Saturday, 27 April 2024
THE STATES TIMES TEAM

ขอนแก่น- เฝ้าระวังป้องกันอุบัติเหตุการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ผู้ว่าฯย้ำชัดมาตรฐานความปลอดภัยด้านสาธาณสุขต้องเข้มงวด

เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 10 เม.ย.2564 บริเวณสวนประตูเมืองขอนแก่น ริม ถ.มิตรภาพ เขตเทศบาลนครขอนแก่น นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ ที่ปฏิบัติงานในศูนย์บริการประชาชนภงตามโครงการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ประจำปี 2564 ซึ่งเทศบาลนครขอนแก่นร่วมกับภาคีเครือข่ายได้ร่วมกันจัดขึ้นยังจุดนี้ขึ้นอย่างเป็นทางการ เพื่อลดการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินจากการเกิดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้

นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการให้ประชาชนตระหนักถึงความปลอดภัยบนท้องถนน ซึ่งจุดบริการดังกล่าวนี้เน้นการอำนวยความสะดวกแก่ผู้สัญจรผ่านไปมาโดยมีจุดตรวจจุดบริการประชาชนที่อยู่ในความดูแลของเทศบาลนครขอนแก่น มี 2 แห่ง ซึ่งจุดนี้เป็นจุดแรก จุดที่สองอยู่บริเวณ ด้านหน้าโรงเรียนเทศบาลบ้านหนองใหญ่ ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน เทศบาลนครขอนแก่นปฏิบัติหน้าที่บริการประชาชนตลอด 24 ชั่วโมงร่วมกับเจ้าหน้าที่ของมณฑลทหารบกที่ 23 ค่ายศรีพัชรินทร์,สถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่นและมูลธิสว่างขอนแก่นสามัคคีอุทิศด้วย

"ขอขอบคุณที่ทุกคนที่ได้เสียสละเวลาส่วนตัวที่จะต้องอยู่กับครอบครัวเพื่อมาปฏิบัติหน้าที่เพื่อส่วนรวมในช่วงเทศกาลเช่นนี้และได้เน้นย้ำมาตรการส่วนบุคคลในการที่จะให้บริการประชาชนในช่วงของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เพราะแม้จะมีประชาชนเข้ามาใช้บริการ ก็ยังคงต้องดำเนินการป้องกันที่ทางราชการกำหนด คือ การเว้นระยะห่าง บริการเจลล้างมือแอลกฮฮอร์ ตรวจวัดอุณภูมิ เพื่อความปลอดภัยกับทั้งผู้ให้บริการและผู้มาใช้บริการเอง ควบคู่ไปกับการบริการเพื่อลดความเหนื่อยล้าจากการขับขี่ยวดยานหรือบริการอื่น ๆ ที่ประชาชนได้เข้ามาใช้บริการด้วย"

ชลบุรี - เจ้าท่าพัทยา บรูณาการร่วมทุกภาคส่วน เปิดศูนย์อำนวยความสะดวกและความปลอดภัยทางน้ำร่วมเทศกาลสงกรานต์ ควบคุมดูแล การขนส่งทางน้ำแกประชาชนและนักท่องเที่ยว

ที่ ท่าเทียบเรือพัทยาใต้ แหลมบาลีฮาย นายพิสุทธิ์ อมรยุทธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 6 เป็นประธานเปิดโครงการศูนย์อำนวยความสะดวกและปลอดภัยทางน้ำร่วม เทศกาลสงกรานต์ ระหว่าง 10-16 เมษายน 2564 พร้อมด้วย นายรณกิจ เอกะสิงหห์ รองนายกเมืองพัทยา นายเอกราช คันธโร ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าส่วนภูมิภาค สาขาพัทยา ตัวแทนกองบังคับการตำรวจน้ำ ตัวเทนมูลนิธิสว่างบริบูณ์เมืองพัทยา เครือข่ายอาสาวารี และเจ้าหน้าที่เทศกิจเมืองพัทยา เข้าร่วมเปิดโครงการอย่างพร้อมเพรียง 

นายพิสุทธิ์ อมรยุทธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 6 กล่าวว่า ด้วยระหว่างวันที่ 10-16 เมษายน เป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์ และมีวันหยุดยาวต่อเนื่องหลายวันคาดว่าจะมีประชาชน นักท่องเที่ยว เดินทางมาตามแหล่งท่องเที่ยวทางน้ำ และชายทะเลเป็นจำนวนมาก อีกทั้งคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติได้ประกาศให้โรคโควิด-19 เป็นโรคติดต่ออันตราย กรมเจ้าท่าจึงได้มีมาตรการเพื่อความปลอดภัยและมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยได้จัดตั้งศูนย์อำนวยความปลอดภัยทางน้ำ และจุดอำนวยความสะดวกและประชาสัมพันธ์ทางน้ำประจำท่าเทียบเรือ พร้อมทั้งเข้มงวดกวดขันในการปฏิบัติให้เป็นไปตามแผนการปฏิบัติมาตรการเพื่อความปลอดภัย และมาตรการป้องกันโควิด-19

อีกทั้ง เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมทั้งในด้านบุคลากรและกระบวนการทำงานร่วมกันของแต่ละหน่วยงาน เพื่อกับควบคุมดูแล และอำนวยความสะดวกปลอดภัยด้านการขนส่งทางน้ำ ตรวจสอบสภาพเรือและอุปกรณ์เครื่องใช้ต่าง ๆ ภายในเรือให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อสร้างมาตรฐานที่ดีให้แก่ผู้ควบคุมเรือ คนประจำเรือ และท่าเทียบเรือ สถานีขนส่งทางน้ำในพื้นที่ รวมถึงการจัดระเบียบการจราจรทางน้ำให้เกิดความสะดวกปลอดภัยสูงสุดต่อชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานต่าง ๆ ในการสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ในการดำเนินการประกอบด้วย ตำรวจน้ำ ฝ่ายกูเภัยทางทะเลและชายฝั่ง เมืองพัทยา หน่วยกู้ภัยสว่างบริบูรณ์ และเครือข่ายอาสาวารี รุ่นที่ 3


ภาพ/ข่าว อนันต์ สุขวัฒนะ / เอกชัย สุขวัฒนะ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค พัทยา จ.ชลบุรี

สงขลา - นิพนธ์ วิ่งนำ "ธงชาติไทย รวมใจสู่ชัยชนะ" ส่งต่อกำลังใจให้นักกีฬาทีมชาติไทย เข้าแข่งขันกีฬาโอลิมปิก-พาราลิมปิก 23 ก.ค.- 8 ส.ค.นี้ ที่ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

เมื่อเวลา 06.00 น. วันนี้ 10 เม.ย.64 นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานเปิดกิจกรรมวิ่ง Fun Run รวมใจสู่ชัยชนะ และเป็นประธานนำวิ่งขบวนธงชาติไทย SET ที่ 1 ระยะทาง 1 กิโลเมตร ณ สนามกีฬาเมืองหลักภาคใต้(พรุค้างคาว) ตำบลบ้านพรุ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา โดยมีนายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ผู้อำนวยการสำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทย ภาค 4  นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ประธานหอการค้าจังหวัดสงขลา และภาครัฐราชการ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าร่วมกิจกรรม พร้อมปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19

โดยที่การกีฬาแห่งประเทศไทย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมกับจังหวัดสงขลา ภาครัฐ และภาคเอกชน ได้จัดกิจกรรม "วิ่งธงชาติไทย....รวมใจสู่ชัยชนะ" ระหว่างวันที่ 26 มีนาคม - 31 พฤษภาคม 2564 ซึ่งเป็นการวิ่งนำธงชาติไทย เพื่อส่งต่อกำลังใจและร่วมเชียร์เหล่านักกีฬาทีมชาติไทย ไปแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิก ในปี ค.ศ 2020 ในเดือนกรกฎาคม 2564 นี้ และเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด 19  จึงได้มีการเลื่อนการจัดกิจกรรม "วิ่งธงชาติไทย รวมใจสู่ชัยชนะ" เป็นระหว่างวันที่ 28 มีนาคม - 27 พฤษภาคม 2564 ซึ่งกำหนดระยะทางการวิ่งระยะไกล 35 จังหวัดทั่วภูมิภาค รวมระยะทาง 4,606 กิโลเมตร โดยฝ่ายกิจกรรมได้กำหนดเส้นทางการวิ่งผ่านจังหวัดสงขลา ระหว่างวันที่ 8 ถึง 10 เมษายน 2564 และกำหนดจุดรับธงชาติไทย เพื่อนำธงชาติไทยไปประดับตั้งไว้ ณ สนามกีฬาเมืองหลักภาคใต้ (พรุค้างคาว)

นายนิพนธ์ รมช.มท.กล่าวว่า "ในสถานการณ์ปัจจุบัน ทั่วโลกต้องเผชิญกับวิกฤตการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า(COVID-19) ทำให้กิจกรรมต่างๆต้องหยุดชะงักไป การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกหรือโอลิมปิกเกมส์ เป็นสิ่งหนึ่งที่ต้องถูกเลื่อนออกไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่อย่างไรก็ตาม ฝ่ายจัดการแข่งขันยังคงจัดให้มีการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกครั้งที่ 32 :โตเกียว 2020 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ในระหว่างวันที่ 23 กรกฎาคม ถึง 8 สิงหาคม พ.ศ. 2564 นี้ ทำให้พวกเรายังสามารถที่จะส่งแรงใจไปเชียร์นักกีฬาไทย ในมหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมวลมนุษยชาติ"

ทั้งนี้ กิจกรรม"วิ่งธงชาติไทย...รวมใจสู่ชัยชนะ"  ซึ่งจะเป็นการวิ่งถือธงชาติไทยที่ใช้ในขบวนพาเหรดนักกีฬา ในพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกไปทั่วประเทศ โดยคัดเลือกประชาชน ศิลปิน ดารา และคณะผู้บริหารจากหน่วยงานราชการ และภาคเอกชนที่สนใจในแต่ละจังหวัด เข้าร่วมวิ่งคนละ 1 กิโลเมตร รวมระยะทาง 4,606 กิโลเมตรใน 35 จังหวัด เพื่อส่งต่อกำลังใจ และร่วมเชียร์เหล่าทัพนักกีฬาทีมชาติไทย ในการเข้าแข่งขันโอลิมปิกและพาราลิมปิกที่ประเทศญี่ปุ่น อันเป็นการส่งเสริมพัฒนาการด้านกีฬาให้แก่ประเทศไทย ได้ต่อไป

ชลบุรี - สมาคมสถานบันเทิง ยอมรับคำสั่งปิด 14 วัน ป้องกันไวรัสโควิด-19 วอนภาครัฐหามาตรการช่วยพนักงานภายในร้านให้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด

วันที่ 10 เม.ย.64 หลังจาก ที่มีคำสั่งของรัฐบาลที่สั่งให้ปิดสถานบันเทิง เป็นระยะเวลา 14 วัน เพื่อลดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้แหล่งท่องเที่ยวหลักอย่าง วอล์คกิ้ง สตรีท พัทยาใต้ เงียบเหงาไปถนัดตา มีเพียงนักท่องเที่ยวจำนวนไม่มาก ยังคงเดินอยู่บนถนนคนเดิน ส่วนบริเวณรอบนอกกลุ่มบาร์เบียร์ พบว่ายังมีประชาชนเข้าใช้บริการอยู่ตามปกติ ขณะที่กลุ่มนักดื่มจำนวนไม่น้อย เลือกที่จะออกมานั่งกินดื่มบริเวณชายหาด โดยใช้เสื่อปูตามจุดต่าง ๆ

ด้านนายดำรงเกียรติ พินิจการ เลขาสมาคมอุตสาหกรรมบันเทิง และการท่องเที่ยวเมืองพัทยา เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อธุรกิจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจาก ทางผู้ประกอบการสถานบันเทิงเองก็ได้มีการพูดคุยถึงคำสั่งดังกล่าว ต่างพร้อมที่จะปิดและให้ความร่วมมือกับทางภาครัฐ เพราะทางผู้ประกอบการตระหนักดีว่าการแพร่ระบาดระลอกใหม่นี้ มาจากกลุ่มสถานบันเทิง และเป็นการแพร่กระจายที่รวดเร็ว

ส่วนผู้ประกอบการบางรายได้ปิดไปก่อนล่วงหน้าแล้ว และเพื่อเป็นการตระหนักและรับผิดชอบต่อสังคม ถามว่าเสียดายไหม เสียดายเพราะกลุ่มผู้ประกอบการสถานบันเทิงในเมืองพัทยานั้นกำลังจะดีอยู่แล้ว แต่อย่างน้อยเพื่อเป็นความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนชาวพัทยาเป็นหลัก ยินดีน้อมรับคำสั่งเป็นเป็นการควบคุมที่ดีขึ้น เพราะหลายคนกังวลเรื่องการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่อยากฝากทางรัฐบาล พยายามหามาตรการช่วยเหลือเยียวยา กลุ่มพนักงานสถานบันเทิงให้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด เพราะทุกคนมีครอบครัวที่ต้องดูแล


ภาพ/ข่าว  นิราช / นันทพล ทิพย์ศรี

จันทบุรี - ชุดเฉพาะกิจป้องกัน และแก้ไขปัญหาทุเรียนด้อยคุณภาพออกสู่ตลาด หลังมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความขายทุเรียนด้อยคุณภาพ

นายสุธี ทองแย้ม ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีได้สั่งการให้ชุดเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาทุเรียนด้อยคุณภาพออกสู่ตลาดจังหวัดจันทบุรีนำโดยนายบัญชา จันทร์ณรงค์ ป้องกันจังหวัดจันทบุรี บูรณาการทหาร ตำรวจ เกษตร ฝ่ายปกครองอำเภอท่าใหม่ เจ้าหน้าที่สวพ.6 อส.จังหวัดจันทบุรี เข้าตรวจสอบแผงทุเรียนริมทางข้างถนนสุขุมวิท เลยตลาดเนินสูงก่อนถึงโค้งท่าจุ้ย หลังมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจภูธรท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี ว่าแผงดังกล่าวขายทุเรียนอ่อนด้อยคุณภาพ จากการตรวจสอบพบว่าที่แผงมีทุเรียนกองอยู่เป็นจำนวนมาก

จากการสอบถาม นางสาวสุวรรณา แจ่งแสงทอง อายุ 65 ปี รับเป็นเจ้าของแผง จากการสอบถามทางเจ้าของแผงได้รับสารภาพว่าตนเองซื้อทุเรียนอ่อนที่ถูกลมพายุพัดร่วงหล่นมาเพื่อกวนและนำไปแปรรูป แต่ถ้ามีลูกค้ามาขอซื้อจะติดป้ายราคากิโลละ 80 บาทจริง และถ้ามีลูกค้ามาจอดซื้อก็จะขายให้โดยอ้างว่าได้แจ้งลูกค้าแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ฯ จึงได้มีการทำหนังสือบันทึกข้อตกลงว่าจะไม่นำทุเรียนที่เตรียมแปรรูปกว่า 3 ตันออกมาขายหลอกลวงผู้บริโภคอีก พร้อมทั้งนำสแลมปิดร้านงดจำหน่ายสินค้า ส่วนคดีผู้บริโภคเข้าแจ้งความไว้ทางพนักงานสอบสวนจะออกหมายเรียก และจะเรียกไปรับทราบข้อกล่าวหาอีกครั้งลงโทษตามกฎหมายต่อไป

ด้านนายชลธี นุ่มหนู ผอ.สวพ.6  จันทบุรีที่ได้ลงพื้นที่ตรวจทุเรียนอ่อนด้วยตนเองกล่าวว่า หลังเจ้าหน้าที่รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าใหม่ ว่ามีผู้บริโภคมาแจ้งความถูกหลอกขายทุเรียนอ่อนจึงได้จัดเจ้าหน้าที่ฯพร้อมอุปกรณ์การตรวจหาเปอร์เซนต์แป้งมาตรวจสอบ โดยสุ่มนำทุเรียนจำนวน 2 ลูกมาทดสอบด้วยเครื่องมือหาเปอร์เซนต์แป้งน้ำตาล พบว่าทุเรียนมีเปอร์เซนต์แป้งเพียง 13% โดยมาตรฐานจะต้องมีเปอร์เซนต์แป้งไม่น้อยกว่า 32% หลังจากนี่ได้แนะนำผู้ซื้อให้แจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าของแผงเพื่อรักษาภาพลักษณ์ของทุเรียนจันทบุรี ฝากถึงประชาชนที่มาซื้อทุเรียนไปรับประทานหรือซื้อฝากญาติให้เลือกทุเรียนที่แก่จัดถึงจะรับประทานอร่อย  ข้อสังเกต ง่าย ง่าย ที่ผิวเปลือกของทุเรียนจะต้องแห้ง ร่องหนามเป็นสีน้ำตาล ปลายหนามแห้ง และสังเกตขั้วของทุเรียนจะต้องเปล่ง อวบ และแข็ง หากเป็นไปได้ ลองนำมีดเฉือนที่ปลายขั้วทุเรียนบาง ๆ และ ชิมรสชาดจะมีความหวานที่ปลายขั้วทุเรียน


ภาพ/ข่าว จรัล บรรยงคเสนา  ผู้สื่อข่าว จ.จันทบุรี

นาย  พรเทพ เขม้นเขตวิทย์ รายงานจากศูนย์ข่าวภาคตะวันออก

ปทุมธานี - บิ๊กแจ๊ส ลงพื้นที่เยี่ยมปปช.หลังพายุกระหน่ำซัดหลังคาบ้านเสียหายหลายสิบหลัง

เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 9 เมษายน 2564 พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ได้ลงพื้นที่หมู่บ้านพรธิสาร7 ต.ลำผักกูด  อ.ธัญบุรี  จ.ปทุมธานี  เนื่องด้วยประชาชนในพื้นที่ได้ประสบภัยจากพายุฤดูร้อนและลมกระโชกแรงจนทำให้บ้านที่พักอาศัยได้พังเสียหายหลายสิบหลัง

จาการสอบถาม  ดร.จักพรรดิ์  ทีฆนทัศน์ ประธานชุมชนพรธิสาร7 กล่าวว่า  เมื่อเย็นวันที่ 8 เมษายนที่ผ่านมาช่วงเวลาประมาณ 18.30 น. ได้มีพายุฝนลมแรงจนทำให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนหลายครัวเรือน มีหลังคาบ้านและเพดานฝ้าเสียหายหลายสิบหลังและช่วงเวลานี้ด้วยภาวะเศรษฐกิจและภัยจากโควิด-19 ก็ทำให้ประชาชนเดือดร้อนไม่มีรายได้ที่จะมาใช้จ่ายอยู่แล้ว ตนจึงประสานไปยัง  พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี ท่านได้ลงพื้นที่มาดูประชาชนในพื้นที่ทันทีและสั่งการไปยัง ผอ.กองช่าง เพื่อมาช่วยประชาชนผู้ประสบภัยโดยด่วน ต้องขอขอบคุณท่านนายก อบจ.ที่ลงพื้นที่มาดูผู้ประสบภัยด้วยตัวเอง

ทางด้าน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง  กล่าวว่า ตนพึ่งได้ทราบข่าวจากประธานชุมชนแห่งนี้ จึงได้ลงพื้นที่ทันที เพื่อมาดูผู้ประสบภัยเบื้องต้นก่อน ซึ่งในวันพรุ่งนี้จะให้ทาง  ผอ.กองช่าง อบจ.ปทุมธานี ลงพื้นที่โดยด่วนว่าจะช่วยเหลือประชาชนได้อย่างไรบ้างและจะเร่งดำเนินการโดยทันที

นครศรีธรรมราช - นิพนธ์ เช็คความพร้อม จ.นครศรีฯ - พัทลุง มาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุช่วงสงกรานต์ 64 วอนปชช.ให้ความร่วมมือใช้ความเร็วไม่เกินกม.กำหนด -สวมหมวกนิรภัย เพื่อลดอุบัติเหตุฯพร้อมทั้งดูแลความปลอดภัยจากโควิดอย่างเข้มงวด

ที่ศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุม มอบนโยบายแนวทางการดำเนินงานโครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก ภายใต้กลุ่มงานแผนงาน โครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจท้องถิ่นและชุมชนบนพื้นฐานของโอกาสและศักยภาพของท้องถิ่น จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมีนายไกรศร วิศิษฏ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช ท้องถิ่นจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานรัฐวิสาหกิจในจังหวัดนครศรีธรรมราช ร่วมในการประชุม

โดยนายนิพนธ์ รมช.มท. ได้มอบนโยบายแนวทางการดำเนินงานโครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก ภายใต้กลุ่มงานแผน โครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจท้องถิ่น และชุมชนบนพื้นฐานของโอกาสและศักยภาพขิงท้องถิ่นจังหวัดนครศรีธรรมราช ในเรื่องของพัฒนาสินค้า ท่องเที่ยว บริการ และการค้าเช่นสินค้าโอทอป ท่องเที่ยวชุมชนในประเทศ การค้าส่ง การค้าปลีก พร้อมทั้งยกระดับประสิทธิภาพและสร้างมูลค่าเพิ่มด้านการเกษตร เช่นเกษตรปลอดภัย เกษตรอินทรีย์ รวมถึงส่งเสริมและพัฒนาทักษะฝีมือแรงงาน ในการอบรมระยะสั้น อบรมยกระดับทักษะฝีมือ และพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการฟื้นตัวและพัฒนากิจกรรมทางเศรษฐกิจของชุมชน  และมอบนโยบายการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ. ศ. 2564 "สงกรานต์สุขใจขับขี่ปลอดภัยห่างไกลโควิด" ในช่วงการปฏิบัติการเข้มข้นระหว่างวันที่ 10-16 เมษายน 2564

"ด้วยความห่วงใยของรัฐบาล และของนายกรัฐมนตรีโดยเฉพาะอย่างยิ่ง covid19 ปีนี้ รัฐบาลก็ถือโอกาสให้ช่วงเทศกาลสงกรานต์  โดยให้พี่น้องประชาชนได้เที่ยวสงกรานต์กันอย่างสุขใจ เดินทางปลอดภัย ไร้โควิด  ฉะนั้นมาตรการที่จะดูแลความปลอดภัยต่างๆบนท้องถนน และมาตรการในการดูแลในเรื่องของ covid19  ก็ยังเป็นมาตรการที่ต้องปฏิบัติควบคู่กันในจุดตรวจต่าง ๆ ซึ่งแต่ละจังหวัดก็จะมีจุดตรวจเส้นทางสายหลัก และเส้นทางสายรอง ปีนี้ก็ขอความร่วมมือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้ดูแลความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน ทั้งของศูนย์ความปลอดภัยบนท้องถนนระดับอำเภอ ศูนย์ความปลอดภัยบนท้องถนนระดับท้องถิ่นก็ดี ให้ช่วยกันดูแลในการคัดกรองประชาชน ในเรื่องของความเร็ว ในการใช้ถนน ซึ่งก็ยังเป็นอันตรายระดับต้นๆอยู่ ฉะนั้นก็ขอความร่วมมือไปยังพี่น้องประชาชนผู้ใช้ยานพาหนะสัญจรไปมา ให้ใช้ความเร็วภายใต้ที่กฎหมายกำหนดไว้ ซึ่งอันนี้ยังเป็นปัจจัยแรก ๆ ที่ทำให้เกิดการสูญเสียชีวิต ยังคงเป็นอันดับ 1คือ การขับรถเร็วกว่ากฎหมายกำหนด และ 2 เมื่อขับรถแล้วต้องคาดเข็มขัดนิรภัย หรือสวมหมวกนิรภัย เพราะว่ากรณีที่เสียชีวิตมากที่สุดคือ กรณีที่ขับขี่มอเตอร์ไซค์แล้วไม่สวมหมวกนิรภัยและใช้ความเร็วสูง" นายนิพนธ์กล่าว

นอกจากนี้ นายนิพนธ์ ยังได้เน้นย้ำด้วยว่า "ที่สำคัญที่สุดอีกอย่างคือ ไม่ควรขับรถมึนเมาหรือง่วงนอน ซึ่งปัจจัยสิ่งเหล่านี้ถ้าหากผู้ใช้รถใช้ถนนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีก็จะลดความสูญเสียชีวิตโดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสำคัญ ๆ อย่างเทศกาลสงกรานต์นี้ได้ผลอย่างเป็นรูปธรรม และทำให้เทศกาลสงกรานต์ปีนี้เป็นเทศกาลแห่งความสุข ซึ่งเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายในจุดตรวจต่าง ๆต่ างพร้อมปฏิบัติงานด้วยความห่วงใยในความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่"

ต่อจากนั้นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เดินทางไปเป็นประธานปล่อยขบวนรถและเยี่ยมจุดตรวจหน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวงทุ่งสงแขวงทางหลวงนครศรีธรรมราชที่ 2 อำเภอทุ่งสงจังหวัดนครศรีธรรมราช  และจุดตรวจป้อมตำรวจทางหลวงเขาเจียก อ. เมือง จ.พัทลุง อีกด้วย


ภาพ/ข่าว  นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา

สงขลา - เลขาธิการ ศอ.บต. ชื่นชมครูในพื้นที่ จชต. ฝึกซ้อมดนตรี เพื่อนำไปสานต่อแก่นักเรียน ใช้ดนตรีเป็นสื่อกลางในการแก้ไขปัญหาพื้นที่

ที่ โรงแรมเซาท์เทอร์น แอร์พอร์ท อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร  เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เป็นประธานในพิธีปิด พร้อมให้โอวาทแก่ผู้ผ่านการอบรมในกิจกรรมพัฒนาทักษะดนตรีให้กับบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษาระดับประถมศึกษา และโรงเรียนขยายโอกาสในชุมชนไทยพุทธถดถอยและชุมชนพหุวัฒนธรรม จัดโดยกองส่งเสริมและสนับสนุนงานพัฒนาฝ่ายพลเรือน ศอ.บต. เพื่อพัฒนาทักษะด้านดนตรีให้กับบุคลากรทางการศึกษา ให้มีความรู้และทักษะด้านดนตรีที่ถูกต้องตามมาตรฐานสากล สามารถถ่ายทอดให้กับนักเรียน เยาวชน ประชาชนให้มีทักษะความรู้และหันมาสนใจการเล่นดนตรีมากขึ้น โดยมีนายถาวร บุญศรี  ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. (กระทรวงพลังงาน) นางสาวจิณห์นิภา ทิมผกุล  นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการ ตลอดจนบุคลากรของสถานศึกษาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ร่วมในพิธี

ในการนี้ พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร  กล่าวให้โอวาทแก่ผู้เข้าอบรมว่า ดนตรีและอุปกรณ์ด้านดนตรีที่ทุกคนได้ฝึกทักษะทั้งหมดนี้ เป็นเรื่องที่สามารถตอบโจทย์ได้ว่า การเข้าอบรมในครั้งนี้เราจะได้อะไรกลับไป ทุกภาคส่วนที่เราสามารถต่อเรื่องราวให้เข้าด้วยกันนั้น จะทำให้แผ่นดินใต้และประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี อยู่ร่วมกันภายใต้ “วิถีสังคมพหุวัฒนธรรม” นี้คือผลลัพธ์สุดท้ายของการแก้ไขปัญหาและพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ดังนั้นการพัฒนาบุคคล หรือทรัพยากรมนุษย์ อยู่ในลำดับที่ 1 เสมอ ศอ.บต. พร้อมทำในทุกมิติเพื่อพัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้กลับสู่พื้นที่สันติสุข รวมถึงกิจกรรมการเล่นดนตรีก็สามารถแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้เช่นเดียวกัน เพราะเมื่อเยาวชนในพื้นที่มาเล่นดนตรีในหมู่บ้าน โดยเอาโรงเรียนมาเชื่อมกับบ้าน และนำดนตรีเป็นสื่อกลางสามารถดึงผู้คนเข้ามาร่วมสนุกกันได้ ถือเป็นสังคมพหุวัฒนธรรม ที่เราสามารถอยู่ร่วมกันในชุมชนอย่างมีความสุข

ด้านผู้เข้าอบรมฯ ต่างขอบคุณ ศอ.บต. ที่ได้จัดกิจกรรมฝึกทักษะด้านดนตรีในครั้งนี้ โดยมองว่าที่ผ่านมาครูทุกคนได้สอนนักเรียนในวิชาดนตรีก็สอนตามความรู้ที่อยู่ในตำราเท่านั้น เพราะต้องยอมรับว่า เป็นสถานศึกษาที่อยู่ห่างไกล จึงไม่ค่อยมีอุปกรณ์ด้านดนตรี และไม่สามารถจะฝึกซ้อมนักเรียนให้เล่นดนตรีได้ แต่เมื่อเข้าอบรมในครั้งนี้ ได้รู้ถึงกระบวนการสอน การเล่นดนตรีที่ถูกต้อง จึงมั่นใจว่า หลังจากนี้ไปจะนำความรู้ไปฝึกซ้อมนักเรียนให้สามารถเล่นดนตรี และนำดนตรีมาพัฒนาเยาวชนให้เป็นคนดี คนเก่งให้ได้

สำหรับผู้เข้าร่วมโครงการในครั้งนี้ เป็นบุคลากรจากโรงเรียนระดับประถมศึกษาและโรงเรียนขยายโอกาสในพื้นที่รับผิดชอบ โดยแบ่งการอบรมออกเป็น 3 รุ่น รุ่นละ 50 คน โดยรุ่นที่ 1 จากจังหวัดยะลา และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา ระหว่างวันที่ 29 มีนาคม ถึง 1 เมษายน 2564 รุ่นที่ 2 จังหวัดปัตตานี ระหว่างวันที่ 2 – 5 เมษายน 2564 และรุ่นที่ 3 จังหวัดนราธิวาส ระหว่างวันที่ 6 – 9  เมษายน 2564 โดยได้เชิญผู้เชี่ยวชาญด้านดนตรีสากลจากโรงเรียนแก้วเนียมการดนตรี จังหวัดปัตตานี มาให้ความรู้และได้แสดงการเล่นดนตรีในครั้งนี้อีกด้วย


ภาพ/ข่าว  นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา

 

อยุธยา - “บิ๊กโจ๊ก”ร่วมวันเด็กย้อนหลังที่กรุงเก่า พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษา สบ.9 ร่วมมอบจักรยาน ในงานวันเด็กย้อนหลังที่วัดศาลาปูนฯ ให้แนวคิดยึดความสามัคคี กตัญญ รักสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

วันที่ 9 เม.ย. ที่หอประชุมโรงเรียนเทศบาลพระนครศรีอยุธยา วัดศาลาปูนวรวิหาร ต.ท่าวาสุกรี อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา พระครูอนุกูลศาสนกิจ เจ้าคณะอำเภอพระนครศรีอยุธยา เจ้าอาวาสวัดศาลาปูนวรวิหาร เป็นประธานในการจัดกิจกรรมงานวันเด็กย้อนหลัง โดยมี พระครูสมุห์ สุทัสน์ คนุธสาโร และพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษา สบ.9 มาร่วมงานและมอบจักรยาน 50 คันร่วมกับทางโรงเรียน ให้กับนักเรียน มีนางขวัญชนก คงพิบูลย์ รักษาการผู้อำนวยการ ให้การต้อนรับ

พระครูอนุกูลศาสนกิจกล่าวให้โอวาทกับเด็ก ๆ ทุกคนให้รักพ่อแม่และเป็นคนดีของสังคม ยึดคำสอนของพ่อแม่และคุณครู ที่สำคัญต้องมีคุณธรรม จะได้เติบโตมีอนาคต ภายในงานมีการเลี้ยงอาหารกลางวันให้กับนักเรียนที่มาร่วมงาน ซึ่งอาหารที่นำมาเลี้ยงในวันนี้ มีหลากหลายเช่นสเต๊ก ขนมจีนน้ำยา ขนม อาหารญี่ปุ่น ที่ส่วนใหญ่เป็นลูกศิษย์ของพระครูอนุกูลศาสนกิจ นำมาร่วมโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ถือเป็นการทำบุญ ภายหลังจากการแจกของขวัญให้กับนักเรียนจำนวน 163 คนที่ส่วนใหญ่เป็นจักรยานและของขวัญมากมาย

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ได้ถือโอกาสนี้ให้แง่คิดกับเด็ก ๆ ยึดคำขวัญวันเด็กปีนี้ของนายกรัฐมนตรี “เด็กไทย วิถีใหม่ รวมไทย สร้างชาติ ด้วยภักดีมีคุณธรรม “นั่งคือการป้องกันตนเองจากโควิด การรักษาสุขภาพอนามัย แต่สิ่งที่สำคัญที่นายกรัฐมนตรีนายกรัฐมนตรีได้กล่าวไว้ คือ การรวมไทย สร้างชาติ ด้วยภักดี มีคุณธรรม คือการรักในสถาบันชาติ และพระมหากษัตริย์ ซึ่งถือเป็นสถาบันหลักของไทย และต้องมีความกตัญญู มุ่งมั่นหาความรู้ เพื่อที่วันหนึ่งจะได้เป็นอนาคตของประเทศชาติต่อไป


ภาพ/ข่าว  เดชา  อุ่นขาว  รายงานจากอยุธยา

ปมุทธานี - "บิ๊กแจ๊ส" ห่วงประชาชน ให้ อบจ.ปทุมฯ เปิดบริการตรวจโควิด ฟรี ไม่มีกำหนด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดทั้งวันของวันที่ 9 เมษายน 2564 ที่ศูนย์อำนวยการป้องกันและควบคุมโรค หน้าองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ตำบลบ้านฉาง อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี มีประชาชนจำนวนมาก เดินทางเข้าตรวจคัดกรองเจาะเลือดแรปบิทเทส เพื่อแสกนหาเชื้อโควิด-19 หลังจาก กระทรวงสาธารณสุข ประกาศว่าจังหวัดปทุมธานีเป็นพื้นที่โซนสีแดง โดย ร้านอาหาร และสถานบันเทิง ผับ บาร์ จะเปิดขายบริการได้ไม่เกิน 21.00 น.ตามที่มีข่าวเสนอไปแล้วนั้น

ซึ่งศูนย์ตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID -19) ที่หน้าสำนักงานองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี  มีการเปิดให้บริการตรวจคัดกรองฟรี เพื่อหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยในวันนี้ พบว่ามีชาวปทุมธานี และประชาชนที่มีสถานที่พักในเขตพื้นที่จังหวัดปทุมธานี เดินทางเข้ามาใช้บริการตรวจเช็คเชื้อโควิด เป็นจำนวนมาก โดยเจ้าหน้าที่ ได้จัดสถานที่โดยมีแพทย์พยาบาลจาก รพ.ปทุมธานี มาทำการเจาะเลือด ซึ่งประชาชนทุกคนที่เดินทางมาจะต้องรับบัตรคิว ที่ทาง อบจ.ฯ มีการรับรองไว้จำนวน 1500 คน ต่อวัน ปรากฎว่าเพียงแค่เวลาผ่านไปไม่ถึง 16.00 น. บัตรคิวก็หมดแล้ว ทำให้ผู้ที่ยังไม่ได้รับการตรวจ ต้องเดินทางกลับและจะมารับบริการในวันรุ่งขึ้น

พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี กล่าวว่า หลังจากที่มีการประกาศออกมาจาก ส่วนกลางว่าจังหวัดปทุมธานี เป็นจังหวัดพื้นที่สีแดง ที่เสี่ยงกับการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 นั้น ตนรู้สึกมีความเป็นห่วงพี่น้องชาวปทุมธานี และประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ปทุมธานี ทุกคน ทั้งที่ในช่วงก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา เราได้ดำเนินการป้องกันและคัดกรองเชิงรุกกันอย่างเต็มที่ แต่เมื่อมีการระบาดในรอบ3 ก็ทำให้ทุกคนมีความหนักใจ เพราะว่ามีการแพร่กระจายของโรคนี้เร็วมาก ดังนั้นสำหรับการให้บริการตรวจเช็คหาเชื้อโควิด-19 นั้น ทาง อบจ.ปทุมธานี ได้เปิดให้บริการในวันเวลาราชการ ตั้งแต่วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 09.00 - 15.00 น. โดยขั้นตอนในการมารับบริการนั้น 1.ทุกคนต้องนำบัตรประชาชนมาแสดงเพื่อลงทะเบียน (รับบัตรคิว) 2.เจาะเลือด รอฟังผลภายใน 3 นาที 3.หลังทราบผลว่าเป็นบวกหรือลบ (ถ้าเป็นผลลบ ทาง อบจ.ฯ จะออกใบรับรองให้ แต่ถ้าเป็นผลบวก ผู้เข้ารับการตรวจจะตัองเดินทางไปที่โรงพยาบาล เพื่อทำการรักษา และทาง อบจ.ฯ จะ ให้บริการวันละประมาณ 1500 คนต่อวัน โดยจะเปิดให้บริการไปตลอดจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายหรือดีขึ้น


ภาพ/ข่าว  สมเกียรติ ทรัพย์เฉลิม รายงาน


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top