Friday, 2 May 2025
TheStatesTimes

รู้จัก ‘ปราชญ์ เทวานฤมิตรกุล’ นักเรียนทุนแบงก์ชาติ ประกาศ!! ขอนำความรู้ที่ได้กลับมาช่วยประเทศไทย

จากรายการ THE TOMORROW ซึ่งออกอากาศทางสถานีวิทยุ ส.ทร. FM93.0 MHz และสื่อออนไลน์ ในเครือ THE STATES TIMES ได้พูดคุยกับ ‘น้องไอซ์’ ปราชญ์ เทวานฤมิตรกุล เด็กไทยผู้เพียรพยายามและขอกลับมาทำงานที่บ้านเกิด หลังเรียนจบ เมื่อวันที่ 14 ต.ค.66 โดยมีเนื้อหา ดังนี้…

ประวัติของ น้องไอซ์ นั้น จบระดับประถมศึกษาจากโรงเรียนวัดดอนทอง จังหวัดฉะเชิงเทรา แล้วสอบเข้าโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน ในระดับมัธยมต้น จากนั้นเข้าศึกษาระดับมัธยมปลายโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ในแผนการเรียนวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์ โดยอยู่ในห้องของเด็กโครงการความสามารถพิเศษทางคณิตศาสตร์ หรือ Gifted Math และเมื่อเรียนจบ ก็ได้สอบชิงทุนและได้รับทุนธนาคารแห่งประเทศไทย ไปศึกษาต่อสาขาเศรษฐศาสตร์ ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา

ทั้งนี้ น้องไอซ์ ถือเป็นเด็กสายแข่งขันที่กวาดรางวัลมามากมาย เช่น ช่วงมัธยมต้นแข่งคณิตศาสตร์โอลิมปิกระดับชาติ ได้รางวัลเหรียญทอง ช่วงมัธยมปลายแข่งภูมิศาสตร์โอลิมปิกระดับชาติ ได้รางวัลเหรียญทอง และเป็นผู้แทนประเทศไทยไปแข่งขันภูมิศาสตร์โอลิมปิก นอกจากนี้ยังเคยแข่งขันแต่งบทร้อยกรองทั้งในระดับโรงเรียนและระดับประเทศ จากนั้นก็มุ่งมั่นสอบชิงทุน เนื่องจากมีเป้าหมายไปเรียนต่อระดับปริญญาตรีที่ต่างประเทศซึ่งเป็นสิ่งที่ท้าทายตัวเอง และอยากเห็นโลกกว้างมากขึ้น เพื่อตามฝันของตัวเองตอนเด็ก ๆ ที่อยากเป็นผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เนื่องจากเท่ดี เพราะจะมีลายเซ็นตัวเองอยู่บนธนบัตร โดยเจ้าตัวมักบอกเสมอว่า “ถ้ากล้าฝันก็ต้องพยายามไปให้ถึง” ซึ่งเขาเริ่มเข้าใกล้ความฝันแล้ว

เพราะด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ ทำให้น้องไอซ์ได้รับทุนจาก ‘ธนาคารแห่งประเทศไทย’ ไปศึกษาต่อที่ Northwestern University ประเทศสหรัฐอเมริกา ระดับปริญญาตรี ด้านสาขาวิชาเศรษฐศาสตร์ โดยขณะนี้กำลังขึ้นชั้นปี 2 ภายใต้รูปแบบการเรียนที่เจ้าตัวบอกว่าจะไม่พยายามกดดันตัวเอง ถึงแม้เวลากดดันตัวเองแล้วคะแนนจะดีขึ้นก็ตาม 

“ผมจะเรียนไปตามธรรมชาติที่เป็นไป แต่จะไม่กดดันตัวเอง เพราะถ้าเรากดดัน เช่น คาดหวังว่าต้องได้เกรด 3.9 ตลอดทุกเทอม จะทำให้เราไม่กล้าที่จะไปทำอย่างอื่น เช่น การเรียนรู้ชีวิตที่มหาวิทยาลัยว่าเป็นอย่างไร การปรับตัวต่าง ๆ เป็นต้น”

ทั้งนี้ น้องไอซ์ ได้บอกว่าความแตกต่างของมหาวิทยาลัยไทยกับมหาวิทยาลัยที่สหรัฐอเมริกาด้วยว่า มีความแตกต่างกันมากโดยเฉพาะโครงสร้างการสอน เพราะมหาวิทยาลัยที่สหรัฐอเมริกา เปิดโอกาสให้นักศึกษาเลือกเรียนในสิ่งที่อยากรู้ได้อย่างอิสระ แต่ต้องเรียนวิชาหลักของคณะให้ครบถ้วน ทว่าก็สามารถเรียนวิชาอื่น ๆ ที่อยากเรียนได้ 

“เราสามารถทำหลาย Major ได้ ซึ่งถือเป็นการเรียนแบบ ‘มิติสัมพันธ์’ เช่น เรียนเรื่องนี้เพื่อนำไปประยุกต์ใช้กับวิชาหลักที่เราเรียนได้ เป็นต้น” 

เมื่อถามว่าอะไรคือ ความท้าทายเมื่อไปเรียนที่ต่างประเทศ? น้องไอซ์บอกว่า “มี 3 เรื่องด้วยกัน คือ 1.ความท้าทายเรื่องภาษา ต้องมีการไปเตรียมตัวเรียนภาษาก่อน 1 ปี 2.การจัดการเวลาเรียน เราต้อง Balance ให้ดี ทั้งเวลาเรียน ทำกิจกรรม การสร้างความสัมพันธ์กับเพื่อน ๆ และการได้อยู่กับตัวเอง และ 3.เรื่องอาหารและโภชนาการ เนื่องจากอาหารไม่ถูกปากเหมือนเมืองไทยเลยต้องปรับตัว”

เมื่อถามถึงตัวแปรสำคัญที่ส่งเสริมน้องไอซ์ให้มาถึงจุดนี้ได้? น้องไอซ์ เผยว่า “ครอบครัว มีส่วนผลักดันเยอะมาก รวมถึง อาจารย์ และเพื่อน ๆ ฉะนั้นเมื่อเรียนจบ ผมจะตั้งใจนำความรู้มาพัฒนาประเทศไทย ซึ่งพร้อมกลับมาทำงานที่ธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมองว่าเรียนรู้อะไรมาก็จะใช้ความรู้ที่เรียนมานั้น มาทำงานจริง ๆ โดยเฉพาะในด้านเศรษฐศาสตร์ ซึ่งตอนนี้มี Project ที่น่าสนใจมากมาย เช่น รถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) จากการนำเข้าส่งออก เราสามารถส่งเสริมให้ไทยกลายเป็น ศูนย์กลางของการประกอบรถยนต์ไฟฟ้าได้ หรือกลายเป็นผู้ผลิตเองทั้งหมด หรือการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้นมาโดยตลอด เป็นต้น”

น้องไอซ์ฝากทิ้งท้ายว่า “การเรียนหรือการพัฒนาตัวเองเป็นสิ่งสำคัญมาก ไม่ว่าจะเรียนโรงเรียนวัดหรือโรงเรียนอะไรก็ตาม จริงๆ แล้วอยู่ที่ตัวเราเอง ถ้าเรามองว่าเราทำไม่ได้ ถึงแม้สังคมรอบข้างบอกว่าเราทำได้ เราก็จะทำไม่ได้อยู่ดี สุดท้ายแล้วไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหน ถ้าเรามีความมั่นใจในตัวเอง และตั้งใจทำมันจริง ๆ ผมก็เชื่อว่าทุกคนจะประสบความสำเร็จได้ครับ”

'อ.พงษ์ภาณุ' มองท่องเที่ยวไทย ภายใต้เศรษฐกิจจีน 'เปราะบาง' ยกเว้นวีซ่า ช่วยได้แค่ไหน แม้ไทยจะเป็นจุดหมายเบอร์ 1

ทีมข่าว THE STATES TIMES ได้พูดคุยกับ อ.พงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ อดีตปลัดกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา อดีตรองปลัดกระทรวงการคลัง และผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์ระดับประเทศ ที่พูดคุยในรายการ Easy Econ ซึ่งออกอากาศทางสถานีวิทยุ ส.ทร. FM93.0 MHz และสื่อออนไลน์ ในเครือ THE STATES TIMES ในประเด็น การท่องเที่ยวไทย ภายใต้เศรษฐกิจจีน 'เปราะบาง' และการยกเว้นวีซ่า จะช่วยได้จริงหรือไม่? เมื่อวันที่ 15 ต.ค.66 โดย อ.พงษ์ภาณุ กล่าวว่า...

การท่องเที่ยวของไทยปีนี้แม้ว่าจะยังไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ตอนต้นปีและยังไม่สามารถกลับเข้าสู่ระดับก่อนโควิด 19 ได้ แต่ก็มีแนวโน้มดีขึ้นเป็นลำดับ กล่าวคือ 8 เดือนแรกของ 2566 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยแล้วกว่า 12 ล้านคน และอาจจะบรรลุเป้า 30 ล้านคน สร้างรายได้ 1.3 ล้านล้านบาท หากทุกฝ่ายร่วมมือกันเต็มที่

มาตรการยกเว้นวีซ่า (Visa Free) ชั่วคราวแก่นักท่องเที่ยวจีน ของรัฐบาล จึงได้รับการจับตามองว่าจะช่วยให้บรรลุเป้าหมายนี้ได้หรือไม่ แต่ต้องถือว่าได้รับการตอบรับที่ดีจากทางการจีน โดยเฉพาะในจังหวะที่จีนกำลังเข้าสู่วันหยุด Golden Week เนื่องในวันชาติจีน (1 ตุลาคม) ซึ่งจากผลสำรวจของ Trip.com มักมีชาวจีนกว่า 20 ล้านคนเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศในช่วงเวลาดังกล่าว และประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางอันดับ 1 ของนักท่องเที่ยวเหล่านี้ 

ดังนั้น หากนโยบายยกเว้นวีซ่า ประสบความสำเร็จในการดึงนักท่องเที่ยวจีนกลับมาในช่วง Golden Week นี้ น่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยในระยะต่อไปให้กลับมาคึกคักได้เป็นอย่างดี

อย่างไรก็ตาม ในภาวะที่จีนกำลังมีปัญหาเศรษฐกิจรุมเร้า ก็ยากที่จะด่วนสรุปว่านักท่องเที่ยวจีนจะกลับมาเหมือนเดิมได้หรือไม่ 

เพราะตอนนี้ จีนเจอปัญหาหลายด้าน ทั้งภาคอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ในภาวะฟองสบู่แตกกำลังประสบปัญหาหนี้สินอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน และยากที่จะแก้ไขได้ในเวลารวดเร็ว รวมถึงความขัดแย้งกับสหรัฐอเมริกาในเชิงภูมิรัฐศาสตร์โลก ก็กำลังซ้ำเติมปัญหาภายในของจีน สะท้อนจากการลดลงอย่างต่อเนื่องของมูลค่าการส่งออก และการลงทุนจากต่างประเทศ ขณะที่รัฐบาลจีนเอง ก็ดูจะมีความล่าช้าที่จะใช้นโยบายการคลังและการเงินเข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจอย่างทันการ 

ความเปราะบางของจีนขณะนี้ จึงถือเป็นความเสี่ยงใหญ่ที่อาจกระทบเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทย ซึ่งจริงๆ ก็กำลังเผชิญอยู่ จนต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด...

กลุ่ม ปตท. ร่วมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ เนื่องใน ‘วันนวมินทรมหาราช’ 13 ตุลาคม 2566

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) เป็นประธานในพิธีน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระบรม

ชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ‘วันนวมินทรมหาราช’ 13 ตุลาคม 2566 พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร กลุ่ม ปตท. และพนักงานเข้าร่วมพิธีฯ ณ อาคารสำนักงานใหญ่ ด้วย ปตท. สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในการสร้างความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ ซึ่งพระองค์เปรียบดั่งพระบิดาแห่งการพัฒนาพลังงานไทย ทรงมีวิสัยทัศน์อันกว้างไกลด้านพลังงานในหลายโครงการ อาทิ การผลิตพลังงานทดแทนจากแก๊สโซฮอล์ ไบโอดีเซล ก๊าซชีวภาพ ชีวมวล พลังงานน้ำ พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม ที่ถูกพัฒนาขึ้นเป็นรูปธรรม ทำให้ประเทศไทยสามารถผลิตพลังงานใช้ได้เอง ลดการพึ่งพานำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่ง ปตท. น้อมนำแนวพระราชดำริหลักแนวคิดมาเป็นภารกิจหลักในการสร้างความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ ก้าวตามรอยพระยุคลบาทสืบต่อไป

‘พิมพ์ภัทรา’ ขานรับนโยบายรัฐบาล ยกระดับภาคอุตฯ เสริมแกร่งศักยภาพและมาตรฐาน ‘อุตฯ EV - AI’

เร่งรัดให้สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) จัดทำมาตรฐานในปีงบประมาณ 2567 ที่ตอบโจทย์การพัฒนาอุตสาหกรรมไทยตามนโยบายรัฐบาล และสร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้แก่พี่น้องประชาชน โดยเฉพาะมาตรฐานในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญในการยกระดับอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจของประเทศ เน้นอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพ ได้แก่ EV อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ เครื่องมือแพทย์ อุตสาหกรรมชีวภาพ AI ฮาลาล และ Soft power ซึ่งคาดว่าจะเป็นอุตสาหกรรมที่สามารถนำเม็ดเงินมาสู่ภาคอุตสาหกรรมของไทยได้เป็นอย่างดี โดยตั้งเป้าหมายไว้ 600 มาตรฐาน 

ด้าน นายวันชัย พนมชัย รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม รักษาราชการแทนเลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) กล่าวว่า สมอ. เตรียมขออนุมัติแผนการกำหนดมาตรฐานในปีงบประมาณ 2567 รวม 600 มาตรฐาน ในการประชุมบอร์ด สมอ. ในเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ 2566 ที่สามารถจัดทำมาตรฐานได้ 478 มาตรฐาน ทั้งนี้ ให้เร่งผลักดันมาตรฐานที่เป็นเรื่องเร่งด่วนตามนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมก่อน เช่น มาตรฐานสถานีชาร์จรถไฟฟ้า สาธารณะ รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า มาตรฐานอาหารฮาลาล AI เครื่องมือแพทย์ BCG และหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ เป็นต้น

“ภายหลังที่บอร์ดให้ความเห็นชอบมาตรฐานที่ สมอ. เสนอแล้ว จะเร่งรัดให้ สมอ. ดำเนินการจัดทำมาตรฐานให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อยกระดับภาคอุตสาหกรรมในการผลิตสินค้าให้มีคุณภาพเป็นไปตามมาตรฐาน และเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับภาคอุตสาหกรรมเพื่อก้าวสู่ความเป็นอุตสาหกรรม 4.0 และคุ้มครองผู้บริโภคให้ปลอดภัยจากการใช้สินค้า โดยเฉพาะสินค้าที่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของประชาชน” นายวันชัยฯ กล่าว

‘กระทรวงพลังงาน-ปตท.’ จัดงานนิทรรศการ ‘ธ ทรงเป็นแรงบันดาลใจ’ มอบรางวัลศิลปกรรม ปตท. ครั้งที่ 38 เนื่องในวัน ‘วันนวมินทรมหาราช’

(12 ต.ค. 66) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานในพิธีเปิดนิทรรศการ ‘ธ ทรงเป็นแรงบันดาลใจ’ เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณและเทิดพระเกียรติวันนวมินทรมหาราชและงานมอบรางวัลศิลปกรรม ปตท. ครั้งที่ 38 พร้อมด้วย นางสาวอรพินทร์ เพชรทัต ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และคณะผู้บริหาร ปตท. ณ PTT Art Gallery @ หอศิลป์ ณ บ้านเจ้าพระยา ถนนพระอาทิตย์ กรุงเทพฯ

นายพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค กล่าวว่า ปี 2566 นี้ นับเป็นปีแรกที่มีการประกาศให้ทุกวันที่ 13 ตุลาคมของทุกปีเป็น ‘วันนวมินทรมหาราช’ เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดยเฉพาะเรื่องราวของ ‘พระบิดาแห่งการพัฒนาพลังงานไทย’ ซึ่งกระทรวงพลังงาน ได้น้อมนำแนวพระราชดำริสู่การพัฒนาพลังงานมาจนถึงปัจจุบัน จึงเชื่อมั่นว่า ผู้ที่ได้เข้าชมผลงานในนิทรรศการ ‘ธ ทรงเป็นแรงบันดาลใจ’ จะได้ร่วมน้อมรำลึกถึงในหลวงรัชกาลที่ 9 และได้รับแรงบันดาลใจผ่านผลงานศิลปะทุกชิ้น ไม่ว่าจะเป็นการคัดเลือกผลงานชิ้นเอกของศิลปินแห่งชาติมาร่วมจัดแสดง ผลงานจากเยาวชนจากโครงการรณรงค์เพื่อสร้างจิตสำนึกด้านการอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทนผ่านงานศิลปะ หัวข้อ ‘Energy For All’ กระทรวงพลังงาน และผลงานจากโครงการศิลปกรรม ปตท. ที่ผ่านมา 

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ เปิดเผยว่า ในปี 2529 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้รับการถวายพระราชสมัญญาว่า ‘อัครศิลปิน’ ซึ่งเป็นปีแรกที่ ปตท. จัดประกวดศิลปกรรม จึงได้กำหนดหัวข้อ ‘ในหลวงของเรา’ และได้กำหนดหัวข้อที่เกี่ยวกับรัชกาลที่ 9 อย่างต่อเนื่อง อาทิ 84 พรรษา มหาราชาภูมิพล ของขวัญแด่พระราชา พลังงานกับชีวิตไทย เป็นต้น  

นอกจากนำผลงานรางวัลมาจัดแสดงนิทรรศการ ‘ธ ทรงเป็นแรงบันดาลใจ’ แล้ว วันนี้ยังเป็นการมอบรางวัลให้กับศิลปินผู้ชนะการประกวดศิลปกรรม ปตท. ประจำปี 2566 ตั้งแต่ระดับเยาวชนจนถึงรุ่นประชาชนทั่วไป มีผลงานที่ได้รับรางวัลรวม 24 ผลงาน จากผลงานที่ส่งเข้าประกวดทั้งสิ้น 831 ผลงาน ซึ่งในปีนี้จัดประกวดภายใต้หัวข้อ ‘จุดประกายความหวัง จุดพลังชีวิต’ เป็นการต่อยอดจากโอกาสพิเศษที่ ปตท. ก้าวเข้าสู่ปีที่ 45 โดยขอเชิญชวนประชาชนร่วมเข้าชมนิทรรศการระหว่างวันที่ 11 - 31 ตุลาคม 2566 โดยจะมีการจัดกิจกรรมพิเศษทุกสัปดาห์ อาทิ workshop วาดภาพสีน้ำรัชกาลที่ 9 การเพ้นท์ถุงผ้าใส่ยาเพื่อนำไปมอบให้กับผู้ป่วยเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล และยังมีการแสดงดนตรีบทเพลงพระราชนิพนธ์ อีกทั้งทุกท่านสามารถร่วมบอกเล่าแรงบันดาลใจเรื่องราวรัชกาลที่ 9 บนโซเชียลมีเดียเพื่อรับโปสการ์ดศิลปะ Limited Edition จากศิลปินไทยชื่อดัง

ทั้งนี้ การประกวดศิลปกรรม ปตท. เป็นโครงการที่ ปตท. ร่วมกับมหาวิทยาลัยศิลปากร จัดมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2529 กว่า 38 ปีของโครงการศิลปกรรม ปตท. มีศิลปินร่วมส่งผลงานเข้าประกวดกว่า 27,000 คน ผลงานเข้าประกวดกว่า 35,000 ชิ้น และมอบรางวัลแก่ผู้ชนะการประกวดไปแล้วกว่า 900 รางวัล ซึ่งนอกจากการจุดประกายสังคมผ่านงานศิลปะแล้ว สถานที่ ‘หอศิลป์ ณ บ้านเจ้าพระยา’ ยังเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่ ปตท. ได้เข้าพัฒนาให้เป็นสถานที่ดำเนินงานเพื่อสังคมมาตั้งแต่ปี 2561 โดยจัดให้เป็น PTT Art Gallery พื้นที่จัดแสดงงานศิลปะสำหรับทุกคน ทั้งงานจากโครงการศิลปกรรม ปตท. ผลงานศิลปินที่มีชื่อเสียง ผลงานจากศิลปินรุ่นใหม่ นักเรียน นักศึกษา และจัดกิจกรรมเวิร์กชอปด้านศิลปะ รวมถึงยังเปิดดำเนินการ Café Amazon for chance ร้านกาแฟที่เปิดโอกาสให้ผู้บกพร่องทางการได้ยินมีส่วนร่วมในการบริการ เป็นการจุดประกายและจุดความหวังของสังคมได้อีกทางหนึ่ง

‘อดีตบิ๊กข่าวกรอง’ วิเคราะห์!! ‘อิสราเอล-ฮามาส’ เนื้อเรื่องต่อจากนี้เข้มข้น ต่างฝ่ายต่างมีแรงหนุน

(12 ต.ค.66) นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ‘Nantiwat Samart’ ระบุว่า... 

จบยังไง 

การโจมตีอิสราเอลของฮามาสจบ ?
ฮามาสหมดของเล่นแล้วหรือยัง
จรวดยังมีเหลืออีกหรือไม่
จะมีประเทศใดร่วมมือกับฮามาสไหม
มีแต่คำถาม มีแต่ความสงสัย

ความเคลื่อนไหวสำคัญของอิสราเอล
คือ การจัดตั้งรัฐบาลในภาวะฉุกเฉิน

ร่วมกับฝ่ายค้านตั้งคณะรัฐมนตรีสงคราม
ไม่มีฝ่ายค้าน ร่วมมือกันเป็นหนึ่งเดียว
ใช้มติ ครม.ในการทำงาน เพื่อความฉับไว
รับมือกับสงครามการก่อการร้าย
ไม่ต้องออกกฎหมาย
อิสราเอลเรียกระดมพลทหารกองหนุน
เพิ่มเป็นสามแสนคนจากเดิมเพียงหนึ่งแสน
เตรียมรับมือกับสงครามใหญ่ที่อาจจะเกิดขึ้น
สั่งขายเงินตราต่างประเทศสามหมื่นล้านเหรียญ
และสำรองไว้อีกหมื่นห้าพันล้านเหรียญ
เพื่อเตรียมความพร้อมทำสงคราม

อเมริกาและตะวันตกประกาศเข้าข้างอิสราเอล
ส่วนประเทศอิสลามประกาศสนับสนุนฮามาส

จะมีใครช่วยรบตีขนาบอิสราเอลหรือไม่
มีการยิงปืนใหญ่ออกมาจากซีเรีย เลบานอน
นี่คือการสะกิดสะเกา ไม่ได้สร้างความบอบช้ำ
อิสราเอลตีโต้กลับรุนแรงมากกว่าหลายเท่า

การชุมนุมของมุสลิมทั่วโลกออกมาสนับสนุนฮามาส
สร้างแรงกดดันให้รัฐบาลเข้าร่วมกับฮามาสหรือไม่
หรือเพียงสะท้อนความไม่พอใจ

ที่น่าสนใจคือการพบกันของปูตินกับสีจื้นผิง
และผู้นำอาหรับกับปูติน
จะมีอะไรมากกว่าคุยประเมินสถานการณ์เฉยๆ
หรือจะมีอะไรมากกว่านั้น ?

ตอนนี้ก็มีแต่ข่าวลือ
กลุ่มฮิสบอเราะห์และกองกำลังวากเนอร์
เตรียมเข้าร่วมรบกับฮามาส

ที่สำคัญคือชีวิตของตัวประกันที่ถูกจับไป มีคนไทยรวมอยู่ด้วยสิบกว่าคน
ต้องปลอดภัยและได้รับการปล่อยตัว
ฮามาสขู่ว่า หากอิสราเอลโจมตีทางอากาศ โดยไม่แจ้งล่วงหน้า
ทุกการโจมตีจะสังหารตัวประกันหนึ่งคน

อิสราเอลขอให้อียิปต์เป็นตัวกลาง
ในการเจรจาให้ปล่อยตัวประกัน
ในอดีตชีวิตตัวประกันชาวยิวหนึ่งคน
ต้องแลกด้วยนักโทษฮามาสถึงพันคน
ครั้งนี้ การปล่อยตัวต้องแลกด้วยอะไร
ยังไม่มีคำตอบ

จบเถอะ อย่าให้ยืดเยื้อ
เซเลนสกีเรียกร้อง อย่าลืมยูเครน 

'กรมศิลป์' ชวน!! นทท. ชม 'วัดไชยฯ' ยามค่ำคืน จัดเต็มแสง-สี-ไฟประดับ เริ่ม!! '13 ต.ค. - 31 ธ.ค. 66'

กรมศิลป์ จัดงาน ‘ราตรีนี้...ที่วัดไชยวัฒนาราม’ นำเสนอมุมมองใหม่มรดกโลก จัดเต็มแสง สี ไฟประดับโบราณสถานยามค่ำคืน ตั้งแต่เวลา 18.00 - 22.00 น. ผู้สนใจชมได้ตั้งแต่ 13 ต.ค. - 31 ธ.ค. 66 เฉพาะวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ วันหยุดนักขัตฤกษ์ และเทศกาลสำคัญ

กรมศิลปากร จัดกิจกรรมพิเศษ งาน ‘ราตรีนี้...ที่วัดไชยวัฒนาราม’ นำเสนอมุมมองใหม่มรดกโลกในยามค่ำคืน ผ่านแสง สี ไฟประดับ ณ โบราณสถานวัดไชยวัฒนารามในยามค่ำคืน พร้อมกันนี้ยังชวนนักท่องเที่ยวร่วมแต่งชุดไทยภายในงานดังกล่าวอีกด้วย

งาน ‘ราตรีนี้...ที่วัดไชยวัฒนาราม’ หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า งาน ‘ราตรีนี้...ที่วัดไชยฯ’ จะมีการโชว์แสง สี ไฟประดับ ระหว่างเวลา 18.00 - 22.00 น. ตั้งแต่วันที่ 13 ตุลาคม - 31 ธันวาคม พ.ศ.2566 เฉพาะวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ วันหยุดนักขัตฤกษ์ และเทศกาลสำคัญ ผู้สนใจสามารถซื้อบัตรเข้าชม ได้ถึง 21.00 น. สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา โทร. 035-242286 ต่อ 101

สำหรับ ‘วัดไชยวัฒนาราม’ ตั้งอยู่ที่ ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นวัดโบราณสมัยกรุงศรีอยุธยาตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา สร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง โดยมีการนำรูปแบบแผนผังของวัดมาจากนครวัด

ภายในวัดมี ‘พระปรางค์ศรีรัตนมหาธาตุ’ เป็นปรางค์ประธานอยู่ตรงกลาง ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมจัตุรัส และมีปรางค์บริวารอยู่รายล้อม โดยมีระเบียงคดภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัยจำนวน 120 องค์

นอกจากนี้วัดไชยวัฒนารามยังมี มุมยอดฮิตในการถ่ายรูปที่หน้าวัด บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา หันหน้ากลับเข้ามาทางวัด จะเห็นปรางค์ประธานองค์ใหญ่เด่นเป็นสง่าอยู่ตรงกลาง มีปรางค์บริวารอยู่รอบๆ พร้อมกับสิ่งก่อสร้างอื่น ๆ

‘ก้าวไกล’ อ่วม!! พบ สส.ในพรรคคุกคามทางเพศเพิ่มอีก 1 ด้านเพจดังแฉต่อ ‘เล่นยา’ ก็มี จ่อเปิดหลักฐานมัดตัว

(12 ต.ค.66) เพจเฟซบุ๊ก ‘วันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร’ ซึ่งเกาะติดประเด็นร้อน สส.ก้าวไกลที่มีพฤติกรรมล่วงละเมิดหรือคุกคามทางเพศ โพสต์ข้อความว่า ทุกคนคะ ได้รับแจ้งใหม่ 2 เรื่องคือ ละเมิดผู้หญิง กับ เล่นยา

แอดมินขอพักเรื่อง พี่แจ้ (วุฒิพงศ์ ทองเหลา สส.ปราจีนบุรี พรรคก้าวไกล) ไปหาข่าว 2 เรื่องนี้ก่อนนะคะ สำหรับคนเล่นยา แอดมินมีชื่อแล้ว รอเอกสารจากทางเมืองนอกอยู่ค่ะ ทุกคนต้องใจเย็นๆ แอดมินต้องรอบคอบด้วย

วันเดียวกัน ที่รัฐสภา นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย น.ส.ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สส.กทม. พรรคก้าวไกล ในฐานะกรรมการวินัยพรรค ได้แถลงข่าวตอนหนึ่งว่า นอกเหนือจากกรณีนายวุฒิพงศ์ ทองเหลา สส.ปราจีนบุรี ที่มีหลักฐานการแชตไลน์ในลักษณะล่วงละเมิดทางเพศแล้ว ยังมีกรณีล่าสุดที่ยังไม่มีการเปิดเผยชื่อ

โดยนายพริษฐ์ กล่าวว่า กรณีข้อกล่าวหาเรื่องการคุกคามทางเพศ โดย สส. อีก 1 คน ทางพรรคได้ทราบข้อมูลว่าได้เกิดเหตุการณ์ที่อาจเข้าข่ายการล่วงละเมิดทางเพศโดยสมาชิกพรรค ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่ง สส. ของพรรคก้าวไกล แม้ว่าทางพรรคยังไม่ได้รับเรื่องร้องเรียนโดยตรงจากบุคคลซึ่งอาจเข้าข่ายเป็นผู้เสียหาย ตั้งแต่ทราบเรื่อง ทาง คกก. วินัย ของพรรคได้เร่งติดต่อไปยังบุคคลดังกล่าว โดยตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการรอความพร้อมของบุคคลดังกล่าว ในการให้ข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อให้ข้อเท็จจริงปรากฏ

ทำเพื่อแม่ ประเสริฐที่สุด!!

(12 ต.ค.66) ได้โพสต์ข้อความจาก น้องมายด์ คลื่นซัดเป็ด หรือ วรรธนะ ลือมงคล ระบุว่า...

"เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ผมได้โพสต์ว่า ผมขอบริจาคไตตัวเอง 1 ข้างให้กับแม่ ไม่อยากเห็นแม่ผู้บังเกิดเกล้าทรมานกับโรคไต 

"ตอนนี้ผมได้ผ่าตัดบริจาคไตให้แม่ 1 ข้างเรียบร้อย ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา ถือเป็นการทดแทนคุณ ให้แม่ครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิตของผม

"ความกตัญญู ต่อผู้มีพระคุณ และการคิดดี ทำดี พูดดี จะเป็นมงคลต่อชีวิตคนเรายิ่ง 

วรรธนะ ลือมงคล
ไทยภักดี NewGen

‘X’ สั่งลบบัญชี ‘เครือข่ายฮามาส’ นับร้อย หลังก่อเหตุโจมตีอิสราเอล ตอบรับข้อเรียกร้อง EU ขอให้จัดการเนื้อหาเท็จออกจากแพลตฟอร์ม

(12 ต.ค.66) นางลินดา ยัคคารีโน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเอ็กซ์ (X) หรือทวิตเตอร์ ระบุในวันนี้ว่า เอ็กซ์ได้ทำการลบบัญชีเครือข่ายกลุ่มฮามาสชาวปาเลสไตน์หลายร้อยบัญชี และได้ดำเนินการเพื่อลบหรือติดตราคอนเทนต์หลายหมื่นชิ้นนับตั้งแต่เกิดเหตุโจมตีอิสราเอลเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

ซึ่งก่อนหน้านี้ นายเธียร์รี เบรตง คณะกรรมาธิการยุโรปด้านตลาดภายในภูมิภาค ได้ส่งจดหมายถึงนายอีลอน มัสก์ ประธานบริษัทเอ็กซ์เพื่อเรียกร้องให้ลบข้อมูลที่บิดเบือนต่าง ๆ ออกจากแพลตฟอร์มในช่วงที่เกิดเหตุการณ์ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top