Wednesday, 4 October 2023
NEWS FEED

ดอนทรายโผล่กลางน้ำโขงหลายจุด หลังจีนลดปล่อยน้ำจากเขื่อนจิ่งหง หลังไม่มีการเดินเรือสินค้าจากสกานการณ์โควิด-19 ทำให้ไม่มีการแจ้งเตือนถึงการปล่อยน้ำให้กับกลุ่มประเทศลุ่มน้ำโขง คาดจะกลับมาปล่อยน้ำหลังเทศกาลตรุษจีน

วันที่ 17 ก.พ.64 สถานการณ์ระดับน้ำในแม่น้ำโขง ที่หน้าที่ว่าการอำเภอเชียงแสน จ.เชียงราย พบว่า ระดับน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ. ลึก 2.50 ,11 ก.พ. ลึก 2.50 ,12 ก.พ. ลึก 2.19 ,13 ก.พ. ลึก 1.98 ,14 ก.พ. ลึก 1.92 ,15 ก.พ. ลึก 1.88 ,16 ก.พ. ลึก 1.89 ,17 ก.พ. ลึก 1.84 และยังมีแนวโน้มว่าจะยังคงมีระดับลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดดอนทรายผุดขึ้นมากลางแม่น้ำโขงหลายจุด ทำให้เรือขนาดใหญ่ไม่สามารถผ่านได้ ซึ่งการขึ้นลงของระดับน้ำในแม่น้ำโขง ทางปลายน้ำไม่ได้รับแจ้งมาเหมือนก่อนหน้านี้

จากเดิมที่ศูนย์ควบคุมแม่น้ำล้านช้าง เขื่อนจิ่งหง เขตปกครองตนเองชนชาติไต สิบสองปันนา มณฑลยูนนาน ไปทางทิศเหนือประมาณ 400 กิโลเมตร จะรายงานการระบายน้ำออกจากเขื่อนให้กับเรือที่เป็นสมาชิกกับองค์กรเดินเรือในมณฑลยูนนาน เพื่อให้คนเดินเรือได้เตรียมพร้อม แต่ในช่วง 7 - 8 เดือนที่ผ่านมา ทางศูนย์ควบคุมแม่น้ำล้านช้าง ไม่มีการแจ้งข้อมูลให้แก่สมาชิกที่อยู่นอกประเทศ ส่งผลให้การเดินเรือเป็นไปอย่างยากลำบาก เนื่องจากไม่สามารถคาดคะเนได้ว่าระดับน้ำจะขึ้นหรือลงอย่างไร

ก่อนหน้านั้นศูนย์ดังกล่าวจะมีการแจ้งข้อมูลพื้นฐานให้ทราบ โดยในช่วงเวลาปกติจะมีการปล่อยน้ำจากเขื่อนในอัตรา 1,200 - 1,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และในฤดูน้ำหลากจะปล่อยน้ำในอัตรา 2,000 - 3,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่วนการปล่อยน้ำในฤดูแล้งอาจจะต่ำกว่า 1,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

น.ส.ผกายมาศ เวียร์รา รองประธานหอการค้า จ.เชียงราย กล่าวว่า ตามปกติเขื่อนจิ่งหงจะลดการปล่อยน้ำในช่วงเทศกาลสำคัญต่าง ๆ ซึ่งในช่วงนี้ก็เป็นช่วงเวลาเทศกาลตรุษจีน ทำให้ระดับน้ำแห้งลง แต่ปีนี้ถือว่าระดับน้ำแห้งกว่าทุกปี ล่าสุดได้นำเรือท่องเที่ยวที่กินน้ำลึกเพียง 80 ซ.ม.พบว่าใต้เรือยังตีทรายที่ใต้ท้องน้ำ ดังนั้นกรณีเป็นเรือสินค้าแทบเป็นไปไม่ได้เลย โดยเฉพาะ

จุดสำคัญ ๆ ที่ขึ้นชื่อเรื่องหาดทรายที่ตื้นเขิน เช่น มองป่าแหลว ชายแดนประเทศเมียนมา - สปป.ลาว ส่วนสาเหตุที่ไม่มีการแจ้งข้อมูลจากศูนย์ควบคุมแม่น้ำล้านช้างนั้น คงเกิดจากการที่ยังปิดท่าเรือกวนเหล่ยตามมาตรการป้องกันไวรัสโควิด-19 ของประเทศจีนติดต่อกันมานานหลายเดือน ทำให้ไม่มีเรือขนส่งสินค้าจีนในแม่น้ำโขงตั้งแต่ชายแดนที่ติดกับเมียนมาและ สปป.ลาว จนถึงท่าเรือของ สปป.ลาว เหลือเพียงท่าเรือไทยและเมียนมา ซึ่งกรณีของเมียนมาก็หันมาใช้การขนส่งสินค้าทางบกแทน คาดว่าหากจีนกลับมาเปิดท่าเรือและมีเรือสินค้าก็จะกลับมาแจ้งข้อมูลระดับน้ำเหมือนเดิม


ณัฐวัตร ลาพิงค์/เชียงราย

จากเฟซบุ๊ก 'Arak Wongworachat' หรือ นพ.อารักษ์ วงศ์วรชาติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เผยเคสของผู้ป่วยหญิงอายุ 60 ปี ที่มาโรงพยาบาลด้วยเหตุเปลือกกุ้งแทงติดหลอดอาหาร ซึ่งเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจอย่างมากของผู้ที่ชอบทานกุ้งทั้งเปลือก

#แกงส้มกุ้งเป็นเหตุเปลือกกุ้งแทงติดหลอดอาหาร

เคสน่าสนใจผู้ป่วยหญิงอายุ 60 ปี

ในขณะรับประทานอาหารกับครอบครัว เมนูเด็ดแกงส้มกุ้ง ดอกแค ข้าวสวยร้อนๆ ที่สำคัญคือกุ้งขนาดกลางๆ ไม่ได้แกะเปลือกออก มีหัวกุ้งติดอยู่ด้วย ระหว่างรับประทานอาหารอย่างเพลิดเพลิน

ถอดหัวกุ้งออกแต่ลำตัวยังติดเปลือกติดหาง ตัวแรก ตัวที่สองผ่านไปสบาย เคี้ยวได้อย่างเอร็ดอร่อย ตัวถัดไปคงเคี้ยวไม่ดี พอกลืนลงไปเหมือนมีอะไรติดคอ ตรงตำแหน่งลูกกระเดือก พยายามปั้นข้าวเป็นก้อนกลืนลงไป ยิ่งกลืนยิ่งปวดมากขึ้นเรื่อยๆ ดื่มน้ำตามก็ปวด กลืนน้ำลายก็ปวด อยู่เฉยๆก็ปวด ความอร่อยหายไปทันที จึงไปนั่งพักเผื่อว่าจะดีขึ้น แต่อาการกลับรุนแรงมากขึ้น จนไม่กล้ากลืนน้ำลาย ต้องบ้วนน้ำลายทิ้งแทน ญาติจึงรีบนำส่งโรงพยาบาลสิชล

ผู้ป่วยเข้าห้องฉุกเฉิน พยาบาลซักประวัติ วัดสัญญานชีพ ประเมินความเจ็บปวด ให้ระดับ 10 เต็ม 10 ถือเป็นความเจ็บปวดระดับสูงสุด จึงให้พบแพทย์เวร ส่องในลำคอไม่พบสิ่งแปลกปลอมใดๆ จึงสั่งเอกซเรย์ทั่วไปด่วนที่ลำคอและฉีดยาแก้ปวดให้ไปก่อน ให้ผู้ป่วยงดอาหารและน้ำ แพทย์เวรตามไปดูผู้ป่วยที่ห้องเอกซเรย์ เผื่อว่าไม่เห็นอะไรจะได้ส่งเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ต่อเนื่องไปเลย

แต่เมื่อดูจากเอกซเรย์เบื้องต้นพบว่ามีเงาทึบแสงสีขาวๆ ตามภาพรังสีในวงกลมขนาดประมาณ2.5ซม. ขวางอยู่ที่หลอดอาหารส่วนบน จึงรีบนำตัวผู้ป่วยกลับห้องฉุกเฉิน ให้น้ำเกลือ ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้าน หู คอ จมูก ให้ส่งเข้าห้องผ่าตัดทันที

เนื่องจากผู้ป่วยรับประทานอาหารมาเพียง 2 ชั่วโมง วิสัญญีแพทย์ต้องใส่ท่อช่วยหายใจวิธีพิเศษเพื่อไม่ให้สำลักในระหว่างดมยาสลบเพื่อส่องกล้องไปในหลอดอาหาร เมื่อส่องกล้องเข้าไปพบว่ามี 'เปลือกกุ้งสีเหลือง' แทงติดอยู่ที่หลอดอาหารในแนวขวางตรงตำแหน่งหูรูดระหว่างลำคอกับหลอดอาหาร จึงค่อยๆสอดใส่เครื่องมือคืบออกมาได้สำเร็จ มีการตรวจดูโดยละเอียดว่าไม่มีชิ้นส่วนอื่นตกค้าง ฉีดน้ำล้าง ให้ยาต้านเชื้อ5วัน หลังติดตามการรักษา หายเป็นปกติ

ถือเป็นการรักษาภาวะสิ่งแปลกปลอมในหลอดอาหารที่มีความยุ่งยากซับซ้อน ต้องระมัดระวังในทุกขั้นตอน ความพร้อมของทีมแพทย์ พยาบาล สถานที่ เครื่องมือแพทย์ ก็สำคัญมากๆ

เป็นบทเรียนให้กับทุกท่านที่ชอบกินกุ้งตัวโตทั้งเปลือกต้องระวังให้มาก ควรหลีกเลี่ยง

ขอบคุณภาพ จากคุณหมอผู้เชี่ยวชาญด้านหู คอ จมูก โรงพยาบาลสิชล


ที่มา: https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=4089425834409585&id=100000266267821

‘อนุทิน’ ชี้นายกฯ ได้ฉีดวัคซีนคนแรกหรือไม่อยู่ที่คณะกรรมการพิจารณา ยันกำหนดการบริษัทซิโนแวคฯ ส่งวัคซีนป้องโควิด-19 ล็อตแรกถึงไทย 24 ก.พ.

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงการจัดส่งวัคซีนป้องกันโวรัสโควิด-19 จากบริษัทซิโนแวค ไบโอเทค จำกัด ล็อตแรกที่จะมาถึงประเทศไทยในวันที่ 24 ก.พ.นี้ยังเป็นตามกำหนดเดิมหรือไม่ว่า เขากำหนดเวลานี้ โดยเราได้รับแจ้งจากผู้ผลิตวัคซีนว่าจะจัดส่งมาวันไหนและเครื่องบินไฟท์ไหน เมื่อมาถึงจะรีบนำเข้าสู่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เพื่อตรวจมาตรฐานการผลิต เราได้มีการเตรียมพร้อมเอาไว้แล้ว ส่วนบุคคลที่จะได้รับวัคซีนเป็นกลุ่มแรกจะเป็นกลุ่มใด คณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติจะเป็นผู้พิจารณา

เมื่อถามว่า ประชาชนยังมีความไม่มั่นใจต่อการฉีดวัคซีนเพราะเป็นเรื่องใหม่ นายกรัฐมนตรีจะเป็นคนแรกที่ได้รับวัคซีนหรือไม่ เพื่อสร้างความมั่นใจ นายอนุทิน กล่าวว่า "ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะกรรมการฯ เพราะในการฉีดวัคซีนจะมีคำแนะนำบางส่วนอยู่ หากทำไม่ได้ก็ไม่ควรทำ ซึ่งไม่ควรเอาชีวิตคนมาเสี่ยง"

เมื่อถามถึงกรณีที่เคยระบุว่าจะอาสาเป็นผู้ฉีดวัคซีนเข็มแรก นายอนุทิน กล่าวว่า "หากแพทย์ยินดีที่จะฉีดให้ตนก็ยินดี แต่ไม่สำคัญว่าต้องเป็นเข็มแรกหรือเข็มสอง"

เมื่อถามว่า จะยังไม่มีการฉีดวัคซีนให้กับคนที่มีอายุ 60 ขึ้นไปหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า "วัคซีนจากบริษัทซิโนแวคฯ มีการระบุว่า ยังไม่เคยทดลองกับมนุษย์ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปมากเพียงพอ เรื่องนี้จึงไม่ควรใช้สปิริตหรือความแกร่งมาวัด แต่ต้องทำให้ดีที่สุด"

กรุงเทพมหานคร กำลังจะมีปอดใหญ่ใจกลางกรุงแห่งใหม่ จาก ‘อดีตสนามม้านางเลิ้ง’ ที่กำลังจะถูกเปลี่ยนเป็น ‘สวนสาธารณะ’ ที่จะเพิ่มพื้นที่สีเขียว 216 ไร่ พร้อมเปิดปี 2565

เพจเฟซบุ๊ก ‘โบราณนานมา’ ได้เปิดเผยภาพ ‘อดีตสนามม้านางเลิ้ง’ ที่กำลังจะถูกเปลี่ยนเป็น ‘สวนสาธารณะ’ ขนาดใหญ่ พร้อมระบุว่า

จาก “สนามม้านางเลิ้ง” สู่ “สวนสาธารณะ ๒๑๖ ไร่”

“ราชตฤณมัยสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์” หรือที่รู้จักกันว่า “สนามม้านางเลิ้ง” ก่อตั้งโดย “พระยาประดิพัทธภูบาล” และ “พระยาอรรถการประสิทธิ์” ทำหนังสือขึ้นทูลเกล้าฯ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต ก่อตั้ง “สโมสรสนามม้าแข่งเพื่อบำรุงพันธุ์ม้า” โดยถวายที่ดินของ “กรมอัศวราช” เป็นสถานที่แข่งขัน ซึ่งต่อมามีพระบรมราชานุญาตพร้อมพระราชทานนามว่า “ราชตฤณมัยสมาคมแห่งกรุงสยาม

อีกทั้ง ทรงรับไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์ เมื่อ ๑๘ ธันวาคม ๒๔๕๙ รวมไปถึงพระองค์ยังทรงส่งม้าในคอกของพระองค์เข้าร่วมแข่งอีกด้วย สมาคมฯ ทำหน้าที่ในการดำเนินกิจการแข่งม้า จัดทำทะเบียนประวัติม้า เจ้าของและผู้ที่เกี่ยวข้อง ส่วนการแข่งขันจะจัดขึ้นในวันอาทิตย์เว้นอาทิตย์ สลับกันกับ “ราชกรีฑาสโมสร”

ปัจจุบันสัญญาเช่าได้ครบกำหนดอายุสัญญาเช่ามานานแล้ว สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ จำเป็นต้องใช้ที่ดินและอาคารดังกล่าว จึงไม่สามารถให้เช่าได้อีกต่อไป ซึ่งสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ได้ประสานและแจ้งบอกเลิกสัญญาเช่า “สนามม้านางเลิ้ง” และขอให้ส่งมอบสถานที่เช่าคืน และในเดือนมีนาคม ๒๕๖๒ ได้ทำการรื้อถอน “สนามม้านางเลิ้ง”

โดยหลังจากนี้ “อดีตสนามม้านางเลิ้ง” จะถูกเปลี่ยนเป็น “สวนสาธารณะ” ที่จะเพิ่มพื้นที่สีเขียวในกรุงเทพมหานคร ในโครงการนี้มี

๑. สวนสาธารณะประมาณ ๒๑๖ ไร่

๒. พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ ๙

๓. จอดรถใต้ดิน ๓ ชั้น รองรับรถยนต์ ๗๐๐ คัน

๔. ร้านค้าของ “ชุมชนนางเลิ้ง”

๕. อาคารจอดรถโรงพยาบาลรามาธิบดี

สวนสาธารณะแห่งนี้ คาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดให้ใช้บริการ ภายในปี ๒๕๖๕


ที่มา : เพจ โบราณนานมา

https://web.facebook.com/boraannaanma/photos/a.1721168658137287/2790303887890420/?_rdc=1&_rdr

เด็กไทยวัย 18 ปี เจ๋ง!! คิดค้นเว็บไซต์ Thaitube ทางเลือกใหม่สำหรับคนไทยในการรับชมคลิปวิดีโอ แบบไม่มีโฆษณาคั่น ตั้งใจสร้างสรรค์แบบไม่หวังผลการค้า

ผู้สื่อข่าวจังหวัดอ่างทองลงพื้นที่พบกับนายพงศ์ปณต ไพรัชเวชภัณฑ์ อายุ 18ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดัง ชั้นปีที่ 2 ชาวอ่างทอง มีความสามารถในการผลิตเว็บไซต์ ไทยทูบ ThaiTube.in.th ที่เป็นเว็บไซต์ในรูปแบบคล้ายยูทูบ แต่เว็บไทยทูบนั้นผลิตโดยเด็กไทย เป็นเว็บ www.thaitube.in.th หรือจะเรียกสั้น ๆ ว่าไทยทูบ

นายพงศ์ปณต หรือน้องเบส เล่าให้ฟังว่า ที่เกิดไอเดียในการสร้างเวบไทยทูบขึ้นมานั้นเกิดจากอยากให้เป็นทางเลือกใหม่ของคนไทย ที่สามารถลงคลิปวิดีโอและดูวิดีโอได้โดยไม่มีการแทรกโฆษณา ซึ่งคลิปที่ลงในเว็บไซต์ไทยทูบจะไม่มีการโฆษณาเลย และเนื้อหาวิดีโอที่นำลงในเว็บไซต์ไทยทูบก็จะดูได้อย่างต่อเนื่องไม่มีโฆษณาแทรก

ซึ่งเป็นการผลิตขึ้นมาโดยไม่หวังผลในการค้ากำไรแต่อย่างใด เป็นการสนับสนุนให้ใช้โดยไม่มีการคิดค่าใช้จ่าย เพียงแค่เราพิมพ์เข้าไปว่า www.thaitube.in.th และใช้งานทั้งดูวิดีโอหรืออัพวิดีโอขึ้นในแพลตฟอร์มต่อไป


ที่มา: https://www.thaipost.net/main/detail/93081

ทางการท้องถิ่นกรุงปักกิ่ง ใจป้ำ เจียดเงินราว 31 ล้านบาท จ่ายแรงงานต่างถิ่นประมาณ 1.7 หมื่นคน ที่เลี่ยงเดินทางกลับบ้านเกิด ช่วงวันหยุดยาวเทศกาลตรุษจีน

ทางการท้องถิ่นกรุงปักกิ่งของจีน เปิดเผยว่า ปักกิ่งมอบเงินอุดหนุนราว 6.8 ล้านหยวน (ประมาณ 31 ล้านบาท) แก่แรงงานก่อสร้างต่างถิ่นประมาณ 17,000 คน ซึ่งตัดสินใจหลีกเลี่ยงการเดินทางกลับบ้านเกิดและพักอาศัยอยู่ในเมือง ระหว่างวันหยุดเทศกาลตรุษจีน

ทั้งนี้ แรงงานต่างถิ่น จะได้รับเงินอุดหนุน 400 หยวน (ประมาณ 1.800 บาท) ต่อคน จากคณะกรรมการเคหะและการพัฒนาเมือง - ชนบทเทศบาลนครปักกิ่ง

นอกจากนั้น คณะกรรมการฯ ยังจัดกิจกรรมหลากหลายสำหรับกลุ่มแรงงาน อาทิ การแข่งขันกีฬา พร้อมกำหนดให้มีมาตรการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) อันเข้มงวดในบริเวณสถานที่ก่อสร้าง ตลอดจนกระชับงานรับมือเหตุการณ์ฉุกเฉินด้วย


ที่มา : https://www.xinhuathai.com/china/178050_20210216?fbclid=IwAR3dzWgfOzIG0mNHPOx1DQhDbJtMt7p6xOYiMSW5Mthkwl8GPXV80DXYeIc

นิตยสาร CEO World จัดอันดับประเทศที่มีมรดกทางวัฒนธรรมจนทรงอิทธิพลที่สุดในโลก ประจำปี 2021 ได้ให้ประเทศไทย #Thailand อยู่ในอันดับที่ 5 และเป็นอันดับ 2 ของเอเชีย เป็นรองแค่อินเดียเท่านั้น

โดยใช้หลักเกณฑ์การวัดจาก สถาปัตยกรรม, มรดกทางศิลปะ, แฟชั่น, อาหาร, ดนตรี, วรรณกรรม, ประวัติศาสตร์, สถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม และ ความสามารถในการเข้าถึงทางวัฒนธรรม

พร้อมระบุว่า... #ประเทศไทย : เมื่อเราพูดถึงประเทศที่ร่ำรวยด้วยมรดกทางวัฒนธรรม ชื่อแรกที่ปรากฏในใจของเราคือ “ประเทศไทย” แม้ว่าประเทศไทยจะเป็นที่ตั้งของชายหาดที่สวยงาม มีวัฒนธรรมที่น่าสนใจ และสถานบันเทิงยามค่ำคืน แต่ก็ยังมีความโดดเด่นในด้านมรดกทางวัฒนธรรมที่สวยงาม

เพราะมีสถานที่มากมายทั่วประเทศไทยที่มีความอุดมสมบูรณ์ของวิถีชีวิตในหมู่บ้าน อิทธิพลของประเพณีท้องถิ่นและวัฒนธรรมที่สวยงามยังหลงเหลืออยู่ ตั้งแต่สุโขทัย อยุธยา จนถึงบ้านเชียง นักท่องเที่ยวต่างหลั่งไหลไปยังสถานที่เหล่านี้เพื่อชื่นชมประวัติศาสตร์อันเก่าแก่ของวัฒนธรรมไทย


Cr: ภาพจากเพจ Asian SEA Story

https://ceoworld.biz/2021/01/31/best-countries-for-cultural-heritage-influence-2021/

นายกรัฐมนตรีมุฮ์ยิดดิน ยัซซิน ของมาเลเซีย กล่าวว่า มาเลเซียจะได้รับวัคซีนป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ล็อตแรก ซึ่งเป็นวัคซีนที่ผลิตโดยบริษัทไฟเซอร์ของสหรัฐและไบโอเอ็นเทค ของเยอรมนี

ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์นี้ และจะเริ่มการฉีดวัคซีนให้ประชาชนได้หลังจากนั้น 5 วันหรือวันที่ 26 กุมภาพันธ์

ทั้งนี้ ตัวเขาจะเป็นคนแรกของประเทศที่เข้ารับการฉีดวัคซีนด้วย

สำหรับการฉีดวัคซีนอย่างกว้างขวางนี้ มีเป้าหมายในการทำให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ในชุมชนเพื่อที่จะได้สามารถควบคุมการระบาดของโควิด-19 ในประเทศได้และทำให้การระบาดของโควิดสิ้นสุดลง มาเลเซียพบผู้ติดโควิด-19 เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากที่ก่อนหน้านี้สามารถควบคุมการระบาดได้ดีในช่วงปีที่แล้ว

รัฐบาลรายงานพบผู้ติดเชื้อสะสมมากกว่า 260,000 ราย ซึ่งมากที่สุดเป็นอันดับ 3 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รองจากอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ และพบผู้เสียชีวิต 975 ราย มาเลเซียตั้งเป้าหมายฉีดวัคซีนให้ได้อย่างน้อยร้อยละ 80 ของประชากรที่มีอยู่ทั้งหมด 32 ล้านคนภายใน 1 ปี

และขณะนี้มีข้อตกลงซื้อวัคซีนได้มากเกินความต้องการที่จะบรรลุเป้าหมายแล้ว นอกจากข้อตกลงซื้อวัคซีนจากไฟเซอร์และไบโอเอ็นเทคแล้ว มาเลเซียยังมีข้อตกลงกับแอสตราเซเนกาของอังกฤษ สถาบันวิจัยกามาเลยา ของรัสเซีย บริษัทซิโนแวค ไบโอเทค และแคนซิโน ไบโอลิจิกส์ ของจีน


ที่มา: https://www.naewna.com/inter/553239

เปิดเส้นทางการท่องเที่ยวใหม่ในประเทศปากีสถาน ถนนสู่ยอดเขา ‘Passu Cones Trails’ ส่งนักท่องเที่ยวสู่การเดินเขาผจญภัยที่แท้จริง

คอลัมน์ ริมทางถนนคาราโครัมไฮเวย์

สายขาแรง รักการผจญมาทางนี้ เพราะครั้งนี้จะพาไปชมเส้นทางเดินสู่เขา Passu Cones Trek ที่เขตโกจาล ประเทศปากีสถานค่ะ ที่นี่ไม่มีการแพร่ระบาดของ Covid 19 การท่องเที่ยวเลยคึกคักเป็นพิเศษ

เมื่อวานคุณพ่อสามีไปเปิดงาน สร้างถนนและเส้นทางเดินเขา Passu Cones Trek คุณพ่อเป็นผู้มีอิทธิพลของพาสสุ ท่านจะถูกเชิญไปร่วมเปิดงานของหมู่บ้านตลอด และคุณพ่อเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องทำพิธีแบบโบราณของคนวาคี(ชาวเมืองพื้นถิ่น) และได้รับการเคารพนับถืออย่างมาก

การเปิดถนนสู่ยอดเขา Passu Topupadan “Passu Cones Trails′′ ตั้งอยู่ในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงหมู่บ้าน Passu 

ซึ่งในการเปิดเส้นทางสายผจญภัยครั้งนี้ มีบุคคลระดับสููงมาร่วมมากมาย  ไม่ว่าจะเป็นท่านผู้ช่วยผู้บัญชาการ Gujal Muhammad Zulqarnain Khan GBRSPK Amjad Wali หัวหน้า PDO  Pakhtunkhwa Development Organization และเจ้าหน้าที่ของ PHSU Youth and Sports Organization

รวมไปถึงผู้นำหมู่บ้าน รวมทั้งสมาชิกของคณะกรรมการอนุรักษ์ PHSU ที่ได้ร่วมไม้ร่วมมือเพื่อทำเส้นทางการท่องเที่ยวใหม่ เส้นทาง Passu Cones Trails ที่มุ่งพัฒนานักท่องเที่ยวไปยังแหล่งท่องเที่ยว ตลอดจนส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวเข้าถึง Passu Cones และการเดินเขาผจญภัยที่แท้จริง

จะบอกเลยตอนนี้โซนโกจาล แต่ละหมู่บ้านพร้อมที่จะเปิดเส้นทางเดินเขาและนำเสนอความสวยงามของหมู่บ้านของตัวเอง แค่เฉพาะในเขตโกจาลยังแข่งขันกันเองแล้ว เพราะที่นี่ไม่มีการแพร่ระบาดของ Covid ค่ะ และด้วยเหตุนี้ จึงทำให้กระทรวงท่องเที่ยวของปากีสถาน ให้การสนับสนุนการท่องเที่ยวในโซนนี้ มั่นใจเลยว่า เกิดแน่นอน และเป็นกำไรของนักท่องเที่ยวเต็มๆ

Inauguration of the road to the Phasu Topupadan Peak “Passu Cones Trails′′ located in the famous tourist place Phasu Topupadan Phasu village. Assistant Commissioner Sub Division Gujal Muhammad Zulqarnain Khan GBRSPK Amjad Wali, Heads of PDO and officials of PHSU Youth and Sports Organization. Village leaders including the members of the PHSU Conservation Committee did it collectively. The Passu Cones Trail is a km long track aimed at improving tourists to tourist destinations as well as promoting tourists access to Passu Cones and adventure sports


กุลไลล่า

ไกด์สาวชาวไทย​ สะใภ้​ปากี​สถาน จากหัวหิน​พบรักหนุ่มปากีเชื้อสายวาคี อาศัยอยู่เมืองพาสสุ​ ดินแดนเหนือสุดของประเทศปากีสถาน ปัจจุบันเปิดร้านอาหารริมถนนคาราโครัมไฮเวย์​ ถนนที่ได้รับการขนานนามว่าสูงที่สุดในโลก​ หรือเส้นทางสายแพรไหมในอดีต​

คอยต้อนรับแขกที่ผ่านทางมา​ แวะกินอาหารไทย​และชิมชา​ เบเกอรี่ชื่อดัง​ ทางเหนือของปากีสถานได้​ พร้อมให้บริการท่องเที่ยวปากีสถาน​หลังโควิด​-19 ผ่านไป

ศชอ. ยื่นหนังสือแจ้งจับ "อั่งอั๊ง โอปิลันธน์" หลานสาว "ธนาธร" โพสต์ทวิตเตอร์หมิ่นเบื้องสูง ด้านปอท. ขอตรวจสอบก่อน หากเข้าข่ายส่งฟ้องศาลแน่ กระทบจิตใจคนไทยผู้จงรักภักดี

จากกรณีที่ศูนย์ช่วยเหลือด้านกฎหมายผู้ถูกล่วงละเมิด (Bully) ทางสังคมออนไลน์ หรือ ศชอ. กำลังรวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินคดีต่อ น.ส.อัครสร โอปิลันธน์ หรือ อั่งอั๊ง บุตรสาว นางชนาพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ ซึ่งเป็นบุตรสาวคนโตของ นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ และยังมีศักดิ์เป็นหลานสาว นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำคณะก้าวหน้า และอดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่

ในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 หลังทวิตเตอร์ @AngAngOpilan โพสต์ข้อความเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างผู้ชุมนุมกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า คณะราษฎร 2563 กับตำรวจ ที่หน้าศาลฎีกา เมื่อวันที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยพาดพิงถึงพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๑๐ ในลักษณะอันมิบังควร ภายหลังเจ้าตัวได้ลบข้อความไปแล้ว แต่ก็มีชาวเน็ตบันทึกภาพหน้าจอข้อความดังกล่าวเอาไว้ได้ ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด ที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ตัวแทน ศชอ. นำเอกสารกรณีดังกล่าวมามอบให้กับ พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบก.ปอท.) เพื่อดำเนินการสืบสวนสอบสวนว่าเข้าข่ายกระทำความผิดตามมาตรา 112 หรือไม่ หากเข้าข่าย ปอท. จะเร่งรีบทำสำนวนเพื่อส่งฟ้องศาลต่อไป เนื่องจากเป็นเรื่องที่กระทบจิตใจพสกนิกรผู้ที่มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างรุนแรง

ส่วนนายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า "ผลกรรมมันเป็นเหมือนบูเมอแรง ที่ตี๋หนึ่งขว้างไปแล้วหลานตัวเองติดกับดักนั้นด้วย บูมเมอแรงแห่งกรรมที่หลอกให้คนหลงผิดกำลังเหวี่ยงเข้าสู่ลูกหลาน แม่และน้องของตัวเองแล้ว น่าสงสัยคนรุ่นหนุ่มสาวที่น่าจะมีอนาคตสดใส"


ที่มา : https://mgronline.com/onlinesection/detail/9640000015547


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top