Wednesday, 7 May 2025
TheStatesTimes

‘นศ.เวชนิทัศน์ ปี 2 ม.ขอนแก่น’ วาดภาพกระดูกอาจารย์ใหญ่ โซเชียลสุดทึ่ง!! เป๊ะทุกสัดส่วน เหมือนจริงราวกับภาพถ่าย

เมื่อไม่นานนี้ ได้เกิดไวรัลในสื่อสังคมออนไลน์ เมื่อเฟซบุ๊ก ‘ชมนาด อุปชิตกุล’ โพสต์ภาพ ‘ผลงานภาพวาดกระดูกอาจารย์ใหญ่ด้วยเทคนิคสีน้ำ’ ของนักศึกษา ชั้นปีที่ 2 อาจารย์ประจำสาขาวิชาเวชนิทัศน์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) ที่เหมือนจริงราวกับภาพถ่าย จนชาวโซเชียลต่างเข้ามาคอมเมนต์ และแชร์โพสต์ชื่มชนเป็นจำนวนมาก

ดร.ชมนาด อุปชิตกุล อาจารย์ประจำสาขาวิชาเวชนิทัศน์ คณะแพทยศาสตร์ มข.เปิดเผยว่า ผลงานเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชาจิตรกรรมขั้นสูงสำหรับเวชนิทัศน์ ซึ่งอยู่ในสาขาวิชาเวชนิทัศน์ คณะแพทยศาสตร์ แม้จะอยู่ในสังกัดคณะแพทย์ แต่นักศึกษาสาขานี้ไม่ใช่หมอ ซึ่งสาขาเวชทัศน์ คือการเรียนการสอนเพื่อสร้างสื่อทางการแพทย์ ทั้งสื่อสิ่งพิมพ์ หุ่นจำลอง วิดีโอ ภาพถ่ายเพื่อเป็นสื่อการศึกษาทางการแพทย์ หรือแม้แต่แอพพลิเคชั่นเพื่อช่วยสื่อสารให้คุณหมอ นักศึกษาแพทย์ และคนไข้เข้าใจกันมากยิ่งขึ้น

“เวชนิทัศน์ เป็นการเรียนหลักสูตรวิทยาศาสตร์บัณฑิต 4 ปีจบ ที่นักศึกษาจะได้เรียนทั้งวิชาด้านการแพทย์ เช่น อาการทางคลินิก วิชาปรสิตวิทยา วิชาพยาธิวิทยา หรือ Gross Anatomy จากอาจารย์หมอ ควบคู่กับการเรียนรู้เทคนิคด้านการสร้างสื่อเทคโนโลยี และศิลปะ เราอาจนิยามได้ว่านักศึกษาเราคือ เด็กวิทย์ หัวใจศิลป์ อย่างไรก็ตาม การวาดภาพทางการแพทย์นั้น ต้องใช้เทคนิคที่แตกต่างจากการวาดภาพธรรมดา เพื่อให้เห็นภาพความเป็นจริง ใส่รายละเอียด สัดส่วนที่แม่นยำ ถูกต้อง เพื่อให้ใช้อ้างอิงในเชิงวิชาการได้ ซึ่งต้องได้รับการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญ หรือคุณหมอ ไม่ใช่เพื่อความสมจริง และสวยงามเท่านั้น” ดร.ชมนาด กล่าว

ดร.ชมนาดกล่าวอีกว่า ด้วยความตั้งใจที่อยากให้นักศึกษามีกำลังใจในการเรียน และเป็นเหมือนบอร์ดเก็บผลงานลูกศิษย์ ตนจึงตัดสินใจโพสต์ภาพวาดบนโซเชียล แต่ผลตอบรับที่ได้กลับมานั้นเกินความคาดหมาย เพราะยอดไลก์ ยอดแชร์ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันอาจารย์หมอ หรืออาจารย์คณะอื่นๆ ก็ติดต่อเข้ามาว่าสนใจให้นักศึกษาไปช่วยวาดภาพวิทยาศาสตร์การแพทย์ต่างๆ เพื่อใช้เป็นสื่อการเรียนการสอนด้วย

“ผู้ที่สนใจเข้าศึกษาต่อที่สาขาวิชาเวชนิทัศน์ ไม่จำเป็นต้องวาดภาพเก่ง หรือถนัดทั้งสายวิทย์ และสายศิลป์ แต่ขอให้เป็นคนที่ชื่นชอบการเรียนรู้ผ่านการฝึกปฏิบัติจริง เพราะตั้งแต่ปี 1-2 นักศึกษาจะได้เรียนรู้การสื่อสารสำหรับเวชนิทัศน์ ฝึกฝนการ Drawing พื้นฐานศิลปะ กราฟิก และการปั้น ขึ้นปี 3 จะเริ่มเรียนรู้วิชาหุ่นจำลองทางการแพทย์ ฝึกฝนการทำ Motion Graphic, Coding การวาดการ์ตูนสำหรับเวชนิทัศน์ ไปจนถึงถ่ายภาพทางการแพทย์ เป็นการสร้าง Multi skill ก่อนชั้นปี 4 ได้เรียนรู้วิชานิทรรศการ สร้างโปรเจ็กต์สื่อทางการแพทย์จากสิ่งที่แต่ละคนชื่นชอบ และสนใจ ซึ่งอาจร่วมมือกับอาจารย์ หรือนักศึกษาคณะอื่นๆ เพื่อบูรณาการศาสตร์ต่างๆ ให้นักศึกษาได้เรียนรู้บริบทการทำงานของนักเวชนิทัศน์ในโรงพยาบาล และการสร้างสื่อการเรียนการสอนในสายการศึกษาด้วย” ดร.ชมนาด กล่าว

ดร.ชมนาดกล่าวอีกว่า มีนักเรียนสมัครเข้ามามากขึ้น เพราะเราพัฒนาหลักสูตรอย่างต่อเนื่อง นำเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาให้นักศึกษาได้ฝึกปฏิบัติจริง เมื่อแต่ละคนไปฝึกสหกิจ ก็ทำให้สถานประกอบการสนใจ และให้ทำงานต่อทันทีกว่า 30% ทั้งในไทย และประเทศอาเซียน ซึ่งพบว่าหลังจากจบการศึกษา มีภาวะว่างงานน้อยในสายงานการตลาดที่หลากหลาย

นายนนทกรณ์ จันทร์หวาน นักศึกษาชั้นปีที่ 2 สาขาเวชนิทัศน์ คณะแพทยศาสตร์ มข.กล่าวว่า หลังเห็นฟีดแบ็กบนโซเชียลก็ดีใจ ที่มีคนชื่นชอบผลงานภาพวาดครั้งนี้ เพราะเป็นการวาดภาพกระดูกอาจารย์ใหญ่ของจริงครั้งแรก และเป็นภาพวาดที่ใช้เทคนิคสีน้ำขั้นสูงครั้งแรก ก่อนวาดก็จะวัดสัดส่วนกระดูก ดูมุมแสง และเงา เก็บรายละเอียดต่างๆ จนมั่นใจว่าเหมือนจริง และถูกต้องทุกรายละเอียด จึงรังสรรค์มาเป็นผลงานกระดูกแขน และมือ

“ผมเลือกวาดกระดูกส่วนแขน และมือ เพราะเป็นส่วนที่มีรายละเอียดเยอะ ใช้เวลาวาดประมาณ 3-5 ชั่วโมง ผลงานก็ออกมาเป็นที่น่าพอใจ และหวังว่าภาพวาดนี้จะถูกนำไปเป็นสื่อการเรียนการสอน หรือสื่อการศึกษาทางการแพทย์ในอนาคต แม้จะไม่เคยรู้จักสาขาวิชาเวชนิทัศน์มาก่อน แต่ผมเลือกที่จะลองเข้ามาเรียนรู้ เพราะสนใจในหลักสูตรที่บูรณาการทั้งวิทยาศาสตร์ และศิลปะไว้ด้วยกัน โดยหวังว่าการผลิตสื่อทางการแพทย์ของตัวเอง จะไม่ใช่เพียงสื่อที่ให้แพทย์ได้ศึกษาเท่านั้น แต่จะเป็นตัวกลางระหว่างหมอกับคนไข้ ให้สื่อสารเรื่องยากได้เข้าใจง่ายมากยิ่งขึ้น” นายนนทกรณ์ กล่าว

‘จีน’ เปิดทดลองเดินรถ บนถนนทางหลวงเอเชียสายใหม่  เชื่อมต่อการคมนาคม 3 ประเทศ ‘จีน-มองโกเลีย-รัสเซีย’

เมื่อวันที่ 23 ก.ย. 66 สำนักข่าวซินหัว, อุรุมชี รายงาน การทดลองเส้นทางขนส่งทางถนนระหว่างประเทศ ซึ่งเชื่อมต่อจีน มองโกเลีย และรัสเซีย บนทางหลวงเอเชีย สาย 4 (AH4) เริ่มต้นที่นครอุรุมชี เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน เมื่อช่วงเช้าวันศุกร์ (22 ก.ย.) ที่ผ่านมา

รายงานระบุว่า ขบวนรถบรรทุกของจีน มองโกเลีย และรัสเซีย จำนวน 9 คัน วิ่งออกจากศูนย์ขนส่งหลายรูปแบบในเขตด่านบกระหว่างประเทศอุรุมชี โดยรถบรรทุกจะออกจากจีนผ่านด่านบกถ่าเค่อสือเขิ่น วิ่งผ่านมองโกเลียและรัสเซีย ก่อนถึงเมืองโนโวซีบีรสค์ของรัสเซีย

เส้นทางวิ่งระยะทดลองทั้งหมดยาวราว 2,253 กิโลเมตร แบ่งเป็นในจีนราว 577 กิโลเมตร ในมองโกเลีย 758 กิโลเมตร และในรัสเซีย 918 กิโลเมตร โดยจะมีการจัดพิธีต้อนรับขบวนรถบรรทุกที่เมืองโนโวซีบีรสค์ ซึ่งเป็นเมืองขนาดใหญ่ที่สุดอันดับสามของรัสเซีย ในวันที่ 28 ก.ย. ด้วย

‘เซวียนเติงเตี้ยน’ เจ้าหน้าที่กระทรวงคมนาคมของจีน กล่าวว่าเส้นทางใหม่นี้เป็นช่องทางขนส่งทางถนนระหว่างประเทศที่เชื่อมต่อจีน มองโกเลีย และรัสเซีย ลำดับที่ 2 ต่อจากเส้นทางบนทางหลวงเอเชีย สาย 3 ซึ่งจะส่งเสริมการหมุนเวียนทรัพยากรอย่างเป็นระเบียบ การจัดสรรทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และการบูรณาการตลาดในภูมิภาค รวมถึงมีบทบาทนำร่องในการสร้างระเบียงเศรษฐกิจจีน-มองโกเลีย-รัสเซีย

อนึ่ง ซินเจียงตั้งอยู่ใจกลางทวีปยูเรเซีย ถือเป็นศูนย์กลางการขนส่งในภูมิภาคหลักของแถบเศรษฐกิจเส้นทางสายไหม

ปัจจุบันจีนมีส่วนร่วมการขนส่งทางถนนระหว่างประเทศกับ 21 ประเทศ และมีท่าด่านในจีน 68 แห่ง ที่เปิดบริการขนส่งทางถนนระหว่างประเทศ

‘วิษณุ’ ชี้ช่อง แก้รัฐธรรมนูญ ลดขั้นตอนทำประชามติเหลือ 2 ครั้ง แนะ เลือกแก้มาตราเฉพาะหน้า-เว้นเรื่องยุ่งยาก ช่วยลดงบประมาณ

(24  ก.ย. 66) นายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า เรื่องนี้ตอบไม่ถูก ให้เขาคิดกันเองเอง เพราะว่ายุ่งยากซับซ้อน ข้อสำคัญจะใช้วิธีไหนก็ตามควรจะหลบหลีกการทำประชามติหลายครั้ง และเห็นด้วยกับแก้ไขเป็นรายมาตรา ทีละหลายๆมาตรา เพราะรัฐธรรมนูญห้ามไว้แต่เพียงว่า ในกรณีที่เป็นการแก้ไขหมวด 1 ทั่วไป  หมวด 2 พระมหากษัตริย์ หมวด 15 เรื่องการแก้ไขอำนาจและหน้าที่ขององค์กรอิสระ และการแก้ไขคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามขององค์กรอิสระ โดยเรื่องเหล่านี้ เมื่อแก้ไขวาระ1 วาระ2 และ วาระ3 แล้วเสร็จ ก่อนที่จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ต้องทำประชามติ

นายวิษณุ กล่าวว่า การแก้ไข ที่ควรทำคือ ถ้าต้องการแก้เกี่ยวกับองค์กรอิสระ และไปกระทบกับเรื่องอำนาจหน้าที่ขององค์กรอิสระ ตรงนี้ต้องทำประชามติ เพราะฉะนั้นเก็บไว้ทำคราวหลังได้หรือไม่ ตอนนี้ถ้าอยากแก้ไปก่อนคือหมวด 3 เรื่องสิทธิเสรีภาพ ซึ่งประชาชนต้องการและ หมวด 4 หน้าที่ของรัฐ หมวด 5 หน้าที่ของปวงชนชาวไทย หมวด 6แนวนโยบายแห่งรัฐ หมวด 7 รัฐสภา ซึ่งแก้ได้ตามใจชอบไม่ต้องทำประชามติ หมวด 8 ครม. หมวด 9 ผลประโยชน์ขัดแย้งกัน หมวด10 เรื่องศาล หมวด 11 องค์กรอิสระ ซึ่งเรื่องเหล่านี้แก้ได้หมด แต่พอไปถึงองค์กรอิสระอำนาจหน้าที่ และคุณสมบัติต้องห้ามจะไปเจอเรื่องทำประชามติ อย่าเพิ่งไปทำ

เมื่อถามว่าการทำประชามติควรทำครั้งเดียวตอนแก้ไขเสร็จแล้ว ใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ที่ต้องทำประชามติเพราะรัฐธรรมนูญมาตรา 256 กำหนดไว้ ถ้าแก้มาตรา256 ว่าการแก้รัฐธรรมนูญไม่ต้องทำประชามติ ก็ไม่ต้องทำประชามติ แต่การจะแก้หนแรกในเรื่องมาตรา 256 ต้องทำประชามติหนึ่งครั้งก่อน จะลบล้างเรื่องประชามติไปได้

เมื่อถามย้ำว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ ต้องทำประชามติ 3-4 ครั้ง หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวย้ำว่า ต้องแก้ไขมาตรา 256 เสียก่อน พอเสร็จวาระ 1-3 ก็นำขึ้นทูลเกล้าฯ ต่อไปจะไม่ได้เจอเรื่องทำประชามติ แต่ถ้าแก้ตามแนวทางของรัฐบาลก็ต้องทำประชามติ  1.ต้องทำประชามติแก้ทั้งฉบับว่าเห็นด้วยหรือไม่ 2.ต้องตั้งส.ส.ร. และ 3. ถ้าตั้งส.ส.ร. ต้องไปทำประชามติทั้งประเทศอีก  ซึ่งการทำประชามติครั้งหนึ่งใช่งบประมาณ 3 พันล้านบาท ฉะนั้นก็แก้ที่มาตรา256  แต่การแก้มาตรา256 หากพูดกันไม่ดีเพราะอาจไม่ผ่าน เพราะต้องผ่านความเห็นของส.ว.หรือไม่ และเขาก็กลัวว่าจะไปแก้อะไรต่อมิอะไรกัน อย่างไรก็ตาม อย่างน้อยการทำประชามติควรทำ2 ครั้งก็ยังดี คือต้องเริ่มแก้ไข และตอนจบที่จะไปประกาศใช้

‘The Sine Cafe’ คาเฟ่ร่วมสมัย ไม่ทิ้งความเป็นไทย จ.นครปฐม อิ่มอร่อยกับเมนูไทยแบบโฮมเมด พร้อมบรรยากาศสบายๆ ในสวน

ใครที่ชื่นชอบบรรยากาศสวนอันร่มรื่น ได้ผ่อนคลายกับความเป็นธรรมชาติ และยังได้ลิ้มรสชาติเมนูอาหารไทยอร่อยๆ ชวนมาที่นี่เลย ‘The Sine Cafe’ ที่อยู่ใน อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม

‘The Sine Cafe’ (เดอะ ซายน์ คาเฟ่) คาเฟ่สวยแนวไทยร่วมสมัย ที่ผสมผสานระหว่างความเป็นยุคสมัยใหม่ และยุคสมัยโบราณช่วงปลายรัชกาลที่ 5 ท่ามกลางบรรยากาศสวนนั่งสบาย มีทั้งมุมนั่งในร้าน มุมนั่งในสวนริมสระน้ำ ให้เลือกนั่งได้ตามชอบ

และหากว่าเข้ามาที่นี่แล้ว ก็จะได้พบกับเรือนไทยโบราณ ‘เรือนไทยภิรมย์ภัชน์’ ที่มีอายุกว่าร้อยปี และถูกนำมาบูรณะใหม่ ภายในเรือนถูกประดับตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ยุโรปแนววินเทจ บางชิ้นมีอายุกว่าร้อยปี และมีมุมอื่นๆ ให้ผู้เยี่ยมชมได้เข้ามาถ่ายรูปได้

สำหรับอาหารของที่นี่ จะเน้นสไตล์โฮมเมด ซึ่งเป็นสูตรเฉพาะที่ทางร้านสืบทอดมาจากคุณทวด วัตถุดิบบางชนิด ทางร้านได้ปรุงขึ้นมาเองเพื่อควบคุมคุณภาพและรสชาติให้ได้มาตรฐาน โดยที่นี่มีทั้งอาหารไทย อาหารไทยโบราณ ขนมไทยหากินยาก อาหารตะวันตก และเครื่องดื่มหลากหลาย ที่จะเสิร์ฟความอร่อยให้กับทุกคนทั้งครอบครัว

เริ่มต้นมื้ออร่อยกันด้วยเมนูไทยโบราณ ‘ปลาแห้งแตงโม’ เพิ่มความสดชื่นจากแตงโมหวานฉ่ำ โรยหน้าด้วยปลาแห้งที่ทำจากเนื้อปลาช่อน ผสมกับน้ำตาล เหลือ และหอมเจียว จานนี้กินแล้วสดชื่นคลายร้อนมากๆ

จานซิกเนเจอร์ของร้านที่ชวนกินคือ ‘ไข่เคย S Garden’ เป็นเมนูง่ายๆ ที่ทำกินกันในครอบครัว แล้วขยายมาสู่การเสิร์ฟให้ทุกคนได้ลองชิมความอร่อย เมนูนี้ทำจากกะปิกุ้งเคยแท้ ผัดกับเครื่องแกงและไข่ไก่ บีบมะนาวลงไปเล็กน้อย กินคู่กับข้าวสวยร้อนๆ และผักสด

‘ข้าวยำภิรมย์ภัชน์’ อีกจานชวนชิม สีสันสวยงาม มีผักหลากหลายชนิด เสิร์ฟพร้อมข้าวยสวยสีเหลืองจากขมิ้น และสีม่วงจากดอกอัญชัน คลุกเคล้ากับน้ำบูดูปรุงสุกรสชาติกลมกล่อม และยังเพิ่มความหอมมันด้วยมะพร้าวคั่วใหม่ๆ

ต่อด้วย ‘แกงเขียวหวานปลากรายไข่เค็มภิรมย์ภัชน์’ เมนูอร่อยที่ทางร้านทำลูกชิ้นปลากรายเอง ด้านในเป็นไส้ไข่แดงเค็ม เข้าคู่กันกับน้ำแกงเขียวหวานรสชาติเข้มข้น เสิร์ฟแบบเป็นเซตคู่กับเส้นหมี่ขาวลวก

อีกจานอร่อยที่ต้องชิม ‘ผัดหมี่กระเฉดมันกุ้งห่อไข่ทองคำ’ เป็นเส้นหมี่ผัดกับมันกุ้งเข้มข้น ผักกระเฉด และกุ้งสดตัวโต เพิ่มความพิเศษด้วยการห่อไข่นุ่มๆ

สลับมาชิมเมนูไทยฟิวชั่น ‘โรตีแกงสุวรรณภูมิ’ เป็นโรตีแผ่นเหนียวนุ่ม มาพร้อมกับแกงกะทิที่มีส่วนผสมระหว่างเครื่องแกงมัสมั่นและแกงเชียวหวาน กลายเป็นเครื่องแกงสีเหลืองทอง และยังมีเนื้อไก่นุ่มๆ ในน้ำแกงให้อร่อยกันด้วย

‘แกงรัญจวน’ อีกหนึ่งแกงโบราณที่มีบันทึกไว้ในสมัยรัชกาลที่ 5 เคล็ดลับของแกงนี้คือจะต้องตำน้ำพริกกะปิรสชาติจัดจ้านครบรส ใส่ลงไปกับน้ำแกงที่ต้มกับเนื้อสัตว์ ซึ่งทางร้านใช้เนื้อหมูอย่างดีมาเคี่ยวจนเปื่อยนุ่ม

นอกจากเมนูอาหารไทยโบราณ และอาหารไทยต่างๆ แล้ว ที่นี่ก็ยังมีเมนูอาหารตะวันตกให้มาลิ้มลองกันด้วย ไม่ว่าจะเป็น พิซซ่า สปาเก็ตตี ซุป ฯลฯ

และถ้าอิ่มจากของคาวแล้ว มาต่อกันที่ของหวานจานอร่อย ‘ส้มฉุน’ ของหวานโบราณที่ยืนพื้นด้วยลิ้นจี่เป็นหลัก แล้วตามด้วยผลไม้ตามฤดูกาลอื่นๆ นำมาใส่ในน้ำลอยแก้ว บีบน้ำส้มซ่าเพิ่มกลิ่นหอมและความสดชื่น กินแล้วอร่อยคลายร้อน

‘ขนมพระพายนมสด’ อีกหนึ่งขนมไทยโบราณ ที่ทางร้านดัดแปลงจากกะทิมาเป็นนมสดคาราเมล ส่วนตัวขนมนั้นไส้ทำจากถั่วกวนหวานมัน หุ้มด้วยแป้งข้าวเหนียวเคี้ยวหนึบ

มาถึงแหล่งมะพร้าวน้ำหอมอย่างที่สามพราน ต้องไม่พลาดที่จะชิมเมนูอร่อยจากมะพร้าวอ่อนหวานหอม ‘เค้กมะพร้าวไข่เค็ม’ เนื้อเค้กนุ่มๆ มีส่วนผสมของน้ำมะพร้าวอ่อน แทรกด้วยเนื้อมะพร้าวอ่อน เสิร์ฟพร้อมกับซอสไข่เค็มหอมมันที่เข้ากันดีมากๆ

ส่วนเครื่องดื่มก็เลือกเป็น ‘S Namhom Latte’ ทางร้านคัดเลือกเมล็ดกาแฟอาราบิก้าอย่างดี ชงผสมกับมะพร้าวน้ำหอม นุ่มละมุน เสิร์ฟคู่เม็ดทองหยอดจิ๋วออนท็อป

มาที่นี่นอกจากจะมาลองลิ้มอาหารไทยอร่อยๆ แล้ว ก็ยังมีที่พัก ‘S Garden View Resort’ ซึ่งเป็นทั้งรีสอร์ทพักสบาย มีสถานที่จัดเลี้ยง งานแต่งงาน งานสัมมนาต่างๆ และยังไม่ไกลจากที่เที่ยวในย่านสามพรานอีกด้วย

ร้าน ‘The Sine Cafe’ ตั้งอยู่ภายใน S Garden View Resort อ.สามพราน จ.นครปฐม เปิดบริการวันพฤหัสบดี-อังคาร (หยุดวันพุธ) โซนคาเฟ่เปิดเวลา 10.00 – 20.30 น. โซนร้านอาหารเปิดเวลา 10.30 – 20.30 น. โทร. 09-5464-6228 Facebook : The Sine Cafe

‘ปลัด มท.’ ปลื้ม!! งาน ‘OTOP Midyear 2023’ วันแรก สุดคึกคัก!! ชวนชม-ชิม-ช้อปสินค้าคัดสรรจากทุกภูมิภาค คาด เงินสะพัด 50 ลบ.

ปลัด มท.ปลื้ม วันแรกของการจัดงาน ‘OTOP Midyear 2023’ เงินสะพัดกว่า 50 ล้านบาท พร้อมเชิญชวนพี่น้องประชาชน ร่วมเที่ยวงาน ‘OTOP Midyear 2023’ พบกับความหลากหลายของสินค้าที่คัดสรรจากทั่วทุกภูมิภาคของไทย มาให้ ชม ชิม ช้อป กันอย่างจุใจ ได้จนถึงวันที่ 1 ตุลาคม 2566

( 24ก.ย. 66) นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยถึง ตัวเลขการจัดจำหน่ายสินค้าภายในงาน ‘OTOP Midyear 2023’ ที่จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 23 กันยายน ไปจนถึงวันที่ 1 ตุลาคม 2566 ซึ่งวันนี้ถือเป็นวันแรกของการจัดงาน พบมีผู้เข้าชมงานรวมทั้งสิ้น 15,966 คน และมียอดการจำหน่ายและสั่งซื้อสินค้า รวมทั้งสิ้น 50,803,466 บาท แบ่งเป็น ยอดจำหน่าย 48,289,471 บาท และยอดสั่งซื้อ 2,513,995 บาท โดยคาดหวังว่าการจัดงานในครั้งนี้ จะเป็นโอกาสที่ดีที่ประเทศไทย จะได้แสดงให้ชาวไทยและชาวต่างชาติได้เห็นถึงความก้าวหน้าในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ OTOP และช่วยสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ ให้ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ ตลอดจนสมาชิกกลุ่มต่างๆ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ รวมทั้งเป็นการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้า OTOP และผลิตภัณฑ์ของชุมชน ทำให้พี่น้องประชาชนสามารถเลือกซื้อสินค้าชุมชนที่ดีที่สุดที่เป็นผลิตภัณฑ์จากชุมชนที่มีคุณค่าจากฝีมือคนไทย ทั้งยังกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศให้ดีขึ้น

นายสุทธิพงษ์ กล่าวอีกว่า รัฐบาลน้อมนำพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ด้านศิลปาชีพ มากำหนดนโยบายด้านเศรษฐกิจฐานรากเพื่อเพิ่มพูนรายได้ให้กับพี่น้องประชาชน โดยมอบหมายให้กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ดำเนินการผ่านโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ หรือ OTOP ซึ่งเป็นภารกิจสำคัญที่สามารถกระจายรายได้ไปสู่พื้นที่ชนบทได้อย่างแท้จริง กิจกรรมสำคัญภายใต้โครงการดังกล่าว ประกอบด้วย การพัฒนาศักยภาพผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP การพัฒนาผลิตภัณฑ์ OTOP การส่งเสริมชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี และการส่งเสริมช่องทางการตลาด

โดยกำหนดให้มีการจัดงานแสดงและจำหน่ายทั้งระดับจังหวัด ระดับภูมิภาค และระดับประเทศ โดยการจัดงาน OTOP Midyear 2023 จัดขึ้นเป็นปีที่ 17 ภายใต้ธีมงาน “ที่สุดแห่งภูมิปัญญา รังสรรค์จากการพัฒนา เพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจไทย” เป็นจุดเริ่มต้นของนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ที่มีความล้ำค่าจากฝีมือคนไทยที่สะท้อนภูมิปัญญาและความสามารถของคนไทยอย่างชัดเจน รวมถึงมีการสร้างบรรยากาศภายในงานจากเอกลักษณ์ของภูมิปัญญาที่แสดงความเป็นท้องถิ่นไทยในแต่ละภูมิภาค ผสมผสานกับสีสันส่งท้ายปีที่สร้างความคึกคัก เต็มไปด้วยความสนุกสนานของกิจกรรม และของรางวัลมากมาย

และในปีนี้มีผู้ประกอบการร้านค้าร่วมจำหน่ายในงานทั้งสิ้น 1,670 ราย และมีประชาชนให้ความสนใจเข้าร่วมงานอย่างคึกคัก โดยภายในงานมีกิจกรรมที่มีความหลากหลาย ประกอบด้วย โซนนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โซน OTOP Trader จังหวัดและประเทศไทย จัดสรรพื้นที่ในรูปแบบ Open Area เพื่อจัดแสดงผลงานและจัดหาช่องทางทางการตลาดให้แก่สินค้า OTOP ทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ โซนแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP 3 – 5 ดาว ที่ผ่านการคัดสรรรสุดยอดหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ไทย ประจำปี พ.ศ. 2565 กว่า 1,200 บูธ และโซนโอทอปชวนซิม มากกว่า 160 ร้านค้าทั่วประเทศ

สำหรับไฮไลต์สำคัญของงานนี้ คือ โซนศิลปิน OTOP จัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากศิลปิน OTOP กว่า 40 ราย ที่อนุรักษ์และสืบทอดภูมิปัญญาจากรุ่นสู่รุ่น โซนชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี โซนผ้าไทยใส่ให้สนุกและ First Lady โซนพิเศษภายในงานอีกมากมาย อาทิ โซน Health & SPA ที่ได้สร้างสรรค์พื้นที่ภายในงานให้ทุกท่านได้พักผ่อนหย่อนใจไปกับบรรยากาศที่ผ่อนคลายสไตล์สปาไทย พร้อมกับการจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรคุณภาพดีให้ได้เลือกช้อป

นอกจากนี้ ยังมีมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินนักร้องชื่อดังมาร่วมสร้างความบันเทิงอย่างคับคั่ง ได้แก่ แช่ม แช่มรัมย์ นนทิยา จิวบางป่า รัชนก ศรีโลพันธุ์ ลำยอง หนองหินห่าว ไรอัล ไมค์หมดหนี้ ตรี ชัยณรงค์ เต๋า ภูศิลป์ หญิง ธิติกานต์ และป๊อป ปองกูล รวมถึงการจับสลากรางวัลชิงโชค ไม่น้อยกว่า 20 รางวัล และในวันสุดท้ายของการจัดงานร่วมลุ้นรับรางวัลใหญ่ทองคำ มูลค่ากว่า 200,000 บาท

นายสุทธิพงษ์ กล่าวด้วยว่า วันนี้ถือเป็นวันแรกของการจัดงาน พบว่ามียอดการจำหน่ายและสั่งซื้อสินค้า รวมทั้งสิ้น 50,803,466 บาท แบ่งเป็น ยอดจำหน่าย 48,289,471 บาท และยอดสั่งซื้อ 2,513,995 บาท โดยมีผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายได้สูงสุด 5 ลำดับแรก ได้แก่ 1) เครื่องประดับเงิน (Buddlaya) จ.สระแก้ว 3,820,000 บาท 2) ชุดเครื่องประดับงาช้าง (ศิริพรเครื่องประดับงาช้าง) จ.สุรินทร์ 2,950,000 บาท 3) ทองสุโขทัย (นางสมสมัย เขาเหิน) จ.สุโขทัย 966,400 บาท 4) ชุดผีเสื้อนพเก้า (นายจารุเดช เครือปัญญา) จ.ปทุมธานี 760,000 บาท และ 5) ทับทิมรวงข้าว (ร้านมณีแดงทับทิมไทย) จ.จันทบุรี 655,000 บาท

นอกจากนี้ ภายในงานยังมีกิจกรรม "ที่สุดแห่งภูมิปัญญา รังสรรค์จากการพัฒนา เพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจไทย" แฟนพันธุ์แท้ OTOP ยังคงช้อปได้อย่างสนุกสนาน ซึ่งภายในงานมีหลายโซนนำสินค้ามาจำหน่ายในราคาพิเศษเพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนได้จับจ่าย... ยิ่งช้อปยิ่งได้! เมื่อช้อปปิ้งครบทุก ๆ 500 บาท สามารถแลกคูปอง 1 ใบ ส่งชิงโชคจับสลาก วันละ 2 รอบ (รอบแรก 13.00 น. และรอบที่สอง เวลา 19.00 น.) โดยจะมอบรางวัลให้ผู้โชคดี รอบละ 10 ท่าน ทั้งนี้ ผู้ได้รับรางวัลสามารถแสดงตัวพร้อมหลักฐานติดต่อรับรางวัลได้ข้างเวทีการแสดง และสามารถแลกของรางวัลได้ตั้งแต่จนถึงวันที่ 1 ตุลาคม 2566

ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวทิ้งท้ายว่า ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนทุกท่านร่วมสนับสนุนสินค้าจากผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ในงาน OTOP Midyear 2023 พร้อมพบกับความหลากหลายของสินค้าที่คัดสรรจากทั่วทุกภูมิภาคของไทยมาให้ ชม ชิม ช้อป กันอย่างจุใจ

โดยงานจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 23 กันยายน – 1 ตุลาคม 2566 ตั้งแต่เวลา 10.00 - 21.00 น. ณ ชาเลนเจอร์ฮอลล์ 2 – 3 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยสนับสนุนในการสร้างโอกาส สร้างอาชีพ และสร้างรายได้ ให้พี่น้องผู้ผลิต ผู้ประกอบการ และสามารถติดตามข่าวสารและรับชมการถ่ายทอดสดบรรยากาศและกิจกรรมภายในงานได้ทาง Facebook Fanpage : กรมการพัฒนาชุมชน หรือ ‘OTOP TODAY OTOP Midyear 2023’

ไขข้อสงสัย!! ‘รถไฟฟ้า’ แต่ละสาย มีหน่วยงานที่รับผิดชอบในการดำเนินการพัฒนาและบำรุงรักษาเป็นหน่วยงานใดบ้าง 🚈✨

ไขข้อสงสัย!! ‘รถไฟฟ้า’ แต่ละสาย มีหน่วยงานที่รับผิดชอบในการดำเนินการพัฒนาและบำรุงรักษาเป็นหน่วยงานใดบ้าง 🚈✨

หมายเหตุ : ข้อมูลนี้เป็นของรถไฟฟ้าที่เปิดให้บริการแล้วเท่านั้น สำหรับรถไฟฟ้าที่จะเปิดให้บริการในอนาคต ต้องรอดูความคืบหน้าในการเลือกสังกัดหน่วยงานรับผิดชอบอีกครั้ง

ผลโพลสหรัฐฯ ชี้ 'ทรัมป์' มีคะแนนนิยมเหนือ 'ไบเดน' 10% ด้านคนอเมริกัน 75% มอง 'ไบเดน' แก่เกินไปที่จะนั่งเก้าอี้สมัย 2

ในผลสำรวจที่เผยแพร่เมื่อวันเสาร์ (23 ก.ย.66) พบว่า 52% ของผู้ตอบแบบสอบถาม จะเลือก ทรัมป์ ส่วนที่บอกว่าจะเลือก ไบเดน มีอยู่ราวๆ 42% ส่วนที่เหลือระบุว่ายังไม่ตัดสินใจหรือไม่ก็จะไม่ไปลงคะแนน ทั้งนี้ในผลสำรวจความคิดเห็นที่จัดทำโดยวอชิงตันโพสต์/เอบีซีนิวส์ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ในตอนนั้นพบว่า ไบเดน มีคะแนนนิยมนำหน้า ทรัมป์ เพียง 4 จุด ที่ 48% ต่อ 44%

อย่างไรก็ตามผลสำรวจของวอชิงตันโพสต์/เอบีซีนิวส์ ค่อนข้างจะสวนทางกับผลโพลอื่นๆ เมื่อเร็วๆ นี้ ที่เกือบทั้งหมดให้ ทรัมป์ และ ไบเดน มีคะแนนนิยมสูสีกันอย่างมาก ในนั้นรวมถึงผลสำรวจของสำนักข่าวเอ็นบีซีนิวส์ ที่พบว่า ทรัมป์ กับ ไบเดน มีคะแนนนิยมเท่ากันที่ 46% ส่วนผลโพลของ ฟ็อกซ์ นิวส์ ที่เผยแพร่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พบ ทรัมป์ มีคะแนนนิยมนำหน้า ไบเดน 48% ต่อ 46% ขณะที่ผลสำรวจของมหาวิทยาลัย Quinnipiac ให้ ไบเดน มีคะแนนนิยมนำหน้า 47% ต่อ 46%

ก่อนเผชิญหน้ากับ ไบเดน เป็นครั้งที่ 2 ทาง ทรัมป์ จำเป็นต้องเอาชนะกลุ่มผู้ท้าทายจากรีพับลิกัน ที่มากที่สุดเท่าที่เคยมีมาก ซึ่งต่างหวังก้าวมาเป็นตัวแทนพรรคลงชิงเก้าอี้ประธานาธิบดี อย่างไรก็ตามผลสำรวจแทบทุกสำนัก พบว่า ทรัมป์ มีคะแนนนิยมนำหน้าอย่างแข็งแกร่ง และ ไบเดน บอกกับเหล่าผู้บริจาคในวันพุธ (20 ก.ย.) เขาคิดว่าทรัมป์ ถูกกำหนดล่วงหน้าให้เป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันอีกครั้ง

ผลสำรวจของวอชิงตันโพสต์และเอบีซีนิวส์ พบว่า ทรัมป์ มีคะแนนนิยมนำหน้า รอน เดอซานติส ผู้ว่าการรัฐฟลอริดา คู่แข่งชิงตัวแทนพรรครีพับลิกัน ที่ใกล้เคียงที่สุดของเขา อยู่เกือบ 40 จุด ที่ 54% ต่อ 15% และไม่พบว่ามีผู้ท้าชิงรีพับลิกันรายอื่นๆ รายใดที่มีคะแนนนิยมถึงเลข 2 หลัก ในผลสำรวจเลย

ทั้ง ไบเดน และ ทรัมป์ ต่างเผชิญอุปสรรคสำคัญในแนวโน้มหวนคืนสู่การท้าชิงเก้าอี้ทำเนียบขาว โดย ทรัมป์ จะเข้าสู่ฤดูกาลเลือกตั้งในปีหน้า ด้วยการต้องต่อสู้กับข้อกล่าวหาต่างๆ มากกว่า 90 กระทง ใน 4 คดีแยกกัน ไม่ว่าจะเป็น คดีที่เขาถูกกล่าวหาพยายามล้มผลเลือกตั้งปี 2020 บริหารจัดการเอกสารลับผิดพลาด และจ่ายเงินปิดปากดาราหนังโป๊ สตอร์มมีย์ แดเนียลส์

ทรัมป์ ยืนกรานว่าการฟ้องร้องเอาผิดกับเขานั้น มีแรงจูงใจทางการเมือง และกระทรวงยุติธรรมภายใต้ไบเดน มีส่วนเกี่ยวข้องกับความพยายาม "สลานิตส์" ที่มุ่งหมายเขี่ยเขาพ้นจากศึกชิงชัยเก้าอี้ประธานาธิบดี 2024

สำหรับ ไบเดน บรรดาผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งต่างมีความกังวลว่าเขามีสุขภาพแข็งแรงพอสำหรับดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีต่ออีกสมัยหรือไม่ โดยในผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุด ไม่พิจารณาแนวโน้มทางการเมือง พบว่ามีถึง 75% ที่มองว่า ไบเดน นั้นแก่เกินไปที่จะนั่งเก้าอี้สมัย 2

‘ไบเดน’ ซุ่มเจรจาค้าอาวุธครั้งใหญ่กับ ‘เวียดนาม’ อาจทำข้อตกลงปีหน้า คาด!! ‘จีน-รัสเซีย’ มีเคือง

เมื่อวานนี้ (24 ก.ย. 66) สำนักข่าวรอยเตอร์ อ้างอิงแหล่งข่าว รายงานเมื่อวันเสาร์ (23 ก.ย.) ว่า รัฐบาลไบเดนกำลังหารือกับรัฐบาลเวียดนามเกี่ยวกับข้อตกลงซื้ออาวุธครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ระหว่างอดีตศัตรูในยุคสงครามเย็น ซึ่งอาจสร้างความไม่พอใจให้จีนและกีดกันซัพพลายอาวุธรัสเซีย

ข้อตกลงดังกล่าวที่อาจมีขึ้นในปีหน้า อาจช่วยพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลวอชิงตัน และรัฐบาลฮานอย ด้วยการขายเครื่องบินรบ F-16 ของสหรัฐ เนื่องจากเวียดนามเผชิญความตึงเครียดกับรัฐบาลปักกิ่ง ในข้อพิพาททะเลจีนใต้

แหล่งข่าวรายหนึ่ง เผยว่า ข้อตกลงนี้ยังอยู่ในขั้นเริ่มต้น และยังมีเงื่อนไขไม่แน่นอน หรือไม่อาจบรรลุสัญญา แต่ถือเป็นประเด็นสำคัญในการพูดคุยอย่างเป็นทางการระหว่างสหรัฐ-เวียดนาม ในกรุงฮานอย, นิวยอร์ก และกรุงวอชิงตันเมื่อเดือนก่อน

แหล่งข่าวอีกรายบอกว่า รัฐบาลวอชิงตันกำลังพิจารณาเงื่อนไขโครงสร้างทางการเงินแบบพิเศษของอาวุธราคาแพง เพื่อช่วยฮานอยหลีกเลี่ยงการพึ่งพาอาวุธต้นทุนต่ำของรัสเซีย

อย่างไรก็ตาม โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของทำเนียบขาวและรัฐมนตรีต่างประเทศของเวียดนาม ยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นใด ๆ

‘บิ๊กโจ๊ก’ ปัดเอี่ยวเครื่อข่ายพนันออนไลน์ หลังตร.ไซเบอร์บุกค้น ส่วนที่ออกหมายจับลูกน้อง กร้าว!! หากทำผิดไม่มีการละเว้น

(25 ก.ย. 66) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. ให้สัมภาษณ์ภายหลังพาเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ตรวจค้นบ้านพักภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งซอยวิภาวดี 60 อ้างเกี่ยวข้องเว็บพนันออนไลน์ว่า ในการออกหมายค้นวันนี้ผมนำตรวจค้นเอง ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายใดๆ ส่วนที่ออกหมายจับลูกน้องผม ใครที่ถูกออกหมายจับก็ต้องไปชี้แจง

เมื่อถามว่าเห็นว่ามีเกี่ยวข้องกับเว็บพนันแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ผมเกี่ยวข้องกับการปราบปรามอย่างเดียว แต่ไม่เป็นไรเมื่อวันนี้มีหมายค้นหมายจับก็ให้ความร่วมมือปฎิบัติตามหมาย

“ส่วนเงินที่เข้าบัญชีต่างๆ ไม่มีหรอกผมมั่นใจ เมื่อมีหมายก็ต้องชี้แจงข้อกล่าวหา เมื่อลูกน้องทำผิดก็ต้องไม่ละเว้น”

'ช่อ' ส่งสารถึงผู้มีอำนาจที่ไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลง ประกาศกร้าว!! "เราแพ้กี่ครั้งก็ได้ ขอชนะเพียงครั้งเดียว"

(25 ก.ย. 66) น.ส.พรรณิการ์ วานิช หรือ 'ช่อ' อดีต สส.พรรคอนาคตใหม่ โพสต์ภาพพร้อมข้อความผ่านเฟซบุ๊ก 'Pannika Chor Wanich' ระบุว่า...

วันนี้ได้มีโอกาสกลับมาทอล์กโชว์การเมืองกับคนคุ้นเคย คิดถึงวันคืนสมัยวอยซ์อยู่ไม่น้อย ขอบคุณแขกรับเชิญทั้งสองท่านสำหรับมุมมองที่แหลมคมต่อการเมืองไทย

งาน 'ก้าวต่อไป ก้าวไกลทั้งแผ่นดิน' สำหรับช่อ วันนี้มีเรื่องอยากจะสื่อสารเพียงเรื่องเดียว

ผู้มีอำนาจในบ้านเมืองนี้ ที่ไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลง ทำทุกอย่างเพื่อขัดขวางสิ่งใหม่ไม่ให้เกิด ขอให้ท่านรับรู้ไว้ว่า สิ่งที่ท่านทำจะสูญเปล่า ความพยายามของท่านไม่มีวันบรรลุผล

เราแพ้กี่ครั้งก็ได้ ขอชนะเพียงครั้งเดียว

เราถูกประหารชีวิตกี่ครั้งก็ได้ แต่จะเกิดใหม่เสมอ

จนกว่าจะถึงวันที่อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top