Sunday, 11 May 2025
TheStatesTimes

เชียงใหม่-รมช.เกษตรฯเปิด 'งานวันถ่ายทอดเทคโนโลยี ปอยข้าวสาลีล้านนา ครั้งที่ 5'

 

เมื่อวานนี้ (5 มี.ค.68) ณ ศูนย์วิจัยข้าวสะเมิง อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยี ปอยข้าวสาลีล้านนา ครั้งที่ 5 ซึ่งกรมการข้าว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย ศูนย์วิจัยข้าวสะเมิง และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันจัดขึ้น เพื่อประชาสัมพันธ์การผลิตข้าวสาลีและธัญพืชเมืองหนาวในประเทศประเทศไทย  และเป็นการถ่ายทอดองค์ความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีการผลิตและการแปรรูปผลิตภัณฑ์ต้นแบบจากธัญพืชเมืองหนาว โดยมี โดยมี นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว พร้อมด้วย นายศิริพงษ์ นำภา นายอำเภอสะเมิง ส่วนราชการ ผู้ประกอบการ ตลอดจนประชาชนและเกษตรกรชาวอำเภอสะเมิง เข้าร่วมงาน

นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ปัจจุบันไทยมีการนำเข้าข้าวสาลีจากต่างประเทศเป็นจำนวนมาก อีกทั้งเมื่อปี 2021 ที่ผ่านมา รัสเซียและยูเครน ส่งออกข้าวสาลี วัตถุดิบสำคัญในการผลิตขนมปังเป็นสัดส่วนสูงถึง 30% ของตลาดโลกโดยมีมากกว่า 50 ประเทศที่ต้องพึ่งพาการส่งออกจากทั้งสองประเทศนี้ อีกทั้งอินเดียเป็นประเทศผู้ส่งออกข้าวสาลีรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก ได้ประกาศห้ามส่งออกข้าวสาลีเนื่องจากเกิดภาวะภัยแล้ง ส่งผลกระทบทำให้เกิดความขาดแคลนข้าวสาลีทั่วโลก 

โดยในปีนี้กรมการข้าวและศูนย์วิจัยข้าวสะเมิงได้มีการเปิดตัวข้าวบาร์เลย์ ที่ได้มีการพัฒนาสายพันธุ์เป็นรุ่นที่ 2 จนมีความเหมาะสมกับประเทศไทย มีความแข็งแรง ทนต่อโรค และให้ผลผลิตต่อไร่ที่ดี  ซึ่งในพื้นที่ภาคเหนือของไทยยังมีพื้นที่อีกมากสำหรับรองรับการส่งเสริมการปลูกพืชเมืองหนาว  ดังนั้น กรมการข้าวจึงได้นำนโยบายของกระทรวงเกษตรสหกรณ์ในการขยายผลการปลูกพืชเมืองหนาวทดแทนการปลูกข้าวในช่วงฤดูหนาว ไม่ว่าจะเป็นข้าวบาร์เลย์ ข้าวสาลี ข้าวโอ๊ต และมอลต์ เพราะได้ราคาที่สูงกว่า และปัจจุบันกำลังเป็นที่ต้องการของตลาด ทั้งในส่วนที่เป็นเมล็ดพันธุ์และผลิตภัณฑ์แปรรูป โดยหากเกษตรกรสนใจก็สามารถมาซื้อเมล็ดพันธุ์ได้ที่กรมการข้าว หรือหากมีการรวมกลุ่มกันเป็นศูนย์ข้าวชุมชน หรือเกษตรกรแปลงใหญ่ กรมการข้าวก็จะสนับสนุนเมล็ดพันธุ์มาให้ในราคาที่ถูกลง หรือไม่มีค่าใช้จ่ายตามความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่

นายอัครา กล่าวอีกว่า คาดว่าในอนาคตจะมีความต้องการธัญพืชเมืองหนาวเป็นจำนวนมาก เนื่องจากขณะนี้ พ.ร.บ.สุราชุมชน ได้ผ่านการพิจารณาจากสภาผู้แทนราษฎรแล้ว และกำลังอยู่ในขั้นตอนของการพิจารณาจากสมาชิกวุฒิสภา ทั้งนี้ เมื่อกฎหมาย พ.ร.บ.สุราชุมชน ได้รับการอนุมัติแล้ว  กรมการข้าวจะช่วยส่งเสริมในการนำเมล็ดธัญพืชจากศูนย์ข้าวชุมชนและเกษตรกรแปลงใหญ่มาแปรรูปเป็นสุราชุมชน และยังมีการประกันราคาให้อีกด้วย  

ในวันนี้ต้องขอขอบคุณหน่วยงานกรมการข้าวที่ได้เห็นความสำคัญของการพัฒนางานวิจัยทางด้านข้าวสาลีและธัญพืชเมืองหนาว รวมทั้งสนับสนุนงบประมาณให้ดำเนินการวิจัยเรื่อง การพัฒนาศักยภาพการผลิตธัญพืชเมืองหนาวสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์มูลค่าสูง ซึ่งมีศูนย์วิจัยข้าวสะเมิง กองวิจัยและพัฒนาข้าว เป็นศูนย์หลักในการดำเนินการ และหน่วยงานราชการในพื้นที่ทุกภาคส่วนทึ่เกี่ยวข้อง

ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาศักยภาพการผลิตธัญพืชเมืองหนาวสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์มูลค่าสูงได้ในอนาคต

นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว กล่าวว่า ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีหน้าที่ส่งเสริม ส่งเสริมการผลิตสินค้าเกษตรและอาหารที่มีประสิทธิภาพ เสริมสร้างความมั่นคงด้านอาหารและพลังงานอย่างเหมาะสมและยั่งยืน สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มสอดคล้องกับความต้องการของตลาด และมีมาตรฐานปลอดภัยต่อผู้บริโภคทั้งภายในและต่างประเทศ รวมทั้งส่งเสริมให้มีการวิจัย พัฒนา และถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านการเกษตรที่เหมาะสม นั้น

กรมการข้าว เป็นหน่วยงานหนึ่งที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณ สำหรับการวิจัยในโครงการ “การพัฒนาศักยภาพการผลิตธัญพืชเมืองหนาวสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์มูลค่าสูง” โดยศูนย์วิจัยข้าวสะเมิงเป็นศูนย์หลักในการวิจัยและพัฒนาธัญพืชเมืองหนาวไทย ร่วมกับศูนย์วิจัยข้าวเชียงใหม่ ศูนย์วิจัยข้าวแม่ฮ่องสอน ศูนย์วิจัยข้าวแพร่ ศูนย์วิจัยข้าวเชียงราย ศูนย์วิจัยข้าวพิษณุโลก มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา 

โดยทางโครงการ ฯได้จัดงาน“งานวันถ่ายทอดเทคโนโลยี ปอยข้าวสาลีล้านนา ครั้งที่ 5” ในวันที่ 5 มีนาคม 2568 ณ ศูนย์วิจัยข้าวสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ มีผู้เข้างานทั้งหมด 1,300 ราย  ภายในงานมีกิจกรรม นิทรรศการด้านพันธุ์ และเทคโนโลยีการผลิต การสาธิตและการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากธัญพืชเมืองหนาว การประกวดภาพถ่าย และการแข่งขันประกอบอาหารจากธัญพืช เมืองหนาว การสาธิตอาหารแนวใหม่สไตล์ฟิวชั่นล้านนา (Fusion Food Lanna) กิจกรรมกาดมั่ว ตลาดนัดล้านนา กิจกรรมชุมชนพบปะกันระหว่างนักวิจัย ผู้ผลิต และผู้ประกอบการ ที่ใช้ประโยชน์ธัญพืชเมืองหนาว

ทั้งนี้เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์การผลิตข้าวสาลีในประเทศไทยและเป็นการจัดแสดงเชื้อพันธุกรรมข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ และโอ๊ตมากกว่า 700 พันธุ์ให้แก่ผู้ประกอบการและผู้ที่สนใจ รวมทั้งเป็นการเปิดตัวข้าวบาร์เลย์สายพันธุ์ดีเด่น FNBL#140 เพื่อการทำมอลต์ ที่จะเตรียมรับรองพันธุ์ในปีงบประมาณ 2569 เนื่องจากไทยไม่มีพันธุ์รับรองข้าวบาร์เลย์ ตั้งแต่ปี 2528 นานมากกว่า 40 ปี โดยสายพันธุ์นี้ต้านทานโรคใบจุด รวมทั้งมีศักยภาพการให้ผลผลิตสูงสุด 339 กก./ไร่ ซึ่งให้ผลผลิตมากกว่าพันธุ์เดิมร้อยละ 20 ที่รับรองพันธุ์ไว้ เมื่อปี 2528 และที่สำคัญมีคุณภาพเพื่อการทำมอลต์ตามมาตรฐานสากล

นายศิริพงษ์ นำภา นายอำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่าอำเภอสะเมิง เป็นอำเภอหนึ่งใน 25 อำเภอ ของจังหวัดเชียงใหม่ มีสถานที่ท่องเที่ยวทั้งธรรมชาติ ประเพณี ศิลปะ วัฒนธรรมพื้นถิ่น และเลื่องลือไกล จะเป็นเรื่อง บรรยากาศราวกับอยู่ในสวิสเซอร์แลนด์ จนเป็นที่มาของคำขวัญอำเภอคือ “สตรอเบอรี่รสเยี่ยม ภูเขาสูงเทียมฟ้า ดอกไม้นานาพันธุ์ บรรยากาศสวิส ฯ เศรษฐกิจพอเพียง” 

อำเภอสะเมิงมีพืชเศรษฐกิจ ที่สำคัญ ได้แก่ สตรอเบอรี่ กระเทียม กล้วยน้ำว้า ส้ม ดอกไม้เมืองหนาว ดอกเก็กฮวย หญ้าหวาน รวมถึงพืชผักปลอดสารพิษ นักท่องเที่ยวมักจะนิยมมาเที่ยวสัมผัส ไร่สตรอเบอรี่ ทุ่งดอกเก็กฮวย ช่วงตั้งแต่เดือน พ.ย.ไปจนถึง ก.พ.ของทุกปี รวมถึง ทุ่งข้าวสาลี ณ ศูนย์วิจัยข้าวสะเมิงแห่งนี้ ซึ่งแต่เดิมเรารู้จักในชื่อ โครงการในพระราชประสงค์ที่ 7 ตามพระราชประสงค์ของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการวิจัยข้าวสาลีและธัญพืชเมืองหนาวอื่น ๆ

จึงเป็นการดี ที่ในการจัดงานครั้งนี้ อำเภอสะเมิงจะได้มีโอกาส เผยแพร่ผลงานด้านการเกษตร ที่เกี่ยวกับธัญพืชเมืองหนาว อีกทางหนึ่ง อันจะก่อให้เกิดประโยชน์ทางด้านเศรษฐกิจสืบต่อไป

‘มิลลิ’ สุดทนปมถูกเกรียนคีย์บอร์ดหมิ่นประมาทในโซเชียล เตือนครั้งสุดท้าย!! เตรียมจัดการชาวเน็ตเมนต์ด้วยถ้อยคำรุนแรง

มิลลิ ตั้งโต๊ะแถลงข่าว กรณีถูกเกรียนคีย์บอร์ดหมิ่นประมาทในโซเชียล ท้อจนร้องไห้ วอนคิดถึงใจกันบ้าง – ต้นสังกัดเทกแอ็กชัน ปกป้องศิลปิน

จากกรณีที่ค่าย YUPP! เคยออกแถลงการณ์ไปเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2567 ซึ่งมีการเตือนผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียที่มีการแสดงความคิดเห็นในลักษณะดูหมิ่นด้วยถ้อยคำรุนแรงต่อศิลปิน มิลลิ ดนุภา คณาธีรกุล หรือ 'MILLI' โดยต้นสังกัดขอให้หยุดการกระทำเหล่านั้น แต่ยังพบว่าปัจจุบันมีผู้ที่ยังทำพฤติกรรมดังกล่าวเป็นจำนวนมาก

ล่าสุดเมื่อวันที่ (5 มี.ค.68) ที่ห้อง Sukhumvit โรงแรม Sheraton Grande Sukhumvit ค่าย YUPP! นำโดย 3 ผู้บริหาร ต้าร์ สักกพิช มากคุณ, โจ้ ศวิชญ์ สุวรรณกุล และ ฟลุ๊ค-พลกฤต ศรีสมุทร พร้อมด้วยศิลปิน มิลลิ และ ทนายชัยณรงค์ บุญสันติ์ ตั้งโต๊ะแถลงข่าวความชัดเจน ส่งสัญญาณเป็นครั้งสุดท้ายถึงผู้ที่กระทำการดังกล่าว

โดย มิลลิ เผยก่อนว่า “จริงๆ หนูเห็นคอมเมนต์เหล่านั้นมาตลอด เนื่องจากเป็นคนชอบเสิร์ชแฮชแท็กชื่อตัวเอง เพื่อที่จะเข้าไปอ่านคอมเมนต์หรือฟีดแบ็กต่าง ๆ ซึ่งก็จะเห็นทั้งหมดเท่าที่เราพอจะเห็นได้ จากประสบการณ์ที่ผ่านมาอาจจะทำให้เราเติบโตและจิตใจแข็งแกร่งขึ้น แต่สุดท้ายเวลาเราเจอคอมเมนต์ที่แย่ ๆ มันก็กระทบกับจิตใจเราโดยตรง ตัวหนูเองก็เสียใจเหมือนกัน”

จริง ๆ หนูเป็นคนที่ชอบให้คนเข้ามาติชมผลงาน เพราะจะได้นำไปปรับปรุงแก้ไขและพัฒนาให้ดีขึ้น แต่ว่าในกรณีนี้จะเป็นคำพูดที่กระทบกระเทือนจิตใจพอสมควร เลยอยากจะให้ทุกคนคิดถึงใจหนูบ้าง บางทีถ้ามันแรงเกินไปหนูก็แอบรับไม่ไหวเหมือนกันค่ะ”

“เรื่องคอมเมนต์ในทางเสียหาย จริง ๆ เกิดขึ้นมาโดยตลอด แต่ก็จะมีช่วงหนึ่งที่หายไปเพราะว่าหนูไม่ได้ปล่อยผลงานอะไรออกมา แต่พอกลับมามีกิจกรรมอีกครั้ง คอมเมนต์เหล่านั้นก็กลับมาอีก หนูยอมรับว่าคอมเมนต์แย่ ๆ ที่อ่านเจอ ทำให้รู้สึกท้อและเสียใจถึงขั้นร้องไห้ เพราะการร้องไห้มันก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้เราเบาบางลงได้ในทางด้านอารมณ์”

“แล้วที่หนูผ่านช่วงเวลาแบบนั้นมาได้ก็เพราะคนรอบตัว ทั้งครอบครัวและค่าย หนูมีความเชื่อว่าในขณะที่มีคนไม่ชอบเราก็ยังมีคนชอบเราอยู่ แฟนคลับของหนูก็น่ารักกับหนูมาก ๆ เป็นกำลังใจในทุก ๆ วันไม่ว่าหนูจะสุขหรือเศร้า ที่ผ่านมาได้ก็เพราะพวกเขาด้วยค่ะ”

“หนูเลยคิดว่าวิธีการจัดการในลักษณะวันนี้ที่เกิดการแถลงข่าวขึ้น หรือให้ทางค่ายมาช่วยจัดการเป็นวิธีการที่ดีที่สุดแล้ว ตัวหนูเองก็เห็นด้วย เราได้มีการประชุมและไตร่ตรองกันอย่างรอบคอบแล้ว ที่สำคัญหนูยังแฮปปี้กับการทำงานเพลงอยู่ เลยพยายามจะไม่เอาเรื่องพวกนี้มาบั่นทอนตัวเองค่ะ”

“ถามว่าพวกคอมเมนต์แรงๆ ต่าง ๆ มีผลทำให้เราไม่กล้าที่จะโพสต์ความเห็นส่วนตัวลงในโซเชียลอีกไหม จากประสบการณ์ที่ผ่านมาหนูค่อนข้างไตร่ตรองเยอะขึ้นมากๆ ในการที่จะโพสต์อะไรแต่ละครั้ง มันก็อาจจะมีผลกระทบนิดหน่อย ด้วยเพราะว่าเราคิดมากๆ ก่อนที่จะโพสต์อยู่แล้ว แน่นอนว่ามันไม่ได้ลดความเป็นตัวตนของเรา เพราะหนูเชื่อว่าการเป็นตัวตนเราสามารถเติบโตขึ้นได้ เป็นเวอร์ชันที่ดีที่สุดของเราได้ในทุก ๆ วัน หนูรู้สึกว่านอกจากตัวเองจะเติบโตทางด้านจิตใจแล้ว เราก็ควรพัฒนาตัวเองในเรื่องของการคิดก่อนพูดด้วย ซึ่งหนูก็กำลังพัฒนาให้มันดีขึ้นเรื่อย ๆ ค่ะ”

ทนายชัยณรงค์ กล่าวว่า “ทางค่ายเคยมีหนังสือชี้แจงเกี่ยวกับข้อความที่คนแสดงความคิดเห็น ว่ามีความรุนแรงแบบไหน ลักษณะข้อความที่เกิดขึ้นถามว่ามันเข้าข่ายข้อกฎหมายไหม มันก็มีตั้งแต่เรื่องการดูหมิ่น หมิ่นประมาท การนำข้อมูลที่เป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งต้องเรียนว่าทางค่ายและศิลปินเองไม่มีเจตนาที่จะโต้ตอบด้วยความรุนแรง หรือให้เกิดเรื่องเกิดราวกับผู้ที่แสดงความคิดเห็น เพราะว่านโยบายของทางค่ายต้องการสร้างสรรค์เรื่องเพลง นำศิลปินไทยเข้าสู่เวทีโลก”

“แต่ในปัจจุบันเราต้องเข้าใจว่าการแสดงความคิดเห็นผ่านสื่อโซเชียลต่างๆ ทำได้ง่ายมาก คลิกเดียวแสดงข้อความออกไปด้วยอารมณ์หรืออะไรก็ตามแต่ สิ่งนี้มันกระทบกระเทือนทั้งค่ายและศิลปิน แล้วถ้ามันไปกระทบคนอื่นจนทำให้เกิดความเสียหาย คุณเองก็ต้องรับผิดชอบข้อความที่คุณแสดงความคิดเห็นออกไปด้วย ที่ผ่านมาทางค่ายและศิลปินก็พยายามดูข้อความเหล่านั้น ส่วนว่าจะเข้ากรณีไหนตัวค่ายจะเป็นคนพิจารณาและทบทวน เพื่อไม่ให้เหตุการณ์มันเกิดซ้ำรอยอีก ส่วนมาตรการจะเป็นอย่างไรก็ต้องดูเป็นแต่ละกรณีไป เพราะทางค่ายไม่ได้มีนโยบายที่จะเล่นแบบตาต่อตาฟันต่อฟันแบบนั้น”

“สำหรับในเรื่องของการติชม ถ้าเป็นการติเพื่อก่อ ทางศิลปินและค่ายรับได้ แต่ไม่ใช่ว่าติแล้วทำให้คนอื่นดูถูกเกลียดชัง หรือไปด้อยค่าเขาไม่ว่าจะเป็นค่ายหรือศิลปินก็ตามแต่ ตรงนี้เน้นย้ำว่าต้องรับผิดชอบในสิ่งที่คุณทำด้วย เพราะว่าไม่ใช่คุณเห็นคนเดียว แต่คนอื่นเห็นข้อความเหล่านั้นด้วย”

“จริงๆ เรื่องแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นแค่กับมิลลิหรือค่าย YUPP! แต่ศิลปินทุกคน ทุกค่าย ดารา และเกือบทุกวงการ เจอกันหมด ถึงอยากย้ำเตือนไว้เวลาคนที่จะทำแบบนี้ต้องเก็บกลับไปคิดว่าสิ่งที่คุณทำมันติดอยู่ในระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งปัจจุบันกฎหมายนี้ตามเรื่องนี้อยู่แล้ว ไม่ใช่ว่าปล่อยนิ่งดูดาย แน่นอนว่าเราอาจจะห้ามคนคอมเมนต์ไม่ได้ แต่อาจจะเป็นเสียงที่เรากำลังจะบอกออกไปให้ฉุกคิด”

ด้าน ต้าร์ สักกพิช หนึ่งในผู้บริหาร เผยว่า “ถามว่าฟางเส้นสุดท้ายคืออะไรถึงต้องออกมาตั้งโต๊ะแถลงข่าว ปัจจุบันทางค่ายโฟกัสเรื่องงานกับมิลลิมากๆ แล้วเราก็ห่างหายจากการกล่าวโทษกล่าวร้ายคนอื่นในอดีตมานานมากๆ แล้ว เรารู้สึกว่าตอนนี้อยากให้ทุกคนโฟกัสที่งานมากกว่า ส่วนคอมเมนต์ที่ไม่ได้เกี่ยวกับสิ่งที่เราทำ มันก็อาจจะทำร้ายจิตใจมิลลิได้ ทางค่ายเลยมีความจำเป็นที่ต้องออกมาแอ็กชันในวันนี้”

“ส่วนเดดไลน์หรือมาตรการจริงจังในการจัดการกับเรื่องนี้ก็จะเริ่มพิจารณากันตั้งแต่วันนี้เลย เราอยากแสดงจุดยืนในการเข้ามาปกป้องศิลปิน เพราะที่ผ่านมาค่ายก็เคยมีการชี้แจงออกไปแล้ว แต่อย่างมิลลิบอกว่าคอมเมนต์พวกนั้นก็จะหายไปสักพัก แต่พอเรากลับมาทำงานอย่างเข้มข้นเขาก็จะกลับมาอีก ถามว่าเป็นคนเดิม ๆ ไหม อันนี้ตอบยาก แต่ว่าลักษณะการคอมเมนต์จะคล้าย ๆ เดิม คือไม่ได้เกี่ยวกับงานหรือคอนเทนต์ที่เราปล่อยออกไป แต่ก็คิดว่ามาตรการนี้ที่เป็น Final Warning ของเราก็น่าจะช่วยให้เขาได้คิดมากขึ้น ว่าเรามีแอ็กชันที่มากขึ้นแล้ว”

สหรัฐฯ หยุดแบ่งปันข่าวกรอง ‘รัสเซีย’ ให้ ‘ยูเครน’ แต่ ‘ทรัมป์’ อาจหวนช่วยหากมีการเจรจาสันติภาพ

(6 มี.ค. 68) สำนักข่าว The Guardain รายงานว่า สหรัฐอเมริกาได้หยุดให้ข้อมูลข่าวกรองแก่ยูเครน หลังจากโดนัลด์ ทรัมป์สั่งระงับการช่วยเหลือทางทหารเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา และนี่ถือเป็นความเสียหายครั้งใหญ่ต่อยูเครนในสงครามกับรัสเซีย 

เจ้าหน้าที่ยูเครนกล่าวว่า สหรัฐฯ จะไม่ให้ข้อมูลเป้าหมายภายในรัสเซียอีกต่อไป ซึ่งส่งผลกระทบต่อการโจมตีด้วยโดรนระยะไกล รวมถึงการติดตามเครื่องบินทิ้งระเบิด และขีปนาวุธของรัสเซีย

มีรายงานขัดแย้งกันว่า การระงับนี้รวมถึงข้อมูลการเคลื่อนไหวของกองทัพรัสเซียในพื้นที่ยึดครองของยูเครนหรือไม่ แหล่งข่าวรายหนึ่งบอกว่า สหรัฐฯ 'หยุดให้ข้อมูลข่าวกรองโดยสิ้นเชิง' ซึ่งส่งผล 'ร้ายแรง' ต่อความสามารถในการสู้รบกับรัสเซีย

ไมค์ วอลซ์ ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาว กล่าวว่า ทรัมป์อาจพิจารณากลับมาให้การช่วยเหลือ หากมีการเจรจาสันติภาพและมาตรการสร้างความเชื่อมั่นกับรัสเซีย

โวโลดีมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน กล่าวเมื่อวันพุธว่า มีความเคลื่อนไหวในเชิงบวกกับสหรัฐฯ และคาดว่าจะมีผลลัพธ์ในการเจรจาเร็ว ๆ นี้ ซึ่งเขาพยายามฟื้นฟูความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ หลังจากการพบกับทรัมป์ และรองประธานาธิบดีเจดี แวนซ์ ซึ่งเต็มไปด้วยความตึงเครียด โดยทรัมป์ตำหนิเซเลนสกีต่อหน้าสาธารณะว่าไม่ต้องการข้อตกลงกับรัสเซีย ซึ่งต่อมา เซเลนสกีได้ส่งจดหมายขอโทษและแสดงความพร้อมในการเจรจา

ทรัมป์กล่าวถึงจดหมายดังกล่าวในการปราศรัยต่อสภาคองเกรสว่าเป็นสิ่งสำคัญ และยังเผยว่าสหรัฐฯ ได้รับสัญญาณบวกจากรัสเซียว่าพร้อมเจรจาสันติภาพ

นักวิเคราะห์ในยูเครนมองว่าข้อตกลงนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ง่าย เนื่องจากทำเนียบขาวยังไม่เรียกร้องเงื่อนไขใด ๆ จากรัสเซีย และดูเหมือนจะพร้อมยอมรับข้อเรียกร้องของวลาดิเมียร์ ปูติน ที่ต้องการให้ยูเครนยอมสละดินแดน ลดขนาดกองทัพ และเป็นกลางภายใต้รัฐบาลใหม่ ซึ่งการยอมอ่อนข้อจะไม่ได้ผล พร้อมกับมองว่าสหรัฐฯ ได้เปลี่ยนข้างไปสนับสนุนเครมลินแล้ว

ทั้งนี้ นับตั้งแต่เริ่มการเจรจาสันติภาพระหว่างสหรัฐฯ กับรัสเซียที่ซาอุดีอาระเบีย เครมลินได้เพิ่มการโจมตีโครงข่ายพลังงานและโครงสร้างพื้นฐานของพลเรือนยูเครน ส่งโดรนถึง 267 ลำในวันครบรอบ 3 ปีของการรุกรานเต็มรูปแบบเมื่อเดือนที่แล้ว และอีก 181 ลำพร้อมขีปนาวุธเมื่อวันพุธ ทำให้ชายวัย 73 ปีเสียชีวิตในภูมิภาคโอเดสซา และบ้านเรือนเสียหาย 20 หลัง

เปิดเอกสารบันทึกประชุม กมธ. กฎหมาย ฉบับจริง ยืนยัน ไม่พบข้อความบางประเทศพร้อมรับตัวอุยกูร์

(6 มี.ค. 68) จากกรณีนายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม ได้อ้างการจดชวเลขการประชุม กมธ.กฎหมายเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2567 ซึ่งผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศให้ข้อมูลเกี่ยวกับชาวอุยกูร์ที่ถูกกักตัวในไทยว่า มีบางประเทศแสดงความพร้อมรับชาวอุยกูร์ไปตั้งถิ่นฐาน อย่างเช่น สหรัฐ สวีเดน ออสเตรเลีย

ล่าสุด เพจเฟซบุ๊ก วันนี้พรรคส้มโกหกอะไร ได้โพสต์เอกสารบันทึกการประชุม กมธ.กฎหมายฯ โดยระบุว่า ทุกคนคะ บันทึกการประชุมครั้งที่ 24 วันที่ 10 ก.ค. 67 กมธ.กฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ฉบับจริงที่มีลายน้ำและเผยแพร่ในเว็บไซต์ของรัฐสภา ไม่พบข้อความหรือเอกสารที่ทาง สส.กัณวีร์ และ ช่อ พรรณิการ์ อ้างถึงว่า "บางประเทศก็แสดงความพร้อมรับชาวอุยกูร์ไปตั้งถิ่นฐาน อย่างเช่น สหรัฐ สวีเดน ออสเตรเลีย"

จึงขอถามกับไปที่พี่ทั้ง 2 ว่า เอกสารที่เอามาโชว์คือเอกสารอะไร ทำไมไม่มีตราประทับ และ ทำไมเนื้อหาต่างจากเอกสารฉบับจริง

ลิงก์ฉบับจริง https://www.parliament.go.th/.../105/news/114/1_114.pdf

บีโอไอ จับมือสมาคม PCB ไต้หวัน ดึงลงทุนครั้งใหญ่ เผย 3 ปี คลื่นลงทุน PCB เข้าไทยกว่า 2 แสนล้านบาท

(6 มี.ค. 68) สมาคมแผ่นวงจรพิมพ์ไต้หวัน (TPCA) นำสมาชิกกว่า 60 ราย เดินทางเยือนไทย พร้อมจับมือบีโอไอ และสมาคมแผ่นวงจรพิมพ์ไทย (THPCA) ร่วมจัดสัมมนาใหญ่ 'TPCA Thailand PCB Forum 2025' เตรียมพร้อมรองรับคลื่นลงทุนอุตสาหกรรม PCB ครั้งใหญ่ รับกระแส AI บูม เผย 3 ปี เงินลงทุนเข้าไทยกว่า 2 แสนล้านบาท เร่งสร้างเครือข่ายภาครัฐ - เอกชน เตรียมบุคลากรรองรับอุตสาหกรรม ยกระดับไทยฐานผลิต PCB ชั้นนำของโลก

นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า ท่ามกลางกระแสการลงทุนในประเทศไทยของกลุ่มอุตสาหกรรมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ (PCB) ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา สมาคมแผ่นวงจรพิมพ์ไต้หวัน (Taiwan Printed Circuit Association: TPCA) ได้จัดทัพนำสมาชิกซึ่งเป็นผู้ผลิต PCB ชั้นนำ 

พร้อมทั้งกลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้องตลอดซัพพลายเชนกว่า 60 ราย เดินทางเยือนประเทศไทย เพื่อศึกษาลู่ทางการลงทุน โดยได้ร่วมกับบีโอไอ และสมาคมแผ่นวงจรพิมพ์ไทย (Thailand Printed Circuit Association: THPCA) จัดงาน 'TPCA Thailand PCB Forum 2025' ที่โรงแรมอวานี สุขุมวิท กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2568 เพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนข้อมูลการลงทุน และสร้างเครือข่ายความร่วมมือในการพัฒนาอุตสาหกรรม PCB ในประเทศไทยให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง รวมทั้งความร่วมมือในการเตรียมพร้อมด้านสาธารณูปโภคและบุคลากรทักษะสูง โดยมีผู้เข้าร่วมงานทั้งสิ้นกว่า 200 ราย

แผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ (PCB) ถือเป็นหัวใจสำคัญของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิด และเป็นอุตสาหกรรมพื้นฐานในการต่อยอดไปสู่อุตสาหกรรมเป้าหมายอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นยานยนต์ไฟฟ้า โทรคมนาคม อุปกรณ์การแพทย์ เครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะ คอมพิวเตอร์ ระบบดิจิทัล ระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ โดยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (พ.ศ. 2565 - 2567) มีผู้ผลิต PCB และ PCBA

รวมทั้งผู้ผลิตวัตถุดิบสำคัญ เช่น Copper Clad Laminate และ Prepreg ขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอจำนวนกว่า 130 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวมกว่า 202,000 ล้านบาท ส่งผลให้ประเทศไทยขึ้นมาเป็นผู้ผลิต PCB อันดับ 1 ของภูมิภาคอาเซียน และติดอันดับ Top 5 ของโลก โดยมีผู้ผลิตรายใหญ่จากไต้หวันที่ได้รับการส่งเสริม เช่น ZDT, Unimicron, Compeq, WUS, Gold Circuit, Unitech, Dynamic เป็นต้น ซึ่งกลุ่มนี้จะผลิต PCB ที่มีเทคโนโลยีขั้นสูง ทั้ง High-Density Interconnect PCB, Flexible PCB และ Multilayer PCB ที่ใช้กับผลิตภัณฑ์ AI และอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูงต่าง ๆ โดยผู้ผลิต PCB ส่วนใหญ่ตั้งโรงงานอยู่ที่จังหวัดปราจีนบุรี พระนครศรีอยุธยา และสมุทรปราการ และโรงงานส่วนใหญ่จะเริ่มเดินสายการผลิตในปีนี้

“ปัญหาความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่รุนแรงขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ทำให้เกิดการเคลื่อนย้ายฐานการผลิตครั้งใหญ่ในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมยุทธศาสตร์ของโลก ผู้ผลิตจำนวนมากตัดสินใจเข้ามาลงทุนในไทย โดยเฉพาะกลุ่มผู้ผลิต PCB ทั้งจากจีน ไต้หวัน ฮ่องกง และญี่ปุ่น 

เพราะมองเห็นจุดแข็งของไทยที่มีความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน นิคมอุตสาหกรรม ระบบไฟฟ้าที่เสถียร ศักยภาพด้านพลังงานสะอาด ซัพพลายเชนที่แข็งแกร่ง บุคลากรที่มีคุณภาพ รวมถึงมาตรการสนับสนุนจากภาครัฐ ส่งผลให้ไทยเป็นจุดหมายสำคัญของการลงทุนผลิตและส่งออก PCB ไปยังตลาดโลก” นายนฤตม์ กล่าว

สวนนงนุชพัทยา ทุ่มงบประมาณจัดกิจกรรมประกวดถ่ายภาพมากกว่า 1ล้านบาท เป็นปีที่3

(6 มี.ค.68) สวนนงนุชพัทยา โดยนายกัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุชพัทยา นายสุวิชา เปรมใจชื่น ประธานกรรมการบริหารบริษัท โฟโต้ ไฟล์ จำกัด นายจตุรงษ ภัทรโพธิแก้ว นายกสมาคมถ่ายภาพกรุงเทพ และนายวรรณพงษ์ สุรโรจน์ประจักษ์ National and lnternational Photo Competition Judge & Multi Award-Winning Photographer ร่วมกันแถลงข่าวการจัดกิจกรรมการประกวดภาพถ่ายสวนสวยครั้งที่ 3ในหัวข้อ“Wonderful Nongnooch Garden มหัศจรรย์ทั้งปี..ที่สวนนงนุชพัทยา 1ใน10 สวนสวยที่สุดในโลก”ร่วมประกวดชิงเงินรางวัลเกือบ1 ล้านบาท

นายกัมพล กล่าวว่าการจัดกิจกรรมในปีที่ผ่านมาได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีจาก ช่างภาพมืออาชีพ มือสมัครเล่น นักศึกษา และนักท่องเที่ยวทั่วไป ซึ่งทางสวนนงนุชพัทยามีการพัฒนาและสร้างสิ่งใหม่ๆทำให้มีสวนสวยมากกว่า 60 สวน จึงเป็นโอกาสของผู้ที่ชื่นชอบในการถ่ายภาพได้มาโชว์เทคนิคการถ่ายภาพเพื่อชิงรางวัลกับทางสวนนงนุชพัทยาสวนสวยที่ได้รับการยกย่องจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก

โดยได้แบ่งหัวข้อในการประกวดออกเป็น 4หัวข้อดังนี้
 1. ภาพถ่ายจากกล้องถ่ายภาพทั่วไปรวมถึงอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือและมีรางวัลพิเศษสำหรับภาพถ่ายเซลฟี่ตัวเองในปีนี้
 2. ภาพถ่ายทางอากาศด้วยอุปกรณ์โดรน(Drone)
 3. ภาพสร้างสรรค์จากปัญญาประดิษฐ์ Nongnooch’s AI-Based Imageให้มีการใช้ภาพถ่ายจริงที่เกิดขึ้นที่สวนนงนุชพัทยา ควบคู่ไปกับการใช้เทคโนโลยี AI ที่สามารถป้อนคำสั่งทั้งจาก Keywords ต่างๆ ระยะเวลาประกวดระหว่างวันที่ 13 มีนาคม ถึง 31 สิงหาคม 2568 ผู้ที่สนใจส่งผลงานเข้าประกวดดูรายละเอียดและวิธีสมัครได้ที่ https://www.nongnoochpattaya.com/th

สมาคมสื่อสร้างสรรค์เพื่อสังคม โล่ประกาศกิตติคุณ คนดีของแผ่นดิน 

สมาคมสื่อสร้างสรรค์เพื่อสังคม มอบโล่ประกาศกิตติคุณ 99 ท่าน ยกย่องเป็นคนดีของแผ่นดิน ประจำปี 2567

(5 มี.ค.68) สมาคมสื่อสร้างสรรค์เพื่อสังคม ร่วมกับ มูลนิธิทำความดีเพื่อความดี และสมาคมภาคีเครือข่ายธรรมาภิบาล พร้อมด้วย 10 องค์กรสื่อ จัดงานมอบโล่ประกาศกิตติคุณ ภายใต้โครงการ 'คนดีของแผ่นดิน' ประจำปี 2567 ให้กับบุคคล องค์กรภาครัฐและเอกชน ที่ทำความดีในด้านต่างๆ โดยมี พล.อ.กิตติ รัตนฉายา และพล.อ.จรัล กุลละวณิชย์ ร่วมเป็นประธานในพิธีมอบโล่ประกาศกิตติคุณ 'คนดีของแผ่นดิน' ประจำปี 2567 พร้อมกล่าวให้โอวาท และแสดงความยินดีแก่ผู้ได้รับโล่กิตติคุณในครั้งนี้

นายอภิรัฐ กุนกันไชย นายกสมาคมสื่อสร้างสรรค์เพื่อสังคม กล่าวว่า สมาคมสื่อสร้างสรรค์เพื่อสังคม ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2565 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนส่งเสริมบุคคล องค์กรภาครัฐและเอกชนในการดำเนินกิจกรรมสร้างสรรค์เพื่อสังคม ด้วยการนำเสนอข้อมูลข่าวสารผ่านช่องทางเผยแพร่ของทางสมาคมอย่างต่อเนื่องตลอดปี 2567

โครงการ 'คนดีของแผ่นดิน' ประจำปี 25667 ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเชิดชูเกียรติแก่ บุคคล หรือองค์กร ซึ่งทำความดี ด้านต่างๆ ในช่วงปี 2567 เพื่อให้ ประชาชนและสังคม ได้รับรู้ ถึงบุคคล หรือองค์กร ซึ่งทำความดีอย่างต่อเนื่อง ด้วยการมอบโล่ประกาศกิตติคุณ และการเผยแพร่ข้อมูล ข่าวสารเพื่อ กระตุ้นบุคคลหรือองค์กร ให้ทำความดี และเป็นคนดีของแผ่นดิน อย่างภาคภูมิใจ และ เพื่อทำตามมติ คณะกรรมการสมาคม และ วัตถุประสงค์ ของ สมาคมสื่อสร้างสรรค์เพื่อสังคม

สำหรับบุคคลและองค์กร ที่ควรแก่การยกย่อง ให้เป็น 'คนดีของแผ่นดิน' โดยมีคุณสมบัติ 3 ประการ ได้แก่ 
1. เป็นผู้มีความคิด และการกระทำที่สร้างสรรค์ 
2. เป็นผู้มีธรรมาภิบาล
3. เป็นผู้ทำความดีเพื่อความดีอย่างต่อเนื่อง เป็นที่ประจักษ์

ซึ่งในครั้งนี้ สามารถสรรหา บุคคลหรือองค์กร ควรแก่การยกย่อง เป็นคนดีของแผ่นดิน ประจำปี 2567 ได้ จำนวน 99 ท่าน โดยมี  ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ท่านสัญจัย จันทร์ผ่อง อธิบดีอัยการคดีอาญา ว่าที่พันตรี กรพด รุ่งหิรัญวัฒน์ สว. ชัชวาลล์ คงอุดม ทิน โชคกมลกิจ เปรมสุดา สันติวัฒนา ศิริ สาระผล ณพล บริบูรณ์ นภชนก เหมือนนามอญ ที่ปรึกษาสุทิสา สุโข คุณแม่ อำไพร สงค์สุข คุณพ่อ นิมิต สงค์สุข คุณนริศรา สงค์สุข นางสาวปิยนุช พาณิชย์พิศาล เข้ารับโล่ประกาศเกียรติคุณ คนดีของแผ่นดิน ประจำปี 2568 ครั้งนี้ด้วย

ปูติน ยกย่องการขยายความสัมพันธ์กับ ‘เมียนมา’ ขอบคุณที่มอบช้าง 6 เชือก เตรียมช่วยสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์

(6 มี.ค. 68) วลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ชื่นชมความสัมพันธ์ที่ขยายใหญ่ขึ้นกับเมียนมา ซึ่งเป็นพันธมิตรในการเจรจากับหัวหน้าคณะทหารในวันอังคารที่ผ่านมา และขอบคุณเมียนมาที่มอบช้าง 6 เชือกให้กับมอสโก

ก่อนหน้านี้ รัสเซียส่งมอบเครื่องบินรบ 6 ลำให้กับเมียนมา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ 'การทูตช้าง' (Elephant Diplomacy) ระหว่างสองรัฐบาล ท่ามกลางการโดดเดี่ยวจากโลกตะวันตก หลังจากที่กองทัพเมียนมาทำรัฐประหาร ยึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือนของนาง ออง ซาน ซู จี ในปี 2021 จนนำไปสู่การลุกฮือของฝ่ายต่อต้าน และเกิดสงครามกลางเมือง

“ปีนี้ เราเฉลิมฉลองครบรอบ 25 ปี การลงนามปฏิญญาเกี่ยวกับรากฐานมิตรภาพระหว่างประเทศ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของเราพัฒนาอย่างต่อเนื่อง” ปูติน กล่าวกับพลเอกอาวุโส มิน ออง หล่าย นายกรัฐมนตรีเมียนมา ในการประชุมที่เครมลิน

ทั้งสองฝ่ายได้ลงนามข้อตกลงการก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดเล็กในเมียนมา โดย บริษัท โรซาตอม (Rosatom) ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานนิวเคลียร์ของรัฐของรัสเซีย กล่าวว่า โรงไฟฟ้าดังกล่าวจะมีกำลังการผลิต 100 เมกะวัตต์ และมีความเป็นไปได้ที่จะเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นเป็น 3 เท่า

นอกจากนี้ ปูตินยังประกาศว่าหน่วยทหารจากเมียนมาจะเข้าร่วมขบวนพาเหรดทางทหารที่กรุงมอสโกในวันที่ 9 พฤษภาคม นี้ ซึ่งตรงกับวันครบรอบ 80 ปี แห่งชัยชนะเหนือนาซีเยอรมนีในสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยเขากล่าวว่า มิน ออง หล่าย จะเข้าร่วมขบวนพาเหรดนี้ เช่นเดียวกับจีน

‘ดร.อานนท์’ เล่าชะตากรรมเหยื่อถูกปั่นให้ล้มเจ้า 4 กลุ่ม สุดท้ายเดียวดายหน้าบัลลังก์ ทั้งติดคุก - หนีคดี - ก้มกราบสารภาพ

ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Arnond Sakworawich ว่า ชีวิตของเยาวชนและคนล้มเจ้า 4 กลุ่ม

ผมเป็นพยานผู้เชี่ยวชาญคดีมาตรา 112 นับร้อยคดี ไปศาลมาเยอะมาก จึงได้เห็นว่าในวันที่มีคนจ่ายเงิน มีคนยุยง มีคนเชียร์ น้อง ๆ เหล่านี้ฮึกเหิมและกร่างมากแค่ไหน ขนาดไปกร่างกันหน้าศาล ไปกร่างกันหน้าบัลลังก์ ขว้างขวดน้ำใส่บัลลังก์ศาล ผมก็ได้แต่ถอนใจในอหังการ มมังการของน้อง ๆ 

แล้วผมก็ได้เห็นวันที่น้อง ๆ เหล่านี้เดียวดายหน้าบัลลังก์ หมดฤทธิ์ หมดเดช เหี่ยว หดหู่ สลดใจ ไร้ทางสู้ วันนี้ ผมได้เห็นน้อง ๆ เหล่านี้ออกเป็นสี่กลุ่ม 

กลุ่มที่หนึ่ง ติดคุกไปแล้ว มีอานนท์ นำภา เป็นต้น วันก่อนน้อง ๆ 12 คน รวม 16 คดี ถูกพิพากษาจำคุกไปแล้ว เข้าคุกไปแล้ว ไม่รอลงอาญา ขอประกันตัว เพราะคดีอยู่ในชั้นอุทธรณ์ และชั้นฎีกา ที่จำคุกไปแล้วเพราะทำผิดซ้ำซากนั่นแหละครับ ศาลยกคำร้องทั้งหมด 16 คดี 12 คน ก็นอนในคุกกันต่อไป น้องพวกนี้คือหนีคดีไม่ทัน

กลุ่มที่สอง หนีคดี ไปเป็นสัมภเวสีต่างแดน มีเพนกวิ้น ฟอร์ด ไมค์ รุ้ง เป็นต้น ไม่แน่ใจว่าใครจ่ายเงินให้ไปใช้ชีวิตในต่างแดน จะมีอนาคตต่อไปอย่างไร แล้วคนจ่ายเงินให้ใช้จ่ายให้เท่าไหร่ และจะจ่ายไปอีกนานแค่ไหน หรือน้อง ๆ มีเงินพอจะใช้ชีวิตสบาย ๆ ในเมืองนอกไปจนตายแล้วก็ไม่ทราบ แต่ที่แน่ ๆ กลับมาเหยียบแผ่นดินไทยยากครับ 

กลุ่มที่สาม สารภาพ รอติดคุก ทุกวันนี้ผมไปศาลลดลงครับ น้อง ๆ ไปหมอบสารภาพกลางศาลกันแทบทั้งหมด จนผมไม่ได้ต้องไปเป็นพยานที่ศาลอีกแล้ว สาเหตุที่น้อง ๆ หมอบกันมาก เนื่องจากให้ความร่วมมือสารภาพยังได้ลดโทษลงไปกึ่งหนึ่งเป็นอย่างน้อย เมื่อวานก็มีอยู่คดี ของกลุ่มโมกหลวงริมน้ำ อัยการโทรมาแจ้งว่าผมไม่ต้องไป ในเวลานี้กลุ่มนี้น่าจะกลุ่มใหญ่ที่สุด

กลุ่มที่สี่ ยังไม่ถูกดำเนินดดี กลุ่มนี้เกาะ ๆ คนอื่นไป ไม่ได้ลุกออกมานำจริง หรือไม่กล้าพอที่จะออกมาเอง ได้แต่ร่วมขบวนการ เป็นลูกขุนพลอยพยัก บางคนก็กลับใจได้ทัน ก็มีอยู่ แต่ไม่มากครับ

ชีวิตน้อง ๆ ทะลุวัง ทะลุแก๊ส ทะลุฟ้า รีเด็ม โมกหลวงริมน้ำ และกลุ่มล้มเจ้าอื่น ๆ ในเวลานี้เป็นเช่นนี้

ส่วนไอ้คนยุเด็ก กำลังแฮปปี้ที่ลูกชายติดทีมชาติใช่หรือไม่

ท่านสัญจัย จันทร์ผ่อง อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญาเข้ารับโล่ประกาศเกียรติคุณ คนดีของแผ่นดิน ประจำปี 2568

สมาคมสื่อสร้างสรรค์เพื่อสังคม มอบโล่ประกาศกิตติคุณ ยกย่องเป็นคนดีของแผ่นดิน ประจำปี 2567

(5 มี.ค.68) สมาคมสื่อสร้างสรรค์เพื่อสังคม ร่วมกับ มูลนิธิทำความดีเพื่อความดี และสมาคมภาคีเครือข่ายธรรมาภิบาล พร้อมด้วย 10 องค์กรสื่อ จัดงานมอบโล่ประกาศกิตติคุณ ภายใต้โครงการ "คนดีของแผ่นดิน" ประจำปี 2567 ให้กับบุคคล องค์กรภาครัฐและเอกชน ที่ทำความดีในด้านต่างๆ โดยมี พล.อ.กิตติ รัตนฉายา และพล.อ.จรัล กุลละวณิชย์ ร่วมเป็นประธานในพิธีมอบโล่ประกาศกิตติคุณ “คนดีของแผ่นดิน" ประจำปี 2567 พร้อมกล่าวให้โอวาท และแสดงความยินดีแก่ผู้ได้รับโล่กิตติคุณในครั้งนี้โดยมีท่านสัญจัย จันทร์ผ่อง อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา ดร.นพดล เพิ่มพิทยา ทนายความ ที่ปรึกษา คณะอนุกรรมช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมายเข้ารับโล่ประกาศเกียรติคุณ คนดีของแผ่นดิน ประจำปี 2568 ครั้งนี้ด้วย

นายอภิรัฐ กุนกันไชย นายกสมาคมสื่อสร้างสรรค์เพื่อสังคม กล่าวว่า สมาคมสื่อสร้างสรรค์เพื่อสังคม ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2565 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนส่งเสริมบุคคล องค์กรภาครัฐและเอกชนในการดำเนินกิจกรรมสร้างสรรค์เพื่อสังคม ด้วยการนำเสนอข้อมูลข่าวสารผ่านช่องทางเผยแพร่ของทางสมาคมอย่างต่อเนื่องตลอดปี 2567

โครงการ "คนดีของแผ่นดิน" ประจำปี 25667 ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเชิดชูเกียรติแก่ บุคคล หรือองค์กร ซึ่งทำความดี ด้านต่างๆ ในช่วงปี 2567 เพื่อให้ ประชาชนและสังคม ได้รับรู้ ถึงบุคคล หรือองค์กร ซึ่งทำความดีอย่างต่อเนื่อง ด้วยการมอบโล่ประกาศกิตติคุณ และการเผยแพร่ข้อมูล ข่าวสารเพื่อ กระตุ้นบุคคลหรือองค์กร ให้ทำความดี และเป็นคนดีของแผ่นดิน อย่างภาคภูมิใจ และ เพื่อทำตามมติ คณะกรรมการสมาคม และ วัตถุประสงค์ ของ สมาคมสื่อสร้างสรรค์เพื่อสังคม

สำหรับบุคคลและองค์กร ที่ควรแก่การยกย่อง ให้เป็น "คนดีของแผ่นดิน" โดยมีคุณสมบัติ 3 ประการ ได้แก่ 
1. เป็นผู้มีความคิด และการกระทำที่สร้างสรรค์ 
2. เป็นผู้มีธรรมาภิบาล
3. เป็นผู้ทำความดีเพื่อความดีอย่างต่อเนื่อง เป็นที่ประจักษ์

ซึ่งในครั้งนี้ สามารถสรรหา บุคคลหรือองค์กร ควรแก่การยกย่อง เป็นคนดีของแผ่นดิน ประจำปี 2567 ได้ จำนวน 99 ท่าน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top