Wednesday, 9 July 2025
NEWS FEED

‘ผู้ว่าฯ ชัชชาติ’ สวนกลับ สก.พรรคเส้นด้าย ปมพูดแรงบอกคนในพื้นที่ตึกถล่ม “เสียชีวิตหมดแล้ว” ลั่นยังมีความหวังเสมอ

เมื่อวันที่ (2 เม.ย. 68) ที่อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เขตดินแดง ได้มีการประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมสามัญ สมัยที่สอง (ครั้งที่ 1) ประจำปี โดยมีวาระสำคัญเกี่ยวกับมาตรการรับมือสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ที่กำลังทวีความรุนแรง

ระหว่างการประชุม นายพีรพล กนกวลัย สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (สก.) เขตพญาไท พรรคเส้นด้าย ได้ตั้งกระทู้ถามสดถึงการเตรียมการรับมือของกรุงเทพมหานคร โดยระบุว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 1 มีนาคม 2568 มีรายงานผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สะสมกว่า 160,000 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเสี่ยง

“ทุกคนเป็นคนไทย ต้องดูแลทุกคนให้ได้รับวัคซีนครบถ้วน กลุ่มที่มีรายได้สามารถฉีดวัคซีนเองในราคา 600 – 1,200 บาท แต่ยังมีกลุ่มคนยากจนที่เสี่ยงสูงมาก จึงอยากทราบว่ากรุงเทพมหานครมีแผนช่วยเหลือพวกเขาอย่างไร” นายพีรพล กล่าว

ด้าน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ได้มอบหมายให้ น.ส.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าฯ กทม. เป็นผู้ตอบคำถามเกี่ยวกับมาตรการป้องกันโรค และแนวทางแจกจ่ายวัคซีนให้กับประชาชนกลุ่มเสี่ยง

อย่างไรก็ตาม ในช่วงท้ายของการอภิปราย นายพีรพลได้กล่าวทิ้งท้ายว่า “ท่านต้องดูแลประชาชนให้มากกว่านี้ ไม่ใช่เพียงแค่ตั้งศูนย์สาธารณสุขแล้วรอให้ประชาชนเดินทางไปหาเอง กลุ่มเสี่ยงเป็นคนไทย ต้องดูแลให้ได้รับวัคซีนก่อนที่พวกเขาจะเสียชีวิต”

คำพูดดังกล่าวทำให้ นายชัชชาติ ลุกขึ้นตอบกลับว่า “ขอความกรุณาอย่าใช้คำว่า ‘เสียชีวิตหมดแล้ว’ เพราะยังมีความหวัง ขอให้เชื่อว่าเรายังมีโอกาสช่วยเหลือผู้ป่วยและป้องกันการสูญเสีย ขออย่าใช้คำที่ทำให้หมดกำลังใจ เพราะญาติของผู้ป่วยยังมีความหวัง”

มินนี่ (G)I-DLE บริจาค 2.3 ล้านบาท ช่วยฟื้นฟูแผ่นดินไหวในไทย-เมียนมา

สำนักข่าวเกาหลี Star News รายงานว่า มินนี่ (G)I-DLE หรือ มินนี่ ณิชา ยนตรรักษ์ ศิลปินไทยชื่อดัง ได้บริจาคเงินจำนวน 100 ล้านวอน (ราว 2.3 ล้านบาท) เพื่อสนับสนุนการช่วยเหลือและฟื้นฟูความเสียหายจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นใน เมียนมาและประเทศไทย

แผ่นดินไหวดังกล่าวส่งผลกระทบรุนแรงต่อหลายพื้นที่ในเมียนมาและภาคเหนือของไทย มีประชาชนได้รับผลกระทบจำนวนมาก บ้านเรือนเสียหาย และความช่วยเหลือยังคงมีความจำเป็นอย่างเร่งด่วน

การบริจาคของ มินนี่ ได้รับเสียงชื่นชมอย่างมากจากแฟนๆ และประชาชนทั่วไป โดยเธอถือเป็นศิลปินที่ให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่เดบิวต์ในวงการบันเทิงเกาหลี โดยก่อนหน้านี้เธอได้ บริจาคเงิน 100 ล้านวอน ให้กับสภากาชาดเกาหลีเพื่อช่วยเหลือฟื้นฟูจาก เหตุไฟป่าครั้งใหญ่ในเกาหลี และยังเคย บริจาคเงิน 20 ล้านวอน ให้กับการฟื้นฟูจาก เหตุการณ์แผ่นดินไหวในตุรกี-ซีเรีย เมื่อปี 2023 อีกด้วย

ด้านแฟนคลับของมินนี่ ทั้งในไทยและต่างประเทศ ต่างร่วมกันแสดงความชื่นชมและขอบคุณในความมีน้ำใจของเธอ พร้อมติดแฮชแท็กสนับสนุนในโลกออนไลน์ #MINNIE #GIDLE #PrayForMyanmarAndThailand

ชุดปฏิบัติการสุดซอยลุยตรวจโรงงานผลิตเหล็ก ‘ซิน เคอ หยวน’ หวังไขปมเหล็กล็อตไหนถูกใช้สร้างอาคาร สตง. รอเฉลยภายใน 7 วัน

(2 เม.ย. 68) นางสาวฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมด้วยนายนนทิชัย ลิขิตาภรณ์ ผู้อำนวยการกองตรวจการมาตรฐาน 1 สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ได้เข้าตรวจสอบโรงงานผลิตเหล็ก บริษัท ซิน เคอ หยวน สตีล จำกัด ตั้งอยู่ที่ตำบลหนองละลอก อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง

โดยโรงงานผลิตเหล็ก บริษัท ซิน เคอ หยวน สตีล จำกัด ถูกสั่งให้ ปิดกิจการไปแล้วตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคม 2567 แต่ก็มีชาวบ้านในพื้นที่แจ้งว่า “ที่โรงงานยังมีคนเข้าออกอยู่เลย” ส่งผลให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ต้องบุกไปดูโรงงานซินเคอหยวน ให้เห็นกับตา 

การตรวจสอบดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่กระทรวงอุตสาหกรรมได้นำตัวอย่างเหล็กจากอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) มาตรวจสอบคุณภาพ และพบว่าเหล็กข้ออ้อยขนาด 20 มิลลิเมตร และ 32 มิลลิเมตร ไม่ได้มาตรฐาน จึงต้องเข้าตรวจสอบของกลางที่ถูกยึดอายัดไว้ตั้งแต่วันที่ 9 มกราคม จำนวน 2,441 ตัน มูลค่าราว 50.1 ล้านบาท

จุดแรกที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ คือ บริเวณโกดังเก็บเหล็กเส้นของกลางที่ถูกอายัด เพื่อตรวจสอบว่ามีการนำเหล็กออกไปจากที่เก็บหรือไม่ จากนั้นจุดที่สองคือโรงงานผลิตเหล็ก เพื่อดูว่ามีการเปิดเตาหลอมเหล็กดำเนินกิจการต่อหรือไม่

ก่อนเข้าตรวจสอบภายในโรงงาน หัวหน้าคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมได้พูดคุยกับตัวแทนบริษัท พร้อมทั้งตรวจสอบบิลค่าไฟของโรงงานในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยพบว่าก่อนถูกอายัด โรงงานแห่งนี้มีค่าไฟสูงถึง 130 ล้านบาทต่อเดือน ขณะที่ในเดือนมกราคม ค่าไฟลดลงเหลือ 1.2 ล้านบาท และในเดือนกุมภาพันธ์ ค่าไฟลดลงเหลือ 6.4 แสนบาท

นอกจากนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมยังได้ขอเอกสารบันทึกการขายเหล็ก เพื่อตรวจสอบว่าเหล็กล็อตใดถูกนำไปใช้ในการก่อสร้างอาคาร สตง. ซึ่งตัวแทนบริษัทเปิดเผยว่า บริษัทไม่ได้ขายเหล็กให้กับ สตง. โดยตรง แต่ขายผ่านบริษัทตัวกลางก่อนส่งต่อให้กับผู้รับเหมาที่ก่อสร้างอาคารดังกล่าวอีกทอดหนึ่ง

เบื้องต้น ตัวแทนบริษัทรับปากว่าจะจัดส่งข้อมูลเพิ่มเติมให้กับกระทรวงอุตสาหกรรมเพื่อตรวจสอบภายใน 7 วัน นับจากวันที่ 2 เมษายน 2568

สำหรับการเข้าตรวจสอบครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของมาตรการเฝ้าระวังและควบคุมมาตรฐานอุตสาหกรรมของภาครัฐ เพื่อป้องกันไม่ให้เหล็กไม่ได้มาตรฐานถูกนำไปใช้ในงานก่อสร้างที่อาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยในอนาคต

เชียงใหม่-ผบช.ภ.5 แถลงผลการปฏิบัติระดมกวาดล้างอาชญากรรม ในห้วงก่อนเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2568

(2 เม.ย. 68) ตำรวจภูธรภาค 5 ระดมกวาดล้างอาชญากรรม เป้าหมายผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน และสืบสวนจับกุมกุมบุคคลตามหมายจับในห้วงก่อนเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี พ.ศ.2568

วันอังคารที่ 1 เมษายน 2568 เวลา 13.00 น.พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5 เป็นประธานการแถลงผลการปฏิบัติระดมกวาดล้างอาชญากรรม เป้าหมายผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน และสืบสวนจับกุมกุมบุคคลตามหมายจับ ในห้วงก่อนเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี พ.ศ.2568 (ห้วงวันที่ 21-30 มี.ค.68) ดังนี้

1. การสืบสวนขยายผลปิดล้อมตรวจค้นเครือข่ายผู้ค้าอาวุธปืนออนไลน์ของ ภ.5 จำนวน  4 เครือข่าย
2. ผลการสืบสวนขยายผลการจับกุมผู้ค้าอาวุธปืนออนไลน์ 4 เครือข่าย ในพื้นที่ ภ.5 จับกุมจำนวน 28 ราย 27 คนขยายผลในพื้นที่ ภ.2 จับกุมจำนวน 2  ราย 2 คน รวม 30  ราย 29 คน ของกลาง 21 รายการ
3.ผลระดมกวาดล้างอาวุธปืน On Ground ในพื้นที่ ภ.5 จับกุมจำนวน 356 ราย 334 คน ของกลาง 6 รายการ
4. สรุปผลระดมกวาดล้างอาวุธปืน Online และ On Ground ในพื้นที่ ภ.5 จับกุมจำนวน 61 คน
5. ผลการจับกุมบุคคลตามหมายจับ ทั้งหมด 1,409 หมาย แบ่งเป็นหมายจับ ตร. จำนวน 1,026 หมาย แยกเป็นหมายใน ภ.5 จำนวน 964 หมาย / นอก บช. 57 หมาย / หมายนอก 383 หมาย

โดยมี พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย รอง ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.ยุทธนา แก่นจันทร์ ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่, พล.ต.ต.วรพงศ์ คำลือ ผบก.สส.ภ.5 และ ผกก.สภ.พื้นที่ ร่วมแถลงผลการจับกุม ณ ห้องประชุมพระพุทธประทานยศบารมี ชั้น 2 อาคารตำรวจภูธรภาค 5 อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่

สำนักงานตำรวจแห่งชาติจัดพิธีอุปสมบทหมู่ น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี 

(2 เม.ย. 68) พล.ต.ต.วรศักดิ์ พิสิษฐบรรณกร รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี วันที่ 2 เมษายน 2568 ทรงเจริญพระชนมายุ ครบ 70 พรรษา สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้โครงการอุปสมบทหมู่ข้าราชการตำรวจเฉลิมพระเกียรติฯ เพื่อน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายเป็นพระราชกุศล โดยวานนี้ เวลา 16.30 น. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มอบหมายให้ พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รอง ผบ.ตร. เป็นประธานในพิธีถวายราชสักการะ พิธีเจริญพระพุทธมนต์สมโภชนาค พิธีมอบบาตรและผ้าไตร และพิธีบรรพชาอุปสมบท ณ วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร

สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้จัดโครงการอุปสมบทหมู่ข้าราชการตำรวจเฉลิมพระเกียรติ น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายเป็นพระราชกุศลแด่ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ 2 เมษายน 2568 ระหว่างวันที่ 27 มีนาคม ถึงวันที่ 14 เมษายน 2568 รวมทั้งสิ้น 19 วัน โดยมีข้าราชการตำรวจเข้าร่วมโครงการ จำนวน 78 นาย ซึ่งหลังจากบรรพชาและอุปสมบทแล้ว วันที่ 3 – 13 เมษายน 2568 จะไปศึกษาพระปริยัติธรรมและปฏิบัติธรรม ณ ศาลาปฏิบัติธรรมเตชะอิทธิพร วัดโบสถ์ อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี เมื่อครบกำหนดโครงการมีพิธีลาสิกขาและแสดงตนเป็นพุทธมามกะ ในวันที่ 14 เมษายน 2568 ณ วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร ทั้งนี้ นับเป็นโอกาสมหามงคลที่สำคัญอีกวาระหนึ่งที่พสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่าจะได้แสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ด้วยการบำเพ็ญคุณงามความดีและปฏิบัติธรรมถวายเป็นพระราชกุศล และสืบทอดพระพุทธศาสนารักษาขนบธรรมเนียมประเพณี อันดีงามของไทย 

นาทีชีวิตแม่ช้างมือใหม่ของสวนนงนุชพัทยาตกลูกครั้งแรกเกือบไม่รอด เจ้าหน้าที่มีความพร้อมเลยช่วยชีวิตลูกช้างไว้ทัน

แม่ช้างชื่อพังมุกมีอาการเต้านมคัด มีน้ำนมไหลตลอดเวลาใกล้คลอดมาเป็นเวลา 4 วัน ซึ่งแม่ช้างมีอาการร้อง และอาละวาดเนื่องมาจากแม่ช้างที่ยังไม่เคยมีลูกมาก่อนและในเวลา 23.00 น.ของคืนวันที่ 21 มีนาคม 2568 แม่ช้างคลอดลูกด้วยความเจ็บปวดและดูหงุดหงิด ในขณะที่เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังช่วยดึงลูกช้างออกมาเพราะกลัวแม่ช้างจะเหยียบลูกตัวเอง จากนั้นช่วยกันเอาเมือกออกจากปากและงวง กระตุ้นการหายใจ ใช้ผ้าพยุงตัวให้ยืนขึ้น หลังจากนั้นนำลูกช้างคืนให้แม่ช้างอย่างปลอดภัย

ตามประเพณีของป้างช้างสวนนงนุช นายกัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุชพัทยา จัดพิธีรับขวัญช้างเพื่อตอนรับสมาชิกใหม่ได้นิมนต์พระครูเกษมกิตติโสภณ เจ้าคณะตำบลภูตาหลวง วัดสามัคคีบรรพตมาประกอบพิธี 

โดยพิธีคล้องพวงมาลัยและสายสิน ลงแป้งเจิมหน้าผากแม่ช้างและลูกช้างเพื่อความเป็นสิริมงคล
         
การจัดขบวนรับขวัญช้างประกอบไปด้วย ขบวนนางรำกว่า 50 คนและโขลงช้าง จำนวน 30 เชือก พร้อมกันนี้ท่านประสวนนงนุชพัทยา ตั้งชื่อให้น้องช้างว่า พังจุ๊บแจง นับเป็นช้างที่คลอดลำดับที่ 3 ของปีนี้ ปางช้างสวนนงนุชพัทยามีช้างในความดูแล 83 เชือก จึงถือได้ว่ามีความพร้อม และยังได้รับหนังสือรับรองมาตรฐานการปฏิบัติที่ดีสำหรับปางช้าง จากกรมปศุสัตว์และสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ เป็นแห่งแรกของประเทศไทย และทางป้างช้างสวนนงนุชพัทยาดีใจนาน ๆ ครั้งที่ได้ลูกช้าง 3เชือกภายใน 3 เดือน

ทายาท ‘รังสรรค์ ต่อสุวรรณ’ ออกมาชี้แจงกรณีนายหน้าขายตึก ‘สาทร ยูนีค’ ยืนยันยังไม่ได้ขายตึกในราคา 4 พันล้านบาท ตามที่เป็นข่าว

(2 เม.ย. 68) จากกรณีมีนายหน้ารายหนึ่ง โพสต์ข้อความว่า ปิดดีลขายตึก ‘ตึกสาทร ยูนีค’ ที่ร้างมานาน ได้แล้ว ซึ่งขายได้ในราคา 4 พันล้านบาท ก่อนที่โพสต์ดังกล่าวจะถูกลบออกไป สร้างความฉงนให้กับชาวเน็ตบนโลกโซเชียล

ล่าสุด เฟซบุ๊ก Tampote Torsuwan หรือคุณตามโพธ ต่อสุวรรณ ลูกของ อ.รังสรรค์ ต่อสุวรรณ เจ้าของตึกตัวจริง ออกมาโพสต์ถึงกรณีนี้ว่า คุณพ่อไม่ได้เป็นผู้ประกาศขายตึกสาทรยูนีคตามที่หลายคนเข้าใจผิดกัน

ตึกสาทรยูนีคนี้มีข้อพิพาทและคดีความมากมาย โดยผ่านกระบวนการทางกฎหมายที่มีลักษณะของการฉ้อฉล ซึ่งการยึดทรัพย์ภาคเอกชนถูกถ่ายโอนไปยังองค์กรข้ามชาติแล้วฟอกทรัพย์กลับมาเข้ามือกลุ่มทุนสามานที่มีอำนาจในประเทศนี้ อีกทั้งยังกล่าวถึงการต่อสู้ของคุณพ่อและคุณแม่ที่ยาวนานร่วม 30 ปีในการต่อสู้กับกระบวนการดังกล่าว

นอกจากนี้ หัวใจสำคัญที่หลายคนอาจไม่รู้ก็คือ ห้องชุดในตึกนี้ได้ถูกขายไปแล้วมากกว่า 90% ตั้งแต่เปิดขายเมื่อกว่า 30 ปีที่ผ่านมา และกลุ่มทุนสามานนี้ไม่ได้แค่ปล้น Developer เท่านั้น แต่ยังปล้นผู้ซื้อทุกคนผ่านการโอนถ่ายทรัพย์ไปมาเพื่อทำให้ตึกนี้กลายเป็นตึกเปล่าที่ไม่มีใครสามารถซื้อได้อย่างแท้จริง จนกลายเป็นตึกที่ดูเหมือนจะไม่มีเจ้าของแม้จะมีห้องชุดที่ขายไปแล้วมากมาย

สุดท้าย คุณตามโพธ ต่อสุวรรณ ได้เน้นย้ำว่าเรื่องราวการต่อสู้ของคุณพ่อและคุณแม่ยังคงดำเนินต่อไป และมั่นใจว่ามันจะดำเนินต่อไปตราบเท่าที่ทั้งสองยังมีชีวิตอยู่ “การประกาศขายไม่ได้มาจากคุณพ่อ และท่านไม่ได้ติดต่อพูดคุยกับใครเกี่ยวกับตึกนี้ในการขาย” เขากล่าว พร้อมกับเสริมว่า ช่วงระยะหลังคุณพ่อสุขภาพไม่ค่อยดี และท่านพักผ่อนเสียเป็นส่วนใหญ่

ทั้งนี้ ผู้โพสต์ได้ขอให้ชาวเน็ตที่รับข่าวสารนี้ใช้วิจารณญาณในการเสพข่าวและเข้าใจสถานการณ์อย่างละเอียด โดยเฉพาะกับตึกที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 30 ปี หากปัญหาตึกนี้มันสามารถจบได้ง่ายๆ คงไม่กลายเป็น “อนุสาวรีย์ต้มยำกุ้ง” มานานขนาดนี้

นักวิชาการด้านแผ่นดินไหว ชี้ เหตุอาคาร สตง.ถล่ม ไม่ได้เป็นเพราะสาเหตุทางวิศวกรรมอย่างเดียว

(2 เม.ย. 68) ดร.ไพบูลย์ นวลนิล นักวิชาการด้านแผ่นดินไหว โพสต์เฟซบุ๊ก Namom Thoongpoh ถึงกรณีอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่ที่กำลังก่อสร้างถล่ม ว่า “สาเหตุอาคาร สตง. ถล่ม ไม่ได้เป็นเพราะเหตุทางวิศวกรรมอย่างเดียว แต่เป็นเพราะต้นกำเนิดแผ่นดินไหวที่มีแนวพังทลายซูเปอร์เชียด้วยนะครับ”

สมุทรปราการ- 'พระครูแจ้' จัดพิธีบรรพชาอุปสมบทหมู่เฉลิมพระเกียรติ 70 พรรษา ถวายเป็นพระราชกุศล กรมสมเด็จพระเทพฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 1 เมษายน 2568 ท่านพระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ (พระครูแจ้) ดร. เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง ประธานดำเนินการ จัดโครงการบรรพชาอุปสมบทหมู่เพื่อเฉลิมพระเกียรติ 70 พรรษา ถวายเป็นพระราชกุศล แด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ณ วัดบางพลีใหญ่กลาง ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี สมุทรปราการ

โดยในปี 2568 นี้ มีผู้ขออุปสมบทบวชเป็นพระภิกษุ จำนวน 19 องค์ ซึ่งทางวัดบางพลีใหญ่กลางได้เป็นเจ้าภาพในการบรรพชาอุุุปสมบทหมู่เฉลิมพระเกียรติกรมสมเด็จพระเทพฯ ตลอดทุกปี มีหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการตำรวจ นักธุรกิจ และประชาชนเข้าร่วมบรรพชาอุปสมบทหมู่ในครั้งนี้ โดยมี นายขจิตเวช แก้วน้อย นายอำเภอบางพลี เป็นนาคเอก และนายเลิศศักดิ์ เลิศอริยานันท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อริยะอีควิปเม้นท์ จำกัด เป็นนาคโท  

จากนั้น คณะเจ้าหน้าที่แพทย์พยาบาลและประชาชนจำนวนมากได้ร่วมกันโห่ร้องแห่นาครอบอุโบสถ จำนวน 3 รอบ ก่อนนำนาคเข้าพิธีบรรพชาอุปสมบทเป็นพระภิกษุสงฆ์ โดยได้รับความเมตตาจาก พระธรรมสุธี ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 1 เจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง พระอารามหลวง เป็นพระอุปัชฌาย์ 

ทั้งนี้ นายฉะโอด รุ่งเรือง ที่ปรึกษานายก อบจ.สมุทรปราการ พร้อมด้วย ดร.วีร์สุดา รุ่งเรือง นายก (อบต.) ตำบลบางพลีใหญ่ ตลอดจน ข้าราชการตำรวจ สภ.บางพลี ไวยาวัจกร ตัวแทนสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา เขต 2 สมุทรปราการ สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดสมุทรปราการ ผอ.โรงพยาบาลสมุทรปราการ คณะแพทย์ พยาบาลโรงพยาบาลบางพลี โรงพยาบาลบางจาก และเครือญาติตลอดจนประชาชนเข้าร่วมพิธีกันอย่างเนื่องแน่น

กฟผ. – มูลนิธินายช่างไทยฯ เตรียมนำทีมวิศวกรลงพื้นที่ ตรวจสอบโครงสร้างอาคารโรงเรียน สพฐ. หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว

(1 เม.ย. 68) กฟผ. จับมือ มูลนิธินายช่างไทย ใจอาสา จัดอบรมความพร้อมวิศวกรและช่างอาสา กฟผ. ก่อนเริ่มลงพื้นที่ 4 – 5 เมษายน 2568 นี้ เพื่อตรวจสอบโครงสร้างอาคารโรงเรียน สพฐ. ที่ได้รับผลกระทบเบื้องต้น 130 โรงเรียนในพื้นที่ กรุงเทพฯ ปริมณฑล และสมุทรสงคราม หวังฟื้นฟูอาคารเรียนที่ได้รับผลกระทบให้เร็วที่สุด

นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ในฐานะประธานมูลนิธินายช่างไทย ใจอาสา เผยว่า จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวใหญ่ศูนย์กลางประเทศเมียนมา ส่งผลให้อาคารบ้านเรือนในหลายพื้นที่ของไทยได้รับความเสียหาย ประชาชนได้รับผลกระทบเป็นจำนวนมาก รวมทั้งโรงเรียนภายใต้การดูแลของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กฟผ. จึงร่วมกับมูลนิธินายช่างไทย ใจอาสา เตรียมนำทีมวิศวกรและช่างอาสา กฟผ. กว่า 200 คน ลงพื้นที่ตรวจสอบโครงสร้างอาคารเรียนของ สพฐ. เบื้องต้น จำนวน 130 โรงเรียน ใน 7 พื้นที่ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม และนครปฐม ระหว่างวันที่ 4 - 5 เมษายน 2568 นี้ หวังฟื้นฟูเพื่อให้ครู นักเรียนกลับเข้าเรียนและสอบได้โดยเร็วที่สุด

ทั้งนี้ กฟผ. และมูลนิธินายช่างไทย ใจอาสา เตรียมจัดอบรม “แนวทางการตรวจสอบอาคาร หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว เพื่อเตรียมพร้อมก่อนลงพื้นที่ตรวจสอบโรงรียนในสังกัด สพฐ.” ให้กับทีมวิศวกรและช่างอาสา กฟผ. โดยทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญจากมูลนิธินายช่างไทย ใจอาสา ศาสตราจารย์ ดร.อมร พิมานมาศ นายกสมาคมวิศวกรโครงสร้างแห่งประเทศไทย และนายวสวัตติ์ กฤษศิริธีรภาคย์ เลขาธิการมูลนิธินายช่างไทย ใจอาสา และอดีตนายกสมาคมผู้ตรวจสอบอาคาร เพื่อให้วิศวกรและช่างอาสา กฟผ. ทุกคน ได้รับความรู้ ความเข้าใจมากยิ่งขึ้น และสามารถตรวจสอบสภาพอาคารที่ผ่านเหตุการณ์แผ่นดินไหวได้อย่างถูกต้อง ในวันพุธที่ 2 เมษายน 2568 ณ ห้องออดิทอเรียม ชั้น 3 อาคาร 50 ปี กฟผ. สำนักงานใหญ่ กฟผ. อ.บางกรวย จ.นนทบุรี 

“กฟผ. ขอขอบคุณ วิศวกร และช่างอาสา ทุกท่านที่ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบโครงสร้างอาคารโรงเรียน สพฐ. ในครั้งนี้ และ กฟผ. ขอร่วมเป็นอีกหนึ่งกำลังใจ เคียงข้างคนไทยทุกวิกฤต” นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ ผู้ว่าการ กฟผ. กล่าว


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top