Wednesday, 2 July 2025
NEWS FEED

'นฤมล' มอบถุงปันสุข สร้างขวัญกำลังใจพนักงานจ้างเหมาบริการ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน

รมช.แรงงาน มอบ “ถุงปันสุข กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เนื่องในวันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2564” บรรเทาความเดือดร้อนช่วงโควิด-19 แก่พนักงานจ้างเหมาบริการ กพร. รวม 47 คน 

ศาสตราจารย์ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานมอบถุงปันสุข กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เนื่องในวันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2564 ให้แก่พนักงานจ้างเหมาบริการ ประกอบด้วย พนักงานรักษาความปลอดภัย พนักงานทำความสะอาด คนขับรถ และคนสวนที่ปฏิบัติหน้าที่ ณ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) กระทรวงแรงงาน รวม 47 คน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่พนักงานในช่วงการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) สำหรับถุงปันสุขได้บรรจุเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตประจำวัน ประกอบด้วย ข้าวสาร ปลากระป๋อง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ไข่ไก่ รวมไปถึงอุปกรณ์จำเป็นเพื่อการป้องกันตนเองจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ประกอบด้วย หน้ากากอนามัย และสเปรย์แอลกอฮอล์ เพื่อเป็นประโยชน์ในช่วงที่สถานการณ์ยังต้องเฝ้าระวัง

ศาสตราจารย์ นฤมล กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในปัจจุบัน จะเห็นว่าทุกคนต่างได้รับผลกระทบในรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป ซึ่ง กพร. ได้รวบรวมเงินจากกลุ่มของข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน นำไปซื้อของอุปโภคบริโภค ปันน้ำใจแก่พนักงานจ้างเหมาบริการที่ปฏิบัติหน้าที่ประจำ กพร. เพื่อร่วมบรรเทาค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิต พร้อมจัดหาวัสดุอุปกรณ์ป้องกันโควิด-19 ในเบื้องต้น ซึ่งต้องขอบคุณผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายที่ได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือซึ่งกันและกันในยามที่เกิดความเดือดร้อน ทำให้เห็นว่าคนไทยมีน้ำใจไม่ทอดทิ้งกัน พร้อมให้คามช่วยเหลือกันอยู่เสมอ

“แม้ว่าในขณะนี้ยังไม่มีใครรู้ได้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 จะจบลงเมื่อไหร่ แต่สิ่งที่สัมผัสได้คือน้ำใจจากผู้ให้ที่ได้ส่งต่อเพื่อคลายทุกข์แก่ผู้รับ และขอเป็นกำลังใจให้ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ รวมถึงบุคลากรทุกคนในการปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ แล้วเราจะผ่านวิกฤติในครั้งนี้ไปด้วยกัน” รมช.แรงงาน กล่าวทิ้งท้าย

อู่ฮั่นปฏิบัติกการปูพรมตรวจหาเชื้อรับมือสายพันธุ์เดลตา 11 ล้านคน เสร็จสิ้นภายใน 5 วัน

เมื่อวันอาทิตย์ (8 ส.ค.) หลี่เทา รองเลขาธิการประจำรัฐบาลเทศบาลนครอู่ฮั่น เมืองเอกของมณฑลหูเป่ยทางตอนกลางของจีน แถลงข่าวว่าอู่ฮั่นเสร็จสิ้นการทดสอบกรดนิวคลีอิกอย่างครอบคลุมทั่วเมืองภายในเวลา 5 วัน เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ระลอกล่าสุด

หลี่กล่าวว่ามีผู้อยู่อาศัยมากกว่า 11.28 ล้านคน เข้ารับการทดสอบกรดนิวคลีอิกระหว่างการตรวจโรคโควิด-19 ทั่วเมืองที่เริ่มขึ้นเมื่อวันอังคาร (3 ส.ค.) ซึ่งหมายความว่าอู่ฮั่นดำเนินการตรวจโรคโควิด-19 ครอบคลุมผู้อยู่อาศัยทุกคนโดยทั่วไปแล้ว ยกเว้นเด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี และนักศึกษาที่ปิดภาคเรียนช่วงฤดูร้อน

อู่ฮั่นดำเนินการทดสอบกรดนิวคลีอิกขนานใหญ่หลังมีรายงานผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่ติดเชื้อในท้องถิ่นในหมู่แรงงานต่างถิ่นเมื่อวันจันทร์ (2 ส.ค.) โดยหากนับถึงวันเสาร์ (7 ส.ค.) อู่ฮั่นตรวจพบผู้ป่วยที่ติดเชื้อในท้องถิ่นรวม 37 ราย และผู้ป่วยที่ติดเชื้อในท้องถิ่นแบบไม่แสดงอาการ 41 ราย ท่ามกลางการระบาดระลอกล่าสุด

เผิงโฮ่วเผิง รองหัวหน้าคณะกรรมการสุขภาพเทศบาลนครอู่ฮั่น กล่าวว่ามีการตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 จำนวน 9 ราย จากการตรวจคัดกรองขนานใหญ่ของชุมชนที่อยู่อาศัยภายใต้การบริหารจัดการแบบปิด ขณะเดียวกันตรวจพบผู้ป่วยรายอื่นในกลุ่มผู้มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดที่อยู่ระหว่างกักตัว

เฉินเสี่ยวผิง นักวิชาการจากสถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์จีน กล่าวว่าผลการทดสอบกรดนิวคลีอิกทั่วเมืองของอู่ฮั่นบ่งชี้ว่าการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกล่าสุดในอู่ฮั่นไม่ได้ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดในวงกว้าง โดยการทดสอบกรดนิวคลีอิกขนานใหญ่ช่วยยับยั้งการแพร่ระบาดในระยะเวลาอันสั้นที่สุดและรับรองความปลอดภัยของประชาชน

รัฐบาลเทศบาลนครอู่ฮั่นระบุว่ามีการติดตั้งจุดเก็บตัวอย่างสารคัดหลั่งมากกว่า 2,800 แห่ง รวมถึงระดมบุคลากรทางการแพทย์มากกว่า 28,000 คน สำหรับการตรวจโรคขนานใหญ่ครั้งนี้

ทั้งนี้ อู่ฮั่น ซึ่งเคยได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เมื่อต้นปี 2020 เป็นเมืองใหญ่แห่งแรกของโลกที่เสร็จสิ้นการทดสอบกรดนิวคลีอิกอย่างครอบคลุมในปีก่อน โดยตรวจโรคให้ผู้อยู่อาศัยเกือบ 10 ล้านคนภายใน 19 วัน ระหว่างเกิดการแพร่ระบาดหนัก และไม่มีรายงานผู้ป่วยที่ติดเชื้อในท้องถิ่นมานานกว่า 1 ปี


https://www.facebook.com/1660335044182511/posts/3012298802319455/


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

'ดร.สันต์' ชี้ การแพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์เดลตาภายในประเทศ ถึงระดับสูงสุด และเริ่มเข้าสู่ขาลงแล้ว แต่อย่าได้ลืมความเจ็บปวดที่ผ่านมา

ดร.สันต์ ศรีอรรฆ์ธำรง อาจารย์พิเศษคณะบริหารการพัฒนาสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊ก เกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์เดลตาภายในประเทศ ระบุว่า ถึงระดับสูงสุดแล้ว และเริ่มเข้าสู่ขาลงแล้ว ข้อความทั้งหมดมีดังนี้

Covid-19 : Good News : Delta Wave#4 ข่าวดีครั้งที่ 1 เรากำลังอยู่ที่จุด Summit และเริ่มเข้าสู่ขาลงครับ สิ่งที่ต้องระวังและระลึกไว้เพื่อเดินลงอย่างปลอดภัย

ได้เวลาปักธงที่ยอดเขา จดจำช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์ที่เจ็บปวด แล้วก้าวเดินลงอย่างระมัดระวังไปด้วยกันครับ...และต้องย้ำแรง ๆ ครับว่า อย่าประมาทโดยเด็ดขาด...เพราะขาลงยอดคนติดเชื้อและคนตาย จะยังมากกว่าขาขึ้นนะครับ

มันคือกฎธรรมชาตินะครับ การปีนยอดเขาสูงนั้น เราปีนขึ้นมาเท่าไหร่ ก็ต้องปีนลงเท่านั้น และเราจะต้องเดินผ่าน Death Zone ลงไปด้วยความอ่อนล้ากว่าเดิม และ Oxygen และเสบียงที่เหลือน้อยเต็มที

ตัวเลขและกราฟประเทศไทย:

ตัวเลขช่วง 7 วันที่ผ่านมา เพียงพอจะยืนยันได้แล้วครับว่า เรากำลังอยู่ที่จุดยอดของการระบาดรอบนี้ และจากนี้ไปควรจะเริ่มเห็นขาลงครับ กราฟ %Increase ประเทศไทย ของ Wave#3+4 ได้ผ่านจุดสูงสุดมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันสูงสุดควรจะถึงค่ายอดในสัปดาห์นี้ จากนั้นก็จะเป็นการขาลง ผมทำกราฟ 7-days Moving Average ของ %Increase มาให้ดูครับเป็นเส้นประสีชมพู กราฟขึ้นที่จุดสูงสุดที่ 3.35% เมื่อวันที่ 1 ส.ค. จากนั้นก็ลดลงมาเรื่อย ๆ วันนี้อยู่ที่ 3.05% และค่า %Increase จริงรายวันลดลงต่ำกว่าค่า 7-days Moving Average มาหลายวันแล้ว การพลิกกลับนี้คือสัญญาณที่ชัดเจนของขาลงครับ แต่ตัวเลขจะลงเร็วแค่ไหน ขอดูอีกประมาณ 1 สัปดาห์ถึงจะชัดครับ

ตัวเลขและกราฟกทม:

หลังจากที่ %Increase ในกทม.ติดอยู่ที่ %5 Trap มาพักใหญ่ ตอนนี้เริ่มเห็นสัญญาญการหลุดลงมาสู่ระดับ 3% และถ้ามาตรการเข้มงวดเพียงพอ การระดมตรวจเชิงรุกและแยกผู้ติดเชื้อในชุมชนทำได้มากเพียงพอ ผมคิดว่ามีโอกาสที่เราจะรักษา Momentum นี้เอาไว้ได้ ตอนนี้แพทย์ชนบทจำนวนมาก ได้ระดมทัพเข้ามาช่วยคนกรุงฯ ยึดเมืองหลวงคืนแล้วนะครับ ต้องช่วยกันครับ มีโอกาสสำเร็จสูงครับ

สิ่งที่จะเป็นไป สิ่งที่ยังเป็นไปได้และเป็นไปไม่ได้แล้ว :

1.) สัปดาห์นี้ยังมีโอกาสเห็น New High ของผู้ติดเชื้อรายวัน แต่สัปดาห์หน้าควรจะต้องลดลงครับ

2.) ผู้เสียชีวิตรายวันสูงสุดจะ Delay จากผู้ติดเชื้อสูงสุด 1-2 สัปดาห์ สัปดาห์หน้าอาจจะเห็น Peak ที่ 250 - 300 คนต่อวัน เราเลี่ยงสิ่งนี้ไม่ได้ครับ

3.) ผู้ติดเชื้อสะสมจะเกิน 1,000,000 คนอย่างแน่นอน และแนวรับต่อไปที่เราต้องยันเอาไว้ให้ได้คือ 1,500,000 ครับ Wave#4 เราเริ่มจากตัวเลข 200,000 วันนี้เกือบ 800,000 เป็นขาขึ้นมา 6 แสน ขาลงก็จะต้องไม่น้อยกว่านี้ บวกกันเข้าไปก็คือ เราทำดีที่สุดก็จะยังมีผู้ติดเชื้อระดับ 1,400,000 เราไม่มีทางเอาชนะกฎทางฟิสิกส์นี้ได้ ต้องทำใจและต่อสู้เพื่อไม่ให้มันแย่ไปกว่านี้เท่านั้นครับ

4.) ผู้เสียชีวิตสะสมจะเกิน 10,000 คนอย่างแน่นอน Wave#4 เราเริ่มจากตัวเลข 2,000 วันนี้เกือบ 6,500 เป็นขาขึ้นมา 4,500 ขาลงก็จะไม่น้อยกว่านี้ และโดยทั่วไปจะมากกว่าด้วยครับสำหรับการเสียชีวิต ดังนั้นแม้เราจะทำดีที่สุดก็จะยังมีผู้เสียชีวิตระดับมากกว่า 6500 + 4500 = 11,000 เราไม่มีทางเอาชนะกฎทางฟิสิกส์นี้ได้เช่นกันครับ

5.) เรายังอาจมีเดือนตุลาคมที่ดีได้ และเปิดเศรษฐกิจในวันที่ 1 พ.ย. ได้ แม้เราจะฉีดวัคซีนช้าไปครึ่งนึง Lockdown ก็ไม่ค่อยเข้มงวด แต่ถ้ารักษา Momentum นี้ได้ ยังมีโอกาสครับ ขอเพียงแค่ศบค.อย่าไปใจอ่อนผ่อนผันอะไรก่อนที่สถานการณ์จะดีเพียงพอเท่านั้น

6.) จะมีคนตายอีกอย่างน้อย 4,500 คน ที่เราเลี่ยงไม่ได้ในภาพใหญ่ แต่พวกเราทุกคนยังมีทางเลือกได้เสมอที่จะไม่เป็นหนึ่งในนั้น ด้วยวินัย ความเข้มงวด และการไปฉีดวัคซีน ยี่ห้อไหนก็ได้ครับ เมื่อมีโอกาส ป้องกันชีวิตได้ครับ

สิ่งที่ต้องทำ:

1.) จัด Pfizer เข็ม 3 ให้บุคคลากรด่านหน้า ขาลงยังอีกยาวไกล เราต้องปกป้องรักษาพวกเขาเอาไว้ให้ได้ครับ เพื่อน ๆ พี่น้องที่เคยเป็น VIP ได้ Sinovac, AZ ก่อนบุคคลากรทางการแพทย์มาแล้ว รอบนี้เข็ม 3 ผมต้องขอเลยว่า ถ้าจะได้มา สละสิทธิ์ไปเถอะครับ มันเป็นเรื่องที่ "น่าละอาย" เกินไปที่เราจะมีชีวิตรอด โดยไปปล้นเอามาจากคนที่เขาเสียสละอยู่ในสนามรบแนวหน้า ถ้าเราคือ Elite คือ VIP เราก็ต้องรักษาเกียรติแห่งชนชั้นของเรา อย่าให้โลกได้ดูแคลนเยี่ยงอาชญากรสงครามเลยครับ การปล้นในภาวะสงครามคือสิ่งที่น่าละอายใจที่สุดครับ

2.) รัฐบาล ศบค. ขอความกรุณาอย่าผ่อนผันอะไรก่อนที่จะเห็น %Increase ลดลงเหลือ 0.1% ซึ่งอาจจะเป็นช่วงปลายเดือนก.ย.หรือต้น ต.ค. ครับ ไม่งั้นกระดอนแน่นอน เราฉีควัคซีนไม่ทันแน่ ๆ ครับ

3.) ประชาชน ต้องไปฉีดวัคซีน ไม่ว่าจะยี่ห้อไหน มีประโยชน์ทั้งสิ้นครับ และฉีดแล้วก็ห้ามประมาท เพราะจะเอา Delta อยู่ต้อง AZ 2 เข็ม, mRNA 2 เข็ม, Sinovac 2 เข็ม + AZ หรือ mRNA อีก 1 เข็ม, Sinopharm 2 เข็ม + AZ หรือ mRNA อีก 1 เข็ม และแม้กระนั้นก็ไม่ 100% นะครับ ขึ้นกับต้นทุนสุขภาพแต่ละคนด้วย แต่ถ้าได้ฉีดตามนี้ โอกาสรอดสูงมากครับ

4.) ภาครัฐจะต้องจัดหาวัคซีนมาให้มากกว่านี้ โดยเฉพาะ mRNA มันคือวิธีเดียวที่จะจบสงครามนี้อย่างเด็ดขาด เราทุกคนจำเป็นต้องมีเข็ม 3 ครับ (คิดในใจกันว่าส่วนใหญ่ 1+2 ยังไม่ได้กันเลยเนอะ)

5.) ภาคอุตสาหกรรม ต้องตั้งใจควบคุมโรคให้มากกว่านี้ และการนำแรงงานเถื่อนเข้ามา ควรจะหยุดได้แล้ว ครั้งนี้เจ็บกันหนักโดยทั่วหน้า น่าจะเป็นบทเรียนกับทุกฝ่ายว่า การควบคุมโรคถ้าล้มเหลว การผลิตไม่มีทางไปได้ดีครับ

6.) ภาคบริการ ขอให้สู้และอดทน ถ้าทุกคนตั้งใจช่วยกัน ปลายต.ค.จะกลับมาเริ่มดำเนินธุรกิจได้แล้ว และพ.ย. ธ.ค. ยันปีใหม่ ผมว่าเรามีโอกาสกลับมาเต็มร้อยครับ

7.) กทม.ยังห่างไกลคำว่าปลอดภัยมากนะครับ ขอให้ช่วยกันทุกฝ่าย และพวกเราต้องขอบคุณกองหนุนจากต่างจังหวัดมาก ๆ ถ้าไม่มีกองหนุนจากหัวเมือง เราไม่มีทางกอบกู้พระนครได้อย่างแน่นอนครับ

8.) เราควรลดธงลงครึ่งเสาในวันที่ผู้เสียชีวิตถึง 10,000 คน ซึ่งจะเกิดขึ้นในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ตัวเลขนี้มากกว่าทหารไทยที่เสียชีวิตช่วง WW2 เราจะทำสิ่งนี้เพื่อระลึกถึงและจดจำพวกเขาตลอดไป นี่คือความสูญเสียที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์ไทยยุคใหม่

เราสู้กันมานานมากแล้วนะครับ และมันมาถึงจุดสูงสุดของสงครามแล้ว และมันใกล้จบ สู้ครับ อย่าตาย อย่าเพิ่งยอมแพ้ มาถึงจุด Summit แล้ว ปักธงบันทึกความทรงจำไว้ แล้วก้าวเดินลงไปด้วยกันครับ เราจะไม่ปลอดภัยเลยจนกว่าจะถึงเชิงเขา ขออย่าได้ประมาทโดยเด็ดขาดนะครับ แล้วเจอกันข้างล่างทุกคนครับ


ที่มา : https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=6257932684247399&id=100000921874426&sfnsn=mo


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

แพทย์โรงพยาบาลรามาธิบดี โพสต์ โดนผู้ป่วยหลอกยังไม่ได้ยาฟาวิพิราเวียร์ หวังเอาไปขายต่อ พบก่อเหตุแล้วหลายราย วอนหยุดพฤติกรรมดังกล่าว เหตุทำให้ต้องตรวจสอบเข้มงวดขึ้น ส่งผลการทำงานและทุกอย่างล่าช้า

นายแพทย์สุรเวช น้ำหอม คณะแพทย์ศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Dr.Surawej Numhom นายแพทย์สุรเวช น้ำหอม ระบุว่า

#เพราะการรักษาโควิดการได้ยาFavipiravirเร็วนั้นสำคัญมาก

ในตอนนี้การรับมือกับการระบาดของโควิดในกรุงเทพ เราไม่มีเตียงจะให้คนไข้ทุกคนรักษาในโรงพยาบาลแล้ว การรักษาแบบ Home isolation จึงสำคัญมาก ในเวลาที่คนไข้ติดเชื้อมากมายในแต่ละวัน ทีมแพทย์และเภสัชพยายามจะรีบส่งยา Favipiravir ให้เร็วที่สุดเพื่อให้คนไข้ได้ยาทานก่อนที่อาการจะเป็นมาก ซึ่งแน่นอนว่าการพยายามส่งให้เร็วและจำนวนมาก การตรวจสอบก็จะไม่ได้มีขั้นตอนที่ละเอียดหรือซับซ้อนมากเพื่อความรวดเร็ว และในเวลานี้เรายังส่งยาได้ไม่เร็วพอเลยด้วยซ้ำ

#ตอนนี้มีคนไข้ที่ได้ยาไปแล้วกลับบอกว่าไม่ได้

แต่ในความพยายามที่จะทำให้เร็ว ก็มีคนไข้บางคนที่ได้ยาไปแล้วกลับบอกว่ายังไม่ได้ เพื่อจะให้ทีมแพทย์ส่งยา Favipiravir ไปให้อีกครั้ง จุดประสงค์เพื่อนำยาไปขายต่อ เพราะตอนนี้ราคายา Favipiravir ในตลาดมืดมีราคาสูงมาก เพราะคนกลัวว่าหากการระบาดยังมากขนาดนี้ ยาอาจจะมีไม่พอ จึงมีความต้องการยา Favipiravir มากและแน่นอนว่าการนำไปขายแบบนี้จะมีคนซื้อทันที

#หากเราต้องสร้างระบบตรวจสอบหลายขั้นทุกอย่างจะยิ่งช้า

ดังนั้นหากมีเหตุการณ์ที่คนไข้ได้ยาแล้วแต่บอกว่ายังไม่ได้ เช่นตอนนี้ก็สามารถจับได้หลายเคสแล้วที่ทำแบบนี้ และหากมีมากขึ้นเรื่อย ๆ ก็จะทำให้เกิดความระแวงว่ายาจะรั่วไหล จะทำให้ต้องมีระบบการตรวจสอบที่เข้มข้นขึ้น ซึ่งก็จะเพิ่มทั้งเวลาในการตรวจสอบและต้อง double check ทุกครั้งที่คนไข้บอกว่าไม่ได้ยา ซึ่งจะทำให้คนไข้ที่ไม่ได้ยาจริงยิ่งได้รับช้าขึ้นไปอีก

#เราได้ยาแล้วแต่ยังมีคนอื่นที่ยังไม่ได้ยาอีกมาก

จึงต้องขอว่าในเวลาที่วิกฤติแบบนี้ ทุกคนเดือดร้อนและลำบากกันหมด แค่ส่งยา Favipiravir ให้ถึงมือคนไข้ทุกคนให้ทันเวลาก็ยากแล้ว หากคนไข้ท่านใดที่แจ้งว่าไม่ได้ยาแล้วเราต้องมาตรวจสอบก่อนว่ามีหลักฐานการได้ยาไปแล้วหรือยัง ก็ต้องใช้เวลา ต้องสร้างระบบตรวจสอบ ต้องเพิ่มขั้นตอนในการทำงาน ซึ่งสุดท้ายทุกอย่างก็จะล้าช้าไปหมด

ระบบราชการช้าและซ้ำซ้อนด้วยตัวเองอยู่แล้ว อย่าทำให้ช้าเพราะเห็นแก่ผลประโยชน์ของตัวเองเลย เวลานี้คนไข้และทีมแพทย์และทีมรักษาต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เพื่อให้เรารักษาคนให้ได้มากที่สุดและเร็วที่สุด เพราะเราจะต้องรอดไปด้วยกันจากวิกฤติครั้งนี้นะครับ


ที่มา : https://www.facebook.com/drsurawejrama/posts/4247879321968967?_trms=8b8b1fea5e570489.1628646891627


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ร.15 พัน.1 ช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกร ที่ได้รับผลกระทบจากราคาผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำ

พ.อ.ธนพล นุ้ยสุข ผบ.ร.15 พัน.1 จัดกำลังพลลงพื้นที่รับซื้อผลผลิตทางการเกษตร ของเกษตรกรชาวสวนมังคุดในพื้นที่ ต.หน้าเขา อ.เขาพนม จ.กระบี่  โดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลางในพื้นที่ ตามนโยบายของกองทัพบกที่ห่วงใยพี่น้องเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (Covid-19) และยังส่งผลให้ราคาผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำ โดยให้หน่วยทหารเข้าช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรอย่างเต็มศักยภาพทุกรูปแบบ 

ทั้งนี้หน่วยได้รับซื้อมังคุด จำนวน 1 ตัน มาแจกจ่ายให้กับกำลังพลภายในหน่วย ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง และนำไปมอบเป็นขวัญกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่/บุคลากรทางการแพทย์ รพ.คลองท่อม เพื่อเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า (COVID-19) และช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรในพื้นที่ต่อไป


ภาพ/ข่าว  มโนธรรม ใจหาญ จ.กระบี่

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ โครงการจัดการพลังงานในองค์กรด้วยระบบดิจิทัล (Digital Platform) ผ่านระบบออนไลน์ Zoom Meeting

พล.ต.ต.ญาณพงศ์  โสมาภา ผู้บังคับการกองสารนิเทศ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 10 ก.ค. 64 เวลา 15.00 น. ณ ห้องพรหมนอก ชั้น 2 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.อ.ปิยะ อุทาโย รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, พล.ต.ท.สมชาย  พัชรอินโต ผู้บัญชาการสำนักงานส่งกำลังบำรุงและคณะจัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการจัดการพลังงานในองค์กรด้วยระบบดิจิทัล (Digital Platform) ผ่านระบบออนไลน์ Zoom Meeting โดยมี นายสมพงษ์ ปรีเปรม ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เป็นผู้ลงนาม และมีนายชาติชาย ภุมรินทร์ รองผู้ว่าการธุรกิจและการตลาด การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เป็นพยาน

สำหรับโครงการจัดการพลังงานในองค์กรด้วยระบบดิจิทัล (Digital Platform)เป็นโครงการที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเข้ามาช่วยในการตรวจสอบและวิเคราะห์การใช้พลังงาน รวมถึงการเสนอแนะแนวทางในการจัดการพลังงาน เพื่อให้เกิดการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป

‘มูลนิธิมาดามแป้ง’ ผนึกกำลังพันธมิตรเอกชน หนุนศูนย์พักคอย 4 มุมเมือง

มูลนิธิมาดามแป้ง โดย ‘มาดามแป้ง’ นวลพรรณ ล่ำซำ เดินหน้าสนับสนุนศูนย์พักคอย (Community Isolation) 4 มุมเมือง เสริมกำลังแกร่งด้วยพันธมิตรเอกชนกว่า 10 ราย ช่วยคนไทยสู้วิกฤตโควิด-19 พร้อมเยี่ยมให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์ ผู้ปฏิบัติงาน และผู้ป่วย

10 ส.ค.​ 64 ณ วัดกำแพง (บางแวก) เขตภาษีเจริญ ‘มาดามแป้ง’ นวลพรรณ ล่ำซำ 
ซีอีโอ บมจ. เมืองไทยประกันภัย และประธานกรรมการมูลนิธิมาดามแป้ง ในฐานะผู้สนับสนุนหลักการจัดตั้งศูนย์ นำคณะกรรมการมูลนิธิฯ เข้าตรวจเยี่ยมให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์ ผู้ปฏิบัติหน้าที่ โดยมีผู้อำนวยการเขตภาษีเจริญ ประธานกรรมการโรงพยาบาลมิตรประชา ร่วมพูดคุยให้ข้อมูลการบริการประชาชนและระบบการทำงานต่าง ๆ เพื่อสานต่อความช่วยเหลือในระยะต่อไปแก่ศูนย์ฯ สามารถดูแลผู้ป่วยได้แบบ 360 องศา โดยได้ให้กำลังใจผู้ป่วยผ่านระบบ INTERCOM

ในการนี้ มูลนิธิมาดามแป้ง ยังได้พันธมิตรเอกชน เข้าร่วมสนับสนุนการดำเนินงานของศูนย์พักคอยทั้ง 4 มุมเมืองนี้ เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนให้มากยิ่งขึ้น และสนับสนุนการทำงานของหน่วยงานรัฐอีกทาง โดยมีรายนามดังนี้ บริษัท บางกอกกล๊าส จำกัด (มหาชน), อเมริกัน อีเกิล เอาท์ฟิตเตอร์ส (American Eagle Outfitters), บริษัท เกียรติธนาขนส่ง จำกัด (มหาชน), บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน), บริษัท เพรซิเดนท์ เบเกอรี่ จำกัด (มหาชน) (ฟาร์มเฮ้าส์), บริษัท ล็อคตั้น วัฒนา อินชัวรันส์ โบรคเกอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท ไทย วี พี คอร์ปอเรชั่น จำกัด, บริษัท พี แลนด์สเคป จำกัด, บริษัท ไทยรับประกันภัยต่อ จำกัด (มหาชน), สมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ รุ่น 47 และ บริษัท สถาปนิก 49 จำกัด รวมถึงประชาชนจำนวนมากที่ร่วมสนับสนุนให้แก่มูลนิธิฯ อย่างต่อเนื่อง

ด้าน ‘มาดามแป้ง’ นวลพรรณ ล่ำซำ กล่าวว่า “วันนี้พวกเราในฐานะมูลนิธิมาดามแป้ง มองว่าด้วยหนึ่งแรงช่วยเหลือคงจะน้อยนิดสำหรับความเดือดร้อนที่มีอยู่ในทุกหย่อมหญ้า การที่เราได้รับกำลังใจและแรงสนับสนุนจากพันธมิตรเข้ามาอย่างต่อเนื่อง บางท่านไม่ได้ให้แค่เงินสนับสนุน แต่ยังช่วยส่งทรัพยากรที่มี มาร่วมด้วยช่วยกัน ทั้งรถรับ-ส่ง, อาหาร, น้ำดื่ม ทำให้เราได้เห็นภาพความร่วมมือของภาคเอกชนที่ร่วมใจช่วยคนไทยในการต่อสู้วิกฤต และขอขอบคุณเงินทุกบาทของผู้ที่มีจิตศรัทธาที่หลั่งไหลมาตลอดตั้งแต่ช่วงที่เราเตรียมความพร้อม และเริ่มเปิด CI ทั้ง 4 ศูนย์ฯ ขอบคุณจากใจจริงค่ะ”

โดยขณะนี้ ศูนย์พักคอยวัดกำแพง (บางแวก) เขตภาษีเจริญ โดยโรงพยาบาลมิตรประชา มีขนาด 100 เตียง ซึ่งกำลังจะเพิ่มจำนวนเตียงรองรับผู้ป่วยกลุ่มสีเหลืองอ่อน ที่ลงทะเบียนผ่านระบบคัดกรองเรียบร้อยแล้ว ซึ่งคาดว่าจะรับผู้ป่วยได้เต็มจำนวนเตียงภายในสัปดาห์นี้

'โฆษก ทร.' เผย 'ผบ.ทร.'​ รับมอบตู้พ่นฆ่าเชื้อโควิค19 จากบริษัทเอกชนยักษ์ใหญ่ด้านอุปกรณ์ไฟฟ้า เพื่อติดตั้ง ณ จุดคัดกรอง รพ.ปิ่นเกล้า

10​ ส.ค.64 พลเรือเอก เชษฐา ใจเปี่ยม โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า พลเรือเอก ชาติชาย ศรีวรขาน ผู้บัญชาการทหารเรือ พร้อมด้วย พลเรือโท วิชัย มนัสศิริวิทยา เจ้ากรมแพทย์ทหารเรือ และ พลเรือตรี นิธิ พงษ์อนันต์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า ร่วมรับมอบตู้พ่นฆ่าเชื้อโรค สำหรับภารกิจต่อต้านการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ซึ่งผลิตโดยกรมวิทยาศาสตร์ทหารเรือ จำนวน 2 ตู้ มูลค่า 200,000 บาท จากคุณไพบูลย์ อังคณากรกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาซีฟา จำกัด (มหาชน) และ คุณทรงเดช วรยุทธการ ประธานกรรมการ บริษัท พีท แอนด์ เฟรนด์ จำกัด และ พลเรือตรี สราวุฒิ ใจชื้น เจ้ากรมวิทยาศาสตร์ทหารเรือ ในฐานะผู้ผลิต ร่วมส่งมอบให้โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ แขวงบุคคโล เขตธนบุรี กรุงเทพฯ

สืบเนื่องมาจากการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เดิมทีกองทัพเรือมีระบบการคัดกรองการแพร่กระจายเชื้อโควิด-19 หลายรูปแบบ เช่น การใช้เครื่องตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายที่เปรียบเสมือนด่านแรกในการคัดกรอง แต่ยังคงมีช่องว่างของการแพร่กระจายของเชื้อเพื่อตอบสนองต่อมาตรการของ พลเรือเอก ชาติชาย ศรีวรขาน ผู้บัญชาการทหารเรือ ในการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19

ในการนี้ กรมวิทยาศาสตร์ทหารเรือ จึงได้ทำโครงการวิจัยในการศึกษาความเป็นไปได้ และสร้างตู้พ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโควิด-19 เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโควิด-19 ขึ้น เป็นเครื่องที่สามารถสร้างละอองหรือไอของสารฆ่าเชื้อโรค/ยับยั้งเชื้อโรคที่ปนเปื้อนภายนอกกับบุคคล ด้วยประสิทธิภาพของเครื่องมือในการสร้างละอองที่มีขนาดละเอียดเล็กมาก และครอบคลุมพื้นที่ในเวลาสั้นนี้ จึงเป็นตู้พ่นฯ ที่ประหยัดความสิ้นเปลืองของน้ำยา/สารเคมีได้ สามารถใช้งานได้กับน้ำยาหลากหลายแบบ ทั้ง Chemical Based และสารผสม เช่น สารสกัดสมุนไพร สารชีวภาพที่มีสารออกฤทธิ์ ยับยั้งเชื้อโรคได้ (Bioactive ingredients)
มีระบบทำลายพิษตนเองอัตโนมัติ (Auto self -cleaning Machine) เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของสารเคมี รวมถึงเชื้อโรค ก่อนใช้งานกับบุคคลอื่น และก่อนการปล่อยสาร/ของเสียสู่สิ่งแวดล้อม

องค์ประกอบของเครื่องพ่นฆ่าเชื้อโรค ประกอบด้วย 4 ส่วนหลัก ดังนี้... 

1. ส่วนสร้างละอองน้ำยาขนาดอนุภาคละเอียด (Ultrasonic Atomizer) 
2. ส่วนเติมน้ำยาฆ่าเชื้อโรคและหรือยับยั้งเชื้อโรค (Disinfectant solution tank)  
3. ส่วนห้องหรืออุโมงค์เพื่อเป็นพื้นที่ทำลายพิษ (Decontamination area) 
4. ระบบควบคุมอัตโนมัติและเซนเซอร์จับวัตถุ (Automatic Control & Sensors)​

บริษัท อาซีฟา จำกัด (มหาชน) ได้เล็งเห็นถึงประโยชน์ที่ประชาชนทั่วไปจะได้รับ จึงให้การสนับสนุนในการผลิตตู้ พ่นฆ่าเชื้อฯ และส่งมอบให้โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า เพื่อนำไปติดตั้ง ณ จุดผ่านเข้า-ออก ภายในโรงพยาบาล เพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิค 19

องค์กรผู้ใช้น้ำ (สทนช.) ร่วมมือ แบ่งปันน้ำใจ  มอบน้ำดื่มให้ รพ.สนาม และศูนย์พักคอย รองรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 กทม.และชลบุรี

องค์กรผู้ใช้น้ำ (สทนช.)โดยคุณธนวัฒน์ สันตินรนนท์ กรรมการบริหาร บ.อินดัสเตรียลวอเตอร์ รีซอร์สแมนเนจเม้นท์ จก. ผู้แทนกลุ่ม "ตนรักษ์น้ำ"และ คุณวิเชษฐ์ เกตุแก้ว ผู้แทน กลุ่ม"สภาอุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทราลุ่มน้ำบางปะกง" ร่วมแบ่งปันน้ำดื่ม ให้แก่ นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครฯ ณ.โรงพยาบาล เอราวัณ 2 บางกอก อารีน่า เขตหนองจอก กทม.จำนวน 12,000 ขวด เพื่อส่งต่อไปยังโรงพยาบาลสนาม 13 แห่ง ในความรับผิดชอบของ กทม. เพื่อรองรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 


ที่ผ่านมา คุณวิเชษฐ์ เกตุแก้ว องค์กรผู้ใช้น้ำ ( สทนช.)ผู้แทนกลุ่ม "สภาอุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา ลุ่มน้ำบางปะกง” และคุณศราวุฒิ​ เปลี่ยนอารมย์​  ผู้จัดการทั่วไป บ.อินดัสเตรียล วอเตอร์ รีซอร์ส แมนเนจเมนท์(IWRM) ผู้ผลิตน้ำประปาเพื่อบริโภคและเพื่ออุตสาหกรรม ในเขตพื้นที่EECร่วมสนับสนุน น้ำดื่มและน้ำยาฆ่าเชื้อ" มอบให้ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติ มาบเอื้อง ต.หนองบอนแดง อ.บ้านบึง  จ.ชลบุรี จัดตั้งโรงพยาบาลสนาม รองรับผู้ติดเชื้อโควิด19 ในพื้นที่จากจังหวัดกรุงเทพฯและจังหวัดชลบุรี จำนวน 80 เตียงโดยมีคุณศลิศา ศัลยกำธร ผู้อำนวยการศูนย์กสิกรรมธรรมชาติมาบเอื้องพร้อมทีม เจ้าหน้าที่ อสม.อบตหนองบอนแดง อ.บ้านบึง ร่วมรับมอบ

ทั้งนี้ ยังได้มอบน้ำดื่ม CHON Water ให้กับ  ศูนย์พักคอย เทศบาลตำบลพานทอง  จำนวน1,200 ขวด โดย นายศิริเกียรติ ไม้งาม  นายกเทศมนตรี เทศบาลตำบลพานทอง  อ.พานทอง รับมอบและสนับสนุนน้ำดื่มอีก จำนวน1,200 ขวดให้กับ อบต.หน้าประดู่ รับมอบโดย นายรัชกฤต เจริญสุข นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหน้าประดู่  ว่าที่ร้อยตรีศุภชัย สนธิรักษ์ปลัด อบต.หน้าประดู่และ นายนรภัทร แสงจันทร์ ผอ.กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม อบต.หน้าประดู่  อ.พานทอง จากการระบาดของเชื้อโควิด-19  ขยายเป็นวงกว้างมีการพบเชื้อที่เพิ่มอย่างต่อเนื่อง อปท.จึงจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม ศูนย์พักคอยเพิ่ม มีความจำเป็นต้องการน้ำ อาหาร ของใช้ที่จำเป็น ให้กับผู้ติดเชื้อ ผู้ป่วย เจ้าหน้าที่ อาสา ประจำศูนย์ จึงขอเชิญชวนร่วมบริจาค ณ.ศูนย์พักคอยได้ทุกที่ ไกล้บ้านท่าน เราจะก้าวผ่าน โควิด-19ไปด้วยกัน

ครม. เคาะ อนุมัติวงเงิน 3.3 หมื่นล้านบาท ชดเชย ม.39-40 ในพื้นที่ 29 จังหวัดสีแดงเข้ม

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้เห็นชอบกรอบวงเงิน 33,471.0050 ล้านบาท เยียวยาผู้ประกันตนตามมาตรา 39 และมาตรา 40 ในพื้นที่ 29 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐตามข้อกำหนดฯ ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด โดยช่วยเหลือค่าครองชีพคนละ 5,000 บาท รวมทั้งสิ้น 6,694,201 คน โดยมีหลักเกณฑ์และเงื่อนไข ดังนี้

1.) พื้นที่ดำเนินการ 29 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร นราธิวาส ปัตตานี ยะลา สงขลา ฉะเชิงเทรา ชลบุรี พระนครศรีอยุธยา นครราชสีมา ระยอง ราชบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ลพบุรี เพชรบูรณ์ ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี เพชรบุรี ตาก อ่างทอง นครนายก สมุทรสงคราม และสิงห์บุรี

2.) กลุ่มเป้าหมายรวมประมาณ 6,694,201 คน ประกอบด้วย กลุ่มผู้ประกันตนตามมาตรา 39 จำนวน 1,436,171 คน และมาตรา 40 จำนวน 5,258,030 คน

3.) คุณสมบัติของกลุ่มเป้าหมาย เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 39 และมาตรา 40 ที่มีสัญชาติไทย สถานะเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 39 และมาตรา 40 ในฐานทะเบียนประกันสังคมที่มีสถานะ A (Active) ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2564 (พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 13 จังหวัด) หรือ ณ วันที่ 3 สิงหาคม 2564 (พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 16 จังหวัด)

กรณีเป็นผู้สมัครเพื่อขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ในฐานทะเบียนประกันสังคมที่มีสถานะรอชำระเงิน W (Wait) ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2564 ทั้งนี้ ผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ต้องไม่เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 หรือมาตรา 39 และผู้ประกันตนตามมาตรา 39 และมาตรา 40 ต้องไม่เป็นข้าราชการหรือผู้รับบำนาญของกรมบัญชีกลาง

4.) วิธีการจ่ายเงินเยียวยาให้กับผู้ประกันตนตามมาตรา 39 และมาตรา 40 จะโอนเงินให้กับผู้ประกันตนผ่านบัญชีพร้อมเพย์ (Prompt Pay) เฉพาะที่ผูกบัญชีกับเลขประจำตัวประชาชน

โฆษกรัฐบาลยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ครม.ยังให้กระทรวงแรงงาน เร่งตรวจสอบยืนยันตัวตนของผู้ที่ได้รับความช่วยเหลือตามเป้าหมายเพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อน รวมทั้งขอให้โอนเงินให้ความช่วยเหลือผู้ประกันตนตาม ม. 39 และ ม. 40 ที่อยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดใน 10 จังหวัด ก่อนระยะเวลาที่กำหนด ภายในวันที่ 24 สิงหาคม 2564 เนื่องจากเป็นกลุ่มที่อยู่ในพื้นที่ที่มีสถานการณ์การระบาดของโควิด -19 ที่รุนแรงและได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติตามข้อกำหนดฯ ก่อนพื้นที่อื่น ๆ

อีกทั้ง กำหนดให้ผู้ที่ลงทะเบียนเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 เพิ่มเติมในพื้นที่ 10 จังหวัด ต้องเป็นผู้ที่ลงทะเบียนและจ่ายเงินสมทบงวดแรกภายในวันที่ 10 สิงหาคม 2564 และในพื้นที่ 19 จังหวัดต้องเป็นผู้ที่ลงทะเบียนและจ่ายเงินสมทบงวดแรกภายในวันที่ 24 สิงหาคม 2564

นอกจากนี้ ได้ให้กระทรวงแรงงานจัดทำข้อเสนอขยายระยะเวลาการให้ความช่วยเหลือแก่กลุ่มเป้าหมายที่รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดโควิด-19 ในพื้นที่ 13 จังหวัดเพิ่มเติมอีกจำนวน 1 เดือน ซึ่งจะช่วยให้การให้ความช่วยเหลือนายจ้างและผู้ประกันตนในพื้นที่ดังกล่าวเป็นไปอย่างต่อเนื่อง


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top