Thursday, 3 July 2025
NEWS FEED

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จัดทีมลงพื้นที่แจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค ในโครงการฟื้นฟูหลังน้ำลดแก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดอยุธยา อ่างทอง ระยอง และปทุมธานี พร้อมจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ออกตรวจรักษา และแจกจ่ายยารักษาโรคแก่ผู้ประสบภัยฟรี

ระหว่างวันที่ 30 กันยายน - 4 ตุลาคม 65 มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดย นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการ มอบหมายให้นางศิริพร กระจ่างหล้า ผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ฯ จัดทีมเจ้าหน้าที่ และอาสาสมัครมูลนิธิฯ นำโดย นายรัชพร ประสงค์ทรัพย์ รักษาการหัวหน้าแผนกสาธารณภัย ลงพื้นที่แจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค อาทิ ข้าวสาร บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง น้ำมันพืช น้ำปลา ฯลฯ ในโครงการฟื้นฟูหลังน้ำลดแก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อ่างทอง ระยอง และปทุมธานี รวม 4 จังหวัด 2,800 ชุด คิดมูลค่าเครื่องอุปโภคบริโภคทั้งสิ้น 980,000 บาท (เก้าแสนแปดหมื่นบาทถ้วน) โดยมี ผู้แทนจากหน่วยงานรัฐ มูลนิธิฯ / สมาคม ประจำจังหวัดต่างๆ เป็นผู้ประสานงานและร่วมในพิธี รวมถึงอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งในพื้นที่ ร่วมลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย

พร้อมกันนี้ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดย นางสาวเนาวรัตน์ วรรณศิริ หัวหน้าแผนกหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชน นำทีมแพทย์อาสา เจ้าหน้าที่ และอาสาสมัคร ลงพื้นที่ให้บริการประชาชนในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อ่างทอง ระยอง ฟรี ประกอบด้วย บริการตรวจรักษาโรคทั่วไป จ่ายยา คัดกรองเบาหวาน โดยมีประชาชนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก

'โชห่วยโคราช' เผย!! 'ทรานซิสเตอร์' รุ่นฮิตขายดี หลัง 'นายกฯ' แนะเตรียมพร้อมไว้รับเหตุฉุกเฉิน

'วิทยุทรานซิสเตอร์' ยี่ห้อดัง 'ธานินทร์' รุ่นยอดฮิตเริ่มขาดตลาด หลังโชว์ห่วยแห่ซื้อไปขายในชนบท ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า รับกระแสนายกฯแนะนำให้เตรียมไว้ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม

เมื่อ (5 ต.ค. 2565) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้ประชุมผ่านวิดีโอคอนเฟอร์เร้นท์ กับผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย และผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อติดตามและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดต่าง ๆ เมื่อวันที่ 3 ต.ค. ที่ผ่านมา และในตอนหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ในกรณีที่เกิดปัญหาฉุกเฉินระบบการสื่อสารล่ม หน่วยงานราชการต่าง ๆ แจ้งข้อมูลให้ประชาชนทราบได้ยากลำบาก อาจจะต้องใช้วิทยุทรานซิสเตอร์ในการออกอากาศแจ้งเตือนประชาชน เหมือนกรณีเหตุน้ำท่วมใหญ่เมื่อปี 2554 ที่เกิดไฟฟ้าดับหมด และใช้การสื่อสารแจ้งเตือนประชาชนผ่านวิทยุทรานซิสเตอร์ได้ผลมาแล้วนั้น ซึ่งทำให้เกิดกระแสแชร์ต่อเรื่องนี้ในโซเชียลกันอย่างกว้างขวาง จนกลายเป็นไวรัลอยู่ในขณะนี้นั้น

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปที่ร้าน เตีย แซ ฮวด ริมถนนมิตรภาพ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นร้านขายปลีก และขายส่งวิทยุทรานซิสเตอร์เก่าแก่ของเมืองโคราช พบว่ามีลูกค้าซึ่งเป็นร้านโชว์ห่วยจากต่างอำเภอ เดินทางมาเลือกซื้อวิทยุทรานซิสเตอร์เพื่อนำไปขายต่อกันอย่างคึกคัก

โดยนายจิน เซ็ง อายุ 55 ปี เจ้าของร้าน เตีย แซ ฮวด เปิดเผยว่า เดิมทีนั้นร้านของตนเอง เป็นร้านขายปลีกและขายส่งวิทยุทรานซิสเตอร์ ยี่ห้อ 'ธานินทร์' มานานกว่า 30 ปีแล้ว ต่อมาก็เริ่มนำเครื่องใช้ไฟฟ้ายี่ห้ออื่น ๆ มาขายเพิ่ม แต่หากย้อนไปเมื่อ 20 - 30 ปีก่อน วิทยุทรานซิสเตอร์ จะได้รับความนิยมจากลูกค้าเป็นอย่างมาก

โดยเฉพาะวิทยุทรานซิสเตอร์ยี่ห้อธานินทร์ รุ่นTF-268 ซึ่งเป็นรุ่นในตำนาน จะได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะสามารถรับฟังคลื่นวิทยุได้ 2 ระบบ คือระบบ FM และ AM ที่ชาวบ้านจะซื้อไปฟังเพลง ฟังข่าว ตามท้องไร่ ท้องนา ได้อย่างสะดวกสบาย เนื่องจากมีน้ำหนักเบา และคงทน โดยจะนิยมใช้คู่กับถ่านไฟฉายตรากบ

โฆษก ตร. เตือนภัย Fake news รถบรรทุก 10 ล้อ เบรกแตก ชนรวด 26 คัน ช่วงลงเนินกลางดง 

วันนี้ (5 ต.ค.65) เวลา 08.00 น. ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษก ตร. เปิดเผยกรณีการแชร์ Fake news รถบรรทุก 10 ล้อ เบรกแตก ชนรวด 26 คัน ช่วงลงเนินกลางดง ไม่เป็นความจริง 

โดยโฆษก ตร.ให้ข้อมูลว่า ตอนนี้ในบนโซเชียลมีเดียได้มีการแชร์ข่าวเนื้อหา ตามที่มีคลิปแพร่หลายใน โซเชียลมีเดีย (Facebook Live) เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2565 มีเหตุรถชนกันจำนวน 26 เสียชีวิต 41 คน ที่ อ.มวกเหล็ก จว.สระบุรี สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ตรวจสอบคลิปวีดีโอดังกล่าวแล้ว พบว่าเป็นข้อมูลเท็จ กรณีดังกล่าวเป็นเหตุการณ์รถชนกัน 26 คัน มีผู้บาดเจ็บเล็กน้อย 3 คนตั้งแต่ วันที่ 26 เมษายน 2564 เวลา 13.40 น. บริเวณถนนมิตรภาพ กม.36 ต.กลางดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา (เขตสอบสวน สภ.กลางดง) แล้วมีผู้ใช้โชเชียลมีเดีย นำมาลง แล้วพาดหัวว่า เป็นเขต อ.มวกเหล็ก เกิดเหตุวันนี้ (4 ต.ค.65) จึงทำให้เกิดความเข้าใจผิดในหมู่ประชาชน การกระทำดังกล่าวในลักษณะการผลิตและเผยแพร่ข่าวปลอม หรือบิดเบือนข้อมูลข่าวสาร ทำให้เกิดความตื่นตระหนก เกิดความสับสนวุ่นวาย เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14(2), (5) มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

'สุรนันทน์' เน้น ต้องเพิ่มคุณค่าทางจิตใจให้ผู้สูงอายุ ด้วยการสร้างรายได้และส่งเสริมอาชีพที่เหมาะสม

วันที่ (6 ตุลาคม 2565) นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ รองหัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทยและประธานภาคกรุงเทพฯ พร้อมด้วยนายวรวุธ ลีลานภาศักดิ์ ผู้ประสานงานพรรคเขตดินแดง ได้เข้าร่วมการประชุมประจำเดือนของโรงเรียนผู้สูงอายุชุมชนเขตดินแดง ภายใต้ศูนย์บริการสาธารณสุข 4 ดินแดง ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ได้รับรางวัลต้นแบบโรงเรียนผู้สูงอายุกับการพัฒนาที่ยั่งยืนจาก กทม. เพื่อเข้าแนะนำตัวและนำเสนอนโยบายพรรคสร้างอนาคตไทย 

นายสุรนันทน์ กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ดังนั้นเราควรจะจัดให้มีกิจกรรม และหลักสูตรต่าง ๆ สำหรับผู้สูงอายุ โดยที่ภาครัฐต้องให้การสนับสนุน เช่น มีลานกิจกรรมเพื่อสุขภาพ กิจกรรมสันทนาการ และหลักสูตรความรู้ต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับวัย วันนี้เมื่อมาที่นี่และได้เห็นหลักสูตรการเรียนการสอน โดยเรียนสัปดาห์ละ 2 วัน หลักสูตร 555 คือ 5 เดือน 50 ชั่วโมง 5 หมวดวิชา ประกอบด้วย 1. หมวดความรู้ทั่วไป 2. หมวดสุขภาพ 3. หมวดส่งเสริมอาชีพ 4. หมวดกิจกรรมประเพณี วัฒนธรรม 5. หมวดกิจกรรม 

จึงเห็นว่าเป็นสิ่งที่ควรจะผลักดันให้เป็นนโยบายผู้สูงอายุของพรรค โดยยึดที่นี่เป็นต้นแบบ และกระจายออกไปทุก ๆ เขตพื้นที่ของ กทม. และทั่วประเทศ เพื่อส่งเสริมคุณภาพผู้สูงอายุทั้งกาย ใจ จิตวิญญาณและสังคม ให้เกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต

'โซเชียล' สาธุ!! แห่แชร์คลิปหลวงพ่อแขวนอาหารให้หน้าบ้าน หลังโยมไม่ได้ออกมาใส่บาตร เหตุเพราะต้องกักตัว

กลายเป็นอีกเรื่องอิ่มอกอิ่มใจของสังคมไทย เมื่อไม่นานมานี้ ผู้ใช้ TikTok @dr.sarayuth_panmaroeng ได้โพสต์คลิปที่เห็นแล้วอิ่มใจ หลังพระภิกษุนำอาหารมาแขวนไว้ให้ที่หน้าประตู โดยระบุข้อความว่า 'พระมาโปรด'

พร้อมกันนี้ผู้โพสต์ยังได้ระบุข้อความในคลิปอีกด้วยว่า...“ไม่ได้ใส่บาตรท่านช่วงกักตัว พระท่านก็เมตตา นำอาหารมาแขวนหน้าประตู” ซึ่งหลวงพ่อเดินมาบิณฑบาตรแล้วเอาอาหารแขวนไว้ที่ประตูรั้วบ้าน ก่อนจะเดินกลับไป

หลังโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ไป ก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก และรู้สึกดีที่หลวงพ่อช่วยเหลือชาวบ้าน สะท้อนให้เห็นว่าการแบ่งบันเป็นสิ่งดีงามต่อโลกใบนี้จริง ๆ


ที่มา: https://www.tiktok.com/@dr.sarayuth_panmaroeng/video/7149473545469365531

https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_7298126

สัมพันธ์ไมตรีระหว่างมิตรประเทศกับไทย สะท้อนความเป็นกลางสยามไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด

ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เพราะแต่ละประเทศต่างก็มีจุดยืน ภูมิหลังทางประวัติศาสตร์และผลประโยชน์ที่แตกต่างกัน แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาสำหรับประเทศไทย เนื่องด้วยประเทศไทยดำเนินนโยบายเป็นกลาง ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดตลอดมา ด้วยความที่ประเทศไทย มีความเป็นมิตรประเทศกับทุกฝ่าย โดยไม่เลือกข้างเข้ากับฝ่ายใด ทำให้ประเทศไทยได้รับน้ำใจจากมิตรประเทศตลอดมา

ในช่วงเวลาแห่งความยากลำบากจากสถานการณ์การแพร่ระบาดจากโรคติดเชื้อโคโรนาไวรัส 2019 ก็เช่นกัน ที่ประเทศไทย ได้รับความช่วยเหลือด้านวัคซีนจากมิตรประเทศต่าง ๆ ดังต่อไปนี้...

>> จีน
จีนมอบวัคซีน 50.85 ล้านโดส และเวชภัณฑ์เพื่อสนับสนุนมาตรการการป้องกันและรับมือกับโควิด-19 แก่ประเทศไทย มูลค่ากว่า 10 ล้านหยวน

ล่าสุด วันที่ 19 กันยายนที่ผ่านมา จีนยังบริจาค “ห้องปฏิบัติการเคลื่อนที่หัว-เหยี่ยน” ให้กับทางรัฐบาลไทย โดยห้องปฏิบัติการเคลื่อนที่ดังกล่าวเป็นห้องปฏิบัติการที่ถูกต้องตามมาตรฐาน เพื่อใช้ในการตรวจหาเชื้อไวรัสก่อโรค และเพียบพร้อมไปด้วยอุปกรณ์ทั้งด้านเทคนิค และการบริการภายในอย่างครบครัน

>> ญี่ปุ่น
ญี่ปุ่นส่งมอบวัคซีนแอสตร้าเซเนก้า  2,043,100 โดส อีกทั้งยังให้ความช่วยเหลือไทยในการจัดเตรียมอุปกรณ์ในระบบลูกโซ่ความเย็น (Cold Chain System) ซึ่งจำเป็นต่อการขนส่งและเก็บรักษาวัคซีน รวมถึงให้ความร่วมมือในการยกระดับความสามารถการตรวจหา และเฝ้าระวังเชื้อไวรัส การจัดหาอุปกรณ์และอาคารสถานที่ซึ่งจำเป็นต่อการพัฒนายารักษาโรค

>> อังกฤษ 
อังกฤษมอบแอสตร้าเซเนก้า 415,000 โดส อีกทั้งบริษัทแอสตร้าเซเนก้าของอังกฤษ ยังไว้วางใจให้บริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ของประเทศไทย เป็นฐานการผลิตวัคซีนแอสตร้าเซเนก้าในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 

>> สวิตเซอร์แลนด์
สวิตเซอร์แลนด์มอบชุดอุปกรณ์ตรวจ Rapid Antigent จำนวน 1,100,000 ล้านชุด และเครื่องช่วยหายใจ 102 เครื่อง

>> สหรัฐอเมริกา
สหรัฐอเมริกามอบวัคซีนไฟเซอร์ 1.5 ล้านโดส, วัคซีนโมเดอร์นา 1 ล้านโดส และตู้เย็นเก็บวัคซีนจำนวน 200 เครื่อง

'ชาตรี' นายกสมาคมสื่อฯ ประธานรุ่นที่ 13 จัดชุดใหญ่ วปอ.ฟาดแข้งกับ ป.เอกราม

นายชาตรี ทิพยเจือจุน ประธานรุ่นที่ 13 ปริญญาเอกคณะรัฐศาสตร์การเมืองมหาวิทยาลัยรามคำแหง และนายกสมาคมสื่อมวลชน หนังสือพิมพ์ วิทยุ และโทรทัศน์แห่งประเทศไทย จัดแข่งขันฟุตบอลเชื่อมความสัมพันธ์ ระหว่างทีม VIP วปอ. กับ ทีม VIP  Ph.D.(Politics) มหาวิทยาลัยรามคำแหง โดยทีม VIP  Ph.D.(Politics) มหาวิทยาลัยรามคำแหง ซึ่งมี พลเอก ดร.สนธิ บุญยรัตกลิน , ผศ.ดร.วุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ , รศ. ดร. สุรพล ราชภัณฑารักษ์ และทีม VIP วปอ. โดยมี นายถิรชัย วุฒิธรรม , พลเอก เฉลิมชัย สิทธิสาท , พลโท นักรบ บุญบัวทอง และได้รับเกียรติจาก พล.อ.อ.อลงกรณ์ วัณณรถ ผู้บัญชาการทห​ารอากาศ เยี่ยมชมการแข่งขัน ณ สนามฟุตบอล ธูปะเตมีย์ ดอนเมือง กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 1 ต.ค.65 ที่ผ่านมา

นายถิรชัย วุฒิธรรม ประธานกล่าวเปิดงานฟุตบอลเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างทีม VIP วปอ. กับ ทีม VIP  Ph.D.(Politics) มหาวิทยาลัยรามคำแหง (ครั้งที่ 1) จุดเริ่มต้นโครงการ โดย พลตรี อภิชัย วิไลเนตร ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 18 ท่านได้ให้แนวคิดเรื่องนี้ และได้ประสานกับทาง วปอ. ซึ่งมี พลโท นักรบ บุญบัวทอง เป็นผู้รับประสานงานทำให้โครงการนี้เกิดขึ้น 

นายกฯ มอบรางวัลอุตสาหกรรม ประจำปี 2565 ให้ 57 องค์กรคุณภาพ


นายกฯ มอบรางวัลอุตสาหกรรม ประจำปี 2565 ให้ 57 องค์กรคุณภาพ ย้ำรัฐบาลมุ่งยกระดับขีดความสามารถภาคอุตสาหกรรม เพิ่มศักยภาพการแข่งขันของประเทศ ควบคู่สร้างการเติบโตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า วันนี้ (5 ตุลาคม 2565) เวลา 13.30 น. ณ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานพิธีมอบรางวัลอุตสาหกรรม ประจำปี พ.ศ. 2565 จำนวน 57 รางวัล ให้แก่สถานประกอบการที่มีความเป็นเลิศในด้านคุณภาพ ความปลอดภัย การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และพลังงาน รวมถึงความรับผิดชอบต่อสังคม และการพัฒนานวัตกรรมสร้างสรรค์สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อภาคอุตสาหกรรมประเทศ เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่กิจการอุตสาหกรรมอื่น ๆ และเป็นกำลังใจให้ผู้ประกอบการในการสร้างสรรค์สิ่งที่เป็นประโยชน์ให้ประเทศ โดยมีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และนายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ร่วมเป็นเกียรติ สรุปสาระสำคัญภายในงาน ดังนี้

นายกรัฐมนตรีกล่าวชื่นชมกระทรวงอุตสาหกรรม ที่เป็นหน่วยงานหลักด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศ ที่ให้ความสำคัญต่อการยกระดับผู้ประกอบการอุตสาหกรรมไทย ครอบคลุมทั้งโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดย่อม ซึ่งเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ที่สำคัญของรัฐบาลที่จะยกระดับผู้ประกอบการควบคู่กับการพัฒนาอุตสาหกรรมไทย ให้เกิดความสมดุลทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และสามารถก้าวสู่มาตรฐานสากลในเวทีโลก การมอบรางวัลฯ ในวันนี้ ถือเป็นความสำเร็จ และความภาคภูมิใจของคนทำงาน ขณะเดียวกันยังแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่น วิริยะอุตสาหะ ของผู้ประกอบการที่ร่วมสร้างสรรค์ พัฒนาเศรษฐกิจประเทศ ซึ่งเป็นแหล่งสร้างรายได้ให้กับประเทศมากที่สุด และเป็นแหล่งบ่มเพาะความรู้เทคโนโลยีให้ก้าวหน้า สามารถกระจายออกไปสู่ภาคอื่นๆ รวมทั้งรัฐบาลได้ให้ความสำคัญต่อการพัฒนาศักยภาพของอุตสาหกรรมไทยอย่างยั่งยืนและแข่งขันได้ในเวทีโลก โดยได้ดำเนินนโยบายยุทธศาสตร์ประเทศ โดยเฉพาะในด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขันควบคู่ไปกับการสร้างการเติบโตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อให้เกิดการเติบโตอย่างสมดุลและยั่งยืน และเป็นแนวทางที่ทำให้ประเทศมีการพัฒนาอย่างยั่งยืนในทุกมิติ

นายกรัฐมนตรีกล่าวย้ำว่า วันนี้ประเทศไทยกำลังได้รับการจับตามองจากต่างประเทศ โดยเฉพาะในอาเซียน ซึ่งนับว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่เข้มแข็ง สิ่งสำคัญที่สุดคือเราต้องเร่งพัฒนาสิ่งที่มีอยู่แล้ว เพิ่มศักยภาพให้มากขึ้น ทั้งนี้เพื่อเป็นการสร้างรายได้ให้กับประเทศ ให้เป็นประเทศที่พัฒนาในระดับสูง สิ่งที่รัฐบาลวาดหวังคืออุตสาหกรรมไทยต้องเป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาประเทศ ขณะเดียวกันต้องได้รับความร่วมมือจากประชาชนทุกคน และหน่วยงานทุกภาคส่วน เพื่อพลิกโฉมประเทศรองรับคนรุ่นใหม่ ให้มีความมั่นคง มีรายได้ มีความรู้ความสามารถ และมีหลักคิดที่ดี ที่จะทำให้ประเทศของเราเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต 

โซเชียลแห่แชร์!! ชุดพนักงานกวาดถนนใหม่ สีสะท้อนแสง เห็นแต่ไกล ลดอุบัติภัยแก่พนักงาน

แห่แชร์ ชุดพนักงานกวาดถนนใหม่ เทียบแบบเก่า สีสะท้อนแสง ลดเสี่ยงอุบัติเหตุ คนขับแท็กซี่ถึงกับร้อง โอ้โห สีเห็นแต่ไกลขนาดนี้ ยังจะชนอีกให้มันรู้ไป

วันที่ (5 ต.ค. 65) ในโลกออนไลน์มีการแชร์ภาพ ชุดพนักงานกวาดถนนใหม่ เป็นชุดสีสะท้อนแสง ที่นำขวดน้ำพลาสติก มารีไซเคิล เมื่อเทียบกับชุดเก่าแล้ว จะเห็นได้ว่า ชุดพนักงานกวาดถนนใหม่ มีความสว่างและเพิ่มจุดสังเกตในการมองเห็นของผู้ใช้รถใช้ถนน มากกว่าชุดเก่าที่สึค่อนข้างทึบและช่วยลดความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุให้กับผู้ที่ปฏิบัติงานริมถนนอีกด้วย โดยเฉพาะช่วงที่มีแสงสว่างน้อย

โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Van Warit ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความระบุว่า ชุดพนักงานกวาดถนน ใหม่ vs เก่า ถ่ายรูปเก็บไว้ก่อนที่เครื่องแบบพี่ๆ จะเปลี่ยนไป “ชุดใหม่ใส่ก็จะเขิน ๆ อยู่หน่อย ๆ” พี่พนักงานกวาดขยะเขตดินแดงเล่า “โอ้โห สีเห็นแต่ไกลขนาดนี้ ยังจะชนอีกให้มันรู้ไป” พี่คนขับแท็กซี่พูดขึ้นตอนเห็นเครื่องแบบใหม่นี้ด้วยกันครั้งแรก

กรมอุตุฯ ประสาน LINE ไทยแลนด์ เปิดตัวแพลตฟอร์มใหม่ แจ้งเตือนภัยพิบัติ เกาะติดสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

วันนี้ (5 ตุลาคม 2565) เวลา 14.30 น. นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ร่วมเป็นสักขีพยาน ในการลงนามความร่วมมือ (MOU) ระหว่างกรมอุตุนิยมวิทยา กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยฯ และ LINE (ประเทศไทย) เพื่อนำร่องแพลตฟอร์ม LINE Alert บัญชีแจ้งเตือนภัยพิบัติร้ายแรง ซึ่งเริ่มเปิดใช้งานภายในประเทศ ให้คนไทยสามารถเกาะติดสถานการณ์ภัยธรรมชาติได้อย่างทั่วถึงและทันเวลา 

โดยนางสาวชมภารี ชมภูรัตน์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา กรมอุตุฯ มุ่งมั่นในการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการแจ้งเตือนภัยพิบัติ เพื่อสอดรับกับพฤติกรรมการเปิดรับข้อมูลข่าวสาร ที่ประชาชนนิยมสื่อสารผ่านทางสื่อโซเชียลมีเดียและแอปพลิเคชันต่าง ๆ เพื่อให้สามารถเข้าถึงประชาชนได้อย่างรวดเร็ว 

ขณะที่นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวเสริมว่า การแจ้งเตือนภัยพิบัติ ที่ผ่านมา ไม่ค่อยพบปัญหามากนัก ซึ่งคนไทยถือว่าค่อนข้างมีความตื่นตัว ในการรับข้อมูลข่าวสาร และเตรียมพร้อมรับมือตามคำแนะนำ โดยความร่วมมือในครั้งนี้ ของทุกหน่วยงาน ถือเป็นตัวช่วยในอีกระบบ ที่รวดเร็วและสามารถเข้าถึงประชาชนได้เป็นวงกว้าง ถือเป็นช่องทางที่อำนวยความสะดวกในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารด้านภัยพิบัติ ที่เป็นอีกทางเลือกให้กับพี่น้องประชาชน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top