Tuesday, 10 June 2025
TheStatesTimes

‘ดร.หิมาลัย’ โพสต์เฟซ!! เรื่องการประมูลพลังงานสะอาด ที่อภิปรายกันในสภาฯ เผย!! ‘ท่านพีระพันธุ์’ ไม่นิ่งเฉย สั่งเร่งตรวจสอบโดยละเอียด จนพบข้อมูลใหม่

(10 ธ.ค. 67) ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ หรือเสธหิ ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับ การอภิปรายในสภาผู้แทนราษฎรที่ผ่านมา เรื่องของการประมูลพลังงานสะอาด โดยได้ระบุว่า ...

วันนี้ ผมมีเรื่องเล่า 3 เรื่อง มาเล่าแบบภาษาชาวบ้านครับ แต่ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณ ระบอบประชาธิปไตย ที่เปิดโอกาสให้ฝ่ายค้านได้มีโอกาสอภิปรายรัฐบาลและนำเสนอข้อติติงต่างๆ เพื่อให้รัฐบาลได้นำไปปรับปรุงแก้ไข ปฐมบทของเรื่องนี้ เกิดมาจากการอภิปรายที่ผ่านมา ในเรื่องของการประมูลพลังงานสะอาด 

หลังจากฟังการอภิปรายแล้ว และมีการตอบข้อซักถามในสภาฯไปแล้วทาง ‘ท่านพีระพันธุ์’ ได้นำข้อสังเกต ข้อติติง ของฝ่ายค้านมาพิจารณาโดยละเอียดและตรวจสอบการดำเนินการของ หน่วยงานในกำกับ อีกครั้ง จึงได้พบข้อมูลที่น่าจะต้องพิจารณาทบทวนให้รอบคอบ ดังนี้

1. ความต้องการไฟฟ้าพลังงานสะอาด เราต้องการที่ 5,000 จึงมีการเปิดประมูล มีผู้มาประมูล ถึง 17,000 ดังนั้น เมื่อประมูลไป 5,000 แล้ว จึงเหลือที่ประมูลไม่ได้ อยู่ที่ 12,000 ต่อมาผู้ที่ประมูลไป 5,000 ไม่สามารถส่งไฟเข้าระบบได้ 3,600 จึงเกิดเป็นฟันหลอในระบบขึ้น ทาง กฟผ.จึงเปิดประมูลใหม่ โดยแยก 3,600 ออกเป็น 2 ส่วน คือ 2,100 กับ 1,500 แต่ดันไปกำหนดการประมูลว่า 2,100 ให้จัดให้ผู้ประมูลเก่าที่ไม่ได้ ที่ค้างอยู่ 12,000 ส่วน 1,500 ที่เหลือ เปิดให้ประมูลใหม่ ซึ่งตรงนี้คือสิ่งที่ฝ่ายค้านติงมาว่าเอาหลักอะไรมาแบ่ง การประมูลครั้งแรกจบไปแล้ว น่าจะเปิดใหม่ทั้งหมดหรือถ้าจะให้สิทธิ์กับ 12,000 ที่เหลือ ทำไมไม่ให้ทั้งหมด หรือมีเกณฑ์อะไร มาแย่งแยก ประกอบกับ การจัดการ 2,100 ที่จัดสรรให้กับ 12,000 ยังไม่จบขบวนการ ท่านจึงมีหนังสือให้ระงับและทบทวน เพื่อตอบปัญหาที่สังคมกับฝ่ายค้านตั้งข้อสังเกตุไว้ หากตอบไม่ได้ ก็ควรหาวิธีดำเนินการทั้ง3,600 ให้ถูกต้องและเหมาะสม ไม่ให้สังคมเคลือบแคลงสงสัยได้

2. เรื่องของคณะกรรมการสรรหาบอร์ด กกพ. ที่ท่านให้ทบทวนเอาเรื่องกลับมา ก็เพราะประเด็นจากการอภิปราย ในเรื่องนี้ กฎหมายเขียนไว้ว่าต้องตั้งกรรมการสรรหา 9 คน หนึ่งในนั้น ต้องมาจากสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ แต่เนื่องจาก สภาฯดังกล่าว ได้โดนยุบไปแล้ว ทาง กกพ.จึงส่งเรื่องมาให้ตั้ง แค่ 8 คน เมื่อท่านสอบถามว่าใครให้ความเห็นข้อกฎหมายในเรื่องนี้ ปรากฏว่าเป็นฝ่ายกฎหมายของ กกพ.เอง ท่านจึงให้ชะลอเรื่องแล้วให้รีบส่งเรื่องสอบถามความเห็นไปที่กฤษฎีกาก่อน เพื่อความรอบคอบครับ

3. เรื่องเหมืองแม่เมาะ เป็นการประมูลโครงการ 7,250 ล้านบาท ในครั้งแรกจะใช้วิธีพิเศษ ท่านก็ให้ทักท้วงไป จึงเปลี่ยนมาเป็นเปิดประมูล แต่มีข้อสังเกตุหลายอย่าง คือในการพิจารณาโครงการประมูลโครงการใหญ่ขนาดนี้ กลับใช้วิธีประชุมลับ ไม่ลงบันทึกประชุม เมื่อได้ผลประมูลแล้วต้องแจ้งให้ผู้เข้าประมูลทุกรายทราบ เพื่อให้ผู้ร่วมประมูลสามารถทักท้วงผลได้ในระยะเวลาที่กำหนด และหากมีการตกสเปค จะต้องแจ้งให้ทราบว่าตกเพราะเหตุใด ในเรื่องนี้บริษัทฯผู้ร้องได้รับแจ้งผลประมูลและเหตุผลหลังจากเลยระยะเวลาอุธรณ์หรือทักท้วงแล้ว ตลอดจนเหตุผลในการตกคุณสมบัติ ทางบริษัทก็โต้แย้ง ว่าสิ่งที่บริษัทได้เสนอให้มากกว่า ถ้าผมจำไม่ผิด น่าจะเป็นเรื่องเครื่องจักรอะไรสักอย่าง ที่กำหนดให้ต้องมีตัวใหญ่ 2 ตัวเล็ก 2 ทางผู้ร้องแจ้งว่า เขาเสนอให้ตัวใหญ่ 3 ตัวเล็ก 1 ซึ่งทางหน่วยงานจะได้ประโยชน์มากกว่า และตัวใหญ่ก็มีคุณสมบัติที่เหนือเกณฑ์มาตราฐานที่ตั้งไว้ แต่ประเด็นสำคัญ เขาไม่มีโอกาสโต้แย้ง ชี้แจง หรืออุทธรณ์ ร้องเรียนใดๆเลยเพราะการแจ้งผลให้เขาทราบ เป็นการแจ้งหลังจากผ่านระยะเวลาอุทธรณ์ไปแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องผิดปกติและไม่เป็นธรรม ประกอบกับในเรื่องดังกล่าวมีบอร์ดท่านหนึ่ง ได้ทำบันทึกตั้งข้อสังเกตุไว้ก่อนเกิดเรื่องร้องเรียนแล้ว พอมีการร้องเรียนมาท่านก็สั่งตรวจสอบ เพื่อให้ความเป็นธรรมและถูกต้อง 

เรื่องเล่าชาวบ้านของผมวันนี้ คงมีแค่ 3 เรื่องนี้ ช่วยกันรักษาคนดีและให้กำลังใจ คนที่ตั้งใจทำงานเพื่อความถูกต้องและประเทศชาติกันครับ ขอขอบคุณระบบรัฐสภาฯของเรา ที่เปิดให้มีการอภิปรายและตรวจสอบ ขอบคุณท่านพีระพันธุ์ฯ ที่ไม่ละเลยต่อคำทักท้วงตามระบอบประชาธิปไตยครับ

‘พี่ลุงแมน’ โพสต์คลิปเดือด!! ฟาดใส่ ‘นายทุนพลังงาน’ ตั้งพรรคการเมืองใหม่!! เพื่อรักษาผลกำไรของตน

(10 ธ.ค. 67) ‘พี่ลุงแมนไทยแลนด์แดนสวรรค์’ ได้โพสต์คลิปเกี่ยวกับ พรรคการเมืองที่จะเกิดขึ้นใหม่ โดยกลุ่มนายทุนพลังงาน ระบุว่า ...

ได้ยินข่าวการเปิดพรรคใหม่มาได้สักพักนึงแล้ว

ในวันประกาศตัวเปิดตัวเค้าก็บอกชัดเจน ว่าเพื่อดึงคะแนนเสียง ดึงคนจาก ‘พรรครวมไทยสร้างชาติ’ ตามรายงานข่าว ก็บอกว่าเป็นทุน ที่มีทุนไม่อั้น เป็นพรรคที่ทุนไม่อั้น เหตุที่เงินทุนไม่อั้น เดาว่า น่าจะเป็นทุนจากพลังงาน

‘พรรครวมไทยสร้างชาติ’ นั้นมีจุดเด่น ก็คือจะแก้ไข ในเรื่องของราคาพลังงาน เพื่อให้คนไทยได้ใช้ ‘พลังงาน’ ในราคาที่เหมาะสม ซึ่งเรื่องของการแก้ไข ‘ราคาพลังงาน’ นั้นเป็น
เรื่องที่ใหญ่มาก ใครแตะตาย ใครแตะเรื่องพลังงาน เละทุกคน 

เพราะว่าเงินเยอะ ผลประโยชน์มหาศาล แล้วเขา (กลุ่มคนที่จะตั้งพรรคการเมืองใหม่) ก็ประกาศชัดเจนว่า เขาตั้งพรรคมาเพื่อสนับสนุนให้ ‘พรรคเพื่อไทย’ เป็นแกนนํา ดังนั้นคนที่เป็น ‘สลิ่ม’ ที่เคยบอกว่าเกลียดพรรคเพื่อไทย ถ้าเขาอยากจะสนับสนุนพรรคนี้ ก็แล้วแต่ ผมจะไม่ว่าอะไรใคร แล้วแต่ความคิดของแต่ละท่าน 

ผมจะพูด แนวทางกว้างๆ ก็คือว่า การทําตลาด เขาก็จะทําให้ ไม่ สามารถรวมเป็นกลุ่มเป็นก้อนได้ ‘ประชาธิปไตย’ ไม่ใช่ระบอบอะไรซับซ้อนหรอก เป็นระบอบที่พ่อค้า ทําการตลาดแค่นั้นเอง ทีนี้ถ้าใครจะเชื่อว่าทุนพลังงาน จะมาทําเพื่อประชาชน เพื่อพลังงานที่ถูกลง ผมขออนุญาต ‘ถุย’ นะครับ ใครจะเชื่อก็เชื่อ ผมไม่เชื่อนะครับ 

แนวคิดหลักของ ‘พรรครวมไทยสร้างชาติ’ ที่เขาทำอยู่ก็คือ ‘SPR’ ทําเพื่อให้ราคาน้ำมัน ถูกลง น้ำมันปีนี้ เราขาย ‘น้ำมัน’ กันวันละ 150 ล้านลิตร ถ้าคุณพีระพันธุ์ หรือ พรรครวมไทยสร้างชาติทําสําเร็จ นั่นหมายความว่า 150 ล้านลิตร ทําลงแค่ลิตรละบาท เงินผลประโยชน์ กำไรของนายทุน ก็จะหายไปก็ 150 ล้านบาท ถ้าทำราคาลดลงได้ ลิตรละสองบาท ผลประโยชน์ กำไรของนายทุน ก็จะหายไป 300 ล้านบาท ต่อวัน

ดังนั้นไม่แปลกหรอกครับ ถ้าจะมีกลุ่มทุนพลังงาน อยากจะทําพรรคเพื่อรักษาผลประโยชน์ของตัวเอง โดยที่หาคําพูดสวยหรูอะไรก็ได้ ใครจะเชื่อก็เชื่อ แต่ผมไม่เชื่อ แล้วยิ่งบอกว่าจะไปสนับสนุน ‘พรรคแดง’ ด้วย

ยิ่ง ‘จบข่าว’ เลย กับพรรคนี้!! 

‘TikTok’ ร้อง!! ศาลสหรัฐ ให้ระงับการแบนแอป จนกว่า ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ จะขึ้นเป็นประธานาธิบดี

(10 ธ.ค. 67) Tiktok ยื่นคำร้องเมื่อวันจันทร์ว่า ศาลอุทธรณ์สหรัฐเขตโคลัมเบียควรออกคำสั่งห้ามนับถอยหลังวันครบกำหนดขายหุ้นหรือแบนแพลตฟอร์ม (ซึ่งมีระยะเวลาให้ทำตามข้อกำหนดน้อยกว่า 6 สัปดาห์) เพื่อให้ศาลฎีกาสามารถพิจารณาคำเรียกร้องของบริษัทที่อ้างว่า การเรียกร้องของรัฐบาลสหรัฐละเมิดสิทธิในเสรีภาพของการพูดและสิทธิตามรัฐธรรมนูญอื่น ๆ

ติ๊กต็อกและไบท์แดนซ์ ระบุในคำร้องที่ยื่นต่อศาลว่า “การสั่งห้ามเป็นเรื่องที่เหมาะสมอย่างยิ่ง เพราะจะช่วยให้รัฐบาลชุดใหม่มีเวลาพิจารณาจุดยืนของตนเอง ซึ่งอาจช่วยให้เกิดการหารือถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นและความจำเป็นในการพิจารณาของศาลฎีกา”

นิกเกอิเอเชีย ระบุว่า ติ๊กต็อกสามารถยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาเพื่อพิจารณาคำตัดสินของศาลแขวง แต่ต้องมีเสียงจากผู้พิพากษา 4 ใน 9 ที่ตกลงจะพิจารณาคดีนี้ จึงจะได้รับการพิจารณาต่อไป

ติ๊กต็อกได้ขอให้ศาลอุทธรณ์ตัดสินคำร้องสั่งห้ามนับถอยหลังกำหนดขายหุ้น ภายในวันที่ 16 ธ.ค. นี้ ขณะที่กระทรวงยุติธรรมขอให้ศาลปฏิเสธคำร้องของบริษัทโดยไม่ต้องมีการพิจารณาคดีเพิ่มเติม

การยื่นคำร้องขอสั่งห้ามของติ๊กต็อกมีขึ้นหลังจากศาลตัดสินเมื่อวันศุกร์ (6 ธ.ค.) ยกฟ้องการท้าทายทางกฎหมายของติ๊กต็อกต่อ พระราชบัญญัติคุ้มครองชาวอเมริกันจากแอปพลิเคชันที่ควบคุมโดยปรปักษ์ต่างชาติ (Protecting Americans from Foreign Adversary Controlled Applications Act.)

คำสั่งของศาลที่ออกมาเมื่อวันที่ 6 ธ.ค. ผู้พิพากษา 3 คน บอกว่า การสั่งให้ขายหุ้นหรือแบนแอพลิเคชัน ไม่ได้ปิดกั้นเสรีภาพในการพูด และไม่ได้ละเมิดการคุ้มครองด้านความเท่าเทียม

อนึ่ง วันครบกำหนดให้ไบท์แดนซ์ขายติ๊กต็อกคือวันที่ 19 ม.ค. ซึ่งเป็นเส้นตายที่มีขึ้นก่อนวันว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 ม.ค.

แม้ทรัมป์เป็นผู้อยู่เบื้องหลังของการแบนติ๊กต็อก แต่เขาได้เปลี่ยนจุดยืนในระหว่างหาเสียงเลือกตั้ง โดยบอกว่าตนไม่เห็นด้วยกับความเคลื่อนไหว (การแบนติ๊กต็อก) ดังกล่าว ซึ่งการสนับสนุนของเขามีขึ้นหลังจากได้พบกับมหาเศรษฐีเจฟฟ์ แยส ที่เป็นผู้ลงทุนรายแรกในไบท์แดนซ์ และเป็นหนึ่งในผู้บริจาคเงินทางการเมืองรายใหญ่สุดของการหาเสียงของทรัมป์

ทั้งนี้ ติ๊กต็อกอาจต้องสูญรายได้มากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ และบรรดาครีเอเตอร์อาจสูญเสียรายได้รวมกันเกือบ 300 ล้านดอลลาร์ภายในเวลาเพียง 1 เดือน ถ้าไม่ยุติการแบนแอปฯ

ติ๊กต็อกเผยเมื่อวันจันทร์ว่า แพลตฟอร์มมีผู้ใช้งานชาวอเมริกันมากถึง 170 ล้านคน และว่าการโฆษณา การตลาด และการเข้าถึงแบบออร์แกนิกบนแอปฯนั้น สร้างเม็ดเงินให้กับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐ 24,200 ล้านดอลลาร์ในปี 2566 ในขณะที่การดำเนินงานของบริษัทเองก็มีส่วนหนุนจีดีพีสหรัฐอีก 8,500 ล้านดอลลาร์

‘เนเน่ รัดเกล้า’ เตรียมบุกเข้า!! กระทรวงศึกษาธิการ 12 ธ.ค.นี้ เพื่อหารือ กรณีการปิดตัวของ โรงเรียนธรรมภีรักษ์รุ่งประชา

(10 ธ.ค. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันพฤหัสบดีที่ 12 ธ.ค. 2567 เวลา 12:30 น. เนเน่ รัดเกล้า อดีตผู้สมัคร กทม. เขตบางพลัด บางกอกน้อย จะนำตัวแทนผู้ปกครอง ที่ได้รับผลกระทบจากการปิดตัวอย่างกระทันหันของ โรงเรียนธรรมภีรักษ์รุ่งประชา แขวงบางบำหรุ เขตบางพลัด เข้าหารือ สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจํากระทรวงศึกษาธิการ ณ กระทรวงศึกษาธิการ 

ประเด็นการหารือมี 4 ข้อดังต่อไปนี้

1. บทบาทและหน้าที่ของ สำนักงาน คณะกรรมการ ส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ในการช่วยเหลือผู้ปกครองที่ได้รับผลกระทบครั้งนี้

2. ปัญหาค่าใช้จ่ายที่ผู้ปกครองต้องแบกรับ เช่น ค่าแรกเข้าโรงเรียนใหม่ เป็นต้น

3. ความเป็นธรรมในการรับเอกสารของบุตรหลาน เพื่อนำไปสมัครที่โรงเรียนใหม่ ในขณะที่ผู้ปกครองยังมีสภาพเป็นหนี้ ค่าเทอมของโรงเรียนธรรมภีรักษ์รุ่งประชา 

4. เรียกร้องการแก้กฏหมาย เพื่อบังคับให้การปิดกิจการโรงเรียน ต้องมีการวางแผนล่วงหน้าและแจ้งผู้ปกครองให้ทราบเรื่อง นานกว่า 1 เดือน

สมุทรปราการ-พ่อเมืองปากน้ำ ทำบุญเลี้ยงพระเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเกิด ครบ 58 ปี ทุกหน่วยงานร่วมอวยพร

(10 ธ.ค. 67) นายศุภมิตร ชิณศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ จัดพิธีทำบุญเลี้ยงพระเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเกิด ครบรอบ 58 ปี ณ ศาลาการเปรียญวัดกลางวรวิหาร พระอารามหลวง ต.ปากน้ำ อ.เมือง สมุทรปราการ

โดยได้รับความเมตตาจาก พระเดชพระคุณพระราชสมุทรวัชราจารย์ (บุญสืบ วุฑฺฒิสาโร) เจ้าอาวาสวัดกลางวรวิหาร พระอารามหลวง ประธานฝ่ายสงฆ์ นำคณะสงฆ์ จำนวน 9 รูป ประกอบพิธีเจริญชัยมงคลคาถาและเจริญพระพุทธมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคลเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเกิด นายศุภมิตร ชิณศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ

โดยมี นางสาวอรวรรณ ชิณศรี นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสมุทรปราการ พร้อมด้วย นายชาติชาย อุทัยพันธ์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ นางศศิวิมล อุทัยพันธ์ อดีตนายกเหล่ากาชาดจังหวัดสมุทรปราการ นายประทีป นทีทวีวัฒน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ นายสมศักดิ์ แก้วเสนา ปลัดจังหวัดสมุทรปราการ นายสุดใจ จิรยาภากร ประธานผู้บริหาร บริษัท โคมอส คอร์ปอเรชั่น จำกัด นายดำรง ยงค์สงวนชัย ประธานมูลนิธิปู่ทัพสำโรง ดร.กิตติ ยงค์สงวนชัย ประธานกรรมการ บริษัท มิตรสิบ ลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน)

ดร.พัชรางสุ์ ชัยวรมุขกุล อดีตอัยการจังหวัดสมุทรปราการ ดร.ศิริภัสสร ปิยนันทวารินทร์ ผู้พิพากษาสมทบศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสมุทรปราการ ตลอดจน หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอฯ ปลัดอำเภอฯ คณะผู้บริหาร ข้าราชการ หน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น คณะกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัดสมุทรปราการ คณะกรรมการชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสมุทรปราการ หอการค้าจังหวัดสมุทรปราการ คณะกรรมการ มูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ และแขกผู้มีเกียรติ ต่างเดินทางมาร่วมอวยพร

พร้อมทั้งนำกระเช้าดอกไม้และของที่ระลึกมามอบให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเกิด ครบรอบ  58 ปี นายศุภมิตร ชิณศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ

คิว-ข่าวสมุทรปราการ รายงาน
 

โสมใต้สั่งตำรวจ-ทหารระดับสูง ห้ามเดินทางนอกประเทศ ปมพัวพันอัยการศึก

สำนักงานสอบสวนแห่งชาติ (NOI) ของเกาหลีใต้เปิดเผยเมื่อวันที่ 10 ธันวาคมว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารระดับสูง 5 นาย รวมถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ถูกสั่งห้ามเดินทางออกนอกประเทศ ท่ามกลางการสืบสวนกรณีประกาศกฎอัยการศึกของประธานาธิบดียุน ซุกยอล  

ทีมสืบสวนพิเศษของ NOI ระบุว่า บุคคลที่ถูกห้ามเดินทางออกนอกประเทศ ได้แก่ โจ จีโฮ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, คิม บงซิก ผู้บัญชาการตำรวจนครหลวงกรุงโซล และมก ฮยอนแท หัวหน้ากองกำลังตำรวจประจำรัฐสภา  

คำสั่งดังกล่าวถูกกระทรวงยุติธรรมบังคับใช้เมื่อเวลา 20.00 น. ของวันที่ 9 ธันวาคม ตามเวลาท้องถิ่น โดยทั้งสามคนถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการควบคุมการเข้าสู่รัฐสภาระหว่างการบังคับใช้กฎอัยการศึกเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม  

นอกจากนี้ ลี จินวู ผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันเมืองหลวง และควัก จองกึน อดีตผู้บัญชาการกองกำลังปฏิบัติการพิเศษกองทัพบก ก็ถูกสั่งห้ามเดินทางออกนอกประเทศด้วย เนื่องจากมีส่วนเกี่ยวข้องกับการสืบสวนในคดีนี้เช่นกัน

ทั้งนี้ นอกเหนือจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงในแวดวงตำรวจและทหารแล้ว ก่อนหน้านั้นทางการเกาหลีใต้ได้มีคำสั่งห้ามประธานาธิบดียุนซอกยอลเดินทางออกนอกประเทศเช่นกัน

มุกดาหาร​ -​แม่ทัพภาค 2 ร่วมทหารแขวงสะหวันนะเขตแถลงข่าวจับยาบ้ามูลค่า 450 ล้านบาท

เมื่อวันที่ (9 ธ.ค. 67​) ที่สถานีเรือมุกดาหาร หน่วยเรือรักษาความสงบตามลำน้ำโขง เขตนครพนม อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร พลโท บุญสิน  พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 นายรณรงค์เทพรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร พลตรี สุคนธรัตน์ ชาวพงษ์  ผู้บัญชาการกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี  พลเรือตรี ณรงค์  เอมดี  ผู้บัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง นายคณิศร ภาพีรนนท์ ผู้อำนวยการ สำนักงาน ปปส. ภาค 4 และพันโท สีทอง เลียนสะหวัน หัวหน้าแผนกสู้รบ กองทัพประชาชนลาว แขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว ร่วมแถลงข่าวการตรวจยึดยาบ้าล็อตใหญ่ จำนวน 20 กระสอบ ประมาณ 8,000,000 เม็ด มูลค่า 450 ล้านบาทได้ที่บริเวณริมแม่น้ำโขงมุกดาหาร

สืบเนื่องจาก น.ท.เตชธร ฉิมพาลี หัวหน้าสถานีเรือมุกดาหาร ได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ ลักลอบลำเลียงยาเสพติดข้ามแม่น้ำโขงจาก สปป.ลาว เข้ามาในพื้นที่ บ้านหว้านใหญ่ หมู่ที่ 4 ตำบลหว้านใหญ่ อำเภอหว้านใหญ่ จังหวัดมุกดาหาร จึงได้วางแผนและจัดกำลัง ชุดปฏิบัติการออกทำการลาดตระเวนเฝ้าตรวจในพื้นที่ เมื่อไปถึงบริเวณท่าน้ำหมู่ที่ 4 บ้านหว้านใหญ่ ตามที่ได้รับแจ้ง พบเรือเหล็กขนาดใหญ่ติดเครื่องยนต์แล่นเข้ามาจอดบริเวณริมตลิ่ง จากนั้นได้มีกลุ่มชายฉกรรจ์ลงไปช่วยกันลำเลียงกระสอบจากลำเรือขึ้นมาบนฝั่ง เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัว แต่กลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าวและคนขับเรือเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ก็ได้พากันอาศัยความมืดวิ่งหลบหนีไปได้ การตรวจสอบพบกระสอบขนาดใหญ่รวมจำนวน 20 กระสอบ เมื่อเปิดออกดูพบว่าเป็นยาบ้า ประมาณ 8,000,000 เม็ด รวมมูลค่ากว่า 480,000,000 บาท เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดไว้พร้อมกับพร้อมเรือเหล็กติดเครื่องยนต์ จำนวน 1 ลำ จากนั้นได้นำของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรหว้านใหญ่ เพื่อดำเนินการสอบสวนสืบสวนเพื่อขยายผลติดตามตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

#ศูนย์ข่าวมุกดาหาร​ #กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี​ #กองทัพบกroyalthaiarmy​ #กองทัพภาคที่2​
ภาพ​/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​ 092-5259777​

นราธิวาส-มทภ.4 มอบความห่วงใย ให้กำลังใจส่งตรงถือมือพี่น้องผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ผ่านถุงยังชีพ 650 ชุด

(10 ธ.ค. 67) ที่บ้านปูยู ตำบลเกาะสะท้อน อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 นำถุงยังชีพ พร้อม ข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่ม จำนวน 500 ชุด ที่ได้รับการสนับสนุนจากภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน ส่งตรงถึงมือพี่น้องชาวตำบลเกาะสะท้อน เพื่อช่วยเหลือ บรรเทาความเดือดร้อนและเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้กับผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ โดยมี พลตรี เฉลิมพร ขำเขียว ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 / ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส , นาวาเอก สันติ  เกศศรีพงษ์ศา ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินกองทัพเรือ และ คณะผู้บังคับบัญชาร่วมคณะฯ

โอกาสนี้ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ยืนยันสนับสนุนกำลังพล พร้อมยุทโธปกรณ์ เข้าช่วยเหลือฟื้นฟูหลังน้ำลดต่อเนื่อง กำชับกำลังพลลงพื้นที่มอบถุงยังชีพ รวมทั้งจัดเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ให้บริการตรวจสุขภาพแก่พี่น้องประชาชน ชุมชนต่างๆ ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ พร้อม กล่าวให้กำลังใจและแสดงความเสียใจต่อการสูญเสียที่เกิดขึ้น ขอให้พี่น้องประชาชนทุกคนเข้าใจจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คือการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศของโลกและมีอีกหลายพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบประสบภัยธรรมชาติเช่นเดียวกัน 

จากนั้น แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 นำถุงยังชีพ พร้อมน้ำดื่ม จำนวน 150 ชุด นำไปมอบให้สมาชิกหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง โครงการฟาร์มตัวอย่างในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง บ้านรอตันบาตู ตำบลกะลุวอ อำเภอเมืองนราธิวาส  จังหวัดนราธิวาส

นอกจากนี้ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพภาคที่ 4 โดยกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า จัดทีมแพทย์ พยาบาล จากศูนย์แพทย์จังหวัดชายแดนภาคใต้ลงพื้นที่ให้บริการด้านสุขภาพแก่พี่น้องประชาชนผู้ประสบอุทกภัยในวันที่ 13 ธันวาคม 2567 เวลา 09.00 - 16.00 น. เพื่อตรวจรักษาสุขภาพเบื้องต้น พร้อมมอบยา เวชภัณฑ์ และ ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับสุขภาพ สุขอนามัย สภาพจิตใจ เพื่อดูแล เคียงข้างประชาชนอย่างสุดกำลังความสามารถ

ข่าว.แวดาโอ๊ะ หะไร จ.นราธิวาส

Kosé ยักษ์เครื่องสำอางญี่ปุ่น ซื้อกิจการเครื่องหอม 'ปัญญ์ปุริ'

(11 ธ.ค. 67) บริษัทเครื่องสำอางยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่น Kosé Corporation ประกาศเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ถึงการเข้าซื้อกิจการ Pañpuri แบรนด์สปาและเครื่องหอมหรูของไทย ถือเป็นก้าวสำคัญในกลยุทธ์การขยายธุรกิจระดับโลกของบริษัท รายงานข่าวไม่ได้ระบุถึงมูลค่าทางการตลาดในการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ แต่อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลทางการตลาดของ Pañpuri ระบุว่าในปี 2024 ที่ผ่านมามีรายได้รวมราว 1,079 ล้านบาท

ตามข่าวประชาสัมพันธ์ของ Kosé เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม ระบุว่า การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้สอดคล้องกับกลยุทธ์ “Vision for Lifelong Beauty Partner – Milestone 2030” ซึ่งมุ่งขยายพอร์ตโฟลิโอแบรนด์ผ่านความร่วมมือในระดับภูมิภาค แทนที่จะพึ่งพาการพัฒนาแบรนด์ภายในเพียงอย่างเดียว โดยคาดว่าจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งของ Kosé ในตลาดประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

“แนวทางดั้งเดิมของ Pañpuri ที่ผสมผสานการออกแบบผลิตภัณฑ์อันประณีตและความมุ่งมั่นต่อคุณภาพของกลิ่นหอม สอดคล้องกับปรัชญาของ Kosé ที่ให้ความสำคัญกับประสบการณ์ทางประสาทสัมผัส พร้อมเคารพในประเพณีและนวัตกรรม” คาซูโตชิ โคบายาชิ ประธานและซีอีโอของ Kosé กล่าว  

วรวิทย์ ศิริพากย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและเจ้าของแบรนด์ Pañpuri กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้จะสามารถช่วยให้แบรนด์สามารถใช้เทคโนโลยีและความเชี่ยวชาญระดับโลกของ Kosé ในขณะที่ยังคงรักษามรดกทางวัฒนธรรมด้านสุขภาพของไทยไว้ “ความร่วมมือนี้จะช่วยให้เรารักษารากฐานและพัฒนาไปสู่การสร้างสรรค์ประสบการณ์ความงามที่มีความหมายยิ่งขึ้น” 

ปัจจุบัน Pañpuri มีสาขาค้าปลีกในห้างสรรพสินค้าหรู โรงแรมระดับไฮเอนด์ และศูนย์การค้าชั้นทั้วประเทศไทย พร้อมแผนการขยายสู่ฮ่องกงในเดือนสิงหาคม 2024 นอกจากนี้ ยังมีช่องทางอีคอมเมิร์ซให้บริการลูกค้าในญี่ปุ่น จีน และยุโรป  

การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้นับเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ช่วยให้ Kosé ขยายตลาดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่กำลังเติบโต ขณะเดียวกัน Pañpuri จะได้รับประโยชน์จากศักยภาพการวิจัยและพัฒนา รวมถึงเครือข่ายการจัดจำหน่ายระดับโลกของ Kosé

ทัพภาค 4 จับมือ GTO Academy อบรมสถาบันการศึกษา มวลชนและประชาชนภาคใต้

(10 ธ.ค. 67) พลโทไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 มอบหมายให้พลตรีอนุสรณ์ โออุไร รองแม่ทัพภาคที่ 4 ลงนาม MOU แทน ระหว่างกองทัพภาคที่ 4 และสถาบันศาสตร์แห่งความสุขและความสำเร็จ gto academy โดยดร.ดรัณ เตชะโสภณวณิช ประธานสถาบัน GTO ในวันจันทร์ที่ 9 ธันวาคม 2567 เวลา 13:00 น. ณ.สโมสรกองทัพบก ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ

โดยมี พลตำรวจโทเผ่าไทย ทองธิว ประธานฯกรรมการบริหารเมืองโบราณ พลเรือเอกเชษฐา ใจเปี่ยม, พลโทองอาจ ชวาลวิวัฒน์ พลเรือตรีไพฑูรย์ ปัญญสิน นางรฏาวัลย์ วงษ์ศรีวงษ์ และคุณนภาพร รุ่งเรือง ร่วมเป็นพยานในพิธี ทั้งนี้ ในการทำบันทึกข้อตกลงนี้ เพื่อสถาบันศาสตร์แห่งความสุขและความสำเร็จ GTO Academy จะส่งเสริมสนับสนุนในการจัดกิจกรรมโครงการหลักสูตรพัฒนาศักยภาพส่วนบุคคล “หลักสูตรศาสตร์แห่งความสุขและความสำเร็จ” และให้บริการทางวิชาการ "จิตตปัญญาศึกษา" ให้กับแกนนำใน 14 จังหวัดภาคใต้

และส่วนกองทัพภาคที่ 4 จะอำนวยความสะดวกในการจัดอบรมหลักสูตรพัฒนาศักยภาพให้กับสถาบันฯ และจัดชุดปฏิบัติการกิจการพลเรือน เป็นเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือการจัดการอบรมฯ และติดตามประเมินผล เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับโรงเรียนกลุ่มเป้าหมายตามที่ได้รับทราบข้อมูล ร่วมทั้งประสานส่วนราชการ และภาคส่วนต่างๆ ให้เข้ามาร่วมกันแก้ปัญหาให้กับครู และนักเรียนฯ ตามบทบาทหน้าที่ของหน่วยงานนั้นๆ และวางแผนอำนวยการ และขยายผลการจัดอบรมหลักสูตร ไปยังสถาบันการศึกษาทุกระดับหน่วยงาน กลุ่มมวลชน และประชาชนทั่วไปผู้สนใจโดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางให้ครอบคลุมทั่วภาคใต้ ต่อไป

นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี รายงาน 0909535645


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top