Wednesday, 7 May 2025
TheStatesTimes

นราธิวาส-รมต.กระทรวงแรงงานและคณะฯ ร่วม “ปั่นน้ำใจ มอบความสุข เด็กกำพร้า PNYS นราธิวาส

วันที่ 29 ตุลาคม 2566 ณ. อาคาร อเนกประสงค์ มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ ได้มีการจัดงานระดมทุนเพื่อสมทบทุน กองทุนเด็กกำพร้าเป็นประจำทุกปี การจัดงานครั้งนี้เป็นการจัดงานครั้งที่ 9 ภายใต้ชื่อ “ ปันน้ำใจ มอบความสุข เด็กกำพร้า PNYS ” โดย นาย มูหามะอาสมี เจะเตะ ประธานคณะกรรมการกองทุนเด็กกำพร้า นราธิวาส เป็นเจ้าภาพในการจัดงาน และได้รับเกียรติ ต้อนรับ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นาย นัจมุดดีน อูมา ประธานคณะทำงานรัฐมนตรี และคณะฯ นายปรีชา นวลน้อย รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ผศ.ดร.จงรัก พลาศัย นายกสภามหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ ผศ.ดร. ปรีชา สะแลแม อธิการบดีมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ นายซาฟีอี เจะเลาะ ประธานกรรมอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาส และผู้มีจิตศรัทธา ได้ ร่วมงาน “ ปั่นน้ำใจ มอบความสุข เด็กกำพร้า ”  

โดยท่านรัฐมนตรีกระทรวงแรงงาน ได้มอบเงินสมทบทุนการศึกษาให้กับเด็กกำพร้า จำนวน 100,000 บาท (หนึ่งแสนบาทถ้วน) สำหรับในปีนี้ มีผู้ศรัทธาบริจาคทุนการศึกษาให้เด็กกำพร้า จำนวน 122 ทุน ทุนละ 5,000  บาท (ห้าพันบาทถ้วน) รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 610,000 บาท (หกแสนหนึ่งหมื่นบาทถ้วน) วัตถุประสงค์การจัดงานหารายได้ เพื่อสมทบทุนกองทุนช่วยเหลือบุตร ธิดาของอดีตนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง ที่เสียชีวิตและเด็กกำพร้าอื่นๆ ตลอดจนช่วยเหลือกิจกรรมการกุศลต่างๆ ตามความเหมาะสม เเละเพื่อแบ่งเบาภาระหน้าที่หน่วยงานของรัฐในการดูแลเด็กกำพร้าให้มีสภาพความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น รวมถึงเป็นการสร้างความรักความสามัคคีระหว่างรุ่นพี่และรุ่นน้องที่จบจากสถาบัน มหาวิทยาลัยรามคำแหงเดียวกัน

แวดาโอ๊ะ หะไร/ อัสมา บินมะนุ รายงานข่าว/ภาพ นราธิวาส

Grab จับมือพาร์ตเนอร์ให้กู้ซื้อรถอีวี BYD 'ไม่ดูประวัติการเงิน-เงินดาวน์' ขอแค่ประวัติขับ Grab และหักผ่อนรายวันจากค่าบริการ เริ่มต้นปี 67

(30 ต.ค. 66) เมธิณี อนวัชกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจการเดินทางและบริหารพาร์ตเนอร์คนขับ แกร็บ ประเทศไทย เปิดเผยว่า แกร็บเตรียมผนึกความร่วมมือกับ Moove ผู้ให้บริการด้านสินเชื่อยานยนต์ และ Rever Automotive ผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า BYD 

เปิดโอกาสให้พาร์ตเนอร์คนขับสามารถเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อใช้ให้บริการรับส่งผู้โดยสารในโปรแกรม 'ผ่อนขับรับรถ' (Drive-to-Own)

ทั้งนี้ไม่ต้องใช้ประวัติทางการเงิน แต่จะพิจารณาอนุมัติสินเชื่อจากประวัติในการให้บริการกับแกร็บ คือ พาร์ตเนอร์คนขับไม่ต้องวางเงินดาวน์ และสามารถผ่อนจ่ายได้แบบรายวันผ่านการหักรายได้จากการให้บริการในแต่ละวัน

สำหรับความพิเศษของโปรแกรมสินเชื่อที่มีระยะเวลาผ่อนนานสูงสุด 72 เดือนนี้ และยังมีสิทธิประโยชน์เสริมอื่น ๆ อาทิ ฟรีค่าซ่อมบำรุงรถ รวมถึงครอบคลุมการทำประกันรถยนต์ ประกันสุขภาพและประกันชีวิตให้กับพาร์ตเนอร์คนขับ

อย่างไรก็ตาม โปรแกรมดังกล่าวจะเริ่มเปิดให้พาร์ตเนอร์คนขับแกร็บสามารถจองรถยนต์ไฟฟ้าจาก BYD ได้ในได้ในช่วงต้นปี 2567 และคาดว่าจะทำให้พาร์ตเนอร์คนขับสามารถเข้าถึงรถยนต์ไฟฟ้าได้ทั้งสิ้น 5,000 คันภายในปี 2568 

‘สิระ’ บอกลาการเมืองไทย หันเปิดร้านอาหาร ‘ครัวเรือนไทย’ ด้าน ‘เอ๋ ปารีณา’ ร่วมแจม โชว์เสน่ห์ตำส้มตำ 1 พ.ย.นี้

(30 ต.ค. 66) นายสิระ เจนจาคะ อดีต สส.กรุงเทพมหานคร พรรคพลังประชารัฐ พลิกชีวิตตัวเองอีกครั้งจากนักการเมืองมาเปิดร้านอาหาร ‘ครัวเรือนไทย’ ริมถนนแจ้งวัฒนะ ตรงข้ามศูนย์ราชการ

นายสิระ เปิดเผยว่า ร้านอาหารครัวเรือนไทย จะเป็นอาหารแนวไทย ไทยอีสาน และอาหารจีน พร้อมเชิญชวนทุกคนให้ลองแวะมาชิมลิ้มลองรสชาติ

“มากินปลาเป็น ๆ กุ้งเป็น ๆ อาหารสด ๆ ที่ครัวเรือนไทย ห้องแอร์เย็น ๆ ชมบ้านสวย ๆ การเดินทางสะดวก อยู่ติดถนนใหญ่”

นายสิระ พูดทำนองเหนื่อยหน่ายกับการเมืองว่า “เลิกแล้วการเมือง การเมืองสมัยนี้ไม่สนุก ไม่น่าเล่น พูดผิด พูดพลาดนิด โดนเล่นเสียเละเลย คนที่โกงก็โกงกันไป คนทำงานก็เจ็บตัว ทำงานมากเจ็บตัวมาก คนไม่ทำงานก็อยู่สุขสบาย” นายสิระกล่าว

นายสิระ กล่าวอีกว่า รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันก็แปลก ๆ เมื่อก่อน สส. หรือกรรมาธิการมีอำนาจ มีหน้าที่ในการทำงานตรวจสอบ ตอนหลังทำอะไรไม่ได้ ฝ่ายค้านเองแทนที่จะทำหน้าที่ในการตรวจสอบรัฐบาล แต่กลับเล่นเกมการเมืองหวังผลต่อกระแสมากกว่า

“เพื่อนผมหลายคนทั้งที่เป็น สส. และไม่เป็น สส. เล่าให้ฟังว่า พอเป็น สส. รอแต่ให้เขาสั่ง แต่ละคนอยู่ต่างจังหวัดใหญ่โตกันทั้งนั้น พอมาเป็นนักการเมืองเป็นเบี้ยกันไปหมด”

นายสิระ กล่าวอีกว่า สมัยนี้น่าแปลกใจ สส. หลายคนที่มีชื่อเสียง มีผลงานมากมาย เข้าถึงชาวบ้าน แต่กลับสอบตกเฉยเลย แพ้ให้กับนักการเมืองหน้าใหม่ เป็นใครมาจากไหนไม่รู้ ไม่เคยมีผลงานอะไร มาลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น สส. ชาวบ้านเลือกเฉย ก็ไม่รู้ว่าชาวบ้านคิดอะไรอยู่

นายสิระ กล่าวทิ้งท้ายว่า “สภาพทางการเมืองในปัจจุบันจึงไม่น่าเล่น ไม่สนุก เรากลับมาทำมาหากินดีกว่า มีเวลาว่างก็เดินทางท่องเที่ยว”

ทั้งนี้ นายสิระ เป็นนักการเมืองสายดุเดือด ถึงลูกถึงคน เอาจริงเอาจังกับการช่วยเหลือชาวบ้าน เคยทำธุรกิจหลายอย่าง จนมาถึงสร้างบ้านเรือนไทยขาย และสุดท้ายก็มาเปิดร้านอาหาร โดยจะเปิดในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ และจะมีอดีต สส.ปารีณา ไกรคุปต์ พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองตลอดชีวิต จะมาโชว์ฝีมือในการตำส้มตำด้วย

นายสิระ ถูกศาลรัฐธรรมนูญมีมติ ให้พ้นสมาชิกภาพ สส. เนื่องจากเคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดของศาลแขวงปทุมวัน ในคดีกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ที่กระทำโดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา จึงเป็นบุคคลที่มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (10) อันเป็นเหตุให้สมาชิกภาพการเป็น ส.ส. สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6)

‘เนวิน’ ปลื้ม ‘สมเกียรติ จันทรา’ นักบิดชาวไทยขึ้นโพเดียมโมโตทู มอบคำพูดปลุกใจ “เราเป็นคนไทยของพระเจ้าอยู่หัว”

(30 ต.ค. 66) เพจเฟซบุ๊ก ‘ลุงเนวิน’ นำคำพูดของ นายเนวิน ชิดชอบ ประธานที่ปรึกษาโครงการสนามแข่งรถช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ในหัวข้อ ‘คำสอนของลุง’ มีคำพูดให้กำลังใจนายสมเกียรติ จันทรา นัดบิดชาวไทย สุดกินใจ

“ไม่ว่าจะไปสนามไหน ประเทศไหน ในโลกขอให้รู้ว่า คนไทยทุกคน เป็นกำลังใจให้ ขอให้รู้ไว้ เรามีธงชาติไทย ติดตัวไปทุก ๆ ที่ ขออยู่ในใจ ตลอดเวลาว่าเราเป็นคนไทยของพระเจ้าอยู่หัว”

ลุงเนวินพูดขณะมอบ ลิสต์แบรนด์ ‘เรารักพระเจ้าอยู่หัว’ ให้ ก้อง สมเกียรติ จันทรา คนไทยคนแรก ที่ขึ้นยืนโพเดียมการแข่งขัน moto 2 ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต

หนึ่งในเป้าหมายของลุงเนวิน ในการสร้างสนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต นอกเหนือจากปักหมุดประเทศไทยไว้ในใจของแฟนมอเตอร์สปอร์ตทั่วโลก แล้วก็คือการสร้างโอกาส และสนับสนุนนักกีฬาไทย ขึ้นยืนบนโพเดียมระดับโลกให้ได้

วันนี้ ‘สมเกียรติ จันทรา’ ทำให้ความหวังของลุงเนวินสำเร็จไปแล้ว 1 ขั้น ทำให้คนไทยมีความสุข ทำให้แฟน moto GP ทั่วโลกได้เห็นความสามารถของคนไทย ให้เห็นกำลังใจของคนไทย ที่ส่งก้อง ขึ้นยืนโพเดียม

อีกหนึ่งความหวัง และเป้าหมายของสนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต และ ลุงเนวิน คือ การสนับสนุนให้นักกีฬาไทย ได้เข้าแข่งขัน moto GP และขึ้นยืนบนโพเดียมให้ได้

‘ส่งออกไทย’ 7 เดือนแรก โกยมูลค่าทะลุ 2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ชี้ ‘ถุงมือกีฬา’ โตแกร่ง!! หลังการแข่งขันกลับมาคึกคักต่อเนื่อง

(30 ต.ค. 66) นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยสถิติการใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าสำหรับการส่งออกภายใต้ระบบสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไป หรือ GSP ที่ไทยได้รับในปัจจุบัน ได้แก่ สหรัฐอเมริกา สวิตเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ และกลุ่มประเทศเครือรัฐเอกราช โดยใน 7 เดือนแรกของปี 2566 มีมูลค่ารวม 2,017.86 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วนการใช้สิทธิฯ ประมาณ 53% และตลาดที่ไทยมีการใช้สิทธิ GSP ส่งออกมากที่สุดเป็นอันดับ 1 คือ สหรัฐฯ ซึ่งมีมูลค่า 1,854.57 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วน 91.90% ของมูลค่าการส่งออกรวมที่ใช้สิทธิ GSP

สำหรับการใช้สิทธิ GSP ในการส่งออกสินค้าไปสหรัฐฯ ที่มีความน่าสนใจและมีอัตราการเติบโตได้ดีตามปริมาณความต้องการสินค้าที่เพิ่มขึ้นจากรายการแข่งขันกีฬาที่กลับมาคึกคักอย่างต่อเนื่องหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 คือ สินค้าถุงมือสำหรับกีฬา อาทิ กอล์ฟ เบสบอล และการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบ โดยมีมูลค่าการใช้สิทธิฯ 26.74 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ทั้งนี้ สหรัฐฯ มีการนำเข้าสินค้าดังกล่าวจากไทยมากเป็นลำดับที่ 3 รองจากเวียดนามและอินโดนีเซีย คิดเป็นสัดส่วนการนำเข้า 16.33% ของมูลค่าการนำเข้าสินค้าเดียวกันจากทั่วโลก ซึ่งการนำเข้าที่ใช้สิทธิ GSP ทำให้ไทยได้รับการลดภาษีนำเข้าสหรัฐฯ จากเดิมที่ต้องเสียภาษี 4.9% (MFN Rate) ลดลงเหลือ 0% นอกจากนี้ยังมีสินค้าสำคัญอื่นๆ ที่มีมูลค่าการใช้สิทธิ GSP ส่งออกไปสหรัฐฯ สูง โดยสินค้าอันดับ 1 ยังคงเป็นส่วนประกอบของเครื่องปรับอากาศ และสินค้าอื่นๆ อาทิ กรดมะนาวหรือกรดซิทริก อาหารปรุงแต่ง กระเป๋าเดินทาง ถุงมือยางเพื่อการแพทย์ และเลนส์แว่นตา เป็นต้น

สำหรับโครงการ GSP ของสวิตเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ และกลุ่มประเทศเครือรัฐเอกราช (CIS) ที่สินค้ามีมูลค่าการใช้สิทธิฯ สูง อาทิ เพชรพลอยรูปพรรณทำด้วยโลหะมีค่า (สวิตเซอร์แลนด์) ของผสมของสารที่มีกลิ่นหอมชนิดที่ใช้ในอุตสาหกรรมอาหารหรือเครื่องดื่ม (สวิตเซอร์แลนด์) หน้าปัดนาฬิกาชนิดคล็อกหรือวอตซ์ (สวิตเซอร์แลนด์) ข้าวโพดหวาน (นอร์เวย์) สูทของสตรีหรือเด็กหญิงทำด้วยขนแกะหรือขนละเอียดของสัตว์ (นอร์เวย์) เนื้อสัตว์แปรรูป (นอร์เวย์) สับปะรดกระป๋อง ปลาทูน่า ปลาสคิปแจ็ก และปลาโบนิโตชนิดซาร์ดา (CIS) เป็นต้น

‘นายกฯ อิสราเอล’ ชี้เข้าสู่สงครามระยะ 2 ส่งทหารลุยกาซาภาคพื้นดิน อ้าง!! ไม่ได้เป็นฝ่ายก่ออาชญากรรมสงคราม

เมื่อวานนี้ (29 ต.ค. 66) นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล กล่าวว่า ปฏิบัติการภาคพื้นดินที่กองกำลังป้องกันอิสราเอล (IDF) กำลังดำเนินการอยู่ในฉนวนกาซาขณะนี้ถือเป็นระยะที่ 2 ของสงครามกับฮามาส พร้อมยืนยันว่ามีการส่งผู้บัญชาการของอิสราเอลกระจายกำลังไปทั่วทั้งฉนวนกาซาแล้ว

เนทันยาฮูกล่าวว่า วัตถุประสงค์ของพวกเขาชัดเจนมาก ขณะนี้กองกำลังภาคพื้นดินของอิสราเอลได้บุกเข้าไปยังฐานที่มั่นของปีศาจเพิ่มเติม เพื่อรื้อถอนกลุ่มฮามาสและนำตัวประกันกลับบ้าน

เนทันยาฮูกล่าวว่า นี่จะเป็นสงครามที่ยาวนานและยากลำบาก แต่เราจะชนะ และเราจะเป็นผู้คว้าชัย พร้อมกับเปรียบเทียบสงครามครั้งนี้ว่าเป็นสงครามประกาศเอกราชครั้งที่ 2 ของอิสราเอล เราจะสู้ เราจะไม่ยอมแพ้ เราจะไม่ถอนตัว ไม่ว่าจะบนดินหรือใต้ดิน

ผู้นำอิสราเอลยังบอกด้วยว่า อย่ามากล่าวหาว่าเราก่ออาชญากรรมสงคราม มันเป็นเพียงวาทกรรมหลอกลวง เราคือกองทัพที่มีคุณธรรมมากที่สุดบนโลกนี้ IDF กำลังใช้ความระมัดระวังในการปกป้องพลเรือน ฮามาสต่างหากที่เป็นฝ่ายก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ ใช้คนของตนเองเป็นโล่มนุษย์

ทั้งนี้ IDF ระบุว่าพวกเขาได้ส่งกองกำลังเข้าไปปฏิบัติการภาคพื้นดินทางตอนเหนือของอิสราเอล และดูเหมือนพวกเขาจะเคลื่อนที่จากที่นั่นลงไปทางตอนใต้ด้วย ขณะที่กองทัพอิสราเอลได้แจกใบปลิวเหนือท้องฟ้าเมืองกาซา เตือนผู้อยู่อาศัยในพื้นที่ว่าพื้นที่ดังกล่าวได้กลายเป็นสนามรบ และพวกเขาจะต้องลงไปทางตอนใต้

ปฏิบัติการภาคพื้นดินของอิสราเอลเกิดขึ้นควบคู่ไปกับการยิงถล่มฉนวนกาซาทางอากาศที่ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

‘แบงก์ชาติ’ ชี้!! ‘เศรษฐกิจโลก’ ยังมีความเสี่ยงสูง แนะคลังสร้างกันชนรับมือ หลังหนี้สาธารณะ-ครัวเรือนพุ่ง

(30 ต.ค. 66) นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจโลกในปี 2567 มีความเสี่ยงต่อการขยายตัวเพิ่มสูงขึ้น โดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) ระบุว่า จะเป็นการฟื้นตัวช้าและไม่ทั่วถึง ในระยะปานกลางขยายตัวได้ในระดับ 3% เป็นการขยายตัวต่ำสุดในรอบ 30 ปี เป็นระดับที่ไม่สวยหรูนัก

ทั้งนี้ ปัจจัยหลักมาจากเศรษฐกิจจีนชะลอตัว รวมทั้งความเสี่ยงใหม่ เช่น ห่วงโซ่อุปทาน ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ รวมถึงความขัดแย้งในตะวันออกกลาง ที่ส่งผลกระทบต่อราคาพลังงาน จึงเป็นความเสี่ยงที่ประเมินผลต่อเศรษฐกิจที่มีความยากกว่าในอดีต เพราะมองผลข้างเคียงไม่ออก และคาดเดาไม่ได้

ดังนั้น ในเวทีโลกจึงห่วงเรื่องเสถียรภาพของเศรษฐกิจในแต่ละประเทศเป็นหลัก โดยเฉพาะไอเอ็มเอฟ ที่แนะนำว่าแต่ละประเทศ ควรมุ่งเน้นทำนโยบาย ดูแลอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในกรอบ เพราะผลจากสงคราม อาจทำให้เกิด Inflation Shock ที่เคยดูแลเงินเฟ้อ ก็อาจจะกลับพุ่งขึ้นมาอีก รวมทั้งสร้างกันชนทางภาคการคลัง จากช่วงที่ผ่านมาในแต่ละประเทศมีการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคการคลังกันมาก จึงควรมุ่งเน้นลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ เร่งปรับหนี้สาธารณะให้ลดลง เพื่อเตรียมรับมือ shock ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต พร้อมกับดูแลเสถียรภาพด้านการเงินไปด้วย และมุ่งแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างระยะยาว เช่น เศรษฐกิจดิจิทัล และ ธุรกิจสีเขียว

นายเศรษฐพุฒิ กล่าวว่า ในส่วนของไทย แม้เสถียรภาพโดยรวมจะโอเค แต่ก็ชะล่าใจไม่ได้ เพราะมีบางประเด็นที่โอเค และบางเรื่องที่โอเคน้อยหน่อย เช่น เสถียรภาพต่างประเทศอยู่ในระดับดี ทั้งดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล หนี้ต่างประเทศไม่สูง ทุนสำรองระหว่างประเทศสูง ฐานะธนาคารพาณิชย์แข็งแกร่ง ส่วนที่ต้องระมัดระวัง คือ ปัญหาหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูงถึง 90.7% ต่อจีดีพี แม้จะลดจากช่วงที่สูงที่สุดคือ 94% แต่ก็ยังสูง และอยากให้กลับลดลงมาอยู่ในระดับเกณฑ์ที่สากล 80% รวมทั้งหนี้สาธารณะในระดับ 61.7% ต่อจีดีพี ที่ถือว่าสูง

ขณะที่เสถียรภาพตลาดทุนที่ผ่านมามีเงินทุนไหลออกตั้งแต่ต้นปี -8.4% หรือมีเงินทุนไหลออกกว่า 8.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ ผ่านตลาดหุ้นและพันธบัตร สวนทางกับประเทศอื่น สูงสุดในรอบ 10 ปี และสูงเป็นที่ 2 รองจากที่เคยไหลออกสูงสุด 1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่อัตราแลกเปลี่ยนก็มีความผันผวน 8-9% สูงกว่าอดีตและประเทศเพื่อนบ้าน เป็นรองแค่ประเทศเกาหลีใต้ที่ผันผวน 12%

นายเศรษฐพุฒิ กล่าวอีกว่า มีความเสี่ยงที่ Credit Rating Agency’s จี้จุดประเทศไทย มีโอกาสปรับมุมมองจากเสถียรภาพ เป็นมุมมองเชิงลบ (Negative) หากนโยบายภาคการคลังมีความเสื่อม ดังนั้นควรมุ่งลดรายจ่าย ทยอยปรับลดการขาดดุล ปรับลดหนี้สาธารณะ มีมาตรการเพิ่มรายได้ ซึ่งล่าสุดมีบางบริษัทให้ความกังวลภาระหนี้ต่องบประมาณ ไม่เกิน 12% ซึ่งปัจจุบันไทยอยู่ในระดับ 10% กว่า

“หนี้สาธารณะยอมรับว่าวิ่งไปเยอะจากช่วงก่อนโควิดในระดับ 40% ต่อจีดีพี ทุกประเทศก็มุ่งดูเรื่องเสถียรภาพ จะบอกว่าเราไม่แคร์เลยก็คงไม่เหมาะ หากมองว่าความเสี่ยงเยอะ ก็ควรต้องเก็บลูกกระสุนไว้หรือเปล่า ซึ่งพื้นที่ในการทำนโยบาย (Policy Space) เราจะไม่เห็นความสำคัญของมัน จนกว่าจะหมด หรือมันไม่มี” นายเศรษฐพุฒิ กล่าว

‘ชาดา’ ทิ้งงานตักบาตรเทโว สวมบทฮีโร่บุกช่วยหญิงสูงวัย หลังติดอยู่ในอาคารระหว่างเกิดเหตุไฟไหม้กลางเมืองอุทัยธานี

(30 ต.ค. 66) เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลเมืองอุทัยธานีพร้อมด้วย ตำรวจ สภ.เมืองอุทัยธานี ได้รับแจ้งเกิดเหตุไหม้อาคารซึ่งเป็นตึก 3 ชั้น ใจกลางเมืองอุทัยธานี บ้านตั้งอยู่ที่ถนนวงศาโรจน์ เขตเทศบาลเมืองอุทัยธานี อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี โดยทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากเทศบาลเมืองอุทัยธานี ระดมกำลังกว่า 100 นาย และรถดับเพลิงกว่า 10 คัน เข้าเร่งฉีดน้ำเพื่อสกัดเพลิงไม่ให้ลุกลามไหม้อาคารข้างเคียง

จากการตรวจสอบพบว่า ภายในบ้านหลังเกิดเหตุนั้น มีผู้ติดอยู่ภายใน 2 ราย เป็นคู่สามีภรรยา ทราบชื่อคือ นายณัฐนัย (สงวนนามสกุล) อายุ 76 ปี และนางสายใจ (สงวนนามสกุล) ติดอยู่ภายในห้องนอนชั้น 3 โดยระหว่างนั้นได้มี นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย นายเจเศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี เขต 1 ซึ่งกำลังต้อนรับนักท่องเที่ยวในงานประเพณีตักบาตรเทโว อยู่ที่บริเวณห้าแยกวิทยุ ซึ่งมีการแสดงโต๊ะหมู่บูชาประดับงาช้าง ได้รีบบุกเข้าไปภายในอาคารหลังดังกล่าวเพื่อเข้าไปช่วยเหลือนำตัวนางสายใจ ที่ยังคงติดอยู่ในห้องนอนชั้น 3 ส่วนนายณัฐนัย ผู้เป็นสามี ได้วิ่งออกมาขอความช่วยเหลือ จึงทำให้ทั้งคู่ปลอดภัยจากเหตุการณ์นี้

ท่ามกลางบรรยากาศที่ผู้เป็นสามี พร้อมด้วยครอบครัว ญาติ พี่น้อง ของผู้ประสบเหตุการณ์เข้ามาโผกอดกันด้วยความโล่งใจ พร้อมกับขอบคุณนายชาดา และ ส.ส.เจเศรษฐ์ ที่เข้ามาให้การช่วยเหลือโดยไม่กลัวอันตราย

ส่วนเพลิงที่ลุกไหม้นั้น ขณะนี้สงบลงแล้ว และไม่พบการลุกลามไปยังอาคารข้างเคียงแต่อย่างใด ส่วนสาเหตุ คาดว่าน่าจะมาจากไฟฟ้าลัดวงจร ซึ่งต้นเพลิงเกิดขึ้นที่บริเวณชั้น 1 ของอาคาร โดยสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ที่แท้จริง ต้องขอทางเจ้าหน้าที่เข้ามาทำการตรวจสอบที่แน่ชัดอีกครั้ง

'เศรษฐา' หารือทวิภาคี 'นายกฯ ลาว' ถก 5 ประเด็นยกระดับสัมพันธ์ ศก. ยาหอม!! 'ลาว' เสมือนครอบครัว พร้อมเชิญบุคคลสำคัญเยือนไทย

(30 ต.ค. 66) ภายหลังเดินทางกลับจากการเยือน สปป.ลาว ลายเซ็นทวีศิลป์นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ทวีตข้อความผ่าน X ว่า...

สปป. ลาวเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มีความสำคัญลำดับต้น ๆ ของไทย ชาวลาว-ชาวไทยเปรียบเสมือนครอบครัวและญาติสนิทมิตรสหายที่มีความสัมพันธ์แนบแน่นยาวนานครับ 

ในทางภูมิศาสตร์ ลาวเป็นเส้นทางขนส่งสินค้าหลักระหว่างไทย จีน และเวียดนาม เป็นฐานการลงทุนสำคัญของไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านพลังงาน 

การเยือนลาวอย่างเป็นทางการครั้งนี้ ประเด็นหลัก ๆ ที่ผมได้หยิบยกมาหารือทวิภาคีกับท่านสอนไซ สีพันดอน นายกฯ สปป. ลาว คือ...

1.ทั้ง 2 ฝ่ายเห็นตรงกันที่จะผลักดันให้บรรลุเป้าหมายการค้าที่ 11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 68  

2.ด้านความเชื่อมโยง ได้เร่งรัดการก่อสร้างสะพานรถไฟข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 2 หนองคาย-เวียงจันทร์ และเร่งการเริ่มเดินรถไฟเส้นทางท่านาแล้ง-เวียงจันทร์ (คำสะหวาด) ภายในต้นปี 67  

3. ด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ ให้กระชับความร่วมมือเพื่อส่งเสริมให้เกิดการขยายตัวทางการค้าระหว่างกันมากยิ่งขึ้น เช่น มีการกำหนด handling charge ในการเปลี่ยนถ่ายสินค้าที่ Vientiane Logistics Park ที่ชัดเจน หารือให้รถบรรทุกหัวลากตู้คอนเทนเนอร์ของไทยวิ่งเข้าลาวจนถึงชายแดนลาว-จีน และลาว-เวียดนาม และเร่งจัดทำ Common Control Area (CCA) เพื่อลดขั้นตอนพิธีศุลกากรที่สะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 2   

4.เราเห็นตรงกันที่จะทำแผนงานร่วมกันเพื่อเพิ่มการท่องเที่ยวระหว่างกันให้มากยิ่งขึ้น รวมถึงดึงดูดนักท่องเที่ยวจากภายนอกด้วย

5.ด้านปัญหาหมอกควันข้ามแดน ได้เร่งจัดทำแผนปฏิบัติการร่วม 'ลาว-เมียนมา-ไทย' ให้เสร็จทันในปี 66    

ทั้งนี้ ผมยังได้เข้าเยี่ยมคารวะท่านทองลุน สีสุลิด ประธานประเทศลาว และท่านไซสมพอน พมวิหาน ประธานสภาแห่งชาติลาวด้วย ซึ่งต้องขอขอบคุณทางการลาวที่ให้การต้อนรับผมและคณะอย่างอบอุ่น ที่ผ่านมา นายกฯ ลาว ยังไม่ได้มีโอกาสมาเยือนไทยอย่างเป็นทางการ ผมจึงได้เรียนเชิญท่านมาเยือนบ้านเราครับ

‘พิมพ์ภัทรา’ เตือน!! ปชช. เลือกซื้อยางรถยนต์มีเครื่องหมาย มอก. หลังพบร้านค้า จ.ชลบุรี แอบขายยางไม่มีมาตรฐานกว่า 800 เส้น

(30 ต.ค. 66) นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ภายหลังจากได้มอบนโยบายให้สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) กวาดล้างสินค้าด้อยคุณภาพให้หมดไปจากท้องตลาดภายใน 6 เดือน ภายใต้ภารกิจ ‘Quick win’ และติดตามความคืบหน้าของภารกิจ พบการยึดอายัดสินค้าไม่ได้มาตรฐานอย่างต่อเนื่อง ทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้า วัสดุก่อสร้าง และสินค้าอุปโภคบริโภค

ล่าสุด สมอ. เข้าตรวจค้นร้านจำหน่ายยางรถยนต์แห่งหนึ่งในตำบลห้วยใหญ่ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ที่มีการโฆษณาขายผ่านช่องทางออนไลน์ พบยางล้อรถยนต์ตกเกรดหลายขนาดที่นำมาลบยี่ห้อบนแก้มยาง จำนวน 684 เส้น และยางล้อที่ไม่มีเครื่องหมาย มอก. จำนวน 180 เส้น รวมทั้งสิ้น 864 เส้น มูลค่ากว่า 3.3 ล้านบาท ตนจึงสั่งการให้ สมอ. ดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ประกอบการรายนี้ และเร่งตรวจสอบขยายผลไปถึงผู้กระทำความผิดรายอื่นต่อไปด้วย

นายวันชัย พนมชัย รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม รักษาราชการแทนเลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิต ภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) กล่าวเพิ่มเติมว่า ยางล้อเป็นสินค้าที่ สมอ. ควบคุม เนื่องจากเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน การทำ นำเข้า ต้องได้รับอนุญาตจาก สมอ. ก่อน รวมถึงร้านจำหน่ายต้องขายเฉพาะสินค้าที่ได้มาตรฐานเท่านั้น หากฝ่าฝืนจะมีความผิดตามกฎหมาย

สำหรับผู้ประกอบการรายนี้มีความผิดฐานจำหน่ายสินค้าไม่ได้มาตรฐาน มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 5 แสน หรือทั้งจำทั้งปรับ หลังจากนี้ สมอ. จะตรวจสอบเพื่อขยายผลไปถึงผู้ทำผลิตภัณฑ์ยางรถยนต์ดังกล่าวต่อไป

ทั้งนี้ ฝากถึงประชาชนที่กำลังมองหายางรถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ หรือกำลังจะเปลี่ยนยางใหม่ ให้สังเกต เครื่องหมาย มอก. คู่กับ QR Code โดยท่านสามารถสแกนเพื่อตรวจสอบแหล่งที่มาของยางเส้นนั้นได้ เช่น ผู้รับใบอนุญาต รายละเอียดเกี่ยวกับสินค้าที่ได้รับใบอนุญาต ก่อนตัดสินใจซื้อ และยังเป็นข้อมูลในการตรวจสอบหรือร้องเรียนในกรณีที่สินค้าไม่เป็นไปตามมาตรฐานตามที่ระบุไว้ นอกจากนี้ ให้สังเกตลักษณะภายนอกของยาง ต้องอยู่ในสภาพเรียบร้อย ที่แก้มยางต้องไม่มีร่องรอยการลบยี่ห้อ

ทั้งนี้ เพื่อความมั่นใจให้เลือกซื้อจากร้านจำหน่ายที่เชื่อถือได้ เช่น ร้านที่มีป้ายสัญลักษณ์ ‘ร้าน มอก.’ ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ประชาชนมั่นใจได้ เพราะผ่านการตรวจประเมินตามหลักเกณฑ์ของ สมอ. แล้ว และขอเตือนไปยังผู้ประกอบการที่กำลังฝ่าฝืนกฎหมาย โดยนำยางตกเกรดมาดัดแปลงโดยการลบยี่ห้อออกแล้วส่งขาย หรือนำมาประทับตรายี่ห้อใหม่ว่า การกระทำดังกล่าวถือเป็นภัยสังคม สร้างความเสียหายให้กับประชาชนถึงแก่ชีวิต หากพบการกระทำความผิดจะส่งเรื่องดำเนินคดีเพื่อเอาผิดให้ถึงที่สุด


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top