Friday, 5 July 2024
Southern

สงขลา - นิพนธ์ เติมเครื่องอุปโภค-บริโภค ตู้ปันสุข ร่วมกิจกรรม “คนมหาดไทย แบ่งปันน้ำใจ สู้ภัยโควิด-19” ขอความร่วมมือปฏิบัติตามมาตรการ D-M-H-T-T-A อย่างจริงจัง

วันที่ 18 พฤษภาคม 2564 ณ บริเวณหน้ากระทรวงมหาดไทย (ถนนบำรุงเมือง) นายนิพนธ์  บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายธนาคม จงจิระ อธิบดีกรมการปกครอง ข้าราชการในสังกัดกรมการปกครอง ร่วมเติมของอุปโภค-บริโภคในกิจกรรม “มหาดไทยปันสุข ส่งต่อความห่วงใยสู้ภัยโควิด-19” ให้กับประชาชนที่พักอาศัยชุมชนโดยรอบกระทรวงมหาดไทย เน้นกลุ่มเป้าหมายผู้ยากไร้ ผู้ด้อยโอกาส คนไร้ที่พึ่ง และผู้ที่กำลังได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19  โดยนำเครื่องอุปโภคบริโภคที่มีความจำเป็น ทั้ง ข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่ม บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป นมกล่อง หน้ากากอนามัยแจลแอลกอฮอล์  และของใช้จำเป็นต่าง ๆ ใส่ในตู้ปันสุข

ทั้งนี้ นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มท. ได้เน้นย้ำถึงความร่วมมือของทุกภาคส่วนให้มีการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 D-M-H-T-T-A คือ D : Distancing เว้นระยะห่าง M : Mask wearing สวมหน้ากาก H : Hand washing ล้างมือสม่ำเสมอ T : Temperature ตรวจวัดอุณหภูมิ T : Testing ตรวจหาเชื้อโควิด-19 และ A : Application Thaichana ใช้แอปพลิเคชันไทยชนะ/หมอชนะ เพื่อเป็นการป้องกันคนในครอบครัวและป้องกันการแพร่เชื้อไปยังผู้คนในชุมชน สังคม โดยขอให้ร่วมมือกันอย่างจริงจัง พร้อมทั้งเชิญชวนให้ประชาชนได้ลงทะเบียนและไปฉีดวัคซีนฯให้มากขึ้น

ทั้งนี้ กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ได้จัดกำลังสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน(อส.)ให้ปฏิบัติหน้าที่เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนและกำกับดูแลแถวให้มีการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ตามมาตรการกระทรวงสาธารณสุขกำหนดอย่างเคร่งครัด สำหรับประชาชนที่มารับสิ่งของได้ใช้วิธีแจกคูปองให้กับคนในชุมชนเพื่อมีคัดกรองคนที่จะมารับในเบื้องต้น ขณะที่ในช่วงของการรอรับสิ่งของบริจาค กระทรวงมหาดไทย มีการเว้นระยะห่างวัดอุณหภูมิเพื่อไม่ให้เกิดความแออัด และจะดำเนินการโครงการนี้ไปเรื่อย ๆ จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย ต่อไป


ภาพ/ข่าว  นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ หาดใหญ่ จ.สงขลา

นราธิวาส - บริจาคโลหิต จิตอาสาเพื่อชาติ “Plus1 เพิ่มจำนวนครั้ง เพิ่มจำนวนโลหิต ( ปี2 )”

พันเอก เอกพล เลขนอก ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 48 นำกำลังพลจิตอาสาฯร่วมกับเหล่ากาชาดจังหวัดนราธิวาส จัดกิจกรรมบริจาคโลหิต ประจำปี 2564 ตามโครงการ “Plus1 เพิ่มจำนวนครั้ง เพิ่มจำนวนโลหิต ( ปี2 )” เพื่อเป็นโลหิตสำรองให้แก่ โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ และ โรงพยาบาลสุไหงโก-ลก ให้มีปริมาณที่เพียงพอแก่ในการช่วยเหลือผู้ป่วยที่รอรับการรักษา ในห้วงCOVID-19 และทั้งผู้ที่ได้รับผลกระทบและบาดเจ็บจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ ณ อาคาร 479 ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ตำบลมะรือโบออก อำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส

ทั้งนี้ มีกำลังพลจิตอาสาฯของหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 48 เข้าร่วมบริจาคโลหิตในครั้งนี้ จำนวน105 คน และมียอดบริจาคโลหิตทั้งสิ้น 47,250 ซีซีบริจาคอวัยวะ จำนวน 8 คน และบริจาคดวงตา จำนวน 8 คน โดยกิจกรรมในครั้งนี้กำลังพลจิตอาสาฯได้ผ่านการตรวจคัดกรองแล้วว่าเป็นผู้ที่มีสุขภาพร่างการแข็งแรงสมบูรณ์ ไม่เป็นผู้เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ COVID-19

สงขลา - ผู้บริหาร ศอ.บต.ร่วมกับ อบจ.สงขลา และผู้นำท้องที่ ลงพื้นที่อำเภอเทพาและอำเภอจะนะ ช่วยเหลือเกษตรกรระบายผลผลิตฟักทองอย่างต่อเนื่อง

ที่ สำนักงานเกษตรอำเภอเทพา จังหวัดสงขลา นายอิสระ ละอองสกุล ผู้อำนวยการกองประสานและเร่งรัดการพัฒนาพื้นที่พิเศษจังหวัดชายแดนภาคใต้ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) พร้อมด้วย นายพิทยา รัตนพันธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายอาคารสถานที่และยานพาหนะ ศอ.บต. และเจ้าหน้าที่ ศอ.บต. ร่วมพบปะหารือเกษตรกรอำเภอเทพา และอำเภอจะนะ เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือผลผลิตในพื้นที่ ซึ่งได้ประสบปัญหาการส่งออกเนื่องจากสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่มีการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง ทำให้ส่งผลกระทบสร้างความเสียหายต่อสินค้าทางการเกษตรที่ให้ผลผลิตในช่วงกลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยเฉพาะฟักทองและฟักเขียวที่มีเกษตรกรหลายรายจำนวนหลายร้อยไร่ ทยอยให้ผลผลิตเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนได้ระดมให้ความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง


โอกาสนี้ ทางคณะผู้บริหาร ศอ.บต.พร้อมด้วย พลตำรวจตรี สุรินทร์ ปาลาเร่ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร นายเสรี เหล๊าะเหม สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา นางสาวปรินดา ปาลาเร่ เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา (อบจ.สงขลา) นายเจะโส๊ะ หัดเหาะ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลตลิ่งชัน (อบต.ตลิ่งชัน) นายจิรวัฒน์ สนิหลำ กำนันตำบลตลิ่งชัน ผู้นำท่องถิ่นและส่วนราชการในพื้นที่ ลงพื้นที่ร่วมพบปะกลุ่มเกษตรกร ณ บ้านป่าโอ หมู่ 6 ตำบลเทพา อำเภอเทพา  และบ้านป่างาม หมู่ 3 ตำบลตลิ่งชัน อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา พร้อมนำผู้ประกอบการเอกชนซื้อฟักทอง ประกอบด้วย นายประเสริฐ คณานุรักษ์ ได้รับซื้อฟักทอง จำนวน 2 ตัน เพื่อนำส่งไปที่วัดนาประดู่และที่สมาคมหลังตลาดนาประดู่ และบริษัท ปาล์มพัฒนาชายแดนใต้ จำกัด รับซื้อจำนวน 13 ตัน โดยทาง อบจ.สงขลา และ อบต.ตลิ่งชัน ได้อำนวยความสะดวกจัดรถขนส่งเพื่อนำส่งผลผลิตถึงที่ รวมถึง บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) รับซื้อจำนวน 2140 กิโลกรัม อีกด้วย


ทั้งนี้ คณะผู้บริหาร ศอ.บต. ได้ร่วมพบปะหารือ นายสถานีรถไฟจะนะ จังหวัดสงขลา เพื่อหาแนวทางด้านความร่วมมือการส่งสินค้าฟักทองเข้าส่วนกลางตามความต้องการของผู้ประกอบการอีกด้วย อย่างไรก็ตามภาครัฐและภาคเอกชนได้ระดมช่วยเหลือระบายผลผลิตอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรในพื้นที่


นอกจากนี้ คณะฯ ได้เดินทางไปยัง บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (โรงงานบ้านพรุ) บ้านพรุ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เพื่อรับไก่สด CP จำนวน 300 กิโลกรัม และไข่ไก่จำนวน 4,000 ฟอง โดยทาง บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร ได้ให้การสนับสนุนผ่าน ศอ.บต. เพื่อมอบให้แก่พี่น้องประชาชนที่รับผลกระทบฯ จากโควิด-19 ในพื้นที่ จชต.



ภาพ/ข่าว  นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา
 

ตาก – อำเภอแม่สอด จัดกิจกรรมรณรงค์เคาะประตูบ้านชวนชาวแม่สอดสมัครฉีดวัคซีนป้องกันโควิด 19

นายชัยพฤกติ์ เชียรธานรักษ์ นายอำเภอแม่สอด เป็นประธานในพิธีปล่อยแถวเดินรณรงค์เคาะประตูบ้านชวนชาวแม่สอดไปสมัครเพื่อรับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 โดยมีว่าที่ร้อยตรีหญิงกัญญารัตน์ เชียรธานรักษ์ นายกกิ่งกาชาดอำเภอแม่สอดและสมาชิกแม่บ้านมหาดไทย ปลัดอำเภอ สาธารณสุขอำเภอแม่สอด โรงพยาบาลแม่สอด โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพระดับตำบล ผู้นำท้องถิ่น เข้าร่วมการจัดกิจกรรมในครั้งนี้กว่า 300 คน การจัดกิจกรรมในครั้งนี้เพื่อเป็นการป้องกันการติดเชื้อ ลดการแพร่เชื้อ ลดความรุนแรงของโรคและลดการเสียชีวิด โดยมีเป้าหมายเป็นกลุ่มผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป จำนวน 16,155 คน และกลุ่มบุคคลที่มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรค จำนวน 3,928 คน

ในวันนี้ทางนายอำเภอแม่สอดได้นำขบวนรณรงค์เชิญชวนไปรอบเขตเทศบาลนครแม่สอด เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์เชิญชวนชาวแม่สอดมาร่วมลงทะเบียนแสดงความประสงค์เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโร่น่า 2019 หรือ โควิด19 สำหรับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป และกลุ่มบุคคลที่มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรค โดยสามารถเข้าไปลงทะเบียนผ่านทางไลน์ หมอพร้อม เวอร์ชั่น 2 หรือลงทะเบียนจองผ่าน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัครสาธารณสุขชุมชน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพระดับตำบลใกล้บ้าน คลินิกหมอครอบครัวโรงพยาบาลแม่สอด คลินิกชุมชนอบอุ่นเทศบาลนครแม่สอด ศูนย์การค้าโรบินสัน แมคโคร โลตัส ห้าแยกกรุ๊ป ฮงล้งมินิมาร์ท ไทยแสงทอง ซ้งการค้า และสุภารัตน์มินิมาร์ท ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2564 เป็นต้นไป โดยจะมีการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในวันที่ 7 มิถุนายน ถึง 31 กรกฎาคม 2564 นี้  


ภาพ/ข่าว  วรภา พันลุตัน 
 

สงขลา - แม่ทัพภาคที่ 4 นำทีมให้กำลังใจประชาชน เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน พร้อมนำรถครัวสนาม และพืชผลทางการเกษตร จากโครงการทหารพันธุ์ดี แจกจ่ายให้กับพี่น้องประชาชน บรรเทาความเดือดร้อน จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส covid-19

วันนี้ 20 พฤษภาคม 2564 เวลา 10.30 น. ที่สำนักงานเทศบาลตำบลคลองแงะ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา พลโท เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 /ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ลงพื้นที่ พบปะ เยี่ยมเยียนให้กำลังใจพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส covid-19 โดยได้ร่วมประกอบอาหารปรุงสุก จากรถครัวสนาม ที่จัดโดยกองพลพัฒนาที่ 4 และได้รับการสนับสนุน วัตถุดิบ สิ่งของอุปกรณ์ ในการนำมาประกอบอาหาร จากดร.สุธาสินี นิติสาครินทร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทฟิล์ม มาสเตอร์จำกัด นอกจากนี้ได้นำผลผลิตทางการเกษตรจากโครงการทหารพันธุ์ดี กองพลพัฒนาที่ 4 ค่ายรัตนพล  มาประกอบอาหาร และแจกจ่ายเป็นวัตถุดิบสด เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส covid-19 ทั้งนี้ได้รับความร่วมมือจาก ภาครัฐ และเอกชน ผู้ประกอบการ และนักธุรกิจในพื้นที่ให้การสนับสนุน โดยมี พลตรี ธิรา แดหวา รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4  ส่วนหน้า พร้อมด้วย  พลตรี สิรภพ ศุภวานิช ผู้บัญชาการกองพลพัฒนาที่ 4 และส่วนราชการหน่วยงานในพื้นที่ร่วมในครั้งนี้

พลโท เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 /ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 กล่าวว่า ในวันนี้เดินทางมาเยี่ยมเยียน ให้กำลังใจพี่น้องประชาชน ในพื้นที่ของอำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ซึ่งได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส covid-19 รวมทั้งมาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน เน้นย้ำนโยบายการให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชน และมาตรการป้องกันตนเองของเจ้าหน้าที่ โดยผู้บัญชาการทหารบกได้มีนโยบาย ในการดูแล ช่วยเหลือ และสนับสนุน ทั้งยุทโธปกรณ์ และกำลังพล ให้พร้อมรับมือต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส covid-19 ที่เกิดขึ้นให้กับทางจังหวัดอย่างต่อเนื่อง  จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย รวมทั้งได้จัดตั้งโรงพยาบาลสนามขึ้นในหน่วยทหาร เพื่อรองรับผู้ติดเชื้อ  สำหรับวันนี้เป็นภารกิจของการดูแลช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอีกหนึ่งภารกิจ 

โดยได้จัดบริการรถครัวสนาม จัดทำอาหารปรุงสุกจากผลิตผลของโครงการทหารพันธุ์ดี และบางส่วนนำมาแจกจ่ายให้กับพี่น้องประชาชน ด้วย เราจะเห็นถึงความร่วมมือร่วมแรงร่วมใจของคนไทย ไม่ว่าจะเกิดวิกฤตการณ์ใด คนไทยจะไม่ทิ้งกัน อย่างไรก็ตามทางกองทัพบก พร้อมที่จะดูแล และสนับสนุน ในทุก ๆ ด้านอย่างต่อเนื่อง ฝากส่งกำลังใจไปยังพี่น้องประชาชนในการเดินหน้า เพื่อให้ผ่านพ้นวิกฤตการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส covid-19 ไปพร้อมกัน ให้ทุกคนเชื่อมั่น และมั่นใจ ในมาตรการที่ทางรัฐบาลได้เตรียมการไว้ให้กับพี่น้องประชาชน ทั้งมาตรการป้องกัน ควบคุมต่าง ๆ รวมทั้งการฉีดวัคซีน "หยุดเชื้อ เพื่อชาติ เพื่อคนที่เรารัก" จับมือผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปด้วยกัน


ภาพ/ข่าว  นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา

ประจวบคีรีขันธ์ - แม่ทัพภาค 1 กำชับทุกหน่วยที่ประจวบฯ คุมเข้มแรงงานต่างด้าวเถื่อน

วันที่ 21 พฤษภาคม พลโทเจริญชัย หินเธาว์ แม่ทัพภาคที่ 1 ในฐานะ ผอ.รมน.ภาค 1 พร้อมด้วยพลโทสุขสรรค์ หนองบัวล่าง แม่ทัพน้อยที่ 1 และคณะ เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ ไปติดตามแนวทางการขับเคลื่อนมาตรการสกัดกั้นการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมายและมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 จากหน่วยงานด้านความมั่นคง โดยมี นายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯพลตรีประยุกต์ อุ่นอบ ผบ.มทบ.15 พลตรี บรรยง ทองน่วม ผบ.พล.ร.9 ผบ.กองกำลังสุรสีห์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมสิงขรที่ศาลากลางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์

จากนั้นมีการรายงานแผนงานการปฏิบัติร่วมกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใน จ.ประจวบฯ เพื่อขับเคลื่อนมาตรการสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และมาตรการป้องกันโควิด 19 จากฝ่ายปกครองจังหวัด ทหารหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 14 กองร้อย ตชด.ที่ 146 กอ.รมน.จังหวัด ศรชล.จังหวัด แรงงานจังหวัด จัดหางานจังหวัด สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน อุตสาหกรรมจังหวัด สาธารณสุขจังหวัดประจวบฯ

พลโทเจริญชัย หินเธาว์ แม่ทัพภาคที่ 1 ให้กำลังใจทุกภาคส่วนที่มีส่วนร่วมในการปฏิบัติงานเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม และประเทศชาติ พร้อมกับกำชับหน่วยงานในพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง ขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการ สถานประกอบการห้ามรับแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายเข้าทำงาน พร้อมทั้งร่วมกันตรวจโรงงาน สถานประกอบการและ หอพัก อย่างเข้มงวด รวมถึงขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนช่วยสำรวจตรวจสอบ หรือให้ข้อมูลเบาะแสขบวนการค้ามนุษย์ที่ลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย


ภาพ/ข่าว  นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าวสยามโฟกัสไทม์ / 4เหล่าทัพ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

ประจวบคีรีขันธ์ - ปศุสัตว์ประจวบฯ เตือนเกษตรกรเลี้ยงโคกระบืออย่าซื้อวัคซีนป้องกันโรคลัมปี สกิน ลักลอบนำเข้าผิดกฎหมาย

วันที่ 21 พฤษภาคม นายสัตวแพทย์ยุษฐิระ บัณฑุกุล ปศุสัตว์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้แจ้งให้เกษตรอำเภอทุกอำเภอ ออกให้คำแนะนำเกษตรกรผู้เลี้ยงโคกระบือในการดูแลป้องกันการแพร่ระบาดของโรคลัมปี สกิน ในโคและกระบือ หลังพบการระบาดในพื้นที่ ต.สามกระทาย อ.กุยบุรี ต.ไร่ใหม่ อ.สามร้อยยอด ต.เขาน้อย อ.ปราณบุรี และ ต.หนองพลับ อ.หัวหิน โดยมีรายงานโคนม โคเนื้อป่วยติดเชื้อรวมกว่า 200 ตัว ขณะนี้ได้ประกาศเขตโรคระบาดสัตว์ชั่วคราวในพื้นที่ที่เกิดโรคแล้ว ห้ามการเคลื่อนย้ายโคกระบือเข้า-ออกพื้นที่ และให้เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ออกทำการสอบสวนควบคุมโรคด้วยการฉีดพ่นยาฆ่าแมลงชนิดพ่นบนตัวสัตว์และบริเวณคอกโรงเรือนในรัศมี 1 กิโลเมตรรอบจุดเกิดโรค

“โรคลัมปี สกิน ไม่ติดจากสัตว์สู่คน สัตว์ที่ติดเชื้อมีอัตราการป่วยน้อยเพียงร้อยละ 10-50 อัตราการตายไม่ถึงร้อยละ 10 แต่ส่งผลเสียต่อผลผลิต เช่น โคนมอาจจะให้น้ำนมลดลง หรือโคเนื้อเมื่อป่วยก็จะกินอาหารได้น้อย ความสมบูรณ์แข็งแรงของร่างกายก็น้อยตามไปด้วย ส่วนโคกระบือที่ตั้งท้องอยู่อาจจะแท้งได้ สำหรับแนวทางรักษาขณะนี้รักษาตามอาการ และกำลังจะมีการนำเข้าวัคซีนป้องกันโรคเข้ามาในเดือนพฤษภาคมนี้ นี้ เพื่อฉีดให้กับสัตว์ของเกษตรกรฟรี ดังนั้นในช่วงนี้จึงขอให้เกษตรกรระมัดระวังอย่าซื้อวัคซีนลักลอบนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้านเพราะยังไม่ผ่านการทดสอบและรับรองจากภาครัฐ อาจจะส่งผลเสียต่อสัตว์ได้ “นายสัตวแพทย์ยุษฐิระ กล่าวว่า

สำหรับอาการของโรคลัมปี สกิน ในโคและกระบือ จะพบตุ่มขึ้นตามตัวสัตว์ ลักษณะคล้ายอีสุกอีใส เนื้อสัตว์ที่พบการติดเชื้อสามารถบริโภคได้แต่ไม่แนะนำให้บริโภค โรคนี้ติดต่อทางแมลงดูดเลือดทุกชนิด เช่น เห็บ ยุง เหลือบ จึงแนะนำให้เกษตรกรดูแลรักษาความสะอาดคอกโรงเรือนอย่างสม่ำเสมอ กางมุ้ง หรือฉีดพ่นยาฆ่าแมลงบริเวณพื้นคอกโรงเรือน หรือใช้ยาฆ่าแมลงชนิดพ่นบนตัวสัตว์จะช่วยป้องกันสัตว์ป่วยติดเชื้อได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้ใช้ชื่อเฟซบุ๊ก “วันนิกา สร้อย เสรีรัตนเกียรติ” โพสต์ข้อความ โดยมีการแชร์ข้อความจำนวนมาก หลังจากระบุว่า “ ไม่ได้อวดรู้ดีกว่าหมอปศุสัตว์นะค่ะ แต่มาเสนอเพราะมีประสบการณ์โรคลัมปีสกรินและรักษาหาย วัวที่เลี้ยงจาก 3000 ตัว มีแยกเป็นวัวแดง 80 ตัว มีตัวเป็นโรค 30 ตัว รักษาโดยฉีดยาแก้ไข้ ยาพยาธิธรรมดา ไข้หายตุ่มไม่หาย แต่พอฉีดยาพยาธิ Fนอก เริ่มเห็นตุ่มหัวดำ หัวแตก อีก 5 วัน ฉีดพยาธิซ้ำอีก อีก 7-8 วันซ้ำอีก ตัวที่เป็นหนักเป็นก้อนเท่าลูกมะนาว เวลาหลุดจะเป็นหลุมเนื้อหลุดออกมา ฉีดยาแก้อักเสบ พ่นยาไม่ให้แมลงวันเพาะหนอน แล้วมันก็แห้งเป็นปกติ จากวัว80 ตัว เป็น30ตัว รักษาแบบนี้หายทุกตัว และตอนนี้ก็ฉีดยาพยาธิFนอกกันไว้ทุกตัว ก็ยังไม่มีเป็น 95% คลุมอยู่ ถ้าใครพอจะเห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อใครได้บ้างโทรมาคุย ได้นะคะ จากผู้มีประสบการณ์จริง หายจริง ผ่านมาจะ2เดือนแล้ว ถ้าไม่มีประโยชน์ต่อใครก็ผ่านเลยข้อความนี้ไปนะคะ”


ภาพ/ข่าว นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าวสยามโฟกัสไทม์ / 4เหล่าทัพ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

ตาก – ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ หอการค้าจังหวัดตาก ร่วมแถลงข่าวเปิด "โครงการ TAK SAFE (ตากปลอดภัย)" เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนชาวจังหวัดตากได้รับวัคซีนให้มากที่สุด รวมถึงสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคและผู้รับบริการในสถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการดังกล่าว

ที่บริเวณห้องประชุมชั้น 2 หอการค้าจังหวัดตาก สำนักงานอำเภอแม่สอด  ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก นายบรรพต ก่อเกียรติเจริญ อดีตประธานหอการค้าจังตากตาก 2 สมัย ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ หอการค้าจังหวัดตาก ร่วมแถลงข่าวเปิด "โครงการ TAK SAFE (ตากปลอดภัย)" เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนชาวจังหวัดตากได้รับวัคซีนให้มากที่สุด รวมถึงสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคและผู้รับบริการในสถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการดังกล่าว

โดยมี นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก พร้อมด้วย นายนิยม ไวยรัชพานิช รองประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย นายประเสริฐ จึงกิจรุ่งโรจน์ ประธานหอการค้าจังหวัดตาก นายจริยาทร สูหู่ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานตาก นายแพทย์ธวัชชัย เศรษฐศุภพนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลแม่สอด และนายอารีย์ เดวี พาณิชย์จังหวัดตาก ร่วมกันแถลงข่าวเปิด "โครงการ TAK SAFE (ตากปลอดภัย)" เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนชาวจังหวัดตากได้รับวัคซีนให้มากที่สุด สร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคและผู้รับบริการในสถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ รวมถึงเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ และเชิญชวนร้านค้าต่าง ๆ มอบส่วนลดพิเศษให้กับผู้ที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม ด้วย

สำหรับ โครงการ TAK SAFE (ตากปลอดภัย)" ปัจจุบันมีหน่วยงาน หรือร้านค้า สถานประกอบการเข้าร่วมกิจกรรม "มีภูมิรับสิทธิ์" แล้วกว่า 100 ร้านค้า และมีประชาชนเข้าร่วมรับสิทธิ์ฯ แล้วเกือบ 20,000 คน ซึ่งโครงการดังกล่าว มุ่งหวังให้เกิดการกระตุ้นการจับจ่ายในพื้นที่ มากกว่า 20% จากก่อนการฉีดวัคซีนโควิด-19 โดยให้ได้รับสิทธิประโยชน์เข้าไปซื้อสินค้าในร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นเรื่องความปลอดภัยจากโควิด-19 ในร้านค้าของอำเภอแม่สอด และอำเภอใกล้เคียง รวมทั้งจะมีการเชื่อมโยงไปยังจังหวัดใกล้เคียง เช่น สุโขทัย พิษณุโลก กำแพงเพชร พิจิตร และอุตรดิตถ์ ด้วย 

นอกจากนี้ หากพนักงานในร้านใดได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม ทางโรงพยาบาลแม่สอดจะออกป้ายให้ไปติดที่ร้าน เพื่อยืนยันว่า ผู้ให้บริการได้ผ่านการฉีดวัคซีนครบแล้ว จะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้รับบริการได้อีกทางหนึ่ง  โอกาสนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ได้มอบป้ายผู้ให้บริการที่ผ่านการฉีดวัคซีนแล้ว ให้แก่ โรงแรมเดอะ ทีค , ร้านอาหารข้าวเม่าข้าวฟาง , ธนาคารกสิกรไทย สาขาแม่สอด , สำนักงานตำรวจท่องเที่ยวจังหวัดตาก และแม่สอดคลีนิคกายภาพบำบัด  พร้อมทั้ง  ได้เชิญชวนให้ประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีน ด้วยการใช้แอปพลิเคชั่น “หมอพร้อม” โดยสามารถแจ้งความประสงค์ได้ที่ โรงพยาบาล , รพ.สต. หรือแจ้งที่ เจ้าหน้าที่ อสม. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในพื้นที่ของตนเองก็ได้ เช่นกัน


ภาพ/ข่าว  วรภา พันลุตัน จ.ตาก

ตราด - ผู้นำชุมชนบ้านบางเบ้า ร่วมมือหลายภาคส่วน รื้อถอนเศษซากเสาปูนที่ตั้งโด่เด่ในทะเล

วันที่ 21 พ.ค.64 นายเติมศักดิ์ เสริฐศรี ผู้ใหญ่บ้านบางเบ้า หมู่ 1 ต.เกาะช้างใต้ อ.เกาะช้าง จ.ตราด เปิดเผยว่า ปัจจุบันตนเองพร้อมด้วย ทีมงานผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน,สารวัตรกำนัน,ผู้นำชุมชน, เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง,ผู้ประกอบการเรือนำเที่ยว,เจ้าของธุรกิจต่างๆในชุมชนบ้านบางเบ้า,เจ้าของธุรกิจเรือนำเที่ยวเพิ่มพูลทรัพย์ ได้ให้การสนับสนุนเรือจำนวน 3 ลำ พร้อมพนักงาน และชาวบ้านบางเบ้าอีกจำนวนหลายคน ได้ร่วมมือกันทำการรื้อถอนเสาคอนกรีต (เสาปูน) ที่ตั้งโด่เด่!จำนวนมากอยู่ในทะเลใกล้ๆกับสะพานชุมชนบ้านบางเบ้า พร้อมกับนำเรือนำเที่ยวขนาดใหญ่ดำเนินการชักลากเสาปูนและเศษซากสิ่งก่อสร้างของตัวอาคาร (อดีตโรงแรม เกาะช้างซีฮัท) โดยทางอุทยานฯเกาะช้างได้ทำการรื้อถอนตัวอาคารออกไป เมื่อช่วงปลายปี 2553 ที่ผ่านมา เนื่องจากคดีได้ถึงที่สุดตามคำพิพากษาของศาล จ.ตราด ให้มีการรื้อถอน ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เมื่อไปยืนที่สะพานบ้านบางเบ้า จะได้เห็นมีเศษซากของเสาปูน-ส่วนประกอบฐานล่างของห้องน้ำ ตั้งเรียงรายอยู่ในทะเลจำนวนมาก  

นายเติมศักดิ์ เสริฐศรี ผู้ใหญ่บ้านบางเบ้า หมู่ 1 ต.เกาะช้างใต้ กล่าวว่า การดำเนินการรื้อถอนเศษซากเสาปูนและส่วนประกอบฐานล่างของห้องน้ำ ที่ตั้งโด่เด่อยู่ในทะเลใกล้ ๆ สะพานบ้านบางเบ้าในครั้งนี้ เพื่อปรับทัศนียภาพ สิ่งแวดล้อมโดยรอบชุมชนในทะเลบ้านบางเบ้า ให้ดูสะอาดตาและสวยงามในสายตานักท่องเที่ยวและคนทั่วไป อีกทั้งยังส่งผลดีให้เรือของชาวบ้านในชุมชน สามารถวิ่งเข้า-ออกบริเวณดังกล่าวได้อย่างสะดวกสบาย เตรียมพร้อมต้อนรับเปิดฤดูกาลท่องเที่ยว หลังจากผ่านพ้นวิกฤตการระบาดของโควิด-19 โดยจะมีการใช้เรือทำการลากจูงเศษซากเสาปูนที่รื้อถอนออกทั้งหมดนำไปทำเป็นแนวปะการังเทียม แหล่งอาศัยของสัตว์น้ำ เกิดประโยชน์กับเรือประมงพื้นบ้านหรือเรือขนาดเล็กแนวชายฝั่ง พร้อมกับมีการทำค่าพิกัด GPS เพื่อเสนอต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป สำหรับการดำเนินการรื้อถอนเศษซากเสาปูนในทะเลดังกล่าว คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในระยะเวลา 2-3 วัน  


ภาพ/ข่าว วรโชติ เกาะช้าง-วิเชียร ม่วงสี ทีมข่าวภูมิภาค /รายงาน

สงขลา - แม่ทัพภาค 4 ตั้ง เกจิดังภาคใต้และพระอีก 5 รูปเป็นที่ปรึกษา ด้านศาสนา การศึกษา และวัฒนธรรม พบมีผลงานมากทั้งการพหุสังคม มอบทุนการศึกษา ทนุบำรุงศาสนาพุทธ และเปิดศูนย์เรียนรู้

พลโทเกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้มีหนังสือแต่งตั้งพระครูสุวัฒนาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดนาทวี / รองเจ้าคณะจังหวัดสงขลา และเกจิดังภาคใต้ ให้เป็นที่ปรึกษา ด้านศาสนา ,การศึกษา และ วัฒนธรรม เนื่องจากพระครูสุวัฒนาภรณ์ มีความสามารถและได้มีผลงานปรากฏมากมาย เช่น การพหุสังคม โดยใช้หลักศาสนาในการความเชื่อที่ถูกต้องเพราะทุกศาสนามีแต่เมตตา อภัย ให้โอกาสและเน้นถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติศาสนาพระมหากษัตริย์ พร้อมทั้งให้ชาวไทย และชาวไทยมุสลิมทำกิจกรรมเพื่อเป็นประโยชน์ร่วมกัน สร้างความรักความสามัคคีทั้งมุสลิมและไทยให้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข

ด้านการศึกษา ก็ได้มีการมอบทุนการศึกษาให้โรงเรียนต่าง ๆ ภายในอำเภอนาทวี และอำเภอใกล้เคียง มีการส่งเสริมวันสำคัญ ๆ ทางพุทธศาสนา จัดให้มีการเวียนเทียน และปฏิบัติธรรม นำศีล 5 ข้อ สอนให้ประชาชนนำไปปฏิบัติ ชีวิตจะมีแต่ความสุขความเจริญ พระครูสุวัฒนาภรณ์ ยังเป็นนักพัฒนาวัดที่สามารถพัฒนาวัดนาทวี จนทำให้ประชาชนหันหน้าเข้าวัดทำบุญ และร่วมทำโครงการต่าง ๆ ด้วยความเต็มใจ ที่สำคัญพระครูสุวัฒนาภรณ์ ยังเคยเกลี้ยกล่อมผู้หลงผิดให้กลับใจเข้ามามอบตัวกับเจ้าหน้าที่รัฐ จนเป็นข่าวดังเมื่อลายปีก่อน และยังมีความคิดสร้างสรรค์ และมองถึงอนาคตว่าจะต้องพัฒนาอย่างไร

วันนี้ จึงทำให้พระครูสุวัฒนาภรณ์ ได้รับการแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาของแม่ทัพภาคที่ 4 ในครั้งนี้พร้อมกับพระภิกษุอีก 5 รูป ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา


ภาพ/ข่าว  นายปรีชา สถิตเรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top