Thursday, 29 May 2025
TheStatesTimes

‘ญี่ปุ่น’ หล่นจากบัลลังก์ ครั้งแรกในรอบ 34 ปี หลังเสียแชมป์เจ้าหนี้โลกให้กับ ‘เยอรมนี’

(27 พ.ค. 68) ญี่ปุ่นสูญเสียสถานะประเทศเจ้าหนี้รายใหญ่ที่สุดของโลกเป็นครั้งแรกในรอบ 34 ปี แม้ว่าสินทรัพย์สุทธิในต่างประเทศจะเพิ่มขึ้นทำสถิติสูงสุดก็ตาม 

ข้อมูลจากกระทรวงการคลังของญี่ปุ่นระบุว่า ณ สิ้นปี 2024 สินทรัพย์สุทธิในต่างประเทศของญี่ปุ่นอยู่ที่ 533.05 ล้านล้านเยน (ราว 127.93 ล้านล้านบาท) เพิ่มขึ้นประมาณ 13% จากปีก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม เยอรมนีมีสินทรัพย์สุทธิในต่างประเทศรวม 569.7 ล้านล้านเยน (136.73 ล้านล้านบาท) แซงหน้าญี่ปุ่นขึ้นเป็นอันดับหนึ่ง ขณะที่จีนอยู่ในอันดับสามด้วยสินทรัพย์สุทธิ 516.3 ล้านล้านเยน (123.91 ล้านล้านบาท)

การเพิ่มขึ้นของสินทรัพย์สุทธิของญี่ปุ่นส่วนหนึ่งมาจากค่าเงินเยนที่อ่อนค่าลง ทำให้มูลค่าของสินทรัพย์ในต่างประเทศเมื่อแปลงเป็นเงินเยนสูงขึ้น นอกจากนี้ การลงทุนโดยตรงในต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้สินทรัพย์สุทธิของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น

ในทางกลับกัน การที่เยอรมนีขึ้นเป็นประเทศเจ้าหนี้รายใหญ่ที่สุดของโลก สะท้อนถึงดุลบัญชีเดินสะพัดที่เกินดุลอย่างมาก ซึ่งในปี 2024 อยู่ที่ 248.7 พันล้านยูโร (ราว 9.45 ล้านล้านบาท) เป็นผลมาจากการส่งออกที่แข็งแกร่ง

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จัดทำ 'โครงการถนนปลอดภัย' บังคับใช้กฎหมายจราจรเข้มข้น ป้องกันอุบัติเหตุและสร้างความปลอดภัยในการสัญจร คิกออฟ 1 มิถุนายนนี้ พร้อมกันทั่วประเทศ

(27 พ.ค.68) พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บัญชาการศึกษา ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานเสริมสร้างภาพลักษณ์ตำรวจจราจร ศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้ทุกหน่วยจัดทำ “โครงการถนนปลอดภัย” โดยให้ดำเนินการเสริมสร้างวินัยจราจรและสร้างความปลอดภัยทางถนน เพื่อให้การบริหารงานจราจรเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ

พล.ต.อ.ไกรบุญฯ สั่งการให้ดำเนินโครงการ “โครงการถนนปลอดภัย” โดยให้กองบังคับการ/ตำรวจภูธรจังหวัด ในทุกพื้นที่ พิจารณาเลือกถนนสายสำคัญในพื้นที่ หรือถนนที่มีการฝ่าฝืนกฎจราจรจำนวนมาก หรือถนนที่มีอุบัติเหตุในเส้นทางบ่อยครั้ง หรือถนนที่มีที่ตั้งของสถานศึกษาอยู่หลายแห่ง เพื่อรณรงค์ให้ผู้ใช้รถใช้ถนนต้องปฏิบัติตามกฎหมายจราจรในทุกมิติ โดยเฉพาะการสวมหมวกนิรภัยของผู้ขับขี่และผู้โดยสารรถจักรยานยนต์ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย 100% ทั้งนี้ ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก มาตรา 122 กำหนดให้ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ และคนโดยสารรถจักรยานยนต์ ต้องสวมหมวกนิรภัยเพื่อป้องกันอันตรายในขณะขับขี่และโดยสารรถจักรยานยนต์ หากฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท และมีโทษปรับเป็น 2 เท่า หากผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ขับขี่ในขณะที่คนโดยสารรถจักรยานยนต์มิได้สวมหมวกนิรภัย โดยให้บังคับใช้กฎหมายจราจรทางบกและกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับรถหรือการใช้ทางบนถนนดังกล่าวอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุและสร้างความปลอดภัยในการสัญจร โดยเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไป 

นอกจากนี้ ให้ทุกหน่วยรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชน หน่วยงานเจ้าของถนน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ฝ่ายปกครอง หน่วยงานภาครัฐ และสถานศึกษาที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนภาคีเครือข่ายในพื้นที่ เพื่อทราบถึง “โครงการถนนปลอดภัย” ของหน่วยตนเอง และเชิญชวนให้ร่วมกันปฏิบัติตามกฎจราจร ช่วยกันรณรงค์และตรวจตราผู้ใช้เส้นทาง มิให้มีการฝ่าฝืนกฎจราจรในถนนเส้นดังกล่าว ตลอดจนเสริมสร้างการใช้มาตรการองค์กรร่วมกับภาคเอกชนในพื้นที่ ให้ร่วมกันปฏิบัติตามกฎหมายจราจรในถนนเส้นดังกล่าวในทุกมิติ ทั้งนี้ เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุจราจร สร้างความปลอดภัยให้แก่ทุกคนที่ใช้รถใช้ถนน และเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่เด็กและเยาวชนซึ่งเป็นลูกหลานของเราอีกด้วย

ศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอประชาสัมพันธ์และขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนร่วมกันสร้างความปลอดภัยบนท้องถนน และหากประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนพบเหตุต้องสงสัย หรือสอบถามข้อมูลเส้นทางเพิ่มเติม  แจ้งอุบัติเหตุจราจร และขอความช่วยเหลือด้านการจราจร สามารถติดต่อได้ที่สายด่วนกองบังคับการตำรวจจราจร 1197 และสายด่วนตำรวจทางหลวง 1193 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ชาวลาวร้องระงม!!...ค่าไฟพุ่งเกือบ 50% สาเหตุจากดีมานด์เพิ่ม เงินกีบอ่อนซ้ำเติม

(27 พ.ค. 68) สื่อ Nikkei Asia รายงานว่า ค่าไฟฟ้าในประเทศลาวพุ่งสูงในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา สาเหตุจากความต้องการใช้พลังงานภายในประเทศที่เพิ่มขึ้น และค่าเงินกีบที่อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง สถานการณ์ดังกล่าวสร้างแรงกดดันต่อแผนของรัฐบาลลาวที่ต้องการเป็น “แบตเตอรี่ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”

ชาวลาวจำนวนมากแสดงความไม่พอใจผ่านโซเชียลมีเดีย โดยแชร์ภาพบิลค่าไฟฟ้ารายเดือนที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างผิดปกติ ตัวอย่างเช่น บิลค่าไฟเดือนเมษายนที่มีการแชร์อย่างแพร่หลาย พบว่าเพิ่มขึ้นเกือบ 50% จนแตะระดับ 2.7 ล้านกีบ หรือประมาณ 125 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 4,060 บาท)

รัฐบาลเวียงจันทน์ได้ประกาศปรับขึ้นค่าไฟแบบค่อยเป็นค่อยไปจนถึงปี 2029 โดยคาดว่าอัตราสำหรับครัวเรือนจะอยู่ที่ 1,724 กีบต่อหน่วยภายในสิ้นปี 2026 หรือประมาณ 2.6 บาท เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวจากช่วงต้นปี 2024

ค่าไฟที่เพิ่มขึ้นมาพร้อมกับการขยายตัวของภาคธุรกิจและการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน โดยลาวมีบริษัทจดทะเบียนกว่า 21,300 แห่ง ณ สิ้นปี 2024 ขณะที่ประเทศยังพึ่งพาพลังน้ำถึง 70% ในการผลิตไฟฟ้า และต้องแบกรับภาระหนี้ต่างประเทศ ซึ่งยิ่งหนักขึ้นเมื่อค่าเงินกีบอ่อนค่าลงมากกว่า 10% ในรอบปี ล่าสุดอัตราอยู่ที่ 660 กีบต่อ 1 บาทไทย (เทียบกับ 580 กีบเมื่อปีก่อน)

28 พฤษภาคม พ.ศ. 2506 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 เสด็จฯ เยือนญี่ปุ่นครั้งแรกอย่างเป็นทางการ

ในช่วงต้นรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร พระองค์ได้เสด็จพระราชดำเนินเยือนต่างประเทศ เพื่อทรงเจริญสัมพันธไมตรี พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 และหนึ่งในประเทศที่พระองค์เลือกเสด็จพระราชดำเนินเยือน คือ ประเทศญี่ปุ่น ในปี พ.ศ. 2506

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2506 ในหลวง ร.9 และ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จฯ ไปยังพระราชวังอิมพีเรียล และทรงฉายพระบรมฉายาลักษณ์ร่วมกับสมเด็จพระจักรพรรดิและสมเด็จพระราชินีแห่งญี่ปุ่น ในโอกาสนี้ พระองค์ได้ถวายเครื่องราชอิสริยาภรณ์ อันเป็นมงคลยิ่ง ราชมิตราภรณ์ แด่สมเด็จพระจักรพรรดิและเครื่องราชอิสริยาภรณ์มหาจักรี บรมราชวงศ์ แด่สมเด็จพระราชินี 

หลังจากนั้นสมเด็จพระจักรพรรดิทรงจัดงานถวายพระกระยาหารค่ำ ณ พระบรมมหาราชวังอิมพีเรียล และทรงมีพระดำรัสต้อนรับ จากนั้นทรงเชิญชวนดื่มถวายพระพร

‘ทรัมป์’ ขึ้นภาษี EU 50% ทำให้ ‘เยอรมนี’ เสี่ยงทรุดหนัก คาดสูญ 7.3 ล้านล้านบาท GDP ลดลง 1.1% ต่อปี..ถึง 2028

(27 พ.ค. 68) สถาบันเศรษฐกิจเยอรมนี (IW) รายงานว่า หากสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ดำเนินมาตรการเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหภาพยุโรปที่อัตรา 50% ต่อเนื่องจนสิ้นสุดวาระการดำรงตำแหน่ง อาจส่งผลให้เศรษฐกิจเยอรมนีสูญเสียมูลค่าสูงสุดถึง 200,000 ล้านยูโร (ราว 7.39 ล้านล้านบาท) ภายในปี 2028

การศึกษาของ IW ชี้ว่า ผลกระทบดังกล่าวจะทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของเยอรมนีลดลงเฉลี่ยปีละ 1.1% ระหว่างปี 2025 ถึง 2028 และหากสหภาพยุโรปตอบโต้ด้วยมาตรการภาษีในลักษณะเดียวกัน ความสูญเสียทางเศรษฐกิจของเยอรมนีอาจเพิ่มขึ้นเป็น 290,000 ล้านยูโร (ราว 10.71 ล้านล้านบาท) ในช่วงเวลาเดียวกัน

ประธานาธิบดีทรัมป์ ได้ประกาศเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2025 ว่าจะเรียกเก็บภาษี 50% สำหรับสินค้านำเข้าจากสหภาพยุโรป โดยให้เหตุผลว่าการเจรจาการค้ากับสหภาพยุโรปไม่มีความคืบหน้า และระบุว่าหากสินค้าถูกผลิตในสหรัฐฯ จะไม่ถูกเก็บภาษีดังกล่าว

ขณะที่ ลาร์ส คลิงไบล์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของเยอรมนี เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการแก้ไขข้อพิพาททางภาษีระหว่างสหรัฐฯ และสหภาพยุโรปโดยเร็ว เนื่องจากการเก็บภาษีดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อทั้งสองฝ่าย

ส่วนภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนี โดยเฉพาะภาคการส่งออก กำลังเผชิญกับความเสี่ยงอย่างมากจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการจ้างงานและการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ

‘เอ ภักดี’ เจ้าของร้านภักดีคาเฟ่ ย้อนความหลัง ได้รับน้ำใจจาก “พระเอกกล้ามโต” รีวิวน้ำพริกให้ทั้งที่ไม่เคยรู้จักกัน

(27 พ.ค. 68) นายฐิติวัฒน์ ธนการุณย์ หรือ เอ ภักดี เจ้าของร้าน “ภักดี คาเฟ่” โพสต์เฟซบุ๊กถึง ‘อาร์ต พศุตม์‘ ว่า มีช่วงชีวิตหนึ่งที่ผมลำบากมากๆไม่มีอะไรทำ ต้องมาขายของออนไลน์ ทำน้ำพริกขาย ก็พอขายได้บ้างแต่ไม่มากครับ แต่แล้ว…

หลังบ้านสิครับ วันดีคืนดีไอ้น้องคนนี้ทักเข้ามาหาพี่(ไม่เคยรู้จักเขาเป็นการส่วนตัวเลยนะครับ) พี่เอครับ ผมขอซื้อน้ำพริกพี่เออย่างละ 5 ครับ เดี๋ยวผมจะช่วยพี่เอรีวิวด้วย เฮ้ย…ไอ้เราก็งงสิครับ อยู่ๆนักแสดงชื่อดัง แถมเราก็ชอบน้องมันด้วย เพราะเห็นน้องทำกิจกรรมจิตอาสาต่างๆ เยอะแยะมากมาย หลังจากนั้น…พอน้องเขาได้น้ำพริกของผมไป ตั้งแต่บัดนั้นชีวิตของผมเปลี่ยนเลยครับ จากวันเป็นเดือน จากเดือนเป็นปี ที่ผมใช้ชีวิตโดยการส่งน้ำพริกทั้งทั้งคืน…นี่แหละครับ…ไอ้พระเอกกล้ามโตของพี่

ทัพเรือภาคที่ 1 จัดกิจกรรมจิตอาสา “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ” เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี

(27 พ.ค. 68) พลเรือโท อาภา ชพานนท์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 นำกำลังพลจิตอาสาจากทัพเรือภาคที่ 1 พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 1, กองพันซ่อมบำรุง กรมสนับสนุนกองพลนาวิกโยธิน, กองพันต่อสู้อากาศยานที่ 21 กรมต่อสู้อากาศยานที่ 2, หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง, เทศบาลตำบลบางเสร่, เทศบาลตำบลเกล็ดแก้ว ตลอดจนคณะครูและนักเรียนโรงเรียนเกล็ดแก้ว ร่วมจัดกิจกรรมจิตอาสา “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ” ณ โรงเรียนเกล็ดแก้ว ตำบลบางเสร่ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี รวมถึงกิจกรรมเก็บขยะบริเวณชายหาดหน้าโรงพยาบาลอาภากรเกียรติวงศ์ ฐานทัพเรือสัตหีบ

กิจกรรมประกอบด้วย การปรับปรุงภูมิทัศน์ ตัดหญ้า ลอกรางระบายน้ำ ทำความสะอาดบริเวณโรงเรียนเกล็ดแก้ว และเก็บขยะบริเวณชายหาด เพื่อเสริมสร้างจิตสาธารณะ ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการพัฒนาชุมชน สร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างกองทัพเรือกับประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียง และส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีของกองทัพเรือ

การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติและแสดงความจงรักภักดีต่อสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และบำเพ็ญประโยชน์ถวายเป็นพระราชกุศล

สมนึก เชื้อสนุก  รายงาน

รทสช. ส่ง 'จุติ' นำทีม 11 ขุนพลอภิปรายงบ 69 ยันมติพรรคพร้อมรับหลักการหวังประเทศเดินหน้า

โฆษกรวมไทยสร้างชาติ เผย ส่ง 'จุติ ไกรฤกษ์' นำทีม 11 ขุนพลลุยอภิปรายงบประมาณ '69 ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติและประชาชน ยันมติพรรคพร้อมรับหลักการงบประมาณ '69 ให้งบต่อเนื่อง ปิดช่องการแก้ปัญหาให้ประชาชนสะดุด เร่งกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อพัฒนาประเทศชาติ

(28 พ.ค. 68) นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดราชบุรี เขต 4 พรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 27 พ.ค. ที่ผ่านมา พรรครวมไทยสร้างชาติได้ประชุมเพื่อเตรียมความพร้อมในส่วนของการเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยวิสามัญ ระหว่างวันที่ 28-31 พฤษภาคม 2568 โดยมีนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติเป็นประธานการประชุม 

สำหรับการพิจารณาพระราชกำหนดในวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ที่จะมีการพิจารณาพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 หรือ Cyber Security Law และ พระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 ทางพรรครวมไทยสร้างชาติมีมติเห็นชอบต่อพระราชกำหนดทั้ง 2 ฉบับ 

ในส่วนของการพิจารณา ร่างพระราชบัญญัติจัดระเบียบทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... นั้นทางพรรครวมไทยสร้างชาติมีมติรับหลักการกฎหมายทั้ง 2 ฉบับเช่นเดียวกัน 

และในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยวิสามัญ ในครั้งนี้ ตั้งแต่ 17.00 น. ของวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 เป็นต้นไปจะเป็นการอภิปรายร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 

โดยที่ประชุมพรรครวมไทยสร้างชาติได้จัดเตรียมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจำนวน 11 ท่านเพื่อเป็นผู้อภิปรายร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 โดยมีนายจุติ ไกรฤกษ์ รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ เป็นผู้อภิปรายนำและควบคุมประเด็นในการอภิปรายของเพื่อนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรครวมไทยสร้างชาติ เพื่อให้การอภิปรายในครั้งนี้ของ 11 ขุนพลของพรรครวมไทยสร้างชาติเกิดประโยชน์สูงสุดต่อพี่น้องประชาชน และสามารถให้ข้อเสนอแนะแก่รัฐบาลให้ใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่า และมีประสิทธิภาพมากที่สุด รวมทั้งเหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน เพื่อให้มีการปรับปรุงแก้ไขในวาระที่ 2 ในชั้นกรรมาธิการต่อไป

นอกจากนี้ที่ประชุมยังมีการคัดเลือกกรรมาธิการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 จำนวน 4 ท่าน คือในสัดส่วนของสภาผู้แทนราษฎร และสัดส่วนของคณะรัฐมนตรีอย่างละ 2 ท่าน เพื่อให้การพิจารณางบประมาณรายจ่ายมีประสิทธิภาพที่สุด

และที่สำคัญพรรครวมไทยสร้างชาติมีมติเห็นชอบ รับหลักการร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 เพื่อให้รัฐบาลได้มีเครื่องมือในการใช้แก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน กระตุ้นเศรษฐกิจและใช้ในการพัฒนาประเทศชาติต่อไป การให้งบประมาณรายจ่ายประจำปีมีความต่อเนื่องสามารถใช้ได้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 จึงมีความสำคัญในการแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน รวมทั้งการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลจะไม่สะดุดหยุดลงเนื่องด้วยเหตุผลด้านงบประมาณ 

‘ทรัมป์’ ยื่นข้อเสนอใหม่ให้ ‘แคนาดา’ เลือกจ่าย 61 พันล้านดอลลาร์ หรือเป็นรัฐที่ 51 ของสหรัฐฯ

(28 พ.ค. 68) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ยื่นข้อเสนอใหม่ต่อแคนาดา โดยระบุว่าแคนาดาเลือกได้เลยจะจ่าย 61 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.23 ล้านล้านบาท) เพื่อเข้าร่วมระบบป้องกันขีปนาวุธ 'Golden Dome' หรือกลายเป็นรัฐที่ 51 ของสหรัฐฯ เพื่อได้รับสิทธิเข้าร่วมฟรี โดยทรัมป์ประกาศผ่าน Truth Social ว่า “แคนาดาจะไม่ต้องจ่ายแม้แต่ดอลลาร์เดียว หากกลายเป็นรัฐที่รักยิ่งของเรา”

ข้อเสนอของทรัมป์มีขึ้นหลังจากนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของแคนาดา มาร์ก คาร์นีย์ ได้รับชัยชนะจากการเลือกตั้ง ด้วยนโยบายปกป้องอธิปไตยของประเทศ และปฏิเสธแนวคิดของทรัมป์อย่างชัดเจน โดยก่อนหน้านี้ ทรัมป์เคยล้อเลียนอดีตนายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด ว่าเป็นเพียง 'ผู้ว่าการทรูโด'

ในขณะเดียวกัน โครงการ Golden Dome ของสหรัฐฯ มีมูลค่ารวมกว่า 175 พันล้านดอลลาร์ และอาจสูงถึง 542 พันล้านดอลลาร์ในระยะยาว โดยเป็นโครงการป้องกันขีปนาวุธที่รวมถึงการวางอาวุธในอวกาศ ซึ่งทรัมป์คาดว่าจะเริ่มใช้งานได้ภายในปี 2029

การยื่นข้อเสนอของทรัมป์เกิดขึ้นหลังจากพระเจ้าชาร์ลส์แห่งอังกฤษเสด็จแคนาดาและกล่าวสุนทรพจน์ต่อรัฐสภา ย้ำอธิปไตยและเสรีภาพของแคนาดา ขณะที่นายกฯ คาร์นีย์ได้ย้ำจุดยืนว่า “แคนาดาไม่ใช่ของซื้อขายได้” ส่วนทรัมป์ตอบพร้อมรอยยิ้มว่า “เดี๋ยวก็รู้เอง”

ทบ. แจงเหตุปะทะเดือดทหารไทย - กัมพูชา ชี้ สถานการณ์คลี่คลายทหารไทยไร้บาดเจ็บ

ทบ.แจงเหตุการณ์ปะทะทหารกัมพูชาบริเวณชายแดนช่องบก อุบลราชธานี ปัจจุบัน สถานการณ์คลี่คลายแล้ว อยู่ระหว่างรอการเจรจา

เช้าวันนี้ (28 พ.ค.68) ณ กองบัญชาการกองทัพบก พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เผยถึงสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทยกัมพูชา โดยระบุว่าได้รับรายงานจาก กองกำลังสุรนารีเกี่ยวกับเหตุการณ์ปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 เวลา 05.30 น. 

โดย หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี ได้รับการรายงานว่ามีทหารกัมพูชาเข้ามาวางกำลังในพื้นที่อ้างสิทธิ์ ซึ่งไม่เป็นไปตามข้อตกลง ฝ่ายไทยจึงจัดชุดประสานงานเพื่อเข้าพูดคุยเจรจาตามแนวทางการปฏิบัติที่เคยกระทำมา เมื่อถึงบริเวณดังกล่าว กำลังส่วนระวังเหตุของทหารกัมพูชาได้เข้าใจผิด และเริ่มใช้อาวุธ ฝ่ายไทยจึงใช้อาวุธตอบโต้กลับไป โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที ต่อมาเวลา 05.55 น. พลตรี ทล โซะวัน รองผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ฝ่ายกัมพูชา ได้โทรศัพท์ประสานงานกับ พันเอก บุญเสริม บุญบำรุง รองผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายยุติ โดยทั้งสองฝ่ายได้ตกลงหยุดยิงและตรึงกำลังบริเวณจุดปะทะ 

ปัจจุบัน ทั้งสองฝ่ายอยู่ระหว่างการเจรจาผ่านกลไกทวิภาคี เพื่อจัดการกรณีอ้างสิทธิในพื้นที่ และกำหนดแนวทางร่วมกันในการปฏิบัติอย่างสันติ ตามข้อตกลงที่มีอยู่

กองทัพบกขอยืนยันว่า กำลังพลฝ่ายไทยปลอดภัย ไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต และจะรายงานความคืบหน้าเพิ่มเติมให้ทราบต่อไป


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top