Monday, 9 June 2025
TheStatesTimes

อาลัย ‘สันติ ลุนเผ่’ นักร้องเสียงทรงพลัง ศิลปินแห่งชาติ ถึงแก่กรรมอย่างสงบด้วยวัย 88 ปี

มีรายงานข่าวเศร้า การสูญเสียครั้งสำคัญของวงการเพลงและศิลปินไทย ข่าวการจากไปของ ร.ต.สันติ ลุนเผ่ ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีสากล - ขับร้อง) ประจำปี พ.ศ. 2558 ถึงแก่กรรมอย่างสงบด้วยวัย 88 ปี

ประวัติ สันติ ลุนเผ่
เรือตรี สันติ ลุนเผ่ เกิดเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2479 ชื่อเดิมว่า ไพศาล ลุนเผ่ เป็นนักร้องชายชาวไทย เกิดที่บ้านในย่านวัดราชบพิธ กรุงเทพมหานคร เป็นบุตรของหม่องลุนเผ่ หม่องลุนเผ่นั้นเป็นนักร้องละครชาวพม่า อพยพมาอยู่ ณ จังหวัดลำปาง แล้วนำชื่อ ลุนเผ่ มาใช้เป็นชื่อสกุล ก่อนย้ายรกรากมายังกรุงเทพมหานคร

มีชื่อเสียงในฐานะเป็นนักร้องประจำคณะดุริยางค์แห่งกองทัพไทย และมีน้ำเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นในผลงานด้านเพลงปลุกใจ, เพลงคลาสสิก และเพลงประกอบภาพยนตร์ โดยเฉพาะ เพลง ‘หนักแผ่นดิน’, ‘ความฝันอันสูงสุด’, ‘ทหารพระนเรศวร’, ‘ดุจบิดามารดร’, ‘เกิดเป็นไทยตายเพื่อไทย’, ‘แด่ทหารหาญในสมรภูมิ’ และ ‘มาร์ชทหารไทย’ สันติได้บันทึกแผ่นเสียงเพลงแรกโดยวงดนตรีวายุบุตรคือเพลง ‘คมแสนคม’ ผลงานของ เชาว์ แคล่วคล่อง เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์ไทยเรื่อง ‘คมแสนคม’ ในปี พ.ศ. 2507

สันติ ลุนเผ่ ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติจากสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม เป็น ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีสากล - ขับร้อง) ประจำปี พ.ศ. 2558

ไพศาล หรือ สันติ ได้เข้าศึกษาที่โรงเรียนอัสสัมชัญ จนสำเร็จชั้นมัธยมศึกษาในปี 2496 และศึกษาต่อที่คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

สันติ ลุนเผ่ มีชื่อเสียงจากการขับร้องเพลงพระราชนิพนธ์ และเพลงรักชาติ เป็นจำนวนมากเช่น ความฝันอันสูงสุด ทหารพระนเรศวร ดุจบิดามารดร เกิดเป็นไทยตายเพื่อไทย แด่ทหารหาญในสมรภูมิ มาร์ชทหารไทย หนักแผ่นดิน ถามคนไทย ได้เข้ารับราชการทหารเรือ ประจำวงดุริยางค์ทหารเรือ มีหน้าที่สอนขับร้อง และเรียบเรียงเสียงประสาน จนกระทั่งนาวาเอกสำเร็จ นิยมเดช อดีตผู้บังคับกองดุริยางค์ทหารเรือ เสียชีวิต จึงลาออกจากราชการ

ก่อนเสียชีวิต สันติ ลุนเผ่ ประกอบอาชีพร้องเพลง สอนขับร้องดนตรีคลาสสิก และเป็นที่ปรึกษาคณบดี วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล

อดีตรมว.กลาโหมเกาหลีใต้ พยายามปลิดชีพในคุก หนีความผิดอัยการศึก เคราะห์ดีผู้คุมเห็นห้ามทันควัน

(11 ธ.ค. 67) คิม ยองฮยอน อดีตรัฐมนตรีกลาโหมเกาหลีใต้ ซึ่งขณะนี้ถูกจับกุมหลังจากความพยายามที่จะประกาศกฎอัยการศึกในประเทศเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ได้พยายามฆ่าตัวตายในระหว่างถูกควบคุมตัวที่ศูนย์กักกัน ตามการเปิดเผยของชิน ยงแฮ หัวหน้าของศูนย์กักกันที่คิมถูกคุมขังอยู่

"เมื่อวานนี้ เวลาประมาณ 23:52 น. ตามเวลาท้องถิ่น  เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังรายงานว่า [คิม] พยายามฆ่าตัวตายในห้องน้ำของห้องขังเพื่อรอการพิจารณาคดี แต่ไม่ได้รับอันตรายความพยายามดังกล่าวแต่อย่างใด" ยอนฮับอ้างคำพูดของชินที่กล่าวต่อรัฐสภาเกาหลีใต้

เจ้าหน้าที่ของศูนย์กักกันได้เข้าช่วยเหลือทันทีและหยุดยั้งความพยายามของอดีตนายกรัฐมนตรีกลาโหม โดยเจ้าหน้าที่เรือนจำกล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนายคิมอยู่ภายใต้การคุ้มครองอย่างเข้มงวด ขณะที่นายคิมไม่ได้รับบาดเจ็บจากความพยายามดังกล่าว

‘ธนกร’ สวน ‘ปิยบุตร’ หยุดเสี้ยมปม กม.จัดระเบียบกลาโหม ย้ำชัด กองทัพเป็นความมั่นคงของชาติ นักการเมืองไม่ควรแทรกแซง

‘ธนกร’ สวน ‘ปิยบุตร’ หยุดเสี้ยมปม กม.จัดระเบียบกลาโหม ยัน สส.ฟังเสียงประชาชน ปัดมีใบสั่งจากชนชั้นนำ ย้ำชัด กองทัพเป็นความมั่นคงของชาติทุกมิติ ลั่น นักการเมืองไม่ควรล้วงลูกทหาร ยกเทียบตร.ไม่อยู่ใต้ครม. ชี้ หากทำผิดก็อยู่ยาก ป้องกันรัฐประหารไม่ได้ 

วันที่ (11 ธ.ค. 67) นายธนกร วังบุญคงชนะ  อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ รองหัวหน้าพรรคและสส.บัญชีรายชื่อพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์โจมตีนักการเมืองที่ออกมาประกาศไม่เอาร่างพ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหมว่าไม่ให้ความสำคัญกับเสียงของประชาชน ฟังแต่ชนชั้นนำนั้น ว่า ตนมองถึงเจตนาเบื้องลึกของนายปิยบุตร พยายามใช้วาทกรรมสร้างความแตกแยกให้ประชาชนเข้าใจผิดๆ ต่อนักการเมือง ผู้แทนราษฎรและเชื่อมโยงให้ถึงชนชั้นนำที่คนไทยทุกคนต่างทราบดี ว่าหมายถึงบุคคลระดับสูง ซึ่งเป็นสิ่งที่นายปิยบุตรมักแสดงออกลักษณะนี้มาโดยตลอด มองว่าเป็นเจตนาที่ไม่บริสุทธิ์ จึงเรียกร้องให้หยุดพฤติกรรมยุแยงสร้างความแตกแยกในสังคมเสียที โดยยืนยันว่า ผู้แทนราษฎรต้องรับฟังเสียงของประชาชนเป็นใหญ่ พิจารณากฎหมายที่เกิดประโยชน์ต่อภาพรวมประเทศและยึดประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง ซึ่งใบอนุญาตจากชนชั้นนำตามที่นายปิยบุตรออกมากล่าว อ้างนั้น ล้วนแต่ไม่เป็นความจริง

ทั้งนี้ นายธนกร ระบุว่า ร่างพ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม (ฉบับที่…) พ.ศ… เป็นกฎหมายที่มีความสำคัญ เพราะกองทัพถือเป็นสถาบันหลักของชาติที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงทุกมิติ หากจะแก้ไขเพื่อสามารถให้ฝ่ายการเมืองเข้าไปแทรกแซงการเปลี่ยน แปลงองค์ประกอบของสภากลาโหมที่มีอำนาจในการแต่งตั้งตำแหน่งหลักในกองทัพได้นั้น เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม ควรพิจารณาด้วยความรอบคอบ เปรียบเทียบกับคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.)ให้อำนาจพิจารณาแต่งตั้งตำแหน่งสำคัญโดยไม่ต้องนำรายชื่อเข้าขอเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี เช่นเดียวกับสภากลาโหม 

“มติรทสช. มีจุดยืนชัดเจน ไม่เห็นด้วยที่จะให้ฝ่ายการเมืองเข้าไปแทรกแซงกระทรวงกลาโหม เพราะหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง ทั้งทหารและตำรวจ ควรปราศจากการเมืองเข้าไปล้วงลูกทุกกระบวนการ ซึ่งเหตุผลที่จะแก้ไขเพื่อป้องกันรัฐประหารนั้นตนมองว่า หากรัฐบาลหรือใครก็ตามทั้งทหาร ตำรวจ กระทำความผิดก็ไม่สามารถอยู่ในตำแหน่งได้ การแก้กฎหมายจึงป้องกันการรัฐประหารไม่ได้  ส่วนการที่นายปิยะบุตรออกมาพูดให้ประชาชนเกิดความสับสนเข้าใจผิด เชื่อมโยงไปถึงชนชั้นนำ เป็นการเบี่ยงประเด็นเพื่อโจมตีทุกฝ่ายให้เกิดความแตกแยก เป็นการกระทำที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง ขอพี่น้องประชาชนอย่าหลงเชื่อวาทกรรม” นายธนกร ย้ำ

‘โตโน่’ เข้าพิธีประดับเหรียญชัย ชั้นที่ 1 จาก สปป. ลาว ยกย่องคุณความดีช่วยเหลือ รพ.แขวงคำม่วน

(11 ธ.ค. 67) นครพนม-สปป.ลาว โดยประธานประเทศ จัดพิธี ‘ประดับเหรียญชัย ชั้นที่ 1 เหรียญเชิดชูเกียรติสูงสุดของ สปป.ลาว ให้กับ โตโน่ ภาคิน คำวิลัย โดยเป็นเหรียญสำหรับผู้ที่มีผลงานดีเด่นและรวมพลังสติปัญญาระดมเงินทุนช่วยเหลืออุปกรณ์การแพทย์ให้กับ รพ.แขวงคำม่วน จากโครงการ One Man and The Riverหนึ่งคนให้หลายคนว่าย

จากกรณีเมื่อต้นปีที่ผ่านมา นายภาคิน คำวิลัยศักดิ์ (โตโน่) ได้ส่งมอบศูนย์หัวใจและหลอดเลือด พร้อมเครื่องมือแพทย์ให้โรงพยาบาลแขวงคำม่วน สปป.ลาว และโรงพยาบาลนครพนม ในโครงการ One Man and The River หนึ่งคนให้หลายคนว่าย เมื่อเดือนตุลาคม 2 ปีก่อน โดย ‘โตโน่’ ว่ายน้ำข้ามแม่น้ำโขง เพื่อระดมทุนหาเงินซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับโรงพยาบาลนครพนม และ โรงพยาบาลแขวงคำม่วน สปป.ลาว

สำหรับโครงการ One Man and The Riverหนึ่งคนให้หลายคนว่าย ปิดโครงการไปเป็นที่เรียบร้อยเมื่อเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา ด้วยธารน้ำใจจากทุกคน ได้ส่งมอบศูนย์หัวใจสองฝั่งโขงให้กับโรงพยาบาลนครพนม และยังได้มอบอุปกรณ์รักษาผ่าตัดที่ทันสมัย ให้กับทั้ง 2โรงพยาบาลอย่างครบถ้วน ปีที่ผ่านมาแพทย์และพยาบาล ได้ช่วยชีวิตผู้ป่วยมากมายหลายพันชีวิตให้พ้นจากภาวะวิกฤติ และกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างแข็งแรงและมีความสุขอีกครั้ง

ล่าสุดเมื่อวันที่ 10ธ.ค. 2567 ที่ผ่านมา ทาง ที่ สปป.ลาว ได้มีพิธี ‘ประดับเหรียญชัย ชั้นที่ 1 เหรียญเชิดชูเกียรติสูงสุดของ สปป.ลาว โดยประธานประเทศ สปป.ลาว ท่านทองลุน สีสุลิด โดยมีท่านเจ้าแขวงคำม่วนเป็นตัวแทนมอบ เหรียญนี้มอบให้เป็นเกียรติ แด่ โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ สำหรับผู้ที่มีผลงานดีเด่นและร่วมพลังสติปัญญาระดมเงินทุนช่วยเหลืออุปกรณ์การแพทย์ให้กับโรงพยาบาลแขวงคำม่วน เชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จากโครงการ ‘หนึ่งคนว่ายหลายคนให้’ เพื่อจัดหาเครื่องมือแพทย์ให้กับโรงพยาบาลสองฝั่งโขง

ซึ่งโครงการดังกล่าวช่วยให้โรงพยาบาลแขวงคำม่วนได้รับมอบเครื่องมือแพทย์ไปกว่า 19 รายการ มูลค่ากว่า 20 ล้านบาท และการมอบเหรียญเชิดชูเกียรติประดับชัยชั้นหนึ่งในครั้งนี้ เพื่อเป็นการยกย่องเชิดชูผู้ทำคุณประโยชน์สูงสุด และเป็นแบบอย่างที่ดีต่อสังคม

พร้อมกันนี้ โตโน่ และทีมงาน ยังได้เดินทางไปเยี่ยม ผู้สูงอายุ ที่ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุจังหวัดนครพนม พร้อมทั้งมอบของขวัญที่จะช่วยในเรื่องการดูแลสุขภาพให้กับทุกคน เป็นการส่งท้ายปลายปี 2567 ที่อิ่มใจทั้งผู้ให้และสุขใจทั้งผู้รับ ก่อนที่ โตโน่ จะกลับมาลุยโปรเจคดี ๆ ในปี 2568 ต่อไป

Foxsemicon ยักษ์ใหญ่ผลิตชิปจากไต้หวัน ตั้งฐานผลิตเซมิคอนดักเตอร์ในนิคมชลบุรี-ระยอง

(11 ธ.ค.67) BOI อนุมัติคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนโครงการผลิตอุปกรณ์และโมดูลสำหรับเครื่องจักรผลิตเซมิคอนดักเตอร์ต้นน้ำของกลุ่ม Foxsemicon Integrated Technology Ic. (FITI) ในเครือของ Foxconn

หนึ่งในบริษัทยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ที่สุดของโลกจากไต้หวัน และเป็นซัพพลายเออร์สำคัญของบริษัท Applied Materials ผู้ผลิตเครื่องจักรสำหรับผลิตเซมิคอนดักเตอร์ต้นน้ำระดับโลก

บริษัท Foxsemicon ยื่นขอรับการส่งเสริมในนามบริษัท ยูนิค อินทิเกรตเต็ด เทคโนโลยี จำกัด มีมูลค่าเงินลงทุนเฟสแรก 10,500 ล้านบาท ตั้งโรงงาน 2 แห่งที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ชลบุรี และนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ระยอง ถือเป็นโรงงานแห่งที่ 4 ของโลกในกลุ่ม Foxsemicon ก่อนหน้านี้มีโรงงานอยู่ที่จีน ไต้หวัน และสหรัฐอเมริกา

โดยบริษัท Foxsemicon เป็นบริษัทไต้หวันที่เป็นผู้นำในการผลิตอุปกรณ์สำหรับเครื่องจักรที่ใช้ในการผลิตเซมิคอนดักเตอร์แบบครบวงจร มีขีดความสามารถตั้งแต่การวิจัยและพัฒนา การออกแบบ การผลิตชิ้นส่วนอุปกรณ์และโมดูลสำหรับเครื่องจักร โดยใช้จุดแข็งทั้งด้านเทคโนโลยีการผลิตที่มีความแม่นยำสูง การผสมผสานระหว่างระบบเครื่องกล ระบบไฟฟ้า และระบบอัตโนมัติเข้าด้วยกัน

โรงงานในไทยจะมีการจ้างงานบุคลากรไทยกว่า 1,400 คน เพื่อผลิตอุปกรณ์และโมดูลที่มีความแม่นยำสูงสำหรับเครื่องจักรสำคัญที่ใช้ในการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ต้นน้ำ (Water Fabrication) ที่คาดว่าจะสร้างมูลค่าส่งออกกว่า 6,000 ล้านบาทต่อปี และระยะเริ่มต้นจะมีการใช้วัตถุดิบในประเทศสัดส่วนกว่า 25% ของมูลค่าวัตถุดิบทั้งสิ้น โดยจะเพิ่มมากขึ้นในระยะถัดไป

นฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ระบุว่า การตัดสินใจลงทุนของบริษัท Foxsemicon ครั้งนี้ ถือเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่ผลิตอุปกรณ์ขั้นสูงสำหรับเครื่องจักรเซมิคอนดักเตอร์ต้นน้ำเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ก่อนหน้านี้มีบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์เริ่มเข้ามาลงทุนในไทย ทั้งการออกแบบวงจรรวม (IC Design) การทดสอบ Wafer และ IC

โดยบริษัท Analog Devices และการผลิตชิปตั้นน้ำโดยบริษัท Hana เชื่อมั่นว่าจากนี้ไป จะมีการลงทุนในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะหลังจากที่รัฐบาลได้ตั้งบอร์ดเซมิคอนดักเตอร์แห่งชาติ ซึ่งจะมีการกำหนดโรดแมปแต่ละระยะ

รวมทั้งพัฒนาบุคลากรและปรับปรุงระบบนิเวศที่เกี่ยวข้อง เพื่อยกระดับประเทศไทยเป็นฐานรองรับการลงทุนเซมิคอนดักเตอร์ซึ่งจะเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาต่อยอดอุตสาหกรรมหลักอื่น ๆ ทั้งยานยนต์ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ ดิจิทัล โทรคมนาคม ระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์หรืออุปกรณ์การแพทย์ในอนาคตด้วย

‘รองเอ็ด คนพันธุ์ตาก’ เบอร์ 2 ฝ่ากระแส ‘บ้านใหญ่’ มาแรงโค้งสุดท้าย ‘ชาวตาก’ รอฟังปราศรัยหาเสียงแน่นทุกเวที

(11 ธ.ค.67) โค้งสุดท้ายการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดตาก เกิดความน่าสนใจ ว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงเหมือนการเลือกตั้งนายกอบจ.นครศรีธรรมราช ได้หรือไม่ ภายหลังจากที่ เปิดกลยุทธ์หาเสียง “ตากต้องเปลี่ยน คนตากอยากเปลี่ยน คนพันธุ์ตาก” โดยฝั่งผู้ท้าชิง เบอร์ 2 ‘รองเอ็ด - พ.ต.ท.อนุรักษ์ จิรจิตร’ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สมัยรัฐบาลลุงตู่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ช่วงแรกดูเป็นรองหลายขุม เพราะด้วยเจ้าเดิมคือคนที่เรียกตัวเองว่าบ้านใหญ่ เเห่งตระกูล ทวีเกื้อกูลกิจ ซึ่ง นายณัฐวุฒิ ทวีเกื้อกูลกิจ นั่งเป็นนายกอบจ.คุมเมืองตากมาเป็น10 ปี และวันนี้ ได้ส่งคุณนายจอย อัจฉรา ทวีเกื้อกูลกิจ ลูกสะใภ้ ผู้สมัคร หมายเลข1 อดีตเป็นรองนายกอบจ.ตาก ลงชิงเก้าอี้นายกอบจ.เมืองตาก เเทนตนเอง   

เรียกได้ว่านับ 10 ปี ที่บ้าน ใหญ่ คุมจังหวัดตาก มันจึงเป็นที่มาของการตั้ง ยุทธศาสตร์ การหาเสียงของ คู่แข่งผู้ท้าชิง ว่าคนพันธุ์ตาก มาเพื่อ คนตากอยากเปลี่ยน ? หรือ อยากให้ จังหวัดตาก เป็นจังหวัดที่ถูกลืม โดนจัดให้เป็นเมืองรอง ทั้งที่เป็นเมืองชายแดนมีการค้าขายกับเพื่อนบ้านแต่ผู้คนก็ยังลำบาก พื้นที่ไม่พัฒนา แถมยังมีกลุ่มชาติพันธุ์ ที่รอการเข้าถึงสวัสดิการภาครัฐหลายด้าน ภาพรวมแล้ว เศรษฐกิจ การท่องเที่ยว จังหวัดตากย่ำเท้าอยู่กับที่มาหลายปี เพียงเพราะ คนติดใจบ้านใหญ่ ติดใจนามสกุล ที่พ่อเป็นนายกอบจ.และลูกชาย คือ นาย ธนัสถ์ ทวีเกื้อกูลกิจ  สามี ของผู้สมัครหมายเลข 1 นางอัจฉา ทวีเกื้อกูลกิจ ก็เป็นอดีตสส. จังหวัดตาก ด้วย 

ซึ่งวันนี้ ถึงคราวส่งลูกสะใภ้ลง มาสู้ศึกอบจ.ตากแล้ว เเต้มต่อ ของเบอร์ 1 คือเป็นบ้านใหญ่ เก่าเเก่ แห่งค่ายรัฐบาล พรรคภูมิใจไทย คุมอำนาจ มหาดไทย พร้อมทุกขุมกำลัง เรียกได้ว่าเป็นต่อ หลายขุม การเมืองยุคใหม่หรือจะสู่ยุคเก่า เรียกได้ว่า เบอร์2 รองเอ็ด พตท. อนุรักษ์ จิรจิตร ไปยาก อย่างไรเมืองตากก็จะอยู่แค่ตระกูลนี้เท่านั้น สปอตไลท์ จึงไปส่อง ที่ คุณนายจอย เบอร์ 1 อัจฉรา บ้านใหญ่ ด้วยเหตุนี้ เบอร์ 2 รองเอ็ด จึงเดินหน้าปลุกตาก ให้ตื่น ด้วยยุทธศาสตร์อยากเปลี่ยน จึงกลายเป็น การรวมพลคนอยากเปลี่ยนมาสู้เพื่อจังหวัดตาก จะเห็นได้จาก การรวมพลคนฝ่ายค้าน มาสู้ ทั้งพรรคพลังประชารัฐ  พรรคประชาชน หรืออดีตแกนนำแดง อย่าง อี็ด เมืองตาก มาช่วยผู้ท้าชิง รองเอ็ด เบอร์ 2 พ.ต.ท.อนุรักษ์ จิรจิตร อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรี นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ สมัยรัฐบาลลุงตู่ เเละยังเป็นเพื่อนสนิท กับขุนพลข้างกาย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี คือ เสธ.นิว พลเอก นิธิ จึงเจริญ และเสธ.นุ้ย พล.ท. ฐิตวัชร์ เสถียรทิพย์ เพราะเป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 29 รุ่นเดียวกัน

มาจนถึงขณะนี้ รองเอ็ด เบอร์ 2 พ.ต.ท.อนุรักษ์ จิรจิตร ได้เดินสายปลุก เมืองตากให้ตื่น ตั้งแต่เช้าจนค่ำเปิดเวที ปราศรัย แทบทุกตำบล แสงสว่างจากแสงไฟ ยามค่ำคืน คนเดินเท้า หาเช้ากินค่ำ คนบนดอย ยังต้องมาฟัง จนเกิดปรากฏการณ์ใหม่ ชาวบ้านแห่ฟัง 'รองเอ็ด' เบอร์ 2 ปราศรัย ไปทุกท้องที่ ของจังหวัด ตาก ตั้งแต่คนเมือง ถึงคนบนดอย ชูนโยบาย ยกระดับการแพทย์ฉุกเฉิน- กู้ภัยทันที - ปั้นทีมฟุตบอลตาก โรงเรียน กีฬา ส่งเสริมการท่องเที่ยว ส่วนแยก อบจ. ที่แม่สอด เครื่องจักรฟรี -ตลาดชนเผ่า ฟื้นฟูประเพณี ท้องถิ่น "พิสูจน์ ให้ชาวตาก รู้ว่า สู้จริง พูดจริง ทำจริง "พ.ต.ท.อนุรักษ์ จิรจิตร 'รองเอ็ด' อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)ตาก เบอร์ 2 ผู้ท้าชิง แคนดิเดต นายก.อบจ.ตาก หมายเลข 2   

ล่าสุดมีประชาชนชาวบ้าน สนใจ มานั่งฟังนโยบายท้องถิ่น เป็นจำนวนมาก จนเกิดกระแสเบอร์ 2 ฟีเว่อร์ เรียกได้ว่าโค้งสุดท้าย คำว่ากระแสจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในการเลือกตั้งท้องถิ่นได้หรือไม่ เมื่อเบอร์ 2 ไม่ใช่เบอร์รองอีกต่อไป จับตาการเลือกตั้ง ว่าคนตาก จะอยากเปลี่ยนจริงหรือไม่ ในวันที่15 ธันวาคมนี้ 

'ทรัมป์' เล็งเพิ่มขุดเจาะน้ำมัน-ก๊าซธรรมชาติ หนุนส่งออกพลังงาน ไม่แคร์สิ่งแวดล้อม

(11 ธ.ค.67) โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เตรียมกรุยทางให้บริษัทและนักลงทุนขนาดใหญ่สามารถขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐฯ และส่งออกก๊าซธรรมชาติได้ โดยประกาศว่าจะเร่งอนุมัติการผ่อนปรนนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมสำหรับผู้ที่ลงทุนเกิน 1,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 33,730 ล้านบาท) ในประเทศ

ทรัมป์ได้โพสต์ข้อความลงบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียผ่าน Truth Social โดยระบุว่าจะเร่งอนุมัติใบอนุญาตให้แก่บุคคลหรือนิติบุคคลที่ลงทุนในสหรัฐฯ จำนวน 1,000 ล้านดอลลาร์หรือมากกว่า รวมถึงการอนุมัติด้านสิ่งแวดล้อมที่จำเป็น

"บุคคลหรือบริษัทที่ลงทุน 1,000 ล้านดอลลาร์หรือมากกว่านั้นในสหรัฐฯ จะได้รับการอนุมัติใบอนุญาตอย่างเร่งด่วนเต็มรูปแบบ รวมถึงการอนุมัติด้านสิ่งแวดล้อมที่จำเป็น ซึ่งโดยปกติแล้วต้องใช้เวลานาน เตรียมตัวให้พร้อม!!!"

แหล่งข่าวใกล้ชิดกล่าวกับรอยเตอร์ว่า ทรัมป์ต้องการผลักดันการอนุมัติการส่งออกก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) และเพิ่มการขุดเจาะน้ำมันทั้งในดินแดนและนอกชายฝั่งสหรัฐฯ เพื่อผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจโดยเฉพาะการส่งออกพลังงาน

แม้ว่าจะยังไม่ชัดเจนว่าทรัมป์จะดำเนินการอย่างไรเพื่อให้ผ่านการอนุมัติจากคณะกรรมการอิสระ เช่น คณะกรรมการกำกับกิจกรรมพลังงานส่วนกลาง (FERC) ที่ต้องการทบทวนด้านสิ่งแวดล้อมในโครงการก๊าซ LNG

นอกจากนี้ ทรัมป์และพรรครีพับลิกันยังมีแผนที่จะเพิกถอนข้อจำกัดและกฎหมายสำคัญด้านสิ่งแวดล้อมบางประการของประธานาธิบดีโจ ไบเดน เช่น เครดิตภาษีรถยนต์ไฟฟ้า และมาตรฐานโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาดที่มุ่งยกเลิกการใช้ถ่านหินและก๊าซธรรมชาติ

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ตอกย้ำปณิธาน “ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต” มอบห้องผ่าตัดปลอดเชื้อ มาตรฐาน ISO7 มูลค่ากว่า 4.1 ล้านบาท แก่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชธาตุพนม มอบโอกาสการรักษา ช่วยเหลือชาวนครพนมอย่างยั่งยืน

(9 ธ.ค. 67) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการมูลนิธิ เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ ที่ปรึกษาประธานกรรมการ นายวิชิต ชินวงศ์วรกุล รองประธานกรรมการ และคณะกรรมการมูลนิธิ ร่วมในพิธีมอบห้องผ่าตัดปลอดเชื้อ มาตรฐาน ISO7 มูลค่า 4,180,000 บาท (สี่ล้านหนึ่งแสนแปดหมื่นบาทถ้วน) แก่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชธาตุพนม จังหวัดนครพนม  โดยมี ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์ เกษม วัฒนชัย องคมนตรี ประธานกรรมการมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช กล่าวขอบคุณ และคณะกรรมการฯ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชธาตุพนม ร่วมรับมอบ ณ ห้องประชุม ชั้น 2 อาคาร 2 มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย กรุงเทพฯ

การสนับสนุนเครื่องมือทางการแพทย์ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ริเริ่มสนับสนุนครั้งใหญ่เนื่องในโอกาสครบรอบ 110 ปี มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เมื่อปีพ.ศ.2563 รวมทั้งในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19  โดยได้มีการสนับสนุนเรื่อยมา ไม่ว่าจะเป็นการมอบครุภัณฑ์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ มอบรถพยาบาลติดตั้งอุปกรณ์ มอบรถ X-Ray เคลื่อนที่ระบบดิจิทัล เป็นต้น รวมมูลค่าการสนับสนุนทางการแพทย์ไม่ต่ำกว่า 197 ล้านบาท

ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งได้ที่เว็บไซต์ www.pohtecktung.org และเฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung

“มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”
#แอปพลิเคชัน และ #สายด่วน ป่อเต็กตึ๊ง1418
#ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน

ส่องระเบิดเวลาลูกใหญ่ ‘MOU - JC 2544’ ชี้!! แรงกว่า ‘พ.ร.บ.ยึดอำนาจกองทัพ’ หลายเท่า

(11 ธ.ค. 67) ยังไม่ทราบว่าการแถลงผลงานในรอบ 3 เดือนของรัฐบาลแพทองธาร...วันที่ 12 ธ.ค.2567 นี้จะมีทีเด็ดทีขาดอย่างไรบ้าง...แต่มองกลางๆ ก็คงเป็นการให้ความหวังกับประชาชน แบบส่งท้ายปีเก่า ก้าวสู่ปีใหม่ที่ดีกว่าเก่าประมาณนั้น..

แต่ในชีวิตจริงทางการเมืองของรัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทยขณะนี้ อยู่ในภาวการณ์ที่พระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรก...ความวัวไม่ทันหายความควายเข้าแทรก...

กรณี MOU2544 ยังไม่ทันจบ...ร่างพ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม  ของพรรคเพื่อไทย นำเสนอโดย ‘หัวเขียงสุดซอย’ ประยุทธ ศิริพานิชย์ เจ้าเก่า ก็เข้ามาแทรก แม้จะมีแค่ 9 มาตรา  แต่เนื้อหาเน้นเนื้อริบอำนาจกองทัพ นัยว่าเพื่อต่อต้านรัฐประหาร...ทำเอาการเมืองปั่นป่วน  โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยออกอาการเสียรังวัด...ต้องถอยร่น  เกิดอาการล่มปากซอย..

เสาร์-อาทิตย์ (14-15 พ.ย.)นี้..หัวหน้าพรรคแพทองธาร ชินวัตร ถึงคราวต้องทบทวนยุทธศาสตร์ -ยุทธวิธีของพรรคครั้งใหญ่...โดยเฉพาะเรื่องที่ถกกันให้ขาดก็คือ…การประชันขันแข่งกับพรรคส้มว่าใครเป็นพรรคประชาธิปไตยมากกว่ากันนั้นถ้าพรรคเพื่อไทยกดดันตัวเองมากไป เพื่อไทยจะกลายเป็นพรรคผิดคิว ผิดกาลเทศะไม่สิ้นสุด…

แต่สถานการณ์เรื่องสำคัญและคอขาดบาดตายจริงๆ ของพรรคเพื่อไทยและรัฐบาลชุดนี้..นาทีนี้ไม่มีอะไรใหญ่เกินปมปัญหากรณี...พื้นที่อ้างสิทธิ์ทับซ้อนไทย -กัมพูชา ที่เป็นระเบิดเวลาลูกใหญ่  อย่าได้ทำเป็นเรื่องเล็กเรื่องล้อเล่น...ยั่วยุ ท้าทายว่าม็อบสนธิ ม็อบพันธมิตรฯ เป็นม็อบคนแก่ จุดไม่ติด บ้านเมืองอยู่ในบริบทใหม่แล้ว…

พินิจพิเคราะห์จากบริบทต่างๆ ขณะนี้และปรากฏการณ์เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.วันที่สนธิ ลิ้มทองกุล นำคณะไปยื่นหนังสือ 14 หน้าถึงนายกฯ นั้น..กล่าวได้ว่า “ม็อบจุดติด” แล้ว  รอรัฐบาลมาถอดชนวนดับไฟที่รอลุกโชติเท่านั้น...ที่จุดติดสาเหตุหลักจริงๆ ก็เพราะตัวปมปัญหาเรื่องดินแดนที่เกิดขึ้น  และ ปัจจัยรองก็คือเพราะบรรดาขาเชียร์รัฐบาล ทั้งอดีตผู้นำม็อบแดง,สส.ในปัจจุบัน  ช่วยกันเรียกแขก…

อย่างไรก็ตามเมื่อส่องกล้องดูเอกสารร้องเรียน-เสนอแนะ ต้องชมว่าคณะผู้ร้องทำการบ้านมาดี ข้อมูลแน่น  เสนอทางออกอย่างสร้างสรรค์  ซึ่งหากดูข้อเสนอ 6 ข้อ  ถ้ารัฐบาลทำจริงตามลำดับข้อเสนอ...ม็อบสนธิก็ลงถนนไม่ได้...ไม่มีอะไรต้องกลัว…

ส่องดู6ข้อเสนอของคณะนายสนธิ แบบสรุปๆ ได้ดังนี้
1)นายกฯและครม.ต้องปฏิบัติหน้าที่ในการรักษาไว้ซึ่งเอกราช อธิปไตย บูรณภาพแห่งทะลอาณาเขต  เขตต่อเนื่องและเขตไหล่ทวีปฯ

2)ให้นายกฯเสนอเรื่องต่อครม.เพื่อมีมติส่ง MOU2544 และ JC2544 (แถลงการณ์ร่วมทักษิณ-ฮุนเซ็น) ต่อศาลรธน.เพื่อวินิจฉัยว่าขัดต่อมาตรา 1และมาตรา 224 (รธน.2540),มาตรา 1และ190(รธน.2550)และ มาตรา1 และมาตรา 178 (รธน.2560)หรือไม่

3)หาก ศาลรธน.วินิจฉัยว่า MOU2544,JC 2544 ขัดหรือแย้งให้ยกเลิก MOU2544 และ JC2544 เพื่อปฏิเสธเส้นเขตไหล่ทวีปของกัมพูชา

4)หากศาลรธน.วินิจฉัยฯว่าไม่ขัดหรือแย้งต่อบทบัญญัติ รธน. ให้รัฐบาลเจรจากับกัมพูชาเพื่อยกเลิก MOU2544และJC 2544บนพื้นฐานหลักการเส้นมัธยะและกฎหมายเกี่ยวข้องที่ถูกต้อง แล้วนำเสนอผลการเจรจาต่อรัฐสภาให้ความเห็นชอบ ก่อนนำขึ้นทูลเกล้าฯ

5)ระงับการแต่งตั้งคณะกรรมการร่วมทางเทคนิค (JTC)เอาไว้ก่อน

6)จัดเวทีสาธารณะแก่ประชาชนเรื่อง MOU2544และJC2544

15 วัน นับจากยื่นหนังสือ คณะนายสนธิจะมาทวงสัญญาว่ารัฐบาลได้ดำเนินการหรือมีไทม์ไลน์จะดำเนินการอย่างไร...น่าเชื่อว่าได้อ่าน 14 หน้าขอเรียกร้อง และเชิญผู้เกี่ยวข้องมาซักถามซักซ้อม  นายกฯแพทองธารน่าจะตาสว่างและพูดเรื่องเกาะกูด เรื่องเส้นไหลทวีป ได้ดีกว่าเดิม และแก้ปัญหาต่างๆ ได้ถูกต้องขึ้น..

สำคัญว่าต้องฟังหลายๆคน อย่าฟังพ่อคนเดียว!!??

ออสเตรเลียตามหาด่วน ไวรัส 323 หลอด หายจากแล็บ หวั่นถูกใช้ทำอาวุธชีวภาพ

(11 ธ.ค.67) ทางการรัฐควีนส์แลนด์เปิดเผยว่า หลอดบรรจุไวรัสชนิดร้ายแรงจำนวน 323 หลอดได้หายไปจากห้องปฏิบัติการไวรัสวิทยาของหน่วยงานด้านสาธารณสุข ส่งผลให้รัฐบาลออสเตรเลียสั่งการให้หน่วยงานด้านสาธารณสุขของรัฐควีนส์แลนด์ดำเนินการสอบสวนเหตุการณ์นี้ ซึ่งถูกระบุว่าเป็นการละเมิดมาตรการความปลอดภัยทางชีวภาพครั้งใหญ่ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2564 แต่ได้รับการยืนยันเมื่อเดือนสิงหาคม 2566 โดยเจ้าหน้าที่เชื่อว่าหลอดบรรจุไวรัสอาจหายไปหลังจากตู้แช่ไวรัสเกิดความเสียหาย

รายงานระบุว่า รัฐบาลรัฐควีนส์แลนด์ได้เริ่มการสอบสวนอย่างเป็นทางการ แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าหลอดบรรจุไวรัสที่หายไปนั้น ถูกขโมยหรือถูกทำลายแล้ว นอกจากนี้ ยังไม่มีหลักฐานที่บ่งชี้ว่ามีความเสี่ยงหรืออันตรายต่อประชาชน 

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ชี้ว่า ไวรัสที่อันตรายเหล่านี้จะตายอย่างรวดเร็วเมื่อนอกตู้แช่และไม่ทำให้เกิดการติดเชื้อ โดยทางการยืนยันว่าแม้ตัวอย่างไวรัสเหล่านี้อาจถูกนำไปใช้ในการผลิตอาวุธชีวภาพได้ แต่ต้องอาศัยผู้ที่มีความเชี่ยวชาญสูง โดยไวรัสที่หายไปประกอบด้วย

ไวรัสเฮนดรา (Hendra virus) เป็นไวรัสที่สามารถติดต่อจากสัตว์สู่คน พบเฉพาะในออสเตรเลียและมีอัตราการเสียชีวิตสูงถึง 57% ไวรัสนี้ถูกค้นพบครั้งแรกในปี พ.ศ. 2537 หลังเกิดการระบาดในม้าแข่ง 21 ตัวและมนุษย์ 2 คน ที่เมืองเฮนดรา ชานเมืองบริสเบน องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่าไวรัสชนิดนี้มีต้นกำเนิดจากค้างคาวผลไม้

ไวรัสฮันตา (Hantavirus) เป็นไวรัสที่แพร่จากสัตว์สู่คน มีต้นกำเนิดจากหนูและแพร่ผ่านมูล ปัสสาวะ และน้ำลายของหนู เมื่อติดเชื้อจะทำให้เกิดโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสฮันตา อาการทั่วไปได้แก่ ไข้ หนาวสั่น คลื่นไส้ ท้องเสีย และของเหลวในปอด ศูนย์ป้องกันโรคสหรัฐฯ (CDC) ระบุว่าไวรัสชนิดนี้มีอัตราการเสียชีวิตประมาณ 38%

ลิสซาไวรัส (Lyssavirus) เป็นไวรัสที่ทำให้เกิดโรคพิษสุนัขบ้า ติดต่อได้ทั้งคนและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม โดยในแต่ละปีมีผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสชนิดนี้ประมาณ 59,000 คนทั่วโลก


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top