Friday, 16 May 2025
TheStatesTimes

‘อลิอันซ์ อยุธยา’ นำทีม ‘มาหามิตร’ กระตุ้นแยกขยะ-เลิกเทรวม ต่อยอดโครงการ ‘ปทุมวัน Zero Waste’ สู่งาน ‘THINK ทิ้ง..ชีวิต’

‘บมจ.อลิอันซ์ อยุธยา’ นำทีม ‘มาหามิตร’ (Alliance for Sustainability) จัดกิจกรรม ‘THINK ทิ้ง ... ชีวิต’ ปลุกจิตสำนึกแยกขยะ เลิกเทรวม ทั้งระดับครัวเรือนและองค์กร ลดขยะไปสู่บ่อขยะฝังกลบให้น้อยที่สุด โชว์ผลงานรักษ์โลก 7 ศิลปินร่วมสมัย

ปฏิเสธไม่ได้ว่าปัญหา ‘ขยะ’ เกิดจากพฤติกรรมของเราทุกคน ก่อให้เกิดการสะสมของขยะมูลฝอย ขยะสารเคมีที่เป็นอันตราย ขยะพลาสติกทั้งถุงหูหิ้ว ขวดน้ำ แก้วพลาสติก กล่องโฟม เศษอาหาร และอื่นๆ กระจายอยู่ในพื้นที่บ่อขยะ พื้นที่ฝังกลบ พื้นที่ที่มีการนำขยะไปเทกองรวมกัน รวมทั้งแม่น้ำลำคลอง ชุมชน และพื้นที่เมือง ฯลฯ ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชน และเป็นมูลเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหาโลกร้อน

‘กลุ่มมาหามิตร’ นำโดย อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต ร่วมด้วย กรุงเทพมหานคร, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, โครงการ ‘Chula Zero Waste’ มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง, เอ็ม บี เค, สยามพิวรรธน์, กลุ่มสยามกลการ, โรงแรมศิวาเทล กรุงเทพ และ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ในฐานะกลุ่ม ‘มาหามิตร’ (Alliance for Sustainability) ส่งเสริมการแยกขยะ ‘เลิกเทรวม’ เพื่อให้เกิดการจัดการขยะอย่างมีประสิทธิภาพ จึงได้จัดกิจกรรม ‘THINK ทิ้ง ... ชีวิต’ งานใหญ่กลางกรุง โดยหยิบแนวคิดการใช้ศิลปะมาร่วมสร้างแรงบันดาลใจสู่การตระหนักคิด สร้างจิตสำนึก และเปลี่ยนแปลงสู่พฤติกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของคนเมือง

งานนี้จัดขึ้น เพื่อตะโกนดังดังบอกทุกคนว่า ‘เลิกมักง่ายเถอะ’, ‘แยกขยะกันเถอะ’ เพราะปัญหาขยะจะไม่มีวันแก้ได้ ถ้าคนส่วนใหญ่ในสังคมไม่ช่วยกัน อีกทั้ง การทิ้งของเราทุกคนมีผลต่อการเปลี่ยนชีวิตของใครคนใดคนหนึ่งเสมอ ถ้าคิดก่อนทิ้งเราอาจเปลี่ยนชีวิตได้มากมาย ดังนั้น

เราจะทิ้งเพื่อ ‘สร้างชีวิต’
เราจะทิ้งเพื่อ ‘ปลูกชีวิต’
เราจะทิ้งเพื่อ ‘ช่วยชีวิต’
หรือเราจะ ‘ทิ้ง ... ชีวิต’ ก็ขึ้นอยู่กับตัวของเราทุกคน

นางสาวพัชรา ทวีชัยวัฒนะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารงานลูกค้า บมจ.อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต ในฐานะตัวแทนกลุ่มมาหามิตร กล่าวว่า กลุ่ม ‘มาหามิตร’ เกิดจากการรวมตัวกันขององค์กรต่างๆ ทั้งภาคเอกชนและภาคสาธารณะในเขตปทุมวัน ร่วมแสดงเจตจำนง ตั้งเป้าหมายสู่ความยั่งยืนร่วมกัน ถือเป็นการสร้างความยั่งยืนจากภายในองค์กรเพื่อขยายผลสู่ภายนอก แต่ละองค์กรพันธมิตรอาจมีเป้าหมายธุรกิจที่ต่างกัน แต่เป้าหมายใหญ่ร่วมกัน คือ การสร้างความยั่งยืนให้แก่โลกในมิติต่างๆ

โดยเริ่มจากเรื่องใกล้ตัวคือ เรื่องการจัดการขยะในองค์กร ซึ่งต่อมาเกิดเป็นโครงการ ‘ปทุมวัน Zero Waste’ ส่งเสริมการแยกขยะเพื่อให้เกิดการจัดการขยะอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ประกอบการ และประชาชนในพื้นที่เขตปทุมวัน ที่มีเป้าหมายเพื่อลดขยะไปสู่บ่อขยะให้น้อยที่สุด และเพื่อเป็นการรณรงค์ให้เกิดการแยกขยะในวงกว้างขึ้น ปีนี้เราจึงต่อยอด สู่งาน ‘THINK ทิ้ง ... ชีวิต’ เพื่อสะท้อนสถานการณ์ขยะที่เกิดจากพฤติกรรมการทิ้งของพวกเรา และชี้ให้เห็นแนวทางการแก้ปัญหาด้วยการเปลี่ยนพฤติกรรม ให้ความสำคัญกับการ ‘แยกขยะ’ ทั้งในระดับครัวเรือนและระดับองค์กร

นางสาวพัชรา กล่าวว่า ในส่วนของ บมจ.อลิอันซ์ อยุธยา รณรงค์ให้พนักงาน 1,400 คน ของเราเข้าใจว่า “จริงๆ แล้ว ไม่มีอะไรเหลือเป็นขยะเลย มันสามารถบริหารจัดการได้ ถ้าแยกสิ่งที่ทิ้งให้มีที่ไป ซึ่งเราได้ทำแบบนี้มาหลายปีแล้ว โดยแยกขยะออกเป็น 4 สเตชั่น ได้แก่ พลาสติกที่รีไซเคิลได้ ขวดแก้ว ขยะเศษอาหาร และขยะที่ไปต่อไม่ได้ ต้องเผาเช่น พลาสติก ฟรอยด์ ฯลฯ วันนี้เราสามารถลดขยะไปบ่อฝังกลับได้ดี เราจึงอยากขยายขอบเขตการตระหนักรู้ สู่สาธารณชน จึงเริ่มจากการไปดูชีวิตของคนเก็บขยะ มาตีแผ่ให้ทุกคนได้เห็นว่าเขาทำงานกันอย่างไร และคุณเคยเป็นคนหนึ่งไหมที่ทิ้งโดยไม่คิด ว่ามันไปสร้างความลำบากให้กับคนเก็บขยะมากแค่ไหน เราเชื่อว่าถ้าทุกคนมีประสบการณ์จากมาแยกขยะเอง อย่างน้อยถ้าเขาไม่แคร์โลก เขาก็จะแคร์คนที่เก็บขยะ ที่ต้องทำหน้าที่อยู่หน้างานอันเกิดจากการทิ้งแบบไม่คิดของเขา”

“การแยกขยะ เป็นความลำบากคนทุกคนที่มีความเห็นแก่ตัวเป็นพื้นฐาน แต่พอเรามาสร้างจิตสำนึก ให้คิดได้ว่าการช่วยเหลือจากเราเล็กๆ น้อย มันมีผลมหาศาลต่อสัตว์ คน และสิ่งแวดล้อม ตอนนี้กรุงเทพมหานครใช้เงินหมื่นล้านบาทต่อปี ในการบริหารจัดการขยะ ถ้าเราทุกคนช่วยกัน ก็จะสามารถลดเงินตรงนี้ และมีเงินเหลือไปสร้างเมืองให้สวยงาม วัตถุประสงค์ของการจัดงานนี้คือสร้างความตระหนักรู้ เพื่อเปลี่ยนพฤติกรรมของคน” นางสาวพัชรา กล่าว

นางสาวพัชรา ยังบอกด้วยว่า งานนี้เราได้เชิญศิลปิน 7 คน มาร่วมสร้างงานศิลปะ โดยการใช้วัสดุเหลือใช้มาประกอบร่างเป็นงานศิลปะ ที่มีแนวคิดแตกต่างกันไป ซึ่งถ้าเราไม่เรียกเขาว่าขยะ เราสามารถเอามาสร้างต่อให้มีคุณค่าได้ เราเชื่อว่าการดึงศิลปินเข้ามา มันจะสร้างการรับรู้ในเรื่องของขยะ ให้เป็นวงกว้าง เป็นสิ่งที่เราอยากให้คนจำนวนมากได้รับรู้และตระหนักได้ถึงความสำคัญในการจัดการขยะของตัวเอง เราหวังว่ากิจกรรมนี้จะสร้างความตระหนักรู้ว่า ถ้าคุณเทรวมมา มันเสียเวลาแยก แต่ถ้าคุณแยกมามันไปต่อได้ เพราะมีหน่วยงานที่สามารถรับขยะของคุณได้เลยทั้ง วงษ์พาณิชย์ เซอร์พลัส ส่วนขยะเศษอาหาร ซึ่งเราเรียกมันว่าขยะอินทรีย์ ก็สามารถหมักเองที่บ้าน โดยการนำใบไม้มาคลุมแล้วเอาปุ๋ยขี้วัวมาใส่ หมักไว้มันก็จะเป็นปุ๋ยที่สามารถบำรุงต้นไม้ได้อย่างดี ซึ่งโดยส่วนตัวก็เริ่มแยกขยะจากที่บ้าน ทุกวันนี้ก็แทบไม่มีขยะที่จะส่งไปบ่อฝังกลบเลย

นางสาวพัชรา กล่าวอีกว่า สิ่งที่อยากให้หลายคนตระหนักคือ สินค้าแฟชั่นเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่สร้างคาร์บอนฟุตปรินท์เยอะที่สุด เพราะการผลิตผ้าใช้พลังงานเยอะมาก เราจึงรณรงค์ ให้เอาเสื้อผ้ามารีไซเคิล มาแลกเปลี่ยนหมุนเวียนกันโดยไม่ต้องซื้อใหม่ เป็นการลดใช้พลังงาน โดยภายในงานก็มีกิจกรรมนี้ด้วย โดยมีเด็กสองคนที่มีหัวใจไม่สร้างคาร์บอนฟุตปรินท์ เพื่อสื่อให้คนเข้าใจว่า เสื้อผ้าใส่แล้วมันเบื่อก็เอามาแลกกัน โดยไม่ต้องซื้อ ลดการใช้พลังงาน

“อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต ในฐานะผู้นำกลุ่มมาหามิตร มีความตั้งใจเป็นอย่างมากในการจัดงาน “THINK ทิ้ง...ชีวิต” ครั้งนี้ เพราะปัญหาขยะ คือ ปัญหาเร่งด่วน แต่เป็นปัญหาที่แก้ไขได้ เมื่อทุกคนร่วมมือกัน” นางสาวพัชรา กล่าวย้ำ

สะท้อนชีวิต… คนเก็บขยะ
ด้าน ‘นายน้ำพุ โต๊ะกา’ พนักงานขับรถขยะประจำสำนักงานเขตคลองเตย กล่าวว่า ตนรักในอาชีพเก็บขยะ เพราะได้คลุกคลีกับอาชีพนี้มาตั้งแต่เด็ก ไม่เคยคิดว่าเป็นอาชีพที่ต่ำต้อย แต่เป็นงานที่ต้องอาศัยความเสียสละ และอดทน ที่สำคัญเป็นงานสุจริตที่ทำให้พ่อมีเงินมาเลี้ยงดูครอบครัวให้มีกินมีใช้ และเมื่อตนโตขึ้น ก็เลือกที่จะทำอาชีพนี้ และได้เข้าทำงานตั้งแต่อายุ 22 เริ่มจากเป็นพนักงานท้ายรถ จนเลื่อนตำแหน่งเป็นพนักงานขับรถขยะประจำสำนักงานเขตคลองเตย

“เป็นความใฝ่ฝันที่ผมมาจุดนี้ได้ เพราะมันมีสวัสดิการ มีความมั่นคงในชีวิต ผมทำอาชีพนี้มา 15 ปี วันนี้ผมมีเงินที่จะส่งลูก 4 คน ให้มีการศึกษา และเมื่อพ่อแม่ลูกเมียเจ็บป่วยก็สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ แม้ว่าในสายตาคนอื่นเป็นงานต่ำ แต่สำหรับผมถือเป็นเกียรติที่ทำงานนี้ แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนมาทำงานจุดนี้และจะอยู่ได้นานนะ บางคนมาแล้วก็ไป ลองทำแล้วไม่ชอบเขาก็ไป แต่ผมรักงานนี้และทำงาน 7 วัน โดยไม่รู้สึกเบื่อ แม้ว่าจะต้องทำงานในเวลากลางคืนก็ตาม เพราะนอกจากมีเงินเดือนประจำแล้ว ยังมีรายได้จากการแยกและขายขยะ นำเงินมาแบ่งปันให้กับลูกน้องได้ด้วย” นายน้ำพุ กล่าวด้วยนัยน์ตาเป็นประกาย

นายน้ำพุ ยังได้กล่าวถึงความเข้าใจของหลายคนที่มีความคิดว่า จะแยกขยะทำไม เพราะ กทม.ก็นำไปเทรวมอยู่ดี โดยยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง เพราะในแต่ละวันเมื่อเก็บขยะแล้ว ก็ต้องนำไปแยกที่สำนักงานเขต ซึ่งถ้าคนแยกมาก่อนแล้ว งานก็จะเร็วขึ้น แต่ถ้าไม่แยกก็จะทำให้เสียเวลา นอกจากนี้ยังก่อให้เกิดอันตรายจนถึงต่อคนเก็บขยะ แม้ว่าจะมีอุปกรณ์ป้องกันทั้งถุงมือยางถุงมือผ้าแล้วก็ตาม เพราะไม่มีอุปกรณ์ใดสามารถป้องกันได้ร้อยเปอร์เซ็นต์

“ที่เราเจอบ่อยคือ ไม้แหลม ไม้ลูกชิ้น เข็ม ที่สามารถทะลุถุงมือยางได้ คนเก็บขยะทุกคนเจอปัญหานี้ บางคนทิ้งขวดแตก กระจกแตก โดยไม่แยก ก็จะเป็นความลำบากของเรา เพราะเราทำงานแข่งกับเวลา ไม่ได้ดูละเอียด จึงอยากให้ทุกคนช่วยกัน แยกขยะโดยถ้าเป็นเศษกระจก หลอดไฟ ที่แตกก็ให้ห่อกระดาษก่อนหรือเขียนไว้ ส่วนไม้แหลมก็ให้หักปลายหรือใส่ขวดก่อนทิ้งก็จะช่วยได้มาก ขยะบางอย่างเช่น แพมเพิร์ส บางคนไม้ห่อไม่มัด เราก็ต้องเจอแบบเต็ม ๆ มือ เหล่านี้คนทิ้งมันง่าย แต่คนเก็บเราต้องเจอกับเชื้อโรค แบบตรงๆ จึงอยากวิงวอนว่า ถ้าสิ่งไหนไม่เหลือบ่ากว่าแรงก็ขอให้ความร่วมมือ” นายน้ำพุ กล่าว

ต่อข้อถามที่ว่า การนำเข้าขยะจากต่างประเทศ มีผลกระทบกับประเทศไทยไหม นายน้ำพุ ยอมรับว่ามี ในฐานะที่คลุกคลีกับร้านรับซื้อขยะ ทำให้รู้ว่า ราคาการรับซื้อตกลง แต่ก็เข้าใจว่า เพราะเขานำเข้าขยะสะอาด ซึ่งถ้าประเทศไทยสามารถแยกขยะได้อย่างมีประสิทธิภาพ การนำเข้าขยะก็จะลดลง และผลประโยชน์ก็จะหมุนเวียนอยู่ในประเทศเรา

ผู้ร่วมจัดงานในกลุ่ม ‘มาหามิตร’ จึงขอเชิญชวน ประชาชนที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ เพราะนอกจากจะได้รับรู้ถึงการคัดแยกขยะอย่างถูกวิธีแล้ว ภายในงานยังมีการ การจัดนิทรรศการและกิจกรรมให้ความรู้มากมายที่เหมาะกับทุกเพศทุกวัย เพื่อมุ่งเปลี่ยนพฤติกรรมทุกคนให้มีพฤติกรรมการทิ้งที่เปลี่ยนไป โดยมีการจำลองบ่อขยะ และเปิดประสบการณ์ชีวิตจริงของพนักงานเก็บขยะจากกทม. เริ่มจากห้องเปลี่ยนใจ ที่จะมาไขข้อข้องใจ ทลายความเชื่อ ว่าแยกขยะไปทำไม หากสุดท้ายนำไปเทรวม ต่อด้วย ‘กิจกรรมทิ้ง...ชีวิต’ ที่จะเปิดโอกาสให้คุณได้สวมบทบาทคนเก็บขยะ กับความท้าทายที่คุณไม่อาจเคยรู้ ต่อด้วยทางเลือกคนกรุง ตัวช่วยที่จะทำให้การแยกขยะของคุณมีค่า และชุมชนแลกเปลี่ยนแฟชั่น Swoop Buddy

นอกจากนั้น ยังได้นำเสนอผลงานของ 7 ศิลปินร่วมสมัยชั้นนำของไทย ประกอบด้วยผลงานของ คุณวิชชุลดา ปัณฑุรานุวงศ์ คุณจิรายุ ตันตระกูล คุณเอก ทองประเสริฐ คุณพงษธัช อ่วยกลาง คุณปรัชญา เจริญสุข คุณปฏิพัทธ์ ชัยวิเทศ คุณปิยาภา วิเชียรสาร และคุณชโลชา นิลธรรมชาติ จาก A Thing that is Pieces ที่ร่วมกันรังสรรค์ผลงานศิลปะ จากวัสดุส่วนเกินที่หลายคนไม่ต้องการ

ผู้สนใจสามารถเข้าร่วมงานได้ฟรี ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 26 พฤศจิกายน 2566 ตั้งแต่ เวลา 10.00 – 19.00 น. ณ ลานด้านหน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ลานใบบัวเชื่อมรถไฟฟ้า สถานีสนามกีฬาแห่งชาติ และ Meeting Point ศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์

ย้อนอดีต 10 ปี ผลงานนางงามไทยบนเวที ‘Miss Universe’

ควันหลงนางงาม!! 

แม้ว่า ‘แอนโทเนีย’ จะไม่ได้สวมมงกุฎนางงามจักรวาล แต่แอนโทเนียก็สามารถคว้าตำแหน่งรองชนะเลิศอันดับที่ 1 Miss Universe 2023 ซึ่งเป็นตำแหน่งสูงที่สุดของไทยในรอบ 35 ปี ถือว่าได้สร้างความภาคภูมิใจให้กับคนไทยทั้งประเทศอย่างมากล้น

วันนี้ THE STATES TIMES จะพาย้อนอดีต 10 ปีชื่นชมผลงานนางงามไทยในเวที Miss Universe ว่าสาวไทยคนใดเป็นตัวแทนในปีไหน พร้อมแล้วก็มาดูกัน!!

‘กษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 3’ เปิดพระราชวังบักกิงแฮม-จัดงานเลี้ยง ต้อนรับอาคันตุกะ ‘ปธน.เกาหลีใต้ - 4 สาว BLACKPINK’

(22 พ.ย. 66) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 แห่งสหราชอาณาจักร ได้ทรงเปิดพระราชวังบักกิงแฮม งานเลี้ยงครั้งนี้จัดขึ้นในห้องบอลรูมของพระราชวังบักกิงแฮม โดยอาคันตุกะเกาหลีใต้ได้รับการต้อนรับจากกษัตริย์ ราชินี เจ้าชาย และเจ้าหญิง นายกรัฐมนตรี ริชี ซูนัก และคณะรัฐมนตรี ต้อนรับการมาเยือนของ ยุน ซอก ยอล ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ซึ่งอีกหนึ่งอาคันตุกะเพื่อจัดงานเลี้ยงระดับประมุขแห่งรัฐ โดยภายในงานนี้มี 4 สาวสมาชิกวงเคป็อปชื่อดังระดับโลก 'BLACKPINK' 

ขณะทรงให้การต้อนรับประธานาธิบดี ยุน ซอก ยอล ของเกาหลีใต้นั้น กษัตริย์ชาร์ลส์ทรงชื่นชมวัฒนธรรมสมัยนิยมของเกาหลีใต้ โดยทรงตรัสถึง 'BLACKPINK' และ BTS 

พระราชดำรัสในงานเลี้ยงทรงยกย่องวัฒนธรรมเกาหลีใต้ว่า "มีความสามารถอันน่าทึ่งในการกระตุ้นจินตนาการ" แม้ว่าพระองค์จะทรงยอมรับว่าไม่ค่อยเข้าพระทัยสิ่งที่เรียกว่ากังนัมสไตล์มากเท่าไหร่นัก

กษัตริย์ชาร์ลส์ทรงตรัสชื่นชม 4 สาว BLACKPINK ว่า "เป็นแรงบันดาลใจสุดพิเศษที่ได้เห็นคนรุ่นใหม่ของเกาหลีโอบรับประเด็นนี้ ข้าพเข้าขอชื่นชม เจนนี่ จีซู ลิซ่า และโรเซ่ ซึ่งรู้จักกันดีในนาม #BLACKPINK สำหรับบทบาทของพวกเธอ ในการส่งสารแห่งความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมไปสู่ผู้คนทั่วโลกในฐานะทูต”

‘JETRO’ ชื่นชม ‘ไทย’ ให้ความสำคัญด้านความร่วมมือทาง ศก. พร้อมยกระดับห่วงโซ่อุตสาหกรรม ‘EV ไทย-ญี่ปุ่น’ อย่างยั่งยืน

เมื่อวันที่ 21 พ.ย. 66 นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ผู้แทนการค้าไทย เผยผลหารือกับ นายคุโรดะ จุน (Mr.KURODA Jun) ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น ณ กรุงเทพฯ (Japan External Trade Organization : JETRO Bangkok) ว่า ประธานเจโทรชื่นชมนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐบาลไทยที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุน ระหว่างไทยกับญี่ปุ่น ซึ่งมีความสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการยกระดับห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งเป็นประเด็นที่ทั้งสองฝ่ายให้ความสำคัญ

พร้อมกันนี้ ได้ขอบคุณในความร่วมมือที่ใกล้ชิดกับหน่วยงานภาครัฐ เพื่อส่งเสริมการค้าการลงทุนระหว่างกัน ทั้งบริษัทข้ามชาติและบริษัทวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ซึ่งจะเป็นรากฐานสำหรับการต่อยอดความร่วมมือด้านเศรษฐกิจอื่นๆ โดยประธานเจโทรได้ให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับนโยบายการสนับสนุนการลงทุนของไทยเพื่อให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่บริษัท Startup และวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม

นางนฤมล กล่าวว่า ไทยให้ความสำคัญกับญี่ปุ่นในฐานะมิตรประเทศสำคัญขนาดใหญ่ร่วมกับจีนและสหรัฐอเมริกา และเป็นประเทศที่มีความร่วมมือด้านเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิดกับไทยมาอย่างยาวนาน โดยหวังว่าจะสามารถกระชับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุน ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

โดยได้ชี้แจงถึงนโยบายของรัฐบาล โดยเฉพาะนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น การส่งเสริมประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของภูมิภาคอาเซียน (ASEAN EV hub) กองทุนสีเขียว (Green Fund)

นอกจากนี้ รัฐบาลยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ซึ่งปัจจุบันรัฐบาลไทยได้มีความร่วมมือที่ใกล้ชิดกับ OECD โดยสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้มีมีการดำเนินโครงการ Country PRogramme ระยะที่ 2 (พ.ศ.2566-2568) ร่วมกับ OECD ที่จะช่วยส่งเสริมศักยภาพ และการพัฒนาขัดความสามารถด้านการแข่งขันของไทย พร้อมทั้งสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ครอบคลุมและยั่งยืน ตลอดจนส่งเสริมหลักธรรมาภิบาลและความโปร่งใส และการปฏิรูปกฎระเบียบภายในประเทศให้ดียิ่งขึ้น

'อ.แพท' เตือน!! 'พิธา' โกหกทางคณิตศาสตร์ ตัวเลขมักจะไม่ลงตัว ชี้!! เป็นตัวจริง ม.Top 10 ของโลก ไม่ต้องไปแต่งเติมอะไรเพิ่ม

(22 พ.ย. 66) แพท แสงธรรม นักวิชาการอิสระ ด้าน Communication Facilitator และอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญในอีกหลายแขนง ได้โพสต์เกี่ยวกับเรื่องการศึกษาของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ โดยระบุว่า…

SELF SLANDER ป้ายสีตัวเอง

วันนี้ทั้งโซเชียล มีแต่เรื่องพิทาคิโอ และการเล่าเรื่องราวที่ไม่ตรงกัน สะท้อนบุคลิกและสภาพจิตไปถึงไหนต่อไหน

ใครจะแต่งเรื่องอะไรต้องไม่โกหกทางคณิตศาสตร์เพราะตัวเลขมันจะไม่ลงตัว

การไปเรียนที่ University of Texas at Austin ก็เป็นเรื่องที่น่าภูมิใจ เพราะ ranking ของ UT at Austin ก็ดีงามตามสถิติ ใน World Ranking อยู่ที่ช่วงอันดับ 50-70 ของมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลก เฉพาะในอเมริกา มีมหาวิทยาลัยและวิทยาลัยที่ให้วุฒิปริญญาเกือบ 4,000 แห่ง Top 10% คือ อยู่ใน 400 อันดับแรก Top 1% คือใน 40 อันดับแรก UT at Austin จึงถือว่าอยู่ใน Top 2% ทำให้ UT at Austin เป็นมหาวิทยาลัยของรัฐที่มีความเป็นเลิศและมีศักดิ์ศรีสูงที่สุดแห่งหนึ่ง

Harvard และ MIT มีแคมพัสอยู่ใกล้กัน ห่างกันไม่ถึง 3 กม. ขับรถ 5 นาที เดิน ครึ่งชั่วโมง และมีโปรแกรมที่ช่วยให้ นศ. คว้าปริญญาได้จากทั้งสองแห่ง เรียกว่า joint degree program วิชา course work ที่ซ้ำกัน ก็เก็บหน่วยกิตมาจากที่ใดที่หนึ่ง ดังนั้น แทนที่จะต้องใช้เวลา 5 ปีเพื่อให้ได้ปริญญาบัตร 2 ใบ ก็อาจใช้เวลาเพียง 3 ปี

อย่างไร ก็ต้องเรียนหนัก เพราะมหาวิทยาลัยมีอันดับ สอนกันหนัก ต้องรักษาอันดับและมาตรฐานกันอย่างเหนียวแน่น ทั้งอาจารย์และนักศึกษาจริงจังกันอย่างเขี้ยวฝังร่าง ใครที่เรียนในสถาบันที่อยู่ใน อันดับ Top 100 ก็ถือว่าคุณภาพสูงอยู่แล้ว

ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องแต่งแต้มเรื่องราวให้กับประวัติการศึกษาอะไร ให้ผิดไปจากความจริง

ในกลุ่มวิชาการ นอกจากมองดูการจัดอันดับมหาวิทยาลัยโดยมาตรฐานรวม อย่างของ QS ที่นิยมอ้างถึงกันเป็นเกณฑ์แล้ว ผู้รู้จริง ยังเจาะลึก เลือกมหาวิทยาลัย ที่มีความเป็นเลิศ เฉพาะทางอีก ตัวอย่างเช่น นอกเหนือจาก กลุ่ม Ivy League แล้ว มหาวิทยาลัยที่เด่นด้านสื่อสารมวลชน ยังมี University of Florida, University of North Carolina at Chapel Hill และ University of Michigan Ann Arbor เป็นต้น 

ส่วนทางด้านประวัติศาสตร์ นอกเหนือจากไอวี่ ลีก ก็ยังมี Duke, Vandebilt, Panoma College, Rice, Northwestern, Davidson College และอีกมากมาย

ทางด้านรัฐศาสตร์ นอกจากกลุ่มไอวี่ ก็ยังมี University of Wisconsin, Ohio State University, UT at Austin, New York University, Emory University etc.

ใครที่มุ่งมั่นในแต่ละสาขา จะพิจารณาความเป็นเลิศทางวิชาการเฉพาะสาขา ของแต่ละมหาวิทยาลัยด้วย ไม่ได้สมัครเรียนโดยดูจาก Ranking รวมๆ เป็นสำคัญ ไม่เน้นแบรนด์ใหญ่หรือความโด่งดังเป็นหลัก

มหาวิทยาลัยหลายแห่งในอเมริกา คนไทยไม่คุ้นเคย ดูแต่ Ranking รวม ๆ ที่มีตัวแปรหลายอย่าง ทั้งจำนวนนักศึกษานานาชาติ ความสมบูรณ์ทางด้านเทคโนโลยี ประมาณงานวิชาการที่ตีพิมพ์ของคณาจารย์ ฯลฯ ส่วนวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยที่เป็นเลิศ เฉพาะทาง ว่าด้วยความเจนชัดทางวิชาการไปเลย

ผู้ที่เรียนจบจากสถาบันที่มีชื่อเสียง รู้อยู่แก่ใจ เพื่อนคนไทยจะรู้จักหรือไม่ ไม่สำคัญ คนที่จบมาย่อมเป็นจอมยุทธ ที่ไม่ต้องประกาศหรือดัดแปลงข้อมูลใด ๆ

ภาพประกอบเหมือนไม่เกี่ยวกับเนื้อหา เพราะเป็นเรื่องของมหาวิทยาลัยไทย แต่ก็เกี่ยวแหละ จำนวนมหาวิทยาลัยทั่วโลกมีกว่า 25,000 แห่ง การจัดอันดับของ QS คัดไว้เฉพาะ 1,500 แห่ง 

ผู้ที่เรียนจบจากมหาวิทยาลัยที่อยู่ใน Top 10% ของโลกก็โอเคแล้ว ไม่ต้องไปแต่งเติม Storytelling ให้เสียเวลา ไม่เกิดประโยชน์

สรุปสถานการณ์ตลาดน้ำมันสัปดาห์ที่ 13 - 17 พ.ย. 66  จับตาปัจจัย ‘บวก-ลบ’ พร้อมแนวโน้ม 20 - 24 พ.ย. 66

ราคาน้ำมันดิบปรับลดลงจากนักลงทุนเทขายทำกำไรและความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างสหรัฐฯ และจีนผ่อนคลาย 

-ความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างสหรัฐฯ และจีนผ่อนคลาย ล่าสุดเมื่อวันที่ 15 พ.ย. 66 ประธานาธิบดีสหรัฐฯ นาย Joe Biden และประธานาธิบดีจีน นาย Xi Jinping ได้ตกลงที่จะฟื้นฟูการเจรจาทางทหารระดับสูงตลอดจนการหารือระหว่างรัฐบาลเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) ในการประชุม Asia-Pacific Economic Cooperation (APEC) ที่ซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐฯ

-สำนักสถิติแห่งชาติของจีน (National Bureau of Statistics: NBS) รายงานโรงกลั่นนำน้ำมันดิบเข้ากลั่น (Throughput) ในเดือน ต.ค. 66 ลดลงจากเดือนก่อน  2.8% MoM อยู่ที่ 15.12 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากอุปสงค์ในภาคอุตสาหกรรมชะลอตัวและค่าการกลั่นลดลง ส่วนปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในประเทศลดลงจากเดือนก่อน 0.6% อยู่ที่ 4.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน

-กระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ซื้อน้ำมันดิบปริมาณรวม 1.2 ล้านบาร์เรล เพื่อเติมคลังสำรองปิโตรเลียมเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Petroleum Reserve: SPR) โดยได้บรรลุข้อตกลงกับบริษัท 2 ราย ด้วยราคาเฉลี่ย 77.57 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และจะออกประมูลซื้อเพิ่มเติมอย่างน้อยจนถึงเดือน พ.ค. 67

-รายงานฉบับเดือน พ.ย. 66 ของ OPEC คาดการณ์อุปสงค์น้ำมันโลกในปี 2566 เพิ่มขึ้นจากปีก่อน  2.46 ล้านบาร์เรลต่อวัน อยู่ที่ 102.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน (เพิ่มขึ้น 50,000 บาร์เรลต่อวัน จากคาดการณ์ครั้งก่อน) และในปี 2567 เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 2.25 ล้านบาร์เรลต่อวัน อยู่ที่ 104.36 ล้านบาร์เรลต่อวัน (เพิ่มขึ้น 50,000 บาร์เรลต่อวัน จากคาดการณ์ครั้งก่อน)

-คาดการณ์ราคา ICE Brent สัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ $80-85/BBL ติดตามบันทึกการประชุม FOMC ของธนาคารกลางสหรัฐฯ วันที่ 20 พ.ย. 66 ประธานธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา นาย Jerome Powell ส่งสัญญาณว่า Fed ไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และจับตาการประชุม Joint Ministerial Monitoring Committee (JMMC) ของกลุ่ม OPEC และพันธมิตร (OPEC+) ในวันที่ 26 พ.ย. 66 โดย ตลาดคาดการณ์ซาอุดีอาระเบียจะขยายเวลาอาสาลดการผลิตน้ำมันดิบเพิ่มเติม 1 MMBD จากเดิมสิ้นสุดเดือน ธ.ค. 66 (เริ่มต้นเดือน ก.ค. 66) ไปจนถึงอย่างน้อยไตรมาส 1/67 หรืออาจขยายถึงครึ่งแรกของปี 2567 และมองว่า OPEC+ จะมีมติคงนโยบายลดการผลิตน้ำมันดิบรวม 3.66 MMBD ไปจนถึงสิ้นปี 2567

‘ธนกร’ หนุนรัฐฯ แก้หนี้ ‘ใน-นอก’ ระบบครบวงจร  กวาดล้างมาเฟียเงินกู้ ทวงหนี้โหด ฟอกเงินบาป

(22 พ.ย. 66) นายธนกร วังบุญคงชนะ สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวว่า ตนขอสนับสนุนที่นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลเตรียมแถลงประกาศแก้หนี้สินให้กับประชาชน ทั้งหนี้ในระบบและหนี้นอกระบบในวันที่ 12 ธันวาคมนี้ เพราะเรื่องหนี้สิน เป็นเรื่องสำคัญมากกับชีวิตความเป็นอยู่โดยตรงของพี่น้องประชาชน ขอให้นายกฯ และรัฐบาลทำอย่างจริงจังแบบครบวงจร พร้อมยกให้เป็นวาระแห่งชาติ เพื่อแก้ปัญหาให้ตรงจุดและต่อเนื่องจนเห็นผลเป็นรูปธรรม

การแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ที่ส่วนใหญ่มาจากเงินที่อยู่นอกระบบสถาบันการเงิน ต้องมีกฎหมายควบคุมการคิดดอกเบี้ยให้เป็นไปตามกฎหมายกำหนด หากการให้กู้ยืมเงินนอกระบบต้องไม่คิดดอกเบี้ยเกินกว่าร้อยละ 15 ต่อปี หากคิดดอกเบี้ยโหดสูงกว่านั้นถือว่าผิดกฎหมาย 

นอกจากนั้น รัฐบาล โดยฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ควรลงไปตรวจสอบผู้ที่เป็นเจ้าหนี้ที่มักจะปล่อยเงินกู้จำนวนมาก ว่ามีแหล่งเงินมาจากไหนมาจากเงินสีเทา ธุรกิจผิดกฎหมาย การพนัน และยาเสพติดด้วยหรือไม่ เป็นการฟอกเงินผ่านการให้กู้ยืมอีกทอดหนึ่งหรือไม่

“ผมจึงขอให้รัฐบาลใช้โอกาสนี้ ดำเนินการกวาดล้างมาเฟียผู้มีอิทธิพลในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ที่อาจใช้ช่องทางนี้นำเงินสีเทาผิดกฎหมาย มาฟอกผ่านการปล่อยกู้ให้แก่ประชาชน และมีทีมทวงหนี้โหดไปทำร้ายร่างกายลูกหนี้ที่ผิดนัด จนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตตามที่เป็นข่าวมาจำนวนมากแล้ว” นายธนกร กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า การแก้ปัญหาหนี้สินจะช่วยประชาชนให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นในระยะยาวได้อย่างไร นายธนกร กล่าวว่า คนเป็นหนี้ก็ต้องใช้ แต่จะทำอย่างไรหากไม่มีรายได้ที่เพียงพอใช้หนี้ สุดท้ายแล้วก็อาจจะกลับมาเป็นหนี้ใหม่อีก ตนจึงมองว่ารัฐบาลควรส่งเสริมให้มีการฝึกทักษะอาชีพ สร้างงาน สร้างรายได้ให้ประชาชน ต้องทำควบคู่ไปกับการช่วยปลดลดหนี้สิน จะเป็นทางออกช่วยให้พี่น้องประชาชนสามารถยืนด้วยตัวเองอย่างมั่นคง และจะเป็นการแก้ปัญหาปากท้องให้ประชาชนแบบยั่งยืน

“พรรครวมไทยสร้างชาติผ่าน 4 กระทรวง ก็เดินหน้าโครงการฝึกทักษะอาชีพ เพิ่มรายได้สร้างเศรษฐกิจในชุมชนต่อเนื่อง พร้อมทั้งให้ความรู้ ความเข้าใจวินัยการใช้เงิน เพื่อลดปัญหาหนี้ครัวเรือน หากรัฐบาลมีนโยบายแก้หนี้ทั้งในและนอกระบบออกมาช่วยประชาชนเพิ่มเติมด้วย ก็เชื่อว่า จะเป็นการทั้งสร้างรายได้ให้ประชาชนมีเพียงพอ ควบคู่ การแก้หนี้สิน จะทำให้มีความมั่นคงในชีวิต เกิดความเข้มแข็งยั่งยืนได้ในอนาคต” นายธนกร กล่าว

‘มท.’ จ่อห้ามออกใบอนุญาตพกปืนแบบ ป.12 เป็นเวลา 1 ปี หวังลดปัญหาอาชญากรรม พิทักษ์ความสงบของบ้านเมือง

เมื่อวันที่ 21 พ.ย. 66 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและโฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ปัจจุบันได้ปรากฎปัญหาเด็ก เยาวชน และบุคคลที่ประสงค์ร้ายต่อสังคม สามารถเข้าถึงอาวุธปืนหรือสิ่งเทียมอาวุธปืนที่ดัดแปลงเป็นอาวุธ เช่น แบลงค์กัน (Blank Gun) ได้โดยง่าย รวมถึงมีการพกอาวุธปืนทั้งที่ได้รับอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย อาวุธปืนที่ผิดกฎหมาย ตลอดจนสิ่งเทียมอาวุธปืนดังกล่าว ไปในที่สาธารณะและใช้ก่ออาชญากรรม ส่งผลอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินของประชาชนผู้บริสุทธิ์ ส่งผลกระทบด้านความสงบเรียบร้อยของสังคม เศรษฐกิจ การท่องเที่ยวและภาพลักษณ์ของประเทศตามที่ปรากฏตามสื่อสารมวลชนในหลายกรณี เพื่อเป็นการรักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชน และความปลอดภัยสาธารณะ ลดอาชญากรรม และควบคุมสถานการณ์บ้านเมืองให้เป็นปกติ

กระทรวงมหาดไทยจึงอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้ไฟ และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 ยกร่างคำสั่งนายกฯ และ รมว.มหาดไทย เรื่องห้ามออกใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว (แบบ ป.12) เป็นการชั่วคราว โดยมีสาระสำคัญเป็นการห้ามออกใบอนุญาตแบบ ป.12 เป็นเวลา 1 ปี

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ล่าสุดนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ได้ลงนามในคำสั่งฯ แล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างนำเสนอให้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และ รมว.คลังลงนาม ก่อนเผยแพร่ในราชกิจจานุเบกษา และมีผลบังคับในวันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป

อย่างไรก็ตาม คำสั่งฯ จะไม่มีผลบังคับกับเจ้าหน้าที่ หรือบุคคลที่ได้รับอนุญาตให้พกอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ ซึ่งอยู่ระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ อาทิ เจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชน เช่น ทหารตำรวจ ข้าราชการ พนักงาน หรือลูกจ้างของหน่วยงานราชการหรือรัฐวิสาหกิจ ประชาชนซึ่งอยู่ระหว่างการช่วยเหลือราชการ และมีเหตุจำเป็นต้องมีและใช้อาวุธตามกฎหมาย

‘รัฐบาล’ ชวนประชาชนเที่ยวงาน ‘OTOP City 2023’ กระตุ้นเศรษฐกิจ ชม-ชิม-ชอป สินค้าฝีมือคนไทย 16-24 ธค.นี้ ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี

(22 พ.ย. 66) นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กรมการพัฒนาขุมชน กระทรวงมหาดไทย กำหนดจัดงาน OTOP City 2023 เพื่อจัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ เพื่อเพิ่มช่องทางการตลาดหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ และสร้างรายได้ให้กับชุมชน รวมถึงเพื่อประชาสัมพันธ์การดำเนินงานโครงการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ ตลอดจนเพื่อสร้างการเรียนรู้แนวทางในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ OTOP ให้สอดคล้องกับความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

นายคารม กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทย กำหนดเป้าหมายในการจัดงาน คือ ผู้ผลิตผู้ประกอบการ OTOP พี่ผ่านการคัดสรรสุดยอดหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ ปีพ.ศ 2565 ระดับ 3-5 ดาวจาก 76 จังหวัดและกรุงเทพมหานคร และผู้ประกอบการ OTOP ชวนชิม เข้าร่วมจำหน่ายไม่น้อยกว่า 2,000 กลุ่ม/ราย และสามารถสร้างงาน สร้างรายได้ไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท สำหรับรูปแบบการจัดงานในครั้งนี้ จะมีการจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดี ศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว การจัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย การจัดแสดงและจำหน่ายสินค้า OTOP ระดับ 3-5 ดาว และอาหารชวนชิม กิจกรรมส่งเสริมการขายและการบริการ กิจกรรม Highlight ได้แก่ ศิลปิน OTOP นำเสนอผลงานที่มีอัตลักษณ์บ่งบอกถึงภูมิปัญญาอันทรงคุณค่า ผ้าไทยใส่ให้สนุก ตลาดกลางเส้นไหมและเส้นใยธรรมชาติ ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี OTOP Trader และหมู่บ้านคนรักษ์ช้าง

นายคารม กล่าวว่า รัฐบาลขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนร่วมสนับสนุนสินค้าจากผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ชม ชิม ช้อป และร่วมภาคภูมิใจไปกับสุดยอดสินค้า OTOP ทั่วไทย ที่สุดแห่งภูมิปัญญา ตั้งแต่ระหว่างวันที่ 16 - 24 ธันวาคม 2566 ที่อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยสร้างโอกาส สร้างอาชีพและสร้างรายได้ให้กับผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ช่วยให้เศรษฐกิจของประเทศไทย มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน

 

‘นายกฯ เศรษฐา’ คุย ‘ผบ.ทสส’ กำจัดยางเถื่อน หวัง!! สางปัญหาลุล่วง ราคายางโดด กก.ละ 5 บ.

(22 พ.ย. 66) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหายางเถื่อนว่า วานนี้ (21 พ.ย.) ตนได้เข้าประชุมพรรคเพื่อไทย (พท.) ซึ่งประธาน สส.พรรคก็ได้ฝากเรื่องนี้ไว้แล้ว และ สส.หลายคนก็สะท้อนว่า ทุกวันนี้ไม่ได้มีแต่เรื่องหมูเถื่อน ยังมียางเถื่อนเกิดขึ้นด้วย

"ซึ่งผมยอมรับว่านี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้ยินคำนี้ แต่ภารกิจเยอะก็พยายามรับฟัง จึงถามว่า เกิดขึ้นที่ไหน เขาก็บอกว่าทุกที่เต็มไปหมด ผมก็เลยบอกว่าให้ขยายความหน่อยได้ไหม ลงรายละเอียดนิดนึงได้หรือไม่ เพราะชายแดนไทยกับพม่ามีตั้งพันกว่ากิโลเมตร ผมจะได้ไปเจาะปัญหาได้อย่างตรงจุด ซึ่งเมื่อคืนและช่วงเช้าได้ไปหาข้อมูลเพิ่มเติมก็พบว่า ในสมัยก่อนที่ จ.ตาก มีปัญหาเรื่องยางเถื่อนเยอะ แต่พอมีการสู้รบกันแถวนั้น ก็ย้ายมาที่สังขละบุรี และ จ.ระนอง จึงได้สั่งการไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่า จะเป็นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และได้ประสานผ่านทาง พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) โดยโทรศัพท์คุยกันเมื่อตอน 7 โมง แล้วท่านก็โทรกลับมารายงานว่า ยอมรับว่ามีจริง ผมจึงสั่งการไปแล้ว ก็น่าจะดีขึ้น"

นายกฯ กล่าวว่า ทั้งนี้ สส.พรรคเพื่อไทย และ สส.อาวุโสของพรรคหลายคนมีความชำนาญการเรื่องยาง บอกว่าถ้าเรากำจัดตรงนี้ได้ ยางจะขึ้นมากิโลกรัมละ 5 บาท ซึ่งได้ยินแบบนี้ก็ใจฟู จึงอยากตั้งใจทำงาน และจะเร่งทำงานให้ และยังกล่าวอีกว่า เมื่อสักครู่มีคนบอกว่าของเถื่อนเยอะ ตนก็รับฟัง ถ้ามีตรงไหนก็บอกมาได้ ชี้เบาะแสมาให้ดี ๆ และจะเข้าไปบริหารจัดการให้


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top