Saturday, 31 May 2025
TheStatesTimes

มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ ส่งต่อเครื่องผลิตออกซิเจน รักษาผู้ป่วย รพ.สมเด็จพระยุพราชตะพานหิน จ.พิจิตร

5 สิงหาคม เวลา 10.00 น. นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ ประธานมูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ มอบเครื่องผลิตออกซิเจน ขนาด 5 ลิตร จำนวน 9 เครื่อง มูลค่าเครื่องละ 27,900 บาท เป็นเงิน 251,100 บาท ให้แก่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ตะพานหิน จ.พิจิตรเพื่อใช้ประโยชน์ทางการแพทย์และสาธารณสุข โดยมี นายแพทย์สุธน  ชินวุฒิ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลและคณะ เป็นผู้รับมอบ ณ โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชตะพานหิน จ.พิจิตร

นางเธียรรัตน์ กล่าวว่า สำหรับเครื่องผลิตออกซิเจนที่นำมามอบให้กับโรงพยาบาลในวันนี้ เป็นเครื่องมือบริการทางการแพทย์ ที่ทางมูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ ร่วมกับคณะกรรมการวิสามัญการพิทักษ์และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ วุฒิสภา นำไปมอบให้กับมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช 21 แห่งทั่วประเทศ โดยมีศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์ เกษม วัฒนชัย องคมนตรี ประธานมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช เป็นผู้รับมอบ เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และเพื่อไว้ใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ให้กับโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช 21 แห่งทั่วประเทศ  ทั้งนี้ การมอบเครื่องผลิตออกซิเจน จำนวน 9 เครื่อง ให้กับโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชตะพานหิน  ถือว่าเป็นกิจกรรมตามเจตนารมณ์ของมูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์  ที่สนับสนุนงานด้านสาธารณสุขของประเทศ

ด้าน นายแพทย์สุธน  ชินวุฒิ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชตะพานหิน กล่าวว่า ในนามโรงพยาบาล ขอขอบคุณ คุณเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ ประธานมูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์เป็นอย่างสูงที่ได้มอบเครื่องผลิตออกซิเจนให้ในวันนี้  โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสะพานหิน จังหวัดพิจิตร  เป็นโรงพยาบาลชุมชนขนาด 90 เตียง ให้บริการผู้ป่วยในอำเภอตะพานหินและอำเภอใกล้เคียง ในปี 2566 มีผู้รับบริการรวมเกือบ 200,000 คน โดยการได้รับเครื่องผลิตออกซิเจน ในครั้งนี้ ทางโรงพยาบาลจะนำไปให้บริการ สำหรับผู้ป่วยที่มารับบริการต่อไป

นราธิวาส-นายกฯ เศรษฐา บินลงใต้ พบนายกฯ มาเลเซีย ร่วมหารือแนวทางเพิ่มปริมาณการค้า และความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน มุ่งส่งเสริมความเชื่อมโยง พัฒนาเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยว

วันนี้ (3 สิงหาคม 2567) เวลา 10.30 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส หารือ ดาโตะ เซอรี อันวาร์ บิน อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย โดยในเวลา 11.25 น. นายกรัฐมนตรีทั้งสองฝ่ายได้พบหารือกันที่ ด่านศุลกากรสุไหงโก-ลก โดยนายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยสาระสำคัญจากการหารือ ดังนี้

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การลงพื้นที่ร่วมกันครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน (Common Peace and Prosperity) และแสดงให้เห็นถึงความเป็นเอกภาพ ความจริงจังและเจตนารมณ์ทางการเมืองของผู้นำทั้งสองประเทศในการร่วมมือกันเพื่อรักษาความสงบในบริเวณชายแดน ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ขอบคุณมาเลเซียสำหรับการขับเคลื่อนความร่วมมือ ผ่านการจัดประชุมคณะทำงานด้านการค้าชายแดน และการค้าการลงทุน และหวังว่าทั้งสองฝ่ายจะได้ร่วมกันจัดประชุมคณะทำงาน working group ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของทั้งสองประเทศจะหารือกันในกรอบความร่วมมือ JC และ JDS พร้อมกันนี้ ทั้งสองฝ่ายตกลงร่วมกันในความร่วมมือเกี่ยวกับสินค้าและมาตรฐานฮาลาลระหว่างทั้งสองประเทศเพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน

ในโอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือเพื่อความร่วมมือในการขุดลอกแม่น้ำโก-ลก ที่ตื้นเขิน ทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วม โดยฝ่ายมาเลเซียขอความช่วยเหลือ ในการหารือนายกรัฐมนตรีได้แจ้งว่าจะสั่งการกระทรวงการต่างประเทศจัดการประชุมร่วมกับ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงคมนาคม และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อพิจารณาความร่วมมือต่อไป

ในช่วงท้ายของการหารือนายกรัฐมนตรีทั้งสองฝ่ายรับฟังบรรยายสรุปเกี่ยวกับโครงการก่อสร้างสะพานคู่ขนานสุไหงโก-ลก ก่อนจะเดินทางไปยังประเทศมาเลเซีย ซึ่งทางนายกรัฐมนตรีมาเลเซียเป็นเจ้าภาพในการเลี้ยงอาหารกลางวัน และนายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรีมาเลเซียสำหรับการต้อนรับที่อบอุ่นถือเป็นเครื่องสะท้อนว่าทั้งสองประเทศมีมิตรภาพที่แน่นแฟ้น สะพานคู่ขนานสุไหงโก-ลกจะอำนวยความสะดวกให้ประชาชนของทั้งสองประเทศได้เป็นอย่างดี เป็นโอกาสที่ได้หารือกันเรื่องเขตการค้าพิเศษระหว่างกัน นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่าการหารือในครั้งนี้จะเป็นโอกาสด้านการค้าการลงทุนระหว่างกัน ซึ่งนายกรัฐมนตรีจะเดินทางกลับมายังพื้นที่นี้อีกครั้งหนึ่งเพื่อชื่นชมพัฒนาการที่เกิดขึ้น

ข่าว.แวดาโอ๊ะ หะไร จ.นราธิวาส

‘หลานม่า’ โดนใจผู้ชมนานาชาติ คว้ารางวัล ‘Audience Award’ ในงานเทศกาลหนัง ‘New York Asian Film Festival 2024’ สหรัฐฯ

(5 ส.ค. 67) นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลตั้งเป้าผลักดันอุตสาหกรรม Soft Power ทั้ง 11 สาขา โดยนำความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรมและเทคโนโลยีมาประยุกต์กับทุนทางวัฒนธรรมเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและบริการของประเทศ ซึ่งอุตสาหกรรมภาพยนตร์เป็นหนึ่งในนโยบายขับเคลื่อน Soft Power ของรัฐบาลตามยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ Thailand creative content agency (THACCA) กับ 11 กลุ่มอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ในปี 2567 กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) จึงร่วมกับคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านภาพยนตร์ สนับสนุนภาพยนตร์ไทยเข้าร่วมเทศกาลภาพยนตร์ในต่างประเทศ เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยให้เป็นที่รู้จักในระดับสากลและสอดคล้องกับนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ของรัฐบาล

“เมื่อเร็วๆ นี้ วธ. โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ได้ร่วมสนับสนุนภาพยนตร์ไทย จำนวน 6 เรื่อง ได้แก่ หลานม่า, แดนสาป, เพื่อน (ไม่) สนิท, สมมติ, Pattaya Heat ปิดเมืองล่า และ Operation Undead (ช.พ.1 สมรภูมิคืนชีพ) เข้าร่วมฉายในเทศกาลภาพยนตร์เอเชียนิวยอร์ก (New York Asian Film Festival) (NYAFF) ซึ่งปรากฏว่าภาพยนตร์ไทยที่เข้าร่วมเทศกาลดังกล่าวได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมงานจำนวนมาก ซึ่งเป้าหมายในการผลักดันภาพยนตร์ไทยเพื่อโปรโมตผลงานภาพยนตร์ไทยและสร้างโอกาสทางการตลาดให้กับผู้สร้างภาพยนตร์ไทย ทั้งนี้เทศกาลภาพยนตร์ฯ ถือว่าเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติที่ถือกำเนิดมายาวนานต่อเนื่องกว่า 20 ปี และเป็นอีกหนึ่งเวทีที่ช่วยเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ภาพยนตร์จากเอเชีย สู่การรับรู้ของผู้ชมทางฝั่งตะวันตก ที่สำคัญคือหนังไทยที่เป็น Soft Power ของประเทศเรานั้น ไม่เคยห่างหายจากเทศกาลระดับโลกนี้เลย สำหรับ NYAFF ปีนี้ มีหนังทั้งเก่าและใหม่นำมาเข้าฉายให้ชมกันกว่า 60 เรื่อง เพื่อเผยแพร่ความเป็นเอเชียในภาพยนตร์ให้ออกสู่สายตาชาวโลกมากขึ้นทั้งยังเปิดโอกาสให้หนังเอเชียเข้าถึงผู้ชมทุกกลุ่มอีกด้วย” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าว    

อย่างไรก็ตาม ภาพยนตร์ที่ได้รับการสนับสนุนครั้งนี้แต่ละเรื่องมีความโดดเด่นและน่าสนใจเฉพาะตัว เช่น ‘หลานม่า’ ที่สะท้อนความอบอุ่นและความสัมพันธ์ในครอบครัว, ‘แดนสาป’ ที่เล่าเรื่องราวลึกลับในดินแดนห่างไกล, ‘เพื่อน (ไม่)สนิท’ ที่เน้นเรื่องราวความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนในกลุ่มเพื่อน ‘สมมติ’ การนำเสนอเรื่องราวที่มีความลึกซึ้งและสร้างสรรค์ การใช้ภาพและเสียงที่มีความละเอียดอ่อนเพื่อสื่อถึงความรู้สึกและอารมณ์ของตัวละครระหว่างโลกแห่งความจริงและจินตนาการ ‘Pattaya Heat ปิดเมืองล่า’ ภาพยนตร์แนวแอคชั่นที่เล่าเรื่องราวของการต่อสู้เพื่อความยุติธรรมในเมืองพัทยาซึ่งมีฉากแอคชั่นที่ตื่นเต้นและการไล่ล่าที่มันส์สะใจ และ ‘Operation Undead (ช.พ.1 สมรภูมิคืนชีพ)’ ภาพยนตร์แนวสยองขวัญและแอคชั่นที่เล่าเรื่องราวของการต่อสู้กับซอมบี้ในสมรภูมิที่เต็มไปด้วยอันตราย สยองขวัญและการต่อสู้ที่ตื่นเต้น เรื่องราวที่เต็มไปด้วยความลุ้นระทึกและการเอาตัวรอดในสถานการณ์ที่เลวร้าย

ทั้งนี้ เป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างมาก เนื่องจากได้รับรายงานว่า ภาพยนตร์เรื่อง ‘หลานม่า’ ได้คว้ารางวัล Audience Award จากเทศกาลภาพยนตร์ New York Asian Film Festival ซึ่งถือว่าภาพยนตร์ไทยโดยคนไทยเรื่องแรกที่คว้ารางวัลดังกล่าวจากเทศกาลภาพยนตร์ New York Asian Film Festival 2024 ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้แก่ภาพยนตร์ในเทศกาลที่ได้รับการโหวตจากผู้ชมมากที่สุด จากภาพยนตร์ที่เข้าร่วมฉายในเทศกาลนี้มากกว่า 100 เรื่อง

“ในอนาคต วธ. มีแผนที่จะสนับสนุนภาพยนตร์ไทยเข้าร่วมเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติอีกหลายแห่ง เช่น เทศกาลภาพยนตร์ลอคาร์โน สวิตเซอร์แลนด์, เทศกาลภาพยนตร์เวนิส อิตาลี, เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติโตรอนโต แคนาดา, เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเซบาสเตียน สเปน และเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติปูซาน สาธารณรัฐเกาหลี นอกจากนี้ยังมีแผนการสนับสนุนอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยในอีกหลายมิติ เช่น การสนับสนุนการผลิตภาพยนตร์ไทย การพัฒนาบุคลากรในอุตสาหกรรมภาพยนตร์และการสนับสนุนให้เกิดเทศกาลภาพยนตร์ในประเทศและต่างประเทศ เพื่อส่งเสริมศักยภาพและความสามารถของผู้สร้างภาพยนตร์ไทยในการแข่งขันในตลาดโลก เพราะการส่งเสริมภาพยนตร์ไทยไม่เพียงแต่เป็นการโปรโมตวัฒนธรรมไทยให้เป็นที่รู้จักในระดับสากล แต่ยังเป็นการเสริมสร้างเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของประเทศ และเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาที่ยั่งยืน” นางสาวสุดาวรรณกล่าว

‘หญิงแย้’ แจง หลังรับสมัครเลขา ค่าจ้าง 17,000 ภาระงานครอบจักรวาล ชี้!! เป็นเพียงเงินเดือนเริ่มต้นช่วงทดลองงาน หากมีหน้าที่มากขึ้นจะปรับให้

(5 ส.ค. 67) เรียกว่าเจอดรามาถล่มไม่น้อยเลยทีเดียว หลังจากอินฟลูฯ คนดัง ‘หญิงแย้ นนทพร’ ออกมาโพสต์รับสมัครงานเลขา เงินเดือน 17,000 แต่คุณสมบัติและหน้าที่คือจัดเต็ม ควบหลายตำแหน่ง จนชาวเน็ตทั้งอึ้งทั้งทึ่งไปตาม ๆ กัน ทำงานจิปาถะ ถ่ายวิดีโอ ตัดต่อ ทำกราฟิกดีไซน์ ดูแลโซเชียล เป็นแอดมินได้ ช่วยแพ็กของ ส่งของต่าง ๆ

งานนี้ หญิงแย้ เลยเจอทัวร์ลง หลายคนมองว่างานขนาดนี้ ทำหลายตำแหน่ง แต่ให้เงินเดือน 17,000 หนักไปไหม หน้าที่ครอบจักรวาลสุด ๆ เรื่องจริงหรือคอนเทนต์กันแน่ ทำไมให้เงินเดือนน้อยขนาดนี้ เมื่อเทียบกับหน้าที่ ความรับผิดชอบตามตำแหน่งงาน

ก่อนที่ล่าสุด หญิงแย้ จะออกมาโพสต์ชี้แจงแบบละเอียดยิบ เกี่ยวกับลักษณะงานของเลขา ที่เจ้าตัวรับสมัคร ว่าต้องทำอะไร อย่างไรบ้าง พร้อมทิ้งท้ายว่า “เป็นเพียงเงินเดือนเริ่มต้นในช่วงทดลองงาน หากมีภาระหน้าที่ที่มากขึ้น ก็จะมีการปรับเงินเดือนให้” โดยรายละเอียดทั้งหมดมีดังนี้

“จากที่แย้ได้ลงประกาศรับสมัครเลขาส่วนตัว 1 ตำแหน่ง เงินเดือน 17,000 บาท จนทำให้เกิดกระแสดรามาต่าง ๆ เรื่องการจ้างงานแย้ออกไปนะคะ

ก่อนอื่นแย้ต้องขออภัยและกราบขอโทษที่ทำให้ทุกคนที่ได้อ่านโพสต์ของแย้แล้วรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ แย้ต้องขออภัยที้ไม่ได้แจ้งอย่างชัดเจนให้ทุกคนรับทราบ ในลักษณะงานของน้องเลขาใหม่ที่แย้ต้องการค่ะ

ก่อนอื่นแย้ต้องขอชี้แจงว่า ปกติแย้จะมีน้องเลขาดูแล 1 คน มีพี่ผจก.ดูแลแย้อีก 1 คน

และในส่วนงานคอนเทนต์ แย้จะเป็นคนครีเอทงานเกือบทั้งหมด ในส่วนของงานคลิปวิดีโอ ตัดต่อคลิป งานกราฟิก แย้จะทำเอง และให้เลขาแย้ช่วยทำ และจะมีจ้างฟรีแลนซ์มาช่วยบ้าง

ถึงตรงนี้ต้องขออธิบายเพิ่มว่าในส่วนงานใช้กล้อง ถ้าเป็นงานที่ลูกค้าต้องการความเป็นส่วนตัว หรือ Real แย้ใช้แค่กล้องเล็กหรือมือถือ แย้จะใช้เลขาหรืออุ๋งที่ไปด้วยกันช่วยถ่ายให้

แต่ถ้าเป็นงานลูกค้าที่ต้องการทีมใหญ่ แย้จะใช้ทีมตากล้องถ่ายงานและส่งงานให้ทีมฟรีแลนซ์ตัดต่อคลิปวิดีโออีกทีนึงค่ะ

แต่เนื่องจากเมื่อไม่นานมานี้ ทุกคนที่ติดตามแย้อาจจะได้ทราบว่า แย้ได้มีการทำธุรกิจใหม่แตกออกมาเพิ่มนอกจากงาน influencer ทำให้งานของน้องเลขาและพี่ผู้จัดการเพิ่มขึ้นโดยอัตโนมัติ แย้เลยได้มีการปรึกษากับ พี่ ผจก.ว่าเราควรรับคนเพิ่ม โดยไหน ๆ ก็จะรับคนใหม่ละ แย้อยากได้เด็กรุ่นใหม่ ๆ ให้มาแบ่งงานในส่วนTikTok ให้ช่วยมาดูแลส่วนนี้โดยเฉพาะ โดยสามารถทำคอนเทนต์สั้น ๆ ถ่ายคลิปสั้น ๆ บนมือถือลง TikTok เพื่อมาช่วยแย้ดูแลงานในส่วนช่อง TikTok ได้

ส่วนที่แย้แจ้งว่า คุณสมบัติดูแลหลังบ้าน Fb Ig TikTok Line OA ต้องยอมรับว่า ทุกคนในบริษัทแย้ที่ผ่านมา 10 ปี เราทำงานกันแบบครอบครัวที่รัก เข้าใจ เห็นอกเห็นใจกัน สนิทกันมาก ๆ ทั้งพี่ผจก. ทั้งน้องเลขา แย้ และอุ๋ง ที่ผ่านมาเราจะช่วยกันตอบคอมเมนต์ และตัวแย้เองจะให้ทุกคนสามารถเข้าถึงสื่อออนไลน์และช่วยกันดูแลหลังบ้านในสื่อต่าง ๆ ของแย้ได้ทั้งหมด เรียกว่าทุกคนสามารถเป็น Admin ได้จากสิทธิ์ที่แย้ไว้วางใจให้ดูแลได้ค่ะ

และในส่วนการแพ็กของ จะมีบางช่วงเวลาที่แย้ Live ขายสินค้าของตัวเองบ้าง วีคละครั้ง หรือ เดือนละครั้ง โดยทั่วไปแย้และแม่บ้านและน้องเลขาจะเป็นคนช่วยแพ็ก

ซึ่งตรงนี้แย้ขอโทษและยอมรับผิดที่รีบโพสต์จนไม่ได้อธิบายทุกอย่างให้ละเอียด แย้อยากให้ทุกคนเข้าใจ ให้ความรักและเอ็นดูแย้เหมือนที่ผ่านมานะคะ ไม่อยากให้เข้าใจเจตนาแย้ผิดพลาดไป กราบขออภัยทุก ๆ คนอีกครั้งนะคะ

ทั้งนี้ ปัจจุบันแย้ยังเปิดรับเลขาให้เข้ามาทดลองงานอยู่นะคะ และขอบพระคุณทุกท่านที่สมัครกันเข้ามากันมากมาย แย้จะรีบตอบกลับให้ไวที่สุดค่ะ แย้ต้องการคนรุ่นใหม่เก่งพร้อมจะมาทำงานให้กับแย้ สร้างโอกาสให้ตัวเองใครที่พร้อมจะเติบโตและรับการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นในอนาคตกับแย้ส่ง Resume แนะนำตัวเองเข้ามานะคะ รักและเคารพทุก ๆ คนมาก ๆ ค่ะ

ในส่วนของเงินเดือนที่หลายท่านมองว่าน้อยไปสำหรับเลขาคนใหม่ของแย้ เป็นเพียงเงินเดือนเริ่มต้นในช่วงทดลองงาน หากมีภาระหน้าที่ที่มากขึ้น ก็จะมีการปรับเงินเดือนให้ค่า”

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติพร้อมข้าราชการตำรวจทั่วประเทศ ส่งกำลังใจร่วมเชียร์ "วิว กุลวุฒิ" ชิงชนะเลิศแบดมินตันชายเดี่ยว โอลิมปิก 2024 คืนนี้

วันนี้ (5 สิงหาคม 2567) พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมข้าราชการตำรวจทั่วประเทศ ร่วมส่งกำลังใจให้กับ ส.ต.ท.กุลวุฒิ วิทิตศานต์ ผบ.หมู่ ฝอ.บก.ป. หรือ วิว นักกีฬาแบดมินตันทีมชาติไทย ที่ร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2024 ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งจะลงแข่งขันแบดมินตัน ประเภทชายเดี่ยว รอบชิงชนะเลิศ ลุ้นเหรียญทองให้ประเทศไทยในค่ำวันนึ้

กีฬาโอลิมปิก 2024 วันนี้ มีไฮไลต์ที่การแข่งขันแบดมินตัน ประเภทชายเดี่ยว รอบชิงชนะเลิศ ในเวลา 20.50 น. ตามเวลาประเทศไทย โดย "วิว" ส.ต.ท.กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักตบลูกขนไก่มือ 8 ของโลก จะพบกับ วิกเตอร์ อักเซลเซ่น มือ 2 ของโลกจากเดนมาร์ก หาก "วิว" ชนะจะเป็นเหรียญทองจากโอลิมปิกเกมส์เหรียญแรกของประเทศไทยในกีฬาแบดมินตัน

นอกจากนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้มอบหมายสำนักงานกำลังพล ตรวจสอบการดูแลสิทธิประโยชน์ต่างๆ ให้กับ ส.ต.ท.กุลวุฒิฯ และนักกีฬาตำรวจทุกคนที่เป็นตัวแทนทีมชาติไทยเข้าร่วมแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในครั้งนี้ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจ สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย และสร้างความสุขให้กับคนไทยทุกคน

'สุชาติ-รวมไทยสร้างชาติ' ชวน ชาวไทยทั่วโลก รอชมแมตช์หยุดโลก เชียร์ 'น้องวิว' คว้าทองโอลิมปิก

(5 ส.ค. 67) นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้โพสต์ข้อตวามผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า...

ชวนคนไทย เชียร์น้องวิว 

คนทั่วโลก รอชม แมตช์หยุดโลก ไปพร้อมๆ กัน

คงต้องนั่งหน้าจอลุ้นกันทุกวินาที พร้อมส่งพลังใจไปถึง 'น้องวิว กุลวุฒิ วิทิตศานต์' ที่กำลังจะสร้างประวัติศาสตร์ ชิงเหรียญทองแบดมินตันโอลิมปิก 2024 กับ วิคเตอร์ อเซลเซ่น มือ 2 โลก แชมป์เก่า จากเดนมาร์ก เวลา 20.40 น. โดย T SPORT 7 ยิงสดเกมนี้ 

ส่วนตัวไม่เคยเจอกับ 'น้องวิว' แต่ติดตามผลงานมาตลอด โดยเฉพาะการพาตัวเองไปแข่งขันแบดมินตันโอลิมปิกครั้งนี้  ผมเองชื่นชมในความสามารถของเยาวชนคนเก่งทั่วประเทศ ไม่ว่าคุณจะเป็นคนจังหวัดไหน หรือทำอะไรที่เป็นหน้าเป็นตาเพื่อชาติบ้านเมืองเรา ผมก็พร้อมจะสนับสนุนทุกคน 

แต่สำหรับวันนี้ เรามาส่งกำลังใจไปให้น้องวิว กันนะครับ

‘เศรษฐา’ ปลื้ม ‘พลเอกประยุทธ์’ แนะให้อดทน รู้ว่าทำงานหนัก พร้อมแซว!! มีใครดื้อบ้าง บอก รทสช.ช่วยงานนายกฯ ดีๆ

(5 ส.ค. 67) ที่กรมชลประทาน ถนนสามเสน เขตดุสิต กรุงเทพฯ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการพบกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี ที่มาร่วมฟังสวดพระอภิธรรม คุณแม่ชดช้อย ทวีสิน มารดานายกฯ ได้มีการพูดคุยอะไรกันบ้างหรือไม่ ว่า ตามที่เห็นท่านให้ความเมตตา ซึ่งท่านมางานสวดศพคุณแม่ตน และระหว่างเดินมาก็ได้ให้กำลังใจ โดยท่านบอกว่าเป็นกำลังใจให้นะ ไปไหนมาบ้าง ซึ่งเมื่อวันที่ 4 ส.ค.ตนได้ไป จ.นราธิวาส มา ท่านก็บอกว่า “โอ้ย ทำงานหนักเลย” และได้เดินผ่านรัฐมนตรี และสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ที่มาให้การต้อนรับ ท่านก็บอกว่า “ให้ช่วยนายกฯ ดี ๆ นะ” และหันไปแซวบางคนว่า “คนนี้ดื้อไหม อะไรอย่างไรไหม” ตนก็บอกว่า “ไม่ดื้อครับ ไม่มีใครดื้อ ทุกคนทำงานกันไม่มีเวลาดื้อ ปัญหาของพี่น้องประชาชนเยอะ” ซึ่งท่านก็หัวเราะ และยังเดินผ่าน 2-3 ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ เช่น นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งท่านก็บอกว่า “โอ้ย นี่ช่วยเหลือได้ดี” ซึ่งตนก็บอกว่า “ใช่ครับ เป็นกำลังสำคัญ” ก็เป็นการพูดคุยกันอย่างมีมิตรภาพที่ดี และระหว่างที่นั่งอยู่ นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี ก็นั่งด้วย ก็มีการพูดคุยกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้ฝากข้อห่วงใยอะไรหรือไม่? นายกฯ กล่าวว่า “ท่านบอกให้อดทน และท่านเป็นกำลังใจให้ และท่านก็ฝากตนกับพรรครวมไทยสร้างชาติ บอกให้ช่วยซึ่งกันและกัน ซึ่งก็เป็นความเมตตา” 

เมื่อถามว่า ถือเป็นครั้งที่ 2 ที่ได้เจอกับ พล.อ.ประยุทธ์ หลังเจอกันที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล และได้พูดคุยกันเยอะใช่หรือไม่? นายเศรษฐา กล่าวว่า “ไม่ครับ เคยได้เจอกันหลายครั้งกว่า 10 หน ระหว่างร่วมงานพระราชพิธี ระหว่างนั่งคอยที่ห้องรับรองก็พูดคุยกันเยอะ หลายๆ เรื่อง มีการขอความเห็นท่านหลาย ๆ เรื่องอยู่แล้ว ซึ่งไม่ได้ปรากฏเป็นภาพออกไป”

เมื่อถามว่า จะมีโอกาสนัดพบและพูดคุยกันถึงเรื่องบ้านเรื่องเมืองเป็นกรณีพิเศษหรือไม่? นายเศรษฐา กล่าวว่า “ถ้าเกิดมีความจำเป็นก็คงต้องไปคุย ตนยินดีกับทุกท่านอย่างที่เคยบอก อดีตนายกรัฐมนตรีทุกท่านตนรับฟังความคิดเห็น เมื่อวันที่ 4 ส.ค.ได้คุยกับนายอานันท์ แต่คุยเป็นเรื่องส่วนตัวมากกว่า”

เมื่อถามว่า เมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ บอกกับพรรครวมไทยสร้างชาติ ว่าอย่าดื้ออย่าเกเร ให้ช่วยงานนายกฯ และพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ดื้อ และเกเรหรือเปล่า? จังหวะนี้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ซึ่งยืนอยู่ด้วยตอนสัมภาษณ์ได้หัวเราะ ขณะที่นายกฯ ก็หัวเราะ พร้อมกล่าวว่า “ไม่ดื้อครับ อย่างที่ตนเคยบอกเป็นเรื่องภายในของเขา ตนไม่เคยต้องไปถาม ร.อ.ธรรมนัส เรามุ่งมั่นทำงานกันอยู่แล้ว ตรงนี้อย่าเป็นประเด็นเลย เอาเรื่องพี่น้องประชาชนเป็นหลักดีกว่า”

'เดวิด หย่ง' เซเลปเศรษฐีผู้โชว์รวยใน Super Rich in Korea ของ Netflix ถูกจับโป๊ะ!! ข้อหาปลอมแปลงเอกสารเงินกู้ของบริษัทตัวเอง

หากใครเคยผ่านตา Super Rich in Korea รายการ Reality Show ของเกาหลีใต้ที่ถ่ายทอดชีวิตติดหรูสุดๆ ของสังคมมหาเศรษฐีที่ฉายทาง Netflix จะต้องรู้จัก 'เดวิด หย่ง' หรือชื่อจริงว่า 'หย่ง คัง หลิน' กับคำเคลมสุดฮิตที่ใช้เปิดรายการของเขาว่าเป็นมหาเศรษฐีระดับ Top 1% 'Super Rich' ของสิงคโปร์

ที่มาของความร่ำรวยของ เดวิด หย่ง มหาเศรษฐีวัยเพียง 38 ปีชาวสิงคโปร์ มาจาก Evergreen Group Holdings บริษัทบริหารสินทรัพย์ ที่ลงทุนในธุรกิจหลากหลายตั้งแต่ การค้าไม้, อสังหาริมทรัพย์ ไปจนถึงธุรกิจสันทนาการและวงการบันเทิง 

จนเมื่อปี 2020 เดวิด หย่ง ตัดสินใจย้ายไปอยู่กรุงโซล เกาหลีใต้ เพราะสนใจธุรกิจ K-Pop และได้ร่วมลงทุนในค่ายเพลงเกาหลีใต้เล็กๆ แห่งหนึ่ง ที่ชื่อว่า Attrakt ถึง 1 หมื่นล้านวอน และมีศิลปินในสังกัดที่เดบิวต์แล้วเป็นวงเกิร์ลกรุ๊ป Fifty Fifty ก็ทำให้ชื่อเสียงของเดวิด หย่ง เป็นที่จับตาในแวดวงไฮโซ ในเกาหลีใต้ จนได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในรายการ Super Rich in Korea

โดยในรายการนั้น เจ้าตัว ได้เปิดเผยไลฟ์สไตล์เหนือระดับคนทั่วไปในห้องชุดสุดหรูบนตึกระฟ้า Lotte World Tower ในกรุงโซล เดินทางด้วยเครื่องบินเจทส่วนตัว ซื้อของแบรนด์เนมเป็นว่าเล่น และ มีธุรกิจทั้งในเกาหลีใต้, สิงคโปร์ และ กัมพูชา 

แต่มาวันนี้เซเลปเศรษฐีบนยอดพีระมิด 1% ของสิงคโปร์กลับเจอปัญหาเสียแล้ว เมื่อทางการสิงคโปร์ได้ออกหมายจับกุม และดำเนินคดี เดวิด หย่ง เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมานี้เอง ในข้อหาปลอมแปลงเอกสารการเงิน เพื่อใช้ประกอบการกู้เงินสำหรับบริษัท Evergreen Group ของเขา 

โดย เดวิด หย่ง ถูกกล่าวหาว่ามีเจตนาทุจริต และยังให้การสนับสนุน 'โจลีน โลว์ มง ฮาน' ผู้ช่วยของเขา ปลอมแปลงเอกสาร และ ใบกำกับภาษี ของ Evergreen Group ลงวันที่ 1 กันยายน 2021 เพื่อขายอุปกรณ์และเครื่องใช้ภายในบ้านจำนวนมากให้กับบุคคลที่ชื่อ 'รอย เตียว' ที่พบว่าเป็นเอกสารปลอม 

หากถูกตัดสินว่ามีความผิดจริง เดวิด หย่ง อาจถูกตัดสินโทษจำคุกได้ถึง 10 ปี หรือ ทั้งจำ ทั้งปรับ ตามมาตรา 477A ของสิงคโปร์ ที่ว่าด้วยเรื่องความผิดฐานการปลอมแปลงบัญชี

ทว่า คดีความของ เดวิด หย่ง ไม่ได้มีเพียงแค่นี้!!

สำนักงานกำกับดูแลการบัญชีและองค์กร พบว่า Evergreen Group ซึ่งเดิมใช้ชื่อว่า Evergreen Teak Trading มีทุนจดทะเบียน 490,000 เหรียญสิงคโปร์ โดยมี หย่ง อิงฟัต พ่อของ เดวิด หย่ง เป็นกรรมการและผู้ถือหุ้นเพียงคนเดียว ส่วน เดวิด หย่ง ดำรงตำแหน่งประธานบริษัท และได้ยุติบทบาทการเป็นกรรมการของบริษัทตั้งแต่วันที่ 27 มกราคม 2566 หลังจากที่ย้ายไปเกาหลีใต้ 

ต่อมา บริษัท Evergreen Group ของเขาก็ถูกระบุอยู่ในรายชื่อเพื่อแจ้งเตือนนักลงทุนของสำนักงานการเงินสิงคโปร์ ว่าบริษัทนี้ไม่ได้รับอนุญาตประกอบธุรกิจการให้บริการทางการเงินในสิงคโปร์

และเมื่อ เดวิด หย่ง ถูกหมายจับคดีปลอมแปลงเอกสารในวันนี้ กรมกิจการพาณิชย์ก็จะดำเนินการสอบสวนกิจกรรมทางธุรกิจของ Evergreen Group ในข้อกล่าวหาเรื่องการฉ้อโกงอีกด้วย

นี่จึงกลายเป็นข่าว Talk of the town เมาต์กันสนั่นเมืองทั้งในสิงคโปร์ และ เกาหลีใต้ ถึง เดวิด หย่ง ที่เคยถูกมองว่าเป็นมหาเศรษฐีสิงคโปร์ผู้รวยล้นฟ้าตามแบบฉบับชาว Crazy Rich Asians หรืออัศวินขี่ม้าขาวผู้กอบกู้ค่ายเพลงเล็ก ๆ ในเกาหลีใต้ 

แต่ดูเหมือนมาวันนี้ เจ้าตัวจะเข้าตำรา ข้างนอกสุกใส ข้างในเป็นโพรง หรือเปล่าน้า?

“เผ่าภูมิ” ขึ้นแม่สาย มอบสัญญาเช่าที่ดิน “ธนารักษ์เอื้อราษฎร์” พลิกชีวิตประชาชน อีก 500 สัญญา กว่า 72 ไร่

ดร.เผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง แถลงข่าวในโครงการ “ธนารักษ์เอื้อราษฎร์” สัญญาเช่าที่ดิน พลิกชีวิตประชาชน ในอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ว่า

โครงการธนารักษ์เอื้อราษฎร์ “สัญญาเช่าที่ดิน พลิกชีวิตประชาชน” ของกระทรวงการคลัง โดยการมอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุให้ประชาชนในวันนี้ (4 สิงหาคม 2567) เป็นการมอบสัญญาเช่าเพื่ออยู่อาศัยทั้งสิ้น รวม 500 ราย 500 สัญญา เนื้อที่รวม 72 ไร่ 1 งาน 24 ตารางวา บนที่ราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ ชร.1154 ตำบลเวียงพางคำ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ในอัตราค่าเช่าต่ำ เพื่อประชาชน

กระทรวงการคลังมุ่งแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนด้านที่อยู่อาศัย ช่วยให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัย มีความเป็นอยู่ที่ดี มีความมั่นคงในอาชีพและรายได้ สามารถเข้าถึงสาธารณูปโภค และระบบสาธารณูปการ รวมถึงบริการสาธารณะขั้นพื้นฐานของรัฐ สินเชื่อจากสถาบันการเงิน สร้างความเข้มแข็งด้านสังคม ลดความเลื่อมล้ำและเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับประชาชน 

การมอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุครั้งนี้ เป็นการดำเนินงานมอบสัญญาจังหวัดที่ 4 และจะดำเนินไปจนครบทั้ง 9 จังหวัดในปีนี้ โดยจะเดินหน้ามอบสัญญาในจังหวัดที่เหลือ ได้แก่ นครสวรรค์ กาฬสินธุ์ ปัตตานี ราชบุรี และสุราษฎร์ธานี ให้เสร็จสิ้นภายใน 3 เดือน

“พล.ต.ท.ประจวบ”พร้อมกัลยาณมิตรร่วมกันอนุโมทนาบุญทอดผ้าป่ามหากุศล วัดป่าดาราภิรมย์ ได้เงินเกือบ 10 ล้านบาท นำมอบสมทบทุนศูนย์ผู้สูงอายุ รพ.พยาบาลดารารัศมี

วันที่ 5 สิงหาคม 2567 พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้่ช่วย ผบ.ตร.รรท.รอง ผบ.ตร. เปิดเผยว่า เมื่อวันเสาร์ที่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา ที่วัดป่าดาราภิรมย์ พระอารามหลวง จังหวัดเชียงใหม่ได้ร่วมเป็นเจ้าภาพทอดผ้าป้ามหากุศล โดยมีพระเทพวชิราธิบดี เจ้าอาวาสวัดป่าดาราภิรมย์ พระอารามหลวง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ มีตนและผู้ช่วยศาสตราจารย์ พรพิมล วงศ์สุข ประธานฝ่ายฆราวาส  มี พล.ต.ต.หญิง พิมพรรณ ทรัพย์ขำ นายแพทย์(สบ 7) โรงพยาบาลตำรวจ เป็นประธานดำเนินการ

การร่วมเป็นเจ้าภาพทอดผ้าป้ามหากุศล ในครั้งนี้เพื่อหารายได้สมทบทุนศูนย์ผู้สูงอายุโรงพยาบาลดารารัศมี สังกัดโรงพยาบาลตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก่อตั้งและให้บริการมากกว่า
44 ปี เนื่องมาจากพระราชประสงค์ของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ที่จะดูแลข้าราชการตำรวจตระเวนชายแดนในพื้นที่ภาคเหนือ โดยขอบเขตการให้บริการในครั้งแรก มุ่งเน้นบริการในลักษณะศูนย์ส่งกลับ โรงพยาบาลได้พัฒนาการให้บริการอย่างต่อเนื่อง และในปี พ.ศ.2563 โรงพยาบาลได้รับงบประมาณจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 

ดังนั้นเพื่อสนับสนุนการก่อสร้าง อาคาร ขนาด 6 ชั้น เพื่อยกระดับบริการจากโรงพยาบาลขนาด 30 เตียง สู่ศูนย์ผู้สูงอายุโรงพยาบาลดารารัศมี บัดนี้ อาคารศูนย์ผู้สูงอายุโรงพยาบาลดารารัศมีได้ก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์แล้ว และจะเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบ ในปี พ.ศ.2568 แต่ยังขาดครุภัณฑ์และอุปกรณ์ทางการแพทย์เป็นจำนวนมาก มูลนิธิเพื่อโรงพยาบาลดารารัศมีร่วมกับวัดปาดาราภิรมย์ จึงดำเนินการจัดกิจกรรมทอดผ้าป้ามหากุศล เพื่อนำรายได้จัดซื้อครุภัณฑ์และอุปกรณ์ ทางการแพทย์ เพื่อให้บริการแก่ข้าราชการตำรวจ ครอบครัวและประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ สมดังเจตนาที่ตั้งไว้

ขอเชิญร่วมสร้างมหากุศลอันยิ่งใหญ่ ซึ่งการร่วมบุญทอดผ้าป่าในครั้งนี้ ขออนุโมทนาบุญกับกัลยาณมิตรทุกท่านที่ร่วมกันทำบุญทอดผ้าป่ามหากุศล ณ วัดป่าดาราภิรมย์ อ.แม่ริม จว.เชียงใหม่ เพื่อสนับสนุนเครื่องมือแพทย์ให้กับผู้สูงวัยของโรงพยาบาลดารารัศมี ยอดรวม 9,792,564 บาท ขอขอบพระคุณทุกท่าน และขออนุโมทนาบุญให้ทุกท่านมีสุขภาพพลานามัยที่สมบูรณ์แข็งแรง ปรารถนาสิ่งใดสมใจทุกประการครับ ”รรท.รอง ผบ.ตร.กล่าว“


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top