Sunday, 12 May 2024
NEWSFEED

‘สิริพงศ์’ ชี้ ‘สัปเหร่อ’ เป็นการสะท้อนชีวิตชนบท ‘คนอีสาน’ ไม่ใช่ ‘โง่ จน เจ็บ’ ย้ำ!! เขามีชีวิตเหมือนกับทุกคน

(28 ต.ค.66) จากเฟซบุ๊ก ‘KUL’ โดย ‘นายกุลวิชญ์ สำแดงเดช’ ผู้ดำเนินรายการ Ringside การเมือง ได้แชร์คำพูดของ ‘นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ’ ผู้อำนวยการสร้าง ‘สัปเหร่อ’ และเป็นผู้สนับสนุนจักรวาลไทบ้าน โดยระบุว่า…

“สัปเหร่อ…เป็นการสะท้อนชีวิตชนบท ‘คนอีสาน’ ไม่ใช่ ‘โง่ จน เจ็บ’ เขามีชีวิตเหมือนกับทุกคน และชีวิตเขาสนุกสนาน”

‘มานพ อัศวเทพ’ นักแสดงรุ่นเก๋า เสียชีวิตลงแล้ว ในวัย 86 ปี

(28 ต.ค.66) เพจ ‘บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์’ ได้โพสต์ข้อความ “ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง ด้วยการจากไปของ ‘อามานพ อัศวเทพ’ รายละเอียดผมจะแจ้งให้ทราบอีกทีนะครับ”

ล่าสุดเพจ ‘บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์’ ได้โพสต์ข้อความระบุอีกว่า "แจ้งข่าว​ อามานพ อัศวเทพ วันนี้ เวลา 16:00 น. รดน้ำศพ ที่วัดเจ้าอาม บางขุนนนท์ ตลิ่งชัน ขอเชิญเพื่อนพ้องคนในวงการบันเทิง รดน้ำ ที่วัดโดยพร้อมเพียงกันครับ"

สำหรับ ‘มานพ อัศวเทพ’ มีชื่อจริงคือ วิริยะ จุลมกร ชื่อเล่น ยะ เกิดเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2480 (บางแหล่งระบุ พ.ศ. 2477) จบการศึกษาจากโรงเรียนจ่าทหารเรือที่สัตหีบ รับราชการเป็นทหารเรืออยู่ที่กองบัญชาการทหารสูงสุดและเป็นพลขับประจำตัวของจอมพลถนอม กิตติขจร โดยได้รับตำแหน่งยศพันจ่าเอก

ก่อนเข้าสู่วงการโดยบังเอิญในปี พ.ศ. 2505 ด้วยการพบกับ สนาน คราประยูร เจ้าของนครพิงค์ภาพยนตร์ ที่ร้านตัดผม โดยใช้ชื่อในวงการบันเทิงว่า นาวิน เทพโยธี ก่อนที่จะมีผลงานทางจอเงินครั้งแรกในปี พ.ศ. 2506 เรื่อง นางสมิงพราย ประกบกับ มิตร ชัยบัญชา และ ตรึงใจ วลัยลักษณ์ ต่อมาจึงได้รับบทเป็นพระเอกเต็มตัวเรื่องแรกในปี พ.ศ. 2507 คือ พิชิตทรชน คู่กับ อมรา อัศวนนท์ ต่อด้วย เพชรน้ำผึ้ง (2508), สุดแผ่นดิน (2510), หลั่งเลือดแดนสิงห์ (2512) ประกบกับ สมบัติ เมทะนี และ เพชรา เชาวราษฎร์ ขณะนั้นรับงานแสดงได้ไม่เต็มที่เพราะยังรับราชการเป็นทหารเรือไปด้วย 

จนกระทั่งหม่อมปริม ยุคล ณ อยุธยา (บุนนาค) ซึ่งเป็นหม่อมของ พลตรี พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคล ได้ติดต่อให้เป็นพระเอกภาพยนตร์ของของอัศวินภาพยนตร์เรื่อง ละครเร่ คู่กับ สุทิศา พัฒนุช ร่วมด้วยดาราใหม่ในสมัยนั้น คือ สายัณห์ จันทรวิบูลย์, จารุวรรณ ปัญโญภาส และ กนกวรรณ ด่านอุดม ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับรางวัลชมเชยกำกับศิลป์ จากงานมหกรรมภาพยนตร์เอเชียแปซิฟิก ครั้งที่ 15 ณ กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ในปีเดียวกัน จากนั้นเขาได้เปลี่ยนชื่อในวงการเป็น มานพ อัศวเทพ จนถึงปัจจุบัน 

ต่อมาจึงมีผลงานตามมาอย่างต่อเนื่องทั้ง พระรอง และตัวร้าย จนได้รับรางวัลตุ๊กตาทองนักแสดงประกอบชายจากเรื่อง เงาราหู ที่กำกับโดย เปี๊ยก โปสเตอร์ เมื่อปี พ.ศ. 2519 

ชีวิตส่วนตัว สมรสกับสุนันท์ จุลมกร (กุ้ง) มีบุตรและบุตรีทั้งหมด 3 คน ปัจจุบันเป็นเจ้าของร้านอาหารชื่อ ปูทอง 

‘Calyp Sea’ เรือไม้สุดชิคย่านสัตหีบ ชวนฟิน!! ช่วง Low Season ‘พายเรือ-ดำน้ำ-ชมพระอาทิตย์ตกดิน’ ครบจบในที่เดียว!!

วันนี้ THE STATES TIMES ขอแนะนำที่เที่ยวช่วง Low Season ใกล้กรุงเทพฯ สามารถเดินทางมาเที่ยวเพียงแค่ 2 ชั่วโมงเท่านั้น สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่าช่วงวันหยุดนี้จะไปไหน ขอแนะนำ เรือไม้สุดชิคของ Calyp Sea เลย...

สำหรับเรือไม้ของ Calyp Sea นั้น มีกิจกรรมบนเรือให้ทำมากมาย ไม่ว่าจะเป็น พายเรือซับบอร์ด ดำน้ำดูปะการัง นอนชมพระอาทิตย์ตกดินยามเย็น หรือหากใครเป็นสายถ่ายรูป ก็สามารถถ่ายรูประหว่างเรือกำลังล่อง หรือในขณะที่เรือจอดก่อนลงไปทำกิจกรรมอื่นๆที่ทางเรือจัดไว้ให้ได้

ในส่วนของการบริการของ Calyp Sea นั้น จะมีอาหารและเครื่องดื่มพร้อมเสิร์ฟให้ในระหว่างล่องเรือ หรือหากท่านใดสนใจนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขึ้นไปดื่มบนเรือ ก็สามารถนำไปได้และทางเรือก็มีแก้วไวน์พร้อมไว้บริการเช่นกัน

ช่วงเวลาในการเดินเรือจะมีทั้งรอบเช้าและรอบบ่าย โดยจะให้บริการแบบ Private Trip เพียงแค่ 2 รอบต่อวันเท่านั้น

Sunrise : 8.00 -12.00 (เช้า)
Sunset : 13.00 - 18.00 (พระอาทิตย์ตก)

หากท่านใดล่องเรือช่วง Sunset จะได้ชมพระอาทิตย์ตกดิน บนดาดฟ้าเรือ ให้ความโรแมนติกกับ Vanilla Sky ไปอีกแบบ บอกเลยว่าทริปนี้ห้ามพลาด!!

ทางเรือสามารถออกทริปสูงสุดได้ 10 ท่าน

ข้อมูลเพิ่มเติม
พิกัด: สะพานปลา สัตหีบ จังหวัดชลบุรี https://maps.app.goo.gl/vFriHcxFLMsauBoEA?g_st=ic
ติดต่อสอบถาม: 082-2096913
 Instagram: calypsea_
 Facebook: Calypsea.2023
Line: https://lin.ee/d8GRMGp

‘ธี่หยด’ ฟีดแบคดี กวาดรายได้วันแรก 39 ล้านบาท ครองสถิติ อันดับ 1 เปิดตัวภาพยนตร์ไทยในปีนี้!!

กระแสแรงอีกเรื่อง ภาพยนตร์ ‘ธี่หยด’ ทำรายได้วันแรก 39 ล้านบาททั่วประเทศ ทุบสถิติภาพยนตร์ไทยเปิดตัวสูงสุดอันดับ 1 ของปี 2566

(27 ต.ค. 66) เรียกได้ว่าภาพยนตร์ไทยกำลังเป็นกระแสอย่างต่อเนื่อง และเรื่องล่าสุดคือ ‘ธี่หยด’ ภาพยนตร์แนวสยองขวัญ จากฝีมือกำกับของ ‘คุ้ย-ทวีวัฒน์ วันทา’ นำแสดงโดย ณเดชน์ คูกิมิยะ, เดนิส เจลีลชา, มิ้ม รัตนวดี และดำเนินการสร้างโดย ช่อง 3 และ M STUDIO (เอ็ม สตูดิโอ)

หลังจากเข้าฉายเมื่อวันที่ 26 ตุลาคมเป็นวันแรก ล่าสุด ช่อง 3 ประกาศว่า ‘ธี่หยด’ ทุบสถิติภาพยนตร์ไทยรายได้เปิดตัวสูงสุด อันดับ 1 ของปีนี้ โดยกวาดรายได้วันแรกไป 39 ล้านบาท พร้อมชวนมาร่วมพิสูจน์ความสยองกับเสียงหลอนปริศนายามค่ำคืน

สำหรับเรื่องย่อ ธี่หยด เกิดขึ้นราวปี 2515 หรือเมื่อ 50 ปีที่เเล้ว ในหมู่บ้านห่างไกลของจังหวัดกาญจนบุรี เมื่อมีเด็กสาวในหมู่บ้านเสียชีวิตลงอย่างปริศนา และข่าวเด็กสาวที่เสียชีวิตอย่างน่าสะพรึงก็แพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็ว

จากนั้นเรื่องเหนือธรรมชาติก็เกิดกับครอบครัวหนึ่ง ‘แย้ม’ ซึ่งเป็นน้องสาวในบ้านเริ่มมีอาการแปลก ๆ หลังจากเจอหญิงชุดดำลึกลับ ระหว่างกลับจากโรงเรียน อาการของแย้มทรุดลงเรื่อย ๆ พร้อมท่าทีประหลาดอย่างหาคำตอบไม่ได้

เหตุการณ์แปลกประหลาดปนสยองขวัญที่เกิดขึ้นคือเสียงปริศนา ฟังคล้ายบทสวดมนต์ หรือคำพูดไม่เป็นภาษา ดังว่า ‘ธี่หยด… ธี่หยด…’ แว่วมาในยามราตรี

'เบลล่า' งานรุม!! คิวพรีเซ็นเตอร์แน่นเกิน 30 ตัว เปรย!! อยากมีคนข้างกาย แฟนคลับแซว 'โป๊ป' มีลุ้นไหม?

เมื่อวานนี้ (26 ต.ค. 66) เบลล่า ได้ให้สัมภาษณ์ในงาน 'เปิดประตูสู่พรหมลิขิต' ณ สุราลัย ฮอลล์ ชั้น 7 ไอคอนสยาม พร้อมเผยถึงเรื่องที่งานพรีเซ็นเตอร์รุมแน่นเกิน 30 ตัว แต่ยังรับได้อีก

ล่าสุดมีแฟนละครนับว่าช่วงพักเบรกมีโฆษณาเบลเกิน 10 ตัว?
“อ๋อ…แม่เบลก็นับค่ะ ต้องขอบคุณลูกค้าด้วยค่ะ (หลังบุพเพสันนิวาสมีพรีเซ็นเตอร์เยอะมาก พอพรหมลิขิตมีคนติดต่อเข้ามาเยอะไหม?) มีเพิ่มค่ะ ต้องรอดูค่ะ (ดีลล่วงหน้าไว้เลย?) ใช่ค่ะ (ผลพลอยได้กลับมาเยอะ?) ก็ด้วยค่ะ เราต้องขอบคุณลูกค้าทุกๆ คนที่เชื่อใจและให้โอกาสเบลด้วย”

รวมๆ แล้วถึง 50 ตัวไหม?
“บ้าเหรอ(ยิ้ม) น่าจะเกิน 30 แต่เบลยังทำงานอย่างอื่นอยู่ค่ะทุกคน ไม่ได้รับพรีเซ็นเตอร์อย่างเดียว ถามว่ายังมีส่วนไหนในร่างกายเหลืออีกบ้าง อันนี้ต้องให้ผู้จัดการจัดแจงว่าอะไรที่ไม่ซ้ำ แต่ว่าเบลก็ดูนะ ไม่ได้แบบรับทุกตัว ตัวไหนที่มีความทับซ้อน คือไม่ใช่แบบเป็นตัวเดียวกันแต่ว่าไลน์ใกล้ๆ กันเบลก็จะปฏิเสธไป (จากพรหมลิขิตเพิ่มมาอีกกี่ตัว?) ตอนนี้ 2 มี 2 ที่ ที่ตกลงไปแล้วค่ะ”

ตั้งเป้าจะโกยไว้เท่าไหร่?
“ไม่ตั้งเป้าอะไรทั้งสิ้นค่ะ แล้วแต่โอกาสที่เข้ามาแหละ ก็อย่างที่บอกว่าเบลโชคดีที่ทุกคนเชื่อใจเบล”

ลักกี้อินเกมแล้ว ลักกี้อินเลิฟด้วยไหม?
“ยังไม่อินอะไรทั้งสิ้นค่ะ (เชื่อได้ไหมที่บอกว่าลักกี้อินเกมแล้วจะไม่ลักกี้อินเลิฟ?) มันต้องเชื่อแล้วมั้ย(ยิ้ม) เบลไม่รู้นะ แต่ว่าเบลชิลๆ อ่ะ ถามว่าตอนนี้มีความสุขมั้ย ก็มีความสุขดี ถามว่าอยากมีมั้ยก็อยากมีถ้าไม่ได้กระทบกับงาน (ตอนนี้มีเงินโอเคกว่ามีผู้ชายถูกไหม?) อย่าใช้คำนั้นเลยดีกว่า(หัวเราะ)”
แม่ว่ายังไงบ้าง?
.
“คุณแม่ชิลๆ เลยค่ะ แล้วแต่เรา แต่ว่าอาจจะชิลได้ไม่นานแล้วแหละดูทรงแล้วอายุอานาม (แม่เร่งไหม?) แม่เบลไม่เร่งหรอก แต่อายุเท่านี้แล้วก็คงไม่นาน”

เห็นช่วงนี้รับขวัญหลานเยอะมาก ไม่รู้สึกว่าอยากมีบ้างเหรอ?
“(หัวเราะ)จริง คือเพื่อนมีลูกจนรู้สึกแบบเลี้ยงหลานเก่งมาก แต่เอาจริงเบลเห็นเพื่อนมีลูกก็เหนื่อยกันมากๆ จนเบลเห็นก็ลังเล หรือว่าเป็นแบบนี้ดีแล้ว”

ทำไมอยู่ดีๆ มีความคิดลังเลว่าจะมีหรือไม่มี?
“ตอนเด็กๆ ก็มีความฝันมาตลอดแหละ อยากจะสร้างครอบครัวอะไรต่างๆ โดยที่เราไม่รู้รายละเอียดเลยว่าการที่จะเลี้ยงคนคนนึงมามันขนาดไหน แต่อันนี้มันข้ามสเต็ปไปเนาะ ขอมีคนข้างกายก่อนค่ะ”

แสดงว่าไปทำบุญไม่เคยขอเรื่องความรักเลย?
“เริ่มขอแล้ว (I told พระแม่ลักษมีแล้วหรือยัง?) ขอแล้ว(หัวเราะ) (เอารูปใครไปอ้างอิง?) ไม่มี ไม่รู้ไง คือตอนนั้นก็ไปไหว้ คือขอรวมๆ ความรักความเมตตา คือถ้าจะมีใครก็อยากมีคนที่โอเค เบลไม่ได้บอกกำหนดระยะเวลาเลย อาจจะ 10 ปีข้างหน้า (หัวเราะ) ล้อเล่นค่ะ”

จริงๆ อาจจะมีคนเข้ามา แต่เรามีความกังวลกับการมีความรักอีกครั้ง?
“เบลว่าคนอื่นกังวลในจุดนี้มากกว่าเบลอีก (คนคาดหวังคนที่มาคู่กับเราจะเป็นยังไง?) ใช่ค่ะ ซึ่งเบลไม่ได้ตั้งอะไรขนาดนั้นเลยนะ ขอแค่จิตใจดีเป็นเพื่อนคู่คิดได้ (เพื่อนแนะนำไหม?) เพื่อนเลิกแนะนำไปแล้ว เรามันเล่นตัวเยอะไปหน่อย ไม่เสียดายหรอกช่วงนั้นมันก็ไม่มีเวลาจริงๆ”

หลายคนเชียร์กับพี่โป๊ปอีกแล้ว พอจะมีโอกาสลุ้นไหม?
“ไม่รู้…แต่ว่าในละครได้แน่ๆ (เคยคุยเรื่องนี้ไหม?) ก็ขำๆ ดีค่ะ ช่วงหนึ่งเป็นแก๊ง 4 คน หมื่นเรือง แม่จันทร์วาดด้วย แล้วเราก็มองหน้ากันว่าแก๊งเรามันมีอาถรรพ์หรือเปล่า (แต่ตอนนี้หมื่นเรืองไม่โสดแล้ว?) ใช่ค่ะ ให้นำไปก่อน”

น่ารัก น่าภูมิใจ!! ‘วีระศักดิ์’ ชมหนัง ‘สัปเหร่อ’ เล่าเรื่องราวธรรมดาๆ ผ่านมุมมองที่เรียบง่าย แต่แฝงแง่คิด-คติธรรมเพียบ!!

(26 ต.ค. 66) นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ สมาชิกวุฒิสภา ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว กล่าวถึง หนัง ‘สัปเหร่อ’ พร้อมชื่นชมในแง่มุมการนำเสนอเรื่องราวของทีมผู้สร้าง โดยระบุว่า…

“พาครอบครัวไปดูหนัง ‘สัปเหร่อ’ มาแล้ว
คนเต็มโรง มีเสียงคิกคักขบขันกันตลอดเรื่อง

ในฐานะลูกอีสาน คุณพ่อเป็นชาวอุบล คุณแม่จากศรีสะเกษ ผมแอบอมยิ้มกับความเรียบง่ายสไตล์ผู้บ่าวไทบ้านของทีมผู้สร้าง ที่หยิบจับความเป็นไปอย่างปกติของชาวบ้านในย่านนี้ออกมาเผยผ่านประสบการณ์อาชีพสัปเหร่อ ที่ย่อมมีในทุกคุ้มวัด ทุกตำบล แต่ถูกมองข้ามมานาน

มุกกลัวผี มุกเพื่อนฝูงแซวกัน มุกผู้เฒ่าผู้แก่ที่ให้ความเมตตา แต่ก็มีสถานะสำคัญที่ชุมชนยกย่องให้บทบาท มีมุก LGBTQ มุกเด็กแว้นท้องถิ่น มุกเจ้าหน้าที่ในงานบริการในชนบท

แต่ในขณะเดียวกันก็แฝงคติธรรม ระหว่างแดนของผีกับคน คนปล่อยวางได้กับคนที่ยึดติด คนที่เห็นค่าของผู้อื่นและเห็นค่าในตนเอง

หนังสร้างด้วยฉากง่ายๆ แต่ให้อะไรเกินกว่าที่คิด ไม่ประดิษฐ์ ไม่ประดับมากไป ใช้ภาษาอีสานตลอดเรื่อง แต่มีซับไทย และซับอังกฤษวิ่งใต้ภาพตลอด

น่ารัก และน่าภูมิใจครับ”

วีระศักดิ์ โควสุรัตน์

'ศาลฯ' ลงดาบ!! หนุ่มคะนองแชร์คลิปตัดต่ออนาจาร 'ศรีริต้า' คุก 12 เดือน ปรับ 6 หมื่น ชดใช้ค่าเสียหายอีก 1 แสน

(25 ต.ค. 66) ศาลอาญาอ่านคำพิพากษา คดีที่ น.ส.ศรีริต้า เจนเซ่น ณรงค์เดช ดาราสาวชื่อดัง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง หนุ่มแชร์คลิปตัดต่ออนาจารในสื่อออนไลน์ เป็นเหตุให้เสื่อมเสียชื่อเสียงและได้รับความเสียหาย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 7 ก.ค. 2564

โดยวันนี้ น.ส.ศรีริต้า โจทก์ เดินทางมาฟังคำพิพากษาพร้อมด้วยนายกรณ์ ณรงค์เดช สามี และน.ส.ศรันยา หวังสุขเจริญ หรือ ทนายนิด้า

น.ส.ศรันยา หรือ ทนายนิด้า กล่าวว่า ศาลพิพากษาว่า จำเลยมีความผิด ตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14(4)(5) ลงโทษจำคุก 1 ปี และปรับ 20,000 บาท, ความผิดหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 ลงโทษจำคุก 1 ปี ปรับ 100,000 บาท และ ทำให้ได้รับความอับอายความ ผิดลหุโทษ มาตรา 397 ลงโทษปรับ 1,000 บาท รวมโทษจำคุก 2 ปี ปรับ 121,000 บาท

จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 12 เดือน ปรับ 60,500 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้ 2 ปี เนื่องจากจำเลยไม่เคยกระทำความผิด และได้วางเงินชดใช้ค่าเสียหายก่อนที่ศาลจะมีคำพิพากษา โดยให้รายงานตัวพนักงานคุมประพฤติ 4 ครั้งใน 1 ปี ทำงานบริการสังคม 24 ชั่วโมง และให้จำเลยลบ ทำลาย ข้อความอันเป็นการหมิ่นประมาทโจทก์ ให้โฆษณาคำพิพากษาในหนังสือพิมพ์ 15 วัน และโพสต์คำขออภัยลงในเฟซบุ๊กเป็นเวลา 30 วัน พร้อมกับให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทน 100,000 บาทพร้อมดอกเบี้ย

น.ส.ศรันยา หรือทนายนิด้า กล่าวต่อว่า จำเลยส่งต่อข้อมูลลามกอนาจาร ซึ่งไม่ได้เป็นคนตัดต่อคลิปขึ้นมาเอง หากใครติดตามจะทราบว่าคุณศรีริต้าถูกกล่าวหาว่าไปปรากฏอยู่ในคลิปลามกอนาจาร ทั้ง ๆ ที่ปฏิเสธมาตลอดว่าเป็นคลิปตัดต่อไม่ใช่คุณศรีริต้า แต่จำเลยยังส่งต่อคลิปถือว่ามีความผิดเช่นเดียวกัน

"จากการพูดคุย อ้างว่าไม่ได้ตั้งใจ ทำไปด้วยความคึกคะนอง เมื่อได้รับหมายศาลก็สลดกันทุกคน ตนเองอยากให้ คนที่ทำแบบนี้ตระหนักได้แล้ว อย่างคุณริต้าเองวันนี้ที่ต้องมาศาลก็ต้องเสียทั้งเวลาทั้งเงิน แต่ก็เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำ"

ด้าน น.ส.ศรีริต้า เจนเซ่น กล่าวว่า ขอบคุณผู้พิพากษา และทนายนิดาที่ทำให้ตนเองได้รับความเป็นธรรม ยอมรับว่าตนเองลำบากใจเพราะไม่อยากทำให้ใครเดือดร้อน ไม่ได้ทำด้วยความโกรธแค้น แต่ตนเองไม่สามารถเพิกเฉยได้จึงตัดสินใจดำเนินคดี เพื่อปกป้องชื่อเสียงศักดิ์ศรีของตัวเอง ครอบครัว โดยเฉพาะลูก ตนเองไม่อยากให้ใครเข้าใจผิดในสิ่งที่ไม่เป็นความจริงที่เข้ามาบั่นทอนชีวิตของตนเองและชื่อเสียง อยากให้เรื่องนี้เป็นกรณีตัวอย่าง เป็นบทเรียนว่าการกระทำแบบนี้สามารถเข้าไปทำลายชีวิตคนอื่นได้จริง ๆ อยากให้คิดก่อนทำ ไม่ว่าจะด้วยความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจหรือด้วยความคึกคะนองอะไรก็ตาม อยากให้ฉุกคิดว่ามันจะไปสร้างผลกระทบต่อชีวิตคนอื่น และทำลายชีวิตใครหลาย ๆ คนตามที่เราเห็นข่าวทุกวันนี้จากอาชญากรรมไซเบอร์ อยากให้สังคมรู้ว่าบ้านเมืองมีกฎหมายมีศาล จึงยิ่งทำให้ตนเองไม่สามารถเพิกเฉยกับเรื่องดังกล่าวได้จริง ๆ ถึงแม้จะไม่รู้ว่าใครเป็นคนตัดต่อ แต่วันนี้รู้ว่าใครเป็นคนแชร์คลิป ทั้งที่ปฏิเสธแล้วว่าไม่ใช่ตนเองแต่ก็ยังแชร์คลิปอยู่

ขณะที่นายกรณ์ ณรงค์เดช สามีดาราสาว กล่าวว่า วันนี้ดีใจกับภรรยาและขอบคุณกระบวนการยุติธรรม เพราะเป็นสิ่งที่ภรรยาทุกข์ใจหนักใจมาโดยตลอด หากหลายคนจำได้ตอนที่เกิดเรื่อง ภรรยากำลังตั้งท้อง กระทบจิตใจอย่างรุนแรง และตลอดระยะเวลาที่อยู่ในวงการวางตัวดีมาตลอดไม่เคยมีข่าวเสื่อมเสียใด ๆ วันนี้จะได้เคลียร์ให้ชัดว่าผู้หญิงที่อยู่ในคลิปเป็นการตัดต่อไม่ใช่ภรรยา และถือว่าได้เคลียร์ชื่อเสียง 100% เปอร์เซ็นต์

สื่อเกาหลีชม 'ลิซ่า' รวยล้นฟ้า แต่ยังนั่งเครื่องบินชั้นประหยัด แถมชอบใช้ชีวิต 'ธรรมดา-ติดดิน' แม้จะเป็นคนดังระดับโลก

แม้จะเป็นป็อปสตาร์ตัวท็อปที่โด่งดังระดับโลก แต่ ‘ลิซ่า ลลิษา มโนบาล’ หรือ ‘ลิซ่า BlackPink’ ก็ยังเลือกที่จะใช้ชีวิตธรรมดาติดดิน เหมือนคนทั่วไป เมื่อล่าสุดสื่อเกาหลีชื่นชมที่เจ้าตัวยังโดยสารเครื่องบินในชั้นประหยัดแม้ว่าจะมีเงินมหาศาลก็ตาม

ตามรายงานจากสื่อเกาหลีชื่อดัง ได้รายงานถึงเรื่องราวดังกล่าวเมื่อวันที่ 23 ต.ค. ที่ผ่านมาว่า ลิซ่า ได้เดินทางแบบไปเช้าเย็นกลับกับเพื่อน ๆ และเนื่องจากเป็นการเดินทางระยะสั้น เธอจึงแต่งตัวสบาย ๆ แต่เพราะความดังและความโดดเด่นของลิซ่า จึงทำให้เธอเป็นที่สนใจจากบุคคลโดยรอบ

การเดินทางจากเวียดนามกลับไทยครั้งนี้ ลิซ่าเลือกที่จะโดยสารเครื่องบินในชั้นประหยัดร่วมกับเพื่อน ๆ และยังยืนต่อแถวรอเช็กอินเหมือนคนอื่น ๆ พร้อมกับเอร็ดอร่อยกับอาหารว่างที่ซื้อมากินระหว่างรอขึ้นเครื่องบิน

ซึ่งแม้จะรวยมีเงินมหาศาล แต่ความถ่อมตน และ ติดดินของลิซ่า ก็ได้ใจแฟน ๆ ไปไม่น้อย ซึ่งส่วนมากเข้ามาแสดงความคิดเห็นว่า “ลิซ่าเจ๋งสุดๆ”, “สุดยอดเลย ลิซ่า”, “ลิซ่า วิเศษที่สุด”, “แม้ว่าเธอจะโด่งดัง แต่มิตรภาพระหว่างเธอกับเพื่อนยังแน่นแฟ้น”, “ขนาดใส่ชุดธรรมดา แต่ลิซ่าก็ยังดูเด่นมาก” ฯลฯ

แม้ว่าบนเวทีคอนเสิร์ต ลิซ่าจะดูสวยสง่าและดูเข้าไม่ถึง แต่เมื่ออยู่ร่วมกับเพื่อน ๆ ลิซ่า มักจะทำตัวธรรมดา และชื่นชอบที่จะออกไปลองอาหารที่ขายตามข้างทาง ชนิดที่หลงใหลอาหารไทยแบบสุด ๆ จนกลายเป็นซอฟต์พาวเวอร์ที่ทำให้อาหารไทยฟีเวอร์ไปทั่วบ้านทั่วเมืองอีกด้วย

‘YG’ คอนเฟิร์ม ‘จีซู BlackPink-อันโบฮยอน’ เลิกกันแล้ว หลังทั้งคู่เพิ่งประกาศคบกันได้เพียง 2 เดือนเท่านั้น

(24 ต.ค.66) คนในวงการบันเทิงเกาหลีใต้ ได้เปิดเผยกับสื่อท้องถิ่นของที่นั่นว่า “ความสัมพันธ์ของจีซูและอันโบฮยอน เริ่มจะห่าง ๆ กันไปเอง เพราะทั้งคู่ยุ่งกับงานมาก และล่าสุดทั้งสองก็เพิ่งจะเลิกกันไปแล้ว"

ขณะเดียวกัน YG Entertainment ต้นสังกัดของ BLACKPINK ก็ได้ออกมายืนยันข่าวอย่างทางเป็นทางการว่า “เป็นเรื่องจริงที่จีซูและอันโบฮยอนเลิกกัน”

โดยก่อนหน้านี้มีการเปิดเผยว่า ‘จีซู’ และ ‘อันโบฮยอน’ กำลังออกเดตกันเมื่อเดือนสิงหาคม โดย จีซู ในวัย 28 ปี เป็นสมาชิกของเกิร์ลกรุ๊ปที่ดังที่สุดในเกาหลี ส่วนฝ่ายชาย ในวัย 35 ปี เป็นทั้งนายแบบและนักแสดง โดยเริ่มมีผลงานการแสดงเมื่อปี 2014 และเริ่มมีชื่อเสียงจากการเล่นซีรีส์ Itaewon Class (2020) รวมถึงได้รับรางวัล Excellence Award สาขานักแสดงนำชายจากบทบาทของเขาใน Yumi's Cells และ My Name ในงาน APAN Star Awards

‘วันเดอร์เฟรม’ ระบายทั้งน้ำตา หลังโดนบูลลี่รูปร่างจนเสียความมั่นใจ วอน ขอให้โฟกัสที่ผลงาน-หยุดบูลลี่คนอื่น เพราะคนที่โดนจำไม่เคยลืม

(23 ต.ค. 66) ทำเอานักร้องสาวมากความสามารถ อย่าง ‘เฟรม-ศุภัคชญา สุขใบเย็น’ หรือ ‘วันเดอร์เฟรม’ วัย 29 ปี ออกมาระบายความรู้สึก เมื่อถูกคอมเมนต์วิจารณ์รูปร่าง หลังจากขึ้นโชว์คอนเสิร์ตหนึ่ง แล้วมีการเผยแพร่คลิป โดยมีบางคอมเมนต์บางส่วนโฟกัสไปที่หุ่นแทน ในทำนองว่า “วันเดอร์เฟรมตอนแรกผอมนะ พอมาตอนนี้ระยะอวบเลย”

เมื่อล่าสุด วันเดอร์เฟรม ได้อัดคลิประบายความในใจทั้งน้ำตา เกี่ยวกับคำวิจารณ์ดังกล่าว พร้อมกับระบุแคปชัน “เราโดนล้อเรื่องน้ำหนักมาตั้งแต่จำความได้ ผ่านมา 29 ปี สังคมแห่งการบูลลี่นี้ไม่มีอะไรพัฒนาเลย คนพิมพ์แป๊ปเดียวก็ลืม แต่คนที่โดนอะไม่เคยลืมเลย”

โดยเนื้อหาในคลิปนี้ วันเดอร์เฟรม ได้พูดเอาไว้ว่า “คือเราอ่ะ ตอนแรกเราผอมกว่านี้เยอะ แต่ว่าเราขาหัก เราก็เลยไม่ได้ขยับร่างกาย เพราะว่าเราเดินไม่ได้อยู่ 2 เดือน น้ำหนักเราก็เลยขึ้นมา และนั่นก็คือเป็นคอนเสิร์ตแรกหลังจากที่... (ร้องไห้) เป็นคอนเสิร์ตแรกหลังจากที่เราเดินได้ และกลับมาเต้นได้

ซึ่งเราก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องมาบูลลี่เราขนาดนี้ น้ำหนักเราขึ้นอ่ะ มันก็ขึ้นที่ตัวเราเอง ไม่ได้ไปขึ้นกับพวกคุณสักหน่อย ทำไม... จริงๆ เรารู้สึกดีกับร่างกายตัวเองนะ แต่เราก็ไม่เข้าใจว่าทุกครั้งที่เราเห็นคอมเมนต์พวกนี้ มันทำให้เราแบบ... มันทำให้เรา รู้สึกมั่นใจในตัวเองน้อยลงอ่ะ ซึ่งจริงๆ มันไม่ควรเป็นแบบนั้นเลย”


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top