Thursday, 19 June 2025
TheStatesTimes

‘อุ๊งอิ๊ง’ ไม่รับเงินเดือนนายกฯ เตรียมมอบให้ มูลนิธิ

(15 ก.ย. 67) ในการเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร จะยึดแนวความคิดเดิม คือ การไม่รับเงินเดือนในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีโดยจะมอบให้กับมูลนิธิต่างๆเช่นเดียวกับนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นความคิดของนางสาวแพทองธารมาตั้งแต่ต้นแล้ว

สภาฯ เดือด!! 'สว.สรชาติ' ชำแหละนโยบายรัฐบาลฯ

ที่ประชุมรัฐสภาฯ นายสรชาติ วิชย สุวรรณพรหม สมาชิกวุฒิสภา จังหวัดหนองบัวลำภู ได้อภิปรายคณะรัฐมนตรีที่แถลงนโยบายต่อรัฐสภา ตาม ม. 162 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฯ

​​​​​​

ในฐานะสมาชิกรัฐสภา วันนี้รู้สึกดีใจที่ทางฝ่ายรัฐบาลยังพอมีเหลือนั่งฟังอยู่บ้าง ความเป็นจริงวันนี้ เพื่อนสมาชิกพูดคุยกันมาเยอะแล้ว 

แต่วันนี้จะขออนุญาตเอาสิ่งที่ซ่อนเร้นไว้ในนโยบายของท่านในหน้า 7 และหน้า 12 มาพูดคุยกับท่านโดยเฉพาะอย่างยิ่งอยากจะให้เห็นภาพว่าการกำหนดนโยบายรัฐบาลนั้นมีใน 3 ส่วน ตั้งแต่การก่อร่างนโยบาย การกำหนดนโยบาย และการนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติ  

นโยบายเรือธงของท่านประธาน ฝากไปยังรัฐบาลมีประเด็นสำคัญ 3 ส่วนหลักๆ ที่สุด อยากจะพูดถึงสามนโยบายหลักๆ เพื่อที่จะให้เห็นภาพนั่นคือ นโยบายแรก Digital Wallet ซึ่งซ่อนในหน้าที่ 7 ได้การกระจายอำนาจในหน้าที่ 12 ส่วนมากทั้งหมดเป็นเรื่องของการคลัง เพราะคงไม่พูดเรื่องการคลัง คงไม่ใช่เพราะทั้งหมดนี้คือการคลังเข้ามาเกี่ยวข้องกับการกำหนดนโยบายของรัฐบาลที่เกิดขึ้นทั้งหมด ผมเห็นการกำหนดก่อร่างนโยบาย Digital Wallet เกิดขึ้นมาตั้งแต่ก่อนที่จะรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งฯ นำเสนอว่าอยากจะทำ หลายๆท่านสงสัยว่านโยบายเหล่านี้ผ่านนโยบายรัฐบาลแล้วมาหาเสียงได้อย่างไร สุดท้ายก็ผ่าน กกต. รับรองให้ก็ดีใจด้วยที่สิ่งเหล่านี้ใด้เกิดขึ้น นั่นคือสิ่งที่มันจะเกิดขึ้นมาถึง ณ วันนี้ได้เกิดขึ้น 

ส่วนนโยบายเรือธงที่สอง เป็นนโยบายทางด้านเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ ซึ่งบอกว่ากระตุ้นเศรษฐกิจได้มากมายมหาศาลทุกอย่างลงมาที่เรื่องเศรษฐกิจทั้งหมด รวมไปถึงนโยบายเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ ที่เกิดขึ้น แต่นโยบายนี้ซ่อนเร้นเอาไว้ ตอนรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ผมไม่ได้เห็นว่ารัฐบาลกล้าที่จะเอามาพูดคุยถึงเรื่องนี้มาก่อนเลยประชาชนไม่ได้รับทราบมาก่อน แต่อยู่ๆ ก็เกิดขึ้นมา ถามว่าเกิดขึ้นมา ซึ่งเคยเกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้แล้ว ตั้งแต่สมัย ปี 2546 หรือปี 2547 

พี่น้องชาวหนองบัวลำภู เตรียมพื้นที่รองรับเอาไว้แล้วที่บนภูเขา ที่หนองบัวลำภู สร้างถนนลาดยางขึ้นไปรองรับเพราะมุ่งหวังตั้งใจว่าเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ ของเมืองไทย นั้นคงจะไม่แตกต่างจากมาเลเซีย อยู่ที่เก็นติ้งลักษณะอย่างนั้น เช่นเดียวกันวันนี้ผมเห็นกลับมาอีกครั้งหนึ่งในนโยบายเรือธงที่อยากจะทำหน้าที่ ที่ดีที่สุด 

และอีกนโยบายหนึ่งซึ่งไปซ่อนหน้า 12 ก็คือการกระจายอำนาจ การกระจายอำนาจเป็นแนวนโยบายแห่งรัฐแล้วท่านประธานไม่ใช่เป็นนโยบายที่ท่านบอกว่าท่านจะมาทำหน้าที่ตรงนี้ นโยบายแห่งรัฐตั้งแต่ปี 2540 ซึ่งตามรัฐธรรมนูญ 40 แล้วมาเป็นกฎหมายเมื่อปี 2542 นั่นก็คือการกำหนดแผนและขั้นตอนกระจายอำนาจ      

วันนี้ท่านมีหน้าที่อยู่ในส่วนของการนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติ ท่านจะเสริมต่อนโยบายกระจายอำนาจอย่างไรต่างหาก ซึ่งผมเองก็ต้องขออนุญาตพูดถึงเรื่องคลังท้องถิ่น ในวันนี้ 3 ส่วน เพื่อจะได้เห็นภาพว่าการกำหนดนโยบายของท่านเป็นมาอย่างไรทั้ง 3 ส่วนนี้และจะนำไปแก้ปัญหาอย่างไรที่จะเกิดขึ้น 

นโยบายแรกนโยบาย Digital Wallet ในขณะที่รณรงค์กันนั่นพรรคการเมืองอื่นๆ เสนอแนวทางบัตรประชารัฐ ท่านก็นำเสนอตามมา แต่ก็ได้ผล เพราะถือว่าเป็นสิ่งที่ท่านนำเสนอขึ้นมา ไม่เป็นไรเพราะเป็นสิ่งที่ท่านคิดเอาไว้ก่อนแล้วท่านก็มากำหนดเป็นนโยบาย แต่ในการก่อร่างนโยบายนั้น ได้กลับไปมองดูพื้นฐานของสภาพัฒน์ฯ ธนาคารแห่งประเทศไทยหรือกระทรวงการคลัง หรือไม่ ว่าเป็นขบวนการในการก่อร่างก่อนที่จะกลับมาเป็นการกำหนดนโยบาย

ขบวนการก่อร่างไม่ได้เห็นด้วยตั้งแต่เริ่มต้น หลายคนสงสัยมาตลอดสุดท้ายท่านบอกว่าจะแจกเงินให้กับกลุ่มเปราะบางก่อนและบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ท่านบอกตรงตรงก็ได้ว่าต้องการเพิ่มเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐสิ่งนี้มีอยู่แล้ว 14 ล้านคน คือ สิ่งที่ถูกต้องเพราะเชื่อว่าการจดทะเบียนบัตรประชารัฐในรอบสุดท้ายเป็นการกลั่นกรองที่ดีที่สุดของประชาชนกลุ่มเปราะบางและคนที่มีรายได้เพียงพอที่อยากจะเป็น   

ส่วนการที่ท่านจะเพิ่มสวัสดิการแห่งรัฐขึ้นมากับกลุ่มอื่นท่านก็สามารถกำหนดรายได้เนื่องจากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐมี 14 ล้านคน เพราะเราจำกัดที่ว่ามีปริมาณที่ดินเท่าไหร่ มีรายได้เท่าไหร่ ได้ 14 ล้านคน ส่วนท่านจะขยายกรอบขึ้นมามากขึ้นท่านสามารถเพิ่มรายได้ ได้แต่ไม่เห็นด้วยกับการที่ท่านต้องไปแจกทุกท่านแล้วทุกท่านก็ไม่อยากจะเห็นเรื่องพวกนี้ที่จะเกิดขึ้น

สุดท้ายเป็นนโยบายคลังท้องถิ่นที่อยากจะเสนอ วันนี้ ท่านมีหน้าที่ทำต่อจากกฎหมายแผนและขั้นตอนกระจายอำนาจซึ่งเป็นแนวนโยบายแห่งรัฐ มีรัฐธรรมนูญมีในกฎหมายแผนและขั้นตอนกระจายอำนาจอยู่แล้ว ท่านเมื่อไหร่จะออกกฎหมายคลังท้องถิ่นเพื่อจะแก้เงินท้องถิ่นที่จะเกิดขึ้น 

เมื่อท่านมีโครงการขนาดใหญ่อย่างสนามบินสุวรรณภูมิ วันนี้รอบรอบสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งตอนนั้นท่านคิดว่าจะเป็นรัฐสุวรรณภูมิเกิดขึ้น ซึ่งร่างกฎหมายขึ้นมาไม่ผ่าน เงินเหล่านี้ไปตกที่รอบสุวรรณภูมิไม่รู้จะเอาไปทำปั้นวัวปั้นควายหรือสายไฟเทวดาต่างๆ เพียงพอเกินกว่าเหตุแต่ท่านมีกฎหมายว่าด้วยคลังท้องถิ่นเกิดขึ้น

โดยเฉพาะเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ เกิดขึ้น 4-5 แห่งรอบๆ เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ ต้องทำหน้าที่ให้ท้องถิ่นรับเงินส่วนนั้น เพราะรัฐไปลงทุนให้ ออกกฏหมายเพื่อเก็บภาษีรอบๆ ท้องถิ่น แต่ไม่ส่งรัฐบาลกลาง แต่ส่งให้กับคลังท้องถิ่นกลาง เพราะคลังท้องถิ่นกลางทำหน้าที่กระจายเงินเหล่านี้ไปให้กับท้องถิ่นที่อยู่ห่างไกลซึ่งท้องถิ่นเหล่านี้ เขาไม่มีโอกาสใช้เงิน จากการที่รัฐบาลลงทุน เขาต้องได้รับเงินจากส่วนนี้เข้าไปทำ อมก๋อย หนองบัวลำภู สุวรรณคูหา ซึ่งท่านประธานทำหน้าที่เป็นนายอำเภอมาก่อน จึงรู้ว่าเขาไม่สามารถเก็บภาษีบำรุงท้องถิ่นได้อยู่แล้ว เพราะต้องอาศัยเงินจากคลังกลางท้องถิ่น 

ซึ่งสิ่งเหล่านี้ผมอยากจะเสนอให้ท่านประธาน ไปยังรัฐบาลให้รีบออกกฎหมายคลังท้องถิ่นเพื่อกระจายเงินเหล่านี้รองรับเมกะโปรเจกต์ ของรัฐบาลเพื่อให้กับคนที่อยู่รอบรอบนอกได้มีโอกาสได้เงินไปพัฒนาไม่ใช่มีเงินเฉพาะการไปจ่ายเงินเดือนเจ้าหน้าที่ทั้งหมด แต่เงินไปสู่การพัฒนาไม่มีเลย นั่นคือสิ่งที่ผมนายสรชาติ สุวรรณพรหม สมาชิกวุฒิสภาในฐานะสมาชิกรัฐสภา ฝากถึงรัฐบาลชุดนี้...

'พล.ต.อ.กิตติ์รัฐฯ' ลงพื้นที่ จ.เชียงราย ตรวจเยี่ยมตำรวจและประชาชนในพื้นที่อุทกภัย พร้อมกำชับดูแลความปลอดภัยพี่น้องประชาชนอย่างเต็มกำลัง ป้องกันคนร้ายฉวยโอกาสก่อเหตุซ้ำเติม

(15 ก.ย.67) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางลงพื้นที่ จ.เชียงราย เพื่อตรวจเยี่ยมการปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัย โดยได้ประชุมติดตามสถานการณ์และมาตรการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม และตรวจสอบสถานีตำรวจและข้าราชการตำรวจที่ได้รับผลกระทบจากเหตุดังกล่าว ที่ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย (ภ.จว.เชียงราย) โดยมี พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน รอง ผบช.ภ.5 , พล.ต.ต.มานพ เสนากูล ผบก.ภ.จว.เชียงราย พร้อมด้วยตำรวจน้ำ ตำรวจตระเวนชายแดน ตำรวจในพื้นที่ และโรงพยาบาลดารารัศมี (โรงพยาบาลในสังกัดโรงพยาบาลตำรวจ) ร่วมประชุม 

ที่ประชุมรายงานสถานการณ์อุทกภัยใน จ.เชียงราย มีพื้นที่ประสบอุทกภัย 9 อำเภอ ได้รับผลกระทบรุนแรงใน 2 อำเภอ ได้แก่ อ.เมือง และ อ.แม่สาย ซึ่ง ผบช.ภ.5 ได้สั่งการขับเคลื่อนการช่วยเหลือดูแลพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ ตั้งแต่เกิดเหตุตลอดจนถึงช่วงการฟื้นฟูหลังน้ำลด โดยได้มีการตั้งศูนย์ประสานงานร่วม ในการบูรณาการกับหน่วยงานต่างๆ ช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ตั้งศูนย์รับแจ้งเหตุส่วนหน้า ตั้ง ศปก.สภ.ส่วนหน้า มีการตั้งรถครัวสนามของ ภ.5 ประกอบอาหารแจกจ่ายผู้ประสบอุทกภัย รวมทั้งเป็นจุดรับบริจาคและกระจายสิ่งของให้กับประชาชน ในส่วนของการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม มีการปรับสายตรวจให้เหมาะสมกับสถานการณ์ จัดชุดสืบสวนควบคู่การทำงานกับชุดสายตรวจ มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดพลังงานโซลาร์เซลล์ให้ครบทุกจุดในพื้นที่เพื่อป้องกันเหตุ และบูรณาการในการดูแลอำนวยความสะดวกเรื่องการจราจร ทั้งการดูแลช่วงเกิดอุทกภัย และร่วมพัฒนาฟื้นฟูทำความสะอาดหลังน้ำลดด้วย ในส่วนของสถานที่ราชการของตำรวจ จากการสำรวจเบื้องต้นพบความเสียหายของสถานที่ในบางส่วนที่ถูกน้ำท่วม มีความเสียหายทางราชการประมาณ 3 ล้านบาท และพบมีข้าราชการตำรวจในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อน มีบ้านพักอยู่ในพื้นที่อุทกภัย จำนวน 366 ราย

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐฯ กล่าวว่า ในการลงพื้นที่ครั้งนี้เพื่อมาให้กำลังใจ มอบเงินช่วยเหลือข้าราชการตำรวจและครอบครัว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น และมารับฟังสถานการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ที่สุดใน จ.เชียงราย มาแนะนำวิธีการปฏิบัติในการช่วยเหลือ ดูแลความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชน เพื่อจะได้ประเมินผลเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติในพื้นที่ประสบอุทกภัยอื่นๆ ต่อไป โดยในเรื่องการป้องกันปราบปราม ขอให้เพิ่มมาตรการเชิงรุก บูรณาการร่วมกับหน่วยที่เกี่ยวข้องกำหนดปรับแผนการตรวจ เพื่อดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนให้มากที่สุด ตั้งจุดรับแจ้งเหตุส่วนหน้า ในสถานที่ที่เหมาะสมเป็นจุดรับแจ้งเหตุชั่วคราว หรือการรับแจ้งความทางออนไลน์ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน ซึ่งต่อไปจะเป็นช่วงฟื้นฟู ขอให้ข้าราชการตำรวจบูรณาการช่วยเหลือ เยียวยา การดูแลด้านสาธารณสุข สาธารณประโยชน์ต่างๆ รวมทั้งสภาพจิตใจของผู้ประสบเหตุ พร้อมกันนี้ได้สั่งการให้ถอดบทเรียนเพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติกรณีเกิดอุทกภัย ภัยพิบัติ เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติในกรณีเกิดภัยพิบัติต่อไป

ต่อมา พล.ต.อ.กิตติ์รัฐฯ ได้ตรวจเยี่ยมรถครัวเคลื่อนที่ ร้านปันรักษ์ เจียงฮาย เพื่อประกอบอาหารดูแลผู้ประสบอุทกภัย และลงพื้นที่เยี่ยมช่วยเหลือชาวชุมชนเกาะลอย ต.เวียง อ.เมืองเชียงราย ลุยพื้นที่โคลน นำอาหารและน้ำดื่มไปมอบให้กับพี่น้องประชาชน

จากนั้น พล.ต.อ.กิตติ์รัฐฯ ได้เดินทางไปยัง สภ.แม่สาย เพื่อตรวจเยี่ยมพื้นที่และด่านพรมแดน อ.แม่สาย พร้อมดูทิศทางกระแสน้ำ และเยี่ยมให้ความช่วยเหลือประชาชนในจุดวิกฤติ

'รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ' จัดพิธีอำลาชีวิตรับราชการ ผู้ครบเกษียณอายุราชการ ประจำปี 2567

พล.ร.ต.ดนัย ปานแดง ผอ.รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ เป็นประธานในพิธีจัดงาน พิธีอำลาชีวิตรับราชการผู้เกษียณอายุราชการ ประจำปีงบประมาณ 2567 ณ ห้องคลองไผ่ หอประชุม รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เพื่อเป็นการรำลึกถึงคุณงามความดี 

น.อ.สมพร ระวิงทอง รองผู้อำนวยการ รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ กล่าวรายงานว่า ในปีงบประมาณ 2567 โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ มีผู้ครบเกษียณอายุราชการ 46 นาย และผู้ขอลาออกจากราชการ ก่อนกำหนด 12 นาย รวม 58 นาย ทุกท่านได้ทุมเท แรงกาย แรงใจ และสติปัญญา รับใช้ราชการมาด้วยความพากเพียร วิริยะอุตสาหะ เป็นประโยชน์ต่อ รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์, กรมแพทย์ทหารเรือ, กองทัพเรือ และประเทศชาติมายาวนาน รวมทั้งได้มีส่วนร่วมในการพัฒนา รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติฯ ให้มีความเข้มแข็งเจริญก้าวหน้า มาจนถึงทุกวันนี้ โดย ผอ.รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ได้เป็นประธานมอบของที่ระลึกให้กับผู้ครบเกษียณอายุราชการและผู้ขอลาออกจากราชการก่อนกำหนดทุกคน ในโอกาสเดียวกันนี้ด้วย 

น.อ.พิเชฏฐ์ กรัยวิเชียร ผู้แทนผู้เกษียณอายุราชการและผู้ขอเกษียณอายุราชการก่อนกำหนด ได้กล่าว ขอบคุณและระลึกอยู่เสมอว่า โรงพยาบาลแห่งนี้ เปรียบเสมือนบ้านที่อบอุ่นให้สิ่งที่มีค่ายิ่ง ที่จะตราตรึงอยู่ในจิตใจ และความทรงจำของเราอย่างมิลืมเลือน

ท้ายสุด พลเรือตรี ดนัย ปานแดง ได้กล่าวสดุดีแก่ ผู้ครบเกษียฌอายุราชการ และผู้ที่ขอลาออกจากราชการก่อนกำหนดว่า รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ มีหน้าที่ให้การสนับสนุน ภารกิจของกองทัพเรือ และให้บริการรักษาพยาบาล แก่ ทหาร ครอบครัวและประชาชนทั่วไป ในช่วงที่ผ่านมา โรงพยาบาลได้มุ่งมั่น เพื่อพัฒนาเข้าสู่ระบบงานรับรองคุณภาพโรงพยาบาล AHA ทำให้พวกเราต้องร่วมมือร่วมใจกัน แก้ไขปัญหาและอุปสรรคต่างๆ จนประสบผลสำเร็จ ซึ่งถ้าปราศจากพวกท่าน การปฏิบัติงานคงไม่สัมฤทธิ์ผล ความสำเร็จและเกียรติยศชื่อเสียงของ รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ที่เกิดขึ้นนี้ นับเป็นเกียรติประวัติที่น่าภาคภูมิใจ ที่ทุกท่านสมควรได้รับการยกย่องให้เป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณค่ายิ่งของโรงพยาบาล พวกเราจะไม่ลืมเลือนคุณงามความดีของท่านทั้งหลาย จะจดจำและจารึกไว้ ตลอดไป

อาลัย ‘ฉีเส้าเฉียน’ ดาราชื่อดังฮ่องกง ‘ฮุ้นปวยเอี้ยง’ แห่งกระบี่ไร้เทียมทาน

(16 ก.ย. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ‘เพจเก้ากระบี่เดียวดาย’ ได้โพสต์อาลัยถึง ‘ฉีเส้าเฉียน’ ดาราดังของฮ่องกง ผู้รับบท ‘ฮุ้นปวยเอี้ยง’ แห่งกระบี่ไร้เทียมทาน โดยระบุว่า…

“ตามรายงานของสื่อฮ่องกง Hong Kong 01 และ East Net ในวันนี้ มีรายงานข่าวการเสียชีวิตอย่างกะทันหันของ ฉีเส้าเฉียน ดาราภาพยนตร์ละครโทรทัศน์กำลังภายในของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ฮ่องกงในช่วงทศวรรษ 70 ถึง 80 ด้วยวัย 73 ปี ว่ากันว่าเขาเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งหลอดอาหารในกรุงปักกิ่งเมื่อต้นเดือนนี้ สื่อบางแห่งถาม เทียนฉีเหวิน ผู้สร้างภาพยนตร์อาวุโส และเขายืนยันข่าวการเสียชีวิตของ ฉีเส้าเฉียน…

“เอริก้า​ ฉี​ ลูกสาวของ ฉีเส้าเฉียนโพสต์เพลงของ จางเซียะโหย่ว ‘You Are the Only Legend in My Life’ บนโซเชียลมีเดีย “I Love You!” คุณพ่อ และกล่าวในการให้สัมภาษณ์กับสื่อ “ขอบคุณสำหรับความห่วงใย ฉันหวังว่าทุกคนจะให้ เรามีพื้นที่เพื่อให้ครอบครัวของเราจัดการกับเรื่องนี้” 

ฉีเว่ยตงลูกชายของเขาตอบกับสื่อว่า “ขอบคุณสำหรับความกังวล เรากำลังจัดการเรื่องนี้กับครอบครัว”

ฉีเส้าเฉียน เกิดที่กว่างโจว มณฑลกวางตุ้ง ในวันที่ 16 ตุลาคม 1950 ฉีเส้าเฉียนมีพี่สาวแท้ ๆ หนึ่งคน ส่วนพ่อของเขาเป็นนักธุรกิจ เมื่อเรียนจบชั้นมัธยมที่โรงเรียนหลิงตง เขาก็เริ่มทำงานเป็นพนักงานติดตามหนี้ของธนาคารต่างประเทศ แล้วจึงย้ายไปทำงานในตลาดหลักทรัพย์ในฐานะเสมียนบัญชีรับผิดชอบในการจัดการผลิตภัณฑ์ทางการเงิน ในช่วงนั้นฉีเส้าเฉียนรู้สึกเบื่อหน่ายกับงานที่ทำ และมีเพื่อนของเขาแนะนำให้ไปเรียนการแสดงของชอว์ บราเดอร์ ซึ่งฉีเส้าเฉียน จบการแสดงในปี 1972 

ฉีเส้าเฉียน ได้แสดงบทชาวบ้านในภาพยนตร์เรื่องแรก คือ ไอ้หนุ่ม 8 จอมเหี้ยม (The Savage Five/1974 ) ที่นำแสดงโดย ตี้หลุง เดวิด เจียง เฉินกวนไถ้ หลังจากนั้นเขาก็วนเวียนแสดงภาพยนตร์ของชอว์ บราเดอร์อีกหลายเรื่อง 

จนกระทั่งในปี 1977 ทางสถานีโทรทัศน์ลี่เตอ Rediffusion Television หรือ RTV (ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็น ATV เอเชียเทลิวิชัน ในวันที่ 24กันยายน 1982) ได้ขอยืมตัวฉีเส้าเฉียนไปแสดงละครโทรทัศน์เรื่อง Big Man (大丈夫/1977) ก่อนที่จะกลับไปแสดงภาพยนตร์ให้ชอว์ บราเดอร์ เรื่อง ศึกล้างเจ้ายุทธจักร (Death Duel/1977) ที่ดัดแปลงมาจากนวนิยายของโกวเล้ง เรื่อง ซาเสียวเอี้ย นำแสดงโดย เอ๋อตงเซิน และ หวีอันอัน

ก่อนที่จะโด่งดังไปทั่วเอเชียกับ บทบาท ฮุ้นปวยเอี้ยง ใน ‘กระบี่ไร้เทียมทาน’ ปี​ 1979  ละครกำลังภายใน​ ในตำนานวงการโทรทัศน์​ฮ่องกงและไทย​ ขอไว้อาลัยแด่ท่าน ณ ที่นี้ขอรับ

‘ช่อ’ แก้เกี้ยว!! ความพ่ายแพ้ ‘พรรคประชาชน’ ที่พิษณุโลก เพราะไม่มีการเลือกตั้งล่วงหน้า คนจึงมาใช้สิทธิน้อยกว่าเดิม

(16 ก.ย. 67) น.ส.พรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ หรือ X เกี่ยวกับการเลือกตั้งซ่อม สส.พิษณุโลก เขต 1 ซึ่งนายจเด็ศ จันทรา หรือบู้ จากพรรคเพื่อไทย (พท.) คว้าชัยชนะเหนือ นายณฐชนน ชนะบูรณาศักดิ์ หรือโฟล์ค จากพรรคประชาชน (ปชน.) ระบุว่า...

“สำหรับท่านที่สงสัยว่าทำไมพรรคประชาชนแพ้ คะแนนหายไปไหน 10,000 เพราะ หมออ๋อง เมื่อปี 2566 ได้ถึง 40,000 คะแนน…

“ข้อเท็จจริง คือ เมื่อเทียบเป็น % กับผู้มาใช้สิทธิ์ โดยคิดเป็นสัดส่วนคะแนนที่ได้ เทียบกับคะแนนบัตรดีทั้งหมด…

“หมออ๋องได้ 41.3%
คุณโฟล์คได้ 40.25%
คุณบู้ได้ 48.71%...

“เพราะฉะนั้น ปัจจัยของความพ่ายแพ้ มาจาก 2 สาเหตุหลัก..

“1. เนื่องจากไม่มีการเลือกตั้งล่วงหน้า คนมาใช้สิทธิน้อยกว่าเดิม (เลือกตั้ง 66 คนใช้สิทธิ 70% ครั้งนี้ 54%) หมายความว่าเราล้มเหลวในการรณรงค์ให้คนกลับบ้านไปเลือกตั้ง…

“2. พรรคเพื่อไทยได้คะแนนเพิ่มขึ้นจาก 18% เป็น 48% (ไม่ใช่ 2 เท่าตามที่เห็นจากคะแนนดิบ)”

'ตั้ง อาชีวะ' ชี้!! อยู่นิวซีแลนด์ ทำงานรายได้เยอะ แม้ภาษีโหด แต่ก็คุ้มกว่าเมืองไทย

เมื่อวานนี้ (15 ก.ย. 67) จากเฟซบุ๊ก 'Eakapop Luara' ของนายเอกภพ เหลือรา หรือ 'ตั้ง อาชีวะ' เสื้อแดงฮาร์ดคอร์ และผู้ต้องหาหนีคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 มาลี้ภัยอยู่ในประเทศนิวซีแลนด์ เมื่อปี 2557 ได้โพสต์ข้อความ ระบุว่า...

Maintenance Engineer and Power.

งานเครื่องกล งานไฟฟ้ากำลัง ขอให้บอกซ่อมได้หมด

ตอนอยู่ไทยเป็นแค่หนุ่มโรงงาน งานดูแลเครื่องจักรซ่อมเครื่องจักรเงินเดือนสูงสุด+OT ได้แค่ 11,005 บาท แถมการเป็นเด็กอาชีวะไทยแม่งเป็นแค่เด็กชายขอบด้วย

แต่พอมา New Zealand งานสายช่างสายอาชีพแบบนี้ เงิน 6 หลัก 7 หลักสบาย ๆ เลยครับ แล้วแบบนี้หรอจะมาคิดแทนผมว่าพวกลี้ภัยอยากกลับไทย ถุยเถอะ ให้ผมทิ้ง NZ ไปเอาเงินหมื่นกว่าบาทที่ไทยไม่ใช่ผมละ ถ้าจะมาขิงอีกว่าเมืองนอกจ่ายภาษีโหด โทษที รายรับรายได้ก็ได้โหดกว่าภาษีที่เสียไปก็แล้วกัน

"ไม่มีที่ใดสุขใจเท่าบ้านเรา"

นั่นมันบ้านมึงไม่ใช่บ้านกู5555

'ทรัมป์' ถูกลอบสังหารรอบ 2 ขณะตีกอล์ฟในฟลอริดา พบมือลอบสังหารเป็นฝ่ายหนุน 'แฮร์ริส' ประวัติอาชญากรรมเพียบ

(16 ก.ย. 67) สำนักข่าวนิวยอร์กโพสต์ รายงานว่า มือปืนต้องสงสัยลอบสังหารอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขณะกำลังตีกอล์ฟในรัฐฟลอริดาในช่วงบ่ายวันอาทิตย์ (15 ก.ย.) เคยประกาศบนสื่อสังคมออนไลน์ในปีนี้ว่า "ประชาธิปไตยอยู่บนบัตรเลือกตั้ง" และ "เราไม่อาจพ่ายแพ้ได้" สะท้อนวาทกรรมต่อต้านทรัมป์ ที่รองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส และประธานาธิบดีโจ ไบเดน ใช้บ่อย ๆ

แหล่งข่าวพวกเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย ระบุผู้ต้องสงสัยรายนี้คือนายไรอัน เวสลีย์ รูธ วัย 58 ปี ขณะที่หนังสือพิมพ์นิวยอร์กโพสต์ระบุว่า รูธ ซึ่งมาจากนอร์ทแคโรไลนาและมีประวัติอาชญากรรมยาวเหยียด บ่อยครั้งมักโพสต์เกี่ยวกับการเมืองและเคยบริจาคเงินให้บรรดาตัวแทนพรรคเดโมแครตหลายต่อหลายครั้ง ย้อนกลับไปตั้งแต่ปี 2019

นอกจากนี้ เขายังเคยวิจารณ์ ทรัมป์ อย่างดุเดือด โดยเมื่อวันที่ 22 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งเขาได้โพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ ว่า "ประชาธิปไตยอยู่บนบัตรเลือกตั้งและเราไม่อาจพ่ายแพ้ได้"

ทั้งนี้ ประธานาธิบดีไบเดน และรองประธานาธิบดีแฮร์ริส มักใช้สโลแกนดังกล่าวอยู่เป็นประจำ

ในข้อความที่โพสต์ในวันดังกล่าว เขายังเขียนแนะนำ ไบเดน วัย 81 ปี ซึ่งตอนนั้นยังคงเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต ลงชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ว่าให้เดินหน้ารักษา "ความเป็นประชาธิปไตยและความเสรีของอเมริกา" ต่อไป พร้อมกับอ้างว่า ทรัมป์ ต้องการทำให้ "อเมริกันชนเป็นทาสรับใช้"

"ประชาธิปไตยอยู่บนบัตรเลือกตั้ง และเราไม่อาจพ่ายแพ้ได้ เราไม่สามารถล้มเหลว โลกกำลังยึดถือการนำทางของเรา" รูธ ระบุ

ภาษาลักษณะเดียวกันนี้เป็นวาทกรรมที่ แฮร์ริส เดินหน้าใช้มาตลอดการหาเสียงเช่นกัน โดยเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม เธอกล่าว ณ เวทีหาเสียงที่เมืองซาวานนาห์ รัฐจอร์เจีย ว่า "เรากำลังต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยของเรา"

ก่อนหน้านี้ในวันที่ 31 กรกฎาคม แฮร์ริส กล่าวในกิจกรรมหนึ่งในฮิวสตัน ว่า "เสรีภาพพื้นฐานของเราอยู่บนบัตรเลือกตั้ง เช่นเดียวกับประชาธิปไตยของเรา" หลังจากกล่าววาทกรรมแบบเดียวกันนี้ ในอีกกิจกรรมของชมรมหนึ่งในวันเดียวกัน

ทอม ฟิตตอน ประธาน Judicial Watch กลุ่มกฎหมายอนุรักษนิยม ให้สัมภาษณ์กับนิวยอร์กโพสต์ว่า "ไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่ รูธ จะพูดพร่ำวาทกรรมรุนแรงสุดขั้วของ กมลา และ โจ ที่มีต่อ ทรัมป์ และ ณ เวลานี้ มันคือการยั่วยุที่ไม่อาจให้อภัยได้"

เบื้องต้น โฆษกของทั้งไบเดนและแฮร์ริส ยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้

'อดีตบิ๊กข่าวกรอง' วิเคราะห์!! เหตุผลที่บางพรรคมักแพ้แล้วแพ้อีก ชี้!! ใช้วิธีคิดผิดๆ สนแต่ปกป้องต่างด้าว น้ำท่วมเหนืออีสานไม่สน

(16 ก.ย. 67) นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์เฟซบุ๊กหัวข้อ ‘ผิดที่วิธีคิด’ ระบุว่า…

“พรรคการเมืองแพ้แล้วแพ้อีก ได้คิดบ้างไหม มันเกิดอะไรผิดพลาดจากการสื่อสารกับประชาชน คิดไม่ออกจะบอกให้ พรรคนี้มีวิธีคิดที่ไม่ใช่ไทยแต่ลอกฝรั่ง ปกป้องแรงงานต่างด้าวเสนอให้อยู่ไทยนานขึ้น เสนอให้แรงงานต่างด้าวขายของได้ สนใจแต่จะช่วยแรงงานต่างด้าว ไม่เสนอให้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งเสียเลย…

“น้ำท่วมเหนืออีสานไม่พูดถึงเลย ไม่สนใจ เท่านั้นยังไม่พอ น้ำท่วมแทนที่จะลงไปดูแล กลับออกมาต่อว่า คนไทยเสียภาษีทำไม แต่ต้องพึ่งอาสาสมัครและเงินบริจาค ชัด ๆ เลยก่อนนี้ สส.เยอรมันตั้งประเด็นคำถาม ทำไมไทยถึงต้องพึ่งอาสาสมัครทำงาน…

“ฝรั่งไม่เคยทำงานฟรี ไม่มีความคิดจิตอาสา ทำงานต้องได้เงิน เสียภาษีแล้วรัฐต้องบริการ แต่อาสาสมัครทุ่มเทด้วยจิตอาสา ไม่คิดถึงเงิน หากอาสาสมัครไม่ช่วย กำลังจนท.เพียงพอหรือ ส่วนเงินบริจาค ท่าน สส.ไม่บริจาคก็ไม่มีใครว่า คนบริจาคด้วยหลักทานมัย แบ่งเบาภาระคนอื่น ไม่มีใครถูกบังคับให้บริจาค เป็นการช่วยเหลือพึ่งพากันเฉพาะหน้าให้ประทังชีวิตได้ไม่อดอยาก ไม่อยากบริจาคก็ควรเฉย ๆ เงียบ ๆ ไว้ อย่าพูด อายเขา…

“วิธีคิดอย่างนี้ ขอให้แพ้เลือกตั้ง ดีแต่ตอ…ไปวัน ๆ talk only no action”

'อดีตทูตนริศโรจน์' เผย!! เหตุการณ์น้ำโขงสูง โทษจีนได้ไม่เต็มปาก ชี้!! ตัวแปร 'พายุยางิ - 50 แม่น้ำสายย่อยในลาวไหลลงโขง' มีส่วนมาก

(16 ก.ย. 67) นายนริศโรจน์ เฟื่องระบิล อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า...

“เหตุการณ์น้ำโขงสูงจนท่วมนั้น To be fair โทษจีนได้ไม่เต็มปากครับ เพราะอิทธิพลพายุ 'ยางิ' ครั้งนี้ทำให้เกิดพายุฝนมากในเขตลาว, เวียดนาม, พม่า, ไทย…

“สมัยผมทำงานที่ลาวเคยฟังบรรยายสรุปจาก จนท.องค์กรลุ่มแม่น้ำโขง MRC ถึงทราบว่าในลาวมีแม่น้ำสายย่อยต่าง ๆ รวม 50 สายที่ไหลลงแม่น้ำโขง และแต่ละแห่งก็มีเขื่อนทั้งสิ้น ซึ่งมีอิทธิพลต่อแม่น้ำโขงโดยตรง บางทีอาจส่งผลมากกว่าจีนด้วยซ้ำ…

“มวลน้ำเฉพาะที่ลาวอย่างเดียวก็มหาศาลแล้วครับ…

“แต่คนเข้าใจผิดนึกว่า น้ำจากเขื่อนจีนอย่างเดียว!”


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top