Monday, 9 June 2025
TheStatesTimes

‘นักเรียนประถม’ ถูกไฟดูดกลางป้ายรถเมล์ ถนนสุขุมวิท 71 ล่าสุดเอ็นขาด ค่ารักษาเฉียดแสน หลังสะบัดมือไปโดนเหล็ก

(16 ส.ค.67) จากกรณีที่เพจดัง 'อีซ้อขยี้ข่าว3' โพสต์ข้อความระบุว่า "เด็กนักเรียนชายถูกไฟดูดที่เสาแล้วสะบัดมือออกไปโดนเหล็กบาด จนเอ็นขาด บริเวณป้ายรถเมล์ ถนนสุขุมวิท 71 (กรุงเทพฯ ชีวิตดี ๆ ที่ลงตัว )"

ต่อมาพบว่า นักเรียนที่ถูกไฟฟ้าดูดนั้น เป็นเด็กนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาเท่านั้น โดยนักเรียนรายนี้ เรียนโรงเรียนอนุบาลชื่อดังในซอยสุขุมวิท 71 ต่อมาทางเพจ 'อีซ้อขยี้ข่าว3' ได้รายงานเพิ่มเติมว่า ป้ายรถเมล์ ถนนสุขุมวิท 71 ลูกชายโดนไฟดูดแล้วสะบัดมือไปโดนเหล็กบาด เอ็นขาด รอเย็บ ค่าใช้จ่าย 85,000 บาท พร้อมทั้งโพสต์ภาพป้ายรถเมล์ พร้อมระบุว่า "ป้ายรถเมล์ที่เกิดเหตุ ไม่ต้องรอให้ตายถึงเป็นข่าวนะคะ"

งานนี้ชาวเน็ตเข้าไปแสดงความคิดเห็นและแชร์ข้อความออกไปจำนวนมาก พร้อมทั้งขอให้เด็กที่บาดเจ็บปลอดภัย หายไวไวอีกด้วย 

Adidas เผย!! จีนยังเป็นตลาดสำคัญ 'การผลิต-การลงทุน' รับ!! ผลประกอบการที่ดีมีปัจจัยจากกลยุทธ์ 'ในจีน เพื่อจีน'

ไม่นานมานี้ บียอร์น กุลเดน ซีอีโอของอาดิดาส (Adidas) แบรนด์เครื่องแต่งกายและรองเท้ากีฬาระดับโลก ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของตลาดจีน ภายใต้กลยุทธ์ระดับโลกของอาดิดาส ซึ่งเป็นการแสดงมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับการเติบโตในอนาคตและโอกาสการลงทุนในจีน ระหว่างการให้สัมภาษณ์ครั้งล่าสุดกับสำนักข่าวซินหัว

“จีนถือเป็นตลาดสำคัญสำหรับบริษัท และจะมีความสำคัญมากยิ่งขึ้นในอนาคต” กุลเดนกล่าวเมื่อวันจันทร์ (12 ส.ค.) ระหว่างต้อนรับนักฟุตบอลเยาวชนจีน 22 คน ซึ่งมีกำหนดเข้าร่วมการฝึกซ้อมเข้มข้นนาน 3 สัปดาห์ที่สำนักงานใหญ่อาดิดาสในเมืองแฮร์ซอกเกนัวรัค และสมาคมฟุตบอลบาเยิร์น มิวนิค โดยเขาได้เน้นย้ำบทบาทสำคัญของกีฬาในโลกท้าทายยุคปัจจุบัน และมองว่าโครงการแลกเปลี่ยนเหล่านี้จะช่วยสร้างสะพานเชื่อมผ่านเกมกีฬา

กุลเดนระบุว่า อาดิดาสจะลงทุนด้านกีฬาในจีนต่อไป รวมถึงย้ำบทบาทของจีนในการเป็นตลาดแห่งสำคัญ ตลอดจนฐานการผลิตและการจัดหาที่สำคัญสำหรับผลิตภัณฑ์ของอาดิดาส และเป็นตลาดสำคัญในแง่ยอดจำหน่ายและการผลิต

ข้อมูลของบริษัทระบุว่าอาดิดาสมีรายได้ไม่อิงตามสกุลเงิน (Currency-Neutral Revenue) เพิ่มขึ้นร้อยละ 11 ในช่วงไตรมาสที่สองของปีงบการเงิน 2024 เมื่อเทียบกับปีก่อน ขณะที่ยอดจำหน่ายในจีนเพิ่มขึ้นอย่างมากเช่นกัน

กุลเดนชี้ว่า ผลประกอบการที่ดีของอาดิดาสมีปัจจัยจากการให้ความสำคัญกับความต้องการของผู้บริโภค และย้ำความมุ่งมั่นที่อาดิดาสมีต่อกลยุทธ์ 'ในจีน เพื่อจีน' (in China, for China) โดยบริษัทยังมุ่งสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ตรงตามความต้องการของผู้คนในท้องถิ่น ด้วยการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อรับรองความพึงพอใจของผู้บริโภค

'เพจดัง' โชว์ภาพเต๊นท์ชักชวนคนเป็นสมาชิกพรรคประชาชนตั้งตระหง่าน แต่สะดุด!! เพราะอยู่หน้าทางเข้าวัดในเชียงใหม่ ติง!! ไม่เหมาะสม

(16 ส.ค.67) เพจ 'วันนี้พรรคส้มโกหกอะไร' ได้โพสต์ข้อความ ระบุว่า...

#ทุกคนคะ ชาวบ้านที่ อำเภอเชียงดาว เชียงใหม่ ฝากเพจช่วยเป็นกระบอกเสียงด้วยค่ะ

"ตอนเย็นตั้งใจจะไปทำบุญที่วัด แต่เจอเต๊นท์ชักชวนคนเป็นสมาชิกพรรคประชาชนหน้าทางเข้าวัด หมดอารมณ์ มันไม่เหมาะสม ขอพื้นที่ปลอดการเมืองบ้างค่ะ"

‘ลิซ่า’ เดินเกมรุกต่อเนื่อง ปล่อย MV ‘NEW WOMAN’ พร้อมชวน 'ROSALÍA' เจ้าของรางวัลระดับโลกมาร่วมแจม

(16 ส.ค.67) เพิ่งจะส่งเพลงคัมแบ็คสุดปังอย่าง 'ROCKSTAR' ออกมาให้แฟน ๆ ได้ฮือฮาทั่วโลก โดยเฉพาะคนไทยและชาวเอเชียแห่ตามรอยไปยังสถานที่ที่ 'ลิซ่า' ถ่ายเอ็มวี

แน่นอนว่าศิลปินสาวชื่อดังระดับโลก 'ลิซ่า' ลลิษา มโนบาล ไม่ปล่อยให้แฟน ๆ รอนาน เดินเกมรุก ชวนสาวเก่งเจ้าของรางวัล Grammy Awards อย่าง 'ROSALÍA' มาร่วมแจมซิงเกิลใหม่ 'New Woman' ร่วมร้องและแสดงมิวสิกวิดีโอด้วย

ล่าสุด MV ‘NEW WOMAN’ ถูกปล่อยออกมาแล้วอย่างเป็นทางการ เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ เวลา 07.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ทางช่องทางยูทูบ LLOUD Official ผู้ติดตาม 3.78 ล้าน คน โดยในเอ็มวีนี้ลิซ่า เปิดตัวมาด้วยลุคของสาวผมบลอนด์สุดแซ่บ ในเอ็มวีจะเห็นลิซ่าด้วยลุคต่าง ๆ ทั้งสวย ทั้งแซ่บ อีกทั้งการได้ 'ROSALÍA' ที่มาร่วมฟีเจอริ่งด้วย เรียกว่าเอ็มวีนี้ความแซ่บคูณ 2 ไปเลย

อย่างไรก็ตาม แฟน ๆ ที่เข้ามาชมเอ็มวีก็ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "เพลงดี เพลงเริ่ด ชุดสวย คนสวย ดีไปหมด ชอบมาก เซอร์ไพรส์กับเพลงมาก" พร้อมทั้งยังชื่นชมการร้องของสาวลิซ่าอีกด้วย เรียกว่านี่สิศิลปินระดับ 'Global' ที่แท้จริง ซึ่งขณะนี้แฮชแท็ก #LISAxROSALÍA เรียกว่าขึ้นเทรนด์ X (ทวิตเตอร์) อันดับ 1 ประเทศไทยอีกด้วย

'สวนดุสิตโพล' เผลผลสำรวจ ‘คนไทยกับนายกรัฐมนตรี’ คาดหวัง!! เข้าใจปัญหาอย่างลึกซึ้ง-แก้ปากท้องได้ทันที

(16 ส.ค. 67) สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง ‘คนไทยกับนายกรัฐมนตรี’ ระหว่างวันที่ 14-15 สิงหาคม 2567 กลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,239 คน สำรวจผ่านทางออนไลน์และภาคสนาม พบว่า กลุ่มตัวอย่างคิดว่าการที่นายกฯ เศรษฐาหลุดจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนั้น เป็นเรื่องการเมือง มีเบื้องลึกเบื้องหลัง ร้อยละ 52.88 และน่าจะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการเมือง ร้อยละ 70.30

ทั้งนี้หวังว่าผู้ที่จะมาเป็นนายกฯ คนใหม่ ควรเข้าใจปัญหาสังคมและประชาชน ร้อยละ 62.62 สุดท้ายคิดว่าคนที่จะมาเป็นนายกฯ คนใหม่ น่าจะเป็นคุณแพทองธาร ชินวัตร ร้อยละ 36.35 รองลงมาคือคุณอนุทิน ชาญวีรกูล ร้อยละ 25.33

นางสาวพรพรรณ บัวทอง ประธานสวนดุสิตโพล ระบุว่า จากผลโพลสะท้อนถึงความกังวลของประชาชนต่อสถานการณ์ทางการเมืองที่เข้มข้นในช่วงนี้ มองเห็นถึงความไม่มั่นคงทางการเมืองที่อาจกระทบต่อทิศทางการบริหารประเทศและนโยบายเรือธงที่เป็นความหวังของประชาชน เรื่องการเมืองมีความซับซ้อนและผลประโยชน์ซ่อนเร้นอยู่เบื้องหลัง ดังนั้น ผู้นำคนใหม่จึงต้องเป็นผู้ที่มีความเข้าใจลึกซึ้งในปัญหาของประเทศและสามารถเชื่อมโยงกับประชาชนได้อย่างแท้จริง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและนำพาประเทศไปสู่เสถียรภาพที่มั่นคง

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ยอดชาย ชุติกาโม อาจารย์ประจำโรงเรียนกฎหมายและการเมือง มหาวิทยาลัยสวนดุสิต กล่าวว่า การหลุดจากเก้าอี้นายกรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน ตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ส่งผลให้สถานการณ์ทางการเมืองไทย ณ เวลานี้ มีความร้อนแรงอย่างยิ่ง และกระทบไปยังภาคส่วนต่างๆ จากผลสำรวจของสวนดุสิตโพล พบว่า 52.88% ประชาชนเชื่อว่าเป็นเรื่องการเมือง มีเบื้องลึกเบื้องหลัง มีประชาชน เพียง 15.76% เท่านั้นที่เชื่อว่าไม่มีผลกระทบกับชีวิตประจำวัน

ขณะที่คนส่วนใหญ่มองว่าการหลุดจากตำแหน่งของนายเศรษฐา น่าจะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการเมืองไทย ในประเด็นที่ว่าใครสมควรเป็นนายกฯ คนต่อไป ประชาชน 36.35% ให้คุณแพทองธาร ชินวัตร มาเป็นอันดับหนึ่ง เบียดคู่แข่งที่มาแรงอย่างคุณอนุทิน ชาญวีรกูล โดยประชาชนส่วนใหญ่คาดหวังว่านายกฯ คนต่อไป ต้องเข้าใจปัญหาสังคมและประชาชน และสามารถแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจได้ทันทีซึ่งประชาชนมีความคาดหวังเรื่องเศรษฐกิจถึง 61.97%

“ทิศทางการเมืองไทยนับจากนี้ เราจะมีนายกรัฐมนตรี และผู้นำฝ่ายค้านที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของการปกครองไทยนับตั้งแต่มีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยมา 92 ปี คนรุ่นใหม่ที่หลายฝ่ายอยากได้มาสร้างรูปแบบ และกระบวนการทางการเมืองใหม่ ๆ จะเป็นดังที่หลายฝ่ายคาดหวังไว้หรือไม่ คงต้องติดตามกันต่อไป” ผู้ช่วยศาสตราจารย์ยอดชาย ระบุ

‘นิสิตเก่าวิศวฯ ม.เกษตรฯ’ ดูแลน้องช่วงอ่านหนังสือสอบเต็มที่ แจกนมวันละ 300 ถุง และข้าวต้ม 200 ถ้วย ระหว่างติว 24 ชม.

เมื่อไม่นานมานี้ เพจเฟซบุ๊ก ‘คณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์’ ได้โพสต์ภาพบรรยากาศบางส่วน ของวันที่ 9 ส.ค.67 ณ ห้องสมุดและศูนย์การเรียนรู้ฯ คณะวิศวฯ หลังเปิดพื้นที่ให้นิสิตคณะ อ่านหนังสือช่วงสอบกลางภาคตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมมีบริการเครื่องดื่ม นมวันละ 300 ถุง และข้าวต้ม 200 ถ้วย ซึ่งสนับสนุนโดยพี่ ๆ นิสิตเก่าวิศวกรรมโยธา

โดยทางเพจระบุเพิ่มเติมว่า สำหรับการสอบกลางภาคครั้งนี้ มีการสนับสนุนอาหารและเครื่องดื่มสำหรับนิสิตวิศวฯ มก. บางเขน ช่วงอ่านหนังสือเตรียมสอบ ในวันที่ 9-17 ส.ค.67 ที่ห้องสมุดและศูนย์การเรียนรู้ฯ คณะวิศวฯ

ซึ่งนอกจากจะอิ่มท้องเพิ่มพลังสมอง เพราะมีผู้บริหาร พี่ ๆ นิสิตเก่าวิศวฯ และคณาจารย์ สนับสนุนอาหารว่างและเครื่องดื่มแล้ว ยังอุ่นใจเพราะมีเพื่อนช่วยกันอ่านหนังสือเยอะแยะเลย และมีพี่ ๆ เจ้าหน้าที่คอยดูแลและบริการระหว่างการอ่านหนังสืออีกด้วย

นอกจากนี้ เมื่อวานนี้ 15 ส.ค.67 ช่วงเวลา 4 ทุ่ม คณบดีคณะวิศวฯ ภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า และผศ.ดร.ปฐมาภรณ์ ศรีผดุงธรรม ก็ได้มีการสนับสนุนโจ๊กหมูทรงเครื่อง และลิ้มเหล่าโหงว สำหรับนิสิต ช่วงอ่านหนังสือเตรียมสอบ Midterm ด้วยเช่นกัน

ถือเป็นเรื่องราวดี ๆ และเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่สามารถเพิ่มแรงใจให้เด็ก ๆ มีพลังอ่านหนังสือต่อได้

ฉลุย!! ‘อิ๊งค์-แพทองธาร’ ขึ้นแท่นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ของประเทศไทย

(16 ส.ค. 67) ที่ประชุมรัฐสภา มีมติเห็นชอบนางสาวแพทองธาร ชินวัตร เป็นบุคคลที่สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 31 ด้วยเสียงเห็นชอบ 319 เสียง ไม่เห็นชอบ 145 เสียง งดออกเสียง 27 เสียง

สำหรับประวัติส่วนตัว เกิดเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2529 สัญชาติไทย เป็นบุตรของ ดร.ทักษิณ ชินวัตร กับ คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์

สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมปลายจากโรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย ระดับปริญญาตรีจากคณะรัฐศาสตร์ ภาควิชาสังคมวิทยาและมานุษย์วิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และระดับปริญญาโทจาก MSc International Hotel Management, University of Surrey, Weybridge, United Kingdom

ในด้านประวัติการทำงาน ดำรงตำแหน่ง กรรมการบริษัท เรนด์ เพลินจิต โอเต็ล จำกัด (2554 - 2567) / กรรมการบริษัท เรนด์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด, ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจโรงแรม และสนามกอล์ฟ บ. เรนด์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (2555 - 2567)

กรรมการบริษัท เทมส์ วัลลีย์ เขาใหญ่ โฮเต็ล จำกัด (2556 - 2567) / กรรมการบริษัท อัลไพน์ กอล์ฟแอนด์สปอร์ตคลับ จำกัด (2559 - 2567) / กรรมการบริษัท อัลไพน์ การ์เด็น ดีไซน์ จำกัด (2559 - 2567) / กรรมการบริษัท โอเอไอ คอนซัลแต้นท์แอนด์แมนเนจเม้นท์ จำกัด (2559 - 2567)

ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วม และนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย, หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย (2565-ปัจจุบัน) / รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ, รองประธานคณะกรรมการพัฒนาระบบสุขภาพแห่งชาติ (2566 - 2567) และ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (2566 - ปัจจุบัน)

‘สวีเดน’ ผวา!! พบผู้ติดเชื้อ ‘ฝีดาษลิง’ สายพันธุ์ใหม่ 1 ราย ชี้!! อาการรุนแรงขึ้น หลังเอี่ยวการระบาดในทวีปแอฟริกา

(16 ส.ค.67) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่าจากกรณีที่ 'องค์การอนามัยโลก' ประกาศให้การระบาดของโรคฝีดาษลิง ในพื้นที่บางส่วนของแอฟริกา กลายเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขที่เป็นข้อกังวลระหว่างประเทศ

ล่าสุด 'องค์การอนามัยโลก' ยืนยันพบผู้ป่วยติดเชื้อฝีดาษลิง สายพันธุ์ใหม่ คนแรกของประเทศสวีเดน ระบุว่ามีความเกี่ยวข้องกับการระบาดในทวีปแอฟริกา ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ครั้งแรกว่าเชื้อโรคฝีดาษวานรแพร่ออกไปนอกทวีปแอฟริกาแล้ว

โดยทางด้าน เจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขของสวีเดน แถลงว่า บุคคลที่ป่วยด้วยโรคฝีดาษลิงรายนี้ติดเชื้อในระหว่างที่อยู่ในทวีปแอฟริกา ซึ่งกำลังมีการแพร่ระบาดอย่างรุนแรง ผู้ติดเชื้อรายดังกล่าวติดเชื้อไวรัส clade 1b ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสฝีดาษลิงสายพันธุ์ใหม่ ที่ทำให้มีอาการรุนแรงขึ้นกว่าสายพันธุ์ clade 2 ที่เคยระบาดเมื่อ 2 ปีก่อน

ขณะที่ทางด้าน ลอว์เรนซ์ กอสติน ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุข และศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์ ลอว์ ในกรุงวอชิงตัน กล่าวว่า การพบผู้ติดเชื้อโรคฝีดาษลิงในทวีปยุโรปอาจทำให้โรคดังกล่าวแพร่ระบาดไปทั่วโลกได้อย่างรวดเร็ว การติดเชื้อที่พบในสวีเดนอาจหมายถึงมีผู้ติดเชื้ออีกหลายสิบรายที่ยังไม่พบในยุโรป

‘สภาคองเกรส’ อัด!! ‘มาร์ก’ ปล่อยโฆษณายาเสพติดเกลื่อนเฟซบุ๊ก ด้าน Meta อ้าง!! ระบบถูกออกแบบมาเพื่อตรวจจับผิดอย่างแข็งขัน

(16 ส.ค.67) สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า กลุ่มสมาชิกรัฐสภาจากทั้งพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครต ส่งจดหมายถึง ‘มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของ Meta ซึ่งเป็นเจ้าของ Facebook ว่า ทางบริษัท ‘ล้มเหลว’ ในการป้องกันโฆษณายาเสพติดผิดกฎหมายบนแพลตฟอร์มบริษัท

สมาชิกรัฐสภาได้อ้างถึงรายงานล่าสุดจากหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัล และองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร Tech Transparency Project ซึ่งพบว่า มีโฆษณายาจำนวนมากบน Facebook และ Instagram ที่นำผู้ใช้ไปสู่บริการของบุคคลที่สาม ซึ่งผู้ใช้สามารถซื้อยาตามใบสั่งแพทย์ โคเคน และยาเสพติดเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจอื่น ๆ ได้

“เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2024 วอลล์สตรีทเจอร์นัลรายงานว่า อัยการสหรัฐกำลังสอบสวน Meta ในข้อหาอำนวยความสะดวกในการขายยาเสพติดผิดกฎหมาย” สมาชิกรัฐสภาเขียน “แทนที่จะแก้ไขปัญหานี้โดยเร็วและลบเนื้อหาผิดกฎหมายออกไปทั้งหมด เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2024 วอลล์สตรีทเจอร์นัลได้รายงานอีกครั้งว่า Meta กำลังลงโฆษณาบน Facebook และ Instagram ที่นำผู้ใช้ไปสู่ตลาดออนไลน์สำหรับยาเสพติดผิดกฎหมาย”

สิ่งที่น่ากังวลที่สุดคือ สมาชิกรัฐสภาเขียนว่า Meta ยังคงลงโฆษณาต่อไป แม้ว่าบริษัทกำลังถูกอัยการสหรัฐสอบสวนในข้อหา “อำนวยความสะดวกในการขายยาเสพติดผิดกฎหมาย” ก็ตาม

เหล่าสมาชิกรัฐสภาส่งคำถาม 15 ข้อไปยังซัคเคอร์เบิร์ก เพื่อเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการแก้ไขปัญหาดังกล่าวของบริษัทแม่ Facebook และขอให้เขาตอบกลับภายในวันที่ 6 กันยายน

ด้าน Meta ยืนยันว่าได้รับจดหมายแล้ว โดยแถลงชี้แจงเรื่องนี้ว่า “ผู้ค้ายาเสพติดเป็นอาชญากรที่ทำงานข้ามแพลตฟอร์มและชุมชน เป็นเหตุผลที่เราทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายเพื่อต่อสู้กับกิจกรรมผิดกฎหมายเหล่านี้ ระบบของเราถูกออกแบบมาเพื่อตรวจจับ และบังคับใช้กับเนื้อหาที่ละเมิดอย่างแข็งขัน และเรายังปฏิเสธโฆษณาหลายแสนรายการที่ละเมิดนโยบายยาเสพติดของเรา เราลงทุนทรัพยากรอย่างต่อเนื่อง และปรับปรุงการบังคับใช้กับเนื้อหาประเภทนี้ต่อไป เราขอร่วมไว้อาลัยกับผู้ที่ทุกข์ทรมานจากผลกระทบอันน่าเศร้าของการระบาดยาเสพติดเหล่านี้ จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่ายเพื่อหยุดยั้ง”

#ตำรวจมาเลเซียเจ้าภาพคว้าถ้วยจิรวงศ์ ครั้งที่ 35

เมื่อวานนี้ (15 ส.ค.67) เวลา 15.00 น. พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ / ประธานคณะทำงานจัดการแข่งขันกีฬารักบี้ฟุตบอลประเพณีระหว่างตำรวจไทยและตำรวจมาเลเซีย พร้อมด้วย พล.ต.ท.อัครเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ / รองประธานฯ, พล.ต.อ.ปริญญา จันทร์สุริยา ที่ปรึกษาคณะทำงานฯ, พล.ต.ต.เทอดศักดิ์ รุจิรวงศ์ ที่ปรึกษาคณะทำงานฯ, พล.ต.ต.สมพร สัจจพจน์ รองผู้บัญชาการศึกษา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และคณะ ร่วมชมการแข่งขันรักบี้ฟุตบอลประเพณีตำรวจไทย-มาเลเซีย ชิงถ้วย “รุจิรวงศ์” ครั้งที่ 35 ในวันที่ 15 สิงหาคม 2567 เวลา 15.00 ณ สนามกีฬาฮังตูวะห์ เมืองมะละกา ประเทศมาเลเซีย

โดยมี ดาโต๊ะ เซอรี อุตามอ อับดุล ราอุฟ บิน ยูโซะห์ ผู้ว่าการรัฐมะละกา, ตัน ซารี ราซารูดิน บิน ฮูเซ็น ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมาเลเซีย, ดาโต๊ะ ซารี อัสมี บิน อาบู กัซซิม ผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร ตำรวจแห่งชาติมาเลเซีย, ดาโต๊ะ ซารี รัมลี บิน โมฮัมเหม็ด ยูซุฟ ผู้อำนวยการฝ่ายปรามอาชญากรรมเศรษฐกิจ ตำรวจแห่งชาติมาเลเซีย, ดาโต๊ะ ฮัจญี ไซนอล บิน ฮัจญี ซามะห์ หัวหน้าตำรวจรัฐมะละกา, อับดุล รามัล บิน อาซะ รอง ผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร และคณะเจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐมะละกา ร่วมให้การต้อนรับ 

สำหรับการแข่งขันกีฬารักบี้ฟุตบอลประเพณี ตำรวจไทยและตำรวจมาเลเซีย ได้เริ่มต้นในปีพุทธศักราช 2504 ครั้งเมื่อ พลตำรวจเอก ประเสริฐ รุจิรวงศ์ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมตำรวจ โดย ทีมรักบี้ฟุตบอลสโมสรตำรวจ ได้เดินทางไปแข่งขันที่ประเทศมาเลเซีย เป็นครั้งแรก ต่อจากนั้น ได้มีการสลับกันเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน เป็นระยะเวลายาวนานถึง 63 ปี กลายเป็นประเพณีที่ผูกพันระหว่างตำรวจทั้งสองประเทศ และถือเป็นกิจกรรมสำคัญในการสร้างโอกาสให้ตำรวจทั้งสองประเทศได้มีความคุ้นเคยกัน เสริมสร้างสัมพันธภาพอย่างแนบแน่นมั่นคง

ในผลการแข่งขันรักบี้ฟุตบอลประเพณี ตำรวจไทย - ตำรวจมาเลเซีย ครั้งที่ 35 ประจำปี 2567 มีดังนี้

1.การแข่งขันรักบี้ฟุตบอล 10 คน ประเภทอายุเกิน 45 ปี ตำรวจมาเลเซีย ชนะ ตำรวจไทย ด้วยคะแนน 26 : 0 จุด ตำรวจมาเลเซียครองถ้วย “Razarudin Cup“

2.การแข่งขันรักบี้ฟุตบอล 15 คน ประเภทอายุไม่เกิน 45 ปี ตำรวจมาเลเซีย ชนะ ตำรวจไทย ด้วยคะแนน 31 : 21 จุด ตำรวจไทยครองถ้วย "รุจิรวงศ์" 

ทั้งนี้ การแข่งขันกีฬารักบี้ฟุตบอลประเพณีดังกล่าว ช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างตำรวจไทยและตำรวจมาเลเซีย ในการบูรณาการทำงานร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นด้านการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม, การป้องกันปราบปรามและสกัดกั้นยาเสพติด, การค้ามนุษย์, การลักลอบหลบหนีเข้าเมือง, แรงงานผิดกฎหมาย, องค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ตลอดจนความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ, ความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนบุคลากรและการฝึกอบรม เพื่อพัฒนาศักยภาพบุคลากรและเสริมสร้างความเป็นมืออาชีพ รวมไปถึงการอำนวยความสะดวกในการเชื่อมโยงระหว่างกันของประชาคมโลกเข้าด้วยกัน 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top