Saturday, 5 July 2025
NEWS FEED

'เอนก' ยันสารซีเซียม-137 ที่พบ 2 จุด ยังไม่น่าวิตก เล็งเรียกถกคณบดีแพทย์ ร่วมวางแผนเฝ้าระวัง

‘เอนก’ ขอ ปชช.สบายใจ ยังไม่พบซีเซียม-137 เกินค่ามาตรฐาน เรียกถกคณบดีแพทย์กว่า 20 สถาบัน วางแผนเฝ้าระวัง ย้ำปิดพื้นที่ห้ามเข้า-ออก ชี้ต้องทำงานด้วยหลักการ ไม่ใช่สามัญ เผย "นายกฯ" ย้ำเอาข้อมูลความจริงมาทำความเข้าใจปชช. ต้องสอบทานได้ ยันไม่มีงุบงิบ-ฮั้วโรงงาน 

เมื่อเวลา 09.20 วันที่ 21 มีนาคม 2566 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมร่วมกับเลขาธิการสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ ว่า จากการรายงานสรุปข้อมูล เบื้องต้นจากการสอบทานและตรวจสอบ ดิน น้ำอากาศ ในบริเวณ 2 จุด คือ ที่ซีเซียมหาย และบริเวณที่พบซีเซียม ไม่มีค่ากัมมันตรังสีที่มากกว่าค่าปกติ ในระดับที่เป็นอันตราย ยังไม่มีอะไรที่น่าวิตกมากนัก แต่ยังต้องระวัง โดยมีการตั้งจุดตรวจทั่วประเทศ 18 จุด และตรวจในน้ำในทะเลอีก 5 จุด ทั้งหมดรายงานมาว่ายังไม่พบซีเซียมอยู่ในระดับที่เกินค่ามาตรฐานปกติ ในตอนนี้ให้เบาใจได้

นอกจากนั้น จะให้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่มีวิชาและคณะสาขาที่มีความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับเรื่องปรมาณูและกัมมันตรังสี เข้าไปตรวจสอบ และจะเปิดให้สื่อมวลชนเข้าไปร่วมรับฟังรับรู้ในการตรวจวัดปริมาณซีเซียมในระยะต่อไป เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าไม่มีปริมาณซีเซียมในดิน น้ำ อากาศ ที่เป็นอันตราย เราต้องติดตามอย่างจริงจัง ไม่ใช่รับฟังรายงานอย่างเดียว

นายเอนก กล่าวว่า นอกจากนั้นจะประสานไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ว่ามีกัมมันตรังสีแพร่กระจายหรือไม่ และขอให้รายงานมาที่ประเทศไทย และรายงานต่อองค์การระดับโลก ที่ทำงานเกี่ยวกับการควบคุมกัมมันตรังสีได้รับทราบด้วยว่าปริมาณซีเซียมในดิน น้ำ อากาศ ในประเทศรอบบ้านเรา ยังไม่มีระดับที่ผิดปกติอะไร ถ้าเป็นอย่างนั้นก็จะมั่นใจขึ้น และขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานจากทางโรงพยาบาลมหาวิทยาลัย โรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ว่ามีคนที่บาดเจ็บ หรือสุขภาพได้รับความเสียหายจากกัมมันตรังสี จึงเบาใจได้เพิ่ม แต่ย้ำว่าไม่ละเลยเรื่องนี้ โดยเวลา 12.00 น.วันเดียวกัน ตนจะเชิญคณบดีคณะแพทยศาสตร์ของโรงเรียนแพทย์ทั้งหมด กว่า 20 แห่ง มาประชุมเพื่อสั่งการว่าจะเตรียมการอย่างไร

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะต้องมีการควบคุมพื้นที่บริเวณดังกล่าวไว้ก่อนหรือไม่ นายเอนก กล่าวว่า ใช่ ในพื้นที่มีการก่ออิฐ มีการใช้วิทยาการระดับสูงเข้าไปดำเนินการ ไม่ใช่ทำตามสามัญสำนึก ส่วนการกำจัดกากที่เหลือ ได้มอบให้สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์ที่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายเข้าไปดำเนินการ และมีวิธีทำงานให้เกิดความปลอดภัย

เมื่อถามว่า จะต้องมีระยะเวลาติดตาม เฝ้าระวัง ตรวจสอบ ไปนานแค่ไหน นายเอนก กล่าวว่า ให้ใช้เวลาทำงานให้เต็มที่ เพื่อให้ประชาชนเกิดความสบายใจ โดยจะสอบทานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งประเทศเพื่อนบ้าน ที่ไม่พบกัมมันตรังสี และจากไอเออีเอ ที่มีหน้าที่ดูแลเกี่ยวกับกัมมันตรังสีทั่วโลก ว่าพบมีรายงานสั่งไปพบที่ประเทศใด เพื่อให้สบายใจ เพราะดูแล้วว่าประชาชนสนใจเรื่องนี้มากกว่าการยุบสภา และเวลานี้ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงไปทำความเข้าใจกับประชาชนเต็มที่หลายหน่วยงานลงไปช่วยกัน และจะเพิ่มมากขึ้นโดยสำนักงานได้ลงไปตั้งกองบัญชาการส่วนหน้าที่จุดเกิดเหตุมีนักนิวเคลียร์ นักฟิสิกส์ ลงไปช่วย และรายงานว่าสถานการณ์ยังไม่อยู่ในระดับที่น่าวิตก

เมื่อถามถึงกรณีภาพที่เผยแพร่การปิดล้อมโรงงานหลอมเหล็กที่พบสารซีเซียม-137 ทำให้ประชาชนเกิดความไม่มั่นใจว่าจะสามารถดูแลป้องกันสุขภาพและสารกัมมันตรังสีได้มากน้อยแค่ไหน ว่ามั่นใจได้ทำตามหลักวิชาและเรื่องกัมมันตรังสีอยากเรียนให้พี่น้องได้เข้าใจด้วยว่าเป็นเรื่องสากลด้วยมาตรการต่างๆ ที่เราใช้จะต้องถูกกำหนดโดยองค์การระดับประเทศทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (International Atomic Energy Agency: IAEA) เข้ามาตรวจสอบเราเป็นระยะๆ อยู่เสมอ ถ้าบอกว่าล้อมเอาไว้เพื่อไม่ให้กัมมันตรังสีเผยแพร่ออกไป มันถูกกำหนดไว้หมดว่าจะต้องทำอย่างไร มันไม่ใช่เรื่องวิตกเฉพาะเมืองไทยหรือประเทศอื่นๆ เท่านั้น แต่กัมมันตรังสีสามารถแพร่ไปได้ทั่วโลก เพราะฉะนั้นประเทศอื่นๆ ก็เข้ามาตรวจสอบของเราด้วย

"เรื่องนี้ถ้าถามว่ารัฐบาลคิดอย่างไร ผมกราบเรียนได้เลยว่า ผมได้กราบเรียนท่านนายกฯ วันนี้จะเรียกประชุมคณะกรรมการพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ ซึ่งมีหน้าที่ทางวิชาการส่วนเรื่องการกันพื้นที่เป็นเรื่องของทางจังหวัด นายกฯ บอกว่าให้เอาความจริงออกมาให้พูดข้อมูลตามที่เป็นจริงและให้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้เข้าใจ ซึ่งจะเข้าใจได้ก็ต้องรับรู้รับทราบในข้อมูลและสอบถามได้ เพราะฉะนั้นที่บอกว่าเราจะฮั้วกับโรงงานนั้น บอกได้เลยว่ารัฐบาลโดยเฉพาะระดับสูงระดับนายกระดับกระทรวงระดับกรมเราทำจริงจังแน่ และเรื่องนี้เป็นนโยบายที่เป็นมาตรฐานสากลด้วย ดังนั้น เราจะมาทำแบบงุบงิบไม่ได้" นายเอนก กล่าว

ด้าน นายเพิ่มสุข สัจจาภิวัฒน์ เลขาธิการสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีการเผยแพร่ภาพที่เก็บสิ่งปนเปื้อนสารซีเซียม-137 ถูกตั้งข้อสังเกตว่ามีการกักเก็บไม่มิดชิด ว่าภาพดังกล่าวเราเปิดเพื่อถ่ายรูป พอถ่ายเสร็จก็ปิด ทั้งนี้ สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติมีการตั้งศูนย์เฉพาะกิจที่โรงงานหลอมเหล็กดังกล่าว เพื่อสร้างความมั่นใจ และเพื่อตรวจวัดโรงงานและบริเวณรัศมีรอบๆ เป็นชั้นๆ ต่อเนื่อง รวมถึงการวัดดิน น้ำ อากาศ อาหารที่อยู่ในตลาด จะมีการเก็บมาตรวจสอบทั้งหมด เพื่อความมั่นใจในการทำมาหากินของประชาชน

'จอมขวัญ' โชว์ฟิกเกอร์ละม้าย 'ประยุทธ์' ในชุดมนุษย์หิน ด้านชาวเน็ตแซวสนุกปาก สะท้อนยุคสมัยที่ผ่านมา

(21 มี.ค. 66) จากเพจเฟซบุ๊ก Jomquan ของคุณจอมขวัญ หลาวเพ็ชร์ ได้มีการโพสต์ภาพพร้อมแคปชัน ว่า...

"ฟิกเกอร์ใหม่นะจ๊ะ"

โดยโพสต์ดังกล่าวมียอดแชร์และไลก์จำนวนมากอย่างรวดเร็ว ขณะที่ด้านชาวเน็ตเมื่อได้เห็นโพสต์ภาพฟิกเกอร์ดังกล่าว ก็เข้ามาแสดงความเห็นกันเป็นจำนวนมาก อาทิ...

- เอาสิ่งอัปมงคลเข้ามาในบ้านไม่ได้นะครับพี่

‘เสี่ยเฮ้ง’ เตือนแรงงานไทยหางานต่างประเทศ ระวังถูกล้วงข้อมูลส่วนตัว ผ่านการลงทะเบียนออนไลน์

(21 มี.ค.66) นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า จากกรณีปรากฏเป็นข่าวทางสื่อต่าง ๆ ว่ามีแพลตฟอร์มเปิดให้บริการจัดหางานออนไลน์ของประเทศซาอุดีอาระเบีย ในหลายตำแหน่ง ได้แก่ แม่บ้าน ผู้ดูแลเด็ก ผู้ดูแลคนสูงอายุ ผู้ดูแลสวน พ่อครัว แม่ครัว และคนขับรถ เป็นต้น โดยอ้างว่าสามารถสมัครได้ง่ายและไม่มีค่าใช้จ่ายในการลงทะเบียน เพียงทำการฝากประวัติออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มไม่กี่ขั้นตอน ก็สามารถสัมภาษณ์กับนายจ้างด้วยวิธีการวีดีโอคอลกับนายจ้างได้ ตนในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน จึงเร่งสั่งการกรมการจัดหางานตรวจสอบข้อมูล เพราะห่วงแรงงานไทยจะถูกหลอกลวง ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าแพลตฟอร์มดังกล่าวไม่ได้เป็นบริษัทที่ได้รับอนุญาตให้จัดส่งคนหางานไปทำงานที่ประเทศซาอุดีอาระเบียจากกรมการจัดหางาน 

ดังนั้นการฝากประวัติส่วนตัวลงในแพลตฟอร์มอาจจะเป็นการถูกหลอกเก็บข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อนำไปใช้ในทางที่มิชอบได้ จึงฝากถึงคนไทยที่ต้องการไปทำงานในต่างประเทศไม่ว่าประเทศใด ต้องรู้ว่าการโฆษณาจัดหางานเพื่อพาคนไปทำงานต่างประเทศ สามารถทำได้เฉพาะผู้ได้รับอนุญาตจากกรมการจัดหางานเท่านั้น หากตรวจสอบที่มาแล้วมิใช่ ถือว่าท่านมีโอกาสถูกหลอกลวง

รบ. ปลื้ม ‘แกงพะแนง’ ติดอันดับที่ 1 ของโลก เดินหน้าพัฒนา 5F ต่อยอด Soft Power ไทย

‘แกงพะแนง’ ของไทย ติดอันดับที่ 1 แกง/สตูว์ ที่สุดในโลก รัฐบาล-ทุกภาคส่วน พัฒนา 5F ต่อยอด Soft power 

(21 มี.ค.66) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยินดีที่ แกงพะแนง ของไทยได้รับการจัดเป็นอันดับ 1 แกง/สตูว์ ที่ได้คะแนนดีที่สุดในโลก

นายอนุชา กล่าวว่า เว็บไซต์ tasteatlas ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่รวบรวมร้านอาหาร สูตรอาหาร เมนู วัตถุดิบท้องถิ่นจากทั่วโลก รวมถึงรีวิวจากนักวิจารณ์ทั่วโลก ได้ทำการจัดอันดับ แกง/สตูว์ ที่มีคะแนนที่ดีสุดในโลก ซึ่ง แกงพะแนง ของไทย ได้อันดับ 1 ด้วยคะแนน 4.8 พร้อมระบุว่า แกงพะแนงเป็นแกงประเภทหนึ่งของไทยที่มีเนื้อสัมผัสเข้มข้น ใส่ถั่วลิสงที่มีรสเค็มหวาน และใส่เนื้อสัตว์ที่ตุ๋นกับวัตถุดิบอื่น ๆ อาทิ พริกแห้ง ใบมะกรูด กะทิ ผักชี ยี่หร่า กระเทียม ตะไคร้ และหอมแดง โดยเนื้อสัตว์ที่ใช้มักจะเป็นเนื้อวัว ไก่ และเป็ด โดยเว็บไซต์ยังอธิบายว่า คำว่า พะแนง แปลว่า กากบาท ซึ่งหมายถึงวิธีการเตรียมไก่แบบโบราณโดยการไขว้ขาไก่ และตั้งไก่ให้ตรง โดยสูตรแกงพะแนงที่เก่าแก่ที่สุดถูกพบในตำรากับข้าวของหม่อมซ่มจีน ในปี พ.ศ. 2433 (https://www.tasteatlas.com/best-rated-stews-in-the-world

เปิดดรามา 'ละมุนแบนด์' ปมเพลงงานการกุศลช่วยตุรเคีย ด้าน 'ต้าร์ สุรชัย' ประกาศไม่ร่วมงาน 'ปิงปอง ศิรศักดิ์' อีก

เคยรวมตัวกันในนาม 'ละมุนแบนด์' สำหรับ 3 นักร้องดัง จั๊ก-ชวิน จิตรสมบูรณ์, ปิงปอง-ศิรศักดิ์ อิทธิพลพาณิชย์ และ ต้าร์-สุรชัย วงษ์บัวขาว หรือ ต้าร์ มิสเตอร์ทีม ซึ่งต่อมา ปิงปอง ศิรศักดิ์ ได้ขอแยกตัวออกไป

แต่ล่าสุดไม่รู้ว่าเกิดการเข้าใจผิดอะไรขึ้น เมื่อ ต้าร์ มิสเตอร์ทีม โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กว่าตนไม่ได้นำเพลงที่เป็นของวงไปร้องเพื่อหารายได้เข้ากระเป๋าตัวเอง แต่เป็นการทำเพื่อการกุศลช่วยแผ่นดินไหวตุรเคีย งานนี้จึงเกิดการถกเถียงลามไปถึงปัญหาอื่นขึ้น

โดย ต้าร์ มิสเตอร์ทีม โพสต์ว่า "ไม่ได้เอาเพลงไปหากินนะครับ เอาไปร้องงานการกุศลช่วยแผ่นดินไหวตุรกี ไม่มีค่าตัว ผมเป็นคนอยากให้เล่นเพลงนั้นเองครับ เพราะเสียดายดนตรีและไลน์ประสาน แค่นั้นเองจริงๆ เพลงเราสองคนมีพอเล่นหนึ่งคอนเสิร์ตสบายครับ ผมพูดไม่บ่อยครับ ขอชี้แจงตรงนี้ทีเดียวนะครับ ฝากมิตรสหาย cop ไปให้พี่เค้าอ่านด้วยนะ เราว่านายมีปัญหาเรื่องคนให้ข่าวว่ะ ไม่รู้ว่าเค้าหวังดีหรือหวังร้ายกับนาย.."

จั๊ก ชวิน ก็ได้เข้ามาเสริมว่า "งานนี้การกุศลจริงๆครับ ผมขอโทษที่ไม่ได้ ขออนุญาตก่อน พวกผมไม่รับค่าตัวเลยซักบาทมันเป็นงานที่ไปช่วยกันจริงๆ แต่ต้องใช้เพลงที่ไม่ติดลิขสิทธิ์กับค่ายใหญ่ เพราะเขาคิดค่าลิขสิทธิ์เพลงละ 10,000 กว่าบาท ซึ่งเพลงที่เป็นลิขสิทธิ์ของค่ายใหญ่ ผมใช้เพลงเดียวครับ ส่วนเพลงอื่นเป็นเพลงที่เป็นลิขสิทธิ์ของผมเอง ส่วนเพลงที่ลุงเขียนเนื้อ "โดยผมแต่งทำนองเองนั้น" ผมนำมาใช้เพราะลุงอนุญาตแล้วนะครับ ส่วนงานที่เรามอบให้กันผมว่าเรารู้กันดีว่าเป็นยังไง ผมไม่ติดค้างอะไรใคร ส่วนใครจะอยู่กลุ่มไหนผมเชื่อว่าผมเป็นเพื่อนได้กับทุกคนครับ รักและคิดถึงนะครับ" พร้อมแนบภาพแชทครั้งที่ปิงปองพิมพ์ในกรุ้ปไลน์ของละมุนแบนด์ว่าได้ไปยุติสัญญากับทางต้นสังกัด แต่ทางต้าร์และจั๊กยังสามารถไปต่อในนามละมุนแบนด์และสามารถนำเพลงของวงไปร้องได้ตามปกติ

ด้าน ปิงปอง ก็ได้เข้ามาคอมเมนต์ตอกกลับว่า "กูก็ว่าก็ยังเคยส่งงานให้มึงนะจั๊กเพราะกูเชื่อว่ามึงไม่ใช่คนที่อยู่ในกลุ่มนั้น…ตอนอยู่ด้วยกัน กูว่ากูพยายามมากในการดึงมึงกลับขึ้นมาให้เป็นผู้เป็นคน จะได้กลับมามีงานอะนะ แต่การที่มึงเลือกคนที่พร้อมเมามันไปกับมึง(แถมด่ากูลับหลัง) แล้วมึงยังเป็นคนที่อยู่ในกลุ่มนั้นเสียเอง กูก็ไม่มีอะไรจะพูดอะนะ

จริงตามจั๊กว่า เราให้จริงๆ และเราก็ไม่ได้บอกว่าไม่ให้ใช้อะนะ เพราะถ้าไม่ให้ ก็จะไม่ได้มาคุยกันตรงนี้หรอก อยากใช้ผลงานในส่วนของเรา ใช้ได้เลยจั๊ก แค่จำไว้ว่าทุกครั้งที่มึงเล่นเพลงที่กูเขียน มึงกำลังร้องเพลงของคนที่มึงรวมหัวกับชาวบ้านด่าลับหลังกู ทั้งที่เค้าพยายามจะดึงชีวิตมึงให้กลับมาอยู่ในครรลองที่จะดีกับตัวมึงเองและครอบครัว"

ตำรวจรถไฟใต้ ปั๊มหัวใจผู้โดยสาร มีอาการ ‘ชักเกร็ง’ รอดตายหวุดหวิด

ชาวเน็ตชื่นชมตำรวจรถไฟใต้ ให้การช่วยชีวิตผู้โดยสารที่ล้มทั้งยืน หลังมีอาการชักเกร็ง และหยุดหายใจ ก่อนทำ CPR กู้ชีพจนรอดตายหวุดหวิด
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ชาวโซเชียลต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก หลังจากผู้ใช้ TikTok ชื่อ @railwaypolice.1952 ได้นำคลิปมาโพสต์ในโซเชียล ซึ่งเป็นคลิปขณะที่ตำรวจรถไฟ ให้การช่วยชีวิตผู้โดยสารชายคนหนึ่ง ที่ล้มทั้งยืน หลังมีอาการชักเกร็ง และหยุดหายใจ หลังจากที่คลิปนี้ถูกแชร์ออกไป ทำให้ชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็น และชื่นชมเป็นจำนวนมาก

ทางผู้สื่อข่าวจึงได้สอบถามไปยังพันตำรวจเอก จตุรวิทย์ คชน่วม รองผู้บังคับการตำรวจรถไฟ ในฐานะโฆษกตำรวจรถไฟ กล่าวถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นบริเวณชานชลาของสถานีรถไฟหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เมื่อช่วงเที่ยงวานนี้ 19 มี.ค.66) ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีผู้โดยสารเป็นจำนวนมาก ซึ่งตำรวจรถไฟที่อยู่ในคลิปดังกล่าวมีชื่อว่า ดาบตำรวจ ไพศาล แก้วมณี และดาบตำรวจ สราวุธ เกื้อสกุล ผู้บังคับหมู่ ตำรวจรถไฟหาดใหญ่ โดยมีพันตำรวจเอก วีรฤทธิ์ ดิษเจริญ ผู้กำกับการ3 กองบังคับการตำรวจรถไฟ เป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรง

โรงพยาบาลพญาไท 3 มอบกระเป๋ายาและเครื่องเวชภัณฑ์ทางการแพทย์แก่ ตำรวจจราจรในโครงการพระราชดำริ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลในรัชกาลที่ 9

วันที่ 20 มีนาคม 2566 เวลา 12.30.น. ที่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล
พล.ต.ต.จีรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. และโฆษก บชน. พ.ต.อ.สุกิจ อรุณฤกษ์ถวิล  รอง ผบก.จร.  พ.ต.ท.ไพฑูรย์ คตกฤษณ์ รอง ผกก.6 บก.จร. และเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรในโครงการพระราชดำริ  รับมอบกระเป๋ายา และเครื่องเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ ให้ ตำรวจจราจรในโครงการพระราชดำริ เพื่อนำไปใช้ช่วยเหลือประชาชนที่ประสพอุบัติเหตุบนท้องถนน อีกทั้ง ปฐมพยาบาลเบื้องต้นหญิงคลอดฉุกเฉินบนรถ ตามที่เป็นข่าวบ่อยครั้ง เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลในรัชกาลที่ 9 จากโรงพยาบาลพญาไท 3 โดยคุณศุภกร พะวันนา ผู้อำนวยการบริหารการตลาดเครือพญาไท - เปาโล คุณณัฐชานันท์ นิธิโชติวรภัทร์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดโรงพยาบาลพญาไท 3 และคณะ ณ ลานเอนกประสงค์กองบัญชาการตำรวจนครบาล.....

บิ๊กอู๊ด ลงพื้นที่ลุยค้นยาเสพติดและอาวุธปืนครั้งใหญ่กว่า 600 จุด ในพื้นที่ภูธรภาค 9 วันเดียวจับผู้ต้องหากว่า 200 คน สั่งขยายผลทลายเครือข่ายตัดเส้นทางการเงิน

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 20 มี.ค. ที่ ห้องประชุมชัยจินดา สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะ รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9 พล.ต.ต.นิตินัย หลังยาหน่าย รอง ผบช.ภ.9 พล.ต.ต.วรา เวชชาภินันท์ ผบก.ภ.จว.สงขลา พ.ต.อ.พิชัย กิระวาณิช รอง ผบก.ภ.จว.สงขลา พ.ต.อ.เธียรวิโรจน์  เชี่ยวชาญ รอง ผบก.อก.ภ.7 พ.ต.อ.ภัคพงศ์  สายอุบล รอง ผบก.วจ.สยศ.ตร. พ.ต.อ.จารุพันธ์  เสริมพงศ์ รอง ผบก.อฎ. พ.ต.อ.ภูมิ บาลทิพย์ ผกก.สภ.หาดใหญ่ ร่วมกันแถลงผลการติดตาม และเร่งรัดการปฏิบัติขับเคลื่อนการดำเนินการปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายเครือข่ายผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 (บช.ภ.9) โดยได้เข้าปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายจำนวน 319 เครือข่าย รวม 609 จุด ใน 7 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง เมื่อเช้าตรู่ของวันนี้

พล.ต.ท.สมพงษ์ กล่าวว่า การปฏิบัติการวันนี้สืบเนื่องจาก พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศอ.ปส.ตร. สั่งการให้กวาดล้างคดียาเสพติดในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่างหลังพบการแพร่ระบาดจำนวนมาก เช้าวันนี้ตนจึงได้เปิดปฏิบัติการตรวจค้นเป้าหมายยาเสพติดใน 7 จังหวัด ประกอบด้วยสงขลา ตรัง สตูล พัทลุง ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส รวม 609 จุด จากการตรวจค้นสามารถจับกุมได้ 227 คดี รวมผู้ต้องหา 235 คน ยึดของกลางเป็นยาเสพติด ประกอบด้วย ยาบ้า 320,829 เม็ดไอซ์ 4.75 กรัม เฮโรอีน 4.81 กรัม อาวุธปืน 29 กระบอก นอกจากนี้ยังตรวจยึดทรัพย์สินไว้ตรวจสอบ จำนวน 72 รายการ มูลค่าทรัพย์สิน รวม 17,446,723 บาท โดยเบื้องต้นได้สั่งการตำรวจภูธรภาค 9 ขยายผลการจับกุมเพื่อสาวให้ไปถึงตัวการรายใหญ่ต่อไป

พล.ต.ท.สมพงษ์ กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้ตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมาถึงวันที่ 15 มี.ค. ในพื้นที่ของตำรวจภูธรภาค 9 ได้มีการจับกุมเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญ ได้ 4 เครือข่าย ประกอบด้วย 1. เครือข่าย น.ส.สุภาพร หรือ สุ ฟักหมิด และนายพิชิต หรือ บิ๊ก บัวผุด (ในพื้นที่ จว.พัทลุง) 2. เครือข่าย นายนฎดล หรือ บ่าว เข็มนาค ( พื้นที่ จว.สงขลา ) 3. เครือข่าย นายวีรยุทธ หรือเล็ก ทส. (พื้นที่ จว.สงขลา ) และ 4. เครือข่าย นายมะตายูดิน หรือ แช เจ๊มะ (พื้นที่ จว.ยะลา ) ได้ผู้ต้องหารวมทั้ง 4 เครือข่าย รวม 18 คน ได้ของกลางยาบ้า 1,971,700 เม็ด ไอซ์ 30 กิโลกรัม ยึดทรัพย์สินทั้งหมด 14,274,500 บาท

ผบ.ตร.แสดงความเสียใจเหตุการณ์สายไหม ไม่ต้องการให้เกิดความสูญเสีย สั่งกำชับสำนวนคดี ตั้งคณะทำงาน รวบรวมหลักฐานทุกมิติ ให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย

เมื่อวันที่ 20 มี.ค.66 พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงเหตุการณ์ที่สายไหมว่า  “ทาง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.ได้แสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่มีผู้ใดอยากให้เกิดความสูญเสีย 


สำหรับสถานการณ์วันดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าไปปฏิบัติหน้าที่พร้อมกับทีมแพทย์ และนักจิตวิทยาของกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข มีการพูดคุยและประเมินอาการของผู้ก่อเหตุตลอดเวลา  เจ้าหน้าที่ได้ใช้ความพยายามทุกอย่าง เพื่อคลี่คลายสถานการณ์โดยไม่ต้องการให้เกิดความสูญเสีย

  
ซึ่งการดำเนินการควบคุมสถานการณ์ต้องใช้ความระมัดระวัง คำนึงถึงความปลอดภัยทั้งของผู้ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ที่ทำงาน และประชาชน จึงต้องระมัดระวังในการดำเนินการตามหลักยุทธวิธีอย่างดีที่สุด จะเห็นได้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยเกี่ยวข้อง เน้นการเจรจามาตลอด แต่เมื่อมีความจำเป็นต้องเข้าควบคุมสถานการณ์ ตำรวจได้ปฏิบัติตามหลักยุทธวิธี จนกระทั่งผู้ก่อเหตุได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา

กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 15 จับมือหน่วยงานภาคีเครือข่าย เปิดโครงการ 'ราษฎร์ รัฐ ร่วมใจ ช่วยภัยแล้ง' ประจำปี 2566 เตรียมพร้อมช่วยภัยแล้ง ในพื้นที่จังหวัดกระบี่

เมื่อ (17 มี.ค. 66) ,กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 15 /ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 15 จัดพิธีเปิดโครงการ “ราษฎร์ รัฐ ร่วมใจ ช่วยภัยแล้ง” ประจำปี 2566 โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ณ บริเวณศาลาโอฬาร ร.15 พัน.1 อ.คลองท่อม จ.กระบี่ โดยมีการปล่อยขบวนรถบรรทุกน้ำ ออกแจกจ่ายน้ำให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่รับผิดชอบของแต่ละหน่วยงาน รวมจำนวน 6 หน่วยงาน ทั้งนี้เพื่อสนองการปฏิบัติงานตามนโยบายของกองทัพบก ที่มุ่งเน้นการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่รับผิดชอบ ตามแผนการบรรเทาสาธารณภัยให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย เกิดการประสานสอดคล้องให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลเพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชน โดยมี นายกิตติพนธ์ วุฒิวงศ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกระบี่ เป็นประธานในพิธีเปิด

ด้วยปัจจุบันประเทศไทยได้เข้าสู่ห้วงฤดูร้อน และพบว่าได้เกิดสถานการณ์ภัยแล้งในหลายพื้นที่ทุกภูมิภาคของประเทศ รวมทั้งพื้นที่ภาคใต้ก็เริ่มมีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว ทั้งนี้เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการให้ความช่วยเหลือ และบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่จะประสบกับปัญหาขาดแคลนน้ำอุปโภค/บริโภค ในสถานการณ์ภัยแล้ง ซึ่งส่งผลกระทบมากขึ้นในหลายพื้นที่ โดยในทุกๆปีเมื่อเข้าสู่ฤดูร้อน สภาพอากาศของประเทศไทยนั้นจะมีอุณหภูมิสูงขึ้น ปริมาณน้ำเริ่มลดลง และฝนทิ้งช่วง เป็นเหตุให้สถานการณ์ภัยแล้งขยายวงกว้างมากขึ้น และส่งผลกระทบถึงด้านเกษตรกรรมอีกด้วย ตามนโยบายของศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบก ที่ให้ความสำคัญและมุ่งหวังในการแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนได้เบาบางลงจากความเดือดร้อน และผลกระทบในสถานการณ์ภัยแล้ง 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top