Sunday, 11 May 2025
TheStatesTimes

ส่องเลขเด็ด ‘ท้าวเวสสุวรรณ’ วัดสนามชัย จังหวัดอ่างทอง หลัง ‘สาววัย 28 ปี’ ดวงเฮงถูกเลขธูปเสี่ยงทาย 3 งวดติด

(15 ก.ย. 66) ที่บริเวณวัดสนามชัย ตำบลตลาดหลวง อำเภอเมือง จังหวัดอ่างทอง พบว่าชาวบ้านและนักท่องเที่ยว ต่างเดินทางมากราบไหว้ขอพร ‘ท้าวเวสสุวรรณ’ โดยนำดอกกุหลาบแดง ดอกไม้ ธูปเทียน มากราบไหว้ขอพร จุดธูปเสี่ยงทายขอตัวเลข ล้วงไห และจุดประทัดเสี่ยงทาย

นอกจากนี้ หญิงสาว วัย 28 ปี ยังเล่าให้ฟังว่า ตนเองได้มาขอเลขธูปเสี่ยงทาย ท้าวเวสสุวรรณ นำไปเสี่ยงดวงถูกมาแล้วหลายครั้ง ล่าสุดถูกเลขท้าย 2 ตัวมา 3 งวดติดต่อกัน ได้นำน้ำแดง พร้อมดอกกุหลาบมาทำการแก้บน และไม่พลาด จุดธูปขอตัวเลขไปเสี่ยงทาย พบเป็นเลข 557-320 ไปเสี่ยงดวง

‘ท้าวเวสสุวรรณ’ วัดสนามชัย สร้างเป็นรูปปูนปั้นขนาดใหญ่ มีความสูง 9 ศอก ประดับติดกระจกโดยรอบองค์อย่างสวยงาม และยังมีบริวารยักษ์อีก 4 ตน อยู่รายล้อม ท้าวเวสสุวรรณ ชาวบ้านทั่วสารทิศ ต่างเดินทางมากราบไหว้ขอพร ขอโชคลาภ โดยนำดอกกุหลาบแดง ดอกไม้ ธูปเทียน มากราบไหว้ขอพร และจุดธูป จุดประทัดเสี่ยงโชค

'จับกัง 1' เล็งปรับค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท ในปีหน้า คาด!! สรุปแนวทางที่ทุกฝ่ายรับได้ภายในเดือน 11

(15 ก.ค. 66) นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยภายหลังหารือร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ว่า สรุปเนวทางที่ชัดเจนเกี่ยวกับการปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ (ค่าแรง) ให้ทุกฝ่ายยอมรับได้ภายในเดือนพฤศจิกายน 2566 

ทั้งนี้ จะดูอัตราเงินเฟ้อประกอบด้วย เพื่อประกาศเป็นของขวัญปีใหม่ปี 2567 ให้กลุ่มผู้ใช้แรงงานช่วงใกล้สิ้นปีนี้ 

"กระทรวงแรงงานได้หารือกับส.อ.ท.ในฐานะตัวแทนภาคเอกชนที่เข้าใจในปัญหาแรงงาน เพื่อรับทราบความคิดเห็นเรื่องค่าแรงขั้นต่ำซึ่งทุกภาคส่วนมีความกังวล และหลังจากนี้กระทรวงจะเร่งหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 3 ฝ่าย ทั้งลูกจ้าง นายจ้าง และภาครัฐ"

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธาน ส.อ.ท. กล่าวว่า การปรับค่าแรงขั้นต่ำของรัฐบาลในเดือนพฤศจิกายนนี้ ต้องการให้ยึดมติคณะกรรมการไตรภาคี โดยค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาทต่อวันนั้นต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะปัจจุบันค่าจ้างขั้นต่ำอยู่ที่ 328- 354 บาทต่อวัน การขึ้นราคาเดียว 400 บาทต่อวัน หรือขึ้น 19-20% อาจทำให้หลายอุตสาหกรรมกระทบหนักจากต้นทุนที่กระชากแรง เพราะปัจจุบันจาก 45 กลุ่มอุตสาหกรรมมีประมาณ 20 อุตสาหกรรมจ่ายไม่สูงเพราะใช้แรงงานเข้มข้น 

และยังมีผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม หรือเอสเอ็มอี (SMEs) ทั่วประเทศกว่า 3 ล้านคน ที่เหลือจ่ายเกิน 400 บาทต่อวัน บางอุตสาหกรรมถึง 800 บาทต่อวันแต่ก็หาแรงงานยาก ดังนั้นการปรับค่าจ้างต้องสอดรับศักยภาพแรงงาน และความสามารถของผู้ประกอบการ

"วิธีปรับขึ้นค่าจ้างที่เหมาะสมคือ การขึ้นตามอัตราเงินเฟ้อแต่ละปี หรือจะขึ้นตามต้นทุนเงินเฟ้อบวกเอ็กซ์ และปัจจุบันประสิทธิภาพแรงงานไทยในกลุ่มอาเซียน ยังไม่เทียบเท่าเวียดนามและอินโดนีเซียได้ เนื่องจากยังไม่ฟื้นตัวจากผลกระทบของโควิด-19 ได้เต็มที่นัก ดังนั้นไทยควรรีบเร่งเพิ่มประสิทธิภาพแรงงานไทย ให้แข่งขันกับประเทศต่าง ๆ ได้ เพราะต้องทำงานเป็นปาท่องโก๋ อุตสาหกรรมจะเติบโตได้ ต้องมีกระทรวงแรงงานคอยสนับสนุน”

‘My Mate Nate’ เตรียมขึ้นสังเวียน ‘influencer boxing’ ครั้ง 2 กร้าว!! แม้สายเลือดอเมริกัน 100% แต่ขอสู้เพื่อชาวไทย

ถึงแม้จะมีสายเลือดอเมริกันแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่มองประเทศไทยเป็นเหมือนบ้านหลังที่ 2 เลยก็ว่าได้ สำหรับ ยูทูบเบอร์ดัง ‘My Mate Nate’ หรือ ‘เนท นาธาน บาร์ทลิ่ง’ ล่าสุดได้กำหนดขึ้นชกบนเวที ‘influencer boxing’ ที่ประเทศอังกฤษ รอบที่สองเป็นที่เรียบร้อย พร้อมกับประกาศตัวคู่ชกเป็นดาราดังที่สุดใน บราซิล เขาชื่อ Whindersson ผู้ติดตามใน ยูทูบกว่า 44 ล้าน และในอินสตาแกรมเกือบ 60 ล้านฟอล

สำหรับในการขึ้นชกรอบนี้ เนท My Mate Nate ได้ซุ่มฟิตซ้อมอย่างหนักหน่วง เพื่อเป็นตัวแทนคนไทย ขึ้นชกมวยบนเวที influencer boxing เพราะเป้าหมายของเขา คือ คว้าชัยขนะให้กับชาวไทยเท่านั้น

“สำหรับการขึ้นชกครั้งนี้ผม MyMateNate from Thailand ถึงแม้ผมจะเป็น American 100% แต่ผมภูมิใจจริง ๆ ที่ได้เป็นตัวแทนชื่อประเทศไทยในการแข่งครั้งนี้ ไทยคือประเทศที่เป็นบ้านของผม ผมมีคนรักที่นี้ มีทีมงาน มีบริษัท และผมเริ่มสร้างตัวก็มาจากประเทศไทย ผมมีทุกวันนี้ได้ขอบคุณแฟนคลับ 13 ล้านคน ที่เชียร์ผมและอยู่ข้าง ๆ ผมเสมอมาตลอด รวมถึงแฟนน้องเอวาคนสวยของผม ที่อยู่ข้าง ๆ ผมเสมอ ตอนนี้ประเทศไทยคือบ้านของผม นี่คือปีที่ 11 ที่ผมอยู่ไทย เท่ากับครึ่งหนึ่งของชีวิตของผมแล้วจริง ๆ ผมโชคดีและรักประเทศไทยเป้าหมายครั้งนี้ในวันที่ 14 ตุลาคม ที่ผมขึ้นชก ผมจะสู้เพื่อคว้าชัยขนะให้กับชาวไทยครับ”

‘นายกฯ’ ลุยต่างประเทศ เล็งเจรจา-ชักชวน บริษัทยักษ์ใหญ่ในสหรัฐฯ ลงทุนในไทย

(15 ก.ย. 66) แฟนเพจ ‘พรรคเพื่อไทย’ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า…นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า เรื่องของการลงทุนเป็นเรื่องสำคัญ รัฐบาลให้ความสำคัญที่สุด ซึ่งในการเดินทางไปต่างประเทศก็จะถือโอกาสไปพบนักลงทุนที่จะมาลงทุนในประเทศไทยหลายบริษัทใหญ่ ๆ ทั้งนั้น เพื่อกระตุ้นการลงทุน เพราะเมื่อกระตุ้นการลงทุนก็จะยกระดับอุตสาหกรรมขึ้นไป

ผู้ดำเนินรายการถามว่า บอกได้ไหมว่าจะไปพบใครบ้าง ?

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หลายบริษัท ไม่ว่าจะเป็น Microsoft, Google, Estée Lauder และ Tesla และอีกหลายบริษัท โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อเชื้อเชิญให้มาลงทุนในประเทศไทย บอกเล่าว่าประเทศไทยดีอย่างไร เหนือประเทศคู่แข่งที่เขาจะไปลงทุนอย่างไร เพื่อให้เขามาลงทุนในไทย

เศรษฐา ทวีสิน
นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
THE STANDARD : END GAME
วันที่ 15 กันยายน 2566

ออมสิน ช่วยลูกหนี้ NPL จากสินเชื่อสู้ภัยโควิด ตั้งต้นผ่อนเดือนละร้อย ดึงบัญชีกลับมาเป็นปกติ

(15 ก.ย. 66) นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ตามที่ก่อนหน้านี้ธนาคารออมสินได้ออกมาตรการช่วยเหลือประชาชนช่วงวิกฤติการแพร่ระบาดของโควิด-19 ภายใต้โครงการ ‘สินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับผู้มีอาชีพอิสระที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19’ วงเงินรายละไม่เกิน 10,000 บาท วงเงินสินเชื่อรวม 20,000 ล้านบาท และสินเชื่อสู้ภัยโควิด-19 วงเงินไม่เกินรายละ 10,000 บาท วงเงินสินเชื่อรวม 10,000 ล้านบาท เพื่อเพิ่มสภาพคล่องชั่วคราวให้กับประชาชนที่ขาดรายได้ช่วงวิกฤติที่ผ่านมา ซึ่งในเดือนสิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา ธนาคารได้ขยายระยะเวลาเข้าร่วมโครงการสินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับผู้มีอาชีพอิสระที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ถึงเดือนตุลาคม 2567

อย่างไรก็ดี เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจยังอยู่ในระยะเพิ่งเริ่มฟื้นตัว ประกอบกับค่าครองชีพมีแนวโน้มสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อรายได้และความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ ดังนั้น เพื่อเป็นการช่วยเหลือแก้ไขเครดิตแก่ลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติการแพร่ระบาดของโควิด-19 (ลูกหนี้บัญชี 21) ที่มีสถานะเป็น NPL ให้กลับมามีสถานะหนี้ปกติ 

ธนาคารออมสินจึงออกมาตรการ ‘ไม่คิดดอกเบี้ย ลดดอกเบี้ยค้างชำระทั้งหมด และนำเงินที่ชำระไปตัดเงินต้นทั้งจำนวน’ สำหรับโครงการสินเชื่อสู้ภัยโควิด-19 โดยให้ลูกหนี้เริ่มผ่อนชำระเพียง 100 บาทต่อเดือนสำหรับงวดที่ 1-6 หลังจากนั้นงวดที่ 7-12 ผ่อนชำระ 300 บาทต่อเดือน และขยายระยะเวลาการชำระจนถึงเดือนตุลาคม 2567

สำหรับลูกหนี้สินเชื่อสู้ภัยโควิด-19 ที่ได้รับผลกระทบ สามารถลงทะเบียนสมัครเข้ามาตรการช่วยเหลือดังกล่าวได้ที่ช่องทาง MyMo หรือ www.gsb.or.th สำหรับลูกหนี้ที่ไม่มี MyMo สามารถลงทะเบียนผ่านช่องทางเว็บไซต์ธนาคาร www.gsb.or.th ตั้งแต่บัดนี้ จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2566

‘บก.ลายจุด’ แนะ!! รัฐบาลดันสายฉีดก้น ‘ซอฟต์พาวเวอร์’ วางขายสนามบิน-จัดแข่งขันออกแบบระดับชาติ

(15 ก.ย. 66) นายสมบัติ บุญงามอนงค์ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ‘สมบัติ บุญงามอนงค์’ ระบุว่า…

เดี๋ยวจะหาว่าวันๆ เอาแต่จับผิด โต้แย้งรัฐบาลไม่รู้จักจบสิ้น ทั้งๆ ที่วิจารณ์ไปตามเนื้อผ้า แถมยังเสนอแนะให้ข้อสังเกต แต่ FC เพื่อไทยบางคนนี่อาการหนัก แตะหรือพูดถึงไม่ได้เลย

ล่าสุดเศรษฐาออกมาพูดแล้ว ว่าจะใช้ฐานข้อมูล และน่าจะหมายถึงใช้แอปพลิเคชัน ‘เป๋าตัง’ เป็นแอปฯ สำหรับโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เพราะเขามีประสบการณ์และมีฐานข้อมูล แต่ระบบเบื้องหลังจะใช้ Blockchain นั่นแสดงให้เห็นว่า เสียงวิพากษ์วิจารณ์นั้นเป็นประโยชน์ต่อรัฐในการนำมาปรับปรุงโครงการ ดีกว่าปล่อยให้เข้ารกเข้าพง

ทีนี้จะพูดถึงนโยบายรัฐบาลเพื่อไทยที่น่าสนใจในมุมมองของผม ไม่ใช่แจกเงินหมื่นบาท แต่อยู่ที่ Soft Power เพราะน่าจะเป็นเรื่องที่ทำให้เกิดรูปแบบการผลิตที่ก้าวหน้าขึ้น รวมถึงการบริหารจัดการที่บูรณาการเรื่องต่างๆ เชื่อมโยงกัน

บก.ลายจุด ยังโพสต์ด้วยว่า สิ่งที่ฝรั่งทึ่งเมื่อมาเมืองไทยคือสิ่งนี้ รัฐบาลควรประกาศให้สิ่งนี้เป็นของคู่บ้านคู่เมือง และวางขายชุดสายฉีดตูดไว้ที่ร้านค้าปลอดภาษีตามสนามบิน และควรจัดการแข่งขันการออกแบบสายฉีดตูดในระดับชาติ เรื่องนี้ต้องมีฝรั่งที่เคยมาเมืองไทยพูดถึงแน่นอน กระฉ่อนโลก

'แบงก์ชาติ' แนะ!! เงินดิจิทัล 10,000 บาท แจกเฉพาะกลุ่ม ชี้!! ไม่ใช่ทุกคนที่จำเป็นต้องใช้ แง้ม!! ใช้กับ CBDC ไม่ได้

เมื่อวานนี้ (14 ก.ย. 66) ดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า นโยบายเงินดิจิทัลที่รัฐบาลจะออกมานั้น ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะออกมาในรูปแบบไหน แต่ข้อกังวลของแบงก์ชาติเกี่ยวกับนโยบายนี้ จะเป็นเรื่องของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภาพรวมที่ตัวเลข โดยรวมดูไม่ค่อยสวยนัก โดยไตรมาส 2 ที่ผ่านมา อยู่ที่ 1.8% ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ แต่ถ้าดูที่มาของการเติบโตแสดงให้เห็นว่า สิ่งที่ขาดไปไม่ใช่เรื่องของการบริโภค แต่เป็นเรื่องของการลงทุน 

นอกจากนี้ ดร.เศรษฐพุฒิ เสนอว่า นโยบายดังกล่าวถ้าทำเฉพาะกลุ่มก็อาจจะประหยัดงบประมาณได้มากกว่า เพราะว่าไม่ใช่ทุกคนที่จำเป็นต้องใช้เงิน 10,000 บาท อีกทั้งการทำนโยบายต่าง ๆ รัฐบาลต้องฉายภาพระยะกลางของมาตรการที่จะทำให้มีความชัดเจน ทั้งเรื่องของภาพรวมรายจ่าย ภาพรวมหนี้ การขาดดุลต่าง ๆ ตรงนี้จะช่วยสร้างความเชื่อมั่น แสดงให้เห็นถึงวินัยทางการคลัง ที่จะบริหารให้อยู่ในกรอบได้ 

อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าแบงก์ชาติ ย้ำว่า เงินดิจิทัลขึ้นอยู่กับรูปแบบที่จะออก แต่ถ้าจะทำเป็น digital asset คือ ไม่ได้ หรือถ้าจะใช้วิธีการผสมกับ CBDC โครงการที่แบงก์ชาติกำลังดำเนินอยู่นั้น มองว่าไม่สามารถที่จะเป็นไปได้ เพราะโครงการนี้ โดยเฉพาะ Retail CBDC ที่เป็นการนำร่องเพื่อศึกษาเท่านั้น ไม่ใช่เพื่อการเอาออกมาเป็นการทั่วไป

ด้านสถานการณ์ภาพรวมของเศรษฐกิจไทยตอนนี้ ดร.เศรษฐพุฒิ กล่าวว่า เศรษฐกิจตอนนี้มันก็มีการฟื้นตัวของมัน อาจจะช้ากว่าที่อื่น แต่ก็เห็นภาพการฟื้นตัวที่ชัดเจน สำหรับนโยบายอยากให้กลับมาสู่สภาวะปกติ จากทั้งฝั่งการเงินและการคลังทั่วโลก ในช่วงโควิดหลายประเทศมีการเหยียบคันเร่ง อย่างที่พูดมาโดยตลอดว่า ตอนนี้เราให้ความสำคัญกับเสถียรภาพหลายมิติ และสิ่งที่กังวลเป็นพิเศษในช่วงนี้ คือ เรื่องเสถียรภาพทางด้านการคลัง เราเห็นตัวอย่างประเทศอย่างสหรัฐอเมริกา โดน Downgrade Credit ดังนั้นเรื่องของการคลังจึงเป็นโจทย์สำคัญ ที่ทำให้เราต้องออกนโยบายแบบค่อยเป็นค่อยไป

ขณะที่นโยบายพักหนี้ของรัฐบาลที่จะออกมานั้น ดร.เศรษฐพุฒิ มองว่า การพักหนี้ควรเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ใช้ได้ แต่เป็นเครื่องมือหลักหรือไม่ คำตอบ คือ ไม่ควร และไม่ได้พักในวงกว้าง เพราะผลข้างเคียงจะสูง แต่ต้องดูให้สมควร และนโยบายนี้อาจเหมาะกับคนมีศักยภาพในการชำระหนี้อยู่แล้ว แต่เจอปัญหาชั่วคราวมากกว่า แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับรูปแบบที่ทางรัฐบาลจะทำ 

อย่างไรก็ตาม ท้ายที่สุดแล้วเป็นโจทย์ของรัฐบาลที่จะต้องคำนึงถึงปัจจัยและผลกระทบในการออกนโยบาย เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพการเงินการคลัง หรือผลข้างเคียงด้านอื่น ๆ ที่อาจจะไม่พึงประสงค์

‘วัดไผ่เหลือง’ ฉายหนังกลางแปลง 9 คืนรวด ให้พญายมดู หลังมีคนมาขอแก้บน เหตุประสบความสำเร็จดังพรที่ขอไว้

เมื่อวานนี้ (15 ก.ย.66) ที่วัดไผ่เหลือง ต.บางม่วง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี พระครูสมุห์สิทธิโชค อภินนฺโท เจ้าอาวาสวัดไผ่เหลือง เปิดเผยว่า ในวันที่ 16-24 ก.ย.66 ทางวัด ได้รับการติดต่อจากญาติโยมที่มาไหว้ขอพรพระในวัด และได้ไปขอพรกับท่านท้าวพญายมราช ในเรื่องของการทำธุรกิจ 1 ราย และในเรื่องการขอพรให้หายเจ็บป่วย 1 ราย โดยทั้ง 2 รายนี้ได้มาขอพรไว้เมื่อช่วงเดือนมิ.ย.และก.ค.66 ว่าหากขอพรท่านท้าวพญายมราชแล้วสำเร็จจะนำหนังกลางแปลงมาฉาย ให้ท่านท้าวพญายมราชดู ในครั้งนี้ ทั้ง 2 รายได้ประสบความสำเร็จดังพรที่ได้ขอไว้กับท่านท้าวพญายมราชแล้ว จึงได้ขออนุญาต เพื่อนำหนังกลางแปลงมาฉายดังกล่าว โดยจะเริ่มฉายในวันที่ 16-24 ก.ย. 66 รวม 9 คืน ติดต่อกัน ซึ่งภาพยนตร์ ที่จะนำมาใช้นั้น เป็น ภาพยนตร์ทั้งใหม่และเก่า คืนละ 2 เรื่อง 

“เรื่องดังกล่าว เป็นความเชื่อ ความศรัทธา และความเลื่อมใสเพื่อเป็นกำลังใจ และพลังใจ อย่างไรก็ดี การที่เราจะทำอะไรให้สำเร็จ ก็ขึ้นอยู่กับความสามารถ และความพร้อมของคนๆ นั้น การมาขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ก็เป็นเพียงกำลังใจ ให้เราได้ยึดมั่นถือมั่น ให้คิดดี ทำดี ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ และหากเรามีความศรัทธาอย่างจริงจัง ก็จะได้สิ่งนั้นๆอย่างแท้จริง” พระครูสมุห์สิทธิโชค กล่าว 

สำหรับรูปปั้นองค์ท้าวพญายมของวัดไผ่เหลืองนี้ สร้างขึ้นในวันเสาร์ขึ้น 5 ค่ำ เดือน 5 เมื่อปี 2560 หน้าตักกว้าง 1.2 เมตร สูง 1.80 เมตร เป็นองค์นั่ง บน บัลลังก์ สร้างขึ้นมาเพื่อให้ชาวบ้านที่มีความเลื่อมใสและศรัทธา มากราบไหว้ขอพร ให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ตามตำราที่หลวงพ่อสิงห์ ท่านเจ้าอาวาสวัดองค์ก่อนเคยบอกวิธีให้ช่วยเหลือคนตกทุกข์ได้ยากกับอาตมาไว้ว่า “หากต้องการให้ขอพรบนบานให้โรคภัยไข้เจ็บหาย ให้ไปจุดธูปไหว้หลวงพ่อพระพุทธชินราชแล้วบอกกล่าวผ่านไปถึงท้าวพญายมให้ช่วยเหลือในเรื่องโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ก็จะสัมฤทธิ์ผล" ต่อมาหลังจากสิ้นท่านเจ้าอาวาสองค์ก่อน ท่านจึงได้นึกถึงคำพูดนั้น จึงตัดสินใจสร้างรูปปั้นองค์ท้าวพญายมราช ขึ้นมาในฤกษ์ที่เป็นวันดีวันแข็งที่สุด จากนั้นก็จะมีชาวบ้านทั่วไปเดินทางมาจุดธูปบนบานศาลกล่าว จนกระทั่งประสบความสำเร็จ จึงเดินทางมาแก้บนตามที่ขอไว้

สถาบันพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้ง จัดปาฐกถาและนำเสนอยุทธศาสตร์ ในหัวข้อ “ยุทธศาสตร์เสริมสร้างให้กระบวนการเลือกตั้งได้รับการยอมรับ”

​สถาบันพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้ง โดยนักศึกษาหลักสูตรการพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้งระดับสูง รุ่นที่ 13 (พตส. 13) จัดปาฐกถาและนำเสนอยุทธศาสตร์เชิงปฏิบัติการต่อสาธารณะ ในหัวข้อ “ยุทธศาสตร์เสริมสร้างให้กระบวนการเลือกตั้งได้รับการยอมรับ” ในวันศุกร์ที่ 15 กันยายน 2566 เวลา 12.00 - 17.00 นาฬิกา ณ ห้องประชุมสโมสรราชพฤกษ์ นอร์ธปาร์ค ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร โดยมี ศาสตราจารย์สันทัด ศิริอนันต์ไพบูลย์ กรรมการการเลือกตั้ง เป็นประธานในพิธีเปิด  

​การนำเสนอยุทธศาสตร์ในครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนการปรับปรุงพัฒนาการเลือกตั้งทุกระดับ สู่การบรรลุเป้าหมายตามวิสัยทัศน์ พันธกิจ และภารกิจตามแผนยุทธศาสตร์ระยะ 20 ปี สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (พ.ศ. 2561 – 2580) ซึ่งจะส่งผลให้กระบวนการเลือกตั้งและกระบวนการให้ได้มาซึ่งบุคคลเข้าไปทำหน้าที่ในการปกครองประเทศตามระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ได้รับการยอมรับจากทุกภาคส่วนว่าเป็นการเลือกตั้งที่สุจริตและเที่ยงธรรม โดยผู้เข้าร่วมงานประกอบด้วย คณะกรรมการการเลือกตั้ง, ผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง, คณะกรรมการกำกับหลักสูตรฯ, คณาจารย์ที่ปรึกษา พตส. 13, ผู้เข้ารับการศึกษาอบรมหลักสูตรการพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้งระดับสูง รุ่นที่ 1-12, ผู้แทนพรรคการเมือง, นิสิต - นักศึกษา, สื่อมวลชน และเครือข่ายภาคประชาชนที่สนใจ รวม 350 คน

ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมงานจะได้รับฟังการปาฐกถา เรื่อง “ฉากทัศน์ประเทศไทย...หลังการจัดตั้งรัฐบาล” 
โดย ท่านชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรีคนที่ 20 อดีตประธานรัฐสภาและอดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร, การนำเสนอยุทธศาสตร์ ในหัวข้อ “ยุทธศาสตร์เสริมสร้างให้กระบวนการเลือกตั้งได้รับการยอมรับ” โดย ดร.ณัฏฐญา พัฒนะวาณิชนันท์ ประธานวิชาการ พตส. รุ่นที่ 13 และคณะ, การวิพากษ์ยุทธศาสตร์ โดย ศาสตราจารย์วุฒิสาร ตันไชย อดีตเลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า และศาสตราจารย์สมคิด เลิศไพฑูรย์ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และการเสวนาประเด็นร่วมสมัย ในหัวข้อ “พรรคการเมืองแบบไหนที่คนไทยต้องการ” โดย นายอนุทิน ชาญวีรกุล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย, นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ตลอดจนพิธีกรรายการโทรทัศน์ชาวไทย นายวีระ ธีรภัทร เป็นผู้ดำเนินรายการ

'ตม.ขอนแก่น' รวบชาวต่างด้าวสัญชาติจีน หลังอยู่เกินกำหนด 863 วัน

ตำรวจ ตม. จังหวัดขอนแก่น จับกุมบุคคลต่างด้าวสัญชาติจีน อยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุดตามมาตรา 81 พ.ร.บคนเข้าเมือง พ.ศ.2522 กว่า 863 วัน"

เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ ศปก.ตม. จังหวัดขอนแก่น อาคาร 2 ชั้น 2 ภายในสำนักงานขนส่ง ผู้โดยสารจังหวัดขอนแก่นแห่งที่ 3 ถนนเลี่ยงเมือง ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น พ.ต.ท.สุพจน์ การุณวงษ์ สว.ตม.จว. ขอนแก่น พร้อมด้วยชุดจับกุม ร.ต.อ.สรายุทธ พิลามา รอง สว.ตม.จว.ขอนแก่น  ชุดสืบสวนปราบปราม ตม.จว. ขอนแก่น และ นายณชพัฒน์ ไกรศรีวรรธนะ เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการด้านการข่าว กอ.รมน.จังหวัดขอนแก่นร่วมกันแถลงข่าวการ"จับกุมบุคคลต่างด้าวสัญชาติจีน อยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุดตามมาตรา 81 พ.ร.บคนเข้าเมือง พ.ศ.2522 กว่า 863 วัน"

ตามนโยบายของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี, นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี เรื่อง การควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติ ที่มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในชณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝง ตัวอยู่ก่อเหตุ กับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด

สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง นำโดย พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม. ,พล.ต.ต.สรร พูลศิริ รอง ผบช.สตม , พล.ต.ต.เกติ์ฉกาจ นิลประดับ ผบก.ตม.5,พ.ต.อ.ณัฐวุฒิ แสงเดือน รอง ผบก.ตม.4 ,พ.ต.อ.มณุวัฒน์ กอสนาน รอง ผบก.ตม 4, พ.ต.ท. โสรัจ วิชยสุทธิ์ สวญ.ตม.จว.ขอนแก่น, พ.ต.ท.สุพจน์ การุณวงษ์ สว.ตม.จว. ขอนแก่น ชุดจับกุม ร.ต.อ.สรายุทธ พิลามา รองสว.ตม.จว.ขอนแก่น นำกำลัง ชุดสืบสวนปราบปราม ตม.จว. ขอนแก่น ร่วมกับเจ้าหน้าที่สถานีตำรวจท่องเที่ยวขอนแก่น (ส.ทท.1 บก.ทท.2) ร่วมแถลงข่าวการจับกุม ผู้ต้องหาดังนี้

ก่อนเกิดเหตุ ชุดสืบสวนปราบปราม ตม.จว. ขอนแก่น ได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีบุคคลต่างด้าวเข้ามาพักอาศัยที่หมู่บ้านเคลฟเวอร์ไทม์ ต.บ้านเป็ด อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนปราบปราม ตม.จว.ขอนแก่น พร้อมเจ้าหน้าที่สถานีตำรวจท่องเที่ยวขอนแก่น (ส.ทท.1 บก.ทท.2) จึงได้ลงพื้นที่เพื่อเข้าตรวจสอบพบ

บุคคลต่างด้าวดังกล่าวตามข้อมูลของสายลับ จึงสอบถามต่างด้าวคนดังกล่าว ทราบชื่อว่า MR.XAO YANG(นามสมมติ) สัญชาติจีน อายุ 35 ปี เดินทางทางด่านตรวจคนเข้าเมือง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 2 ก.พ.2564 ได้รับอนุญาติให้อยู่ในราชอาณาจักรถึงวันที่ 2 พ.ค. 2564 (คนอยู่ชั่วคราว 90 วัน) และได้อาศัยอยู่ในหลายพื้นที่ ทั้งกรุงเทพมหานคร ชลบุรี และล่าสุดเข้ามาอาศัยในจังหวัดขอนแก่น โดยมีพฤติกรรมหลบซ่อนไม่เปิดเผยตัว จนถูกจับกุมดังกล่าว

สตม.ขอเรียนให้ทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กาดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในต้านต่างๆ รวมถึงการเฝ้าระวังบุคคลทั้งสัญชาติไทย และสัญชาติอื่นๆ ที่มีหมายจับ และมีการเดินทางเข้า-ออก ประเทศไทย หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สำนักงานใหญ่)อาคารเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระชนมพรรษา 60 พรรษา เลขที่ 904 หมู่ที่ 6 ตำบลบ้านใหม่ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี 11120 โทร. 1178/ 02-572-8500 E-mail : [email protected] หรือที่ www.inmigration.go.th. จักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top