมณ์ของ พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2550 เสนอสู่สาธารณชน  เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างภาคส่วนต่าง ๆ ในประเด็นด้านสุขภาพที่สำคัญของประเทศ ซึ่งจะนําไปสู่การกำหนดทิศทางการพัฒนานโยบายสาธารณะแบบมีส่วนร่วมในอนาคตร่วมกัน โดยงานนี้ยังถือเป็นการสร้างพลังภาคีเครือข่าย สู่การสร้างความเป็นธรรมในระบบสุขภาพ โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และขับเคลื่อนแนวคิด“ทุกนโยบายห่วงใยสุขภาพ” ให้เป็นรูปธรรมด้วย

“การจัดงานในปีนี้จะเป็นรูปแบบลูกผสม หรือ Hybrid meeting โดยมีการถ่ายทอดสดการจัดงานผ่านสื่อออนไลน์ มีเนื้อหาหรือกิจกรรมสำคัญภายในงาน ประกอบด้วย นิทรรศการนำเสนอผลงานของภาคีเครือข่าย เวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้และนำเสนอภาพรวมการขับเคลื่อนงานที่ผ่านมา ความสำเร็จที่เป็นรูปธรรม กระบวนการนโยบายสาธารณะในอนาคต  ทิศทางและโอกาสการทำงานในอนาคต และท่านชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาให้เกียรติกล่าวปาฐกถาเปิดงานในหัวข้อ “การเมืองภาคพลเมือง กับการพัฒนาประเทศ” รวมทั้ง ศ.นพ.ประเวศ วะสี ปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “15 ปี พลังภาคีสร้างสังคมสุขภาวะ” ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้ นอกจากภาคีเครือข่ายต่างๆ จะได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ หรือนำองค์ความรู้ไปใช้ประโยชน์และพัฒนาปฏิรูประบบสุขภาพไทยในอนาคตแล้ว ยังทำให้เกิดความเข้าใจในทิศทาง และกระบวนการพัฒนานโยบายสาธารณะแบบมีส่วนร่วม และร่วมกันขับเคลื่อนการดำเนินงานตาม พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2550 ในอนาคตอีกด้วย” นพ.ประทีป กล่าว

'อบจ.ปทุมธานี' ยอมรับศักยภาพ อบจ.สมุทรปราการ จับมือ 'นายก.นันทิดา' ศึกษาขั้นตอนโครงการรถไฟฟ้า Monorail

ที่ภายในห้องประชุม ชั้น 3 อุทยานการเรียนรู้และหอชมเมือง จ.สมุทรปราการ นางสาวนันทิดา แก้วบัวสาย นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ พร้อมด้วย นางสาวชนม์ทิดา อัศวเหม เลขานุการนายก อบจ.สมุทรปราการ นำคณะผู้บริหาร และสมาชิกสภา ร่วมให้การต้อนรับ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ที่เดินทางมาเข้าร่วมรับฟังการบรรยายและศึกษาขั้นตอนกระบวนการดำเนินงานโครงการพัฒนาระบบรถไฟฟ้ารางเดี่ยว (Monorail) ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ 

โดยมี นายสิระพงษ์ สิริโพธินันท์ รองนายก อบจ.ปทุมธานี พลอากาศเอก สักก์สกล แสงสุกรัตน์วดี นายณเรศ คุชิตา นายธนศักดิ์ แป้นมุข ที่ปรึกษานายก อบจ.ปทุมธานี หัวหน้าส่วนราชการ และวิศวกรโยธา จำนวน 42 คน เพื่อรับฟังการบรรยายการศึกษาขั้นตอนและกระบวนการดำเนินงานโครงการพัฒนาระบบรถไฟฟ้ารางเดี่ยว (Monorail) ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งถือได้ว่าจังหวัดสมุทรปราการเป็นจังหวัดแรกที่นำร่องโครงการดังกล่าวนี้

โดยภายในที่ประชุม นางสาวนันทิดา แก้วบัวสาย นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ ให้เกียรติกล่าวให้การต้อนรับ คณะผู้บริหารองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี โดยมี นางสาวชนม์ทิดา อัศวเหม เลขานุการนายก อบจ.สมุทรปราการ ดร.รัชชานนท์ ทองอร่าม นายสมลักษณ์ ควรสงวน รองนายก อบจ.สมุทรปราการ นายมนัส บุญอารย์ นายสมหวัง เกษมโกสินทร์ นายวสุพล จันทร์พวง เลขานุการนายก อบจ.สมุทรปราการ นายนิคม บุญมาก ที่ปรึกษานายก อบจ.สมุทรปราการ ดร.พิริยะ โตสกุลวงศ์ รองประธานหอการค้าจังหวัดสมุทรปราการ และในฐานะผู้แทนนายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม ประธานหอการค้าจังหวัดสมุทรปราการ นายวิมล มงคลเจริญ ปลัด อบจ.สมุทรปราการ ตลอดจนหัวหน้าส่วนราชการ ร่วมให้การต้อนรับ

'สธ.' ยก 'อสม.' อาวุธลับไทย สู้ทุกภัยด้านสาธารณสุข ต่างชาติให้ความสนใจ ยกไทยประเทศเดียวที่ทำได้

เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2565 นายวัชรพงศ์ คูวิจิตรสุวรรณ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวภายหลังจากที่การประชุม World Bio Hub  ที่กรุงโซล ประเทศ เกาหลีใต้ เสร็จสิ้น โดยในงานนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวง ได้เข้าร่วมประชุมด้วย

นายวัชรพงศ์ ระบุว่า การประชุมในครั้งนี้ เราได้ประโยชน์ในเรื่องหลัก ๆ คือ การบรรลุสัญญาร่วมเป็นภาคีกับสถาบันวัคซีนนานาชาติ ซึ่งจะทำให้ไทยได้แลกเปลี่ยนข้อมูล และผู้เชี่ยวชาญด้านวัคซีน กับนานาชาติ ไปจนถึงการบรรลุข้อตกลงความร่วมมือระหว่างกระทรวงสาธารณสุขไทย กับกระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการของประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งจะเป็นการพัฒนาองค์ความรู้ของประเทศไทย โดยเฉพาะ ด้านเทคโนโลยีการสื่อสารสุขภาพ ซึ่งทางเกาหลีมีความโดดเด่นในเรื่องดังกล่าวเป็นอย่างมาก 

นอกจากนั้น การร่วมประชุมในระดับโลกยังเป็นการสะท้อนความยอดเยี่ยมของระบบสาธารณสุขไทย ที่นานาชาติยอมรับ และหวังจะได้รับการถ่ายทอดประสบการณ์จากไทยโดยเฉพาะในการประเด็นของประสิทธิภาพระหว่างจัดการวิกฤติโรคระบาด 

“เวทีนี้ ให้ความสำคัญกับเรื่องของการพัฒนาและกระจายวัคซีนสำหรับประเทศไทย นอกจากจะสามารถพัฒนาวัคซีนโควิด19 ได้ในประเทศ ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขยังได้ยกย่องชื่นชม อสม. อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านที่ทำหน้าที่กระจายข้อมูลข่าวสารในการให้บริการวัคซีนของภาครัฐให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบ ทั้งยังเป็นผู้ที่ทำงานหนัก อำนวยความสะดวกให้ประชาชนไปถึงจุดบริการด้วย แม้ประเทศไทยจะนำวัคซีนเข้ามาในระบบบริการเป็นจำนวนมาก แต่หากประชาชนไม่ร่วมมือความสำเร็จก็เกิดขึ้นยาก”

หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ศูนย์สภากาชาดไทยเวชพาหน์เฉลิมพระเกียรติ ปรับแนวคิดเปลี่ยนการให้บริการประชาชนถึงบ้านด้วยเรือท้องแบนสภากาชาดไทย

หน่วยแพทย์เคลื่อนที่สำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ สภากาชาดไทย มีการให้บริการตรวจรักษาโรคทั่วไป ฝังเข็มประยุกต์ บริการทางทันตกรรม และแพทย์ทางเลือกให้บริการด้านกายภาพบำบัด เป็นประจำทุกสัปดาห์ที่ ๓ ของเดือน ณ ศูนย์สภากาชาดไทยเวชพาหน์เฉลิมพระเกียรติ ตำบลบางจัก อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง ซึ่งมีประชาชนในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียงมาใช้บริการเป็นจำนวนมาก โดยที่ผ่านมาในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-๑๙ จึงทำให้ไม่สามารถดำเนินการได้ แต่ในขณะนี้สถานการณ์มีแนวโน้มดีขึ้น จึงได้กำหนดปฏิบัติงานดังเดิม ประกอบกับสถานการณ์อุทกภัย สำนักงานบรรเทาทุกข์ ฯ เกรงว่าประชาชนจะไม่สะดวกในการเดินทางมารับบริการ จึงปรับเปลี่ยนวิธีการให้บริการประชาชน จากเดิมให้ประชาชนมารับบริการด้วยตนเอง เป็นการออกให้บริการประชาชนที่บ้านด้วยเรือท้องแบนสภากาชาดไทยแทน โดยตรวจรักษาโรคทั่วไป รวมทั้งติดตามอาการของโรคเรื้อรังที่เป็นอยู่เดิมด้วย ทั้งนี้ จะให้บริการในวันที่ ๒๗ และ ๒๘ ตุลาคม ๒๕๖๕ ในพื้นที่ตำบลบางจัก อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง

โดยหลังจากนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-๑๙ ไม่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น หน่วยแพทย์เคลื่อนที่สำนักงานบรรเทาทุกข์ ฯ จากที่ไม่สามารถดำเนินการได้นั้น ก็จะเริ่มออกให้บริการประชาชน ณ ศูนย์สภากาชาดไทยเวชพาหน์เฉลิมพระเกียรติเป็นประจำ เดือนเว้นเดือน โดยให้บริการฝังเข็มประยุกต์ แพทย์ทางเลือกให้บริการด้านกายภาพ บริการทางทันตกรรม และการตรวจรักษาโรคทั่วไป

​สำหรับศูนย์สภากาชาดไทยเวชพาหน์เฉลิมพระเกียรติ ตำบลบางจัก อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง นั้น สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิด เมื่อวันที่ ๒๙ กันยายน ๒๕๔๒ เพื่อปฏิบัติภารกิจในการดูแลสุขภาพอนามัยของประชาชนในบริเวณพื้นที่โดยรอบ โดยหน่วยแพทย์สำนักงานบรรเทาทุกข์ ฯ ออกให้บริการเป็นครั้งคราวตามความเหมาะสม รวมทั้งหน่วยแพทย์เฉพาะโรค และหน่วยทันตกรรม ตามความต้องการของประชาชน ตลอดจนงานโครงการต่าง ๆ และสำรองเครื่องอุปโภค บริโภค ไว้ยามฉุกเฉิน นอกจากนี้ยังใช้เป็นที่เก็บเรือท้องแบนของสภากาชาดไทย เพื่อนำออกไปใช้ในเหตุการณ์จำเป็น


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top