Thursday, 15 May 2025
TheStatesTimes

‘บิ๊กป้อม’ แต่งตั้ง ‘ไพบูลย์’ นั่งปธ. ติดตามงานกฎหมาย ดูแลกิจการพรรค - สส. - สมาชิกพรรค ให้เป็นไปตาม รธน.

(7 ก.ย. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้ลงนามคำสั่งพรรคพลังประชารัฐ ที่ 117/2566 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการด้านกฎหมาย เมื่อวันที่ 4 ก.ย.ที่ผ่านมา เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานในด้านกฎหมายของพรรค ให้เป็นไปตามยุทธศาสตร์ นโยบายและแนวทางที่พรรคกำหนดให้สัมฤทธิ์ผลและสอดประสานไปในทิศทางเดียวกัน

อาศัยอำนาจตามข้อบังคับพรรคพลังประชารัฐ พ.ศ. 2561 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติมครั้งที่ 5 พ.ศ. 2566 ข้อ 17 (1) (ซ) แต่งตั้งคณะกรรมการด้านกฎหมายโดยมีองค์ประกอบ หน้าที่และอำนาจ ดังนี้

นายไพบูลย์ นิติตะวัน เป็นประธานกรรมการ 
นายประสาน หวังรัตนปราณี เป็นกรรมการ 
นายสุธรรม จริตงาม เป็นกรรมการ 
นายองอาจ วงษ์ประยูร เป็นกรรมการ 
นายภาส ภาสสัทธา เป็นกรรมการ 
นายทศพล เพ็งส้ม เป็นกรรมการ 
นายณรงค์ โยธนัง เป็นกรรมการ และเลขานุการ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรรมการชุดดังกล่าว มีอำนาจหน้าที่ ติดตามดูแลการดำเนินกิจการของพรรค สส.และสมาชิกพรรค ให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ กฎหมายที่เกี่ยวข้องและข้อบังคับพรรค และยกร่างพระราชบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับกระทรวง ที่พรรคกำกับดูแล หรือ ตามที่ สส. ขอให้ยกร่างพระราชบัญญัติเพื่อแก้ไขปัญหาเดือดร้อนของประชาชนเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎร รวมถึงให้คำปรึกษาและคำแนะนำทางด้านกฎหมายแก่คณะกรรมการบริหารพรรค คณะกรรมการด้านต่าง ๆ สส. และสมาชิกพรรค

นอกจากนั้นตรวจสอบกรณีสมาชิกพรรค ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับพรรคและเสนอผลการตรวจสอบต่อหัวหน้าพรรคหรือคณะกรรมการบริหารพรรค และแต่งตั้งที่ปรึกษา คณะอนุกรรมการ คณะทำงานเพื่อช่วยเหลือสนับสนุนการดำเนินงานตามอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ จัดทำแผนดำเนินงานและรายงานผลการดำเนินงานของคณะกรรมการต่อหัวหน้าพรรคโดยตรงหรือประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ แล้วแต่กรณี รวมถึงดำเนินงานอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการ และปฏิบัติงานอื่นตามที่หัวหน้าพรรคมอบหมาย

‘เก้า จิรายุ’ ถึงกับเปิดคอร์ส ‘ไอ้เรามันก็เท่ซะด้วย’ สอนเคล็ดลับ ต้องมีความมั่นหน้า แต่ทำเป็นเกรงใจ!!

(7 ก.ย. 66) มีความมั่นหน้า… แต่ก็เกรงใจ จนเป็นเหตุให้ ‘ว้าวุ่น’ กันทั้งประเทศ!! ‘เก้า จิรายุ’ ถึงกับเปิดคอร์สสอนเสือร้องไห้ “เรามันก็เท่ซะด้วย” ไม่อยากพูดแต่ก็ต้องพูด!!

ฮิตกันทั้งประเทศไปแล้วกับวลีติดปากที่ใครๆ ก็พูด อย่าง “ไอ้เรามันก็เท่ซะด้วย… ทีนี้ก็ว้าวุ่นเลย” ของดาราหนุ่ม ‘เก้า จิรายุ’ ที่ล่าสุดมาสอนชาวเสือร้องไห้ โดยได้มีการเผยแพร่คลิปผ่านอินสตาแกรม ‘Tigercrys’ พร้อมแคปชัน “เมื่อเก้า จิรายุ มาสอนเสือร้องไห้ให้ว้าวุ่น ช่ายยย ว้าวุ่นกันเลยทีเดียว”

โดย ‘คัตโตะ’ ได้บอกว่า “เก้า สอนพี่หน่อย” จากนั้นเก้า จิรายุก็ทำทีเป็นเขิน พร้อมสอนว่า “ต้องทำท่าทีเป็นม้วนๆ ผมหน่อย แล้วก็อิดออนหน่อย แล้วค่อยพูดว่าไอ้เรามันก็เท่ซะด้วย” ก่อนที่คัตโตะ และเพื่อนๆ จะทำตาม

นอกจากนี้ เก้ายังบอกให้บิลด์อารมณ์ด้วยว่า “คือต้องมีความมั่นหน้า แต่ก็เกรงใจ ไม่อยากพูดแบบนี้เลย แต่ก็ต้องพูด ลองดูพี่” โดยแก๊งเสือร้องไห้บอกเลยว่าทำไม่ได้

โดยมีคอมเมนต์เข้ามาแซวรัวๆ อาทิ
“ว้าวุ่นกันทั้งประเทศ”
“ขรรมจนปวดท้องงงงง 555555 มีความมั่นหน้าแต่ก็เกรงใจ ไม่อยากพูดสิ่งนี้ แต่ก็ต้องพูด ครบมากกกเก้า”
“ถึงกับต้องเปิดคอร์สสอนค่ะ พวกพี่ทำให้ชายไทยทั้งประทศเท่น้อยลงค่ะ”’
“น้องเก้าดูเท่ แต่พวกพี่ๆ ดูว้าวุ่น วุ่นวายอยู่กับผมค่ะ 555” เป็นต้น

‘เศรษฐา’ เผย มีหลายนโยบายสำคัญรอแถลงต่อรัฐสภา ไม่กลัว ‘ก้าวไกล’ จี้ถาม มั่นใจ!! ทุกนโยบายตรวจสอบได้

(7 ก.ย. 66) ที่พรรคเพื่อไทย นายเศรษฐ ทวีสิน นายกฯ และรมว.คลัง เดินทางเข้าปฏิบัติภารกิจที่พรรคเพื่อไทย เนื่องจากยังไม่มีการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา โดยทันทีที่มาถึง นายเศรษฐา ได้เดินเข้าไปทักทายกลุ่มทหารผ่านศึก ที่เข้าแสดงความยินดีกับนายกฯ และรอเข้าแสดงความยินดีกับนายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม 

จากนั้นนายเศษฐา ได้ให้สัมภาษณ์ถึงที่มาของแหล่งเงินที่จะใช้สำหรับนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ว่าที่ผ่านมาได้มีการพูดคุยกับหลายภาคส่วน ขณะนี้อยู่ระหว่างการขับเคลื่อนงบประมาณว่าเงินจะมาจากไหน เมื่อวันที่ 6 ก.ย. ก็ได้พูดคุยกับผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ให้ข้อคิดมาหลายเรื่อง โดยให้คำแนะนำว่าถ้าเราจะออกดิจิทัลวอลเล็ต ในระยะกลางและระยะยาวของประเทศระบบการเงินการคลังของประเทศจะเป็นลักษณะไหน 

อย่างเช่นตัวเลขหนี้สาธารณะจะขึ้นจะลงอย่างไร ท่านเห็นด้วยว่าเป็นเรื่องที่ดีแต่จะต้องมีการพูดคุยให้เกิดความชัดเจน ไม่อยากให้มีการพูดกันไปหลายอย่าง วันนี้ขอทำการบ้านให้ดีก่อน อย่าลืมว่าวันนี้ตนยังไม่สามารถเข้าบริหารงานได้ ต้องรอการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาถึงจะสั่งการได้ วันนี้ขอให้เป็นเรื่องระหว่างการพูดคุยและเก็บข้อมูลก่อน ขอร้องว่าอย่าพูดให้เกิดความสับสน ขอให้ใจเย็นนิดหนึ่ง วันนี้ข้อมูลมาจากหลายภาคส่วน 

เมื่อถามว่าจะเป็นลักษณะการออกพันธบัติเพื่อระดมทุนหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่าขอให้ใจเย็นนิดหนึ่ง ขอเวลานิดหนึ่งไม่อยากจะตอบแล้วสื่อนำไปเขียนกัน จนเกิดความเข้าใจผิด มีหลายส่วนที่สามารถทำได้ 

เมื่อถามย้ำว่าการจ่ายเงินจะเป็นลักษณะบล็อกเชนใช่หรือไม่ นายเศรษฐา ตอบว่าเป็นบล็อกเชนแน่นอน 

เมื่อถามย้ำว่าแม้วิธีการหาเงินยังไม่สรุปแต่ยืนยันว่าโครงการดังกล่าวจะเดินหน้าได้ในไตรมาสแรกปี 67 เหมือนที่เคยระบุไว้ใช้หรือไม่ นายเศรษฐ กล่าวว่า ใช้ครับแน่นอนครับ 

เมื่อถามว่าการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดแรกวันที่ 13 ก.ย. นอกจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และลดราคาพลังงานแล้วมีเรื่องอะไรเร่งด่วนอีกบ้าง นายเศรษฐา ตอบว่า ขอให้อดใจนิดหนึ่งเพราะมีหลายเรื่อง มีเรื่องที่เตรียมไว้ยาวมาก ทั้งนี้เราได้มีการประกาศไว้แล้วว่าการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดแรกจะทำอะไรบ้าง และต้องไปดูว่าวันที่จะเริ่มทำได้จริงเมื่อไหร่ ถ้าพูดไปก่อนเดี๋ยวจะเกิดความสับสน อย่างไรก็ตามวันเดียวกันนี้ก็จะพูดคุยภายในเกี่ยวกับการจัดเตรียมวาระ 

เมื่อถามว่าการประชุมวันที่ 13 ก.ย. จะแบ่งงานให้รองนายกฯ เลยหรือไม่ นายเศษฐา กล่าวว่า น่าจะและกำลังทำอยู่ซึ่งวันนี้ก็จะเป็นเรื่องหนึ่งในการพิจารณากับคณะทำงาน 

เมื่อถามว่านายกฯ ระบุจะนั่งเป็นประธาน คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) นายกฯ จะดูแลงานด้านความมั่นคงด้วยตัวเองเลยหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า เรื่องนี้จะพูดคุยกันในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งต่อไป และยืนยันจะไปกำกับดูแล กตร.ด้วยตัวเอง 

เมื่อถามถึงการประชุมคณะรัฐมนตรีจะมีการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจโดยเฉพาะหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ขอย้ำอีกครั้งว่าการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่จะมีอย่างแน่นอน แต่จะเป็นเมื่อไหร่ขอกำหนดวันเวลาอีกครั้ง ส่วนการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ส่วนตัวคิดว่าการทำงานในสมัยนี้ไม่จำเป็นต้องนั่งล้อมวงกันเสียเวลาเตรียมเอกสารที่มีค่อนข้างเยอะ เราใช้การทำงานแบบจับกลุ่มการพูดคุยและรวมตัวกันทำงานดีกว่า คนจะได้ไม่ต้องมาเตรียมเอกสารกันเยอะไปหมด อีกทั้งปัจจุบันมีวิธีสื่อสารหลายวิธี จึงคิดว่าการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจไม่มีความจำเป็น แต่มั่นใจว่าทุกเรื่องจะเดินหน้าได้เร็วกว่าที่ทำในทุกวันนี้ 

เมื่อถามว่ารัฐบาลชุดนี้จะมีการกำหนดกรอบเวลาทำงานหรือไม่ว่า 100 วันจะมีผลงานอะไรออกมา นายเศรษฐา กล่าวว่า ต้องขอพิจารณาก่อน ยังไม่มีการพูดคุยตรงนั้น แต่ยืนยันว่าจะเห็นผลงานอย่างแน่นอน 

นายเศษฐา กล่าวด้วยว่า วันนี้เป็นเรื่องสำคัญอีกเรื่องคือการเฟ้นหาบุคคลที่จะมารับตำแหน่งโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งเข้าใจว่าได้แล้วและจะมีการพูดคุยอย่างดี จะได้ไม่ต้องมีความสนพูดกลับไปกลับมาไม่เช่นนั้นจะทำให้ประชาชนและสื่อมวลชนสับสนได้ ส่วนจะเป็นใครนั้นขอเวลาอีกนิดเดี๋ยวได้ทราบ 

เมื่อถามว่านอกจากตำแหน่งโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีแล้ว ตำแหน่งข้าราชการการเมืองอื่น ๆ จะแต่งตั้งเลยหรือไม่ในการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดแรก นายเศษฐา กล่าวว่า ก็คงมีบางส่วนด้วย เพราะหลายหน่วยงานมีการเตรียมเรื่องไว้แล้ว และถือเป็นเรื่องเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการ ยอมรับว่ามีหลายเรื่องที่สำคัญและตนจะคุยกับคณะทำงานว่ามีเรื่องอะไรบ้างว่ามีเรื่องอะไรบ้างที่นายกฯ ต้องทำ แล้วมาไล่เรียงความสำคัญ แต่อยากให้ชัดเจนก่อนแล้วค่อยแถลงครั้งเดียวจะได้ไม่เกิดความสับสน 

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีพรรคก้าวไกลตั้งข้อสังเกตถึงนโยบายของพรรคเพื่อไทยมีหลายเรื่องที่หาเสียงไว้แต่ไม่ได้บรรจุไว้ในคำแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภาฯ นายเศรษฐา กล่าวว่า ขอให้รอดูและฟังจากการแถลงนโยบาย วันนี้เข้าใจการทำหน้าที่ของฝ่ายค้านในการตรวจสอบ และเป็นหน้าที่ของฝ่ายบริหารที่จะต้องอธิบายเพื่อให้เกิดความเข้าใจขั้นตอนต่าง ๆ และไม่กังวลหากจะพูดซักและจี้ถามในรัฐสภา ถือเป็นเรื่องธรรมดา เมื่อเราอาสาเข้ามาทำงานก็ต้องพร้อมให้ถูกตรวจสอบ และถือว่าเป็นเรื่องดีที่จะทำให้เราแข็งแกร่งขึ้น 

ในช่วงท้ายนายเศรษฐา เปิดเผยด้วยว่า บ่ายวันเดียวกันนี้จะหารือร่วมกับ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนหรือ บีโอไอ โดยจะหารือในประเด็นการลงทุนระหว่างประเทศว่ามีข้อติดขัดอะไรหรือไม่เพราะเรื่องการลงทุนกับต่างประเทศเป็นเรื่องสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจ และหลังจากนั้นมีกำหนดเข้าพบและหารือกับ เอกอักคราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ก่อนจะกล่าวทิ้งท้ายว่าขอให้สื่อมวลชนมั่นใจว่าเราจะทำงานอย่างเต็มที่ 

พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รับหนังสือร้องทุกข์-ข้อร้องเรียนจากประชาชน ณ ศูนย์บริการร่วมกระทรวงยุติธรรม ด้วยตนเอง

พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม รับหนังสือร้องทุกข์ ข้อร้องเรียนต่าง ๆ จากประชาชนด้วยตนเองที่ศูนย์บริการร่วมกระทรวงยุติธรรม สำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม อาคารกระทรวงยุติธรรม ชั้น 1 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร 

ผู้สื่อรายงานเพิ่มเติมว่า ศูนย์บริการร่วมกระทรวงยุติธรรม เป็นการบริการแบบเบ็ดเสร็จ ให้ประชาชนเข้าถึงบริการงานยุติธรรมด้วยความสะดวก รวดเร็ว ทั่วถึง และเป็นธรรม โดยกระทรวงยุติธรรม มีช่องทางการให้บริการประชาชนในการรับเรื่องราวร้องทุกข์ และรับคำขอใช้บริการด้านงานยุติธรรม ผ่านช่องทางออนไลน์ คู่กันด้วย

ทั้งนี้ ศูนย์บริการร่วมกระทรวงยุติธรรม มีเจ้าหน้าที่ให้บริการ ณ จุดบริการ เพื่ออำนวยความยุติธรรมให้แก่ประชาชนด้วย ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ 02-141-5100 หรือ สายด่วนยุติธรรม 1111 กด 77

แฟนคลับดีใจ!! หลังเปิดให้เยี่ยม ‘พลายศักดิ์สุรินทร์’ ได้ทุกวัน ชวนชมความน่ารักของพ่อพลายได้ที่ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย จ.ลำปาง

(7 ก.ย. 66) แฟนคลับพ่อพลายศักดิ์สุรินทร์ดีใจ หลังทางศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย จังหวัดลำปาง แจ้งข่าวให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าเยี่ยมชมพ่อพลายได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 14.00 น. - 16.00 น.

เฟซบุ๊กเพจ ‘ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย จ.ลำปาง The Thai Elephant Conservation Center’ Lampang โพสต์ข้อความว่า…

“FC ที่ต้องการเยี่ยมชม #พลายศักดิ์สุรินทร์ เราเปิดให้ชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 14.00 น. - 16.00 น. นะจ๊ะ” 🙏❤️🐘

กิจกรรมการท่องเที่ยว ก็ยังเปิดให้บริการเหมือนเดิมจ้า
🐘 ช้างอาบน้ำ
เวลา 10.45 น. และ 13.15 น.
🐘 ห้องเรียนของช้าง (การแสดงความสามารถของนักเรียนช้าง)
เวลา 11.00 น. และ 13.30 น.

นอกจากนี้ ยังสามารถติดตามรับชม Live ตามติดชีวิตพ่อพลายศักดิ์สุรินทร์ได้ทุกวันอังคารและวันพฤหัสบดี เวลา 16.00 - 16.30 น. ทางเพจศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย จ.ลำปาง The Thai Elephant Conservation Center Lampang

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ [email protected] หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline

ผบ.ตร. เป็นประธานเปิดอาคารที่ทำการ ภ.7 แห่งใหม่ พร้อมอำลาราชการ ตรวจเยี่ยม ให้โอวาท มอบหลวงพ่อโสธรรุ่น “ตร.108 ปี” ให้ตำรวจภูธรภาค 7 ชมเชยการคลี่คลายคดีสำคัญห้วงที่ผ่านมา ฝากเร่งรัดจับกุมคดีคนร้ายยิงสารวัตรทางหลวง พร้อมย้ำในหน้าที่ เป็นตำรวจมืออาชีพ

วันนี้ (7 ก.ย. 66) ณ ตำรวจภูธรภาค 7 จว.นครปฐม พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. เดินทางมาตรวจเยี่ยม อำลาหน่วย พร้อมเป็นประธานเปิดอาคารที่ทำการ ภ.7 แห่งใหม่  โดยมี พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 , รอง ผบช. , ผบก.ในสังกัด ภ.7 ข้าราชการตำรวจ และแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วม 

ผบ.ตร.เดินทางมาถึงที่ทำการ ภ.7 แห่งใหม่ จุดธูปบูชาพระรัตนตรัย พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ ผบช.ภ.7 กล่าวรายงานที่มาของอาคารที่ทำการแห่งใหม่ จากนั้น ผบ.ตร.กดปุ่มเปิดผ้าแพร ป้ายอาคารที่ทำการแห่งใหม่ ต่อด้วยพิธีการทางสงฆ์ เป็นอันเสร็จพิธี  ผบ.ตร.พร้อมแขกผู้เกียรติ เข้าเยี่ยมอาคารที่ทำการแห่งใหม่ ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยให้การทำงานของตำรวจ ภ.7 มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

จากนั้น พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ได้เดินทางไปยังห้องประชุม มอบนโยบายให้ตำรวจ ภ.7 ผบ.ตร. ได้กล่าวขอบคุณและชมเชยการปฏิบัติงานของตำรวจ ภ.7 ในห้วงที่ผ่านมา มีการจับกุมคดีสำคัญได้ต่อเนื่อง ได้ร่วมกันดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างดี มีประสิทธิภาพ ขอฝากคดีที่เกิดขึ้นล่าสุด คนร้ายอุกอาจเหิมเกริมยิงสารวัตรตำรวจทางหลวงเสียชีวิต โดยให้ประสานการปฏิบัติกับ บช.ก.เร่งรัดจับกุมคนร้ายให้ได้โดยเร็ว ถือเป็นคดีสะเทือนขวัญ สังคมรับไม่ได้ พร้อมปูพรมเปิดปฏิบัติการระดมกวาดล้างอิทธิพลในพื้นที่ คดีอาวุธปืน ยาเสพติด ความผิดอื่นๆ เพื่อสร้างความเชื่อมั่น เรียกความศรัทธาของประชาชน 

ผบ.ตร.ยังฝากข้อคิดการทำงานให้ตำรวจก่อนเกษียณอายุราชการ ใจความว่า หน้าที่สำคัญของตำรวจคือ การบำบัดทุกข์ บำรุงสุข พิทักษ์สันติราษฎร์ ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในทุกพื้นที่ สิ่งสำคัญที่สุดที่ตำรวจพึงมีคือทัศนคติการทำงานเชิงบวก ที่จะมุ่งมั่นปฏิบัติงานโดยมีประชาชนเป็นที่ตั้ง มีความเสียสละ สามัคคี อุทิศให้ส่วนรวม เมื่อเรามีทัศนคติที่ดีแล้ว จะเป็นแรงผลักในการทำงาน ไม่เหน็ดเหนื่อย ไม่คิดว่างานในหน้าที่คือภาระ ไม่บ่น ไม่ย่อท้อ แต่จะเห็นว่าอาชีพตำรวจเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้ช่วยเหลือประชาชน เปรียบเสมือนการทำบุญ ทำความดีในทุกวัน เพราะตำรวจมีหน้าที่ป้องกันปราบปรามอาชญากรรม อำนวยความยุติธรรม ให้บริการช่วยเหลือประชาชน

ตำรวจต้องมุ่งมั่นที่จะพัฒนาตนเองให้เป็นตำรวจมืออาชีพ ทำงานเชิงรุก โดยศึกษาหาความรู้ใหม่ๆ หมั่นทบทวนยุทธวิธี วางแผนการทำงาน ทบทวน ประเมินการปฏิบัติ  แสวงหาความร่วมมือ สื่อสารทำความเข้าใจ กับพี่น้องประชาชนอยู่เสมอ

มุ่งแก้ไขปัญยาเสพติดทุกมิติ โดยเฉพาะการสร้างชุมชนยั่งยืน ทำชุมชนเข้มแข็ง ให้หัวหน้าสถานีลงพื้นที่ จะเห็นปัญหา นำมาบูรณาการทุกภาคส่วนในพื้นที่เพื่อร่วมแก้ปัญหา มีอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือสำคัญในงานอาชญากรรม เช่น กล้องวงจรปิด ต้องแสวงหาความร่วมมือกับภาคประชาชนในพื้นที่ ส่วนคดีออนไลน์ ฝากเรื่องการแจ้งความออนไลน์ มุ่งปราบปรามจับกุมบัญชีม้าซิมม้า เมื่อจับกุมให้มีการสืบสวนขยายผลติดตามยึดทรัพย์กลุ่มขบวนการที่ทำผิด โดยหลังจากที่มีการออก พรก. มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 มาเป็นเครื่องใช้เครื่องมือในการทำงานของเจ้าหน้าที่ คดีก็มีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง ขอให้ตำรวจคงความเข้มในการดำเนินการ ทั้งมิติการปราบปราม การป้องกัน สร้างครูไซเบอร์ แสวงหาความร่วมมือทุกภาคส่วน เพื่อร่วมกันแก้ปัญหาคดีออนไลน์ให้ลงลงต่อเนื่อง 

หลังมอบนโยบาย ผบ.ตร.ได้มอบพระพุทธรูปหลวงพ่อโสธร รุ่น “ตร.108 ปี” ที่ ตร.จัดสร้างขึ้น ให้ ภ.7 ด้วย พร้อมมอบเหรียญอาร์ม พระพุทธโสธร ให้ข้าราชการตำรวจ ภ.7ทุกนาย เพื่อความเป็นสิริมงคล หลังจากที่มอบให้ตำรวจ ภ.6 เมื่อวาน และจะได้ส่งมอบให้ตำรวจทั่วประเทศต่อไปอีกส่วนหนึ่งด้วย 

'สกายวอล์กพระธาตุดอยเวา' ใกล้แล้วเสร็จ พร้อมเปิดให้สัมผัสลมหนาว 18 พ.ย.นี้

(7 ก.ย. 66) หลังจาก วัดพระธาตุดอยเวา ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ติดชายแดนไทย-เมียนมา ซึ่งกำลังมีการก่อสร้างโครงการทางเดินกระจกเพื่อชมทิวทัศน์ชายแดนหรือ ‘สกายวอล์ก’ โดยโครงการตั้งอยู่บนยอดเขาดอยเวาหันไปทางทิศเหนือ ทางชายแดนไทย-เมียนมา ทำให้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ได้ทั้งฝั่ง อ.แม่สาย และ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ได้สุดลูกหูลูกตา

ล่าสุด วัดพระธาตุดอยเวาได้ประกาศว่า ‘สกายวอล์กพระธาตุดอยเวา เหนือสุดในสยาม’ ได้มีการยกโครงโลหะที่มีลักษณะเป็นสะพานที่แยกเป็นส่วนๆ ยกขึ้นไปประกอบติดกันบนเสาแล้วเสร็จตลอดแนวแล้ว โดยสะพานมีลักษณะเป็นทรงโค้งขนานไปกับถนนทางลงดอยเวา และรอให้มีการนำกระจกไปติดตั้งต่อไป ในวันที่ 12 ก.ย.2566 ซึ่งการติดตั้งกระจกจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือน หลังจากนั้นจะมีการทดสอบการใช้งานและประดับตกแต่งสถานที่เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นชมต่อไป

สำหรับโครงการนี้จะมีการประกอบพิธีเปิดสกายวอล์กในเวลา 18.00 น. ของวันที่ 9 พ.ย.2566 ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถมาร่วมสัมผัสทรงโค้งของสกายวอล์กแห่งนี้ที่มีความยาวประมาณ 150 เมตร ซึ่งถือว่านอกจากจะอยู่เหนือสุดในสยาม แถมยังมีความยาวมากที่สุดในประเทศไทยได้ในอีกไม่นาน

ทั้งนี้ ทางด้านพระครูประยุตเจติยานุการ เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยเวา ได้ขอความร่วมมือไปยังบรรดาพ่อค้าแม่ค้าภายในตลาดดอยเวา ซึ่งเป็นตลาดชายแดนที่ตั้งอยู่ติดถนนทางขึ้นไปยังพระธาตุ ให้ย้ายส่วนเกินของร้านออกไปจากผิวถนนเพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางขึ้นลงได้โดยสะดวก ซึ่งได้รับความร่วมมือจากบรรดาผู้ค้าทั้งหมดเป็นอย่างดี และในวันที่ 5-15 ก.ย.2566 ตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น.จะมีการปิดถนนทางขึ้นวัดและงดให้บริการไฟฟ้าเพื่อรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างและพัฒนาเส้นทางเพื่อให้สามารถเดินทางขึ้นลงได้อย่างสะดวกทำให้ร้านค้าที่ติดถนนต้องปิด แต่ตลาดที่ไม่ติดถนนยังเปิดตามปกติ

รายงานข่าวแจ้งว่าปัจจุบันมีโครงการสกายวอล์กในพื้นที่ จ.เชียงราย แล้ว 2 แห่ง คือ ที่วัดพระธาตุผาเงา อ.เชียงแสน ติดแม่น้ำโขงชายแดนไทย-สปป.ลาว ซึ่งมีทิวทัศน์ของแม่น้ำโขงและชายแดนโดยเฉพาะฝั่ง สปป.ลาว ที่งดงาม และที่วัดแสงแก้วโพธิญาณ อ.แม่สรวย และหากโครงการที่วัดพระธาตุดอยเวาแล้วเสร็จ ก็จะเป็นสกายวอล์กแห่งที่ 3 ของ จ.เชียงราย

States TOON EP.141

หวนคืน!!

***สงวนลิขสิทธิ์ภาพดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ห้ามมิให้ผู้ใดละเมิด ไม่ว่าการลอกเลียนแบบ ดัดแปลง หรือนำส่วนใดส่วนหนึ่งไปใช้ แต่อนุญาตให้นำไปเผยแพร่ต่อได้ ตามต้นฉบับนี้ โดยไม่ต้องขออนุญาต

ติดตามการ์ตูนสนุกๆ เพิ่มเติมได้ที่ : https://thestatestimes.com/tag/statestoon

 

‘แจ็ค แฟนฉัน’ ถาม!! เล่นการเมืองต้องมีพรรคพวกห้ามเห็นต่าง ถึงจะอยู่รอดเหรอ?

ต้องมีพรรค มีพวก และห้ามเห็นต่างเหรอ?

‘แจ็ค แฟนฉัน’ ยิงคำถามเด็ดใส่ ‘พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในรายการแฉ ทางช่อง GMM 25 เมื่อวันที่ 4 ก.ย. 66 โดยถามว่า 

“คนไทยที่ออกไปเลือกตั้ง เขาเลือกพรรคคุณ เลือกคุณเป็นนายก และคุณได้เป็นนายกฯ แน่ๆ แต่สุดท้ายแล้วไม่ได้เป็น แล้วประเทศไทย หรือว่าคนไทยต้องทำยังไง? หรือการเมืองมันต้องอยู่ในเห็นเหรอ ต้องมีพรรคพวกโดยเห็นต่างไม่ได้เหรอ? บทเรียนตรงนี้พี่ได้อะไรบ้าง”

โดยเมื่อได้ฟังคำถามแล้ว นายพิธา เอ่ยปากชมว่าเป็นคำถามที่ดีมากๆ ก่อนจะตอบว่า 

“เป็นคำถามที่โดนใจหลาย ๆ คน คนในระยองเขต 3 ก็ถามแบบนี้ คนถามเลยว่า เสียเวลาออกไปเลือกตั้งทำไม? ทั้ง ๆ ที่เลือกไปแล้วไม่ได้อย่างที่เลือก สื่อต่างชาติหลาย ๆ เจ้าก็อาจจะเข้าใจหรือไม่เข้าใจเรา เขาอาจจะคิดว่ามันคืออำนาจนิยมที่อนุญาตให้มีการเลือกตั้ง และถ้าคิดแบบนั้น ก็ยิ่งต้องเลือก เลือกจนกว่าจะได้ จนกว่าจะเป็นฉันทามติของประชาชน ไม่จำเป็นต้องเป็นผม อาจจะเป็นคนอื่น แต่ถ้าเป็นการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ ตรงเจตนาของประชาชน อีก 4 ปีข้างหน้าก็จะมีหวัง แต่ห้ามทิ้งฐานที่มั่นคือการเลือกตั้ง ก่อนเลือกอำนาจเป็นของเรา แต่หลังเลือกตั้งอำนาจเป็นของคนอื่น อย่างน้อยเราควรทำให้มันอยู่ในระบบของบ้านเมืองเรา”

รองประธานสภาฯ แจง 'หมิว สิริลภัส' ห่ออาหารกลับบ้าน 'ไม่ผิด' ชี้!! หากเหลือเยอะนำฝากผู้อื่นได้ ลดขั้นตอนขนไปบริจาคตามที่ต่างๆ

(7 ก.ย.66) จากประเด็นดราม่า เมื่อมี สส.ท่านหนึ่ง แอบถ่ายภาพ 'หมิว สิริลภัส' น.ส.สิริลภัส กองตระการ สส.กทม. พรรคก้าวไกล ขณะกำลังตักอาหาร ห้องอาหารรัฐสภา กลับบ้าน และแขวนประจานว่า “พบเห็นอดีตดาราสาว ลักลอบนำอาหารสภากลับบ้าน” ทำให้เจ้าตัว ต้องออกมาชี้แจง ยืนยันเป็นการใช้สิทธิ์ที่มี ขณะที่ล่าสุด รองประธานสภาฯ 'พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน' ยืนยัน ห่ออาหารกลับบ้านได้ไม่ผิด

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ทางด้านนายประเสริฐพงศ์ ศรนุวัฒน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้หารือต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยขอให้ประธานสภาผู้แทนราษฎร ชี้แจงถึงกติกาการใช้ห้องอาหาร สส.กรณี สส. พรรคก้าวไกล 'หมิว สิริลภัส' ถูก สส.ชาย จากพรรคการเมืองหนึ่ง แอบถ่ายภาพ ไปเผยแพร่บนโลกออนไลน์ ซึ่งถือว่าผิดกฎหมาย จึงขอให้ประธาน กำชับต่อที่ประชุมด้วย

โดย นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานการประชุม ได้ชี้แจงว่า สส.สามารถนำอาหารกลับบ้านหลังเลิกประชุมได้ และปัจจุบันยังมีห้องทำงานส่วนตัว ซึ่งอาจมีผู้ช่วย สส., ผู้ติดตาม สส. ก็สามารถให้ผู้ช่วย หรือผู้ติดตาม นำอาหารไปให้ สส.ที่ห้องได้ หรือ สส.จะนำอาหารไปให้ทีมงานรับประทานได้เช่นกัน

ทั้งนี้ หากปิดประชุมแล้ว อาหารยังเหลือเยอะ ซึ่งปกติเจ้าหน้าที่ ก็จะนำไปบริจาคตามหน่วยงานต่างๆ ซึ่งบริจาคเท่าไรก็เหลือ จนเน่า รับประทานไม่ทัน ไม่มีที่เก็บ จึงคิดว่า ไม่มีกฎหมายห้ามไม่ให้นำอาหารกลับบ้าน และจากนี้ไป หากตอนเย็นอาหารเหลือ เจ้าหน้าที่จะนำใส่ถุงให้ สส. และข้าราชการรัฐสภา นำกลับไปรับประทานที่บ้านได้ เพื่อไม่ให้เหลือทิ้ง เพราะหากจะนำไปบริจาค ก็เหนื่อยที่จะใช้คน หรือรถ ขนไปที่ต่างๆ ดังนั้น หากเหลือก็สามารถใส่ถุงให้ สส. หรือเจ้าหน้าที่ นำกลับบ้านได้ และหาก สส.มีญาติ มีเพื่อน มีทีมงานอยู่ในห้องทำงาน ก็สามารถนำไปเผื่อได้

นอกจากนี้ กรณีปัญหาที่จอดรถ สส. ที่มีการร้องเรียนว่า มีการจอดรถซ้อนคัน ไม่จอดรถเข้าที่จอด รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานการประชุม ชี้แจงว่า ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (8 ก.ย.66) เป็นต้นไป สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จะจัดระเบียบลานจอดรถ ให้ สส.จอดรถตามช่องจอดรถของตนเอง ซึ่งจะมี 535 ช่อง และหากมีผู้อื่นมาจอดในช่องของ สส.คนอื่น ก็จะถูกล็อกล้อ และห้าม สส.จอดซ้อนคัน 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top