'บิ๊กตู่' จูงมือ 'นายกฯ ลาว' เปิดสะพานมิตรภาพแห่งที่ 5 ตอกย้ำความสัมพันธ์​สองประเทศที่ไม่มีวันตัดขาด

ไทย-ลาวชื่นมื่น นายกรัฐมนตรีไทย​ - สปป.ลาว​ เดินจูงมือกระหนุงกระหนิง​​วาง ศิลาฤกษ์​ เปิดสะพานมิตรภาพไทย​- ลาวแห่งที่ 5 ด้าน ‘นายพันคำ​‘ ย้ำ ความสัมพันธ์​สองประเทศตัดไม่ขาด​ ‘กินข้าวร่วมนา กินปลาร่วมน้ำ’

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ (28 ต.ค. 65) ที่บริเวณพื้นที่โครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งที่ 5 แขวงบอลิคำไซ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป. ลาว) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมนายพันคำ วิพาวัน นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เป็นประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์ การก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย​ - ลาว​ แห่งที่ 5 บึงกาฬ​ - ​บอลิคำไซ

โดยนายพันคำ​ กล่าวว่า​ ตนมีความยินดี ที่ได้รับเกียรติ เป็นประธานร่วมกับนายกรัฐมนตรีของไทย ซึ่งมีคณะรัฐมนตรีเข้าร่วมในพิธีวางศิลาฤกษ์โครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย ​- ลาว เพื่อความเป็นสิริมงคล ซึ่งการวางศิลาฤกษ์​ล่าช้า เนื่องจากมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่ในส่วนของการก่อสร้างได้มีการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นไปตามแผนและเป้าหมายที่วางไว้ และเป็นที่น่าพึงพอใจ ซึ่งเกินความคาดหมาย 

ซึ่งโครงการนี้เป็นหนึ่งในความพยายามในการพัฒนาของ 2 รัฐบาล ภายใต้เงื่อนไขอำนวยความสะดวกในการสัญจรไปมาของประชาชนทั้งสองฝั่ง รวมไปถึงภาคการขนส่งระหว่างประเทศ ส่งเสริมการค้าและการลงทุน การท่องเที่ยว โดยใช้ที่ตั้งยุทธศาสตร์อันสำคัญของทั้งสองประเทศ เกี่ยวกับอนุภาคพื้นลุ่มแม่น้ำโขง และภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจ เป็นการอำนวยความสะดวกสนับสนุนการเชื่อมโยงการขนส่ง ทั้งฝั่งไทยลาวและอนุภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกให้เกิดผลประโยชน์สูง

นายกรัฐมนตรี สปป.ลาว กล่าวว่า โครงการนี้ได้มีการวางแผนการปฏิบัติงานว่า ด้วยการเป็นผู้ร่วมยุทธศาสตร์ การเจริญเติบโตและการพัฒนา ในระยะ 5 ปี 2022-2026 ซึ่งได้มีการลงนามข้อตกลง เมื่อ เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เพื่อตอบสนองต่อเจตนารมณ์ ของประชาชนทั้งสองชาติ ในการเป็นบ้านใกล้เรือนเคียงกัน และสายผูกพันมิตรภาพการร่วมมือ ที่มีมาอย่างยาวนาน พร้อมกันนี้โครงการสะพานมิตรภาพไทย ​- ลาวแห่งที่ 5 จะเป็นการตอบสนอง ให้แก่กันปฏิบัติเป้าหมายที่ 5 ในการร่วมมือเชื่อมโยง ภายในภาคพื้นสากลให้มีความทันสมัย เข้มแข็ง ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่ง ชาติตั้งแต่ปี 2021 -​ 2025 และยุทธศาสตร์ การพัฒนาเศรษฐกิจสังคมในระยะ 10 ปี 2016 -​ 2025 โดยการนำเอาสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวที่มีชายแดนติดต่อกัน เป็นการเชื่อมโยงศูนย์กลางการเชื่อมโยง

“ข้าพเจ้าและประชาชนชาวลาวขอขอบคุณรัฐบาลไทยด้วยความจริงใจ ที่ได้มีการพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน ในการก่อสร้างสะพานมิตรภาพแห่งนี้ ขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่รับผิดชอบโครงการก่อสร้าง โดยเฉพาะกระทรวงคมนาคมของไทย และส่วนที่เกี่ยวข้อง รวมถึง​แขวงบอลิคำไซ จนทำให้โครงการดังกล่าวนั้นสำเร็จ หวังว่า ทุกคนจะปฏิบัติให้สำเร็จตามแผนที่กำหนดไว้ เพื่อให้สามารถเปิดใช้ในต้นปี 2024 ประชาชนทั้ง 2 ประเทศมีภาษาที่สามารถพูดคุยกันรู้เรื่องและเข้าใจกัน และมีอะไรหลายอย่างที่คล้ายคลึงกัน มีความเกี่ยวดองกัน เรากินข้าวร่วมนากินปลาร่วมน้ำ และพึ่งพาอาศัยกันมาตั้งแต่โบราณกาล ข้าพเจ้าขอย้ำว่า สายความผูกพันและความร่วมมือระหว่าง 2 ประเทศ ไม่สามารถตัดขาดกันได้” นายพันคำ กล่าว

ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวยินดีที่ได้ร่วมเป็นประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์โครงการก่อสร้าง สะพานมิตรภาพฯ แห่งที่ 5 ซึ่งเป็นไปตามที่ได้หารือกับนายกรัฐมนตรี สปป. ลาว ที่ไทย เชื่อมั่นว่าสะพานแห่งนี้จะเป็นอีกช่องทางให้ประชาชนตามแนวชายแดนไปมาหาสู่กันได้สะดวกมากขึ้น และเชื่อว่าจะมีสะพานแห่งอื่นๆ เพิ่มอีก และขอให้ดูแลคนไทยในประเทศลาว ซึ่งคนไทยก็จะดูแลคนลาวในไทยเช่นกัน

จากนั้น นายกรัฐมนตรีของทั้ง 2 ประเทศ ร่วมกันวางศิลาฤกษ์​ โครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย​ - ลาว ที่ฝั่งประชาธิปไตยประชาชนลาว​ และกดปุ่มเปิดสะพานมิตรภาพไทย ​- ลาว แห่งที่ 5 บึงกาฬ - บอลิคำไซ อย่างเป็นทางการ 

จากนั้น นายคำพัน ได้ลั่นฆ้อง 9 ครั้งเอาฤกษ์เอาชัย​ ก่อนเยี่ยมชมนิทรรศการ และถ่ายรูปร่วมกัน โดยมีคณะรัฐมนตรีของ ทั้ง 2 ประเทศร่วมด้วย พร้อมชมวิวริมฝั่งแม่น้ำโขง ก่อนที่นายกฯ ทั้ง 2 ประเทศจะข้ามกลับมายังฝั่งไทย ที่จังหวัดบึงกาฬ เพื่อวางศิลาฤกษ์ในฝั่งประเทศไทยอย่างเป็นทางการ