Sunday, 4 May 2025
TheStatesTimes

"เชียงราย"กองกำลังผาเมืองตรวจสอบพื้นที่ยิงปะทะขบวนการลำเลียงยาเสพติดชายแดนแม่สาย ยึดยาบ้า 500,000 เม็ด

จากกรณีเมื่อ เวลา 04.00 นาฬิกา ของวันที่ 8 ตุลาคม 2566 กองร้อยทหารม้าที่ 2 หน่วยเฉพาะกิจทัพเจ้าตาก กองกำลังผาเมือง ได้ปะทะกับกลุ่มขบวนการลำเลียงยาเสพติด บริเวณ บ้านสันเกล็ดทอง ตำบลโป่งงาม อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย โดยสามารถยึดยาเสพติดให้โทษประเภท1 (ยาบ้า) ประมาณ 500,000 เม็ด นั้น

เมื่อเวลา 11.30 นาฬิกา พลตรี ประพัฒน์ พบสุวรรณ ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง ได้มอบหมายให้ พันเอก กิดากร จันทรา รองผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง พร้อมด้วย พันเอก ณฑีทิมเสน ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจทัพเจ้าตาก เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบจุดปะทะ และตรวจสอบยาเสพติดของกลาง ร่วมกับฝ่ายปกครองอำเภอแม่สาย และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรแม่สาย โดยพบว่ายาเสพติดของกลางเป็นของกลุ่มขบวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติด​ ในพื้นที่ด้านตรงข้ามกับ ชายแดน อำเภอแม่ฟ้าหลวง และอำเภอแม่สาย  ซึ่งเป็นจุดที่พักยาเสพติดก่อนจะทยอยส่งเข้ามาในประเทศไทย

เนื่องจากปัจจุบันสถานการณ์ยาเสพติดตามแนวชายแดน ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังผาเมือง ยังคงมีการผลิตยาเสพติดจำนวนมาก เพื่อส่งเข้ามาในประเทศไทย ทั้งจำหน่ายในประเทศไทย และส่งไปยังประเทศที่สาม อย่างต่อเนื่อง

โดยได้สั่งการให้หน่วยในพื้นที่ที่วางกำลังอยู่ตามแนวชายแดน ปฏิบัติงานอย่างเต็มขีดความสามารถ เพื่อไม่ให้ยาเสพติดสามารถเข้าไปยังพื้นที่ตอนในของประเทศไทยได้  

สันติ วงศ์สุนันท์/ผู้สื่อข่าวเชียงราย

เกิดแผ่นดินไหวใน ‘อัฟกานิสถาน ฝั่งตะวันตก’ หนักสุดในรอบ 20 ปี ทำบ้านเรือนพังยับ ปชช.ดับพุ่งทะลุ 2,000 ราย เร่งค้นหาผู้รอดชีวิต

(8 ต.ค. 66) สำนักข่าวเอพี, อิสลามาบัด รายงานว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวรุนแรงที่อัฟกานิสถานตะวันตก เพิ่มขึ้นเป็นกว่า 2,000 รายแล้ว โฆษกรัฐบาลตอลิบาน ระบุว่า เป็นเหตุแผ่นดินไหวที่คร่าชีวิตผู้คนมากที่สุดครั้งหนึ่งในรอบสองทศวรรษ

หน่วยงานภัยพิบัติแห่งชาติของประเทศอัฟกานิสถาน เปิดเผยว่า แผ่นดินไหวรุนแรง 6.3 ริกเตอร์ ตามมาด้วยอาฟเตอร์ช็อกที่รุนแรง ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายสิบรายทางตะวันตกของอัฟกานิสถาน เมื่อวันเสาร์ (7 ต.ค.) ที่ผ่านมา

แต่ ‘อับดุล วาฮิด รายาน’ โฆษกกระทรวงสารสนเทศและวัฒนธรรม กล่าวว่า “ยอดผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวในเมืองเฮราตนั้นสูงกว่ารายงานเดิม หมู่บ้านประมาณ 6 แห่งถูกทำลาย และพลเรือนหลายร้อยคนถูกฝังอยู่ใต้ซากปรักหักพัง” เขากล่าวขณะเรียกร้องความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน

เมื่อช่วงค่ำวันเสาร์ (7 ต.ค.) ที่ผ่านมา ‘องค์การสหประชาชาติ’ แจ้งตัวเลขเบื้องต้นว่ามีผู้เสียชีวิต 320 ราย แต่ภายหลังระบุว่าตัวเลขดังกล่าวยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ หน่วยงานท้องถิ่นประเมินว่ามีผู้เสียชีวิต 100 รายและบาดเจ็บ 500 ราย ตามข้อมูลอัปเดตเดียวกันจากสำนักงานเพื่อการประสานงานกิจการด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ

ข้อมูลอัปเดตดังกล่าวระบุว่า มีรายงานบ้านเรือน 465 หลังถูกทำลาย และอีก 135 หลังได้รับความเสียหาย

“พันธมิตรและหน่วยงานท้องถิ่นคาดการณ์ว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้น ในขณะที่ความพยายามค้นหาและช่วยเหลือยังคงดำเนินต่อไป ท่ามกลางรายงานที่ว่า มีบางคนอาจติดอยู่ใต้อาคารที่พังทลาย” องค์การสหประชาชาติ ระบุ

‘โมฮัมหมัด อับดุลลาห์ ยาน’ โฆษกหน่วยงานภัยพิบัติ กล่าวว่า หมู่บ้าน 4 แห่งในเขตเซนดายาน ในจังหวัดเฮราต ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวและอาฟเตอร์ช็อกอย่างหนัก

สำนักงานสำรวจทางธรณีวิทยาของสหรัฐฯ ระบุว่า ศูนย์กลางของแผ่นดินไหวอยู่ห่างจากเมืองเฮราตไปทางตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 40 กิโลเมตร ตามมาด้วยอาฟเตอร์ช็อกที่รุนแรงมาก 3 ครั้ง วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 6.3, 5.9 และ 5.5 เช่นเดียวกับแรงกระแทกที่น้อยกว่า

‘อับดุล ชากอร์ ซามาดี’ ชาวเมืองเฮราต กล่าวว่า แผ่นดินไหวรุนแรงอย่างน้อย 5 ครั้งเกิดขึ้นในเมืองนี้

“ทุกคนออกจากบ้านแล้ว” ซามาดีกล่าว “บ้าน สำนักงาน และร้านค้าต่างว่างเปล่า และอาจเกิดแผ่นดินไหวมากขึ้น ฉันและครอบครัวอยู่ในบ้าน ฉันรู้สึกได้ถึงแผ่นดินไหว” ครอบครัวของเขาเริ่มตะโกนและวิ่งออกไปข้างนอก กลัวที่จะกลับเข้าไปในบ้าน

องค์การอนามัยโลกในอัฟกานิสถาน ระบุว่า ได้ส่งรถพยาบาล 12 คันไปยังเซนดายาน เพื่ออพยพผู้บาดเจ็บไปยังโรงพยาบาล

“ในขณะที่ยังคงมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหว ทีมต่างๆ อยู่ในโรงพยาบาลเพื่อช่วยเหลือการรักษาผู้บาดเจ็บและประเมินความต้องการเพิ่มเติม” หน่วยงานของสหประชาชาติ ระบุใน X (เดิมชื่อ Twitter) ว่า “รถพยาบาลที่ได้รับการสนับสนุนจาก WHO กำลังรับส่งผู้ที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก”

การเชื่อมต่อโทรศัพท์ขัดข้องในเมืองเฮราต ทำให้ยากต่อการรับรายละเอียดจากพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ วิดีโอบนโซเชียลมีเดียเผยให้เห็นผู้คนหลายร้อยคนบนถนน นอกบ้านและสำนักงานในเมืองเฮราต

จังหวัดเฮราตติดกับอิหร่าน สื่อท้องถิ่นรายงานว่า รู้สึกถึงแผ่นดินไหวครั้งนี้ในจังหวัดฟาราห์และบาดกีสที่อยู่ใกล้เคียงของอัฟกานิสถาน

‘อับดุล ฆานี บาราดาร์’ รักษาการรองนายกรัฐมนตรีอัฟกานิสถาน ฝ่ายเศรษฐกิจ ที่ได้รับการแต่งตั้งโดยกลุ่มตอลิบาน แสดงความเสียใจต่อผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บในเมืองเฮราตและบาดกิส

กลุ่มตอลิบานเรียกร้องให้องค์กรท้องถิ่น เดินทางไปยังพื้นที่ที่เกิดแผ่นดินไหวโดยเร็วที่สุด เพื่อช่วยนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล จัดที่พักพิงให้กับคนไร้บ้าน และจัดส่งอาหารให้กับผู้รอดชีวิต พวกเขากล่าวว่า หน่วยงานความมั่นคงควรใช้ทรัพยากรและสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหมด เพื่อช่วยเหลือผู้คนที่ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพัง

“เราขอให้เพื่อนร่วมชาติที่ร่ำรวยของเรา ให้ความร่วมมือที่เป็นไปได้ และช่วยเหลือพี่น้องที่ทุกข์ทรมานของเรา” กลุ่มตอลิบานกล่าวผ่านโซเชียลมีเดีย X

‘ทาคาชิ โอคาดะ’ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำอัฟกานิสถาน แสดงความเสียใจผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย X ว่า “เขารู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งและเศร้าใจอย่างยิ่ง ที่ได้รับทราบข่าวแผ่นดินไหวในจังหวัดเฮราต”

ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2565 ได้เกิดแผ่นดินไหวรุนแรง ในพื้นที่ภูเขาขรุขระทางตะวันออกของอัฟกานิสถาน บ้านเรือนที่สร้างด้วยหินและอิฐโคลนพังราบเป็นหน้ากลอง แผ่นดินไหวครั้งนี้คร่าชีวิตผู้คนไปอย่างน้อย 1,000 ราย และบาดเจ็บประมาณ 1,500 ราย

‘แอนิเทค’ เปิดตัวเครื่องชาร์จ EV แบบพกพา เจ้าแรกที่ผลิตในไทย รับรองมาตรฐาน มอก. เพิ่มความมั่นใจผู้ใช้งาน เบิกทางสู่กรีนเทคโนโลยี

เมื่อไม่นานนี้ นายโธมัส พิชเยนทร์ หงษ์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง บริษัท สมาร์ท ไอดี กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า เทรนด์การใช้รถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ทั้งแบบแบตเตอรี่และแบบปลั๊กอินไฮบริด มีอัตราการเติบโตที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก

โดยมีการคาดการณ์ว่าในปีนี้ มีปริมาณกว่า 15 ล้านคัน และในปี 2567 จะเพิ่มขึ้นรวมกว่า 17.9 ล้านคัน ทั่วโลก ขณะที่ประเทศไทยก็มีส่วนแบ่งยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าประเภท BEV และ PHEV มากที่สุดในภูมิภาคอาเซียนกว่า 59.2% จึงเป็นโอกาสและที่มาของการแตกไลน์เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของแอนิเทค ซึ่งใช้เวลาในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมกับวิศวกรรถยนต์ EV กว่า 1 ปี ด้วยงบประมาณกว่า 5 ล้านบาท

‘แอนิเทค’ จึงเป็นแบรนด์แรกที่ผลิต ‘Portable EV Charger’ ในประเทศไทยเป็นเจ้าแรก ด้วยการนำ มอก.11 และ มอก.166 มาใช้กับผลิตภัณฑ์ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานให้แก่ผู้บริโภค และยังรับประกันสินค้า 1 ปี รับประกันสูงสุดถึง 300,000 บาท เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคในกลุ่มตลาดรถยนต์ไฟฟ้าด้วยผลิตภัณฑ์ที่คุณภาพสูงและบริการหลังการขายที่เข้าถึงได้ ด้วยความเชี่ยวชาญกว่า 18 ปี ในตลาดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

โดยภายในปีนี้ คาดว่าเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ‘แอนิเทค อีวี วัน’ จะสร้างยอดขายได้มากกว่า 1,000 ชิ้น และจะสูงขึ้นในปีต่อๆ ไปตามเทรนด์ ผ่านการขยายตลาดไปยังกลุ่มผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า และรับผลิตให้กับแบรนด์รถยนต์ที่ตั้งฐานผลิตและประกอบในประเทศไทย

ทั้งยังมองโอกาสที่จะขยายไปยังต่างประเทศ ที่มีส่วนแบ่งยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าประเภท BEV และ PHEV ถึง 40% โดยเฉพาะประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยจะทำการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์และตัวแทนจำหน่ายในประเทศต่างๆ

สำหรับ ‘แอนิเทค อีวี วัน’ มีรูปแบบหัวปลั๊ก Type2 ที่ปรับกำลังไฟฟ้า ได้ 4 ระดับตั้งแต่ 16 แอมป์, 13 แอมป์, 10 แอมป์ และ 8 แอมป์ พร้อมกำลังขับ 3.5 กิโลวัตต์ หน้าจอแสดงผล LCD ขนาด 3 นิ้ว ไฟแสดงสถานะแบบ LED พร้อมปุ่มทัชสกรีน มีมาตรฐานการป้องกันน้ำและฝุ่น IP65 ปริมาณกระแสไฟฟ้า Input/ Output : 250 VAC 50 Hz และสายไฟยาว 5 เมตร ทั้งยังเพิ่มความสะดวกสบายด้วยโหมดการตั้งเวลาชาร์จ

โดยมีระบบการป้องกันครอบคลุมทุกความปลอดภัย ได้แก่  ป้องกันแรงดันไฟฟ้าเกิน, ป้องกันไฟฟ้าไหลเกินกำลัง, ป้องกันแรงดันไฟฟ้าตก, ระบบสายดินป้องกันไฟฟ้ารั่วไหล, ป้องกันอุณหภูมิสูงเกินไป รวมถึงป้องกันฟ้าผ่า

“ปีนี้แอนิเทคมีสินค้าที่เปิดตัวใหม่กว่า 150 รายการ เมื่อรวมกับสินค้าทั้งหมดจะทำให้แอนิเทคมีสินค้าที่วางจำหน่ายในตลาดมากกว่า 1,000 รายการ ครอบคลุมในหมวดสินค้า computer accessories, home devices, home appliences และ personal care และในปีหน้าคาดว่าจะเปิดตัวสินค้าใหม่อีก 200 รายการ จะทำให้แอนิเทคมีสินค้ารวมกันมากกว่า 1,200 รายการ” นายโธมัส พิชเยนทร์ กล่าว

ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายในการเดินหน้าสู่อุตสาหกรรม Green Technology ที่กำลังเป็นเทรนด์ของโลกยุคใหม่และมีผลกระทบต่อคนทั่วโลก โดยจะมีสินค้าที่เกี่ยวข้องกับกรีนเทคโนโลยี ตามมาอีกมากมายตัวอย่างเช่น Anitech EV-ONE V2L ที่คาดว่าจะเปิดตัวต้นปีหน้าด้วย

‘แรงงานไทยในอิสราเอล’ เล่านาทีระทึก หลังกลุ่มฮามาสเปิดฉากโจมตี เผย มีกลุ่มก่อการร้ายลักลอบเข้าประเทศ กราดยิง ปชช.-จับเป็นตัวประกัน

เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 66 จากกรณีที่ประเทศอิสราเอล ได้ประกาศภาวะสงคราม หลังจากที่กลุ่มฮามาสในดินแดนปาเลสไตน์ ได้ยิงขีปนาวุธจากกาซาประมาณ 5,000 ลูก ถล่มเข้าไปในประเทศอิสราเอล ตั้งแต่ช่วงเช้าของวันเสาร์ (7 ต.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ นับว่ารุนแรงที่สุดในรอบ 50 ปี จนทำให้นายกรัฐมนตรีอิสราเอลต้องประกาศภาวะสงคราม

ล่าสุด ได้มีแรงงานคนไทยในอิสราเอล ออกมาโพสต์คลิปวิดีโอผ่านช่องติ๊กต็อก ‘dobung’ บอกเล่าเหตุการณ์สุดระทึกที่ต้องหนีเอาชีวิตรอดจากเหตุการณ์ยิงขีปนาวุธกลุ่มฮามาส ใส่ประเทศอิสราเอล โดยระบุว่า…

“เช้าวันนี้ (7 ต.ค.) ผมไม่ได้ตื่นขึ้นมาเพราะเสียงนาฬิกาปลุก แต่ผมตื่นเพราะเสียงระเบิด และเสียงฝ้าภายในห้องพักที่ถูกแรงระเบิดปะทะจนสั่นสะเทือน เกิดเป็นเสียงอึกทึกครึกโครม เพราะวันนี้ที่ประเทศอิสราเอลได้เกิดการรบกันขึ้น ซึ่งจริงๆ อาจจะเรียกได้ว่าที่นี่มีการรบกันจนแทบจะเป็นเรื่องปกติเลยก็ว่าได้

สิ่งที่จะสามารถปกป้องผมได้คือ ระบบป้องกันจรวดของอิสราเอล หรือ ‘Iron Dome’ ซึ่งเป็นตัวต่อต้านจรวดที่ฝ่ายตรงข้ามยิงมา และอาจจะป้องกันได้ไม่เต็ม 100% หากจำนวนจรวดที่ฝ่ายตรงข้ามยิงมามีมากเกินจนสกัดไม่ทัน”

เจ้าของช่อง ยังได้กล่าวต่อว่า เหตุการณ์รบที่อิสราเอลครั้งนี้ ค่อนข้างมีความรุนแรงกว่าครั้งที่ผ่านๆ มาเป็นอย่างมาก จนถึงขั้นทำให้นายกรัฐมนตรีของอิสราเอลประกาศ ‘ภาวะสงคราม’ อีกทั้งช่วงที่เกิดเหตุชุลมุนขณะที่ได้มีจรวดถูกยิงเข้ามาเป็นพันๆ ลูก ก็ได้มีกลุ่มก่อการร้ายแทรกซึมเข้ามาในประเทศอิสราเอล โดยแทรกซึมเข้ามาทั้งทางรถยนต์และเครื่องร่อน

โดยหลังจากที่กลุ่มก่อการร้ายได้แทรกซึมเข้ามายังอิสราเอล ก็ได้ทำการกราดยิงประชาชน รวมถึงจับกุมตัวประชาชนไปเป็นตัวประกัน เพื่อใช้ในการเจรจาต่อรองอีกด้วย

“ที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือ กลุ่มพี่น้องแรงงานคนไทยที่อยู่ใกล้กับฉนวนกาซา ซึ่งเป็นพื้นที่ภาคใต้ของอิสราเอล… ผมขอให้ทุกคนอยู่รอดปลอดภัยนะครับ” เจ้าของช่อง กล่าวทิ้งท้าย

‘อิหร่าน’ ส่งออกยาพุ่ง 3 เท่า สู่ 40 ปท.ทั่วโลก สะท้อนแรงปฏิสัมพันธ์อันดีเชื่อมสู่มนุษยชาติ

อิหร่านส่งออกยาและเวชภัณฑ์เพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่าจากปีก่อน ไปยัง 40 ประเทศทั่วโลก

เมื่อไม่นานนี้ ‘Heidar Mohammadi’ ผู้อำนวยการสำนักงานอาหารและยาแห่งอิหร่าน (IFDA) กล่าวสุนทรพจน์เมื่อวันศุกร์ (6 ต.ค.) ที่ผ่านมา ระหว่างการเยือนนิทรรศการระดับนานาชาติด้านเภสัชภัณฑ์และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องแห่งอิหร่าน ครั้งที่ 8 (IRANPHARMA EXPO 2023) ‘การส่งออกยาที่เพิ่มขึ้น เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงปฏิสัมพันธ์ที่ดีของอิหร่านกับประเทศเพื่อนบ้าน เราหวังว่าจะพัฒนาการเข้าถึงของประชาชนในภูมิภาค เพื่อเข้าถึงยาที่มีคุณภาพในการประชุมสุดยอด G5 และความร่วมมือระดับภูมิภาค’ เขากล่าวเสริม

ทุกปี ‘IRANPHARMA EXPO’ ซึ่งเป็นงานระดับนานาชาติที่ครอบคลุมในอุตสาหกรรมยา โดยมีผู้ผลิตยา อุปกรณ์และเครื่องจักรทางเภสัชกรรม การพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ยา ยาชนิดรีคอมบิแนนท์ ยาสมุนไพร อาหาร และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร บริษัทที่มีความรู้ และผู้จัดจำหน่ายยา ศูนย์วิจัยทางวิทยาศาสตร์และเภสัชกรรม สมาคม และสิ่งพิมพ์และวารสารด้านสุขภาพ

นิทรรศการระดับนานาชาติด้านเภสัชกรรมและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องแห่งอิหร่านครั้งที่ 8 (IRANPHARMA EXPO 2023) จัดขึ้นที่วิทยาเขต Imam Khomeini Grand (Mosala) ในกรุงเตหะราน ระหว่างวันที่ 27-29 กันยายนที่ผ่านมา มีบริษัทในประเทศทั้งหมด 427 บริษัทและบริษัทต่างประเทศอีก 282 บริษัทจาก 33 ประเทศเข้าร่วมงานนิทรรศการครั้งนี้ โดย Mohammadi ถือว่าการเข้าร่วมนิทรรศการนี้จากบริษัทต่างประเทศ เป็นหนึ่งในความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของงานนิทรรศการระดับนานาชาติครั้งนี้

Heidar Mohammadi ผู้อำนวยการสำนักงานอาหารและยาแห่งอิหร่าน (IFDA)

ผู้อำนวยการสำนักงานอาหารและยาแห่งอิหร่าน ยังระบุว่า งานนิทรรศการระดับนานาชาติครั้งนี้เป็นโอกาสอันยอดเยี่ยมในการจัดแสดงศักยภาพ และความสามารถของผู้เชี่ยวชาญและอุตสาหกรรมยาในระดับชาติ สำหรับปีนี้งานนิทรรศการนี้จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่อลังการยิ่งขึ้นและได้รับการเยี่ยมชมจากผู้เข้าชมงานจำนวนมาก โดยเจ้าหน้าที่ระดับสูงของอิหร่านเข้าเยี่ยมชมงาน Expo และเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับความสามารถของอุตสาหกรรมยาของประเทศ

การส่งออกยาของคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 200 ล้านดอลลาร์ในปีปัจจุบันจากประมาณ 60 ล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว

“การผลิตยาที่เพิ่มขึ้นได้รับการสนับสนุนจากอุปทานที่มั่นคงสำหรับการส่งออก และการคาดการณ์ของเราสำหรับการส่งออกในปีปัจจุบันอยู่ที่ 200 ล้านดอลลาร์” ผู้อำนวยการสำนักงานอาหารและยาแห่งอิหร่าน กล่าว

ปัจจุบันการผลิตยา อุปกรณ์การแพทย์ และนมผงได้รับการสนับสนุนโดยเงินอุดหนุน ดังนั้นการส่งออกของอิหร่านจึงยังคงจำกัดอยู่ แต่หวังว่าจะสามารถเพิ่มการส่งออกได้มากขึ้นในปีหน้า Mohammadi กล่าวเสริม อ้างถึงการขาดแคลนยา 100 รายการในประเทศ Mohammadi กล่าวกล่าวว่า “ปัจจุบัน เกือบ 1.5% ของความต้องการด้านเภสัชกรรมของประเทศนั้นนำเข้ามา นอกจากการผลิตในประเทศ ซึ่งแล้วเสร็จทันทีที่การผลิตในประเทศตรงตามความต้องการ”

จากข้อมูลของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา มีการส่งออกยามูลค่าประมาณ 60 ล้านดอลลาร์ในปีปฏิทิน (มีนาคม-มีนาคม ค.ศ. 2022) ตัวเลขนี้อยู่ที่ประมาณ 180 ล้านดอลลาร์ในปี ค.ศ. 2018 อิหร่านนำเข้ายาประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์ต่อปี ปัจจุบันยาที่ผลิตในอิหร่านถูกส่งออกไปยังแคนาดา ญี่ปุ่น และยุโรป

‘Faramarz Ekhteraei’ ประธานสมาคมอุตสาหกรรมยาแห่งอิหร่านกล่าวเน้นว่า 72% ของวัตถุดิบยาของประเทศนั้นผลิตในประเทศ ซึ่งคณะกรรมการบริหารสมาคมผู้ผลิต และผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีชีวภาพทางการแพทย์แห่งอิหร่านระบุว่า ราว 40% ของการส่งออกยาทั้งหมดของอิหร่านเป็นผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีชีวภาพ

‘เจ้าชายอับดุล มาทีน’ ประกาศแต่งงานกับ ‘สาวบรูไน’ ต้นปีหน้า เตรียมจัดพิธีฉลองอย่างยิ่งใหญ่ เป็นเวลาเกือบ 10 วัน

(9 ต.ค. 66) สื่ออินโดนีเซียถึงกับเขียนข่าวว่างานนี้สาว ๆ คงจะอกหักกันไปในหลาย ๆ ประเทศ เมื่อเจ้าชายอับดุล มาทีน ประกาศสละโสด

เจ้าชายอับดุล มาทีน เผยแพร่บัตรเชิญพิธีเสกสมรสกับหญิงสาวที่ชื่อว่า อนิชา รอสนาห์ ผ่านบน Twitter เมื่อวันอาทิตย์ที่ 8 ต.ค.

โดยพระองค์ประกาศจัดพิธีสมรสในเดือนมกราคม 2024 ซึ่งงานสุดหรูนี้จะจัดขึ้นเป็นเวลาเกือบ 10 วันติดต่อกัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 7-15 มกราคม โดยไฮไลท์ของงานพิธีเลี้ยงรับรองซึ่งจะจัดขึ้นที่พระราชวังนูรุลอิมานในวันที่ 14 มกราคม 2024 ซึ่งเจ้าสาวและเจ้าบ่าวจะถูกแห่ไปรอบๆ เมืองหลวงบันดาร์เซอรีเบอกาวัน

ข่าวบอกว่า อนิชา รอสนาห์ เป็นหลานสาวของที่ปรึกษาพิเศษของสุลต่านแห่งบรูไน ทั้งสองคบหากันอย่างเปิดเผยมาระยะหนึ่งแล้ว เมื่อเร็ว ๆ นี้เจ้าชายยังพาเธอมาร่วมพิธีแต่งงานของน้องสาวด้วย

ไม่เท่านั้นที่ผ่านมาเจ้าชายยังเคยเผยแพร่ภาพช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกัน บนโซเชียลมีเดีย และหญิงสาวที่เป็นภรรยาในอนาคตของพระองค์ยังมักจะคอยติดตามเจ้าชายมาทีนไปในช่วงเวลาสำคัญต่างๆ เสมอ

'เสธ.นุ้ย' นำทีม 'วปอ.66' จับมือ 288 ผู้ทรงคุณค่าแห่ง 'สังคม-ประเทศชาติ' ลั่น!! ขอร่วมมือกันแบบองค์รวม ผนึกทุกภาคส่วนเป็นหนึ่ง หนุนรัฐทุกมิติ

นักศึกษา 'วปอ.66' 288 คน รายงานตัวเข้าเรียน ยก!! 'เสธ.นุ้ย' ตท.29 นั่งแท่น ประธานรุ่น พร้อมรวมมิตรโฆษกเหล่าทัพ-ตำรวจ ชู!! คอนเซปต์ วปอ.กลุ่มบุคคลที่ทรงคุณค่าเพื่อสังคมและประเทศชาติ เน้น!! ร่วมมือแบบองค์รวมของทุกภาคส่วนเป็นหนึ่ง

(9 ต.ค. 66) วาสนา นาน่วม ผู้สื่อข่าวชื่อดังสายทหาร ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก 'Wassana Nanuam' นักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ 66 รวม 288 คน รายงานตัว ที่ วปอ. สถาบันวิขาการป้องกันประเทศ (สปท.) แล้ว โดยรุ่นนี้ มี 'เสธ.นุ้ย' พล.ท.ฐิตวัชร์ เสถียรทิพย์ (ตท.29) (เตรียมทหาร) อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการนายกรัฐมนตรี (PMOC) สมัยรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นประธานรุ่น

รุ่นนี้ ยึด คอนเซปต์ ที่ว่า วปอ.กลุ่มบุคคลที่ทรงคุณค่าเพื่อสังคมและประเทศชาติ ความร่วมมือแบบองค์รวมที่ทุกภาคส่วนจะต้องนำมาเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญในการปรับตัวและกำหนดงานระดับนโยบายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โดยมี เป้าหมายสำคัญ คือ จะนำศักยภาพของนักศึกษา วปอ.66 ให้เป็นกลไกความร่วมมือแบบองค์รวมที่ทุกภาคส่วนจะต้องนำมาเป็นหนึ่งในการแก้ปัญหาระดับนโยบายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสนับสนุนการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน ทั้งโดยเฉพาะด้านความมั่นคง, เศรษฐกิจ, สังคม รวมถึงความเหลื่อมล้ำ เพื่อสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลทุกมิติ

ในรุ่นนี้ มีนายทหารคนดัง เช่น พล.ท.ธวัชชัย ตั้งพิทักษ์กุล รองเสธ.ทบ เสธ.โอม, พล.ต.ธิติพันธ์ ฐานะจาโร รองเสธ.ปรมน. และ เลขานุการและโฆษกเหล่าทัพ

พลตรี ณรงค์ชัย ไชยชนะ เลขานุการกองทัพไทย เสธ.โต้ง, พลเรือตรี วีรุดม ม่วงจีน เลขานุการกองทัพเรือ และ โฆษกกองทัพเรือ, พลตำรวจโท อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ในส่วนข้าราชการฝ่ายพลเรือน มีนายวรณัฐ คงเมือง รองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.), นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร, นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิต, นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน, นายฆนัท ครุธกูล กรรมการบริษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อย (บสย.), นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ, น.ส.ชมภารี ชมภูรัตน์ อธิบดีกรมอุตุวิทยา

ส่วนภาคธุรกิจ เช่น นายฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน), นายสมิทธ์ ปราสาททองโอสถ รองประธานคณะผู้บริหารกลุ่ม บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน), 'ดร.เอ้' นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานมูลนิธิโรงพยาบาลพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารฯ, นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด

และมี นายทหารต่างประเทศ กัมพูชา, มาเลเซีย, เมียนมา, อินโดนีเซีย, อินเดีย ร่วมเรียนด้วย

‘ชนินทร์’ ยัน!! เงินดิจิทัล 1 หมื่น ช่วยฟื้นเศรษฐกิจไทยพ้นภาวะโคม่า

นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง และรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีกลุ่มนักวิชาการเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาทว่า...

โครงการดิจิทัลวอลเล็ตเป็นการเติมกำลังซื้อครั้งใหญ่ให้ประเทศ กระจายอยู่ทุกชุมชน เงิน 1 หมื่นบาทต่อคนไม่ใช่แค่ช่วยปัญหาค่าครองชีพให้ประชาชนเดินต่อได้ แต่เป็นจำนวนมากพอที่จะดึงดูดการลงทุน เปิดธุรกิจใหม่ ๆ มารองรับกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นและหมุนวนรอบต่อไปเรื่อย ๆ เงินจำนวนนี้หมุนเวียนต่อเนื่องในระบบเศรษฐกิจไทย 

ส่วนความกังวลที่มาของเงินและมาตรการดำเนินนโยบายต่าง ๆ ที่อาจไม่รัดกุมนั้น รัฐบาลตั้งคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 1 หมื่นบาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ตที่ประสานความเห็น มุมมองรอบด้านจากภาคส่วนต่าง ๆ เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงบประมาณ มาเป็นกรรมการร่วมตัดสินใจดำเนินนโยบาย มั่นใจได้ว่าการตัดสินใจใด ๆ รัดกุม โปร่งใส รักษาผลประโยชน์ประชาชนมากที่สุด 

รัฐบาลมีเป้าหมายกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศอย่างรวดเร็ว ปั๊มหัวใจเศรษฐกิจระยะเร่งด่วน ปลุกกำลังซื้อให้ฟื้นตัว ให้เศรษฐกิจประเทศพ้นโคม่า จากนั้นจะมีนโยบายอื่นๆมาเสริมให้ประชาชนสร้างรายได้ เศรษฐกิจหมุนเวียน ฟื้นประเทศไทย ยึดกรอบวินัยการเงินการคลังของประเทศอย่างรัดกุม

ภรรยา ‘หนุ่มกาฬสินธุ์’ เล่านาทีจุกอก ก่อนสามีถูกสังหารที่อิสราเอล พร้อมวอนรัฐบาลไทยช่วยนำศพกลับมาบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด

(9 ต.ค. 66) ความคืบหน้า กรณีกลุ่มฮามาส ในปาเลสไตน์ บุกจู่โจมประเทศอิสราเอล ทำให้แรงงานไทยส่วนใหญ่ไปทำงานสวนเกษตรในฉนวนกาซา อยู่ตอนใต้ของประเทศ ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ครั้งนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะไร่เกษตรอยู่ติดกับชายแดนปาเลสไตน์

โดยมีรายงานผู้เสียชีวิต จากข้อมูลของสำนักงานจัดหางานนครพนม พบว่า มีแรงงานไทยชาวนครพนม ไปทำงานฟาร์มเกษตร สูญหายขาดการติดต่อจากญาติ จำนวน 3 ราย และในรายงานมีการยืนยันผู้เสียชีวิต 1 ราย คือ นายสมควร พันธ์สะอาด อายุ 39 ปี ชาว อ.เมืองกาฬสินธุ์ แต่มาเป็นเขยนครพนม ภรรยาชื่อ นางสาวรุ่งทิวา เรืองฤทธิ์ อายุ 31 ปี เป็นชาวบ้านดงยอ ต.นาถ่อน อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ทั้งนี้ ทางญาติ ครอบครัวผู้เสียชีวิต อยู่ระหว่างติดต่อทางกรมการจัดหางาน เพื่อประสานขอความช่วยเหลือ เพื่อนำศพกลับมาบำเพ็ญกุศล

ล่าสุด นางสาวรุ่งทิวา เรืองฤทธิ์ อายุ 31 ปี ออกมาเปิดเผยยืนยันว่า นายสมควร พันธ์สะอาด อายุ 39 ปี สามีเสียชีวิตเมื่อช่วงเย็นวันที่ 7 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา หลังจากขาดการติดต่อทางแชทเฟซบุ๊ก ปกติจะพูดคุยไถ่ถามความเป็นอยู่ทุกวัน โดยสามีเพิ่งไปทำงานยังไม่ถึงปี จะครบปีเดือนตุลาคมนี้ เป็นงานฟาร์มเกษตร

ก่อนเกิดเหตุ ตนได้วิดีโอคอลคุยกับสามีในตอนเช้า โดยไม่ได้วางสายและสามียังได้เล่าให้ฟังว่า มีการสู้รบกันเกิดขึ้นแต่ตอนนั้นสามีก็ยังไม่มีท่าทีร้อนรนแต่อย่างใด ยังคงใช้ชีวิตปกติ และก่อนจะวางสายสามีบ่นว่าเหนื่อยอยากนอนพักผ่อน ตนเองจึงให้สามีไปนอนพักผ่อน แต่หลังจากที่วางสายจากสามีได้ไม่นาน เห็นข่าวด่วนในทีวีว่ามีการโจมตีในอิสราเอล จึงรีบส่งแชทไปบอกสามีให้ดูแลตนเองและอย่าออกไปไหน สักพักมีเพื่อนของสามีทักแชทเฟซบุ๊กมาหา แจ้งข่าวร้ายว่าสามีถูกกลุ่มติดอาวุธหนักบุกเข้ามายิง ขณะที่สามีกำลังหลบหนีออกทางหน้าต่าง แต่หนีไม่ทัน จึงถูกกลุ่มติดอาวุธจับตัวไป ก่อนจะรัวยิงจนเสียชีวิต ส่วนเพื่อนคนอื่นต่างวิ่งหนีตายกันจ้าละหวั่น

น.ส.รุ่งทิวา น้ำคลอเบ้าเล่าต่อว่า ก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุร้าย สามีมักบ่นว่าลำบากและเหนื่อย แต่เวลาวิดีโอคอลคุยกัน สามีจะไม่ค่อยให้เห็นสภาพความเป็นอยู่มากนัก ส่วนใหญ่จะเป็นการบ่นให้ฟังมากกว่าว่าเหนื่อย นอกจากนี้ สามีได้สัญญากับตนเองว่าจะไปทำงานที่ประเทศอิสราเอล 5 ปี และจะพยายามเก็บเงินกลับมาอยู่กับครอบครัวที่จังหวัดนครพนม โดยนำไปเป็นเงินทุนสร้างอาชีพค้าขาย แต่สุดท้ายก็มาถูกยิงตายอย่างอนาถ นอกจากนี้ นางสาวรุ่งทิวา ยังบอกอีกว่า ตนเองไม่รู้ว่าจะติดต่อขอรับศพสามีได้อย่างไร คงต้องรอทางการไทยเป็นผู้ประสานมา และจะนำศพของสามีกลับมาจัดพิธีตามประเพณีที่บ้านเกิดจังหวัดกาฬสินธุ์ หรือ ที่จังหวัดนครพนม ต้องรอปรึกษาญาติอีกครั้งก่อน

‘THEOS-2’ ทะยานขึ้นสู่วงโคจรสำเร็จ พร้อมเริ่มปฏิบัติการสำรวจโลก ด้าน ‘นายกฯ’ ร่วมยินดี หนุนใช้เทคโนโลยีทันสมัยช่วยขับเคลื่อนประเทศ

ดาวเทียม ‘THEOS-2’ ประสบความสำเร็จขึ้นสู่วงโคจรแล้ว เริ่มปฏิบัติการสำรวจโลก นายกฯ เศรษฐา ร่วมยินดี ขอบคุณกระทรวง อว. ขณะที่ ‘ศุภมาส’ ชี้ข้อมูลจากดาวเทียม THEOS-2 จะถูกนำมาวางแผนบริหารจัดการพื้นที่ที่ตอบสนองต่อสถานการณ์ฉุกเฉินต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพภายใน 5 – 8 วันจากนี้

(9 ต.ค. 66) มีการนำส่งดาวเทียมสำรวจโลก ‘THEOS-2’ (Thailand Earth Observation Satellite 2) ขึ้นสู่วงโคจรจากท่าอวกาศยานยุโรปเฟรนช์เกียนา (Guiana Space Center) เมืองกูรู รัฐเฟรนช์เกียนา ทวีปอเมริกาใต้ มี น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) พร้อมด้วยผู้บริหารสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ หรือ ‘GISTDA’ รวมทั้งสักขีพยานจากประเทศไทยและสาธารณรัฐฝรั่งเศสรวมถึงประชาชนทั่วโลก ที่สนใจในเหตุการณ์ครั้งสำคัญนี้

โดยเมื่อถึงเวลา 08.36 น.ตามเวลาในประเทศไทย ดาวเทียมสำรวจโลก THEOS-2 ได้ถูกนำส่งด้วย จรวด ‘VEGA’ พร้อมมีการให้สัญญาณนับถอยหลังใน 10 วินาทีสุดท้ายหลังจากนั้นดาวเทียมสำรวจโลก THEOS-2 ได้ถูกส่งขึ้นสู่วงโคจรท่ามกลางความตื่นเต้นดีใจ หลังจากลุ้นระทึก โดยผู้อยู่ในเหตุการณ์ครั้งสำคัญต่างพากันจับมือแสดงความยินดี

ทั้งนี้ น.ส.ศุภมาส กล่าวภายหลังจากดาวเทียมสำรวจโลก THEOS-2 ขึ้นสู่วงโคจรของอวกาศว่า รู้สึกดีใจและโล่งใจที่การปล่อยดาวเทียมสำรวจโลก THEOS-2 ราบรื่น ประสบความสำเร็จ แม้จะมีอุปสรรคบ้าง แต่ทุกอย่างก็เป็นไปตามกระบวนการ

โดยขณะนี้ สามารถกล่าวได้ว่าดาวเทียม THEOS-2 ได้เริ่มปฏิบัติการสำรวจโลกแล้ว โดยหลังจากปล่อยดาวเทียมในเวลา 08:36 น. จะใช้เวลากว่า 52 นาทีในการเข้าสู่วงโคจรที่ระดับความสูง 621 กิโลเมตร เมื่อดาวเทียมขึ้นไปแล้ว จะทดสอบระบบในอวกาศร่วมกับสถานีภาคพื้นดินราวๆ 3 เดือน ก่อนจะใช้งานได้ แต่อย่างไรก็ตาม หากมีสถานการณ์เร่งด่วนเกิดขึ้น อาทิ ภัยพิบัติ THEOS-2 ก็สามารถสั่งถ่ายภาพได้ภายใน 5 – 8 วัน หลังจากดาวเทียมเข้าสู่วงโคจร

“ภารกิจนี้เป็นภารกิจที่ยิ่งใหญ่ของกระทรวง อว.และประเทศไทย หลังจากนี้จะมีการต่อยอดยกระดับด้านต่างๆ ของประเทศรวมทั้งการให้ข้อมูลข่าวสารกับประชาชนให้รู้ว่าดาวเทียม THEOS-2 มีประโยชน์อย่างไร สามารถนำไปใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง ข้อมูลจากดาวเทียม THEOS-2 จะถูกใช้ในการปรับปรุงและทำให้ข้อมูลในทุกพื้นที่ของไทยเป็นปัจจุบัน ทันสมัย และมีความละเอียดที่ถูกต้อง ช่วยให้ทุกการวางแผนบริหารจัดการพื้นที่ที่ตอบสนองต่อสถานการณ์ฉุกเฉินต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ” รมว.กระทรวง อว.กล่าว

ในโอกาสนี้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวแสดงความยินดี ว่า ในนามของรัฐบาลไทยและประชาชนคนไทยทุกคน ขอแสดงความยินดีที่วันนี้ประเทศไทยประสบความสำเร็จสามารถส่งดาวเทียม THEOS-2 ขึ้นสู่วงโคจรได้เป็นผลสำเร็จ ซึ่งรัฐบาลมุ่งเน้นมาตลอดว่าจะใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เป็นเครื่องมือในการพัฒนาประเทศ และพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับพี่น้องประชาชน ข้อมูลจากดาวเทียม THEOS-2 จะเป็นข้อมูลพื้นฐานที่สำคัญในการนำไปพัฒนาสร้างประโยชน์ได้ในหลากหลายมิติ อาทิ การบริหารจัดการเกษตร การบริหารจัดการเมือง การบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การบริหารจัดการน้ำ และการบริหารจัดการภัยธรรมชาติ ซึ่งจะนำมาสู่ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอย่างเท่าเทียมและทั่วถึงของพี่น้องประชาชน

“ผมขอขอบคุณกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) และ GISTDA ที่จะช่วยขับเคลื่อนและผลักดันวงการอวกาศของประเทศไทยให้มีความก้าวหน้า” นายเศรษฐา กล่าว

ด้าน ดร.ปกรณ์ อาภาพันธุ์ ผู้อำนวยการ GISTDA กล่าวว่า “หลังจากดาวเทียมเข้าสู่วงโคจรแล้ว จะทำการปรับตัวเพื่อเข้าสู่โหมดของการทำงาน รวมทั้งทดสอบระบบควบคุมและติดต่อสื่อสารกับภาคพื้นดิน เพื่อความเสถียรและความแม่นยำของข้อมูลโดยใช้เวลาประมาณ 6 เดือน หลังจากนั้น GISTDA จะเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนได้เข้าถึงข้อมูล เพื่อนำไปต่อยอดหรือให้การบริการเชิงพาณิชย์ได้ ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมการพัฒนาระบบเศรษฐกิจภายในประเทศ รวมถึงจะเป็นแรงผลักดันขับเคลื่อนด้านการศึกษา การวิจัยและนวัตกรรมในการใช้ข้อมูลเชิงพื้นที่ และเทคโนโลยีอวกาศในการพัฒนาองค์ความรู้ เพื่อสร้างนักวิทยาศาสตร์และวิศวกรในสาขาที่เกี่ยวข้องต่อไป”


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top