Monday, 7 July 2025
THE STATES TIMES TEAM

ชลบุรี - หาดพัทยาคึกรับวันหยุดยาว 'นายกสนธยา' ส่งรถ ปชส.เข้มมาตรการป้องกันโควิด-19

ชายหาดพัทยาคึกคักวันหยุดยาวสงกรานต์ 64 นายกเมืองเมืองพัทยาส่งรถประชาสัมพันธ์เข้มมาตรการป้องกันโควิดระลอก 3

วันที่ 14 เม.ย.64 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการท่องเที่ยวช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ปีใหม่ไทย 2564 ที่บริเวณริมชายหาดเมืองพัทยา แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของจังหวัดชลบุรีและภาคตะวันออก

พบว่าบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ประชาชนต่างนำครอบครัวและบุตรหลานมาพักผ่อนทำกิจกรรมทางทะเลเพื่อผ่อนคลายกันอย่างสนุกสนาน ส่งผลให้บรรดาผู้ประกอบการค้าขายริมชายหาดพัทยาพลอยมีรายได้จากนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นในช่วงนี้ด้วย

มีรายงานด้วยว่า เมืองพัทยา โดยนายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เทศกิจ สำนักปลัดเมืองพัทยา และเต้าหน้าที่แระชาสัมพันธ์ สำนักส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองพัทยา ส่งเจ้าหน้าที่นำรถเครื่องเสียงออกประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่ออกมาใช้พื้นที่สาธารณะได้ระวังและป้องกันตัวเองและครอบครัวให้ปลอดภัยจากไวรัสโควิด-19 ด้วยการปฏิบัติตามมาตรการควบคุมและป้องกันโรคระบาดในระลอกที่ 3 อย่างเคร่งครัดด้วย


ภาพ/ข่าว  นิราช / นันทพล ทิพย์ศรี

ชาวเน็ตรุมวิจารณ์ยับ! หลังเพจดังรุมแฉพฤติดกรรมผู้ป่วยโควิด-19 เหตุไม่ยอมเว้นระยะห่าง จับเข่าเมาท์สนุก แถมตั้งวงเล่นไพ่กลางโรงพยาบาลสนาม

กลายเป็นดราม่าอย่างร้อนแรงในโลกออนไลน์อยู่ในขณะนี้ ภายหลังจากที่แฟนเพจ@Red Skull In Love ได้ออกมาระบุว่า "น่าไล่กลับไปให้นอนรอการรักษาอยู่ที่บ้านนะ รพ.สนาม เค้าให้ผู้ติดเชื้อไปพักรักษาตัว รักษาระยะห่าง แต่ยังมีคนไปรวมกลุ่มตั้งวงไพ่ในนั้นต่ออีก คนป่วยอีกหลายคนยังไม่มีเตียง แต่พวกนี้ มาจากเลาจน์แหล่งแพร่ระบาดหลักๆเลย กลับมองเป็นเรื่องสนุก" พร้อมเผยโพสต์และภาพจากผู้ใช้เฟซบุ๊กสาวรายหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้ป่วยโควิด ขณะกำลังจับกลุ่มกับผู้ป่วยด้วยกันเพื่อเล่นไพ่

นอกจากนี้ ทางด้านแฟนเพจ@ควาย+Social Airlines ยังได้เผยคลิปขณะที่พบผู้ป่วยโควิด-19 ต่างนั่งจับกลุ่มคุยกันดดยไม่มีการเว้นระยะห่าง และไม่มีการสวมหน้ากากอนามัย โดยทางเพจระบุว่า "ผู้ที่ติดเชื้อแล้วไปอยู่ รพ.สนาม ไม่ต้องเว้นระยะห่างกันแล้วเหรอ หรือรอหายพร้อมกันกลับบ้านพร้อมกัน"

อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่เรื่องราวดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ต่างมีชาวเน็ตเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ทำให้ชาวเน็ตต่างตั้งข้อสงสัยว่า เหตุใดคนที่อยู่ข้างในถึงสบายแถมยังดูคล้ายกับไม่สนใจการเว้นระยะห่าง ทั้งที่เจ้าหน้าที่ต้องทำงานอย่างหนัก ส่วนทางประชาชน รวมไปถึงห้างร้านต่างๆก็ต้องปิดตัวลงในสถานการณ์การแพร่ระบาดอีกด้วย...

ที่มา : https://www.dailynews.co.th/regional/837269

https://www.facebook.com/kwaisocialair/videos/747043439335685

https://www.facebook.com/redskullinlove/photos/pcb.211534107449740/211534050783079

'ทิพานัน' ตอกเพื่อไทยความคิดตื้นเขิน ยัน 'บิ๊กตู่' ทำงานทุกวัน เน้นทำมากกว่าพูด ไม่ออกสื่อไม่ใช่ไม่ทำงาน จี้ 'อนุสรณ์' หยุดดูถูกประชาชน ฝ่ายค้านควรยกระดับมาตรฐานตรวจสอบรัฐบาลอย่างมีหลักการ

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตจอมทอง-ธนบุรี อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ออกมาประกาศตามหา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีให้มาทำงานสั่งการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยอ้างว่านายกฯ หายไปตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน 2564 ว่า ไม่ทราบว่านายอนุสรณ์เอาตรรกะหรือหลักฐานใดมากล่าวหาพล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้ทำงาน หากเป็นเรื่องของการที่ไม่ได้ออกมาแถลงข่าวหรือให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อด้วยตนเองแล้วนำมาสรุปว่า ไม่ได้ทำงานนั้น ก็สะท้อนถึงความคิดที่ตื้นเขินของนายอนุสรณ์อย่างเห็นได้ชัด เป็นการทำการเมืองแบบเก่าที่จ้องทำลายและดิสเครดิตคนทำงาน ที่สำคัญ พล.อ.ประยุทธ์ถนัดทำมากกว่าพูด การทำงานในรูปแบบของศูนย์บริหารสถานการณ์มีการสั่งการที่รวดเร็ว เด็ดขาด  และยังปรับเปลี่ยนตามวิถีนิวนอร์มอล

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ เฝ้าติดตามสถานการณ์และห่วงใยใส่ใจพี่น้องประชาชนตลอด โดยตลอดเวลามีการสั่งการผ่านศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 หรือ ศบค. ที่ท่านสวมหมวกเป็นผู้อำนวยการศูนย์อยู่ ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ได้กำหนดเรียกประชุม ศบค.ชุดใหญ่ในวันศุกร์ที่ 16 เม.ย.นี้ เวลา 13.30 น. แบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์  โดยมีวาระสำคัญในการพิจารณารายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดและผู้ติดเชื้อ ส่วนที่น่าจับตาคือศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) ที่จะมีการเสนอยกระดับมาตรการป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19 ในการระบาดระลอกใหม่ในเดือน เม.ย.2564 และแผนการให้บริการวัคซีนโควิด-19 ของศปก.สธ. พร้อมเตรียมจะออกประกาศและคำสั่งต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง  โดยขณะนี้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกำลังทำงานอย่างหนักเพื่อรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ สรุปและประเมินถึงประสิทธิภาพและประสิทธิผลของมาตรการต่างๆ ในแต่ละสถานการณ์เพื่อให้ได้มาตรการที่ดีที่สุดต่อสุขภาพอนามัยและเศรษฐกิจปากท้องของประชาชน 

“ขอให้นายอนุสรณ์ หยุดดูถูกพี่น้องประชาชน  หากไม่สามารถจับประเด็นที่เป็นสาระหลักๆและเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน และประเทศชาติมาวิจารณ์ได้ ก็จะรบกวนอยู่เฉยๆ แต่ที่ต้องหยิบยกมาพูดถึง เพราะอยากให้พรรคเพื่อไทยยกระดับการสื่อสารต่อสาธารณะ และมีมาตรฐานในการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลอย่างมีหลักการมากขึ้น” น.ส.ทิพานัน กล่าว

ยังไม่ถึงขั้นล็อกดาวน์!!! ‘อนุทิน’ เคาะพื้นที่สีแดง 18 จังหวัด เตรียมชง ศบค.ชุดใหญ่พรุ่งนี้ เสนอมาตรการพื้นที่สีแดง-ส้ม พร้อมสั่งปิดร้านอาหาร 3 ทุ่มเป็นต้นไป เข้มห้ามร้านอาหารขายเหล้าทุกจังหวัด

วันนี้ 15 เมษายน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ครั้งที่ 4/2564 โดยมี นพ.โสภณ เมฆธน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดสธ. ร่วมกับผู้บริหารหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ UHOSNET โรงพยาบาลเอกชน ร่วมประชุมทางไกลผ่านวีดิโอคอนเฟอเร้นท์

นายอนุทิน กล่าวว่า ตั้งแต่ต้นเดือน เม.ย. เป็นต้นมา ประเทศไทยพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่มีจุดเริ่มต้นการระบาดจากสถานบันเทิง กระจายไปทุกจังหวัดทั่วประเทศและมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น ที่ประชุมจึงร่วมกันพิจารณาเสนอมาตรการที่เหมาะสมในการยกระดับการป้องกันควบคุมโรค อย่างไรก็ตาม สธ. จะต้องนำมาตรการที่ได้จากการประชุมวันนี้ เสนอต่อศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19(ศบค.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ผู้อำนวยการศบค. เป็นประธานในที่ประชุมวันพรุ่งนี้ (16เม.ย.) เวลา 13.30 น.

“วันนี้มีการประชุมคณะกรรมการฯ ใช้เวลาร่วม 2 ชั่วโมง หามติจากที่ประชุมในมาตรการรองรับสถานการณ์การระบาดในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ไปจนถึงสิ้นเดือน เม.ย. ก็จะเป็นระยะเวลาราว ๆ 2 สัปดาห์ ผมหวังว่าจะได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย ซึ่งวงรอบของการระบาดและควบคุมโรคอยู่ที่ประมาณ 2 สัปดาห์หากควบคุมสถานการณ์ทั้งหลายได้ไม่มีการเคลื่อนไหว ไม่มีการกระจายของผู้คนมากมายในระยะเวลา 2 สัปดาห์นี้ ก็จะเหมือนกับปีที่ผ่านมา ซึ่งตอนนั้นเราทำเข้มข้นกว่านี้เยอะ” นายอนุทินกล่าว

นายอนุทิน กล่าวว่า ที่ประชุมเห็นชอบมาตรการหลักๆ ประกอบด้วย 1.ปรับพื้นที่จังหวัดเป็น 2 สี คือ พื้นที่ควบคุมสูงสุด จังหวัดสีแดง 18 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ชลบุรี สมุทรปราการ ประจวบคีรีขันธ์ สมุทรสาคร ปทุมธานี นครปฐม ภูเก็ต นครราชสีมา นนทบุรี สงขลา ตาก อุดรธานี สุพรรณบุรี สระแก้ว ระยอง และขอนแก่น และ พื้นที่ควบคุม จังหวัดสีส้ม 59 จังหวัดที่เหลือ

นายอนุทิน กล่าวว่า มาตรการที่สำคัญใน 2 พื้นที่สี คือ มาตรการจำกัดเวลาให้บริการร้านอาหาร โดยพื้นที่สีแดง เปิดได้ถึงเวลา 21.00 น. พื้นที่สีส้ม เปิดถึงเวลา 23.00 น. ส่วนมาตรการอื่น ทั้งพื้นที่สีแดงและสีส้มต้องปฏิบัติเหมือนกันในทุกจังหวัด เช่น ปิดสถานบริการในลักษณะผับ บาร์ คาราโอเกะ อาบอบนวด ห้ามจำหน่ายสุราและห้ามดื่มในร้านอาหารทุกจังหวัด งดการเรียนการสอน ซึ่งคาดว่าไม่กระทบมากเพราะว่าช่วงนี้อยู่ในระหว่างปิดเทอม งดกิจกรรมที่มีการรวมตัวกันของคนจำนวนมาก งดงานเลี้ยงงานสังสรรค์ทุกประเภท ยกเว้นการจัดในครอบครัว งดกิจกรรมที่มีการรวมตัวของคนมากกว่า 50 คน ปิดบริการสวนสนุกและเครื่องเล่นในห้างสรรพสินค้า ซึ่งจะมีรายละเอียดอื่นๆ เพิ่มเติม

“ขอให้ติดตามการประกาศมาตรการที่ชัดเจน ภายหลังการประชุมศบค.ชุดใหญ่ ในวันพรุ่งนี้ ส่วนในเรื่องของการเดินทางนั้นให้เป็นอำนาจของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเป็นผู้พิจารณา ตอนนี้ยังไม่ถึงขั้นต้องใช้มาตรการล็อกดาวน์หรือห้ามเคลื่อนย้ายข้ามจังหวัด แต่ทั้งหมดนี้จะมีการนำเสนอต่อศบค.ชุดใหญ่ เพื่อพิจารณาต่อไป " นายอนุทิน กล่าว

นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ขอความร่วมมือผู้ประกอบการในมาตรการทำงานจากที่บ้าน(Work From Home) ซึ่งขณะนี้ประชาชนยังอยู่ในภูมิลำเนา ถ้าหากเป็นไปได้ก็ขอให้ทำงานมาจากที่ภูมิลำเนาผ่านเทคโนโลยี ไม่ต้องเคลื่อนย้ายกลับเข้ามา ขอให้ประชาชนลดการเดินทาง ลดการรวมกลุ่มกัน และขอเน้นในเรื่องของการสวมหน้ากากอนามัย 100% โดยเฉพาะในผู้ที่กำลังเดินทางออกนอกเคหะสถาน กระทรวงสาธารณสุขยืนยันว่าการสวมหน้ากากคือการการป้องกันการแพร่เชื้อได้ดีที่สุด

ส่วนเรื่องการออกนอกเคหะสถานในเวลาที่กำหนดนั้น ขอให้ที่ประชุมศบค.ชุดใหญ่วันพรุ่งนี้ ได้พิจารณาร่วมกันอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม สธ. ก็ขอความร่วมมือประชาชนในการอยู่บ้าน เพื่อลดโอกาสแพร่กระจายของเชื้อ รวมถึงหากทำงานจากที่บ้านได้ ก็จะเป็นมาตรการสำคัญเพื่อลดการเดินทาง ลดการเข้าไปสัมผัสกับคนๆ ได้อย่างมาก

ฝันสลายของ 'ฮันเลย์'…ลี้ภัยในไทย ไม่ง่ายอย่างที่คิด วัดใจนายจ้าง หาแนวทางเสี่ยงต่ออายุวีซ่าเข้ามาทำงาน

ผ่านมา 10 วันตั้งแต่วันที่ 3 เมษายนจนถึงวันที่ 13 เมษายนที่มีหมายจับประกาศลงใน The Global New Light of Myanmar ซึ่งตอนนี้  แต่ไม่มีชื่อของ Han Lay นางงามมิสแกรนด์ของเมียนมาถูกประกาศจับแต่อย่างใด  และจากนี้เหตุผลที่จะขออยู่ในประเทศไทยต่อด้วยสาเหตุใด 
       
   
   
   
 
คำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 327/2557 เรื่อง หลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการพิจารณา กรณีคนต่างด้าวขออนุญาตอยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว จะพิจารณาจากเหตุดังต่อไปนี้คือ
1.    กรณีมีเหตุจำเป็นทางธุรกิจ เช่น จะต้องอยู่ปฏิบัติงานในบริษัท หรือห้างหุ้นส่วน เป็นต้น
2.    กรณีมีเหตุจำเป็น จะต้อง อยู่ปฏิบัติงานเกี่ยวกับการลงทุนที่ได้รับความเห็นชอบจากกระทรวง ทบวง กรมที่เกี่ยวข้อง
3.    กรณีมีเหตุจำเป็น จะต้อง อยู่ปฏิบัติงาน ในส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ
4.    กรณีเพื่อการท่องเที่ยว
5.    กรณีเพื่อการลงทุน
6.    กรณีเป็นครู หรืออาจารย์ หรือผู้สอน หรือ ผู้เชี่ยวชาญ หรือบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษา ของรัฐหรือเอกชน
7.    กรณีเพื่อศึกษาใน สถานศึกษาของรัฐหรือเอกชน
8.    กรณีเพื่อฝึกสอน หรือ ค้นคว้าวิจัยในสถาบันการศึกษาในราชอาณาจักรหรือสถาบันวิจัย
9.    กรณีเป็นครอบครัว (เฉพาะบิดา มารดา คู่สมรส (ชาย-หญิง) บุตร บุตรบุญธรรม หรือบุตรของคู่สมรส) ของ คนต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตให้อยู่ ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว เพื่อศึกษาในสถานศึกษาตาม หลักเกณฑ์ข้อ 7
10.    กรณีปฏิบัติหน้าที่ สื่อมวลชน
11.    กรณีศึกษาพระพุทธ ศาสนา หรือปฏิบัติศาสนกิจหรือเผยแพร่ศาสนา
12.    กรณีเป็นช่างฝีมือ หรือ เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ การพยาบาล หรือสาขาวิชาชีพ ต?างๆ เพื่อถ่ายทอดความรู้ให้กับคนไทย
13.    กรณีเพื่อติดตั้ง หรือ ซ่อมแซม เครื่องจักร อากาศยาน หรือเรือเดินทะเล
14.    กรณีเป็นนักแสดง นักร้อง นักดนตรี ประจำโรงแรม หรือ ประจำบริษัทที่ประกอบธุรกิจ บันเทิงในประเทศไทย ซึ่งมีทุน จดทะเบียนชำระเต็มมูลค่า ไม่น้อยกว่า ๒๐ ล้านบาท
15.    กรณีเป็นครอบครัวของ ผู้มีสัญชาติไทย (เฉพาะบิดา มารดา คู่สมรส (ชาย-หญิง) บุตร บุตรบุญ ธรรม หรือบุตรของคู่สมรส)
16.    กรณีเป็นครอบครัวของ ผู้มีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร (เฉพาะบิดา มารดา คู่สมรส (ชาย-หญิง) บุตร บุตรบุญธรรม หรือบุตร ของคู่สมรส)
17.    กรณีเป็นครอบครัวของ คนต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตให้อยู่ ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว ตามหลักเกณฑ์ข้างต้นที่กล่าวมาแล้ว ยกเว้นกรณีที่มาท่องเที่ยว
18.    กรณีมีเหตุจำเป็นจะต้อง อยู่ปฏิบัติงานในองค์การกุศล สาธารณะ องค์การเอกชน ต่างประเทศ มูลนิธิ สมาคม หอการค้าต่างประเทศ สภาหอ การค้าแห่งประเทศไทย หรือสภา อุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
19.    กรณีใช้ชีวิตในบั้นปลาย
20.    กรณีกลับภูมิลำเนาเดิมของผู้เคยมี สัญชาติไทย หรือของผู้ที่มีบิดา หรือมารดาเป็นบุคคลสัญชาติ ไทยหรือเคยมีสัญชาติไทย
21.    กรณีเพื่อเยี่ยมคู่สมรส (ชาย-หญิง) หรือเยี่ยมบุตรซึ่งมีสัญชาติไทย
22.    กรณีเพื่อรับการรักษา พยาบาล หรือการพักฟื้น หรือ เพื่อดูแลผู้ป่วย
23.    กรณีเพื่อการดำเนินคดี หรือดำเนินกระบวนพิจารณา อันเกี่ยวกับคดี
24.    กรณีปฏิบัติหน้าที่หรือ ภารกิจให้แก่ส่วนราชการ หรือรัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ หรือสถานทูต หรือสถานกงสุล หรือองค์การระหว่างประเทศ
25.    กรณีมีเหตุจำเป็น โดยมี สถานทูต หรือสถานกงสุล ให้ การรับรองและร้องขอ
26.    กรณีเพื่อพิสูจน์สัญชาติ
27.    กรณีเป็นนักแสดง นักร้อง นักดนตรี ผู้ควบคุมการแสดง ตลอดจนผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับ การแสดงเพื่อการบันเทิง หรือ มหรสพ โดยมาเปิดการแสดง เป็นครั้งคราว
28.    กรณีเป็นนักกีฬาอาชีพ หรือบุคคากรที่เกี่ยวข้องด้านกีฬาอาชีพ

ถามว่าสำหรับนางงามคนนี้แล้ว  ตอนเข้ามาประกวดในประเทศไทยน่าจะใช้วีซ่าตามหลักเกณฑ์ของข้อ 27  ซึ่งจะต้องมีการยื่นสำเนาใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) และหนังสือรับรองและขอให้อยู่ต่อจากภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง  โดยวีซ่าที่ได้นั้นมีอายุเพียง 90 วันเท่านั้น  ดังนั้นเมื่อการประกวดจบลงหนังสือรับรองเพื่ออยู่ต่อจากบริษัทที่ใช้สำหรับการประกวดจึงใช้ไม่ได้อีกต่อไป  

ดังนั้นหากทางคุณ ณ. ต้องการให้เธออยู่ในไทยนานกว่านั้นด้วยเหตุผลแห่งการลี้ภัยอะไรก็ตามจะต้องยื่นขอวีซ่า  กรณีเป็นนักแสดง นักร้อง นักดนตรี ประจำโรงแรม หรือ ประจำบริษัทที่ประกอบธุรกิจบันเทิงในประเทศไทย ซึ่งมีทุน จดทะเบียนชำระเต็มมูลค่า ไม่น้อยกว่า 20 ล้านบาท  โดยหากได้รับอนุมัติจะสามารถอยู่ในไทยได้ถึง 120 วัน ซึ่งเอกสารในการประกอบการขอวีซ่าประกอบไปด้วย สำเนาใบอนุญาตทำงาน, สำเนาหนังสือสัญญาว่าจ้างผู้ยื่นคำขอ ทำงานเป็นนักแสดง นักร้อง หรือนักดนตรี, สำเนาหลักฐานการจดทะเบียนขององค์กร นั้นๆ เช่น หนังสือรับรองการจดทะเบียน บริษัท หรือการจดทะเบียนห้างหุ้นส่วน ฉบับนายทะเบียนรับรองไม่เกิน 6 เดือน, สำเนาแบบยื่นรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ที่มีชื่อคนต่างด้าวผู้ยื่นคำขอ เดือนล่าสุด พร้อมใบเสร็จรับเงิน รวมถึงสำเนาแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคล ธรรมดา ของคนต่างด้าวผู้ยื่นคำขอ ปีล่าสุด พร้อมใบเสร็จรับเงิน  และค่าวีซ่าที่น่าจะราคาค่อนข้างสูงเอาเรื่องพอสมควร  ดังนั้นทางฝั่งไทยควรพิจารณาถึงความคุ้มได้คุ้มเสียของบริษัทที่ยื่นทำวีซ่าให้ ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าสิ่งที่เธอคนนั้นต้องการคือลี้ภัยจากบ้านเกิดตัวเอง  

โดย : AYA IRRAWADEE

นายกเทศมนตรีเมืองแสนสุข ‘ณรงค์ชัย คุณปลื้ม’ โพสต์ภาพชายหาดบางแสน หลังมีการแห่แชร์ว่าผู้คนหนาแน่นแห่เที่ยวชายหาดบางแสน โดยยืนยันไม่เป็นความจริง เพราะปัจจุบันหาดบางแสนไม่ได้มีแนวร่ม และ เตียงผ้าใบแล้ว

จากกรณีดรามาไวรัลภาพผู้คนแห่เที่ยวชายหาดบางแสน จังหวัดชลบุรี และมีหลายสำนักข่าว และเพจดังได้แชร์ภาพที่ผู้คนจำนวนมากอยู่บนชายหาดแห่งหนึ่ง พร้อมระบุว่าเป็นที่ชายหาดบางแสน จังหวัดชลบุรี นั้น

ล่าสุด วันนี้ (15 เม.ย.) เพจ “ณรงค์ชัย (ตุ้ย) คุณปลื้ม” หรือ นายณรงค์ชัย คุณปลื้ม นายกเทศมนตรีเมืองแสนสุข จังหวัดชลบุรี ได้โพสตภาพพร้อมข้อความ ระบุว่า “ภาพชายหาดบางแสน ณ ปัจจุบันครับ เมื่อวานก็ประมาณนี้ครับ นักท่องเที่ยวไม่ได้แน่นเหมือนในภาพที่เป็นข่าวแต่อย่างใด

ไม่แน่ใจ สื่อที่ลงไปเอาภาพมาจากไหน เพราะปัจจุบันหาดบางแสนไม่ได้มีแนวร่ม และ เตียงผ้าใบยากตลอดแนวชายหาดแล้ว เพราะการจัดระเบียบเรา กำหนดพื้นที่เขต ปลอดร่ม และ เก้าอี้ผ้าใบเป็น 8 เขต รวมระยะทาง 1 กิโลเมตร แล้วครับไม่ได้มีร่ม และ เก้าอี้ผ้าใบแน่นตลอดแนวชายหาดเหมือนในภาพที่สื่อโพสต์ครับ”

ที่มา : https://mgronline.com/onlinesection/detail/9640000035868

https://www.facebook.com/TuiKunplome/?ref=nf&hc_ref=ARS18L54ZsOoFOQse4H0uzILTYtxJsxKzvEiLq2KCUE50YGEB9C5HgvNcGnGo56XfJ4

ผบ.ทบ. กำชับหน่วยทหาร ส่งกำลังพลและอุปกรณ์สนับสนุนการดูแลโควิดต่อเนื่อง พร้อมตั้ง ”โรงพยาบาลสนามกองทัพบก”เพิ่ม ลดภาระโรงพยาบาลสาธารณสุข

เมื่อวันที่ 15 เม.ย.พ.อ.หญิงศิริจันทร์ ผู้บัญชาการทหารบกมีความห่วงใยต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โควิด-19 ในพื้นที่ต่างๆได้ติดตามและกำชับให้ทุกหน่วยทหารดำรงความช่วยเหลือส่วนราชการต่างๆ ให้การสนับสนุนสิ่งอุปกรณ์ต่างๆที่จำเป็นต่อการรักษาพยาบาลอาทิ เตียงนอน ที่นอน โดยเฉพาะการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามและการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ติดเชื้อที่เข้ารับการรักษาพยาบาลในพื้นที่ต่างๆตามที่ได้รับการประสานจากหน่วยงานด้านสาธารณสุข

พร้อมกันนี้ได้สั่งการให้ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 กองทัพบก และ กรมแพทย์ทหารบก  จัดตั้ง ”โรงพยาบาลสนามกองทัพบก” ในพื้นที่ค่ายทหารหรือสถานที่ที่เหมาะสม เพื่อดูแลรองรับประชาชน กำลังพลและครอบครัวที่ติดเชื้อและมีอาการเล็กน้อยหรือไม่มีอาการ รวมทั้งผู้ที่ได้รับการรักษาจากโรงพยาบาลมาและอาการทุเลาลงแล้ว เพื่อเป็นการลดภาระด้านการรักษาพยาบาลให้กับโรงพยาบาลสาธารณสุขในจังหวัดต่างๆ 

ล่าสุดโรงพยาบาลสนามกองทัพบกได้จัดตั้งแล้ว 2แห่งคือ 1. โรงพยาบาลสนามกองทัพบก(ค่ายธนะรัชต์) จ.ประจวบคีรีขันธ์  ดำเนินการโดยศูนย์การทหารราบ และโรงพยาบาลค่ายธนะรัชต์ สามารถรองรับผู้ป่วย 69 เตียง ซึ่งเป็นการส่งต่อการรักษาพยาบาล จากโรงพยาบาลหัวหิน หรือโรงพยาบาลสนามมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ซึ่งเป็นผู้ติดเชื้อจาก อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์  

สำหรับแห่งที่ 2 คือโรงพยาบาลสนามกองทัพบก(เกียกกาย)  กรุงเทพมหานคร โดยได้ดำเนินการปรับ อาคารรับรองเกียกกาย เขตดุสิต เป็นโรงพยาบาลสนาม ดำเนินการโดยกรมสวัสดิการทหารบก และโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า  รองรับได้ 86 เตียง  เป็นผู้ติดเชื้อที่อาการไม่หนัก ที่ส่งมาจากโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เพื่อสำรองเตียงในโรงพยาบาลไว้รองรับผู้ติดเชื้อที่มีอาการหนักต่อไป
 

สภาฯ ผู้บริโภค เชิญชวนประชาชน ร่วมลงชื่อ คัดค้าน ‘ต่อสัมปทานและขึ้นราคารถไฟฟ้าสายสีเขียว’ เข้า ครม. ยืนยัน 25 บาท ตลอดสายทำได้จริง

เมื่อวันที่ 15 เม.ย. น.ส.สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสภาองค์กรของผู้บริโภค กล่าวว่า กทม. จะต่อสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวไปอีก 30 ปี (สัญญาเดิมจะสิ้นสุดในปี 2572) โดยเก็บอัตราค่าโดยสาร 65 บาท ซึ่งกทม.ไม่ได้ชี้แจงว่าราคา 65 บาทคิดจากอะไร และแม้ว่าผู้บริโภค รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงคมนาคม คณะกรรมาธิการคุ้มครองผู้บริโภค จะพยายามสอบถามถึงที่มาของตัวเลข 65 บาท แต่ก็ยังไม่ได้คำตอบ ซึ่งสภาองค์กรของผู้บริโภค คำนวณอัตราค่าโดยสารในอนาคตที่น่าจะเป็นไปได้ และพบว่าหากเก็บอัตราค่าโดยสาร 25 บาท กทม. ยังมีกำไรถึง 23,200 ล้านบาท จึงยืนยันว่าราคา 25 บาททำได้จริง

น.ส.สารี กล่าวต่อว่า การต่อสัญญาสัมปทานดังกล่าวไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน เพราะสัญญาฉบับปัจจุบันจะหมดลงในปี 2572 หรืออีก 8 ปีข้างหน้า ดังนั้น จึงควรพิจารณาปัญหาและผลกระทบอย่างถ้วนถี่ โดยเฉพาะผลกระทบต่อประชาชนผู้ใช้บริการที่ต้องแบกรับภาระค่าโดยสารรถไฟฟ้า ซึ่งจะเป็นภาระผูกพันไปอีก 38 ปี ทั้งนี้ หาก กทม. ไม่สามารถบริหารจัดการให้อัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าถูกลงได้ก็ไม่ควรเร่งต่อสัญญา และรอให้ผู้ว่า กทม. คนใหม่ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจ

น.ส.สารี กล่าวอีกว่า ราคาค่ารถไฟฟ้า 65 บาทที่ กทม. เสนอมา นอกจากเป็นราคาที่สูงเกินกว่า ‘มวลชน’ จะจ่ายได้ ยังไม่สามารถชี้แจงฐานการคิดคำนวณของราคาดังกล่าวที่ชัดเจนว่ามาจากหลักการใด ซึ่งหากราคานี้ถูกพิจารณาผ่านและถูกนำมาใช้ จะส่งผลกระทบกับผู้บริโภคเป็นอย่างมาก เนื่องจากผู้บริโภคจะต้องผูกมัดจ่ายค่าโดยสารในราคานี้ไปอีก 38 ปี จนกว่าจะหมดสัญญาสัมปทานในปี 2602 ในขณะที่ข้อเสนอของกระทรวงคมนาคมให้ใช้ราคาค่ารถไฟฟ้า 49.83 บาทเท่านั้น ซึ่งจะทำให้มีกำไรส่งรัฐในปี 2602 ถึง 380,200 ล้านบาท แต่กทม.ไม่เคยมีโมเดลการคิดค่าโดยสารมานำเสนอเลย

"เราขอเรียกร้องให้รัฐบาลส่งปัญหานี้กลับมายัง กทม. เพื่อให้ กทม.ทำกระบวนการการกำหนดราคาที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ และให้ประชาชนที่เป็นผู้รับภาระการจ่ายค่าโดยสารมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น จากการคำนวณของสภาฯ พบว่า ค่ารถไฟฟ้าในราคา 25 บาท สามารถทำได้จริงแน่นอน ซึ่งในการคำนวณดังกล่าวได้อ้างอิงจากตัวเลขของกระทรวงคมนาคม โดยลดรายได้รวมลงครึ่งหนึ่งและคิดราคาค่าโดยสารเพียง 25 บาท สุดท้ายแล้ว กทม. ยังมีกำไรหรือมีเงินเหลือนำส่งรัฐได้ถึง 23,000.00 ล้านบาท" น.ส.สารี กล่าว

น.ส.สารี กล่าวอีกว่า สามารถร่วมลงชื่อคัดค้านการนำประเด็น 'ต่อสัมปทานและขึ้นราคารถไฟฟ้าสายสีเขียว' เข้า ครม. ได้ที่ https://forms.gle/fKXLvaFSjbU1tHaX9 ภายในวันที่ 19 เม.ย. 64 เวลา 08.00 น. โดยรายชื่อทั้งหมดจะถูกรวบรวมและนำไปยื่นที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อคัดค้านการนำประเด็น 'สัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว' เข้า ครม. ต่อไป

 

แห่แก้หนี้บัตรเครดิตกว่า 2 แสนคน!! ธปท.เล็งขยายเวลาแก้หนี้ออกไปถึง 30 มิ.ย. 64 หลังประชาชนตอบรับล้นหลาม พร้อมเตรียมจัดมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้ให้ครอบคลุมสินเชื่อเช่าซื้อ คาดเริ่มพฤษภาคมนี้

นางธัญญนิตย์ นิยมการ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน 2 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ตามที่ ธปท. สำนักงานศาลยุติธรรม และกรมบังคับคดี ได้ร่วมกันจัด “มหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล” (หนี้บัตรฯ) โดยเดิมได้กำหนดช่วงเวลาของงานไว้ระหว่างวันที่ 14 กุมภาพันธ์ – 14 เมษายน 2564 ปรากฏว่าผลตอบรับโดยรวมอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมาก กล่าวคือ มีประชาชนมากกว่า 2 แสนคน ให้ความสนใจและได้ลงทะเบียนเข้าร่วมงานมหกรรมไกล่เกลี่ยครั้งนี้เกือบ 5 แสนบัญชี ทั้งนี้ เมื่อใกล้ครบช่วงเวลาที่กำหนดไว้ มีข้อเรียกร้องจากหลายภาคส่วนให้ขยายระยะเวลาที่จัดงานออกไป

ธปท. ได้หารือเรื่องดังกล่าวกับผู้ให้บริการทางการเงินและผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยเห็นร่วมกันที่ให้ขยายระยะเวลาจัดงานออกไปจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2564 เพื่อให้ลูกหนี้มีโอกาสเข้ามาไกล่เกลี่ยหนี้ได้มากและกว้างขวางยิ่งขึ้น ธปท. เห็นว่าแม้เครื่องชี้เศรษฐกิจหลายตัวจะมีทิศทางดีขึ้น และเริ่มมีการฉีดวัคซีนแล้ว แต่ความเสี่ยงที่อาจจะมีการระบาดของโควิด 19 ระลอกใหม่ยังมีอยู่ ซึ่งอาจจะกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ รายได้ รวมถึงความสามารถในการชำระหนี้ของประชาชน

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2564 ถึงวันที่ 12 เมษายน 2564 ประชาชนให้ความสนใจเข้ามาลงทะเบียนจำนวน 234,906 คน หรือ 481,936 บัญชี ซึ่งปัจจุบันผู้ให้บริการอยู่ระหว่างเร่งติดต่อ รวมทั้งตรวจสอบสถานะ และทยอยแจ้งผลเข้ามาต่อเนื่อง โดยภาพรวมการให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น พบว่า กลุ่มลูกหนี้ที่เข้าเงื่อนไข ณ วันที่ 31 มีนาคม 2564 มีอยู่จำนวน 110,956 บัญชี (ระหว่างนี้ยอดดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นตามการพิจารณาของผู้ให้บริการที่ทยอยรายงานเข้ามา) โดยลูกหนี้และเจ้าหนี้สามารถตกลงเจรจาไกล่เกลี่ยกันได้ประมาณ 63% ส่วนกรณีที่ยังไม่สามารถหาข้อสรุป บางส่วนอยู่ระหว่างกำลังตรวจสอบเอกสาร และเป็นผลจากลูกหนี้ยื่นขอไกล่เกลี่ยเข้ามาผิดกลุ่ม เช่น สถานะยังผ่อนชำระดี แต่ยื่นขอไกล่เกลี่ยในช่องทางของกลุ่มที่มีคำพิพากษาแล้ว เป็นต้น รวมทั้งบางกรณีลูกหนี้ยังไม่พร้อมที่จะผ่อนชำระตามแผน และบางรายต้องการข้อเสนอที่แตกต่างจากข้อตกลงของงานมหกรรมในครั้งนี้ โดยในช่วงที่ต่อเวลาคาดว่าสัดส่วนที่ทั้งสองฝ่ายจะสามารถไกล่เกลี่ยกันได้จะเพิ่มสูงขึ้น

นางธัญญนิตย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ธปท. ได้รับแจ้งมาว่าประชาชนในหลายกลุ่ม ยังไม่ทราบเกี่ยวกับงานมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้บัตรในครั้งนี้ จึงต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับงานมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้บัตรในครั้งนี้ให้ประชาชนทราบมากขึ้นในวงกว้าง เพื่อให้ประชาชนที่มีหนี้บัตรใช้โอกาสที่มีการจัดงานในครั้งนี้แก้ปัญหาหนี้ที่มีอยู่ โดยความพิเศษของงานครั้งนี้ คือ ข้อเสนอการผ่อนชำระหนี้จะมีความผ่อนปรน และอยู่ในวิสัยที่ลูกหนี้จะสามารถปฏิบัติได้ ให้เวลาผ่อนชำระยาวเพียงพอ

นอกจากนี้ งานมหกรรมครั้งนี้จะมีข้อเสนอสำหรับลูกหนี้ทุกกลุ่มสถานะ กล่าวคือ

กลุ่มแรก เป็นหนี้บัตรฯ ที่ยังไม่เป็นหนี้เสียแต่รู้สึกฝืดเคือง หรือหนี้บัตรฯ ดีที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด 19 ท่านสามารถลดภาระดอกเบี้ยได้ โดยหยุดการจ่ายขั้นต่ำ ซึ่งใช้เวลานานกว่าหนี้จะลด และขอเปลี่ยนวงเงินสินเชื่อบัตร มาเป็นสินเชื่อแบบมีกำหนดเวลา ซึ่งจะได้รับดอกเบี้ยถูกลงจาก 16% เหลือ 12% สำหรับบัตรเครดิต โดยสามารถคงวงเงินที่เหลือไว้ใช้ได้ และประวัติเครดิตบูโรจะไม่เสีย

กลุ่มที่สอง เป็นหนี้บัตรฯ ที่เป็นหนี้เสียแล้ว ยังไม่ฟ้อง หรือฟ้องแล้วแต่ยังไม่พิพากษา สามารถผ่อนชำระได้นานสูงสุดถึง 10 ปี ดอกเบี้ยต่ำเพียง 4%-7% ตามเงื่อนไขของคลินิกแก้หนี้

กลุ่มที่สาม เป็นหนี้บัตรฯ เป็นคดีมีคำพิพากษาแล้ว ไปจนถึงบังคับคดียึดทรัพย์แต่ยังไม่ขายทอดตลาด ซึ่งลูกหนี้กลุ่มนี้ถือเป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญ และถือเป็นความพิเศษของงานมหกรรมไกล่เกลี่ยในครั้งนี้ คือ ปกติเมื่อเรื่องดำเนินมาถึงขั้นตอนนี้ เจ้าหนี้มักจะไม่ยินยอมให้ผ่อนยาว แต่ผู้ให้บริการทางการเงินจำนวน 23 แห่งที่ร่วมโครงการ เห็นความจำเป็นที่ต้องผ่อนปรนเงื่อนไขให้ปฏิบัติได้จริง เพื่อช่วยให้ทุกฝ่ายเดินต่อไปได้ โดยเปิดโอกาสให้ลูกหนี้ในชั้นบังคับคดีเข้ามาปรับโครงสร้างหนี้ร่วมกันได้อีกครั้งหนึ่ง โดยลูกหนี้จะผ่อนชำระเฉพาะเงินต้นนานสูงสุด 5 ปี และยกดอกเบี้ยที่ค้างให้หากลูกหนี้จ่ายชำระตามแผนได้สำเร็จ

ทั้งนี้ สำหรับประชาชนที่ต้องการความช่วยเหลือหรือคำแนะนำเพิ่มเติม สามารถติดต่อศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธปท. โทร 1213 วันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 8.30-16.30 น. กรณีนอกเวลาทำการท่านสามารถฝากชื่อและเบอร์โทรศัพท์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรืออีเมล์มาที่ [email protected] เพื่อที่เจ้าหน้าที่ของ ธปท.จะได้ติดต่อกลับไป

นางธัญญนิตย์ กล่าวด้วยว่า ธปท. ได้รับข้อแนะนำจากหลายภาคส่วนให้จัดงานมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สำหรับสินเชื่อประเภทอื่นเพิ่มเติม ปัจจุบัน ธปท. อยู่ระหว่างการพิจารณาและหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องที่จะจัดงานมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สำหรับสินเชื่อเช่าซื้อเพิ่มเติม ซึ่งอาจจะเริ่มในช่วงเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้ โดยเมื่อรายละเอียดต่าง ๆ มีความชัดเจนแล้วจะได้ชี้แจงให้ทราบต่อไป

พรรคประชาธิปัตย์ ห่วงสถานการณ์โควิด เลื่อนประชุมใหญ่ จากเดิมกำหนด วันที่ 25 เมษายน 2564

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงการประชุมใหญ่สามัญประจำปีว่า จากที่ได้มีการกำหนดนัดประชุมใหญ่ประจำปี 2564 ในวันที่ 25 เมษายน 2564 นั้นพรรคเห็นว่าเนื่องจากสถานการณ์ การแพร่ระบาดโค-วิด19 มีความเป็นห่วงว่าจะเกิดความเสี่ยงและเกิดความยากลำบากในการเดินทางมาของสมาชิกพรรคที่เป็นองค์ประชุมเพราะในหลายจังหวัดมีมาตรการค่อนข้างเข้มงวดเป็นอย่างมาก และการรวมกลุ่มบุคคลที่มีจำนวนหลายร้อยคนจะเกิดความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ได้ 

ทางพรรคจึงขอเลื่อนการประชุมประชุมใหญ่สามัญประจำปี ที่ต้องจัดภายในเดือนเมษายน 2564 ออกไปก่อนและจะได้ทำหนังสือแจ้งต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งต่อไป หากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด19คลี่คลายลงจะได้กำหนดนัดประชุมใหญ่ต่อไป

นายราเมศกล่าวต่อว่า การประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค ที่ได้นัดประชุมในวันจันทร์ที่ 19 เมษายน 2564 ก็ได้เลื่อนออกไปด้วยเช่นกัน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top