Sunday, 11 May 2025
TheStatesTimes

‘กองทัพบก’ จ่อโอนย้าย ‘บิ๊กบี้’ เข้าหน่วยงานในพระองค์ พร้อมเลื่อนพิธีส่งมอบหน้าที่เร็วขึ้น จับตา!! โผผู้การกรมฯ

(15 ก.ย. 66) ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองทัพบกได้เลื่อนกำหนดการส่งมอบหน้าที่ ผบ.ทบ. เร็วขึ้น โดยขยับขึ้นมาเป็นวันที่ 20 ก.ย.นี้ จากเดิม ที่กำหนดไว้ในวันที่ 29 ก.ย. พร้อมทั้งปรับพิธีให้สั้นกระชับ เหลือแค่การลงนามเอกสารรับ-ส่งหน้าที่ และพิธีรับมอบการบังคับบัญชา โดยไม่มีการสวนสนามของหน่วยรบจากที่เคยเตรียมการไว้

และวันที่ 15 ก.ย. 66 พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ รองผู้บัญชาการทหารบก (รอง ผบ.ทบ.) เป็นประธานในการประชุมจัดงานแสดงมุทิตาจิต พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) พร้อมผู้เกษียณอายุราชการในปี 2566 ซึ่งคาดว่าจะจัดในวันที่ 20 ก.ย. เช่นกัน

มีรายงานว่า มีกระแสข่าวสะพัดในกองทัพบกว่า มีคำสั่งโอนย้ายให้ พล.อ.ณรงค์พันธ์ ไปปฎิบัติหน้าที่หน่วยงานในพระองค์แล้ว ซึ่งเป็นช่วงรอยต่อในการจัดทำโผรองนายพล-ผู้การกรมฯ พอดี 

ขณะที่พิธีส่งมอบหน้าที่ผู้บัญชาการทหารเรือ ซึ่งจัดขึ้นที่กองทัพเรือ (วังเดิม) และส่งมอบหน้าที่ผู้บัญชาการทหารอากาศ ที่ ลานอเนกประสงค์ อุทยานการบิน ทอ. (รร.นายเรืออากาศนวมินทร์ฯเดิม) ยังคงเป็นกำหนดการเดิม คือวันที่ 29 ก.ย.นี้

'นายกฯ' ยัน!! แก้รธน. 'ไม่ปรับแก้ 112-ไม่แตะหมวดพระมหากษัตริย์' ลั่น!! นักโทษการเมืองให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม

(15 ก.ย.66) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ผ่านเพจ THE STANDARD ตอนหนึ่งถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งมติคณะรัฐมนตรีมีการตั้งคณะทำงานเพื่อทำประชามติหรือไม่เป็นการซื้อเวลาหรือไม่ ว่า ไม่ใช่การซื้อเวลาแน่นอน เป็นการตั้งคณะทำงานเพื่อรับฟังความคิดเห็นทุกภาคส่วน เราทำประชามติแน่นอน ผ่านกลไกรัฐสภา ที่เป็นตัวแทนประชาชนอยู่แล้ว โดยไทม์ไลน์จะเป็นอย่างไรนั้น สสร.ต้องฟังประชามติก่อน ตอนนี้เริ่มแล้ว

“ยืนยันทำตามไทม์ไลน์ไม่ใช่การซื้อเวลา เราต้องการให้คนเห็นต่างร่วมพูดคุยว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้มีปัญหาอย่างไร โดยสิ่งที่ไม่แก้ คือ หมวดพระมหากษัตริย์ชัดเจน ส่วนเรื่องอื่นก็รอฟังประชามติ ส่วนเรื่อง 112 ยืนยันไม่มีการปรับแก้ ขณะที่นักโทษทางการเมืองก็เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม” นายเศรษฐา กล่าว

อัตราความยากจนในสหรัฐฯ ปี 2022 พุ่ง 12.4% สูงในรอบ 50 ปี สะท้อน!! บางนโยบายของรัฐบาล ส่งผลร้ายต่อชีวิตประชาชน

(15 ก.ย. 66) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เมื่อวันอังคาร (12 ก.ย.) สำนักสำมะโนประชากรสหรัฐฯ รายงานว่าอัตราความยากจนของสหรัฐฯ ในปี 2022 อยู่ที่ร้อยละ 12.4 โดยความยากจนในเด็กเพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่าจากปี 2021

ผลการประเมินมาตรวัดความยากจน (SPM) ซึ่งวัดว่าประชาชนมีทรัพยากรเพียงพอต่อความต้องการหรือไม่ในปี 2022 เพิ่มขึ้น 4.6 จุดจากปีก่อนหน้า ขณะอัตราความยากจนในเด็กเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 5.2 ในปี 2021 เป็นร้อยละ 12.4 ในปี 2022 ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่สำนักฯ เริ่มติดตามดัชนีในปี 2009

ศูนย์จัดลำดับความสำคัญด้านงบประมาณและนโยบาย คลังสมองฝ่ายซ้ายของสหรัฐฯ ระบุว่าความยากจนที่เพิ่มขึ้นคิดเป็นชาวอเมริกันใช้ชีวิตอยู่ในความยากจนเพิ่มขึ้น 15.3 ล้านคน 

โดยชารอน แพร์รอตต์ ประธานศูนย์ฯ มองว่าความยากจนที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนั้นน่าตกใจ

แพร์รอตต์ระบุว่าอัตราความยากจนที่เพิ่มขึ้นทั้งในประชากรรวมและในเด็ก ซึ่งถือเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งใหญ่ที่สุดเป็นประวัติการณ์ในรอบกว่า 50 ปี ได้ตอกย้ำบทบาทสำคัญของตัวเลือกนโยบายที่มีผลต่อระดับความยากจนและความลำบากในประเทศ

นอกจากนั้นแพร์รอตต์เสริมว่าการสิ้นสุดโครงการคืนภาษีบุตรภาคต่อขยายของรัฐบาลกลางในปี 2022 เป็นสาเหตุของความยากจนในเด็กเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยแพร์รอตต์เรียกร้องฝ่ายนิติบัญญัติฟื้นคืนการดำเนินโครงการดังกล่าว

อนึ่ง การประเมินมาตรวัดความยากจน ครอบคลุมรายได้และผลกระทบของความช่วยเหลือที่ไม่ใช่เงินสด อาทิ ความช่วยเหลือด้านอาหาร และความช่วยเหลือด้านที่อยู่อาศัย

‘Anny Divya’ หญิงแกร่งแห่งอินเดีย ผู้ก้าวข้ามกำแพงอคติทางเพศ จนสามารถเป็นกัปตันหญิงของ Boeing 777 ที่อายุน้อยที่สุดในโลก

‘Anny Divya’ กัปตันเครื่องบินโดยสาร Boeing 777 หญิงที่อายุน้อยที่สุดในโลก

“ผู้หญิงแบกค้ำฟ้าไว้ครึ่งหนึ่ง” เป็นคำกล่าวของประธาน ‘เหมา เจ๋อตง’ ผู้ก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน เรื่องราวแบบนี้จากบอกเล่าเพื่อให้ผู้ที่รู้สึกว่า ขาดโอกาส ท้อแท้ สิ้นหวังได้มีพลังใจเช่นเดียวกับ ‘Anny Divya’ หญิงสาวผู้ที่สามารถฝ่าฟันอุปสรรคนานาประการ จนประสบความสำเร็จบรรลุเป้าหมายในชีวิตได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเธอเกิดเป็น ‘หญิงชาวอินเดีย’ ด้วยในสังคมฮินดูนั้น ผู้หญิงถูกจัดให้มีสถานะที่ด้อยกว่าชายในแทบทุกด้านมาตั้งแต่ในอดีต ธรรมเนียมสังคมฮินดูมีลักษณะที่เป็นแบบ ‘ชายเป็นใหญ่’ หรือ ‘Patriarchy’ ทำให้สถานะความเป็นหญิงเสียเปรียบชายในแทบทุกด้าน เห็นได้จากปัญหาความไม่เท่าเทียมทางกฎหมายในอินเดีย อาทิ ภรรยาไม่สามารถฟ้องร้องสามีตัวเองได้ ในกรณีที่ฝ่ายชายไปมีความสัมพันธ์นอกสมรส หญิงไม่ได้รับโอกาสได้เข้าสู่ระบบการศึกษาที่ดีอย่างเพียงพอ ฯลฯ

กัปตัน ‘Anny Divya’ เกิดที่เมืองปาทานโกต รัฐปัญจาบ ประเทศอินเดีย เมื่อปี ค.ศ. 1987 ในครอบครัวที่ใช้ภาษาเตลูกู (ภาษาที่พูดโดยชาวเตลูกูในรัฐอานธรประเทศกับรัฐเตลังคานาในอินเดีย) พ่อของเธอเคยเป็นทหารในกองทัพบกอินเดีย ครอบครัวของเธอเคยอาศัยอยู่ใกล้กับฐานทัพในเมืองปาทานโกต รัฐปัญจาบของอินเดีย หลังจากที่พ่อของเธอเกษียณ ครอบครัวของพวกเขาก็ย้ายมาตั้งรกรากที่เมืองวิชัยวาทะ รัฐอานธรประเทศ ซึ่งเธอเข้าเรียนที่โรงเรียนในเมืองนี้ ญาติ ๆ ของเธอนอกเหนือจากครอบครัวใกล้ชิดของเธอ ต่างไม่เห็นด้วยกับความคิดที่เธอจะเป็นนักบิน อย่างไรก็ตาม เธอไม่ยอมให้สิ่งเหล่านี้ทำให้เธอท้อแท้แต่อย่างใด แต่พ่อ-แม่ของเธอสนับสนุนให้เธอทำตามความฝันอยู่เสมอ และไม่เคยขอให้เธอประกอบอาชีพที่พ่อ-แม่เลือก ซึ่งต้องขอบคุณพ่อ-แม่และคุณครูของเธอ สำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำให้เธอเป็นเธอในวันนี้

หลังจากสำเร็จมัธยมศึกษาในวัย 17 ปี เธอได้ลงทะเบียนเรียนที่ Indira Gandhi Rashtriya Uran Akademi (IGRUA) ซึ่งเป็นโรงเรียนการบินในรัฐอุตตรประเทศ และจบการศึกษาเมื่ออายุ 19 ปี แล้วเริ่มอาชีพนักบินกับแอร์อินเดีย เธอเดินทางไปสเปนเพื่อฝึกบินด้วยเครื่องบิน Boeing 737 เมื่ออายุ 21 ปี เธอถูกส่งไปรับการฝึกเพิ่มเติมที่สหราชอาณาจักร ซึ่งเธอเริ่มบินด้วยเครื่องบิน Boeing 777 ซึ่งเป็นเครื่องบินที่มีพิสัยบินไกลที่สุด และเป็นเครื่องบินไอพ่นสองเครื่องยนต์ที่มีลำตัวยาวที่สุดในโลก ปัจจุบันเธอเป็นกัปตันหญิง วัย 36 ปี ของเครื่องบินโบอิ้ง 777 ที่อายุน้อยที่สุดของอินเดียและในโลก (เธอเป็นกัปตันตั้งแต่อายุไม่ถึง 30 ปี) อีกทั้ง เธอยังได้บินไปที่นครนิวยอร์ก นครชิคาโก และนครซานฟรานซิสโก เป็นประจำอีกด้วย

ในช่วงที่เรียนหนังสือ เธอเป็นนักเรียนที่สดใสและมีความทะเยอทะยานเป็นอย่างมาก เธอเรียนที่ Kendriya Vidyalaya ในเมืองวิชัยวาทะ ใน Grade 11 เธอสามารถสอบได้คะแนนเต็ม 100 ในทุกวิชา ยกเว้นภาษาอังกฤษได้ 92 คะแนน และสันสกฤตได้ 98 คะแนน อีกทั้ง เธอยังทำได้ดีเป็นพิเศษในการสอบ Grade 12 และในขณะที่ทำงานกับ Air India เธอเข้าเรียนปริญญาตรีสาขาการบินจนจบ นอกจากนี้ เธอยังสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีทางกฎหมายจาก Rizvi Law College of University of Mumbai และยังเป็นทนายความอีกด้วย

อาชีพนักบินของกัปตัน Anny ได้เปลี่ยนแปลงฐานะทางการเงินของครอบครัวเธอด้วย เธอสามารถส่งน้องชายให้เรียนต่อที่ประเทศออสเตรเลีย และสามารถส่งพี่สาวของเธอเรียนต่อในสหรัฐอเมริกาได้ สามารถซื้อบ้านหลังใหม่ให้พ่อแม่ของเธอในเมืองวิชัยวาทะ และลงทุนเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ในนครไฮเดอราบัดได้อีกด้วย

กัปตัน Anny กล่าวว่า “เมื่อใดก็ตามที่ฉันมองขึ้นไปบนท้องฟ้า ฉันก็สงสัยเกี่ยวกับการที่ได้บินอยู่เหนือเมฆ เมื่อฉันเล่าความฝันที่จะบินให้แม่ฟัง แม่บอกฉันว่า ฉันไม่มีปีกที่ทำให้บินได้ และเพื่อจะบิน ได้ฉันจะต้องได้ปีกจากการเป็นนักบิน” เธอเล่าต่อว่า “ในสมัยนั้น การเป็นนักบินเป็นเรื่องรองจากการฝันถึงสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ทุกคนรอบตัวฉันต่างเลือกอาชีพด้านการแพทย์ วิศวกรรม ข้าราชการ ฯลฯ เป็นอาชีพ” อย่างไรก็ตาม เธอยังคงยึดมั่นในความฝันของเธอ

กัปตัน Anny เล่าว่า “การมาจากเมืองเล็ก ๆ และมาอยู่ท่ามกลางผู้คนที่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ดี และช่วยขัดเกลาการใช้ภาษาอังกฤษให้ดียิ่งมากขึ้น คือหนึ่งในความท้าทายแรก ๆ และขอย้ำอีกครั้งว่า ฉันไม่มีพื้นฐานด้านการบินเหมือนเพื่อน ๆ ของฉัน” แม้ว่า โรงเรียนการบินอาจมีผู้ชายเป็นส่วนใหญ่ แต่กัปตัน Anny รู้สึกว่า เรื่องราวเกี่ยวกับการบินกำลังเปลี่ยนไป เธอบอกว่า อุตสาหกรรมการบินกำลังพัฒนา ทำให้มีผู้หญิงเข้ามาทำงานมากขึ้น กัปตัน Anny เน้นย้ำว่า อคติทางเพศของอินเดียมีมากกว่าในประเทศอื่น ๆ

กัปตัน Anny นึกถึงเหตุการณ์หนึ่งว่า “ฉันบินในเที่ยวบินโดยที่นักบินผู้ช่วยของฉันเป็นชายต่างชาติ เขาให้ความเห็นว่า ผู้หญิงควรอยู่ในครัวและไม่ควรขับเครื่องบิน ฉันบอกว่า เราควรเลือกงานโดยพิจารณาจากสิ่งที่พวกเขาทำได้ดีที่สุด และฉันไม่รังเกียจที่จะอยู่ในครัว แต่ถ้าฉันบินได้ดีกว่า ฉันควรจะได้บิน และถ้าคุณทำอาหารเก่ง คุณก็ควรลองอยู่ในครัวดู และบางทีคุณอาจจะอยู่ที่นั่นได้ดีกว่า” กัปตัน Anny กล่าวว่า เธอเริ่มต้นการเดินทางในอาชีพนักบิน โดยมุ่งเน้นไปที่การเรียนรู้อย่างช้า ๆ ทีละก้าว จนเธอมาถึงจุดที่เธอเป็นอยู่ทุกวันนี้

“ฉันพูดเสมอว่าแม้จะไม่รู้ แต่ก็ไม่เป็นไรที่จะไม่เรียนรู้” เธอยังกล่าวอีกว่า ทุกความท้าทายถือเป็นเหตุการณ์สำคัญสำหรับเธอ กัปตัน Anny มองว่า อคติต่อผู้หญิงเป็นย่างก้าวให้ผู้หญิงได้ไปสู่ความเป็นเลิศในชีวิตและอาชีพ เธอกระตุ้นให้บรรดาหญิงสาวมีศรัทธา และยอมรับทั้งความล้มเหลวและความสำเร็จอย่างซาบซึ้ง ซึ่งจะกลายเป็นความสำเร็จ ให้คำปรึกษาแก่ผู้หญิงในรุ่นของเธอ กัปตัน Anny บอกว่า “ผู้หญิงทุกคน โดยเฉพาะสาว ๆ ฉันอยากให้คุณทุกคนบรรลุสิ่งที่คุณฝันไว้ สิ่งที่สังคมสอนไม่มีถูกหรือผิด แต่จงฟังหัวใจของคุณและหาทำในสิ่งที่ถูกต้อง”

กัปตัน Anny ยังเข้าร่วมกลุ่มผู้นำอินเดียในระดับนานาชาติ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรม LinkedIn Influencer มากกว่า 500 คน รวมถึง Narendra Modi, Bill Gates, Priyanka Chopra, Oprah Winfrey, Sachin Tendulkar และ Kiran Mazumdar Shaw ฯลฯ และปัจจุบันในฐานะ LinkedIn Influencer ที่เธอแบ่งปัน เรื่องราวของเธอกับสมาชิกหลายล้านคนของ LinkedIn ทั่วโลก เกี่ยวกับการที่เธอต้องต่อสู้กับอนุสัญญาทางสังคม อุปสรรคทางภาษา และความกดดันจากครอบครัว เพื่อประสบความสำเร็จในอาชีพที่เคยมีแต่ผู้ชายเท่านั้น

Air India Boeing 777

ศูนย์ปันน้ำใจสาธุฯ รับรางวัล องค์กรเครือข่ายสนับสนุนงานผู้สูงอายุ วันผู้สูงอายุแห่งชาติ ปี 2566

ศูนย์ปันน้ำใจสาธุ​ มูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์​ กองทัพเรือ​ ในพระบรมราชินูปถัมภ์​ ได้รับรางวัล​ "องค์กรเครือข่ายที่สนับสนุนการดำเนินงานด้านผู้สูงอายุ" เนื่องในโอกาส วันผู้สูงอายุแห่งชาติและวันแห่งครอบครัว​ ประจำปี​ 2566

นอกจากนี้แล้ว พล.ร.ต.หญิง​ อำไพวัลย์​ สวยสม​ ประธานศูนย์ปันน้ำใจสาธุฯ​ ยังได้รับการประกาศสดุดีเกียรติคุณ ยกย่องเป็น​ผู้สูงอายุที่เป็นแบบอย่างที่ดี ในสังคม​ ปีพุทธศักราช​ 2566​ อีกด้วย โดย​ พลเอก​ ประยุทธ จันทร์โอชา​ นายกรัฐมนตรี​ เป็นผู้มอบรางวัล​​ ณ​ อาคารรัฐประศาสนภักดี​ ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ กทม.

พลเรือตรีหญิง อำไพวัลย์ สวยสม ประธานศูนย์ปันน้ำใจสาธุฯ ได้กล่าวถึงความเป็นมาของศูนย์ปันน้ำใจสาธุฯ ว่า จากประสบการณ์ 7 ปี ของคณะกรรมการชมรมผู้สูงอายุ โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ ซึ่งเป็นกลุ่มผู้สูงอายุที่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ พบว่ายังมีกลุ่มผู้สูงอายุอีกกลุ่มหนึ่ง ที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ต้องอยู่ติดบ้านหรือติดเตียง ดังนั้น เพื่อเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุกลุ่มนี้ให้ดีขึ้น จึงเกิดแรงบันดาลใจทำให้มีการรวมกลุ่มของจิตอาสา ผลักดันให้เกิดศูนย์ปันน้ำใจสาธุฯ ขึ้น โดยมีเจ้ากรมแพทย์ทหารเรือ และผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ ในขณะนั้นให้การสนับสนุน และเมื่อได้ไปศึกษาดูงานร่วมกับ อบต.พลูตาหลวง ที่เทศบาลตำบลคลองใหญ่ จังหวัดตราด ได้รับทราบถึงระบบการซ่อมอุปกรณ์ไปใช้ในชุมชนของโรงพยาบาลคลองใหญ่ จึงได้นำมาเป็นแนวคิดจัดตั้งศูนย์ปันน้ำใจสาธุ โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือขึ้น เมื่อวันที่ 11 ม.ค.63 เพื่อให้ผู้ที่มีความประสงค์ จะขอยืมอุปกรณ์และสิ่งของดังกล่าว นำมาใข้ได้ที่บ้านได้

โดยผู้ที่มีความประสงค์ จะขอยืมอุปกรณ์และสิ่งของดังกล่าวมาใข้ได้ที่บ้าน สามารถติดตอสอบถามรายละเอียดได้ที่ มูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ โทร.0-3893-3905,08-0599-9658, 08-9024-5614 ในวันและเวลาราชการ

‘นิสิตวิศวฯ จุฬาฯ’ สุดเจ๋ง!! คิดค้นแอปฯ ช่วยจับผิดท่านั่ง ป้องกันออฟฟิศซินโดรม โดนใจกรรมการจนคว้าแชมป์ไปครอง

(15 ก.ย. 66) จากปัญหาการใช้ชีวิตของหนุ่มสาววัยทำงาน โดยเฉพาะมนุษย์เงินเดือน ที่ต้องนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ จนทำให้จำนวนมากเป็นโรค ‘ออฟฟิศซินโดรม’ (Office Syndrome) ที่จะอาการปวดกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะบริเวณ คอ หลัง ไหล่ บ่า แขน หรือข้อมือ ซึ่งอาการปวดดังกล่าวอาจลุกลามจนกลายเป็นอาการปวดเรื้อรัง

‘ออฟฟิศซินโดรม’ (Office Syndrome) โรคยอดฮิตคนทำงานออฟฟิศ เนื่องจากพฤติกรรมของคนทำงานส่วนใหญ่ ที่ต้องนั่งทำงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์อยู่เป็นเวลานาน โดยไม่ได้ขยับตัวเปลี่ยนอิริยาบถ ทำให้กล้ามเนื้อเกิดอาการตึง

นิสิตภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทีม ‘Midnightdev Extended’ จึงคิดค้นนวัตกรรม ตรวจจับการนั่งผิดท่า ป้องกันการเกิดโรคออฟฟิศซินโดรม

ผลงานดังกล่าวทีมผู้คิดค้นใช้ชื่อว่า ‘Offix’ เป็นแอปพลิเคชันคอยตรวจจับการนั่งผิดท่า และทำกายบริหาร เพื่อป้องกันอาการออฟฟิศซินโดรม ซึ่งสามารถตอบโจทย์การใช้งานได้จริง จนโดนใจคณะกรรมการได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับ 1 จากการแข่งขัน ‘Digital Youth Network Thailand’ ภายใต้งาน HACKA THAILAND 2023 จัดโดยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA) เมื่อเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา

สมาชิกในทีมมาจากหลักสูตรวิศวกรรมคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีดิจิทัล (CEDT) คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประกอบด้วย นายธนกฤษ สายพันธ์, นายศุภโชค บุตรดีขันธ์, นายนนทพรรษ วงษ์กัณหา, นายรัชชานนท์ มุขแก้ว, นายเทพบดินทร์ ใจอินสม และนายทัศน์พล สวัสดี

นายธนกฤษ ตัวแทนกลุ่มนิสิต กล่าวว่าการทำงานของนวัตกรรมนี้ เป็นแอพพลิเคชั่นที่ติดตั้งอยู่หน้าเดสก์ท็อปคอมพิวเตอร์ เมื่อเปิดใช้งานตัวแอพพลิเคชั่นจะคอยตรวจจับการนั่งของผู้ใช้ผ่านกล้อง ดูลักษณะการนั่งของผู้ใช้ว่านั่งถูกท่าหรือไม่ เพื่อเก็บข้อมูลและแจ้งเตือนปรับท่านั่ง อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ทำกายบริหาร ซึ่งถ้าหากทำครบสามารถและรับรีวอร์ดและนำไปแลกเป็นส่วนลดหรือสินค้าและบริการต่างๆที่ร่วมกับทางแอพอีกด้วย

การทำงานของ เอไอตรวจจับการนั่งผิดท่า ผู้คิดค้นได้นำข้อมูลเกี่ยวกับองศาการนั่งที่ถูกต้องตามหลักกายภาพ จากข้อมูลทางการแพทย์มาป้อนข้อมูลเข้าระบบ เมื่อผู้ใช้นั่งผิดท่าที่ส่งผลให้ปวดหลัง ก็จะแจ้งตือนทันที ผลงานนี้จึงเป็นการป้องกันก่อนที่จะเกิดโรคออฟฟิศซินโดรม ทำให้ช่วยป้องกันการปวดหลังได้

'วปอ. - สถาบันพระปกเกล้า' มอบเงินฟุตบอลประเพณี 'รักเมืองไทย' เพื่อสนับสนุนในการขับเคลื่อนภารกิจสภากาชาดไทย

วันที่ 15 กันยายน ที่อาคารเทิดพระเกียรติสมเด็จพระญาณสังวร สภากาชาดไทย นายเตช บุนนาค เลขาธิการสภากาชาดไทย รับมอบเงินจำนวน 150,000 บาท จาก พลโท อภิชาติ ไชยะดา ประธานนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 65 , พล.อ.ราชรักษ์ เรียนพืชน์ อดีตกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 , ดร.ดํารง ประทีป ณ ถลาง ผู้แทนหลักสูตรการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยสําหรับนักบริหารระดับสูง (ปปร.) รุ่น 26 เเละนายสมชาย จรรยา ผู้แทนหลักสูตรการเสริมสร้างสังคมสันติสุข (4 ส.) สถาบันพระปกเกล้า จากการจัดกิจกรรมแข่งขันฟุตบอลประเพณี “รักเมืองไทย” ระหว่างศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันของวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรฯ และสถาบันพระปกเกล้า เพื่อใช้ในการดำเนินภารกิจของสภากาชาดไทย ด้านการบริการทางการแพทย์และสุขภาพอนามัย การบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัย การบริการโลหิต และการส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่มุ่งหวังให้ประชาชนผู้ยากไร้ ผู้ด้อยโอกาส มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยมีนายกฤษฎา บุญราช ผู้ช่วยเลขาธิการสภากาชาดไทย เเละ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารกิจการเหล่ากาชาด สภากาชาดไทย ร่วมพิธีรับมอบในครั้งนี้ 

นายเตช บุนนาค เลขาธิการสภากาชาดไทย กล่าวว่า ปัจจุบันงบประมาณด้านการบริการทางการแพทย์และสุขภาพอนามัยยังไม่เพียงพอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ที่มีพัฒการทางด้านเทคโนโลยีซึ่งมีราคาสูง หากจัดซื้อมาได้จะสามารถช่วยให้ผู้ป่วยกลับมาใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างมีความสุข

จึงขอเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคสนับสนุนในโครงการต่างๆ ตามภารกิจของสภากาชาดไทย

ด้าน ดร.ดำรง ประทีป ณ ถลาง กล่าวว่า เงินที่นำมามอบผ่านสภากาชาดไทย เพื่อนำไปช่วยเหลือคนในชาติด้านสาธารณสุข นั้น เป็นการระดมทุนรับบริจาคจากศิษย์เก่าและปัจจุบัน ของสถาบันพระปกเกล้า เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ต่อสาธารณะ ซึ่งกิจกรรมการแข่งขันฟุตบอลประเพณี “รักเมืองไทย” สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี นำมาซึ่งประเพณีที่ดีงาม สร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน สร้างความปรองดองสมานฉันท์ ความรัก ความสามัคคีในทุกภาคส่วน

‘นาซา’ แถลง ไม่พบหลักฐานเชื่อมโยง UFO-มนุษย์ต่างดาว แต่ยังไม่ตัดความเป็นไปได้ พร้อมแจง องค์การจะเร่งศึกษาต่อ

เมื่อวันที่ 14 ก.ย. 66 คณะนักวิทยาศาสตร์และนักวิจัยขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ หรือ ‘นาซา’ (NASA) ของสหรัฐอเมริกา นำโดย ‘บิล เนลสัน’ (Bill Nelson) ผู้อำนวยการนาซา จัดแถลงข้อมูล ผลการศึกษาเรื่องเกี่ยวกับ ‘UAP (unidentified anomalous phenomenon)’ หรือ ปรากฏการณ์ผิดปกติที่ไม่สามารถระบุได้ ซึ่งเดิมทีเรียกว่า ‘UFO (unidentified flying object)’ หรือ วัตถุปริศนาบินได้ที่ยังไม่สามารถอธิบายได้

เป้าหมายในการศึกษาครั้งนี้ เพื่อที่จะสามารถอธิบายปรากฏการณ์ที่ไม่สามารถอธิบายเหล่านี้ได้อย่างเป็นระบบ เนื่องจากเป็นสิ่งที่ผู้คนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก จนอาจทำให้เกิดเป็นทฤษฎีสมคบคิด หรือการตีความที่ไม่ถูกต้อง รวมไปถึงสร้างความวิตกกังวลให้แก่ประชาชน

‘บิล เนลสัน’ (Bill Nelson) ผู้อำนวยการนาซาเผยว่า หน่วยงานอวกาศของสหรัฐฯ ไม่เพียงแต่จะเป็นผู้นำในการค้นคว้า ‘ปรากฏการณ์ผิดปกติที่ไม่สามารถระบุได้ (UAP)’ แต่จะแบ่งปันข้อมูลด้วยความโปร่งใสมากขึ้น

จากการศึกษาของ ‘นาซา’ (NASA) ที่ได้นำรายงานการพบเห็น ‘ยูเอฟโอ’ (UFO) หรือ ‘ยูเอพี’ (UAP) หลายร้อยครั้ง ในอดีตที่เคยบันทึกได้มาศึกษา พบว่า ยังไม่มีหลักฐานชี้ชัดว่า ‘มนุษย์ต่างดาว’ อยู่เบื้องหลังปรากฏการณ์ที่ไม่สามารถอธิบายได้เหล่านี้ รวมถึงยังไม่พบหลักฐานใดที่เชื่อมโยงว่า ‘ยูเอฟโอ’ ที่พบทั้งหมดนั้นมาจากนอกโลก

แต่อย่างไรก็ดี ทางหน่วยงานอวกาศก็ยังไม่สามารถฟันธงและปฏิเสธความเป็นไปได้ดังกล่าว เนื่องจากทางคณะกรรมการเผยว่า ยังมีปรากฏการณ์ผิดปกติที่ไม่สามารถระบุได้ (UAP) อีกเป็นจำนวนมาก ที่ไม่สามารถอธิบายได้ทั้งหมด และยังคงเป็นปริศนาอยู่จนถึงทุกวันนี้

นับเป็นการตอกย้ำความสำคัญที่จะต้องมีการรายงานและศึกษาปรากฏการณ์เหล่านี้อย่างเป็นระบบ อาจจะนำไปสู่การค้นพบปรากฏการณ์สำคัญที่เรายังไม่รู้จักต่อไปในอนาคต

แม้ว่ารายงานดังกล่าวจะไม่ได้สรุปว่า สิ่งมีชีวิตนอกโลกมีอยู่จริง แต่นาซาก็ไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ที่จะมี “เทคโนโลยีของมนุษย์ต่างดาวที่ไม่ทราบศักยภาพซึ่งปฏิบัติการในชั้นบรรยากาศโลก”

‘นิโคลา ฟ็อกซ์’ (Nicola Fox) ผู้ร่วมบริหารของคณะกรรมการภารกิจวิทยาศาสตร์ของนาซา กล่าวว่า “UAP เป็นหนึ่งในปริศนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกของเรา” ซึ่งสาเหตุหลักมาจากการขาดข้อมูลหลักฐานที่มีคุณภาพ

‘ฟ็อกซ์’ ยังเสริมอีกว่า แม้จะมีรายงานการพบเห็น ปรากฏการณ์ผิดปกติที่ไม่สามารถระบุได้ (UAP) หลายครั้งก็ตาม แต่ก็ยังมีข้อมูลไม่เพียงพอที่จะสามารถใช้เพื่อสรุปข้อสรุปทางวิทยาศาสตร์ที่ชัดเจนเกี่ยวกับธรรมชาติและต้นกำเนิดของ UAP ได้

‘ฟ็อกซ์’ ประกาศว่า นาซาได้แต่งตั้งผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย ปรากฏการณ์ผิดปกติที่ไม่สามารถระบุได้ (UAP) คนใหม่เพื่อ ‘สร้างฐานข้อมูลที่แข็งแกร่งสำหรับการประเมินข้อมูลในอนาคต’ โดยจะมีการใช้ AI ในกระบวนการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล

จากกรณีล่าสุด ‘ซากมนุษย์ต่างดาว’ ที่มีอายุกว่าพันปี และมีรหัสพันธุกรรม (DNA) ของสิ่งที่ไม่ใช่มนุษย์ ถูกนำมาเปิดเผยกลางสภาเม็กซิโก ผู้ค้นพบคือ ‘นายไฮเม เมาส์ซัน’ (Jaime Maussan) ผู้สื่อข่าวและผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินปัสสาวะชาวเม็กซิโก ซึ่งศึกษาสนใจเรื่องราวของมนุษย์ต่างดาวและจานบิน (UFO) มาเป็นเวลาหลายสิบปี

การค้นพบดังกล่าว สร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากผู้คนทั่วโลก อย่างไรก็ดี ก็ยังมีประชาชนจำนวนมากตั้งข้อกังขา เพราะก่อนหน้านี้ นายไฮเม เคยมีประเด็นเดือด นำเสนอซากมนุษย์ต่างดาวลักษณะคล้ายกันนี้ ทว่าแท้จริงแล้วเป็นเพียงมัมมี่โบรา

สำหรับกรณี ‘ซากมนุษย์ต่างดาว’ ที่เป็นไวรัลจากเม็กซิโก ทาง ‘ดร.เดวิด สแปร์เกล’ (Dr.David Spergel) นักวิทยาศาสตร์ของนาซา เผยว่าได้ทำการส่งตัวอย่างไปให้ชุมชนวิทยาศาสตร์โลก เพื่อตรวจสอบต่อไป

เรียกได้ว่าทาง ‘นาซา’ แถลงการณ์ออกมาชัดเจนว่า ยังไม่พบหลักฐานใดที่เชื่อมโยงว่า ‘ยูเอฟโอ’ ที่พบทั้งหมดนั้นมาจากนอกโลก หรือมี ‘มนุษย์ต่างดาว’ อยู่เบื้องหลัง

ทว่าทางคณะกรรมการยังชี้ถึง ‘ความเป็นไปได้ว่าสิ่งมีชีวิตนอกโลกนั้นอาจจะมีอยู่จริง’ แม้จะยังไม่สามารถค้นหาได้ในเร็วๆ นี้ แต่ทางหน่วยงานก็จะยังคงเร่งศึกษาในเรื่องนี้ต่อไป โดยการอาศัยเทคโนโลยีที่มี เพื่อก้าวอันยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ

‘พิมพ์ภัทรา’ เผย!! เร่งผลักดันส่งเสริม ‘อุตฯ ยานยนต์ไฟฟ้า’ หลังค่ายรถยนต์ไฟฟ้าเข้าพบ-หารือแนวทางสนับสนุน

(12 ก.ย. 66) นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงอุตสาหกรรมอยู่ระหว่างหารือกับกระทรวงพลังงาน และคณะทำงานในการพิจารณากำหนดแนวทางผลักดันมาตรการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) หรือ EV 3.5 เพื่อให้ได้ข้อสรุปโดยด่วน ก่อนเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเร็วที่สุด ก่อนที่มาตรการอีวี 3.0 จะสิ้นสุดภายในสิ้นปีนี้

“ขณะนี้มีค่ายรถยนต์อีวีบางค่ายสอบถามเรื่องมาตรการส่งเสริมรถอีวี และเข้ามาพบ เพื่อหารือถึงแนวทางสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าบ้างแล้ว ซึ่งจากการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันทุกฝ่าย อาจจะต้องมีการปรับรายละเอียดหลักเกณฑ์เงื่อนไขบ้างบางข้อตามความเหมาะสม” นางสาวพิมพ์ภัทรากล่าว

นอกจากนี้จะพิจารณาแนวทางช่วยเหลือ ดูแลผู้ประกอบการรายย่อย (เอสเอ็มอี) ตามนโยบายที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่ฝากการบ้านถึงกระทรวงอุตสาหกรรม ในการแถลงนโยบายต่อที่ประชุมรัฐสภา แม้นโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลที่ออกมาจะไม่เกี่ยวข้องกับกระทรวงอุตสาหกรรมโดยตรง แต่ได้มอบหมายให้กระทรวงอุตสาหกรรม ดูแลเรื่องการพักหนี้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี รวมถึงส่งเสริมศักยภาพและสนับสนุนเอสเอ็มอีรายใหม่ รวมถึงเตรียมกำหนดแนวทางสนับสนุนยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์สอดรับนโยบายรัฐบาลด้วย

ครม. แต่งตั้ง ‘พงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ’ นั่งที่ปรึกษา ส่วน ‘สรวุฒิ เนื่องจำนงค์’ นั่งเลขาฯ ‘รมว.คมนาคม’

เมื่อไม่นานมานี้ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 13 ก.ย. 66 มีมติเห็นชอบแต่งตั้งบุคคลให้ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง ประกอบด้วย 1.นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ เป็นเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และ 2.นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม โดยมีผลตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป อย่างไรก็ตาม ในส่วนของเลขานุการ และที่ปรึกษา รมช. ของนางมนพร เจริญศรี และนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ นั้น จะเสนอที่ประชุม ครม. พิจารณาแต่งตั้งในการประชุมครั้งถัดไป เนื่องจากเสนอจัดวาระการประชุมในครั้งนี้ไม่ทัน

ขณะเดียวกัน นายสุริยะ กล่าวต่อว่า ที่ประชุมยังได้พิจารณาเรื่องฟรีวีซ่า โดยเปิดให้นักท่องเที่ยวจีน และคาซัคสถาน เข้าประเทศได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า ตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย. 66-29 ก.พ. 67 ซึ่งในส่วนของกระทรวงคมนาคม ในฐานะที่ดูแลรับผิดชอบการบริหารจัดการท่าอากาศยานต่าง ๆ โดยเฉพาะท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) และท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) นั้น ได้สั่งการให้บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมพร้อมรองรับ และอำนวยความสะดวกทุกด้าน ให้นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมายังประเทศไทย โดยให้ประสานกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และร่วมกันทำงาน เพื่อให้เกิดความรวดเร็ว ไม่เกิดปัญหาคิวผู้โดยสารหนาแน่นรอตรวจหนังสือเดินทาง

นายสุริยะ กล่าวอีกว่า ไม่รู้สึกกังวลใด ๆ มั่นใจว่าทุกหน่วยงานจะรับมือ และดูแลอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวได้อย่างดี ซึ่งก่อนหน้านี้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้มอบนโยบายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับทราบล่วงหน้าแล้ว จึงคาดว่าทุกหน่วยงานจะเตรียมความพร้อมได้อย่างดี อย่างไรก็ตามในวันที่ 15-16 ก.ย. นี้ ตนจะเดินทางพร้อมคณะของนายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ และในวันที่ 29 ก.ย. นี้ จะลงพื้นที่ จ.ภูเก็ต โดยก่อนเดินทางจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ไปท่าอากาศยานภูเก็ตนั้น จะแวะตรวจเยี่ยมการให้บริการอย่างไม่เป็นทางการของอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (SAT-1) ด้วย

อย่างไรก็ดี ในการลงพื้นที่ทั้ง 2 จังหวัดนั้น จะตรวจสอบความพร้อมของท่าอากาศยานเชียงใหม่ และท่าอากาศยานภูเก็ต รวมถึงการพัฒนาสนามบินแห่งที่ 2 ของ 2 จังหวัดดังกล่าวด้วย ขณะเดียวกันจะลงไปดูปัญหาการจราจรติดขัดในพื้นที่ จ.ภูเก็ต รวมถึงการพัฒนาถนนต่าง ๆ ซึ่งจะประชุมหารือร่วมกับ กรมทางหลวง (ทล.) ทางหลวงชนบท (ทช.) และการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ในโครงการต่าง ๆ ที่กำลังจะดำเนินการในพื้นที่ จ.ภูเก็ต โดยจะขอให้เร่งรัดดำเนินการ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางให้ประชาชน อาทิ โครงการทางพิเศษ (ด่วน) สายกะทู้-ป่าตอง เป็นต้น ส่วนโครงการรถไฟฟ้าใน จ.ภูเก็ต และรถไฟฟ้าในต่างจังหวัดนั้น ขณะนี้ขอเร่งดำเนินการรถไฟฟ้าในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลก่อน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top