Monday, 2 December 2024
HOLIDAY

'โรม' ซัด รัฐรับอดีตผู้นำศรีลังกาที่ถูกขับไล่อย่างสบายใจ  แต่กลับผลักไสผู้ลี้ภัย 'ชาวเมียนมา-โรฮิงญา-อุยกูร์'

(12 ส.ค. 65) รังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊ก เกี่ยวกับประเด็นที่ไทยต้อนรับอดีตผู้นำศรีลังกาที่ถูกขับไล่อย่างสบายใจ แต่กลับผลักไสผู้ลี้ภัยจากสงคราม พร้อมติงว่า รัฐบาลประยุทธ์จะฉุดภาพลักษณ์ประเทศไทยในสายตานานาชาติให้ตกต่ำถึงขนาดไหน? ดังนี้...

กรณีที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศออกมายืนยันกรณีที่อดีตประธานาธิบดีศรีลังกา กำลังจะขอเข้ามาพักรอลี้ภัยไปประเทศที่สามจริงนั้น ผมรู้สึกแปลกใจมากว่าเหตุผลใดรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ถึงเอาประเทศไทยมาเป็นบ้านพักชั่วคราวให้ผู้นำที่ถูกประชาชนขับไล่จนต้องหนีออกมา แต่ในขณะเดียวกัน ผู้ลี้ภัยสงครามชาวเมียนมา กรณีค้ามนุษย์ชาวโรฮิงญา หรือผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์ที่อยู่ในสถานะหลบหนีภัยภายในประเทศ กลับเจอชะตากรรมที่ต่างกันราวฟ้ากับเหว

ที่ผ่านมา มีการร้องเรียนเข้ามาในกรรมาธิการการต่างประเทศ ให้ช่วยหาทางออกและการจัดการอย่างมีมนุษยธรรมต่อผู้ลี้ภัยอยู่หลายครั้ง เนื่องจากมีการร้องเรียนว่ามีมาตรการจากทางรัฐบาลที่ไม่เป็นไปตามหลักการที่ควร รวมถึงมีความพยายามกีดกัน ไปจนถึงส่งกลับผู้ลี้ภัยมาแล้วจากหลายกรณีในรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จนทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศไทยเสียหายอย่างมาก

กลับกันพอเป็นอดีตประธานาธิบดีที่มีข้อสงสัยว่าเกี่ยวพันกับการอุ้มหาย ซ้อมทรมานประชาชนในศรีลังกา จนหาที่ไปไม่ได้ รัฐบาลไทยกลับอ้าแขนรับเข้ามาอย่างหน้าตาเฉยราวกับว่านี่คือเราไม่แคร์สายตาประชาคมโลกว่าจะมองประเทศเราเป็นอย่างไร กับการสองมาตรฐานในการต้อนรับผู้ลี้ภัยเช่นนี้

'ชาวฮ่องกง' ปักหมุด!! กรุงเทพฯ อันดับ 1 จุดหมายที่ต้องมา ฉลองรัฐบาลฮ่องกงเริ่มซามาตรการเข้มโควิด-19

นักท่องเที่ยวจากฮ่องกงเริ่มคึกคัก เมื่อรัฐบาลฮ่องกงประกาศผ่อนคลายมาตรการกักตัว จากเดิม 7 วัน เหลือเพียง 3 วัน ทำให้ชาวฮ่องกงเริ่มวางแผนท่องเที่ยวต่างประเทศกันมากขึ้น หลังจากที่ต้องงดการเดินทางตั้งแต่เริ่มต้นการระบาดของโควิด-19 ที่ฮ่องกงในปี 2020 

จากข้อมูลของ Expedia ผู้ให้บริการจองแพ็กเกจ ตั๋วเครื่องบิน และที่พัก เปิดเผยว่า ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ทางการฮ่องกงประกาศลดระดับมาตรการกักตัว ปรากฏพบว่ามีชาวฮ่องกงค้นข้อมูลตั๋วเครื่องบินเพิ่มสูงขึ้น 290% ซึ่งเป็นความถี่ที่มากกว่าช่วงเวลาปกติตลอด 1 สัปดาห์ถึง 10 เท่า 

และจุดหมายปลายทางที่มาแรงเป็นอันดับ 1 คือ กรุงเทพฯ รองลงมาคือ โอซาก้า นอกจากนี้ ภูเก็ต, โซล และสิงคโปร์ ก็เป็นคำค้นยอดฮิตของนักท่องเที่ยวฮ่องกงเช่นกัน 

จากผลการค้นหาดังกล่าว สะท้อนให้เห็นว่า ทริปเดินทางระยะใกล้ในย่านเอเชียยังคงได้รับความนิยมสูงสุด แต่สิ่งที่เป็นอุปสรรคต่อการวางแผนเที่ยวของชาวฮ่องกงคือ ระยะเวลากักตัวที่ยาวนาน และมีค่าใช้จ่ายสูง 

'พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว' ทรงรับครูบาบุญชุ่ม เป็นภิกษุอาพาธในพระบรมราชานุเคราะห์

เมื่อวันที่ 12 ส.ค. ทางเพจเฟซบุ๊กมูลนิธิดอยเวียงแก้ว โพสต์ภาพครูบาบุญชุ่ม ขณะรักษาตัวและข้อความว่า พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ทรงมีพระราชศรัทธาอย่างยิ่งยวดในพระพุทธศาสนา ทรงสืบสานพระราชปณิธาน 'ธรรมราชินี' และ ทรงห่วงใยพระสงฆ์ที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ

ในการนี้ ทรงมีพระเมตตาคุณ โปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ทรงรับครูบาบุญชุ่ม ญาณสังวโร อรัญวาสีภิกขุ วัดพระธาตุดอยเวียงแก้ว อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย ซึ่งกำลังอาพาธอยู่นั้น ไว้เป็นภิกษุอาพาธในพระบรมราชานุเคราะห์

'พระครูแจ้' เจ้าอาวาสวัดดังบางพลี จัดกิจกรรม เฉลิมพระเกียรติ 90 พรรษา ทำบุญตักบาตร ตั้งโรงทานถวายเป็นพระราชกุศล 12 สิงหาคม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดบางพลีใหญ่กลาง ต.บางพลี อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ท่านพระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ (พระครูแจ้) เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง ประธานฝ่ายสงฆ์ นำคณะสงฆ์วัดบางพลีใหญ่กลาง จัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 

โดยมี นายสมศักดิ์ แก้วเสนา นายอำเภอบางพลี นายฉะโอด รุ่งเรือง อดีตนายก อบต.บางพลีใหญ่ นายภูมินันท์ ขวัญเมือง นายโสภณ มหาบุญ ดร.วีร์สุดา รุ่งเรือง นายก อบต.บางพลีใหญ่ พ.ต.อ.วิโรจน์ ตัดโส ผกก.สภ.บางพลี ข้าราชการตำรวจ คณะเจ้าหน้าที่แพทย์พยาบาล อุบาสก และอุบาสิกา ร่วมในพิธีครั้งนี้

โดย กิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ 12 สิงหาคม 2565 ในปีนี้ ทางวัดบางพลีใหญ่กลาง โดย ท่านพระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ (พระครูแจ้) เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง ได้จัดให้มีพิธีทำบุญตักบาตร การจัดตั้งโรงทาน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล การแสดงพระธรรมเทศนาเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจ และความเพียรอุตสาหะของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง  โดยท่าน พระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง 

'อลงกรณ์' เผยครึ่งปีแรกไทยยืนเบอร์ 1 แชมป์โลกส่งออกยาง ครองสัดส่วนตลาดจีน 49%

คณะกก. รักษาเสถียรภาพราคายางกระทรวงเกษตรฯ ออก 6 มาตรการบุกตลาดเชิงรุก พร้อมจัดตั้งแพลตฟอร์มเครือข่ายยางไทยผนึกพลังทุกภาคส่วนเพิ่มศักยภาพขีดความสามารถในการแข่งขันของไทย

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการติดตามและเสนอมาตรการแก้ไขปัญหาราคายางและรักษาเสถียรภาพราคายางของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เปิดเผยวันนี้ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการฯ ครั้งที่ 4/2565 ณ ห้องประชุมรัษฎา อาคาร 2 ชั้น 2 การยางแห่งประเทศไทย และผ่านระบบการประชุมออนไลน์ Zoom Cloud Meeting โดยกล่าวว่า ที่ประชุมได้รับทราบรายงานสถานการณ์เศรษฐกิจและภาวะตลาดยางรวมทั้งมุมมองและข้อเสนอแนะจากสำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรของไทยทุกภูมิภาคทั่วโลกและรายงานของการยางแห่งประเทศไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ตลาด และการส่งออกครึ่งปี 2565 ยังครองตำแหน่งประเทศผู้ส่งออกยางอันดับ 1 ของโลกด้วยปริมาณการส่งออกยางธรรมชาติและผลิตภัณฑ์ยาง 2,190,065 ตัน โดยเฉพาะจีนนำเข้ายางไทยเป็นอันดับหนึ่งครองมาร์เก็ตแชร์ถึง 49% รวมทั้งรายงานความก้าวหน้าของมาตรการรักษาเสถียรภาพราคายางโดย กยท. เพื่อประกอบการพิจารณากำหนดมาตรการเตรียมความพร้อมและสนับสนุนการแก้ไขปัญหาความผันผวนของราคายาง ซึ่งได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิดและสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ยังยืดเยื้อส่งผลกระทบทั้งทางบวกและทางลบต่อต้นทุนการผลิต ระบบโลจิสติกส์ สถานการณ์เงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ยและภาวะตลาด ทำให้ราคาผันผวน จำเป็นต้องเพิ่มกลไกและมาตรการทั้งระยะสั้นและระยะยาว เพื่อสร้างโอกาสในวิกฤติ โดยเน้นการบูรณาการทำงานจากหลายภาคส่วนร่วมกัน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาควิชากา ภาคภาคเกษตรกร สถาบันเกษตรกรภายใต้ 5 ยุทธศาสตร์ปฏิรูปภาคเกษตรของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ได้แก่ยุทธศาสตร์ตลาดนำการผลิต ยุทธศาสตร์เทคโนโลยีเกษตร 4.0 ยุทธศาสตร์ทำงานเชิงรุกบูรณาการทุกภาคส่วน ยุทธศาสตร์เกษตรปลอดภัยเกษตรมั่นคงเกษตรยั่งยืน (3 S : Safety Security Sustanability) และยุทธศาสตร์เกษตรกรรมยั่งยืนบนฐานศาสตร์พระราชาเป็นกรอบการกำหนดมาตรการและการบริหารเพื่อเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันของยางไทย

ที่ประชุมจึงมีมติเห็นชอบในหลักการให้มีการจัดตั้งแพลตฟอร์มเครือข่ายยางไทยเป็นองค์กรความร่วมมือของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับยางพาราตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำด้วยแนวทางความเป็นหุ้นส่วนระหว่างกัน (Partnership principal) เป็นการผนึกพลังให้แข็งแกร่งในฐานะประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกยางอันดับหนึ่งของโลกเป็นองค์กรในลักษณะเดียวกับแพลตฟอร์มเครือข่ายความร่วมมือ FKII ของญี่ปุ่นซึ่งมีกว่า 4,200 องค์กรเป็นสมาชิกและมอบหมายให้การยางแห่งประเทศไทยประสานกับสำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรไทยในญี่ปุ่นเพื่อจัดทำโครงสร้างและระบบของแพลตฟอร์มเครือข่ายยางไทยเสนอในการประชุมคราวหน้า และจากการเสนอรายงานและข้อเสนอแนะของทูตเกษตรทุกภูมิภาคทั่วโลกทำให้เห็นถึงช่องว่างตลาดใหม่ๆ และนโยบายใหม่ของประเทศคู่ค้าจึงให้เพิ่มมาตรการใหม่อีก 6 มาตรการเชิงรุกได้แก่

1.) มาตรการสื่อสารประชาสัมพันธ์เชิงรุกเช่นการผลิตสื่อดิจิทอลเผยแพร่ในตลาดต่างประเทศ
2.) มาตรการตลาดเชิงรุกเน้นความต้องการผลิตภัณฑ์ยางในรายตัวสินค้าและในรายประเทศคู่ค้า (product based & country based) เช่น ความต้องการยางจักรยานและยางรถบัสเพิ่มขึ้นในประเทศกลุ่มสหภาพยุโรปและผลิตภัณฑ์ยางที่อียูแบนสินค้าจากรัสเซียหรือผลิตภัณฑ์ยางที่รัสเซียระงับการนำเข้าจากอียูทำให้เกิดช่องว่างที่ไทยสามารถส่งออกไปทดแทนได้
3.) มาตรการเพิ่มศักยภาพการแข่งขันเร่งดำเนินการก่อนประเทศคู่แข่งโดยใช้แนวทางเกษตรกรรมยั่งยืน สวนยางยั่งยืนและระบบตรวจสอบย้อนกลับ (Traceability) ตอบโจทย์เทรนท์ของตลาดเช่นประเด็นสิ่งแวดล้อม การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) FSC และ Deforestation เป็นต้น
4.) มาตรการระยะสั้นรายไตรมาสเพื่อการบริหารจัดการตามปฏิทินฤดูการผลิตประจำปีโดยมอบกยท. ภาคเอกชน และภาคเกษตรกรหารือกันเพื่อกำหนดมาตรการร่วมกัน
5.) มาตรการพัฒนาผลิตภัณฑ์สู่ยางมูลค่าสูงเน้นการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ยางเพิ่มรายได้ชาวสวนยาง สถาบันยางและผู้ประกอบการโดยให้กยท. ประสานกับศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม (ศูนย์AIC) ซึ่งมีผลงานการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ยางจำนวนมากเช่นวัสดุภัณฑ์ก่อสร้างบ้านและอาคาร ผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ อุปกรณ์ด้านคมนาคมขนส่ง 
6.) มาตรการเชิงกลไกการตลาด เช่น การแทรกแซงตลาด ซึ่งกยท. ได้ดำเนินการโครงการรักษาเสถียรภาพราคายางโดยเข้าแทรกแซงตลาดเป็นครั้งคราวในช่วงเวลาที่ผ่านมาจึงควรกำหนดมาตรการเพิ่มเติมเชิงกลไกตลาดเช่นการบริหารซัพพลายและดีมานด์ กลไกตลาดซื้อขายล่วงหน้าส่งมอบจริง และระบบการประมูลยางออนไลน์เป็นระบบที่เปิดกว้างเพิ่มผู้ซื้อทั้งลูกค้าในประเทศและต่างประเทศเพื่อแก้ปัญหาการกำหนดราคาโดยผู้ซื้อน้อยรายหรือการฮั้วหรือการผูกขาด

เด็กนร. ม.6 เขียนเรียงความถึงแม่ที่ป่วยส่งครู สุดท้าย 'ทหาร' สานฝันพากลับบ้านเยี่ยมแม่

วันที่ 11 ส.ค.65 จากการที่ น.ส.วิภา ต้นน้ำลำธาร อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.6/1 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 55 ได้เขียนจดหมายเรียงความแสดงความรู้สึกถึงแม่ส่งเป็นการบ้านถึงครูในวิชาเรียน โดยเขียนว่า ถึงแม่วันแม่ปีนี้หนูคงไม่ได้กลับไปไหว้แม่เพราะหนูต้องทำตามความฝันคือเรียนหนังสือให้จบก่อน แล้วได้บอกถึงอาการป่วยของแม่ อยากกลับไปดูแลแม่

'โฆษกรัฐบาล' รีวิวท่องเที่ยวไทย พบสัญญาณบวกชัดขึ้น วอน!! เพลาๆ การเมืองลงบ้าง จะยิ่งดีสำหรับประเทศ

(12 ส.ค. 65) นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า...

เช้านี้ ผมเดินทางไปจังหวัดภูเก็ต ขึ้นเครื่องที่สนามบินดอนเมือง สังเกตเห็น พี่น้องประชาชนเดินทางไปท่องเที่ยวจำนวนมาก สนามบินคึกคักมาก น่าปลื้มใจจริงๆ ทำให้ในปีนี้คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามา 10 ล้านคนตามเป้าที่รัฐบาลวางไว้

นโยบายรัฐบาลลุงตู่ ไม่ว่าจะเป็นเราเที่ยวด้วยกัน, ทัวร์เที่ยวไทย, คนละครึ่ง ฯลฯ ประชาชนชื่นชอบมากส่งเสริมการท่องเที่ยว แม้เราจะได้รับผลกระทบจากโควิด-19 สงครามรัสเซีย-ยูเครน แต่เมื่อทุกฝ่ายร่วมมือกันเราจะผ่านวิกฤติไปได้อย่างแน่นอน เมืองไทยมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย Soft Power ที่โดดเด่นที่สุด

มิจฉาชีพเหิมเกริม!! สร้างเว็บไซต์ราชการปลอม หวังหลอกปชช. จุดสังเกตต้องลงท้ายด้วย '.go.th' ไม่ใช่ '.com'

เมื่อวันที่ 12 ส.ค. 65 น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้มีกลุ่มมิจฉาชีพสร้างเว็บไซต์หน่วยงานรัฐ 'ระดับกรม' ปลอมเพื่อขโมยข้อมูลหรือดักข้อมูลจากประชาชน แล้วโทรไปหลอกให้โอนเงินและอาจถึงขั้นเข้าทำธุรกรรมในมือถือทั้งหมดแทนเจ้าของ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าทำการปิดกั้นการเข้าถึงเว็บไซต์ปลอมแล้ว 

อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมออนไลน์ จึงขอเตือนประชาชนให้สังเกตชื่อเว็บไซต์ (URL) ให้ดี โดยเว็บไซต์ของกระทรวงและกรมต่างๆ จะลงท้ายด้วย '.go.th' ไม่ใช่ '.com'

ตัวอย่างเช่น กรมสรรพากรแจ้งเตือนเว็บไซต์ปลอม ใช้ชื่อ URL ว่า https://afdw7.com และมีปุ่ม 'คลิกเพื่อดาวน์โหลด' แตกต่างจากเว็บไซต์จริงของกรมสรรพากร ที่ใช้ชื่อว่า www.rd.go.th 

'ส.ส.เพื่อไทย' ถาม 'ประยุทธ์' แทนปชช. เงินประกัน 'เจอ-จ่าย-จบ' ต้องรออีกนานแค่ไหน? 

(12 ส.ค. 65) ขจิตร ชัยนิคม ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย ตั้งกระทู้ถามสดพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กลางที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรถึงกรณีปัญหาประชาชนจำนวนมากไม่ได้รับเงินประกันภัยโควิด-19 หลังจากที่รัฐบาลประกาศเพิกถอนใบอนุญาต 4 บริษัทประกันภัย และกองทุนประกันวินาศภัยที่รัฐตั้งขึ้นมาเป็นหน่วยงานที่จะต้องดูแลแก้ปัญหาและชำระหนี้ให้ประชาชน โดยมีประชาชนที่ทำประกันภัยโควิดอยู่ในเกณฑ์จะต้องได้รับการชำระเงินมากกว่า 670,000 แสนราย รวมเป็นเงินที่จะต้องชำระหนี้ให้ประชาชนมากกว่า 65,000 ล้านบาท แม้บางส่วนจะชำระไปบ้างแล้ว แต่ก็ยังมีประชาชนไม่ได้รับเงินอีกมากกว่า 62,000 ล้านบาท 

แต่จนถึงวันนี้เป็นเวลานานนับปีแล้วประชาชนก็ยังไม่ได้รับเงินและที่ผ่านมารัฐบาลก็นิ่งเฉย จนประชาชนต้องมาร้องขอความเป็นธรรมต่อคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎร ดังนั้นรัฐบาลต้องชี้แจงให้ชัดเจนว่า เมื่อไรประชาชนจะได้รับเงินจากการทำประกันภัยโควิดไว้ครบถ้วนทุกคน

“หากรัฐบาลไม่ดำเนินการแก้ปัญหาโดยเร็วเรื่องนี้จะกลายเป็นเรื่องใหญ่ เพราะวันนี้กองทุนประกันวินาศภัยมีเงินอยู่แค่ 3,000 ล้านบาท ถ้าในภาวะปกติถือว่าเยอะมาก แต่ในภาวะที่กองทุนมีภาระที่จะต้องรับผิดชอบจ่ายเงินค่าประกันภัยโควิดให้ประชาชนมากกว่า 65,000 ล้านบาท แสดงว่าจะมีคนได้รับชำระเงินค่าประกันภัยโควิด ภายในปี 2565 นี้ เพียง 30,000 รายเท่านั้น แต่อีก 650,000 ราย จะยังไม่ไดัรับการชำระเงินภายในปีนี้ และอาจต้องใช้เวลามากถึง 103 ปี ถึงจะจ่ายให้ประชาชนได้ครบตามจำนวนทั้งหมด” ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย กล่าว

อินโดนีเซีย ไม่ร่วมด้วยกับ 'สหรัฐฯ' เทแผนจำกัดเพดานราคาน้ำมันรัสเซีย

ในขณะที่สหรัฐฯ กำลังเสาะหาแรงสนับสนุนจากพันธมิตรทางยุทธศาสตร์ในเอเชีย อย่างญี่ปุ่นและอินเดีย ในการกำหนดมาตรการจำกัดเพดานควบคุมราคาน้ำมันรัสเซีย แต่บรรดานักวิเคราะห์มองว่า อินโดนีเซียน่าจะปฏิเสธความพยายามล็อบบี้ดังกล่าว ซึ่งคาดหมายว่าจะเกิดขึ้นในสัปดาห์นี้

เอลิซาเบธ โรเซนเบิร์ก ผู้ช่วยรัฐมนตรีด้านต่อต้านเงินอุดหนุนก่อการร้ายและอาชญากรรมทางการเงิน อยู่ระหว่างเดินทางเยือนกรุงจาการ์ตา เป็นเวลา 2 วันในสัปดาห์นี้ เพื่อพบปะกับบรรดาผู้ช่วยรัฐมนตรีจากกระทรวงประสานงานกิจการทางทะเลและการลงทุน ผู้ช่วยรัฐมนตรีจากกระทรวงการคลัง ผู้ช่วยรัฐมนตรีจากกระทรวงพลังงานและทรัพยากรเหมือง รวมถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูงของศูนย์รายงานและวิเคราะห์การทำธุรกรรมทางการเงิน เช่นเดียวบรรดาผู้นำภาคเอกชน

ระหว่างพบปะพุดคุยกับ โรเซนเบิร์ก ประณามสงครามที่ปราศจากการยั่วยุและไม่ชอบธรรมของรัสเซียในยูเครน และหารือถึงความพยายามต่างๆ ในการลดผลกระทบที่ลุกลามออกมาจากสงคราม ในนั้นรวมถึงความเป็นไปได้ของการจำกัดเพดานราคาน้ำมันรัสเซีย ถ้อยแถลงของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ระบุ

โรเซนเบิร์ก สานต่อความพยายามของ เจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ที่เคยเรียกร้องมาตรการนี้ระหว่างร่วมประชุมกับรัฐมนตรีคลังจี 20 และบรรดาผู้ว่าการธนาคารกลางประเทศต่างๆ เมื่อเดือนกรกฎาคม โดยคราวนั้น เยลเลน ได้มีโอกาสพูดคุยกับ ศรีมุลยานี รัฐมนตรีคลังอินโดนีเซีย และลูฮุท ปันด์จัยตัน ผู้ประสานงานกระทรวงกิจการทางทะเลและการลงทุน เรียกร้องให้พวกเขาสนับสนุนแผนกำหนดเพดานราคาน้ำมันรัสเซีย

ในตอนนั้น ศรีมุลยานี ตอบกลับเพียงว่า อินโดนีเซียจะพิจารณาผลที่ตามมาจากการจำกัดเพดานราคาน้ำมันรัสเซีย เนื่องจากมันจะส่งผลกระทบต่อบรรดาประเทศผู้ผลิตน้ำมันทั้งหลาย รวมถึงประเทศผู้ซื้อด้วย

นอกเหนือจากอินโดนีเซีย สหรัฐฯ จะพูดคุยกับมาเลเซีย ออสเตรเลีย และญี่ปุ่น ด้วยเช่นกัน เพื่อโน้มน้าวให้สนับสนุนเป้าหมายของจี 7 ในการฉุดราคาน้ำมันรัสเซียให้ลดต่ำลง จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่วอชิงตันรายหนึ่งที่ให้สัมภาษณ์กับจาการ์ตาโพสต์

ถ้าจาการ์ตาสนับสนุนข้อเสนอนี้ เจ้าหน้าที่วอชิงตัน ซึ่งไม่ประสงค์เอ่ยนามอ้างว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะเป็นประโยชน์กับอินโดนีเซียเอง เพราะว่าปัจจุบันรัฐบาลต้องใช้เงินจำนวนมากไปกับการอุดหนุนราคาน้ำมัน

ในปีนี้ อินโดนีเซียต้องจัดสรรงบประมาณไปแล้วกว่า 502 ล้านล้านรูเปียห์ (ราว 34,000 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1.2 ล้านล้านบาท) เพิ่มขึ้นจากระดับ 170 ล้านล้านรูเปียห์ในปีที่แล้ว สำหรับอุดหนุนราคาพลังงาน สืบเนื่องจากราคาน้ำมันดิบพุ่งสูง ขณะที่ประธานาธิบดีโจโค วิโดโด ยอมรับเมื่อวันอังคาร (9 ส.ค.) ว่ามาตรการอุดหนุนน้ำมันในปัจจุบันนั้นใช้เงินมากเกินไป

ณ ที่ประชุมเมื่อเดือนมิถุนายน บรรดาผู้นำจี 7 บอกว่าจะพิจารณากำหนดเพดานราคาน้ำมันรัสเซีย เพื่อควบคุมแหล่งเงินทุนทำสงครามของเครมลิน ด้วยที่คาดหมายว่ากลไกกำหนดเพดานนี้อาจเริ่มบังคับใช้ในวันที่ 5 ธันวาคม บรรดานักวิเคราะห์คาดว่า อินโดนีเซีย ไม่น่าจะสนับสนุนข้อเสนอดังกล่าวของจี 7 และพวกเขาคงอยากรอดูเสียก่อนว่าจีนกับอินเดีย จะเข้าร่วมในแผนการนี้หรือไม่


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top