‘ไฮโซเก๊’ เกมลวงที่ฝังรากจากเครือข่ายเด็กปั้นสายเสรีนิยม จากประชาธิปไตยพันธุ์ปลอมสู่ความเสียหายระดับสถาบัน
ข่าวใหญ่ที่ทำให้สังคมหันมามองไม่ใช่แค่เพราะดาราสาว คะน้า ริญญารัตน์ ถูกชายหนุ่มหลอกให้แต่งงานด้วย 'ทองปลอม แหวนเพชรปลอม และคำพูดปลอม' หากแต่เบื้องหลังของชายคนนี้ซับซ้อนกว่าที่คิด — ไม่ใช่แค่ 'นักต้มตุ๋น' ธรรมดา แต่คือภาพสะท้อนของ 'ระบบเครือข่าย' ที่ปลูกฝังมาเป็นสิบปีในนามของประชาธิปไตย เสรีภาพ และความยุติธรรม
ชายผู้หลอกดาราสาวคนนั้นมีชื่อว่า ธนายุทธ สิงหเสนี ซึ่งความจริงแล้ว นามสกุล 'สิงหเสนี' ที่ใช้ก็เป็นของปลอม — ถูกสร้างขึ้นเพื่อแอบอ้างความเชื่อมโยงกับตระกูลเก่าแก่ที่เกี่ยวข้องกับคดีสำคัญในประวัติศาสตร์ไทย
อัปเดตชื่อทั้งหมดที่เคยใช้เท่าที่มีการรวบรวมไว้คือ
ชื่อที่ใช้ประกอบไปด้วย
นายธนายุทธ สิงหเสนี
นายธนายุทธ พึ่งพิบูลย์
ล่าสุดดูเหมือนว่าจะมีชื่อปลอมเพิ่มขึ้นคือ
นายธัญเทพ พึ่งพิบูลย์
นายธัญเทพ ศิริทรัพย์เดชากุล
ดร. ธัญเทพ ศิริทรัพย์เดชากุล ชื่อเล่น ฮอท (ใช้แอบอ้างในปัจจุบัน)
ข้าพเจ้าขอเรียกบุคคลคนนี้ชื่อว่านายธนายุทธละกันนะครับเพื่อความสะดวก....
แต่เรื่องของธนายุทธไม่เริ่มต้นจากคดีหลอกแต่งงาน หากย้อนกลับไปในอดีต เขาคือหนึ่งในบุคคลสำคัญในเครือข่ายเยาวชนที่ชื่อว่า 'สถาบันยุวชนสยาม' ก่อตั้งเมื่อปี 2557 ซึ่งมีที่ปรึกษาคือ ส. ศิวรักษ์ ,คุณดุษฎี พนมยงค์ ,ชาญวิทย์ เกษตรศิริและ ก็ยังมีอีกหลายคน โดยกลุ่มนี้เป็นแหล่งบ่มเพาะนักเคลื่อนไหวรุ่นใหม่จำนวนมาก หนึ่งในนั้นรวมถึงบุคคลที่วันนี้เรารู้จักดีในฐานะ 'นักเคลื่อนไหวสิทธิเสรีภาพ' อย่าง เนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล และ อภิชาติ พงษ์สวัสดิ์
ธนายุทธปั้นตัวเองในเครือข่ายนี้โดยอ้างว่าเป็นทายาทของ 'ตระกูลสิงหเสนี' ซึ่งเกี่ยวพันกับคดีลอบปลงพระชนม์ รัชกาลที่ 8 พร้อมประกาศตนเป็น “ผู้เรียกร้องความยุติธรรมให้กับนายชิตสิงหเสนี” ทั้งที่ไม่มีหลักฐานใดรับรอง แต่กลับใช้เรื่องเจ้า เรื่องแผ่นดิน และเรื่องบาดแผลในประวัติศาสตร์ เป็นเครื่องมือสร้างความชอบธรรมให้ตัวเอง
ในช่วงระหว่างปี 2553–2556 ซึ่งเป็นยุคที่รัฐเปิดพื้นที่ให้กับภาคเยาวชน ภายหลังรัฐประหาร 2549 เพื่อสร้างภาพลักษณ์ประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม จึงเกิดเวทีอย่าง 'สภาเด็กและเยาวชน' ซึ่งกลายเป็นเวทีบ่มเพาะนักกิจกรรมรุ่นใหม่จำนวนหนึ่ง บางคนโตไปเป็นนักพัฒนา บางคนเป็นนักการเมือง แต่บางคน...กลับใช้เวทีนี้เป็นเครื่องมือสร้างตัวตนและเครือข่ายเพื่อวาระส่วนตัว
ธนายุทธ สิงหเสนี (ชื่อที่แอบอ้าง) คือหนึ่งในเยาวชนที่เข้ามาแทรกตัวอยู่ในเวทีดังกล่าวในช่วงเวลาเดียวกับบุคคลที่ต่อมากลายเป็นที่รู้จักในระดับสากลอย่าง ต้า วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ — นักเคลื่อนไหวสายประชาธิปไตย ของพรรคเพื่อไทยในเวลานั้น ซึ่งภายหลังลี้ภัยการเมืองและหายตัวไปในประเทศกัมพูชา
ธนายุทธเคลื่อนไหวควบคู่กับวันเฉลิมและคนรุ่นเดียวกัน ผ่านบทบาทใน สภาเด็กและเยาวชนระดับกรุงเทพมหานคร รวมถึงองค์กรที่มีแนวโน้มผลักดันวาทกรรมเชิงเสรีนิยมและประชาธิปไตยแบบตะวันตก โดยใช้ภาษาของ 'สิทธิเด็ก' 'สิทธิเสรีภาพ' 'ประชาธิปไตย' และ 'ความเท่าเทียม' เป็นฉากหน้า
ซึ่งทำให้เขารู้จักกับพวกกลุ่ม ยุวทัศน์กรุงเทพฯในช่วงนั้น
และเขาก็เคลื่อนไหวทางการเมืองร่วมกับเยาวชนในกลุ่มหัวฝ่ายซ้ายมาโดยตลอดในช่วงเวลานี้ในฐานะคนที่มีนามสกุลสิงหเสนี
เขาอ้างนามสกุล 'สิงหเสนี' เพื่อสร้างภาพลักษณ์ความเกี่ยวพันกับชนชั้นนำในประวัติศาสตร์ไทย แสดงบทบาท 'ผู้เรียกร้องความเป็นธรรมให้กับตระกูลสิงหเสนีย์' ผ่านกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์เกี่ยวกับคดีลอบปลงพระชนม์ รัชกาลที่ 8
จนกระทั่งเขาสามารถก่อตั้ง สถาบันยุวชนสยาม ได้ในปี 2557 นั้นเอง ซึ่งช่วงนั้นก็จะมีกิจกรรม offline ร่วมกับองค์กรที่ชื่อว่า 'กลุ่มการศึกษาเพื่อความเป็นไท'
จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นในปี 2559 — ธนายุทธถูกจับในคดี 'ฉ้อโกงที่ดิน' คดีอาญาเต็มรูปแบบ ที่ทำให้เครือข่ายเดิมอย่าง ยุวทัศน์กรุงเทพฯ ซึ่งมีผู้นำคือ “สองพี่น้องตระกูลประจวบลาภ” ต้องรีบออกมาประกาศ “ปัดความเกี่ยวข้อง” และตัดชื่อธนายุทธออกจากทุกบทบาท โดยระบุชัดว่าเขา “ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับภารกิจทางการเมืองของเครือข่าย”
การถูกจับกุมในคดีนั้นส่งผลทำให้แนวทางของการเคลื่อนไหวของกลุ่มยุวชนสยาม ต้องยุติบทบาทลงไป...
ส่วน อภิชาติ พงษ์สวัสดิ์ เนี่ยเคยถูกจับกุมครั้งหนึ่งในข้อหาการชูป้ายประท้วงต่อต้านการรัฐประหาร ปี2557 ร่วมกับ เนติวิทย์ ซึ่งในเวลาออกมาได้ถูกปล่อยตัว ....แล้วเข้ารับราชการ เกี่ยวข้องกับการตรวจการแผ่นดิน
แต่สิ่งที่น่าสนใจกว่าคือ... ใครกันที่มาประกันตัวให้เขาในคดีนั้น?
คำตอบคือ 'ธนายุทธ' บุคคลจากเครือข่ายเดียวกัน ที่ร่วมกิจกรรมกับ "อภิชาติ พงษ์สวัสดิ์" มาตั้งแต่ยุวชนสยาม รวมไปถึงนิติราษฎร์มีความสนิทสนมกับอาจารย์อย่างเช่นนิธิเอี่ยวศรีวงศ์และสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ทำกิจกรรมต่อต้านมาตรา 112 มาโดยตลอด
โดยในเวลาต่อมา 'อภิชาติ พงษ์สวัสดิ์' ได้เติบโตขึ้นไปทำงานใน “วงการยุติธรรม” และล่าสุดได้มีบทบาทเป็นหนึ่งใน คณะกรรมการ Amnesty International ประเทศไทย รุ่นเดียวกับเนติวิทย์ แล้วทำกิจกรรมตามหา ต้า วันเฉลิม ที่หายสาบสูญในกัมพูชา โดยโจมตีว่าเป็นการกระทำของฝ่ายรัฐไทย ....
การที่ มีการเปิดเผยว่า **ธนายุทธ เป็นคนยื่นประกันตัว อภิชาติ... ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่มันสะท้อน “สายสัมพันธ์แน่นแฟ้น” ที่โยงกันมาตั้งแต่ยุคเด็ก — กลุ่มเดียวกัน โตมาด้วยกัน จับมือกันเคลื่อนไหว ...
ชื่อของเนติวิทย์ อภิชาติ และธนายุทธ จึงวนกลับมาอยู่ในกรอบเครือข่ายเดียวกัน — เครือข่ายที่เติบโตจากอุดมการณ์ แต่ค่อย ๆ บิดเบี้ยวจนบางคนใช้สิทธิเสรีภาพเป็นฉากหน้า และใช้ "เรื่องเจ้า" เป็นเครื่องมือแสวงหาอำนาจให้ตัวเอง
ปล. ที่ไฮโซเก๊คนนี้เข้าถึงผู้ใหญ่ คนใหญ่คนโตได้ระดับคุณทักษิณ ชินวัตร นั้น ไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย เพราะว่าคนรอบข้างที่ไฮโซเก๊ ฝังตัวอยู่นั้นก็ล้วนเป็นคนใหญ่คนโตที่สนิทสนมกันดีกับครอบครัวชินวัตร ทั้งคุณ ทักษิณ คุณ ยิ่งลักษณ์หรือแม้แต่คุณอุ๊งอิ๊ง คนเหล่านี้ก็สามารถเข้าถึงได้ ดังนั้นคนเหล่านี้ทำงานให้กับพรรคเพื่อไทยกันมานาน โดยไม่รู้ว่าบางคนใช้ชื่อเสียงนำไปสู่การก้าวล่วงสถาบันฯ เกินกว่าเหตุ
