Wednesday, 14 May 2025
TheStatesTimes

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จัดพิธีแจกเครื่องอุปโภคบริโภคครั้งยิ่งใหญ่ในงานประเพณีทิ้งกระจาด ประจำปี 2566 

โดยมี นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์  ผู้ว่าฯ กทม. เป็นประธานในพิธี ณ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย พร้อมเผยงบประมาณ ปีนี้ลงพื้นที่แจกทั้งสิ้น 4 จังหวัด รวมมูลค่า 15 ล้านบาท

วันนี้ (วันอังคารที่ 12 กันยายน 2566 เวลา 08.00 น.) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการมูลนิธิฯ นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ ที่ปรึกษาประธานกรรมการ ดร.สุทัศน์ เตชะวิบูลย์ รองประธานกรรมการ นายสัก กอแสงเรืองรองประธานกรรมการ พร้อมด้วยคณะกรรมการ และผู้ช่วยกรรมการมูลนิธิฯ จัดพิธีแจกเครื่องอุปโภคบริโภค เนื่องในงานประเพณีทิ้งกระจาด ประจำปี 2566  จำนวน 20,000 ชุด ให้แก่ประชาชนผู้ยากไร้ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดที่เดินทางมารอรับกันอย่างเนืองแน่น โดยสิ่งของที่แจกประกอบด้วย   ข้าวสาร  บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป  ปลากระป๋อง  น้ำปลา น้ำมันพืช  ขนม ฯลฯ บรรจุถุงผ้ามูลนิธิฯ พร้อมมอบค่าพาหนะคนละ 100 บาท  โดยมี นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์  ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย แขกผู้มีเกียรติ และ อาสาสมัครกิตติมศักดิ์ อาทิ  นางศิริวรรณ โอภาสวงศ์  และนางศิริพร โอภาสวงศ์ ร่วมในพิธี ณ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย กรุงเทพฯ

โดยบรรยากาศภายในงาน ได้มีผู้มีจิตศรัทธา ร่วมแจกจ่ายอาหาร และเครื่องอุปโภคบริโภคให้กับประชาชนที่มารอรับสิ่งของ รวมถึงเจ้าหน้าที่ และอาสาสมัครมูลนิธิฯ จัดทีมดูแลประชาชนตั้งแต่เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา นอกจากนี้ได้จัดให้มีเจ้าหน้าที่ และอาสาสมัครศิลปิน นำโดย นางดวงตา ตุงคะมณี (ตุ๊ก ดวงตา) นายกวินรัฏฐ์ ยศอมรสุนทร (หยวน-กวินรัฏฐ์) นายสวิช  เพชรวิเศษศิริ (บี๋) นายธรรศภาคย์ ซี (บี้)  นางสุมณทิพย์ ซี (กุ๊บกิ๊บ)  นายธวัชชัย คชาอนันต์ (แฮ็ค ชวนชื่น)  นายปิยะวัฒน์ รัตนหรูวิจิตร (หรูหรา)  นางสาวพรชดา วราพชระ (มะเหมี่ยว) นางสาวอาจารียา พรหมพฤกษ์ (หลิว) นางสาวอธิชา เทศขำ (เมย์)  ฯลฯ  ร่วมแจกจ่ายสิ่งของ แสดงดนตรี และสร้างสีสันภายในงาน โดยบรรยากาศเต็มไปด้วยความสนุกสนาน และอิ่มเอมใจทั้งผู้ให้และผู้รับ

นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เปิดเผยว่า งานประเพณีทิ้งกระจาด เป็นงานบุญที่สำคัญของชาวพุทธ ซึ่งปฏิบัติสืบทอดมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล ด้วยการนำสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภค ข้าวสาร อาหารแห้ง มาเซ่นไหว้ ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่บรรพชน และดวงวิญญาณที่ไร้ญาติ แล้วแจกเป็นทานแก่ผู้ยากไร้ เป็นงานบุญที่ครบทั้งการทำบุญและให้ทาน ซึ่งมูลนิธิ
ป่อเต็กตึ๊งได้จัดทำสืบทอดประเพณีทิ้งกระจาดต่อเนื่องมาตั้งแต่ก่อตั้งมูลนิธิฯ เป็นเวลากว่า 100 ปี  โดยเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 24 สิงหาคม 2566 และ 1 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา มูลนิธิฯ ได้ทำพิธีแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค ณ สุสานมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร  และ คลินิกการประกอบโรคศิลปะสาขาการแพทย์แผนจีนหัวเฉียว สาขาโคราช จังหวัดนครราชสีมา และสาขาศรีราชา จังหวัดชลบุรี  รวมงบประมาณการจัดงานประเพณีทิ้งกระจาด ประจำปี 2566 เป็นจำนวนเงิน 15,000,000 บาท (สิบห้าล้านบาทถ้วน)

ตลอดระยะเวลากว่า 113 ปี มูลนิธิฯ ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ  ศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลาย ๆ ทาง เพื่อเป็นองค์กร สาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้าน ดังปณิธาน “มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”

ติดตามข่าวสารกิจกรรม การช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung

ความภูมิใจของไทย!! 🇹🇭 ‘เงินบาท’ ติดท็อป 10 จาก 20 อันดับสกุลเงินหลัก ที่ถูกใช้ชำระมากที่สุดในโลก!!

ความภูมิใจของไทย!! 🇹🇭 ‘เงินบาท’ ติดท็อป 10 จาก 20 อันดับสกุลเงินหลัก ที่ถูกใช้ชำระมากที่สุดในโลก!! 💰🌏✨

ชื่นชม จนท.กรมแพทย์ทหารเรือ ช่วยเหลือ ปชช.ประสบอุบัติเหตุรถชน

วันที่ 12 กันยายน 2566 เวลา 07.00 น. น.ต.สมควร วรรณสวัสดิ์ หัวหน้าแผนกป้องกันและควบคุมโรคติดต่อ กองเวชกรรมป้องกัน กรมแพทย์ทหารเรือ และ จ.อ.ทำนุรัฐ มูลเมือง เจ้าหน้าที่สอบสวนควบคุมโรคฯ ร่วมกับหน่วยกู้ชีพสว่างประทีปศรีราชาได้เข้าช่วยเหลือปฐมพยาบาลเบื้องต้น ประชาชน (เพศชาย อายุ 40 ปี) ที่ประสบอุบัติเหตุทางจราจร รถยนต์เฉี่ยวชนมอเตอร์ไซด์  ณ บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา และนำส่งผู้ป่วยเข้ารับการรักษาต่อที่ โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา 

สมควรได้รับการยกย่องเชิดชูและเป็นแบบอย่างที่ดี ของกำลังพลกองทัพเรือ และบุคคลโดยทั่วไป เมื่อพบผู้ประสบเหตุไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม สมควรเข้าให้การช่วยเหลือในทันที 
นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี ชลบุรี 0909535645

‘การยาสูบฯ’ วิกฤตหนัก!! กำไรดิ่งเหลือเพียงร้อยล้าน เหตุ ‘บุหรี่นอก-เถื่อน’ แย่งตลาด ลุยประสานตร.เร่งปราบปราม

(12 ก.ย.66) นายภูมิจิตต์ พงษ์พันธุ์งาม ผู้ว่าการการยาสูบแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จากมีการปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตในการจัดเก็บทั้งในปี 2560 และปี 2564 ทำให้มีผลกระทบ โดยเฉพาะการปรับตัวของคู่แข่งขันที่อยู่ในการค้าขายบุหรี่ในประเทศไทย ทำให้บุหรี่ต่างประเทศสามารถแข่งขันได้มากขึ้น ซึ่งทำให้รายได้ของการยาสูบแห่งประเทศไทย ลดน้อยลง โดยในปี 2560 การยาสูบแห่งประเทศไทย มีรายได้ส่งให้รัฐอยู่ที่ประมาณ 8,000-9,000 ล้านบาท แต่ผลกำไรในปี 2565 เหลือเพียง 100 ล้านบาท นอกจากนี้การที่รับซื้อใบยาสูบลดน้อยลงมากทำให้เกิดภาระต่อชาวไร่ และผลกระทบอีกประการหนึ่งก็คือ ในเรื่องของบุหรี่ผิดกฎหมาย เนื่องจากการปรับโครงสร้างภาษีใหม่ทำให้บุหรี่มีราคาสูงขึ้น

นายภูมิจิตต์ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม การยาสูบแห่งประเทศไทย มีหน่วยงานคือ สำนักป้องกันบุหรี่ผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ให้ความรู้กับหน่วยงานราชการต่างๆ เกี่ยวกับเรื่องของบุหรี่ปลอมปน บุหรี่ผิดกฎหมาย แสตมป์ยาสูบที่ปลอม ในเรื่องของการให้ความรู้เรื่องบุหรี่ผิดกฎหมายกับประชาชนจะทำได้ค่อนข้างลำบาก เนื่องจากมีพรบ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ ไม่สามารถที่จะโฆษณาประชาสัมพันธ์หรือให้ความรู้เกี่ยวกับบุหรี่ผิดกฎหมายโดยตรงได้ ดังนั้นการยาสูบแห่งประเทศไทย จึงมุ่งให้ความรู้กับเจ้าหน้าที่ที่จะเข้าไปปราบปราม ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานทหาร ตำรวจ หรือว่าหน่วยงานฝ่ายปกครอง นอกจากนี้ ยังมีการจัดตั้งคณะอนุกรรมการปราบปรามบุหรี่ผิดกฎหมาย ซึ่งได้บูรณาการกับหน่วยงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสรรพสามิต ศุลกากร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ปปง. ในการดูแลเรื่องนี้อย่างเข้มแข็ง

“สำหรับการปรับตัวของการยาสูบแห่งประเทศไทยนั้น ในขณะนี้นอกจากการผลิตบุหรี่ของประเทศไทยแล้ว เรายังมีการส่งออกใบยาสูบไปต่างประเทศ เพื่อให้อุตสาหกรรมนี้ยังคงทำรายได้ให้กับประเทศ และส่งเสริมพี่น้องเกษตรกรที่ทำการเพาะปลูก ในอนาคตเราอาจจะมีเรื่องของการสกัดสารนิโคตินเพื่อการแพทย์จากใบยา หรือผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เพื่อรับกับแนวโน้มการบริโภคบุหรี่ที่ลดลงในอนาคตอีกด้วย” นายภูมิจิตต์ กล่าว

(สุรินทร์) สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดสุรินทร์ จัดแถลงผลการดำเนินงาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566

วันที่ 12 กันยายน 2566 สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดสุรินทร์ แถลงผลการดำเนินงาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566

โดยมี นางสมธิดา  จะเกรง ประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์  ผู้แทนสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัดสุรินทร์ สื่อมวลชน ผู้แทนชมรม STRONG  จิตพอเพียงต้านทุจริตประจำ จังหวัดสุรินทร์ ผู้ร่วมงาน และผู้ร่วมรับฟังการถ่ายทอดสดการแถลงผลการดำเนินงาน ของสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดสุรินทร์ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ทางช่องทาง เฟซบุ๊คแฟนเพจสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดสุรินทร์ มี นายธีรพงศ์ ยอดกุล ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดสุรินทร์ ให้การแถลงผลการดำเนินงานของสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดสุรินทร์ จุดประสงค์เพื่อให้เกิดการรับรู้ถึงบทบาท หน้าที่ ผลงานที่สำคัญของสำนักงาน ป.ป.ช. และนำไปขยายผลการเผยแพร่ไปสู่สาธารณะอย่างต่อเนื่อง และเกิดความเชื่อมั่นในการทำงานป้องกันและปราบปรามการทุจริต

โดยมีผลการดำเนินงานของสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดสุรินทร์ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ในภารกิจหลัก 3 ด้าน ประกอบไปด้วย ภารกิจด้านการป้องกันการทุจริต ภารกิจด้านการตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สิน ภารกิจด้านการปราบปรามการทุจริต ผลการดำเนินงานด้านปราบปรามการทุจริต การตรวจสอบเบื้องต้นจำนวน 146 เรื่อง 1.ดำเนินการแล้วเสร็จจำนวน 80 เรื่อง 1.1 ไม่รับไว้พิจารณาจำนวน 60 เรื่อง 1.2 รับไว้ดำเนินการไต่สวนจำนวน 20 เรื่อง 2.อยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบเบื้องต้นจำนวน 66 เรื่อง การไต่สวนเบื้องต้นจำนวน 66 เรื่อง 1.การดำเนินการแล้วเสร็จจำนวน 8 เรื่องเลขแดง 2.อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. จำนวน 22 เรื่อง 3 อยู่ระหว่างดำเนินการไต่สวนเบื้องต้นจำนวน 36 เรื่อง  ผลการดำเนินงานด้านตรวจสอบทรัพย์สิน ข้อมูลการตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สินข้อมูล ณ วันที่ 8 กันยายน 2566 กรณีตรวจสอบปกติจำนวน 219 บัญชี 1.ดำเนินการแล้วเสร็จจำนวน 201 บัญชี 1.1 คณะกรรมการป.ป.ช. พิจารณาแล้วจำนวน 177 บัญชี 1.2 อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. จำนวน 24 บัญชี 2.อยู่ระหว่างดำเนินการของสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดสุรินทร์จำนวน 18 บัญชี กรณีตรวจสอบยืนยันจำนวน 20 บัญชี 1.ดำเนินการแล้วเสร็จและอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช.จำนวน 12 บัญชี 2.อยู่ระหว่างการดำเนินงานของสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดสุรินทร์จำนวน 8 บัญชี กรณีตรวจสอบเชิงลึกจำนวน 2 บัญชี 1.ดำเนินการแล้วเสร็จอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. จำนวน 1 บัญชี 2.อยู่ระหว่างการดำเนินการของสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดสุรินทร์จำนวน 1 บัญชี ทั้งนี้ สำนักงานป.ป.ชประจำจังหวัดสุรินทร์ดำเนินการป้องกันการทุจริตโดยการป้องกันการทุจริตนำการปราบปรามการทุจริตมุ่งเน้นให้เด็กและเยาวชนไทยมีพฤติกรรมที่ยึดมั่นความซื่อสัตย์สุจริต ประชาชนมีค่านิยมสุดจริต มีทัศนคติและพฤติกรรมในการต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบคดีการทุจริตและประพฤติมิชอบลดลงและหน่วยงานภาครัฐมีผลการประเมินคุณภาพและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (ITA) ผ่านเกณฑ์การประเมินโดยมีการดำเนินโครงการจำนวน 5 โครงการและมีการลงพื้นที่ป้องกันการทุจริตเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง 

ปุรุศักดิ์  แสนกล้า  ข่าว/ภาพ

'สุกี้ตี๋น้อย' เตรียมเปิดร้าน 'ข้าวแกงตี๋น้อยปันสุข' ราคาเริ่มต้น 39 บาท เปิดให้บริการ 13 ก.ย.นี้

(12 ก.ย.66) เพจเฟซบุ๊ก 'สุกี้ตี๋น้อย' ได้โพสต์ข้อความ ระบุว่า...

สุกี้ตี๋น้อย ขอแนะนำ ‘ข้าวแกง ตี๋น้อยปันสุข’ โปรเจกต์เล็กๆ ที่ตั้งใจทำ โดยนำวัตถุดิบตัดแต่งจากสุกี้ตี๋น้อย มาปรุงเป็นกับข้าวอร่อยๆ #เนื้อเน้นๆ และไม่หวังกำไร แค่อยากปันสุขให้กับทุกๆ คนครับ 🙏🏻🤍

❤️เปิดบริการวันที่ 13 ก.ย. 66 นี้
#เปิดวันแรก #ทานฟรี! 😍 ตั้งแต่เวลา 09.00 น. จนกว่าสินค้าจะหมด 

❤️วันที่ 14 ก.ย. 66 เป็นต้นไป เปิดบริการ 07.00 - 18.00 น.   
เมนูให้เลือกกว่า 14 เมนู ราคาประหยัด เริ่มต้นเพียง 39 บาทเลือกได้ทุกเมนู🤩
ไม่ว่าจะเป็น ต้ม ผัด แกง ทอด ก็มีให้เลือก🥘

ราคาประหยัดปันสุข ❤️
ราดข้าว 1 เมนู 39.- 
ราดข้าว 2 เมนู 45.-
ราดข้าว 3 เมนู 50.-

เมนูกับข้าวราคา 39 บาท (ไม่ราดข้าว)

เปิดให้บริการวันจันทร์ - เสาร์ 
เวลา 07.00 น. - 18.00 น. (หยุดทุกวันอาทิตย์)

สถานที่บริเวณด้านข้างสาขาเลียบทางด่วน 1 
แผนที่ : https://goo.gl/maps/CBAvrUYv64ZQkkzbA

🚩อร่อยคุ้มค่าราคาประหยัด แบ่งสุขปันสุขที่ ข้าวแกงตี๋น้อยปันสุข
#ข้าวแกงปันสุข
#สุกี้ตี๋น้อย
#อาหาร

‘สุริยะ’ เร่งผลักดันนโยบาย 'รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย’ ทุกเส้นทาง ภายใน 3 เดือน ขอนำร่อง ‘สายสีม่วง-แดง’ ก่อน ส่วนที่เหลือขอเวลา 2 ปี

(12 ก.ย.66) ที่รัฐสภา นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม ชี้แจงกรณีรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ในการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อที่ประชุมรัฐสภา วันที่ 2 ว่า นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เป็นนโยบายที่จะทำให้เกิดเป็นรูปธรรมได้แน่นอน ส่วนระยะเวลาที่เห็นผลเป็นรูปธรรมนั้น เนื่องจากแต่ละเส้นทางมีระบบแตกต่างกัน ทั้งเรื่องการให้สัมปทานเอกชน บางเส้นทางรัฐดำเนินการเอง หรือบางเส้นทางให้ กทม.ทำ ดังนั้น การให้เก็บ 20 บาทตลอดสาย เท่ากันทุกเส้นทาง ต้องใช้เวลาพอสมควร เพราะต้องใช้เวลาเจรจาและวางระบบเทคนิคการทำตั๋วร่วมเป็นระบบเดียวกัน ต้องวางระบบคอมพิวเตอร์ให้เทคนิคเหมือนกัน ทั้งนี้ เส้นทางที่รัฐจะดำเนินการได้เองคือ สายสีแดงกับสายสีม่วง จะดำเนินการทันที เพราะกระทรวงคมนาคมทำเอง ภายใน 3 เดือน ประชาชนจะได้ใช้รถไฟฟ้า 2 เส้นทางนี้ 20 บาทตลอดสาย

"ภายใน 2 ปี ประชาชนจะได้ใช้รถไฟฟ้าทุกเส้นทาง 20 บาทตลอดสาย การที่ไม่สามารถเห็นผลได้ทันที เพราะต้องใช้ระยะเวลาในการเจรจา และวางระบบตั๋วร่วม นโยบายนี้จะทำเพื่อคนทุกกลุ่ม นอกจากช่วยคนรายได้น้อย ยังช่วยให้คนใช้รถยนต์มาใช้รถไฟฟ้ามากขึ้น ลดปัญหามลพิษ" นายสุริยะ กล่าว

รมว.คมนาคม กล่าวต่อว่า ส่วนการคำนวณราคาค่าโดยสารนั้น ขอยกตัวอย่าง หากอยู่รังสิตจะมากรุงเทพฯ ชั้นใน ที่สยาม ก็สามารถนั่งรถไฟฟ้าสายสีแดงมาลงที่สถานีกรุงเทพอภิวัฒน์ มาต่อสายสีน้ำเงินที่จตุจักร และต่อสายสีเขียวไปที่สยาม จากปัจจุบันค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 108 บาท แต่ถ้านโยบายสำเร็จ จะจ่ายค่าโดยสารแค่ 20 บาทตลอดสาย

‘ธ.กลางจีน’ เข้ม!! เสถียรภาพการแลกเปลี่ยน ‘เงินหยวน’ หวังเบรกบริษัทนักเก็งกำไร ทำค่าเงินหยวนเสื่อมราคา

(12 ก.ย. 66) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เมื่อวันจันทร์ (11 ก.ย.) ที่ผ่านมา ได้มีแถลงการณ์จากธนาคารประชาชนจีน หรือธนาคารกลางของจีน ระบุว่าจีนมีศักยภาพ ความเชื่อมั่น และเงื่อนไขในการรักษาอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนโดยพื้นฐานให้มีเสถียรภาพ

ธนาคารฯ เผยว่าหน่วยงานทางการเงินจะดำเนินการในกรณีที่จำเป็น แก้ไขการดำเนินการด้านเดียวและการดำเนินนโยบายตามวัฏจักรเศรษฐกิจ จัดการกับการหยุดชะงักของคำสั่งซื้อของตลาด และป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนสูงขึ้นมากเกินไป (overshooting)

ทั้งนี้ แถลงการณ์เผยว่าการริเริ่มและการดำเนินนโยบายเพื่อรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นทำให้เศรษฐกิจจีนกำลังสะสมแรงขับเคลื่อน ซึ่งสิ่งนี้เป็นรากฐานมั่นคงสำหรับการรักษาอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนให้คงที่ในระดับที่เหมาะสมและสมดุล

สำหรับแถลงการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นภายหลังธนาคารกลางจีน เริ่มเข้มงวดในการตรวจสอบการซื้อดอลลาร์จำนวนมากโดยบริษัทในประเทศ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สกุลเงินหยวนจีนเผชิญกับแรงกดดันด้านค่าเสื่อมราคาที่เพิ่มขึ้น โดยบริษัทต่างๆ ที่ต้องการซื้อเงินดอลลาร์ 50 ล้านดอลลาร์ขึ้นไป จะต้องได้รับอนุมัติจาก ธนาคารกลางจีน ซึ่งจะมีการประชุมกับธนาคารพาณิชย์บางแห่งในช่วงสุดสัปดาห์เกี่ยวกับเรื่องนี้ต่อไปอีกด้วย
.

หมอเตือน!! หมอนรองกระดูกคอเสื่อมทับเส้นประสาท พบในคนหนุ่มสาวมากขึ้น

นายแพทย์สุนทร ศรีสุวรรณ์ อาจารย์แพทย์กลุ่มงานศัลยศาสตร์ออร์โธปิดิกส์ โรงพยาบาลศูนย์หาดใหญ่ กล่าวว่า  โรคหมอนรองกระดูกคอเสื่อมทับเส้นประสาท เป็นหนึ่งโรคที่ตรวจพบเป็นประจำ โดยผู้ป่วยจะมีอาการ ได้ 3 ลักษณะ ดังนี้
1. มีอาการที่คอ อาจมีอาการปวดต้นคอเรื้อรัง เป็นๆหายๆ และอาจมีอาการปวดร้าว ไปยังบริเวณท้ายทอยและศีรษะ
2. มีอาการที่แขน  ได้แก่ ปวดร้าวลง บริเวณสะบัก หัวไหล่ แขน , ชาลงแขน และอาจมีอาการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อมือหรือแขน
3. ในคนไข้ที่มีอาการรุนแรงมาก อาจตรวจพบ อาการปวดร้าวลง ทั้งแขนและขา มีอาการอ่อนแรงของขา ให้เดินได้ไม่ปกติ  รู้สึกเหมือนจะล้มง่าย เดินได้ระยะทางสั้นๆ ก็เริ่มจะหมดแรง

สาเหตุของ หมอนรองกระดูกคอเสื่อมทับเส้นประสาท
1. เสื่อมตามอายุที่มากขึ้น 
2. เคยรับอุบัติเหตุบริเวณกระดูกคอมาในอดีต
3. มีความผิดปกติ ของโครงสร้างกระดูกคอ มาตั้งแต่กำเนิด
4. มีการใช้พฤติกรรมคอไม่ปกติ อาทิเช่น ทำงานคอมพิวเตอร์ ก้มๆเงยๆคอมากเป็นเวลานาน 

ในอดีต จะตรวจพบเจอโรคนี้ ในกลุ่มคน อายุ 40-50 ปีขึ้นไป โดยสาเหตุหลักๆ เป็นจากความเสื่อมตามอายุ  แต่ในโลกปัจจุบัน พฤติกรรมการใช้ชีวิตของคนเปลี่ยนไป มีการใช้โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ มากขึ้น เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ทำให้มีพฤติกรรมก้มๆเงยๆ คอ มากกว่าปกติ ทำให้ หมอนรองกระดูกคอทำงานหนัก  เร่งให้เกิดความเสื่อมเร็วขึ้น จึงทำให้ในปัจจุบัน พบโรคนี้ในคนหนุ่มสาวมากขึ้น การตรวจวินิจฉัยยืนยันโรค แพทย์จะส่งตรวจเอกซเรย์เพิ่มเติม เพื่อเป็นการยืนยัน โดยมักจะพบ หินปูนเกาะบริเวณกระดูกคอ อาจตรวจพบความสูงหมอนรองกระดูกคอ ทรุดตัวลง เมื่อเทียบกับหมอนรองกระดูกที่ปกติ

แนวทางการรักษา
1.ลดการใช้งาน นอนพัก พิจารณาใส่อุปกรณ์รองคอ [ Soft Collar ] เพื่อหวังผลลดแรงกระแทก ที่กระดูกคอ
2 .ในช่วงที่อาการกำเริบ  แนะนำรับประทานยาแก้ปวด พาราเซตามอล , ยาแก้อักเสบ ที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ , ยาลดอาการอักเสบของเส้นประสาท

เมื่ออาการทุเลาลง แพทย์อาจพิจารณาให้ทาน ยาวิตามินบำรุงเส้นประสาท ต่อเนื่องสักระยะหนึ่ง เพื่อเป็นการฟื้นฟูเส้นประสาท
3. ทำกายภาพบำบัด  ควรพิจารณาเป็นรายๆไป  อาทิเช่น  การดึงคอ [ Cervical Traction ]  , อัลตร้าซาวด์ลดปวด , ใช้คลื่นเสียง Shock Wave ลดปวด ก่อนทำกายภาพบำบัด ควรได้รับการตรวจประเมิน และวางแผนการรักษาจาก แพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู โดยตรงก่อนเสมอ
4 .ฉีดยา ลดการอักเสบบริเวณรากเส้นประสาท ผ่าน อัลตร้าซาวด์นำวิถี หวังผลลดอาการปวดที่รุนแรง เฉียบพลัน

ในบางราย ที่มีอาการรุนแรงมาก  และ ผ่านการรักษาโดยวิธีอนุรักษ์นิยมแล้วไม่ดีขึ้น แพทย์จะพิจารณา ส่งตรวจเอกซเรย์คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า  [ MRI ]เพื่อประเมิน การกดทับเส้นประสาทไขสันหลัง หากรุนแรงมาก อาจจำเป็นต้องรักษาโดยการผ่าตัดต่อไป
นพ.สุนทร  ศรีสุวรรณ์ อาจารย์แพทย์ กลุ่มงานศัลยศาสตร์ออร์โธปิดิกส์ รพ.ศูนย์หาดใหญ่
สามารถหาความรู้เพิ่มเติมได้ที่ www.thedoctorbone.com

บรรยายภาพ dd1
นายแพทย์สุนทร ศรีสุวรรณ์ อาจารย์แพทย์กลุ่มงานศัลยศาสตร์ออร์โธปิดิกส์  โรงพยาบาลศูนย์หาดใหญ่

บรรยายภาพ dd2
แสดง หมอนรองกระดูกคอ ทรุดตัว เหลือ 4.4 mm
[ ความสูงเดิมของหมอนรองกระดูกคอ ในผู้ป่วยรายนี้ประมาณ 6.6 mm ]

บรรยายภาพ dd 3.1 และ dd 3.2
แสดง หมอนกระดูกคอเสื่อมอย่างรุนแรง
และแนวกระดูกคอคดผิดรูป

ตำรวจไซเบอร์เฝ้าระวังตรวจสอบ การกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ในสื่อสังคมออนไลน์ โดยเฉพาะผู้ปกครองที่ชักจูงส่งเสริมเด็กและเยาวชนให้กระทำผิด

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษก บช.สอท. กล่าวว่า ตามที่ปรากฎเป็นข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ กรณีการเผยแพร่คลิปวิดีโอเด็กหรือเยาวชนซึ่งมีอาการมึนเมาคล้ายเสพสารเสพติดภายในงานเลี้ยงสังสรรค์แห่งหนึ่ง โดยมีผู้ใหญ่จำนวนมากอยู่ด้วย เป็นเหตุให้มีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างแพร่หลายว่าเหตุใดผู้ใหญ่จึงปล่อยให้เด็กหรือเยาวชนตกอยู่ในสภาพดังกล่าวนั้น ที่ผ่านมา บช.สอท. โดย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ได้เร่งรัดขับเคลื่อนตามนโยบายของรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. ในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในทุกรูปแบบมาโดยตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ โดยได้สั่งการให้ทุกกองบังคับการในสังกัด เฝ้าระวัง และตรวจสอบการกระทำผิดในลักษณะดังกล่าว หากพบการกระทำผิดให้เร่งดำเนินการปราบปรามจับกุม พิสูจน์ทราบตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างจริงจัง และต่อเนื่อง ให้มีผลการปฏิบัติเป็นรูปธรรม

โฆษก บช.สอท. กล่าวเพิ่มเติมว่า การกระทำในลักษณะดังกล่าวนอกจากจะเข้าข่ายเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ ซึ่งมีอัตราโทษสูงแล้ว ผู้ปกครองยังอาจจะมีความผิดฐาน บังคับขู่เข็ญ ชักจูง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร หรือน่าจะทำให้เด็กมีพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการกระทำผิด ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 ม.26 (3), 78 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อีกส่วนหนึ่งด้วย ทั้งนี้ขอฝากประชาสัมพันธ์ไปยังพ่อแม่ ผู้ปกครอง ให้เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับบุตรหลาน ไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด หรือเป็นผู้กระทำผิดเสียเอง พร้อมกับตรวจสอบดูแลพฤติกรรมของบุตรหลานอย่างใกล้ชิด ควรใช้สื่อสังคมออนไลน์อย่างสร้างสรรค์ และมีประโยชน์ต่อสังคม


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top