Saturday, 17 May 2025
TheStatesTimes

'หมอปลาย' ผ่าดวงประเทศปี 67 อาการหนัก แนะไหว้สายพระ ละสายผี พร้อมส่องชะตา 'พิธา' ชี้!! ควรหางานอื่นทำ เชื่อ!! งานการเมืองฟุบยาว

(24 พ.ย. 66) รายการ ‘คนดังนั่งเคลียร์’ ออกอากาศเมื่อวันที่ 23 พ.ย. 66 ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 ได้เชิญ ‘หมอปลาย พรายกระซิบ’ มาร่วมพูดคุยทิศทางดวงประเทศในปีหน้า จะดีขึ้นกว่าเดิมหรือไม่ พร้อมขอเปิดดวงธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จะสามารถกลับมาเปรี้ยงดังในแวดวงการเมืองอีกครั้งได้หรือไม่

>> ใกล้สิ้นปีนี้จะมีภาคไหนของประเทศไหม เราต้องเฝ้าระวัง?

ถ้าสิ้นปีนี้ยังไม่เจอค่ะ แต่จะมีเรื่องของแผ่นดินไหวที่มาเพิ่มอีก แต่น่าจะเป็นขอบทางเหนือมากกว่าที่จะแรงขึ้นจากครั้งที่ผ่านมา หนักกว่าเดิมค่ะ แต่ถ้าถามว่ามันจะรอยแยก แตก น้ำทะลักไหม ไม่ใช่ค่ะ อาจจะเป็นรอยร้าวที่ซ่อมได้ แก้ไขได้ อยากจะบอกว่าพี่น้องคนไทยต้องระวังขนาดนั้นไหม ไม่น่ากลัวขนาดนั้นค่ะ แต่อยากให้ระวังเรื่องของการท่องเที่ยว ไฟ และคนที่อยู่รวมกันมากๆ แล้วเกิดอุบัติเหตุจากไฟค่ะ

>> ปีหน้ามีโรคอะไรที่จะต้องระวังไหมคะ?

เกี่ยวกับสัตว์ปีกต้องระวังค่ะ

>>คุณพิธาจะได้กลับเข้าสภาไหมคะ?

ไม่ค่ะ น่าจะอดระยะยาวค่ะ

>>น่าจะไปหางานอื่นทำเหรอคะ?

ใช่ค่ะ น่าจะต้องไปโชว์ความหล่อ และความเก่งที่อื่นดีกว่า ทำธุรกิจดีกว่า

>>ดวงคุณธนาธรเป็นอย่างไรคะ?

ดวงดีขึ้นอย่างชัดเจน ระหว่างเพื่อน 2 คน ก็น่าจะคุยกัน แล้วน่าจะมีอะไรที่ไม่เข้าใจกันหลายอย่าง แต่คุณธนาธร เราจะเห็นท่านกลับมา มากกว่าเดิม และน่าจะมีบทบาททางการเมืองมากขึ้น

>>ปีหน้า 2567 ท่านยมมีอะไรจะมาตักเตือนเราไหมคะ?

ปีหน้าเป็นปีที่ยังมีเรื่องของคนที่มีสี มีบ่าแข็ง ยังขึ้นมามีอิทธิพลอยู่ เราอาจจะไม่ได้เห็นเบื้องหน้า แต่จะได้เห็นเบื้องหลัง เพราะฉะนั้นในเรื่องของการบริหารจัดการปากท้องของพวกเรา อาจจะมีปัญหาพอสมควร คือมันเป็นช่วงที่เขาก็ทำหน้าที่ของเขา และเราก็ต้องช่วยเหลือตัวเอง อีกอย่างนึงต้องระวังเรื่อง อากาศ และดินมีปัญหา ทำให้ของที่ปลูกจากดินแพงขึ้น หรือทานยาก จะอันตรายค่ะ

>>อาหารการกินปีหน้าไม่ดี?

ใช้คำว่า ลำบากค่ะ ต้องใช้อาหารจำพวกแช่แข็งค่อนข้างเยอะ ใครที่ทำเรื่องเกษตรกรต้องระวังให้ดี

>>สรุปเลยแล้วกันปี 2566 กับ 2567 ปีไหนแย่กว่ากัน?

ปีหน้าค่ะ

>>มีวิธีทางแก้ไหม?

เดือนมกราคม เดือนกุมภาพันธ์ อยากให้ไหว้สายพระกันเยอะ ๆ สายขาวเลย หรือสายเทพเท่านั้น ไม่เทพหลอกลวง ห้ามเน้นของที่เป็นผี แล้วรอดูว่าช่วงกุมภาพันธ์ มีนาคม มีการเปลี่ยนแปลงที่ช่วงข้างบนสลับกัน มีปัจจัยช่วงนั้นค่ะ ขอให้ท่านคุ้มครองประเทศเรา คุ้มครองเรา และกันคนที่คิดไม่ดีกับเราในช่วงนั้น

'เจ๊ไฝ' จับมือ Shin Ramyun รามยอนชื่อดังแห่งเกาหลีใต้ ส่งรามยอนต้มยำกุ้ง ดันอาหารไทยโกอินเตอร์ไปอีกขั้น

ในโลกออนไลน์แห่แชร์ภาพ Shin Ramyun รามยอนชื่อดังในประเทศเกาหลีใต้ ได้คอลแลบกับ ‘เจ๊ไฝ’ เชฟชาวไทยเจ้าของร้านสตรีตฟู้ดระดับ 1 ด้วยรสชาติใหม่ ‘ต้มยำกุ้ง’

โดยเมื่อวันที่ 6 ก.ย. ในโลกออนไลน์แห่แชร์ภาพ Shin Ramyun รามยอนชื่อดังในประเทศเกาหลีใต้ ได้มีการคอลแลบกับ ‘เจ๊ไฝ’ เชฟชาวไทยเจ้าของร้านสตรีตฟู้ดระดับ 1 ดาวมิชลินที่โด่งดังไปทั่วโลกออกมาด้วยรสชาติใหม่ ‘ต้มยำกุ้ง’ และยังไม่ได้เปิดตัวออกมาอย่างเป็นทางการในตอนนี้

สำหรับ รามยอน คือ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของเกาหลี เมนูอาหารประเภทเส้น ที่นำไปต้มในน้ำร้อน เพียงเติมซอสและผงน้ำซุป ก็สามารถกินได้ง่าย ๆ โดยสามารถเติมเนื้อสัตว์และผักประเภทต่าง ๆ ลงไปได้ด้วย นอกจากนี้ ซีรีส์หลายเรื่องที่มักมีฉากอาหารเกาหลี รวมถึงภาพการกินรามยอนของศิลปินไอดอลชื่อดัง จนกลาย Soft Power (อำนาจอ่อน) ของเกาหลีใต้ ได้ส่งผลให้วัฒนธรรมอาหาร ‘รามยอน’ เป็นที่รู้จักและเผยแพร่ไปทั่วโลก

โดย Shin Ramyun คอลแลบกับ ‘เจ๊ไฝ’ จะมีด้วยกันทั้งหมด 2 รสชาติ คือ ต้มยำกุ้ง แล้วต้มยำกุ้งผัดแห้ง โดยจะมีจำหน่ายเฉพาะประเทศไทย ในระยะแรกจะเริ่มวางจำหน่ายที่ 7-Eleven โลตัส แม็คโคร และจะมีการขยายช่องทางจำหน่ายอื่น ๆ เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงได้มากขึ้นในอนาคต พร้อมตั้งเป้ายอดขายปีหน้า 3.5 พันล้านบาท

ส่วนร้าน ‘เจ๊ไฝ’ เป็นร้านอาหารประเภทสตรีตฟู้ดเพียงแห่งเดียวที่ได้รับดาวจากมิชลิน โดยได้รับรางวัล 1 ดาว ตามมาตรฐานของมิชลินไกด์ และมีหลายเมนูที่ขึ้นชื่อ เช่น ไข่เจียวปู, ราดหน้าทะเล เป็นต้น จุดเด่นของร้านคือการปรุงอาหารด้วยเตาถ่าน และชื่อของ ‘เจ๊ไฝ’ นั้นโด่งดังในเกาหลีใต้จริง ๆ เพราะดาราและไอดอลเกาหลีหลายคนมากินร้านเจ๊ไฝกันอยู่บ่อยครั้ง

‘มวยไทย’ ยกทัพเยือน ‘ฮ่องกง’ หนุนซอฟต์พาวเวอร์ไทยสู่ระดับโลก พร้อมโชว์ลีลาเด็ดในงานดวลหมัด ‘อีสต์ เอเชียน มวยไทย แชมเปียนชิป’

(24 พ.ย. 66) การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.), กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ (NSDF), คณะกรรมการกีฬามวย, สมาคมกีฬามวยไทยสมัครเล่นแห่งประเทศไทยฯ, สมาคมกีฬามวยอาชีพแห่งประเทศไทย และสหพันธ์สมาคมมวยไทยนานาชาติ (IFMA) ร่วมกันจัดโครงการประชาสัมพันธ์ และเผยแพร่ศิลปะมวยไทยสู่ต่างประเทศ พร้อมกับจัดการแข่งขันรายการ ‘อีสต์ เอเชียน มวยไทย แชมเปียนชิป 2023’ โดยมีนักมวยไทยจาก 9 ชาติ จากภูมิภาคเอเชียตะวันออก ร่วมขึ้นสังเวียนชิงชัย ที่ควีน อลิซาเบธ สเตเดียม เขตปกครองพิเศษฮ่องกง สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 23-26 พฤศจิกายน 2566 ซึ่งเป็นซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศไทยให้เผยแพร่ไปสู่ระดับนานาชาติ และกำหนดมาตรฐานมวยไทย ‘One Standard Muaythai’ (OSM) นำโดย ดร.ปัญญา หาญลำยวง คณะกรรมการติดตามการใช้จ่ายงบประมาณของกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ รวมทั้ง ดร.เช้า วาทโยธา ครูมวยไทยนานาชาติชื่อดัง และ ‘กัปปิตัน เพชรยินดีอะคาเดมี’ อนึ่ง คัฒมารศรี ยอดนักมวยไทยชื่อดัง และคณะ ร่วมเปิดคลินิกสอนทักษะมวยไทยให้กับผู้เข้ารับการอบรมทั้งภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติ ซึ่งได้รับการตอบรับจากชมรม และสมาคมกีฬามวยไทยแห่งฮ่องกง ส่งนักกีฬามวยไทยเข้าร่วมอย่างคึกคัก

โครงการเผยแพร่ศิลปะมวยไทยสู่ต่างประเทศ จัดขึ้นเพื่อประชาสัมพันธ์กีฬามวยไทย ซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศไทย ส่งเสริมให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายยิ่งขึ้นในฮ่องกง โดยจะเป็นการส่งเสริมอุตสาหกรรมมวยไทยสู่นานาชาติอย่างครบวงจร และสามารถต่อยอดสินค้ามวยไทยสู่ต่างประเทศได้อย่างแพร่หลาย ทั้งในรูปแบบสินค้า และบริการด้านมวยไทยได้อย่างเป็นรูปธรรม รวมทั้งส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม อันเป็นอัตลักษณ์ของความเป็นไทยสู่ฮ่องกง ส่งเสริมความนิยมไทย และความเป็นไทยให้เป็นที่รู้จักทุกภูมิภาคของโลก โดยสามารถต่อยอดไปสู่การท่องเที่ยว การค้าการลงทุนในประเทศไทย และอาหารไทย

โครงการดังกล่าวจัดขึ้นตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ซึ่งได้ให้ความสำคัญกับการกีฬา และนันทนาการบนพื้นฐานวิทยาศาสตร์การกีฬา เพื่อเป็นเครื่องมือในการส่งเสริมพัฒนากีฬา พัฒนาทรัพยากรมนุษย์ พัฒนาคุณภาพชีวิต สร้างชื่อเสียง และเกียรติภูมิของประเทศ รวมถึงการส่งเสริมอุตสาหกรรมกีฬา การท่องเที่ยวเชิงกีฬาเพื่อสร้างคุณค่า และมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศไทย

ดังนั้น สมาคมกีฬามวยอาชีพแห่งประเทศไทยที่มีบทบาทหน้าที่ในการดำเนินกิจกรรมกีฬามวยอาชีพในการส่งเสริม และเผยแพร่กีฬามวยไทยอาชีพให้เป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ รวมทั้งการส่งเสริมอุตสาหกรรมมวยไทยทั้งในรูปแบบสินค้า และบริการเพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจด้วยธุรกิจอุตสาหกรรมมวยไทย สร้างรายได้ให้บุคลากรมวยไทย จึงจัดโครงการเผยแพร่ศิลปะมวยไทยในประเทศฮ่องกง ขึ้นเพื่อนำกีฬามวยไทยไปเผยแพร่ และยังเป็นการเชื่อมความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น

กิจกรรมที่เขตปกครองพิเศษฮ่องกง แบ่งออกเป็น กิจกรรมในช่วงเช้าเป็นการจัดเวิร์กชอปเปิดคลินิกสอนทักษะมวยไทยให้กับผู้เข้ารับการอบรมทั้งภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติ โดย ดร.เช้า วาทโยธา ครูมวยไทยนานาชาติชื่อดัง และ ‘กัปปิตัน เพชรยินดีอะคาเดมี’ อนึ่ง คัฒมารศรี นักมวยไทยชื่อดัง ร่วมติวเข้มทักษะแม่ไม้มวยไทยให้กับผู้เข้ารับการอบรม จากนั้นในช่วงเย็นเป็นพิธีเปิดการแข่งขัน ‘อีสต์ เอเชียน มวยไทย แชมเปียนชิป 2023’ อย่างเป็นทางการ โดยมี ‘สเตฟาน ฟ็อกซ์’ เลขาธิการสหพันธ์สมาคมมวยไทยนานาชาติ (IFMA) พร้อมด้วย ปุย ควาน เกย์ ประธานกิตติมศักดิ์ สมาคมกีฬามวยไทยแห่งฮ่องกง, ซิน ลัม ยุก ประธานสมาคมกีฬามวยไทยแห่งฮ่องกง, ตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวกับกีฬาของฮ่องกง และนักกีฬามวยไทย 9 จากชาติที่เข้าร่วมชิงชัย ประกอบด้วย บังกลาเทศ, อินเดีย, เกาหลีใต้, มองโกเลีย, มาเก๊า, ญี่ปุ่น, ไต้หวัน, จีน และฮ่องกง เจ้าภาพ เข้าร่วมในพิธีเปิด

พิธีเปิดการแข่งขันได้มีการแสดงศิลปะแม้ไม้มวยไทยโบราณ จากคณะลานนาไฟท์ติ้งมวยไทย นำโดย ‘ครูดิน’ นายวิทวัส ค้าสม นำคณะนักมวยไทยไปโชว์อัตลักษณ์มวยไทยที่เป็นศิลปะการต่อสู้ประจำชาติไทย รวมทั้งการแสดงคีตะมวยไทย จากทีมมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตเพชรบูรณ์ ทีมชนะเลิศจากการแข่งขันมวยไทยสมัครเล่นเยาวชนชิงแชมป์ประเทศไทย ประจำปี 2566 ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมงานสุดตื่นตาตื่นใจ

สำหรับ ฮ่องกง ถือเป็นหนึ่งในมหาอำนาจมวยไทยของเอเชีย และเป็นหนึ่งในสมาชิกผู้ก่อตั้งสหพันธ์สมาคมมวยไทยนานาชาติ (IFMA) ได้จัดการแข่งขันรายการ ‘อีสต์ เอเชียน มวยไทย แชมเปียนชิป 2023’ ที่ควีน อลิซาเบธ สเตเดียม ซึ่งถือเป็นการแข่งขันมวยไทยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในมวยไทยสมัยใหม่ และยิ่งใหญ่ที่สุดที่จัดขึ้น ณ ฮ่องกง หลังจากรอคอยมา 3 ปี โดยจะเป็นการช่วยส่งเสริมมวยไทยให้ได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้นในภูมิภาคเอเชียตะวันออก รวมถึงการต่อสู้ และองค์ประกอบดั้งเดิม และการไหว้ครูมวยไทย

สรุปผลการแข่งขันรายการ ‘อีสต์ เอเชี่ยน มวยไทย แชมเปียนชิป 2023’ รอบแรก ดังนี้

รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 45 กก.หญิง ‘นามูอูนา อาร์เดเนบายาร์’ (มองโกเลีย) ชนะอาร์เอสซียก 2 ‘ทิเคสชวารี ซาฮู’ (อินเดีย)

รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 48 กก.หญิง ‘เพียว ลิง อึน’ (ฮ่องกง) ชนะคะแนน ‘อูรานกู โอดอนทูยา’ (มองโกเลีย)

รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 51 กก.หญิง ‘ยูริกะ จิมโป’ (ญี่ปุ่น) ชนะคะแนน ‘หลิว ซินเหอ’ (ไต้หวัน)

รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 54 กก.ชาย ‘จางฮุน ออน’ (เกาหลีใต้) ชนะคะแนน ‘ฝ่าน กวงเจ้อ’ (จีน) และ ‘บาตดอร์จ ซูมิยาซูเรน’ (มองโกเลีย) ชนะคะแนน ‘ฟาฮัด อนัคคายี่’ (อินเดีย)

รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 57 กก.ชาย ‘หลี่ หยูหง’ (ไต้หวัน) ชนะคะแนน ‘ดีพานคาร์ โบรา’ (อินเดีย)

รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 60 กก.ชาย ‘บาตโบลด์ กานซูร์คห์’ (มองโกเลีย) ชนะคะแนน ‘บิดยาชานดรา ซิงห์ ไลชาห์ม’ และ ‘กวน เว่ยเฮ’ (มาเก๊า) ชนะอาร์เอสซียก 1 ‘เฉิน เบาจอง’ (ไต้หวัน)

รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 63.5 กก.ชาย ‘อาเชม ทอนดอนบา ซิงห์’ (อินเดีย) ชนะอาร์เอสซียก 1 ‘ซู่ ยองจู’ (ไต้หวัน)

รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 67 กก.ชาย ‘ชุง เป่ยรง’ (ฮ่องกง) ชนะอาร์เอสซียก 1 ‘หวง เจิ้งฉี’ (จีน), ‘อี ซังมิน’ (เกาหลีใต้) ชนะคะแนน ‘โมรัมบ้า ซาโกลเซ็ม’ (อินเดีย) ‘หวง เหาหยวน’ (มาเก๊า) ชนะคะแนน ‘บาต-อิตเกลต์ ชิจีร์บาตาร์’ (มองโกเลีย)

รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 70 กก.ชาย ‘ลี่ จวนเซียน’ (ฮ่องกง) ชนะอาร์เอสซียก 2 ‘เป่ง เวิ่นเบา’ (ไต้หวัน)

‘อีลอน มัสก์’ ชี้!! ’จีน‘ มีคนเก่ง-ขยันมากกว่าสหรัฐฯ

เมื่อวานนี้ (24 พ.ย.66) เพจ 'ลึกชัดกับผิงผิง' ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับ ‘อีลอน มัสก์’ ขณะกล่าวให้สัมภาษณ์นายเล็กซ์ ฟริดแมน (Lex Fridman) พิธีกรรายการพอดแคสต์ชื่อดังว่า จำนวนคนฉลาดและคนขยันของจีนมีมากมายอย่างไม่น่าเชื่อ แล้วก็มากกว่าสหรัฐฯ ด้วย และประทับใจมากต่อโครงสร้างพื้นฐาน ประวัติศาสตร์วัฒนธรรมของจีน...

’อีลอน มัสก์‘ นับเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จยอดเยี่ยมของโลกและเป็นคนปากหวาน แต่คำชมจีนดังกล่าวคงมาจากประสบการณ์การพัฒนากิจการในจีนของเขาเอง

มูลนิธิพิทักษ์ดวงตาประชาชน PECF Thailand ผ่าตัดต้อกระจกเปลี่ยนเลนส์แก้วตาเทียมให้ผู้สูงอายุ 100 คนฟรี!

ระหว่างวันที่ 19-21พฤศจิกายน 2566 มูลนิธิพิทักษ์ดวงตาประชาชน  PECF Thailand ได้ออกหน่วยให้บริการ “ตรวจคัดกรองเพื่อผ่าตัดต้อกระจก”สำหรับผู้สูงอายุ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ณ โรงพยาบาลละงู จังหวัดสตูล

มีวัตถุประสงค์ เพื่อมุ่งหวังให้ผู้สูงอายุในถิ่นทุรกันดารได้เข้าถึงการรักษาโรคต้อกระจกได้รวดเร็ว ลดเวลารอคอย หลังจากผู้สูงอายุได้ตรวจคัดกรองแล้วมีกำหนดให้บริการผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์แก้วตาเทียม จำนวน 100 คน คิดเป็น หญิง 56 คน ชาย 44 คน เฉลี่ยอายุผู้เข้ารับการรักษาอยู่ที่ 67 ปี  

ทั้งนี้การดำเนินโครงการดังกล่าว ต้องขอขอบคุณในความร่วมมืออย่างดีจากคณะแพทย์ และบุคคลากรของโรงพยาบาลละงู จังหวัดสตูล  ซึ่งเป็นหนึ่งในโรงพยาบาลในเขตพื้นที่ รวมถึงเจ้าหน้าที่ทุกท่านจากมูลนิธิพิทักษ์ดวงตาประชาชน  PECF Thailand ที่เป็นส่วนหนึ่งเพื่อส่งต่อรอยยิ้มผ่านการมองเห็นให้แก่ผู้สูงอายุในครั้งนี้

สตม. มอบเทียนกระทงน้อยกระตุ้นท่องเที่ยว เปิดแผนลอยกระทงสุวรรณภูมิ

ตามนโยบายนายกรัฐมนตรีที่เร่งกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศโดยได้มีการลดเงื่อนไขการขอวีซ่าเข้าประเทศไทย สําหรับนักท่องเท่ียว สัญชาติจีน อินเดีย ไต้หวัน และคาซัคสถาน ในช่วงเดือนท่ีผ่านมาโดยคาดหวังว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดิน ทางเข้ามาเพื่อสร้างรายได้ให้แก่ประเทศไทยเป็นจํานวนมาก ซึ่งสํานักงานตรวจคนเข้าเมืองได้จัดทํามาตรการในการ สนองตอบตามนโยบายดังกล่าวโดยเฉพาะการเร่งปรับปรุงการอํานวยความสะดวกด้านพิธีการเข้าเมืองภายใต้หลัก ความมั่นคงอย่างต่อเนื่อง

วันนี้ (24 พ.ย.66) พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม. พร้อมด้วย รอง ผบช.สตม. ได้มาเป็นประธานปล่อย แถวกําลังพล ด่าน ตม.ทอ.สุวรรณภูมิ ที่อาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยมี พล.ต.ต.เชิงรณ ริมผดี ผบก.ตม.2 พร้อมด้วยข้าราชการในสังกัดกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 เข้าร่วมพิธี

ซึ่งการปฏิบัติตามแผนดังกล่าวเป็นการปฏิบัติตามแผนการอํานวยความสะดวกด้านพิธีการเข้าเมืองในช่วง เทศกาลลอยกระทง 2566 โดยจะมีการปฏิบัติในช่วงวันที่ 24 – 28 พ.ย.2566 ซึ่งคาดการว่าจะมีนักท่องเที่ยว เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยในช่วงเวลาดังกล่าวจํานวนกว่าวันละ 50,000 คน

โดยสํานักงานตรวจคนเข้าเมืองได้มีมาตรการในการเตรียมความพร้อมรองรับปริมาณนักท่องเที่ยวที่เดินทาง เข้ามาในประเทศไทยทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานภูเก็ต ท่าอากาศยานเชียงใหม่ และท่าอากาศยานหาดใหญ่ ที่สําคัญ ดังนี้
1. จัดกําลังพลจากด่านตรวจคนเข้าเมืองทั่วประเทศ เข้าเสริมกําลังพลที่ขาดแคลนกว่า 150 นาย
2. มีการจัดกําลังพลให้เต็มอัตรากําลังทุกช่องตรวจในช่วงที่มีเที่ยวบินลงพร้อมกันหนาแน่น เพื่อเร่งระบาย
ปริมาณผู้โดยสารที่สะสมในโถงพักรอให้ได้ภายใน 30 นาที
3. รับการสนับสนุนเจ้าหน้าที่อาสาจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ช่วยให้คําแนะนําและจัดเตรียมเอกสารให้แก่
ผู้โดยสารรอรับการตรวจหนังสือเดินทาง เพื่อลดระยะเวลาระหว่างตรวจหนังสือเดินทางไม่เกิน 45 วินาที/คน

ทั้งนี้ พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม. ได้มอบอาหารสําเร็จรูปและเครื่องดื่มแก่กําลังพลเพื่อเป็น ขวัญกําลังใจ และมอบของที่ระลึกเป็นเทียนรูปกระทงให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในช่วงเทศกาล ลอยกระทงเป็นที่ระลึก ช่วยสร้างสีสันและบรรยากาศที่น่าชื่นชมแก่นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามา

กระบี่ -ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 15 ตรวจความพร้อมบรรเทาสาธารภัย เพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์ภัยพิบัติในทุกรูปแบบ พร้อมเคียงข้างประชาชน

ตามประกาศศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก ฉบับที่ 2 (74/2566) เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกตอนล่างและคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทยตอนล่าง (มีผลกระทบช่วงวันที่ 24-27 พฤศจิกายน 2566 ) ด้วยหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่าง มีแนวโน้มเคลื่อนเข้าปกคลุมบริเวณอ่าวไทยและภาคใต้ตอนล่าง ในช่วงวันที่ 25-27 พฤศจิกายน 2566 ประกอบมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกตอนล่างจะมีฝนตกชุกและมีฝนหนักถึงหนักมากบางแห่ง 

เมื่อ 24 พ.ย. 66,พ.อ.ธนวัฒน์ สายสกุลรัตน์ ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 15/ผู้อำนวยการศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 15 เป็นประธานในพิธีตรวจสภาพความพร้อมของกำลังพล ยุทโธปกรณ์ และยานพาหนะของศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 15 ณ กองบังคับการ กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 15 อ.คลองท่อม จ.กระบี่ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ฝนตกหนัก ซึ่งอาจทำให้เกิดฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่ไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และดินโคลนถล่มได้ในหลายพื้นที่ของจังหวัดกระบี่ พร้อมจัดชุดติดตามสถานการณ์ในพื้นที่และประสานงานกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายอย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ต่อไป

ทั้งนี้ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 15 เราพร้อมที่จะเคียงข้างและดูแลพี่น้องประชาชนอย่างเต็มขีดความสามารถ หากต้องการความช่วยเหลือสามารถแจ้งได้ที่ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 15 หมายเลขโทรศัพท์ 075-702777

‘จีน’ สร้าง 'เสาชาร์จไฟฟ้า' รถ NEV 2 หมื่นต้น ริมทางด่วน ครอบคลุมสถานที่จอดกว่า 4 หมื่นแห่ง ในพื้นที่ให้บริการ

เมื่อไม่นานมานี้ สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า กระทรวงคมนาคมของจีนเปิดเผยการสร้างเสาชาร์จไฟฟ้าสำหรับยานยนต์พลังงานใหม่ (NEV) จำนวน 20,000 ต้น ในพื้นที่บริการริมทางด่วนของจีน เมื่อนับถึงสิ้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา

กระทรวงฯ ระบุว่าเสาชาร์จดังกล่าวครอบคลุมสถานที่จอดรถ 49,000 แห่ง ในพื้นที่ให้บริการริมทางด่วนสำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคล 6,257 แห่ง

เมื่อนับถึงสิ้นเดือนตุลาคม มีการติดตั้งเสาชาร์จไฟฟ้าในพื้นที่บริการริมทางด่วนของจีนร้อยละ 94 แล้ว

ทั้งนี้ จุดชาร์จพลังงานไฟฟ้าถูกติดตั้งในทุกพื้นที่ให้บริการของภูมิภาคระดับมณฑล 11 แห่ง ซึ่งรวมถึงปักกิ่ง เหลียวหนิง จี๋หลิน เซี่ยงไฮ้ และเจ้อเจียง

ผบ.ตร.สั่งชุดสืบสวนตรวจสอบที่มาของคลิปคนคล้ายเสี่ยแป้ง ไลฟ์สาเหตุการหนี ไม่ได้รับความเป็นธรรม และสั่งเร่งติดตามจับกุม พร้อมให้จเรตำรวจตรวจสอบเนื้อหาคลิป พาดพิงตำรวจ ยืนยันทำความจริงให้ปรากฎ ให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย

เมื่อวานนี้ (24 พ.ย.66) พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. กล่าวว่า “ จากกรณีมีคลิปชายหน้าคล้าย นายชวลิต ทองด้วง หรือนายแป้ง นาโหนด ออกมาเผยถึงเหตุของการหนี และไม่ได้ความเป็นธรรมนั้น ได้รับรายงานในเบื้องต้นแล้ว ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร.ที่ดูแลงานสืบสวน ตรวจสอบที่มาที่ไปของคลิป ว่ามีข้อเท็จจริงอย่างไร มีการถ่ายคลิปที่ไหน ถ่ายในช่วงไหน พร้อมเร่งติดตามจับกุมนายชวลิต มาดำเนินคดีตามกฎหมาย

ในส่วนของเนื้อหาในคลิป คงต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย แต่อย่างไรก็ตามได้สั่งการให้จเรตำรวจลงไปตรวจสอบ ว่ามีการพาดพิงตำรวจคนใดบ้าง มีข้อเท็จจริงอย่างไร ผิดถูกว่าไปตามพยานหลักฐาน ต้องทำความจริงให้ปรากฎ ให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย ซึ่งหากตำรวจทำผิดจริง จะต้องถูกดำเนินการอย่างเด็ดขาดทั้งทางวินัย อาญา และปกครอง 

ขอฝากไปยังพี่น้องประชาชน ให้ใช้วิจารณญาณในการรับฟังสื่อโชเชียล ตำรวจพร้อมที่จะดำเนินการตามข้อเท็จจริง พยานหลักฐาน ทำความจริงให้ปรากฎ และให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ไม่มีการกลั่นแกล้งใคร ซึ่งหากคิดว่าไม่ได้รับความยุติธรรมอย่างไร ตำรวจก็พร้อมที่จะประสานงาน ดำเนินการให้ แต่ทั้งนี้ทุกอย่างต้องอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมายที่ให้อำนาจไว้

'ทีมวันนอร์ฯ' เฮ!! ฮามาสปล่อยตัวประกันชาวไทยตามสัญญา ภายใต้ 'อิหร่าน' ช่วยเจรจาตรงให้ปล่อยตัวแบบไม่มีเงื่อนไข

(25 พ.ย.66) ดร.เลอพงษ์ ซาร์ยีด นายกสมาคมนักเรียนเก่าไทยอิหร่าน ในฐานะผู้ประสานงานฝ่ายต่างประเทศของประธานสภาผู้แทนราษฎร และหนึ่งในตัวแทนคณะทำงานเจรจากับกลุ่มฮามาสช่วยเหลือตัวประกันไทยในอิสราเอล แถลงข่าวภายหลังจากการเข้ารายงานความคืบหน้าในการช่วยเหลือตัวประกันกับกลุ่มฮามาสต่อนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร โดยกล่าวว่า ได้รับการรับรองจากกลุ่มฮามาสว่าชาวไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกันนั้น 'ปลอดภัย' และจะได้รับการปล่อยตัวในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

โดย อัลอะราบีญะดีด (Al-Araby Al-Jadeed) สำนักข่าวอาหรับที่มีสำนักงานใหญ่ในลอนดอน รายงานอ้างแหล่งข่าวชาวอียิปต์ที่อยู่วงในการไกล่เกลี่ย เปิดเผยบทบาทของอิหร่านในการเจรจาที่เกี่ยวข้องกับตัวประกันชาวไทยในการควบคุมของฮามาสตามคำขอของทีมเจรจาไทย โดยกลุ่มฮามาสก็พร้อมที่จะปล่อยตัวประกันชาวไทย 23 คน ภายหลังการไกล่เกลี่ยของอิหร่าน

แหล่งข่าวอธิบายว่า ขบวนการฮามาสยืนยันว่าจะปล่อยตัวพวกเขาตามการไกล่เกลี่ยของอิหร่าน โดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ

ล่าสุด ดร.เลอพงษ์ ได้เผยข่าวดีว่า คนไทยกลุ่มดังกล่าวได้รับการปล่อยตัวแล้ว


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top