Tuesday, 10 June 2025
TheStatesTimes

บางจากฯ กวาด 4 รางวัลใหญ่ อันทรงเกียรติจาก 3 เวที ตอกย้ำ!! ความแข็งแกร่งด้าน ‘ผลิตภัณฑ์-บริการ-แบรนด์’

(10 ธ.ค. 67) บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ย้ำความแข็งแกร่งด้านผลิตภัณฑ์ บริการและแบรนด์ จากรางวัลทรงเกียรติในปี 2567 รวม 4 รางวัล จาก 3 งานประกาศผลรางวัล ประกอบด้วย

1) รางวัลถ้วยพระราชทานในสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ 
สยามบรมราชกุมารี สาขาความเป็นเลิศด้านสินค้า/การบริการ (Product/Service Excellence) ในงานประกาศผลรางวัลพระราชทาน Thailand Corporate Excellence Awards 2024 จัดโดยสมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) และสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

2) รางวัล Superbrands Thailand 2024 จากแบรนด์บางจาก โดยแบรนด์ ‘บางจาก’ ได้รับรางวัล Superbrands Thailand ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 จากผลิตภัณฑ์ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูงของ ‘บางจาก ไฮ พรีเมียม 97’ น้ำมันเชื้อเพลิงคุณภาพสูง สูตรที่ดีที่สุดของบางจากฯ 

3) รางวัล Superbrands Thailand 2024 จากแบรนด์กาแฟอินทนิล โดยแบรนด์ ‘อินทนิล’ ได้รับรางวัล Superbrands Thailand ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ในฐานะแบรนด์กาแฟรักษ์โลกอันดับหนึ่งของประเทศไทย ที่มีความโดดเด่นในด้านการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสนับสนุนวิถีชีวิตที่ยั่งยืน ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘อินทนิล เพื่อคุณ เพื่อโลก’

4) รางวัล ‘แบรนด์สร้างแรงบันดาลใจ’ ระดับภูมิภาคเอเชีย โดยแบรนด์ “บางจาก” ได้รับรางวัล 
Asia Pacific Enterprise Awards (APEA) 2024 สาขา Inspirational Brand Award หรือ รางวัล ‘แบรนด์สร้างแรงบันดาลใจ’ ในกลุ่มอุตสาหกรรม Oil and Gas ที่ได้รับการยกย่องในด้านภาพลักษณ์และปรัชญาที่เป็นต้นแบบและสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อื่น เป็นองค์กรที่ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนควบคู่ไปกับความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม มาตลอดระยะเวลา 40 ปี ก้าวสู่ทศวรรษที่ 5 ด้วยแบรนด์ไอเดีย Greenovate to Regenerate: สมดุลธรรมชาติ สรรค์พลังไม่สิ้นสุด

นายเสรี อนุพันธนันท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจการตลาด บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “รางวัลต่าง ๆ ที่บางจากฯ ได้รับในปี 2567 นี้ถือเป็นความภาคภูมิใจและนับเป็นบทพิสูจน์ถึงความสำเร็จที่มาจากความมุ่งมั่นในการพัฒนาและยกระดับสินค้าและบริการของบางจากฯ เพื่อส่งมอบความสุขพร้อมประสบการณ์ที่แตกต่าง จนได้รับการยกย่องการันตีด้วยรางวัลอันทรงเกียรติ และเป็นรางวัลที่ได้รับอย่างต่อเนื่องในทุกปี ขอขอบคุณท่านผู้ประกอบการ คู่ค้า สมาชิกบางจากกรีนไมลส์ และลูกค้าทุกท่าน สำหรับทุกการสนับสนุน ความเชื่อมั่น และรางวัลจากทุกเวทีที่มอบให้กับบางจากฯ เราจะยังคงสร้างสรรค์ประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคทุกเพศทุกวัย พร้อมพัฒนาธุรกิจอื่น ๆ เพื่อรักษามาตรฐานคุณภาพการให้บริการควบคู่กันไป” 

‘อัครเดช’ ชี้!! ‘รวมไทยสร้างชาติ’ ชัดเจน ไม่แก้ระเบียบกลาโหม มอง!! กองทัพเป็นสถาบันหลัก แก้กฎหมาย จะกระทบถึงความมั่นคง

(10 ธ.ค. 67) นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีการเสนอร่าง พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม (ฉบับที่…) พ.ศ... ว่า

ในการเสนอร่างกฎหมายดังกล่าว ได้เคยมี สส.ฝ่ายค้าน ยื่นเรื่องร่างกฎหมายเพื่อจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม มาแล้วในสภาผู้แทนราษฎรแล้ว ซึ่งในขณะนั้น ทางคณะรัฐมนตรีได้รับไปพิจารณาแล้ว มีความเห็นว่าให้ชะลอไว้ก่อน โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปพิจารณาว่าการแก้ไขดังกล่าวเหมาะสมกับสถานการณ์หรือไม่อย่างไร เนื่องจากเป็นกฎหมายที่มีความสำคัญ มีความละเอียดอ่อน ส่งผลกระทบกับหลายภาคส่วน ในการเข้าไปแก้ไขเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบหรือกฎเกณฑ์ในกระทรวงกลาโหม จึงเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วน และที่สำคัญกองทัพถือเป็นสถาบันหลักของชาติที่เกี่ยวกับความมั่นคง จะต้องกระทำด้วยความรอบคอบ

ทางพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้เคยหยิบยกเรื่องนี้เข้ามาหารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร และ สส.ของพรรค ได้มีความมติในเบื้องต้นว่าไม่เห็นด้วยในการรับร่างของ พ.ร.บ. จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม ฯ ของพรรคก้าวไกล ในสมัยนั้น ซึ่งไม่เห็นด้วยในรายละเอียดหลายอย่าง โดยเฉพาะเรื่องการแก้ไขให้การเมืองเข้าไปแทรกแซงกองทัพโดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบของสภากลาโหมที่มีอำนาจในการแต่งตั้งตำแหน่งหลักในกองทัพและประเด็นอื่นๆอีก  ซึ่งในขณะนั้น พรรครวมไทยสร้างชาติไม่เห็นด้วย กับเสนอร่างกฎหมายของพรรคฝ่ายค้านที่เคยยื่นเข้ามา 

ดังนั้น ในกรณีการยื่นร่าง พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม (ฉบับที่…) พ.ศ... ของพรรคเพื่อไทย หากมีรายละเอียดที่มีความคล้ายคลึง กับ ร่างกฎหมายของพรรคฝ่ายค้านที่เคยยื่นมาแล้ว โดยให้การเมืองเข้าไปแทรกแซงกองทัพ พรรครวมไทยสร้างชาติ ขอยืนยันมติพรรคไม่เห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ. ฉบับดังกล่าว ซึ่งพรรครวมไทยสร้างชาติเห็นด้วยกับการทำให้กองทัพมีความโปร่งใสตรวจสอบได้ แต่ต้องไม่กระทบกับความมั่นคงโดยเฉพาะการให้การเมืองเข้าไปแทรกแซงกิจการของกระทรวงกลาโหม

กมธ. เตรียมสรุปมาตรการคุมบุหรี่ไฟฟ้าในไทยยันป้องกันเด็กและเยาวชน แต่ต้องไม่ริดรอนสิทธิในทางเลือกของผู้สูบบุหรี่

(10 ธ.ค. 67) โฆษก กมธ. วิสามัญพิจารณาศึกษากฎหมายและมาตรการควบคุมกำกับบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทย ย้ำศึกษากฎหมายบุหรี่ไฟฟ้าอย่างโปร่งใส พิจารณาข้อมูลจากทุกฝ่าย และใกล้สรุปรายงานฉบับสมบูรณ์เพื่อเสนอสภาฯ ภายในสิ้นเดือนธันวาคมนี้ เข้าใจสังคมและฝ่ายสุขภาพกังวลเรื่องเด็กใช้บุหรี่ไฟฟ้า ชี้ กมธ. เห็นปัญหาและต้องการแก้ไขอย่างรอบด้าน ไม่ผลักให้ผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นผู้กระทำผิดกฎหมาย

กรณีการจัดเวทีเสียงประชาชน รัฐบาลและรัฐสภารวมพลังคนไทยไม่เอาบุหรี่ไฟฟ้า เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา นายทศพร ทองศิริ อดีต ส.ส.กรุงเทพมหานคร ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการชี้แจงความคืบหน้าการทำงานของ กมธ. ว่า “คณะกรรมาธิการฯ เริ่มดำเนินงานตั้งแต่เดือนกันยายน 2566 โดยเชิญหน่วยงานภาครัฐ นักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญ ตัวแทนสมาคมแพทย์ และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งฝ่ายสนับสนุนและต่อต้านบุหรี่ไฟฟ้า มาร่วมแสดงความคิดเห็น มีการตั้งคณะอนุกรรมาธิการ 2 คณะ เพื่อพิจารณากฎหมายและรวบรวมข้อมูล ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนสรุปผลและจัดทำรายงาน รายงานฉบับดังกล่าวจะเสนอแนวทางแก้ไขปัญหา 3 ทางเลือก ได้แก่ 1) การคงการแบนบุหรี่ไฟฟ้าและผลิตภัณฑ์ยาสูบแบบใช้ความร้อน พร้อมเพิ่มมาตรการปราบปรามเข้มงวด 2) การคงการแบนบุหรี่ไฟฟ้าแต่ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบแบบใช้ความร้อน และ 3) การควบคุมผลิตภัณฑ์ทั้งสองแบบภายใต้กฎหมาย”
 
พร้อมเสริมว่า “การศึกษานโยบายบุหรี่ไฟฟ้าที่ผ่านมา มีการดำเนินงานอย่างโปร่งใส มีการพิจารณาข้อมูลจากทุกฝ่าย คณะกรรมาธิการประกอบด้วยสมาชิก 35 คน มาจากทั้งฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน ผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ ข้อกล่าวหาที่ว่าการทำงานของ กมธ. ถูกแทรกแซงโดยกลุ่มอุตสาหกรรมยาสูบจึงเป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง เป็นการกล่าวอ้างที่ไร้ความรับผิดชอบ กมธ. เห็นว่า วิธีที่ดีที่สุดในการศึกษาประเด็นต่างๆ คือการรวมความเห็นและข้อมูลจากทุกกลุ่ม เพื่อให้แน่ใจว่ารายงานจะครบถ้วน รอบด้าน สมบูรณ์ ดังนั้น การรวมมุมมองที่หลากหลาย รวมถึงมุมมองของผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า จึงเป็นส่วนสำคัญในการพิจารณานโยบายและกฎระเบียบที่เกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าอย่างสมดุล เหมาะสม และทั่วถึง”
 
นายทศพร ยังกล่าวถึงความกังวลเรื่องการใช้บุหรี่ไฟฟ้าในเยาวชนว่า “เรื่องนี้กำลังเป็นที่กังวลของคนในสังคม ซึ่ง กมธ. ยินดีรับฟังเสียงของประชาชน และเป็นหน้าที่ของเราที่ต้องแสวงหาแนวทางแก้ไขปัญหาที่รอบคอบและมีประสิทธิภาพ เราเข้าใจและรับฟังข้อเสนอของฝ่ายสุขภาพ แต่ก็ต้องพิจารณามิติในด้านอื่นให้รอบด้าน ไม่สามารถมองเฉพาะมิติด้านสุขภาพเพียงอย่างเดียวได้ ยกตัวอย่างเช่น มิติทางเศรษฐกิจ มิติทางสังคม มิติทางกฏหมายและการบังคับใช้ เป็นต้น เราดูทั้งบริบทในประเทศ และตัวอย่างจากประเทศที่ทั้งควบคุมให้ถูกกฎหมาย จึงอยากให้นำเรื่องนี้มาช่วยกันพิจารณาหาทางแก้ไขปัญหา แต่อยากให้ใช้กลไกของรัฐสภาในการพูดคุยกันอย่างมีเหตุผลมากกว่าที่จะผลักให้ผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้ากลายเป็นอาชญากรที่ทำผิดกฎหมาย

‘ศศิกานต์’ เชิญชวน!! คนไทยท่องเที่ยว ช่วงเทศกาล ส่งความสุข!! พร้อมดีลพิเศษ เพียงจองผ่านเว็บไซต์

(10 ธ.ค. 67) นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี    กล่าวว่า ขอเชิญชวนคนไทยเดินทางท่องเที่ยว ช่วงเทศกาลท่องเที่ยว นี้ ผ่านโครงการ ‘สุขทันที ปลายปีเที่ยวไทย’ มุ่งสร้างกระแสการเดินทางภายในประเทศช่วงปลายปี โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้เปิด www.สุขทันทีปลายปีเที่ยวไทย.com  ซึ่งรวบรวมที่พักชั้นนำจากทั่วประเทศในสไตล์ที่หลากหลายกว่า 200 แห่ง ให้สามารถเลือกโปรโมชั่นส่วนลดสุดพิเศษ  โดยจองผ่านเว็บไซต์ www.สุขทันทีปลายปีเที่ยวไทย.com  ซึ่งมีส่วนลดตั้งแต่ 15-35% และสามารถรับส่วนลดเพิ่มอีก 5-10% เมื่อจองผ่านเว็บไซต์นี้ ทำให้ได้รับส่วนลดสูงสุดถึง 45% สำหรับโรงแรมที่เข้าร่วมโครงการ มีหลากหลายระดับทั้งโรงแรมชั้นนำที่ได้รับรางวัล และโรงแรมเครือดังที่ไม่เคยลดราคามาก่อน

ผู้ที่สนใจจองห้องพักสามารถเลือกใช้ 2 วิธีง่ายๆ บนเว็บไซต์ www.สุขทันทีปลายปีเที่ยวไทย.com  ดังนี้

1.เลือกโรงแรมที่ชอบ จากนั้นระบบจะนำไปที่เว็บจองของโรงแรมนั้นโดยตรง กรอกรหัส ‘happynow’ เพื่อรับส่วนลดพิเศษทันที

2.กรอกรหัส ‘happynow’ บนเว็บของโรงแรมที่เลือก ระบบจะยืนยันผ่านอีเมลพร้อมเตรียมพร้อมสำหรับการเดินทาง

“ผู้สนใจสามารถจองได้ตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2567 - 31 มีนาคม 2568 และสามารถเข้าพักในโรงแรมหรือที่พักที่ได้ทำการจองไว้ได้ตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2567 – 31 มีนาคม 2568 ติดตามรายละเอียดและข้อมูลเพิ่มเติมที่ Facebook: Amazing ไทยแลนด์ หรือโทร 1672 Travel Buddy” นางสาวศศิกานต์ กล่าวทิ้งท้าย

‘ศักดา นพสิทธิ์’ อดีตตัวตึง!! ‘นักการเมืองฝีปากกล้า’ แห่งชลบุรี ถูกยิง!! หลังร้านข้าวต้ม โดยเด็กในร้าน คาดเหตุ!! ทะเลาะวิวาท

(10 ธ.ค. 67) เปรี้ยง…เสียงมัจจุราชคำรามขึ้นในย่ำรุ่ง ร่างของ ‘ศักดา นพสิทธิ์' ลงไปนอนกองอยู่กับพื้น ณ ลานจอดรถ ร้านข้าวต้มบางปะกง 3

คำว่าย่ำรุ่ง คือเวลา 05.30 น. เจ้าหน้าที่กู้ภัย พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เสม็ด รีบรุดไปยังที่เกิดเหตุ พบร่างของศักดานอนจมกองเลือดอยู่บริเวณหลังร้านข้าวต้ม ซึ่งเป็นลานจอดรถ ใกล้ๆกันพบปลอกกระสุน 9 มม.1ปลอก และกระสุนที่ยังไม่ได้ยิงอีกจำนวนหนึ่ง

ศักดา นพสิทธิ์ อดีตโฆษกเพื่อไทย-พ่อ ส.ส.พรรคประชาชน ชลบุรี ”วรรณิดา นพสิทธิ์“ ซึ่งศักดามีบทบาทสำคัญในการผลักดันให้ลูกสาวประสบความสำเร็จ เพราะศักดาทำกิจกรรมทางการเมืองในชลบุรีมายาวนาน และหลังชนะการเลือกตั้งก็ยังลงพื้นที่ทำกิจกรรมต่อเนื่อง ลงพบปะพี่น้องประชาชนดึกๆดื่นๆกว่าจะกลับบ้านพักผ่อน บางวันก็นอนชลบุรี บางวันนอนกรุงเทพ

นายศักดา นพสิทธิ์ ปัจจุบันอยู่ในวัยเกษียณ อายุ 61 ปี อดีตเคยเป็นเลขานุการ รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โฆษกฝีปากกล้าของพรรคเพื่อไทยมาก่อน ถ้ากล่าวถึงศักดา นักศึกษากิจกรรมการเมืองช่วงปี 25-28 คงรู้จักศักดาดี

ศักดาเข้ามาเรียนรามคำแหงปี 2525 ก็เริ่มเข้ามาสัมผัสกับกลิ่นไปของกิจกรรมทางการเมืองกับพรรคนักศึกษา 7 คณะ พรรคนักศึกษาระดับหัวก้าวหน้า ปี 2527 ศักดาลงสมัครเป็นสมาชิกสภานักศึกษา อศ.มร.และได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภานักศึกษา ในสมัยที่ ‘วันเลิศ กิตติธรกุล’ เป็นนายกองค์การนักศึกษา มร.

ในรุ่นไล่ๆกับกับศักดา ก็จะมี ‘นิกร จันพรม’ เจริญลักษณ์ เพ็ชรประดับ เป็นต้น หรือรุ่นไล่ขึ้นมาข้างบนหน่อยก็จะเป็น ‘ละม้าย เสนขวัญแก้ว’ อดีตประธานสภานักศึกษา มร.ปี 26 หรือ ‘นัดมุดดิน อูมาร์’ อดีต สส.นราธิวาส และอีกหลายๆคนที่ไม่อาจเอ่ยชื่อได้หมด

‘ศักดา’ เรียนจบนิติศาสตร์ แต่ด้วยความที่สนใจการเมืองมาตั้งแต่ต้น เมื่อเดินพ้นรั้วรามคำแหง ก็ไม่มีกำแพงใดกีดกั้น การเมืองคือวิถี ศักดากระโดนเข้าสู่เวทีการเมืองอย่างไม่ลังเล แต่ในวิถีของการเลือกตั้งศักดายังไม่ประสบความสำเร็จ แต่ก้าวขึ้นไปเป็นโฆษกพรรคเพื่อไทย และเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพย์ พร้อมผลักดันให้ลูกสาวในวัยจบเผาะ ก้าวขึ้นเป็น สส.ชลบุรี พรรคประชาชน สมใจนึก

ช่วงระยะหลังศักดาผันตัวเองมาเป็นนักวิเคราะห์ทางการเมืองในทุกสถานการณ์แบบทันต่อเหตุการณ์ ทีวีหลายช่องก็เชิญมากขึ้น เริ่มติดชาร์ดนักวิเคราะห์การเมือง แต่การที่ศักดาโดนยิง เสี่ยวแรกของการฉุกคิด ต้องพุ่งปมไปสู่การเมือง แต่ข้อเท็จจริงน่าจะไม่ใช่ ลูกสาวที่เป็น สส.ก็บอกว่าไม่ใช่ปมการเมือง

ในทางการสอบสวน สืบสวนของตำรวจ พบว่าผู้ก่อเหตุเป็นเด็กในร้านข้าวต้ม เมาแล้วทะเลาะกับแฟนสาว ก่อนจะไปทะเลาะกับเด็กในร้านข้าวต้มคนอื่นๆ และลามมาถึงแขกในร้าน

จากพยานแวดล้อมไม่น่าจะยากในการติดตามจับกุมคนร้ายมาลงโทษ เพราะอาชญากรได้ทิ้งพยาน หลักฐานไว้มากมายในการก่ออาชญากรรม

‘THE STATES TIMES’ ก้าวสู่ปีที่ 5

‘THE STATES TIMES’ ก้าวสู่ปีที่ 5 ด้วยความมุ่งมั่นในการเป็นสื่อที่คนรุ่นใหม่ไว้วางใจ 📰
📅 12 ธันวาคม 2567
มาร่วมสร้างแรงบันดาลใจในงานเสวนาที่จะพาคุณก้าวข้ามความท้าทาย สู่อนาคตที่สดใส

✨ ปาฐกถาพิเศษจากรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีชั้นนำ
✨ วิสัยทัศน์ด้านพลังงาน อุตสาหกรรม และเศรษฐกิจดิจิทัล

สนใจลงทะเบียนร่วมงาน คลิกเลย 👉 https://docs.google.com/forms/d/e/1FAIpQLSdcIJhjLXtJ95Qd5-C3f53qm5MuVsKITj5Nfs5bh_73LEBfAA/viewform

🎉 พรุ่งนี้เจอกัน! 🎉

‘THE STATES TIMES’ ครบรอบ 4 ปี พร้อมพาคุณเข้าสู่โลกของโอกาสและการเปลี่ยนแปลงในงานเสวนาสุดพิเศษ

📅 12 ธันวาคม 2567
📍 SCBX NEXT TECH, สยามพารากอน
⏰ เริ่มลงทะเบียนตั้งแต่ 13 : 00 น.

✨ เพราะอนาคตของประเทศไทยเริ่มต้นที่มุมมองของวันนี้!
สนใจเข้าร่วมงาน ลงทะเบียนได้ที่นี่ 👉https://docs.google.com/forms/d/e/1FAIpQLSdcIJhjLXtJ95Qd5-C3f53qm5MuVsKITj5Nfs5bh_73LEBfAA/viewform

‘Matthew De Meritt’ หนึ่งในผู้ที่ทำให้ ‘E.T.’ มีชีวิต โลดแล่นบนแผ่นฟิล์ม จากเด็กชายวัย 12 ปี ซึ่งเกิดมาไม่มีขา สู่นักแสดงหนังในตำนานของ Spielberg

E.T. (the Extra-Terrestrial หรือ E.T.) เป็นภาพยนตร์วิทยาศาสตร์อเมริกันออกฉายในปี 1982 สร้างและกำกับโดย Steven Spielberg เขียนบทโดย Melissa Mathison ภาพยนตร์เรื่องนี้บอกเล่าเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่าง Elliott Taylor เด็กชายผู้มีเพื่อนเป็นมนุษย์ต่างดาวที่เรียกว่า E.T. ซึ่งถูกทิ้งไว้บนโลก Elliott พร้อมกับเพื่อนและครอบครัวของเขาต้องหาวิธีช่วยให้ E.T. หาทางกลับบ้าน ภาพยนตร์เรื่องนี้นำแสดงโดย Dee Wallace, Henry Thomas, Peter Coyote, Robert MacNaughton และ Drew Barrymore

แรงบันดาลใจและการสร้างสรรค์ ‘E.T.’ ภาพยนตร์วิทยาศาสตร์เรื่องนี้ มาจากการที่พ่อแม่ของ Spielberg หย่าร้างในปี 1960 Spielberg ได้เติมเต็มความว่างเปล่าในจิตใจด้วยเพื่อนมนุษย์ต่างดาวในจินตนาการที่เขาเล่าในภายหลังว่า "เพื่อนที่อาจเป็นพี่ชายที่ Spielberg ไม่เคยมี และเป็นพ่อที่ Spielberg ไม่รู้สึกว่า มีอีกต่อไป" Spielberg ได้เล่าแนวคิดเรื่อง Buddy มนุษย์ต่างดาวที่เป็นมิตรเพียงคนเดียวที่เป็นเพื่อนกับเด็กให้ Melissa Mathison ผู้เขียนบท ในฉากสุดท้ายของบทภาพยนตร์ Buddy ถูกทิ้งไว้บนโลกได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดแนวคิดเรื่อง E.T. ในเวลาไม่ถึงสองเดือน Mathison เขียนร่างแรกของบทภาพยนตร์ที่มีชื่อว่า E.T. and Me ซึ่งต้องเขียนใหม่ถึงสองครั้ง แต่เรื่องนี้ถูกปฏิเสธโดย Columbia Pictures ซึ่งสงสัยในศักยภาพเชิงพาณิชย์ของภาพยนตร์เรื่องนี้ แต่ในที่สุด Universal Pictures ก็ได้ซื้อบทภาพยนตร์นี้ในราคา 1 ล้านเหรียญสหรัฐ

การถ่ายทำภาพยนตร์วิทยาศาสตร์เรื่องนี้ใช้เวลาตั้งแต่เดือนกันยายนถึงธันวาคม 1981 ด้วยงบประมาณ 10.5 ล้านเหรียญสหรัฐ แตกต่างจากภาพยนตร์ส่วนใหญ่ E.T. 0tถ่ายทำตามลำดับเวลาคร่าว ๆ เพื่อให้ทีมนักแสดงรุ่นเยาว์สามารถแสดงอารมณ์ได้อย่างดีที่สุด เทคนิคที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหว (Animatronics) ของ E.T. และตัวละครอื่น ๆ ของภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับการออกแบบโดย Carlo Rambaldi ผู้เชี่ยวชาญด้านเอฟเฟกต์พิเศษและการแต่งหน้าชาวอิตาลี ผู้ซึ่งออกแบบมนุษย์ต่างดาวสำหรับภาพยนตร์มาแล้วมากมาย 

ภาพร่างของ E.T. นั้น Rambaldi ได้ออกแบบให้คอสามารถยืดและหดได้โดยไม่เหมือนใคร ใบหน้าของ E.T. ได้รับแรงบันดาลใจจากใบหน้าของ Carl Sandburg, Albert Einstein และ Ernest Hemingway ศีรษะของ E.T. 4 หัวถูกสร้างขึ้นสำหรับการถ่ายทำ หัวหนึ่งเป็น Animatronics หลัก และอีกหัวสำหรับการแสดงออกทางสีหน้ารวมถึงเครื่องแต่งกาย ทีมนักเชิดหุ่นควบคุมใบหน้าของ E.T. ด้วย Animatronics จากคนแคระ 2 คน Tamara De Treaux และ Pat Bilon รวมถึง Matthew De Meritt เด็กชายวัย 12 ปี ซึ่งเกิดมาโดยไม่มีขา โดยผลัดกันสวมชุดดังกล่าวขึ้นอยู่กับฉากที่ถ่ายทำ De Meritt เดินด้วยมือในทุกฉากที่ E.T. เดินอย่างเก้ ๆ กัง ๆ หรือหกล้ม หุ่น E.T. นี้สร้างขึ้นภายในสามเดือนด้วยเงิน 1.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

Matthew De Meritt ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนักแสดงที่ช่วยให้ ET ได้รับความนิยม ตลอดระยะเวลา 40 ปีนับตั้งแต่ภาพยนตร์ออกฉาย เขาแทบไม่ได้เปิดเผยตัวตนเลย แต่ในบทสัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ The Mirror ของอังกฤษเมื่อปี 2002 เพื่อเป็นการฉลองครบรอบ 20 ปีของภาพยนตร์ เขาได้อธิบายว่า เหตุใดเขาจึงได้รับบทนี้ ขณะนั้น De Meritt อายุราว 11-12 ปี ซึ่งไม่มีขาตั้งแต่เกิด และกำลังเข้ารับการกายภาพบำบัดที่ศูนย์การแพทย์ UCLAในมลรัฐแคลิฟอร์เนีย เขาได้รับการติดต่อให้ทำการทดสอบหน้ากล้อง “มีการลองชุดและพวกเขาวัดขนาดของผมทั้งหมด และถ่ายวิดีโอที่ผมใช้มือช่วยเดิน” เขาบอกว่า “ผมไม่แน่ใจว่าพวกเขาคิดอะไรอยู่ตอนที่พาผมไปที่นั่น” เขากล่าวเสริม “ผมไม่เคยแสดงให้ใครเห็นว่า ผมเดินได้ด้วยมือ และผมไม่เห็นว่าพวกเขาคิดว่า ผมสามารถใส่ชุดคอสตูมเดินไปมา และแสดงเป็นมนุษย์ต่างดาวได้อย่างสบายๆ ได้อย่างไร แต่สุดท้ายมันก็ออกมาแบบนั้น

แม้ว่าผู้ชมจะไม่เห็นตัว De Meritt เลย แต่น่าจะจำฉากหนึ่งของเขาได้ นั่นคือตอนที่ E.T. ดื่มเบียร์ “ตอนนั้นอากาศร้อนมาก แล้ว Spielberg ก็เดินมาหาผมแล้วถามว่า เป็นอย่างไรบ้าง จากนั้นเขาก็ต้องการให้แน่ใจว่า ผมจะไม่บาดเจ็บ และก็พูดว่า มีทางไหนที่คุณจะเดินตรงเข้าไปในตู้ตรงนั้น หกล้มก้นจ้ำเบ้าแล้วลุกขึ้น หันหลังแล้วล้มหน้าฟาดพื้นในตอนจบได้หรือเปล่า” De Meritt เล่าให้ The Mirror “ฉากไหนก็ตามที่พวกเขาอยากให้ E.T. หกล้ม พวกเขาจะให้ De Meritt แสดงโดยสวมชุดที่ทำจากยาง และฉีดสารอะไรบางอย่างลงไปเพื่อให้มันดูเหนียว” De Meritt อธิบาย “มีรอยแยกตรงหน้าอกให้ผมสามารถมองออกไปได้ และส่วนหัวก็วางอยู่บนศีรษะของผมอีกที” นอกจาก De Meritt แล้ว Tamara De Treaux และ Pat Bilon นักแสดงผู้ล่วงลับซึ่งทั้งคู่มีภาวะคนแคระก็ได้รับเครดิตในการเป็นส่วนหนึ่งในความสำเร็จของภาพยนตร์ E.T. เช่นกัน 

ด้วยทุนในการสร้าง 10.5ล้านเหรียญ ภาพยนตร์ E.T. สามารถทำรายได้ใน Box Office ได้ถึง 792.9ล้านเหรียญ ไม่รวมรายได้จากลิขสิทธิ์ของที่ระลึก หนังสือ VDO game และ ET Adventure เครื่องเล่นในสวนสนุก Universal Studios ฯลฯ อีกมากมาย 

‘ซูบารุ ประเทศไทย’ ยัน!! ยังขายรถนำเข้าจาก ‘ญี่ปุ่น’ โดยจะชัดเจนในปีหน้า ลั่น!! จะดำเนินคดีตามกฎหมาย กับผู้ที่สร้างข่าวปลอม นำเข้าข้อความเท็จ

(10 ธ.ค. 67) บริษัท ทีซี ซูบารุ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจจำหน่ายรถซูบารุในประเทศไทย ได้โพสต์ข้อความ ระบุว่า ...

บริษัท ทีซี ซูบารุ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจจำหน่ายรถซูบารุในประเทศไทย ได้ถูกกล่าวพาดพิงถึงในเชิงที่สร้างความเสียหายแก่ธุรกิจว่ามีการเลิกจ้างพนักงาน โดยผู้เผยแพร่มิได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกับบริษัทฯ

ซูบารุ ประเทศไทย ขอยืนยันอีกครั้งว่า “ยังคงดำเนินธุรกิจจำหน่ายรถยนต์ในประเทศไทย” ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา ได้แจ้งแก่สาธารณชนแล้วว่าจะปรับเปลี่ยนจากการจำหน่ายรถผลิตในประเทศไปจำหน่ายรถนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น โดยมีแผนการนำเข้ารถอย่างชัดเจนในปีหน้า 

กระนั้น ยังคงมีเพจที่เผยแพร่ข่าวปลอม ซึ่งซูบารุจะดำเนินการทางกฏหมายอย่างถึงที่สุด ในคดีการนำเข้าข้อความอันเป็นเท็จตามพรบ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 กับเพจดังกล่าวนี้

หากไม่ทำการแก้ข่าว และลงแถลงการณ์ขอโทษต่อบริษัทฯ ในรูปแบบและช่องทางเดียวกันกับที่เผยแพร่ข้อความอันเป็นเท็จ และขอขอบคุณเพจที่ได้แก้ไขแล้วมา ณ ที่นี้

Sema Loveking

Siam Drama Addict

นิวส์ชลบุรี-ระยอง ออนไลน์

Kapook

EV Thailand รถยนต์ไฟฟ้า

Theinsight

BizpromptinfoFanpage

Tiger Black

นิคมอุตสาหกรรม 304 ปราจีนบุรี

ของดีประเทศไทย

บางกอก ทูเดย์

มนุษย์โรงงาน

แก้หนี้มาหาพี่น้อย

‘ทนายวันชัย’ โพสต์ข้อความเตือน!! รัฐบาล ให้ออกมาชี้แจง คลายความสับสน อย่ารอให้!! ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย อย่างสมัย ‘รัฐบาลทักษิณ’ ที่ชะล่าใจ

(10 ธ.ค. 67) นายวันชัย สอนศิริ อดีตสมาชิกวุฒิสภา (สว.) โพสต์เฟซบุ๊กว่า กระบอกเสียงหรือกระบอกเสีย รัฐบาล

คำหนึ่งก็ขายชาติ คำหนึ่งก็เสียดินแดน คำหนึ่งก็ขัดพระบรมราชโองการ คำหนึ่งก็ทักษิณกับฮุนเซนแบ่งผลประโยชน์กัน คนที่เกลียดทักษิณก็พลอยเฮโลกันไปใหญ่ คนที่ไม่รู้เรื่องก็อะไรกันวะ... แต่จะประมาทเกี่ยวกับเรื่องแบบนี้ไม่ได้ เพราะสมัยรัฐบาลทักษิณก็เคยโดนเรื่องที่คิดว่าไม่เป็นเรื่องมาแล้ว ถึงขนาดชุมนุมประท้วงขับไล่ปฏิวัติรัฐประหาร ก็เพราะคิดว่าไม่มีอะไรนี่แหละ มันบานปลายจนมีอะไร

ขบวนการที่ไม่เอาทักษิณเขาเริ่มก่อตัวปล่อยข่าวว่าขายชาติ เสียดินแดน แบ่งผลประโยชน์กัน มันเรื่องใหญ่นะ แต่ฝ่ายรัฐบาลที่มีบุคลากรและเครื่องไม้เครื่องมือเต็มไปหมด กลับไม่ค่อยมีข่าวหรือให้ข้อมูลในเรื่องนี้มากนัก เหมือนจะเงียบกริบไปเสียด้วย ในขณะที่ข้อมูลอีกฝ่ายหนึ่งแรงกว่าและก็ดังกว่า ทั้งที่ฝ่ายรัฐบาลพร้อมทุกๆด้าน กลับดูเหมือนจะสู้เขาไม่ได้ และคนที่จะออกมาพูดแล้วทำให้รู้เรื่องเข้าใจและน่าเชื่อถือยังไม่มีเลย เป็นเพราะอะไรไม่รู้ คนจากทำเนียบรัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศที่น่าจะให้ข้อมูลได้ดี ชี้แจงแถลงก่อให้เกิดความเข้าใจได้ กลับหายหัวไปไหนกันหมด ปล่อยให้นายกอึกๆอักๆ เก้ๆกังๆอยู่ได้...ผมแปลกใจมาก

หรือจะรอให้ประวัติศาสตร์มันซ้ำรอย...ที่รัฐบาลทักษิณเคยได้รับบทเรียนสาหัสสากรรจ์มาแล้วนั้น ยังไม่พออีกหรือ....


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top