Saturday, 5 July 2025
NEWS FEED

รวบหนุ่มใหญ่ชาวจีนมอมเหล้าสาวเพื่อนร่วมชาติ ก่อนลากไปขืนใจคาโรงแรมกลางเมืองกรุง

บก.สส.สตม. ได้จับกุมตัว นายหยาง (นามสมมติ) สัญชาติ จีน อายุ 47 ปี สืบเนื่องมาจาก กก.2     บก.สส.สตม. ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ประเวศ ให้ช่วยติดตามจับกุมตัว นายหยางฯ สัญชาติจีน ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญาพระโขนง ที่ จ.118/2566 ลงวันที่ 2 มี.ค.2566 ความผิดฐาน “ข่มขืนกระทำชำเรา โดยขู่เข็ญด้วยประการใด ๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้ผู้อื่นนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น” โดยพฤติการณ์ กล่าวคือ เมื่อเดือน ธ.ค.2565 นายหยางฯ ได้ชักชวนหญิงผู้เสียหายชาวจีนไปรับประทานอาหารที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งย่านสุขุมวิท กรุงเทพฯ โดยระหว่างนั้นได้มีการดื่มแอลกอฮอล์จนกระทั่งผู้เสียหายเมาไม่ได้สติ นายหยางฯ จึงฉวยโอกาสพาผู้เสียหายไปเปิดห้องพักที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ภายในซอยศรีนครินทร์ 59 และได้ทำการข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายในขณะที่ยังเมาไม่ได้สติจนสำเร็จความใคร่ เมื่อผู้เสียหายรู้สึกตัว จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.ประเวศ ให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาจนกกว่าคดีจะถึงที่สุด ต่อมาพนักงานสอบสวนได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับนายหยางฯ ตามหมายจับข้างต้น

‘ชายพิการ’ ขาขาดสองข้าง จากเหตุรอบวางระเบิด ลุยสร้างแรงบันดาลใจให้สังคม-คนพิการ ฮึดสู้ต่อ

ตัวอย่างนักสู้ชายพิการขาขาดทั้งสองข้างจากเหตุลอบวางระเบิดใช้ชีวิตได้เหมือนคนปกติทั้งขับรถเองโดยต่อเหล็กกับคันเร่งและเบรคบังคับด้วยมือ สร้างแรงบันดาลให้กับคนพิการและคนที่ท้อ

(17 มี.ค.66) ที่ จ.สงขลา มีตัวอย่างของชายพิการขาขาดจากเหตุลอบวางระเบิดจนขาขาดทั้งสองข้าง แต่ก็ยังไม่ท้อกับโชคชะตาแม้จะขาขาดทั้งสองข้าง แต่ก็ยังคงสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติทั้งขับรถยนต์เดินทางไปไหนมาไหนเอง และยังช่วยเหลือสังคมสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้พิการด้วยกัน

นายดนรอหิม สันโยก อายุ 54 ปี ชาว อ.เทพา จ.สงขลา ปัจจุบันเป็นรองนายกสมาคมคนพิการ จ.สงขลา โดยพิการขาขาดทั้งสองข้างเกือบถึงโคนขาจากเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดที่ร้านน้ำชาว ในพื้นที่บ้านลำไพล อ.เทพา จ.สงขลา เมื่อวันที่ 20 ต.ค.ปี49 ซึ่งเหตุการณ์นั้นมีผู้เสียชีวิต4คน

โดยปัจจุบัน นายดนรอหิม จะขับรถเก๋งเดินทางไปไหนมาไหนด้วยตัวเองแม้ขาจะขาดทั้งสองข้าง โดยใช้วิธีต่อเหล็กจากคันเร่งและเบรคขึ้นมาและบังคับด้วยมือขวาและขาขวา ซึ่งเป็นวิธีที่คิดขึ้นมาเอง ขับได้เหมือนกับคนปกติและมีความชำนาญในการบังคับรถ และทุกครั้งที่เดินทางก็จะพาวีลแชร์ขึ้นรถไปด้วยโดยวางไว้ท้ายรถ เวลาขึ้นลงจากรถก็จะเปิดประตูหลังขึ้นลงและยกวีลแชร์ขึ้นลงด้วยตัวเองอย่างคล่องคล่องแคล่ว

‘ดาว TikTok เขมร’ ด่า ‘คนไทย’ ปมดรามาซีเกมส์ สุดท้ายทัวร์ลงหนัก จนต้องตั้งไพรเวตหนี

จากกรณีความขัดแย้งระหว่างชาวไทย และชาวกัมพูชา เริ่มจากประเด็นดรามา ‘มวยไทย’ กับ ‘กุนขแมร์’ ในมหกรรมกีฬาซีเกมส์ 2023 ที่ประเทศกัมพูชา จนทำให้มีการตอบโต้กันในโลกออนไลน์อย่างเผ็ดร้อนของสองชาติ

โดยมีดาว TikTok ชาวเขมรเจ้าของบัญชี kissman5t6 ที่ออกมาด่ากราดคนไทย ทั้งเรื่องประเด็นไม่ส่งแข่ง ‘กุนขแมร์’ รวมทั้งเรื่องค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดซีเกมส์ ที่มีการขายให้ไทย แพงกว่าชาติอื่น ๆ และยังระบุว่า หากไทยไม่ต้องการแข่งขันก็ไม่ต้องมาร่วม จนโดนทัวร์ลงอย่างหนัก

‘ปคบ.’ เตือน ‘สารบอแรกซ์’ อ้างสรรพคุณรักษาโรค  ชี้ เป็นสินค้าอันตราย หลังพบขายเกลื่อนออนไลน์

เพจ ‘ปคบ.เตือนภัยผู้บริโภค’ โพสต์เตือนพบผลิตภัณฑ์ ‘CHEMRICH BORAX’ หรือสารบอแรกซ์ โฆษณาขายทางสื่อออนไลน์ พร้อมอวดอ้างสรรพคุณรักษาโรค ด้าน อย.ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว พบว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวไม่ปลอดภัยต่อผู้บริโภค

วันนี้ (17 มี.ค.) เพจ ‘ปคบ.เตือนภัยผู้บริโภค’ ได้ออกมาโพสต์เตือนหลังพบผลิตภัณฑ์ “CHEMRICH BORAX” หรือ สารบอแรกซ์ โฆษณาขายทางสื่อออนไลน์ พร้อมอวดอ้างสรรพคุณรักษาโรค โดยระบุสรรพคุณไว้ว่า “cds ดีจริงๆ พี่อาการดีขึ้นมาก ๆ ภายใน 5 วัน แฟนพี่งงมาก ๆ ทำไมตื่นนอนตอนเช้า ไม่ไอ ไม่จาม นอนหลับลึกหลับสนิทไม่ตื่นนอนกลางดึก พี่เป็นภูมิแพ้ ความดัน เบาหวาน อย่ารอช้าค่ะมาเอาน้ำอัมฤทธิ์ไปดื่มเลยนะคะ”

สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว พบว่า เป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่ปลอดภัยต่อผู้บริโภค ไม่พบการอนุญาตผลิตภัณฑ์และโฆษณากับ อย. จึงขอเตือนผู้บริโภคอย่าหลงเชื่อโฆษณาลักษณะนี้

‘แพทย์’ ยก ‘วิจัยมะกัน’ เผยเด็กที่สูด PM 2.5 ทำโครงสร้างสมองเปลี่ยน ส่งผลต่อความฉลาด

วันที่ 17 มีนาคม 2566 ผศ.นพ.สุรัตน์ ตันประเวช หัวหน้าหน่วยประสาทวิทยา ภาควิชาอายุรศาสตร์ และเลขานุการและกรรมการบริหารศูนย์โรคสมองภาคเหนือ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โพสต์เฟซบุ๊กผ่าน “สาระสมองกับ อจ.หมอสุรัตน์” อ้างถึงผลงานวิจัยเกี่ยวกับเอฟเฟกต์จากการสูดฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM2.5 ว่า เด็กสูด PM2.5 โครงสร้างสมองเปลี่ยนนะครับ

“โง่ลง เพราะ pm 2.5”

คนสูงวัยเจอ pm 2.5 เสี่ยงสมองเสื่อม และ stroke แล้ว เด็กเป็นอย่างไร
งานวิจัย ถึง pm 2.5 ใน อเมริกา ที่อยู่ในถิ่นที่อากาศไม่สู้ดีนัก พบว่า โครงสร้างสมองเปลี่ยนไป เลยทีเดียว การเปลี่ยนแปลง มันรวมถึงความหนาตัวของเซลล์ประสาทนึกคิด ที่มันบางลง ซึ่งเป็นตำแหน่งความฉลาดด้วย

อีกงานวิจัย ดูความจำ ความคิดเร็ว ก็พบว่าเปลี่ยนไป เช่นกัน
pm2.5 เพิ่มอัตราการทุพลภาพผู้สูงวัย
pm 2.5 ลดพัฒนาการสมองเด็ก

ตำรวจไซเบอร์เตือนภัย มิจฉาชีพใช้เว็บไซต์กระทรวงพาณิชย์ปลอม ดึงข้อมูลส่วนบุคคลและทำธุรกรรมทางการเงิน

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษก บช.สอท. ขอประชาสัมพันธ์เตือนภัย มิจฉาชีพหลอกลวงประชาชนให้ติดตั้งแอปพลิเคชันปลอม ผ่านเว็บไซต์กระทรวงพาณิชย์ที่ปลอมขึ้นมาเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ โอนเงินออกจากบัญชีสร้างความเสียหาย ดังนี้ 


กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) โดยกองบังคับการตรวจสอบและวิเคราะห์อาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือบก.ตอท. ได้ตรวจสอบพบเว็บไซต์ปลอมเว็บไซต์หนึ่ง คือ http://moc-no-th.com ซึ่งมิจฉาชีพได้ฉวยโอกาสสร้างเว็บไซต์ดังกล่าวให้มีลักษณะคล้ายคลึงกับเว็บไซต์จริงของกระทรวงพาณิชย์ https://www.moc.go.th โดยภายในเว็บไซต์ปลอมดังกล่าวมีการใช้สัญลักษณ์ของหน่วยงาน เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ และที่สำคัญหน้าเว็บไซต์มีปุ่มให้คลิกเพื่อทำการติดตั้งแอปพลิเคชันปลอม เมื่อประชาชนหลงเชื่อคลิกปุ่มจะเป็นการติดตั้งไฟล์อันตราย นามสกุล .APK ลงในโทรศัพท์มือถือ หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โดยก่อนการติดตั้งจะมีการขอสิทธิ์เพื่อติดตั้งแอปพลิเคชันที่ไม่รู้จัก ขอสิทธิ์ในการเข้าถึงข้อมูลที่สำคัญ และขอสิทธิ์ควบคุมโทรศัพท์มือถือ จากนั้นแอปพลิเคชันปลอมจะให้กรอกข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลทางการเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งให้ตั้งรหัส PIN 6 หลัก จำนวนหลายครั้ง เพื่อหวังให้เหยื่อกรอกเลขชุดเดียวกับรหัสในการทำธุรกรรมทางเงินของแอปพลิเคชันธนาคารต่างๆ ในโทรศัพท์มือถือ กระทั่งเมื่อมิจฉาชีพได้สิทธิ์ควบคุมอุปกรณ์แล้ว จะทำการล็อกหน้าจอโทรศัพท์มือถือของเหยื่อ ทำให้เสมือนว่าโทรศัพท์มือถือค้างไม่สามารถใช้งานได้ กระทั่งมิจฉาชีพนำรหัส PIN 6 หลัก ที่ผู้เสียหายตั้ง หรือกรอกไว้ก่อนหน้านี้ไปทำการยืนยันการโอนเงินออกจากบัญชีของผู้เสียหาย 


ทั้งนี้จากการตรวจสอบเว็บไซต์ปลอมดังกล่าวมีการจดทะเบียนอยู่นอกราชอาณาจักร โดย บช.สอท. ได้ทำการแจ้งไปยังสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) เพื่อทำการปิดกั้นเว็บไซต์ดังกล่าว และได้ทำการประสานกับกระทรวงพาณิชย์เพื่อประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนไปยังประชาชนต่อไปแล้ว  


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ให้ความสำคัญ และมีความห่วงใยต่อภัยการหลอกลวงผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับการใช้ หรือแอบอ้างหน่วยงานราชการต่างๆ มาหลอกลวงประชาชน สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง โดยได้กำชับไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งวางมาตรการในการป้องกันและปราบปรามอย่างต่อเนื่อง และจริงจัง 
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร., พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. ซึ่งรับผิดชอบในด้านงานป้องกันปราบปราม ได้กำชับสั่งการให้หน่วยงานในสังกัดเร่งดำเนินการปราบปรามจับกุมผู้กระทำผิดอย่างต่อเนื่อง และจริงจัง รวมถึงวางมาตรการป้องกันสร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชนไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของเหล่ามิจฉาชีพ 


ที่ผ่านมา บช.สอท. โดย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ได้ขับเคลื่อนตามนโยบายของรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดในโลกออนไลน์ทุกรูปแบบ  
โฆษก บช.สอท. กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อประชาชนเริ่มรับทราบ หรือรู้เท่าทันกลโกงมิจฉาชีพในเรื่องใดๆ แล้ว มักจะฉวยโอกาสเปลี่ยนแปลงหน่วยงาน ปรับเปลี่ยนเนื้อเรื่องให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในช่วงนั้นๆ แต่ยังคงใช้แผนประทุษกรรมในรูปแบบเดิม คือ การหลอกลวงให้เหยื่อติดตั้งแอปพลิเคชันปลอมเพื่อเอารหัสการทำธุรกรรมทางการเงินของเหยื่อ เพราะฉะนั้นการเข้าถึงเว็บไซต์ หรือบริการต่างๆ บนสื่อสังคมออนไลน์ ควรตรวจสอบให้ดีเสียก่อน ไม่หลงเชื่อเพียงเพราะการแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยงาน แอบอ้างสัญลักษณ์ของหน่วยงานนั้นๆ หรือมีชื่อเว็บไซต์ที่คิดว่าน่าจะเป็นเว็บไซต์จริง และพึงระมัดระวังการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลทางการเงิน ซึ่งมิจฉาชีพจะฉวยโอกาสไปแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ  
 

อาลัย ‘คุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี’ ภรรยาเจ้าสัวเจริญ แห่ง TCC Group เสียชีวิตแล้ว

(17 มี.ค. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานข่าวว่า ‘คุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี’ ผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่มบริษัททีซีซี และภรรยาเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี เสียชีวิตแล้ว 

คุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง ‘กลุ่มบริษัททีซีซี’ หรือ TCC Group อาณาจักรธุรกิจแสนล้าน โดยมีประสบการณ์ร่วมกับสามี คือ ‘นายเจริญ สิริวัฒนภักดี’ ในการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มายาวนานกว่า 50 ปี

สำหรับธุรกิจของ เจ้าสัวเจริญ-คุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี ภายใต้บริษัท ไทยเจริญคอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ TCC Group นั้น ประกอบด้วย 5 กลุ่มหลัก ได้แก่

1) กล่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม โดยมีหัวหอกคือ ‘ไทยเบฟเวอเรจ’ แบรนด์ดังในพอร์ตโฟลิโอ เช่น เบียร์ช้าง กาแฟสตาร์บัคส์ โออิชิ เคเอฟซี

2) ธุรกิจอุตสาหกรรมและการค้า เป็นภาคการผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค โรงงานขวดแก้ว และห้างค้าปลีกอย่าง ‘เบอร์ลียุคเกอร์’ หรือบีเจซี และ ‘บิ๊กซี’

3) ธุรกิจประกันและการเงิน อาคเนย์ ประกันภัย

4) ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ทั้งโรงแรม ค้าปลีก อาคารสำนักงาน ฯ ภายใต้บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC บริษัท เฟรเซอร์ พร็อพเพอร์ตี้ ประเทสไทย จำกัด มีโครงการดังเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ พันธุ์ทิพย์ พลาซ่า ประตูน้ำ หรือปัจจุบันคือศูนย์ค้าส่ง โรงแรมนับสิบแห่ง จำนวนห้องพักหลายพันแห่ง และ

5) ธุรกิจเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตร มีทั้งพื้นที่เพาะปลูกกาแฟ ผลิตปุ๋ยตรามงกฎ เป็นต้น

เกี่ยวกับเกียรติประวัติของคุณหญิงวรรณา ได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จาก 8 มหาวิทยาลัยในประเทศไทย ได้แก่

- ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
- ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล
- ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาการจัดการธุรกิจ มหาวิทยาลัยพะเยา
- ปริญญาบริหารธุรกิจดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาการจัดการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก
- ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
- ปริญญาบริหารธุรกิจดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
- ปริญญาบริหารธุรกิจดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาบริหารธุรกิจการเกษตร สถาบันเทคโนโลยีการเกษตรแม่โจ้
- ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาเทคโนโลยีชีวภาพ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ที่สะท้อนให้เห็นถึงคุณประโยชน์ทางธุรกิจของแต่ละสาขาวิชาได้เป็นอย่างดี

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ห่วงใยผู้ประสบภัยน้ำท่วม จ.นครศรีธรรมราช พัทลุง นราธิวาส สตูล และสงขลา จัดทีมลงพื้นที่แจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค รวมมูลค่า 9 ล้านบาท ในโครงการฟื้นฟูหลังน้ำลด

วานนี้ (วันที่ 16 มีนาคม 2566) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดย นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการ พร้อมด้วย นายจารุรัตน์ คุณัตถานนท์ กรรมการและเหรัญญิก และนายรัชพร ประสงค์ทรัพย์ หัวหน้าแผนกสาธารณภัย ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ นำทีมลงพื้นที่แจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภคในโครงการฟื้นฟูหลังน้ำลด ประกอบด้วย ข้าวสาร บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋องน้ำมันพืช และน้ำปลา ให้แก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่อำเภอนาหม่อม และอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา รวม 3,400 ชุด โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานรัฐเป็นประธานในพิธี พร้อมทั้งมูลนิธิสงเคราะห์ 14 จังหวัดภาคใต้ และ มูลนิธิมิตรภาพสามัคคี (ท่งเซียเซี่ยงตึ๊ง) หาดใหญ่ เป็นผู้ประสานงานและร่วมในพิธี รวมทั้งอาสาสมัครมูลนิธิฯ นำโดย นายสำอาง สว่างแจ้ง ผู้ช่วยหัวหน้าแผนกอาสาสมัคร นางศิริวรรณ โอภาสวงศ์ อาสาสมัครกิตติมศักดิ์ และนางศิริพร โอภาสวงศ์ อาสาสมัครกิตติมศักดิ์ ร่วมลงพื้นที่แจกจ่ายสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภคในพื้นที่

โดยระหว่างระหว่างวันที่ 6-18 มีนาคม 2566 มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ลงพื้นที่แจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค ให้แก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง นราธิวาส สตูล และสงขลา รวม 5 จังหวัด คิดมูลค่าเครื่องอุปโภคบริโภคทั้งสิ้น 9,000,000 บาท (เก้าล้านบาทถ้วน) โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานรัฐเป็นประธานในพิธี พร้อมทั้งมูลนิธิสงเคราะห์ 14 จังหวัดภาคใต้ และ มูลนิธิฯ / สมาคม ประจำจังหวัดต่างๆ เป็นผู้ประสานงานและร่วมในพิธี  

นับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้จัดทีมลงพื้นที่แจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภคช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมเพื่อเป็นการฟื้นฟูหลังน้ำลดทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และพื้นที่ส่วนภูมิภาค รวม 24 จังหวัด รวมงบประมาณเครื่องอุปโภคบริโภคในการแจกจ่ายไม่ต่ำกว่า 14.8 ล้านบาท

รมว.พิพัฒน์ เปิดกิจกรรมสัมมนาเพื่อสร้างการรับรู้แนวทางการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเท่ียวอย่างยั่งยืน

วันศุกร์ท่ี ๑๗ มีนาคม ๒๕๖๖
ณ ห้องสมิหลา แกรนด์ โรงแรมบีพี สมิหลา บีช แอนด์ รีสอร์ท อําเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา นายพิพัฒน์  รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานเปิดกิจกรรมสัมมนา เพื่อสร้างการรับรู้แนวทางการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน และการดําเนนิ งาน ตามมาตรฐานการจัดการการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน Sustainable Tourism management Standards หรือเรียกสั้นๆว่า (STMS) ซึ่งจัดโดย องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษ เพื่อการท่องเท่ียวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. โดยมีนาวาอากาศเอก อธิคุณ คงมี ผู้อำนวยการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวยอย่างยั่งยืน และผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้ง 142 องค์กร ให้การต้อนรับ

รมว.พิพัฒน์ กล่าวว่า พื้นที่ลุ่มน้ําทะเลสาบสงขลา เป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยความงดงามของธรรมชาติ มีความหลากหลายทางระบบนิเวศ มีวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ มีวิถีชีวิตที่เป็นอัตลักษณ์ ท่ีโดดเด่น และเป็นพ้ืนท่ีท่ีมีศักยภาพด้านการท่องเท่ียว อย่างไรก็ตาม พื้นท่ีลุ่มน้ําทะเลสาบสงขลา ยังคงต้องการการพัฒนา ไม่ว่าจะเป็นด้านการอนุรักษ์ การฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ และวิถี ลุ่มน้ําทะเลสาบสงขลาให้มีความยั่งยืน และช่วยกันยกระดับเพื่อนําไปสู่มาตรฐาน ท้ังในระดับประเทศ และระดับโลก อพท. จึงได้เสนอคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ ให้ความเห็นชอบ การประกาศพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนลุ่มน้ําทะเลสาบสงขลา และเห็นชอบ แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนลุ่มน้ําทะเลสาบสงขลา ระยะ ๕ ปี (พ.ศ.๒๕๖๖ - ๒๕๗๐) ท่ีประกอบด้วยโครงการกว่า ๒๗๐ โครงการ งบประมาณ รวมกว่า ๕,๐๐๐ ล้านบาท

ภายใต้วิสัยทัศน์ “ลุ่มน้ําทะเลสาบสงขลา ต้นแบบการท่องเที่ยว เชิงนิเวศและวัฒนธรรมอย่างยั่งยืน” ซึ่งจะเป็นกรอบและแนวทางสําหรับบูรณาการ ความร่วมมือและดําเนินงานร่วมกับของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการมีส่วนร่วม ขับเคลื่อน การพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวสร้างสรรค์ จากฐานทรัพยากรการท่องเที่ยว ที่มีคุณค่าของทะเลสาบสงขลา และวิถีเขาโหนด-นา-เล สู่การท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐานและยั่งยืนในบริบทของการเป็นพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเท่ียวอย่างยั่งยืน โดยมี โครงการภายใต้แผนยุทธศาสตร์ในส่วนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จํานวน ๑๖๖ โครงการ งบประมาณรวมเกือบ ๓,๔๐๐ ล้านบาท ซึ่งเป็นสัดส่วนงบประมาณกว่า ๗๐ เปอร์เซ็นต์ในแผน ที่มีหน่วยรับผิดชอบคือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นของพวกท่าน ซึ่งเป็นผู้พัฒนาและดูแลพื้นที่อย่างแท้จริง “มาตรฐานการจัดการการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน Sustainable Tourism management Standards (STMS)” เป็นมาตรฐานท่ีได้รับการรับรองว่าเทียบเท่ากับ หลักเกณฑ์การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนสําหรับสถานที่ท่องเที่ยวของสภาการท่องเที่ยว อย่างยั่งยืนโลก ซึ่งเป็นองค์กรระดับสากล มาตั้งแต่ปี ๒๕๖๑ นั่นหมายความว่า มาตรฐานนี้ เป็นแนวปฏิบัติที่ได้รับความเช่ือถือในระดับนานาชาติ การนําแนวทางตามมาตรฐานดังกล่าว ไปดําเนินงาน จะเป็นการเพิ่มขีดความสามารถให้กับองค์กรต่างๆ ที่มีภารกิจในการบริหาร จัดการการท่องเที่ยวให้สามารถบริหารจัดการการท่องเที่ยวได้อย่างมีระบบและบูรณาการ งานท่องเที่ยวที่สามารถตอบสนองความต้องการของทุกภาคส่วนได้

อพท. จึงได้นํามาตรฐาน ดังกล่าวไปส่งเสริมและประเมินผลการดําเนินงานองค์กรที่มีบทบาทในการบริหารจัดการ การท่องเที่ยว โดยเริ่มที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งเป็นองค์กรหลักในพื้นที่ที่จะบริหาร จัดการการท่องเท่ียวได้อย่างย่ังยืน

เกาหลีใต้ ยัน ไม่มีแบล็กลิสต์คนไทยจากบางภาค แนะ ให้ระมัดระวังรับข่าวเท็จ ก่อนเกิดความเสียหาย

โฆษกรัฐบาล ย้ำ สถานทูตเกาหลีใต้ ยืนยัน ไม่มีการขึ้นบัญชีดำคนไทยจากบางภาค

เมื่อวันที่ 17 มี.ค.66 นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กรณีที่มีการเผยแพร่ข้อความว่า สาธารณรัฐเกาหลี(เกาหลีใต้) ขึ้นบัญชีดำคนไทยที่มีภูมิลำเนาจากบางภูมิภาคในไทย ในการเดินทางเข้าเกาหลีใต้นั้น ไม่เป็นความจริง 

ทั้งนี้สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย ได้ออกประเทศเตือนว่าข้อความดังกล่าวเป็นข่าวปลอม ดังนี้ “เมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้มีการแพร่กระจายข่าวลงสื่อในบางช่องทาง เกี่ยวกับการขึ้นบัญชีดำคนไทยที่มีภูมิลำเนาจากบางภูมิภาค โดยรัฐบาลเกาหลีนั้น เราขอแจ้งว่าข่าวนั้นไม่เป็นจริง จึงขอความร่วมมือทุกท่านให้ระมัดระวังการรับข่าวเท็จ เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายใด ๆ ขอบคุณค่ะ”

นายอนุชา กล่าวว่า ขอให้ประชาชนระมัดระวังในการรับทราบข่าวสาร โดยขอให้รับข่าวสารจากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากข่าวสารก่อนเสมอ เพื่อไม่ให้เกิดผลเสีย ความสับสน และอาจทำให้เกิดความเสียหายได้ 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top