Friday, 4 July 2025
NEWS FEED

ฝ่าวิกฤตสำเร็จ!! สธ.ปิดศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ในที่สุดโควิดก็กลายเป็นโรคประจำถิ่นในเมืองไทย 

(1 ต.ค. 65) โบว์ ณัฏฐา มหัทธนา นักกิจกรรมอิสระ และนักเคลื่อนไหวทางการเมืองของไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ว่า...

ในที่สุดโควิดก็กลายเป็นโรคประจำถิ่นในเมืองไทย 

ที่ผ่านมาไทยประสบความสูญเสียน้อยเกือบที่สุดในโลก ด้านอัตราส่วนผู้เสียชีวิตต่อประชากร ส่วนหนึ่งก็เพราะวัคซีนไปทั่วถึงได้เร็วกว่าหลายประเทศ ด้วยการตัดสินใจจัดหาวัคซีนที่หาได้มาก่อน ก่อนจะมีวัคซีนหลากหลายและเพียงพอถึงขั้นบริจาคได้ การฉีดสูตรไขว้ก่อนที่หลายประเทศจะทำตาม การคิดนอกกรอบ หาพื้นที่เปิดโรงพยาบาลสนามขนาดใหญ่เริ่มจากศูนย์บุศราคัม และการเปิดศูนย์ฉีดวัคซีนแบบ walk in ท่ามกลางการสกัดขัดขวาง เริ่มจากบางซื่อที่เกิดจากความร่วมมือข้ามกระทรวง ผลักดันโดยรัฐมนตรีสาธารณสุข 

'นครชัยแอร์' อวดโฉมรถใหม่ เบาะส่วนตัวทุกที่นั่ง วิ่งปฐมฤกษ์ 'กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ 1 ต.ค.นึ้

นางเครือวัลย์ วงศ์รักมิตร ประธานบริษัท นครชัยแอร์ จำกัด กล่าวว่า นครชัยแอร์ เส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ได้รับการตอบรับจากผู้ใช้บริการอย่างดีมาโดยตลอด เนื่องจากมีภูมิประเทศที่สวยงาม มีประเพณีวัฒนธรรมที่สวยงาม และมีเสน่ห์ในทุกด้าน แต่ละปีมีนักเดินทางท่องเที่ยว ทั้งคนไทยและต่างประเทศเดินทางเข้าไปยังพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ตลอดทั้งปี และเพื่อเป็นการขอบคุณที่ลูกค้าชาวเชียงใหม่ รวมถึงนักท่องเที่ยวที่ให้การสนับสนุนนครชัยแอร์มาโดยตลอด 

บริษัทฯ ได้เตรียมนำรถมาตรฐาน Gold Class รุ่น Social Distancing V.2 ขนาด 32 ที่นั่ง ให้บริการในเส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ วันละ 1 เที่ยว ทั้งขาไปและขากลับ กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ เที่ยวเวลา 22.20 น. และ เชียงใหม่-กรุงเทพฯ เที่ยวเวลา 20.30 น. ในอัตราค่าโดยสารปกติ เริ่มให้บริการเที่ยวแรกในวันที่ 1 ตุลาคม 2565 โดยลูกค้าสามารถจองตั๋วโดยสารเพื่อเดินทางได้แล้วตั้งแต่วันนี้

สำหรับรถที่นำมาให้บริการ เป็นรถโฉมใหม่ มาตรฐาน Gold Class เบาะโดยสารแบบ Social Distancing V.2 ขนาด 32 ที่นั่ง ดีไซน์ใหม่ให้ความเป็นส่วนตัวทุกที่นั่งแม้เดินทางคนเดียว เป็น 4 แถว แบบ 1 2 1 จากเดิมที่นครชัยแอร์ได้นำเบาะโดยสารแบบ Social Distancing V.1 ขนาด 23 ที่นั่ง เป็นเบาะเดี่ยว 3 แถว มาให้บริการรถเส้นทางกรุงเทพฯ-บุรีรัมย์ และกรุงเทพฯ-สุรินทร์ เมื่อปี 2564 ด้วยรถมาตรฐาน First Class ซึ่งได้รับการตอบรับดีอย่างมากจากผู้ใช้บริการ จึงปรับปรุงพัฒนารถโดยสารมาตรฐาน Gold Class เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้บริการ ได้ปรับเบาะโดยสารรูปแบบใหม่เพื่อเพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้ใช้บริการ โดยสามารถเลือกที่นั่งเดี่ยวริมหน้าต่าง หรือเลือกที่นั่งคู่ตรงกลางที่สามารถดึงผ้าม่านกั้นปิดได้ เป็นเบาะไฟฟ้าติดตั้งระบบนวดทุกที่นั่ง พร้อมจอทีวีส่วนตัว ขนาด 10 นิ้ว ระบบทัชสกรีนทุกที่นั่ง และช่องเสียบ USB เพื่อการชาร์จแบตฯ โทรศัพท์ 

'แรมโบ้' อัด 'พิธา-ธนาธร' เป็นถึงหน.พรรค แต่ไม่ฟังคำศาลฯ อย่าอ้างประชาชนสิ้นหวังคับแค้น ทั้งที่เป็นเพียงส่วนน้อย

'แรมโบ้' อัด 'พิธา-ธนาธร' เป็นถึงหัวหน้าพรรคการเมืองแต่ไม่ยอมรับคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ และอย่ามาอ้างประชาชนสิ้นหวังคับแค้นใจ เพราะเป็นเพียงแค่คนส่วนน้อยเท่านั้น เหน็บเหมาะเป็นหัวหน้ากองโจรมากกว่าหัวหน้าพรรค

(1 ต.ค. 65) นายเสกสกล อัตถาวงศ์ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ออกมาวิจารณ์และออกแถลงการณ์ต่อคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ กรณี 8 ปี ว่าเป็นอีกครั้งที่ทำให้ประชาชนไทยรู้สึกสิ้นหวัง สร้างความคับแค้นใจให้กับประชาชน และมีราคาอันแสนแพงที่สังคมไทยต้องจ่ายจากการที่พลเอกประยุทธ์ได้ไปต่อ

โดยนายเสกสกล กล่าวว่าการออกแถลงการณ์เช่นนี้เท่ากับว่านายพิธากับพรรคก้าวไกลและนายธนาธร ไม่ยอมรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ทั้งที่เป็นพรรคที่ร่วมกับพรรคฝ่ายค้านยื่นให้ประธานสภาฯ เพื่อขอให้ศาลวินิจฉัยเรื่องนี้เอง ทั้งนี้หากไม่เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมของไทยก็ไม่ควรไปร่วมเพื่อให้มีการวินิจฉัยตั้งแต่แรก

จับตา 'บิ๊กแป๊ะ' ป.ที่ 4 เคลื่อนตัวสู่การเมืองระดับชาติ อาจถึงขั้นแคนดิเดตนายกฯ พรรคพลังประชารัฐ

'บิ๊กแป๊ะ' คัมแบ็ค จากนายตำรวจขาลุย ได้เวลาการเมืองสนามใหญ่ เตรียมจับสัญญาณหลัง 30 กันยา ลือหนัก ว่าที่แคนดิเดตนายกฯจากพรรคพลังประชารัฐ!? หลังแอบซุ่มทำงานเบื้องหลัง กว่า 2 ปี

ถึงแม้จะห่างหายจากทางการเมืองไปนาน เนื่องจากกฎหมายที่ต้องให้ ส.ว. เว้นวรรคทางการเมือง 2 ปี จนหลายคนอาจจะลืมไปแล้วว่า นอกเหนือจาก 3 ป. แล้ว ยังมีอีกหนึ่ง ป. นั่นคือ บิ๊กแป๊ะ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ที่จะสามารถกลับมาดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้อีกครั้ง ในวันที่ 30 กันยายนนี้ ครบรอบ 2 ปี หลังเกษียณอายุราชการ ซึ่งลือกันอย่างหนาหูว่า บิ๊กแป๊ะ จะหวนคืนสู่สนามการเมืองอีกครั้ง หลังจากศึกการเลือกตั้งผู้ว่า กทม. ที่ยอมถอยให้ พี่วิน พล.ต.อ. อัศวิน ขวัญเมือง ลงสมัครรับเลือกตั้งในต้นปีที่ผ่านมา

ไม่นานมานี้ เฟซบุ๊กเพจ 'การเมือง Kanmuang' ได้เปิดเผยถึง ประวัติของบิ๊กแป๊ะที่เรียกได้ว่าไม่ธรรมดา ไว้ว่า...

บิ๊กแป๊ะ เป็นลูกชายของ นายประณีต ชัยจินดา นักธุรกิจค้าอาหารทะเล และนายหน้าค้าที่ดินแห่งเมืองอ่างศิลา กับนางสมศรี ชัยจินดา ทางด้านชีวิตรักสมรสกับ ดร.บุษบา ชัยจินดา ทายาทเจ้าของมหาวิทยาลัยศรีปทุม มีลูกด้วยกัน 2 คน คือ พ.ต.ต ชานันท์ ชัยจินดา ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง ผบ.ร้อย กองกำกับการที่ 3 กองบังคับการสนับสนุนทางอากาศ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน และ ชัยธัช ชัยจินดา นักเรียนดรีกรีนอก สาขาโลจิสติกส์ มหาวิทยาลัยบอสตัน สหรัฐอเมริกา

>> นายตำรวจดาวรุ่งพุงแรงอนาคตไกล 'เกือบ' ไม่ได้เป็น 'ผบ.ตร.' เพราะพิษการเมือง
ชีวิตการทำงานของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา เรียกได้ว่าเป็นดาวเด่นตั้งแต่เด็ก ภายหลังจากจบการศึกษาที่โรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัย จากนั้นเข้ารับการศึกษาต่อที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นที่ 36 เริ่มต้นรับราชการจากตำแหน่ง นายเวรผู้บังคับการประจำกรมตำรวจ สำนักงานกำลังพล ด้วยนิสัยที่สุขุมรุ่มลึก พูดน้อย อ่อนน้อมถ่อมตน แต่ใจนักเลง กล้าได้กล้าเสีย และเป็นขาลุยพร้อมที่จะลงพื้นที่กับลูกน้องเสมอๆ จึงเป็นที่ถูกใจของทั้งพี่ๆ และน้องๆ ทั้งในฝั่งทหารและตำรวจ โดยเฉพาะ 'บิ๊กป้อม' พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ จนสามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็วในหน้าที่การงาน และได้รับตำแหน่ง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รอที่จะเป็น ผบ.ตร ในขณะที่ยังเป็นเพียงแค่ พล.ต.ท. และเหลืออายุราชการอีกมากกว่า 10 ปี

"ไม่เคยวางแผน ไม่เคยคาดหวัง จะต้องเป็น ผบ.ตร. และเชื่อว่า นักเรียนนายร้อยตำรวจ (นรต.) ทุกคนที่เพิ่งจบมาใหม่ๆ ไม่มีใครคิดถึงยศและตำแหน่งหรอก มีนายตำรวจสัญญาบัตร 7-8 หมื่นคน เชื่อว่ายากที่ใครจะวางแผน เป็นผบ.ตร.ไว้ล่วงหน้า" บิ๊กแป๊ะ กล่าวและว่า "ชีวิตราชการช่วงแรก ร.ต.ต. ถึง พ.ต.ท. ทุกคนขอแค่อยู่โรงพักดีๆ ที่มีชื่อเสียงก็พอแล้ว"

ชีวิตการทำงานของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ผ่านมรสุมหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการถูกโยกย้ายให้เป็นผู้กำกับกองวิชาการ ผู้กำกับกองงบประมาณ เป็นจเรตำรวจ ซึ่งไม่ใช่อยู่ในสายงานด้านปราบปรามที่ตนเองถนัด ก่อนที่จะได้ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แต่ครั้งที่ร้ายแรงที่สุด คือ ในสมัยที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีเพราะ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ถูกบีบและถูกโยกย้ายไปเป็น ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 (ผบช.ภาค 9) หลุดจากโผ ผบ.ตร. โดยให้ พล.ต.อ. วินัย ทองสอง หลายเขยของ พล.ต.อ.ทักษิณฯ ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจนครบาลแทน

>> สถิติ 5 ปี เจ้าสำนักปทุมวัน
เมื่อขั้วอำนาจเปลี่ยนมือ บิ๊กๆ ทั้งหลายในวงการเครื่องแบบ ก็ยังไม่เคยลืมน้องคนนี้ พล.ต.อ. จักรทิพย์ ได้ถูกเรียกกลับมาในเส้นทาง ผบ.ตร อีกครั้ง โดยให้เป็นรักษาการผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จนกระทั่งในวันที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2558 คณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) ซึ่งมีพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นประธาน มีมติเป็นเอกฉันท์เลือก พล.ตร.อ. จักรทิพย์ เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนที่ 11 สืบต่อจากพลตำรวจเอก สมยศ พุ่มพันธุ์ และได้รับโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่ง มีผลในวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2558 ครองสถิติเจ้าสำนักปทุมวันที่ยาวที่สุดถึง 5 ปี ก่อนที่จะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 กันยายน 2563

บิ๊กเด่น มอบนโยบายตำรวจทั่วประเทศ ชูปกป้องเทิดทูนสถาบัน เป็นตำรวจมืออาชีพ ทำงานเชิงรุก เพื่อความสงบสุขของประชาชน 

วันนี้ (1 ต.ค.65) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. เข้ารับตำแหน่งวันแรก พร้อมเชิญข้าราชการตำรวจ ตั้งแต่ รอง ผบ.ตร.- ผบก. จำนวน 250 นาย เข้ารับฟังนโยบายการบริหารราชการ ตร. ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ย้ำปกป้องเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ชูวิสัยทัศน์ ความเป็นมืออาชีพในหน้าที่ ทำงานเชิงรุก เพื่อความสงบสุขของประชาชน พร้อมแบ่งมอบงานให้ รอง ผบ.ตร.รับผิดชอบ

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า นโยบายเร่งด่วนที่จะทำเพื่อประชาชนเป็นลำดับแรกมี 3 เรื่อง คือ การแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติด การป้องกันปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ และ การยกระดับการให้บริการประชาชนของสถานีตำรวจ ซึ่งจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับประชาชนโดยรวม 

สำหรับนโยบายเร่งด่วนที่จะทำให้ข้าราชการตำรวจ มี 2 เรื่อง คือ การสร้างความปลอดภัยในการปฏิบัติหน้าที่ สร้างมาตรฐานการปฏิบัติงาน หรือ SOP รวมถึงการจัดหาสิ่งอุปกรณ์ที่ป้องกันอันตรายให้เพียงพอ อีกเรื่องคือการดูแลสวัสดิการและขวัญกำลังใจกำลังพล เช่น หากตำรวจบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ ต้องได้รับการเยียวยาทันที อาคารที่ทำการ ที่พักอาศัย ต้องมีอย่างเพียงพอ โครงการทำดีมีรางวัลให้กับข้าราชการตำรวจ เป็นต้น 

ส่วนนโยบายหลักที่จะใช้ในการบริหารราชการหลัก ของ ตร. มี 10 เรื่อง คือ 
1. พิทักษ์ เทิดทูน และเทิดพระเกียรติต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
2. เสริมสร้างภาพลักษณ์ด้วยการยกระดับการบริการประชาชนของสถานีตํารวจ
3. การแก้ไขปัญหาอาชญากรรมที่สร้างความเดือดร้อนต่อประชาชนและขับเคลื่อนนโยบายสําคัญของรัฐบาล
4. แก้ไขปัญหายาเสพติดทุกมิติอย่างเป็นระบบ โดยบูรณาการกับทุกภาคส่วน
5. เพิ่มการมีส่วนร่วมระหว่างตํารวจกับประชาชนโดยเปิดช่องทางรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะจากประชาชน
6. พัฒนาคุณภาพชีวิตและสร้างขวัญกําลังใจให้แก่ข้าราชการตํารวจ
7. พัฒนาองค์ความรู้ข้าราชการตํารวจทุกสายงานโดยมุ่งเน้นการฝึกอบรมทบทวนยุทธวิธีอย่างต่อเนื่อง
8. พัฒนาระบบฐานข้อมูลและนําเทคโนโลยีสารสนเทศที่ทันสมัยมาใช้ 
9. ปรับปรุงระเบียบกฎหมายให้สอดคล้องกับการทํางานของตํารวจให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
10. เสริมสร้างระเบียบวินัยควบคุมดูแลความประพฤติและป้องกันมิให้ข้าราชการตํารวจเข้าไปเกี่ยวข้องกับการทุจริต

'โฆษก ตร.' พบสื่อประจำ ตร. กล่าวอำลา บรรยากาศชื่นมื่น "ขอบคุณที่ทำงานร่วมกันมาด้วยดี ตลอดเวลา 2 ปี "

เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2565 ที่ห้องสื่อมวลชน ประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พลตำรวจตรี ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เข้าพบกับผู้สื่อข่าว จากสำนักต่างๆ ที่ประจำอยู่ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อกล่าวอำลาพร้อมขอบคุณสื่อ ที่ได้ร่วมทำงานร่วมกันตลอด 2 ปีที่ดำรงตำแหน่งโฆษก ตร.ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความชื่นมื่น

โดยโฆษก ตร. กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา ที่ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่กระบอกเสียงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แน่นอนว่าความผิดพลาด ความไม่สมบูรณ์แบบการกระทบกระทั่ง สร้างความไม่สบายใจให้กับพี่น้องสื่อ พี่น้องเพื่อนร่วมงานต้องมีอยู่บ้าง ซึ่งคงต้องใช้โอกาสนี้ กราบขอโทษ อย่างจริงใจ...

อย่างไรก็ตาม ทั้งหลายทั้งปวงนั้น เป็นไปเพื่อผลสำเร็จของงานผมต้องขอบคุณพี่น้องสื่อ พี่น้องเพื่อนร่วมงานที่เมตตา ช่วยเหลือเกื้อกูล ทำให้งานสำคัญนี้ลุล่วง

บิ๊กปั๊ด ส่งมอบหน้าที่ ผบ.ตร. มั่นใจบิ๊กเด่น จะเป็นผู้นำสีกากีคนใหม่ที่ประชาชนเชื่อมั่นและศรัทธา 

วันนี้ (30 ก.ย.65) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้มีการลงนามรับส่งมอบหน้าที่ โดยมีการมอบธง และตราประจำตำแหน่งให้กับ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. คนใหม่ มั่นใจ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ จะนำองค์กรไปในทิศทางที่ดี

เวลา 15.00 น. พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.ใหม่ ได้ขึ้นแท่นรับการเคารพ และเดินตรวจแถวกองเกียรติยศ จากนั้นได้วางพานพุ่มถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 4 และพระบรมรูปหล่อ รัชกาลที่ 9 ก่อนเดินเข้าพิธีในห้องศรียานนท์ อาคาร 1 ตร. โดยมีข้าราชการตำรวจระดับ รอง ผบ.ตร. และ ผู้ช่วย ผบ.ตร. เข้าร่วมในพิธีกันอย่างพร้อมเพียง 

จากนั้นได้มีการทำพิธีลงนามในหนังสือส่งมอบหน้าที่ และมีการมอบธง และตราประจำตำแหน่ง ให้กับ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ซึ่งจะเป็น ผบ.ตร. คนที่ 13 พร้อมกันนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ ฯ ยังได้กล่าวแสดงความยินดีกับ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ฯ​ โดยระบุว่า ผมขอแสดงความยินดีด้วยความจริงใจ ซึ่งท่านได้แสดงผลงานเป็นดีเด่นให้ประจักษ์ต่อสายตามาโดยตลอด จึงเชื่อมั่นว่า ผบ.ตร. ท่านใหม่ จะสามารถปฏิบัติหน้าที่ ของ ผบ.ตร. และเป็นผู้นำได้อย่างสมศักดิ์ศรี และสัมฤทธิ์ผล เป็นประโยชน์แก่ทางราชการสืบไป 

ด้าน พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ฯ กล่าวว่า นับเป็นเกียรติยศและเป็นสิริมงคลอย่างสูงสุดแก่ชีวิต อย่างหาที่สุดมิได้ และรู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นล้นพ้น  ที่ทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้ตนดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร. และขอเทิดทูนไว้เหนือเกล้าเหนือกระหม่อม ทั้งจักปฏิบัติงานสนองพระราชปณิธาน ตามพระปฐมบรมราชโองการ 

และขอขอบคุณ พล.ต.อ.สุวัฒน์ ฯ​ ที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความวิริยะ อุตสาหะ ตลอดระยะเวลาการดำรงตำแหน่ง ซึ่งท่านเป็นแรงผลักดันที่สำคัญ ที่ทำให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ตนขอให้คำมั่นสัญญาว่า จะทุ่มเทแรงกายแรงใจ ตลอดจนสติปัญญาในการปฎิบัติหน้าที่ อย่างสุดกำลังความสามารถ และจะปฎิบัติหน้าที่โดยยึดหลักนิติธรรม และคุณธรรม ตามครรลองแห่งกฎหมาย ระเบียบแบบแผน ของทางราชการ ตลอดจนขบนธรรมเนียมที่ดีของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติและสังคมโดยรวม  

พิธีสวนสนามเนื่องในโอกาสรับ-ส่งหน้าที่ผู้บัญชาการทหารอากาศ และการมอบการบังคับบัญชา

ตามที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้นายทหารรับราชการสนองพระเดชพระคุณ ให้ พลอากาศเอก อลงกรณ์  วัณณรถ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารอากาศ เป็น ผู้บัญชาการทหารอากาศ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 นั้น 

วันนี้ (วันศุกร์ที่ 30 กันยายน 2565) กองทัพอากาศ ได้จัดพิธีรับ-ส่งหน้าที่ผู้บัญชาการทหารอากาศ ระหว่าง พลอากาศเอก นภาเดช  ธูปะเตมีย์ ซึ่งเกษียณอายุราชการ กับ พลอากาศเอก อลงกรณ์  วัณณรถ ผู้เข้ารับตำแหน่งผู้บัญชาการทหารอากาศ (ท่านใหม่) ณ ลานอเนกประสงค์ โรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช ถนนพหลโยธิน เขตสายไหม กรุงเทพ ฯ โดยมีผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพอากาศ ข้าราชการทหารอากาศ ผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศ สมาคมแม่บ้านทหารอากาศ และแขกผู้มีเกียรติร่วมในพิธี 

โดยพลอากาศเอก นภาเดช  ธูปะเตมีย์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ ได้ส่งธงประจำตำแหน่งผู้บัญชาการทหารอากาศ และแฟ้มเอกสารรับ-ส่งหน้าที่ผู้บัญชาการทหารอากาศ ให้แก่ พลอากาศเอก อลงกรณ์  วัณณรถ ผู้เข้ารับตำแหน่งผู้บัญชาการทหารอากาศ (ท่านใหม่) เพื่อแสดงถึงการส่งมอบหน้าที่และการบังคับบัญชาอย่างเป็นทางการ ในโอกาสนี้ กองทัพอากาศได้จัดกำลังพลสวนสนามเพื่อเป็นเกียรติ จำนวน 4 กองพัน ประกอบด้วย 

- กองพันที่ 1 จัดกำลังพลจาก กรมนักเรียนนายเรืออากาศ รักษาพระองค์ โรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช

- กองพันที่ 2 จัดกำลังพลจาก กองนักเรียน โรงเรียนจ่าอากาศ กรมยุทธศึกษาทหารอากาศ

- กองพันที่ 3 จัดกำลังพลจาก กรมทหารอากาศโยธิน รักษาพระองค์ หน่วยบัญชาการอากาศโยธิน

- กองพันที่ 4 จัดกำลังพลจาก กรมทหารต่อสู้อากาศยาน รักษาพระองค์ หน่วยบัญชาการอากาศโยธิน

นอกจากนี้ยังจัดให้มีการสวนสนามทางอากาศ โดยจัดอากาศยานของกองทัพอากาศ ทำการบินผ่านพิธี ดังนี้

ห้วงเวลาที่ 1 ประกอบด้วย หมู่บิน FINALE FLYING ซึ่งเป็นการประกอบกำลังของอากาศยานจำนวน 10 เครื่อง 
- เครื่องบินฝึกแบบที่ 2 (T-50) จำนวน 3 เครื่อง จากฝูงบิน 401 กองบิน 4 
- เครื่องบินขับไล่แบบที่ 19 ก (F-16) จำนวน 3 เครื่อง จากฝูงบิน 403 กองบิน 4 
- เครื่องบินขับไล่แบบที่ 20 ก (GRIPEN) จำนวน 4 เครื่อง จากฝูงบิน 701 กองบิน 7

ห้วงเวลาที่ 2 ประกอบด้วย อากาศยานบินผ่านพิธีสวนสนาม 
- หมู่บินที่ 1 เครื่องบินฝึกแบบที่ 2 (T-50) จำนวน 4 เครื่อง จากฝูงบิน 401 กองบิน 4 
- หมู่บินที่ 2 เครื่องบินขับไล่แบบที่ 19 ก (F-16) จำนวน 4 เครื่อง จากฝูงบิน 403 กองบิน 4 
- หมู่บินที่ 3 เครื่องบินขับไล่แบบที่ 20 ก (GRIPEN) จำนวน 4 เครื่อง จากฝูงบิน 701 กองบิน 7
- หมู่บินที่ 4 เครื่องบินโจมตีธุรการ แบบที่ 2 (AU-23 Peacemaker) จำนวน 3 เครื่อง บินปล่อยควันสีธงชาติ 

ห้วงเวลาที่ 3 ประกอบด้วย เครื่องบินขับไล่แบบที่ 20 ก (GRIPEN) จำนวน 1 เครื่อง จากฝูงบิน 701 กองบิน 7

เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี จัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์เสริมสร้างเครือข่ายพันธมิตร พร้อมแนะนำกิจกรรมใหม่ในปี 2566 

เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2565 สำนักงานเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี โดยสำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) จัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์เสริมสร้างเครือข่ายพันธมิตร เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างองค์กรและสื่อมวลชน ที่สนับสนุนและเป็นกระบอกเสียงสำคัญในการเผยแพร่ข่าวสารขององค์กรให้เป็นที่รับรู้ในวงกว้าง ตลอดจนกล่าวถึงผลงานต่างๆ ที่เกิดขึ้นในปีที่ผ่านมา และแผนงานที่จะทำในปีต่อไป โดยได้รับเกียรติจาก นางสาวฐิติรัตน์ ต๊ะวันวงค์ ปฏิบัติหน้าที่แทน ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาพิงคนคร เป็นประธาน และคณะผู้บริหาร เข้าร่วมด้วย ณ อาคารวารีกุญชร เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี 

นางสาวฐิติรัตน์ ต๊ะวันวงค์ ปฏิบัติหน้าที่แทน ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาพิงคนคร กล่าวถึงผลงานในปีที่ผ่านมาว่า นอกจากเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ที่เป็น Nature Theme Park ที่มีสัตว์ป่าหายากหลากหลายสายพันธุ์ รวมถึงบางสายพันธุ์ก็มีที่นี่แห่งเดียวเท่านั้นแล้ว ในปี 2565 นี้ เรามีการเตรียมพัฒนาแผนการท่องเที่ยวให้มีกิจกรรมที่น่าสนใจ เป็นการเตรียมความพร้อมในการต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยเพิ่มกิจกรรมให้เป็นแลนมาร์คใหม่ และที่นำร่องอยู่ในตอนนี้จะเป็นโครงการการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ภายใต้ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในกิจกรรม “การปั่นจักรยานชมวิว เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี” เป็นกิจกรรมปั่นจักรยานในเส้นทางโซนส่วนแสดงสัตว์ savanna safari ตื่นตาตื่นใจชมทิวทัศน์ธรรมชาติ พบกับสัตว์ในทุ่งหญ้า Savanna Safari อาทิ แรด กวาง ม้าลาย ยีราฟ จิงโจ้แดง และฮิปโปโปเตมัส ระยะทางประมาณ 2.4 กิโลเมตร และกิจกรรมที่กำลังจะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ ก็คือ น้ำพุดนตรีที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และสูงที่สุดในเอเชีย โดยมีความสูงถึง 30 เมตร มีการแสดง แสง สี เสียง ที่น่าตื่นตาตื่นใจ รวมทั้งจัดทำระบบให้มีความทันสมัยกับเทคโนโลยีมากยิ่งขึ้น

และกิจกรรมที่จะเกิดขึ้น ในปี 2566 คือ โครงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวโลกเสมือนจริง หรือ VR เป็นการรวมกันของโลกแห่งความจริงและโลกเสมือนเข้าด้วยกัน เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมและการแสดงภาพใหม่ โดยที่วัตถุทางกายภาพและดิจิทัลอยู่ร่วมกัน และโต้ตอบกันแบบ Real Time เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในกิจกรรมใหม่, กิจกรรม Cowboy Show เป็นการแสดงเชิงให้ความรู้เกี่ยวกับวิถีชีวิตของคาวบอย เช่น ศิลปะการบังกับม้า และการใช้แส้, กิจกรรม Rapter Flying แหล่งเรียนรู้ศึกษาและการแสดงของนกนักล่าสายพันธุ์ต่างๆ โดยเน้นพฤติกรรมตามธรรมชาติ และความสามารถที่โดดเด่นของแต่ละสายพันธุ์ เป็นการแสดงสดที่นักท่องเที่ยวสามารถมีส่วนร่วมในกิจกรรมได้อย่างใกล้ชิด

เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก ซึ่งก็เป็นไปได้ว่าในปีที่ผ่านมาเราได้รับผลกระทบเนื่องมาจากแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด – 19 และการปิดประเทศอย่างแน่นอน โดยเฉพาะกลุ่มของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่หายไป เพราะรายได้ส่วนใหญ่มาจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ แต่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเราก็ยังคงเปิดให้บริการตามปกติ โดยเน้นย้ำมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด - 19 อย่างเคร่งครัดและต่อเนื่องมาโดยตลอด แต่ปัจจุบันประเทศได้เปิดแล้ว เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีมีเป้าหมายในการพัฒนาการให้บริการให้เป็นไปด้วยความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวอย่างสูงสุด 

โดยมีมาตรการรองรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่เข้ามาเยี่ยมชมเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ตามมาตรฐานของ SHA Plus ที่ได้รับการรับรองจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และได้รับการรับรองมาตรฐานแหล่งท่องเที่ยวเพื่อนันทนาการระดับดีเยี่ยม ประจำปี 2564 จากกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งเป็นการเพิ่มความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวที่จะมาท่องเที่ยวในพื้นที่ของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีอีกด้วย
วิภาดา /เชียงใหม่

บิ๊กต่อ ส่งตำรวจทางหลวง จิตอาสา ช่วยเหลือชาวบ้านเดือดร้อนน้ำท่วมจาก พายุโนรู พัดถล่มในพื้นที่ภาคอีสาน

วันที่ 30 กันยายน 2565 เวลา 08.00 น. พล.ต.ท. ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้ช่วย ผบ.ตร. สั่งการให้ พ.ต.ท.จิระพันธ์ มณีรัตน์ สารวัตรสถานีตำรวจทางหลวงนครราชสีมา พร้อมด้วย จิตอาสาตำรวจทางหลวงนครราชสีมา จิตอาสาชมรมฮักเขาใหญ่ ผู้ใหญ่บ้าน ลงพื้นที่หมู่ 7 บ้านกุดโง้ง ต.วังไทร อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา

ภายหลังเกิดพายุโนรู พัดถล่มในพื้นที่ภาคอีสาน เมื่อวานที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของอำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ส่งผลชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร จำนวนกว่า 20 ครัวเรือน ได้รับความเสียหาย ทั้งหมดจึงรีบนำถุงยังชีพ จำนวน 50 ถุง ไปเยี่ยวยาช่วยเหลือชาวบ้านเดือดร้อนน้ำท่วมในเบื้องต้น 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top