Sunday, 11 May 2025
TheStatesTimes

ส่องราคาน้ำมันเฉลี่ยในประเทศอาเซียนราคา ณ วันที่ 3 มี.ค.68

รายงานราคาน้ำมันเฉลี่ยในอาเซียน ประจำวันที่ 3 มีนาคม 2568 โดยราคาขายน้ำมันแต่ละประเทศ มีปัจจัยทางด้านราคา ดังนี้

1.แต่ละประเทศมีมาตรการภาษี และระบบการเก็บเงินเข้ากองทุนหรืออุดหนุนราคาพลังงานที่แตกต่างกัน

2.ในหลายประเทศเพื่อนบ้านยังมีการอุดหนุนราคากันอยู่

3. ประเทศไทยสนับสนุนการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ ให้การอุดหนุนราคาโดยกองทุนน้ำมันฯ จึงทำให้ราคาน้ำมันแก๊สโซฮอล์ถูกกว่าเบนซิน

หมายเหตุ : ราคาและอัตราแลกเปลี่ยน (อัตรากลาง) ณ วันที่ 3 มีนาคม 2568

*ประเทศไทย อ้างอิงราคาจาก ปตท. และ บางจาก และเป็นราคาน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95E10 ซึ่งมีสัดส่วนการใช้มากที่สุด

สามารถดูราคาย้อนหลังได้ที่ EPPO - Energy Data Visualization
หรือคลิกที่ https://public.tableau.com/app/profile/epposite/viz/EPPO_Inter_OilPrice/SUMMARYOILPRICING

‘เกษตรศาสตร์’ จับมือ ปตท.สผ. สร้างวิศวกรป้อนอุตฯ ยุคใหม่ เน้นวิจัยและพัฒนานวัตกรรมตอบโจทย์ด้านพลังงานยั่งยืน

มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จับมือ ปตท.สผ. ส่งเสริมการวิจัยและพัฒนานวัตกรรม เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมพลังงานของประเทศ 

เมื่อวันที่ (5 มี.ค.68) มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (ปตท.สผ.) ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ เพื่อส่งเสริมการวิจัยและพัฒนานวัตกรรม และ ต่อยอดไปสู่การพัฒนาหลักสูตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาวิศวกรรมเครื่องกล (นานาชาติ) ของ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งเป็นหลักสูตรที่เน้นด้าน พลังงานที่ยั่งยืน (Sustainable Energy) ที่มีทั้งเทคโนโลยีไฮโดรเจน และ คาร์บอน โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างวิศวกรรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพระดับสากล ตอบสนองต่อความต้องการของอุตสาหกรรมยุคใหม่ และการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วของเทคโนโลยี 

พิธีลงนามจัดขึ้นที่ ศูนย์เอนเนอร์ยี่คอมเพล็กซ์ อาคารเอ โดยมี ดร.ดำรงค์ ศรีพระราม รักษาการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และ นายนภสิทธิ์ ชัยวรรณคุปต์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานเทคโนโลยี คาร์บอนโซลูชั่นและการเติบโตอย่างยั่งยืน ปตท.สผ. เป็นตัวแทนร่วมลงนาม พร้อมด้วยผู้บริหาร คณาจารย์ ร่วมเป็นสักขีพยาน 

หลักสูตรที่ตอบโจทย์อนาคต 
หลักสูตรใหม่นี้มุ่งเน้นการพัฒนาวิศวกรที่มีความรู้และทักษะในเทคโนโลยีล้ำสมัย อาทิ พลังงานสะอาด ไฮโดรเจนและเซลล์เชื้อเพลิง การประยุกต์ใช้ AR/VR ในงานวิศวกรรม และระบบอาคารอัจฉริยะ ตลอดจนการผสมผสานองค์ความรู้จากภาคการศึกษาและอุตสาหกรรม 

นิสิตในหลักสูตรจะได้รับโอกาสในการเรียนรู้ผ่านโครงการฝึกปฏิบัติในสถานประกอบการจริง การวิจัยร่วมกับผู้เชี่ยวชาญ และการแลกเปลี่ยนทางวิชาการในระดับนานาชาติ โดยมีเป้าหมายสำคัญคือการสร้างบัณฑิตที่มีทักษะการคิดเชิงนวัตกรรม ความสามารถในการปรับตัว และทักษะการสื่อสารในระดับสากล 

ประโยชน์ของความร่วมมือ 
ความร่วมมือครั้งนี้ไม่เพียงแต่ช่วยยกระดับการศึกษาของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ แต่ยังสร้างระบบนิเวศการเรียนรู้ที่เอื้อต่อการพัฒนานวัตกรรมและการสร้างบุคลากรที่ตรงกับความต้องการของอุตสาหกรรม 

อธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวในงานว่า “หลักสูตรนี้จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการสร้างวิศวกรที่มีศักยภาพ นวัตกรรม และพร้อมขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืนให้กับประเทศ โดยความร่วมมือกับ ปตท.สผ. จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจและโอกาสใหม่ๆ ให้แก่นิสิตและภาคอุตสาหกรรมในอนาคต” 

ก้าวต่อไปสู่ความสำเร็จ 
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ตั้งเป้าที่จะเปิดรับนิสิตรุ่นแรกในปี 2569 และยื่นขอมาตรฐาน ABET (Accreditation Board for Engineering and Technology) ในปี 2570 เพื่อยืนยันคุณภาพหลักสูตรในระดับสากล และเตรียมความพร้อมให้นิสิตสามารถแข่งขันได้ในตลาดแรงงานทั่วโลก 

การลงนามครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของทั้งสององค์กรในการผลักดันขอบเขตความร่วมมือระหว่างภาคการศึกษาและอุตสาหกรรมให้กว้างขึ้น และยังเป็นการเน้นย้ำบทบาทของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ในฐานะผู้นำทางการศึกษาและนวัตกรรม รวมถึงบทบาทของ ปตท.สผ. ในฐานะองค์กรที่มุ่งมั่นสร้างคุณค่าที่ยั่งยืนให้แก่สังคมและประเทศชาติ 

นิสิตที่สนใจสมัครเข้าเรียนในหลักสูตรวิศวกรรมเครื่องกล (นานาชาติ) สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และเตรียมตัวเข้าสู่การศึกษาแห่งอนาคตที่เต็มไปด้วยความท้าทายและโอกาสในการพัฒนาศักยภาพสู่ระดับโลก

‘ปิยสวัสดิ์’ โวลั่น การบินไทย มีกำไรจากการดำเนินงานดีที่สุดในโลกในไตรมาส 4 ปี 2024

(6 มี.ค. 68) ดร.ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ประธานคณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า “การบินไทย มีกำไรจากการดำเนินงานดีที่สุดในโลกในไตรมาส 4 ปี 2024 ในกลุ่มสายการบินที่มีการรายงานข้อมูลผลประกอบการ”

ทั้งนี้ การบินไทย เปิดเผยผลประกอบการปี 2567 ที่ผ่านมา มีรายได้รวม (ไม่รวมรายการพิเศษ) อยู่ที่ 187,989 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.7% จากปี 2566 จากอัตราการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) ที่สูงถึง 84.3% และการขยายเครือข่ายเส้นทางบิน

ขณะที่ กำไรจากการดำเนินงานก่อนหักต้นทุนทางการเงิน (EBIT) อยู่ที่ 41,515 ล้านบาท เติบโตขึ้น 3.2% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ทำให้ EBIT Margin แตะระดับ 22.1% ซึ่งสูงกว่าประมาณการที่กำหนดในแผนฟื้นฟูกิจการ

อย่างไรก็ตาม การบินไทยมีผลขาดทุนทางบัญชี 26,901 ล้านบาท ซึ่งเกิดจากการแปลงหนี้เป็นทุน จำนวน 45,271 ล้านบาท ที่เสร็จสิ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2567 โดยรายการนี้ถือเป็นผลขาดทุนทางบัญชีเพียงครั้งเดียวและไม่มีผลกระทบต่อกระแสเงินสดหรือการดำเนินงานของบริษัท
 

สตูล ศรชล.จัดกิจกรรม 'มวลชนสัมพันธ์' ประจำปี 2568 เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดี

เมื่อวันที่ (5 มี.ค. 68) ที่เพ็ญทิพย์รีสอร์ท ตำบลพิมาน อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล นาวาเอกแสนย์ไท บัวเนียม รองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลจังหวัดสตูล เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม “มวลชนสัมพันธ์” ประจำปี 2568 โดยมีนาวาเอกรัฐพล แก้วกระจาย หัวหน้าศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือจังหวัดสตูล ศรชล.ภาค 3 พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ สื่อมวลชน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมกิจกรรมจำนวนมาก

สำหรับการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ จัดโดยศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลจังหวัดสตูล ร่วมกับ ศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือจังหวัดสตูล และศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 3 เพื่อให้ผู้บังคับบัญชาและเจ้าหน้าที่ของหน่วย ได้มีโอกาสพบปะกับมวลชน สร้างความสัมพันธ์อันดี ความรู้ ความเข้าใจในการปฏิบัติงานของหน่วย อันจะนำไปสู่การได้รับข่าวสารและการนำเสนอข่าวสารที่สร้างสรรค์อันเป็นประโยชน์ต่อหน่วย

เพชรบูรณ์ 'มณฑลทหารบกที่ 36' นำทัพสู้ภัยแล้ง ปล่อยขบวนรถบรรทุกน้ำช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ขาดแคลน 

กองทัพบกโดยศูนย์บรรเทาสาธารณภัย มณฑลทหารบกที่ 36 (มทบ.36) จับมือหน่วยงานภาครัฐและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เปิดโครงการ “ราษฎร์ รัฐ ร่วมใจ ช่วยภัยแล้ง” ประจำปี 2568 รับมือวิกฤติภัยแล้งที่เกิดขึ้นเร็วและรุนแรงกว่าทุกปี พร้อมปล่อยขบวนรถบรรทุกน้ำช่วยเหลือประชาชนที่ขาดแคลนน้ำอุปโภค-บริโภคในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์

พิธีเปิดโครงการจัดขึ้นที่สนามหน้าแหล่งสมาคมนายทหารค่ายพ่อขุนผาเมือง อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ โดยมี พลตรี ฐาวิรัตน์ ยังน้อย ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 36 / ผู้บัญชาการศูนย์บรรเทาสาธารณภัย มทบ.36 เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นายชนก มากพันธุ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ พ.อ.เกียรติอุดม นาดี รองเสนาธิการ พล.ม.1 นายวีรวัฒน์ วัฒนวงศ์พฤกษ์ ที่ปรึกษานายก อบจ.เพชรบูรณ์ ผู้แทนองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น  รวมถึงหัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานทหาร และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้าร่วม

จากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและภาวะโลกร้อนที่ทวีความรุนแรงขึ้น ส่งผลให้ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำและเขื่อนหลักหลายแห่งต่ำกว่ามาตรฐาน ทำให้หลายพื้นที่ใน 17 จังหวัดภาคเหนือ โดยเฉพาะเขตห่างไกลจากระบบชลประทาน เผชิญกับปัญหาขาดแคลนน้ำสำหรับการเกษตรและการดำรงชีวิต เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย มทบ.36 ร่วมกับ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองพลทหารม้าที่ 1 หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 16 ส่วนราชการในจังหวัดเพชรบูรณ์ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้เร่งดำเนินโครงการนี้ โดยจัดเตรียมกำลังพล ยุทโธปกรณ์ และขบวนรถบรรทุกน้ำ เพื่อแจกจ่ายน้ำอุปโภค-บริโภคไปยังพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบในอำเภอเมืองเพชรบูรณ์ ได้แก่ ตำบลบ้านโตก ตำบลชอนไพร และตำบลป่าเลา ซึ่งเคยประสบภัยแล้งรุนแรงในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งน้ำที่นำไปแจกจ่ายจะถูกกระจายไปยัง แทงค์เก็บน้ำประจำหมู่บ้าน วัด และโรงเรียน เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงน้ำสะอาดได้อย่างทั่วถึง

พลตรี ฐาวิรัตน์ ยังน้อย ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 36  เน้นย้ำว่า กองทัพบกและกองทัพภาคที่ 3 ให้ความสำคัญกับการบรรเทาปัญหาภัยแล้ง โดยได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการความร่วมมืออย่างเต็มที่ เพื่อช่วยเหลือประชาชนให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะในจังหวัดเพชรบูรณ์“ภารกิจนี้ถือเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญของกองทัพบก เราจะไม่ปล่อยให้ประชาชนต้องเผชิญกับวิกฤติภัยแล้งเพียงลำพัง ขอให้กำลังพลทุกนายภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือประชาชนที่กำลังเดือดร้อน และขอให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความทุ่มเท เพื่อบรรเทาความทุกข์ของพี่น้องประชาชนให้ได้มากที่สุด” พลตรี ฐาวิรัตน์ กล่าว ทั้งนี้ โครงการ “ราษฎร์ รัฐ ร่วมใจ ช่วยภัยแล้ง” จะดำเนินการต่อเนื่องตลอดฤดูแล้งนี้ เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ขาดแคลนน้ำได้รับการช่วยเหลืออย่างทั่วถึงและทันท่วงที

หนีไม่รอด!! หนุ่มเมียนมาค้ายา มุดกลับมาหวังหางานทำ หนีไม่พ้นระบบ Biometrics

(6 มี.ค.68) เวลา 13.00 น. ที่ ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสมุทรสาคร  ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.ปกฉัตร ชัยสุกวัฒน์ ผกก.ตม.จว.สมุทรสาคร, พ.ต.ท.เศรษฐพงศ์ ชูเมือง รอง ผกก.ตม.จว.สมุทรสาคร ,พ.ต.ท.ปิยะพงษ์ องอาจ รอง ผกก.ตม.จว.สมุทรสาคร ,พ.ต.ต.จิรายุ เชิดฉาย สว.ตม.จว.สมุทรสาคร พร้อมด้วยเจ้าหน้าฝ่ายสืบสวน ตม.จว.สมุทรสาคร 

พ.ต.อ.ปกฉัตร กล่าวว่าในห้วงหลังจากการมีผ่อนผันให้กลุ่มแรงงานต่างด้าว ตามมติ ครม. ให้ขึ้นทะเบียนบุคคลต่างด้าวที่มีสถานะไม่ถูกต้องตามกฏหมาย  จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ ตม.จว.สมุทรสาคร เพิ่มความเข้มงวดในการสอบตรวจสอบเอกสาร ต่อมาได้มี MR.MAUNG MAUNG หรือ นายเมา เมา อายุ 33 ปี สัญชาติเมียนมา ได้มาติดต่อขอรับการจัดเก็บอัตลักษณ์บุคคลเจ้าหน้าที่ ตม.จว.สมุทรสาคร ได้ตรวจสอบพบประวัติเคยถูกจับกุมดำเนินคดี ในข้อหา จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยกระทำเพื่อการค้า ศาลจังหวัดสมุทรสาคร พิพากษาจำคุก 2 ปี  สตม.ได้มีคำสั่งเพิกถอนการอยู่ในราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 26 พ.ย.67 และ ลงประวัติเป็นบุคคลต้องห้าม (Blacklist) ห้ามเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร และไม่อยู่ในเงื่อนไขการผ่อนผัน ตาม มติ ครม. จึงได้ทำการจับกุม ในข้อหาเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่ง พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย  

ผกก.ตม.จว.สมุทรสาคร กล่าวต่อว่า สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. และ พล.ต.ต.ชัยฤทธิ์ อนุฤทธิ์ ผบก.ตม.3 ได้มีมาตรการเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบเอกสารของคนต่างด้าวในการขอรับการจัดเก็บอัตลักษณ์ เพื่อขึ้นทะเบียนใหม่ และขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนชาวไทยและชาวต่างชาติอย่าหลงเชื่อมิจฉาชีพหลอกลวงว่าจะสามารถขึ้นทะเบียนบุคคลต่างด้าวที่มีสถานะไม่ถูกต้องตามกฎหมาย โดยไม่ผ่านการตรวจสอบประวัติ หากประชาชนพบเห็นหรือมีเบาะแสเกี่ยวกับการกระทำความผิด สามารถแจ้งข้อมูลมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง
📍 ที่อยู่: อาคารเฉลิมพระเกียรติฯ เลขที่ 904 หมู่ที่ 6 ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี 11120
📞 โทรศัพท์: ติดต่อสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดในพื้นที่
🌐 เว็บไซต์: www.immigration.go.th

สตูล กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 5 จังหวัดสตูล จัดโครงการ 'ราษฎร์ รัฐ ร่วมใจช่วยภัยแล้ง' ประจำปี 2568

(6 มี.ค. 68) ที่บริเวณหน้ากองบังคับการ กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 5 (ค่าย ร.5 พัน 2) ค่ายสมันตรัฐบุรินทร์ อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล พ.อ.สุภชัย อินทรเนตร รอง ผอ.รมน.จังหวัด ส.ต.(ท.) เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ “ราษฎร์ รัฐ ร่วมใจช่วยภัยแล้ง” ประจำปี 2568 และปล่อยขบวนรถบรรทุกน้ำช่วยภัยแล้ง พร้อมถังบรรจุน้ำอุปโภค บริโภค เพื่อช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยแล้ง โดยมีนางสาววาสิฏฐี สาระพงศ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสตูลพร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดสตูล การประปาส่วนภูมิภาค อำเภอเมืองสตูล รวมถึงกำลังพลและยุทโธปกรณ์เข้าร่วม

สำหรับโครงการ “ราษฎร์ รัฐ ร่วมใจช่วยภัยแล้ง” กองทัพบกได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินโครงการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2542 จนถึงปัจจุบัน รวมระยะเวลากว่า 26 ปี โดยได้ใช้กำลังพล และทรัพยากรที่มีอยู่บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่เสียสละ ทุ่มเท เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบปัญหาภัยแล้ง ขาดแคลนน้ำในการอุปโภคบริโภค และเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น ซึ่งในพื้นที่จังหวัดสตูล จะเห็นได้ว่าระหว่างเดือนมีนาคม-เมษายน ของทุกปี จะเป็นช่วงหน้าร้อน ที่จังหวัดสตูลนั้นประสบกับปัญหาภัยแล้งอยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะประชาชนที่พักอาศัยในถิ่นทุรกันดาร พี่น้องกลุ่มเกษตรกร มักจะมีปัญหาขาดแคลนน้ำในการอุปโภคบริโภค ดังนั้นการขับเคลื่อนตามนโยบายของโครงการ“ราษฎร์ รัฐ ร่วมใจช่วยภัยแล้ง” ในครั้งนี้จะเป็นส่วนหนึ่งในการบําบัดทุกข์ บํารุงสุข ให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่อย่างทั่วถึง

‘ผู้เชี่ยวชาญตลาดทุนฯ’ ยกดีล มาเลเซีย – ARM สุดคุ้ม หลังอัดฉีดเงินลงทุน 250 ล้านเหรียญ หนุนสู่ผู้นำอุตสาหกรรมชิป

นายณัฐ เหลืองนฤมิตชัย ผู้ช่วยผู้จัดการ หัวหน้ากลุ่มงานธุรกิจระบบงานเทคโนโลยีสารสนเทศ และกรรมการผู้จัดการร่วม บริษัท เซ็ทเทรด ดอท คอม จำกัด โพสต์เฟซบุ๊ก Nat Luengnaruemitchai ว่า มาเล่ารายละเอียดเกี่ยวกับดีลของมาเลเซียกับ ARM ให้ฟังกันสั้นๆ 

ก่อนอื่นเลย มาเลเซียเนี่ยเค้าไม่ได้เพิ่งเริ่มให้ความสำคัญกับธุรกิจชิปนะครับ 

ในปี 1972 Intel ได้เปิดโรงงานชิปแห่งแรกในเมืองปีนัง มีการจ้างพนักงานกว่าพันคน และภายในปี 1975 โรงงานแห่งนี้มีกำลังผลิตส่งให้กับ Intel มากกว่าครึ่งเลยทีเดียว

หลังจากนั้น AMD, Hitachi และ HP รวมถึงบริษัทเซมิคอนดักเตอร์อื่นๆ รวมๆ แล้วมากถึง 14 บริษัทก็ได้มาเปิดโรงงานในมาเลเซีย เนื่องจากรัฐบาลมาเลเซียมองการณ์ไกล และให้เปิดการค้าเสรี ทำให้การส่งออกนำเข้าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ได้รับการยกเว้นภาษี 

และในปี 2023 ผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์อีกรายได้ลงทุนกว่าห้าพันล้านเหรียญสหรัฐในการขยายโรงงานผลิตชิปในเมือง Kulim 

ส่วน Foxconn ก็ประกาศจะสร้างโรงงานผลิตชิปด้วยเช่นกัน

ในขณะนี้ มาเลเซียมีกำลังการผลิตชิปรวมกัน 13% ของโลกเลยทีเดียว

ดังนั้น การตกรถไฟของไทยไม่ใช่เรื่องใหญ่เลยแต่อย่างไร เราตกมานานแล้ว และจะตกต่อไปด้วย

แต่สำหรับการบรรลุข้อตกลงกับ Arm Holdings ในครั้งนี้ ถือว่าน่าสนใจมาก เพราะทางมาเลเซีย เซ็นสัญญากับ Arm Holdings ในสามเรื่องด้วยกัน 

1. ตกลงให้มีการอบรมวิศวกร 10,000 ในเรื่องของการออกแบบวงจร
2. บริษัทบางส่วนในมาเลเซียจะได้รับสิทธิ์ในการเข้าถึงเทคโนโลยีของ Arm ซึ่งมีทั้งหมด 7 ส่วนด้วยกัน ซึ่งมีการคาดการณ์ว่า จะทำให้เกิดรายได้จากบริษัทเหล่านี้ 1.5 - 2 พันล้านเหรียญสหรัฐเลยทีเดียว
3. ตกลงที่จะให้ Arm Holdings เปิดสำนักงานสาขาในมาเลเซีย เป็นแห่งแรกในอาเซียน

ซึ่งทั้งหมดนี้ น่าจะคุ้มสุดคุ้ม เมื่อเทียบกับเงินที่รัฐบาลมาเลเซียตกลงที่จะจ่ายให้กับ Arm Holdings ในระยะเวลา 10 ปี ที่ 250 ล้านเหรียญสหรัฐ

รมว.สหรัฐฯ ประกาศพร้อมทำศึก หลังจีนกร้าวขอสู้กับ US ในสงครามทุกรูปแบบ

(6 มี.ค. 68) สำนักข่าว นิวยอร์กโพสต์ รายงานว่า นายพีท เฮกเซธ (Pete Hegseth) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์นิวส์ ในวันพุธ (5 มี.ค.) ว่าพร้อมที่จะทำสงครามกับจีน

“เราอยู่ในโลกที่อันตราย เต็มไปด้วยบรรดาประเทศที่มีพลังอำนาจและอิทธิพล ที่มีอุดมการณ์แตกต่างกันอย่างมาก พวกเขาเพิ่มการใช้จ่ายด้านกลาโหมอย่างรวดเร็ว ปรับปรุงเทคโนโลยีให้มีความทันสมัย พวกเขาต้องการแทนที่สหรัฐฯ” พีท เฮกเซธ กล่าว 

ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ กำหนดภาษีนำเข้าสินค้าจากเม็กซิโกและแคนาดาใหม่ 25% และเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเป็น 20%

นายกรัฐมนตรี จัสติน ทรูโด ของแคนาดาประกาศตอบโต้ด้วยการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ มูลค่า 30,000 ล้านดอลลาร์แคนาดาในอัตรา 25% โดยจะมีผลบังคับใช้ต่อไปจนกว่าทางวอชิงตันจะยกเลิกข้อจำกัดต่อแคนาดา

จีนยังประกาศการจัดเก็บภาษีเพิ่มเติม 10-15% สำหรับสินค้าจากสหรัฐฯ บางชนิด เริ่มตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคมเป็นต้นไป

นอกจากนี้ สถานทูตจีนประจำสหรัฐฯ ยังได้ออกแถลงการณ์ตอบโต้อย่างรุนแรง หลังจากที่สหรัฐฯ ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน โดยวอชิงตันตัดสินใจขึ้นภาษีนำเข้าจาก 10% เป็น 20% ส่งผลให้ปักกิ่งตอบโต้อย่างรุนแรง

โดยก่อนหน้านี้ หลิน เจี้ยน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ได้ออกมากล่าวในงานแถลงข่าว เมื่อวันที่ 5 มี.ค. 2568 ว่า “หากสงครามคือสิ่งที่สหรัฐฯ ต้องการ จะเป็นสงครามภาษี สงครามการค้า หรือสงครามประเภทอื่นๆ จีนพร้อมที่จะต่อสู้จนถึงที่สุด”

‘เอกนัฏ’ สั่ง 'ทีมสุดซอย' ฟัน!! 3 บริษัทจ้างขนกากอุตฯ หลังพบ ลักลอบทิ้งในไร่มันเมืองชลบุรี เกือบพันตัน

(6 มี.ค. 68) นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ได้ส่งทีมตรวจการสุดซอยกระทรวงอุตสาหกรรม นำโดยนางสาวฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และนายเอกนิติ รมยานนท์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม นายสุนทร แก้วสว่าง รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ลงพื้นที่เข้าตรวจสอบและดำเนินคดีกลุ่มบริษัทและโรงงานผู้ก่อกำเนิดของเสีย (Waste Generator) ที่กระทำความผิดในข้อหาลักลอบทิ้งกากโดยผิดกฎหมายในพื้นที่ จ.ชลบุรี จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งจากการติดตามและขยายผลรถบรรทุกขนกากอุตสาหกรรมของบริษัท ฮิ้ว ทรานสปอร์ต จำกัด จ.ชลบุรี โดยก่อนหน้านี้ถูกจับกุมดำเนินคดีกรณีขนกากอุตสาหกรรมหลายชนิดจากหลายโรงงานนำไปทิ้งในไร่มันสำปะหลัง ต.หนองอิรุณ อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี เมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา พร้อมยึดอายัดรถบรรทุกไว้ที่สถานีตำรวจภูธรบ้านบึง ก่อนขยายผลไปยังโรงงานต้นกำเนิดกากอุตสาหกรรม เพราะเชื่อว่าทำเป็นขบวนการ กระทรวงอุตสาหกรรมเร่งกวาดล้างดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด

ด้านนางสาวฐิติภัสร์ กล่าวว่า กระทรวงอุตสาหกรรมได้ร่วมกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) สถานีตำรวจภูธรบ้านบึง จ.ชลบุรี อุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี ติดตามขยายผลจนสืบทราบถึงบริษัทและโรงงานผู้ก่อกำเนิดของเสีย (Waste Generator) 3 แห่ง ที่เป็นผู้ว่าจ้างบริษัทขนส่งให้นำกากอุตสาหกรรมไปทิ้งในไร่มันสำปะหลัง จึงได้เข้าตรวจสอบบริษัททั้ง 3 แห่ง คือ 1) บริษัท ซันโทรี่ เบเวอเรจ แอนด์ ฟู้ด เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง 2 อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี โดยว่าจ้าง บริษัท ฮิ้ว ทรานสปอร์ต จำกัด ลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรม จำนวน 72 ครั้ง รวมประมาณ 720 ตัน นำไปทิ้งในไร่มันสำปะหลังใน ต.หนองไผ่แก้ว อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี จึงได้ดำเนินคดีในข้อหาลักลอบทิ้งกากโดยผิดกฎหมาย และทางการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สั่งให้ปรับปรุงและห้ามขนกากอุตสาหกรรมออกจากโรงงานจนกว่าจะได้รับอนุญาต 

2) บริษัท แฮนด์ดีแจ็ค อีควิปเมนท์ จำกัด ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี โดยได้ว่าจ้าง บริษัท ฮิ้ว ทรานสปอร์ต จำกัด ลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรม จำนวน 18 ครั้ง รวมประมาณ 105 ตัน นำไปทิ้งที่ไร่มันสำปะหลังใน ต.หนองอิรุณ อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี จึงได้ดำเนินคดีในข้อหาลักลอบทิ้งกากโดยผิดกฎหมาย และทางกรมโรงงานอุตสาหกรรม สั่งให้หยุดกิจการโรงงานชั่วคราว นอกจากนี้ยังได้ตรวจพบว่าไม่มีการทำระบบบำบัดน้ำเสีย จึงสั่งให้แก้ไขให้ถูกต้อง 

3) บริษัท เทคโนโลยีพลังงานสิ่งแวดล้อม จำกัด ต.หัวสำโรง อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ได้ว่าจ้าง บริษัท ฮิ้ว ทรานสปอร์ต จำกัด ทิ้งกากอุตสาหกรรม จำนวน 16 ครั้ง รวมประมาณ 150 ตัน ทิ้งในไร่มันสำปะหลังใน ต.หนองอิรุณ เช่นกัน จึงได้ดำเนินคดีในข้อหาลักลอบทิ้งกากโดยผิดกฎหมาย และทางสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา สั่งให้ปรับปรุงและห้ามขนย้ายกากอุตสาหกรรมออกจากโรงงานจนกว่าจะแก้ไขให้ถูกต้องตามกฎหมายกำหนด

“การขยายผลและเข้าตรวจสอบครั้งนี้มีการว่าจ้างบริษัท ฮิ้ว ทรานสปอร์ต จำกัด ให้นำกากอุตสาหกรรมไปทิ้งโดยผิดกฎหมาย จำนวนรวมกว่า 975 ตัน โดยรัฐมนตรีฯ เอกนัฏ ได้กำชับและสั่งการเร่งด่วนเพื่อขยายผลบริษัทและโรงงานที่ว่าจ้างบริษัท ฮิ้ว ทรานสปอร์ต จำกัด ขนกากอุตสาหกรรมไปทิ้งในลักษณะเดียวกัน ให้ดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดต่อไป หากประชาชนพบเห็นปัญหาหรือเหตุต้องสงสัยเกี่ยวกับการประกอบการอุตสาหกรรมที่ไม่ถูกต้องหรือสินค้าที่ไม่ผ่านมาตรฐาน มอก. สามารถแจ้งเรื่องร้องเรียนผ่าน 'แจ้งอุต' https://landing.traffy.in.th?key=wTmGfkav หรือไลน์ไอดี 'traffyfondue' เพื่อกระทรวงฯ จะเร่งส่งทีมสุดซอยลงพื้นที่จัดการกับปัญหาให้ประชาชนในทันที” นางสาวฐิติภัสร์ กล่าวทิ้งท้าย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top