Monday, 21 April 2025
Softpower

ฮือฮา!! ทีเซอร์เพลงใหม่ 'LISA' เผยโฉม ‘เยาวราช - บางลำภู’ โชว์ชาวโลก ด้านแฟนคลับรอชม ROCKSTAR เต็มๆ เช้าวันศุกร์ที่ 28 มิ.ย.67 นี้

(26 มิ.ย. 67) สร้างความฮือฮาไปทั่ว เมื่อนักร้องดังระดับโลก ‘ลิซ่า ลลิษา มโนบาล’ ปล่อย MV Teaser เพลง ROCKSTAR ความยาวเพียง 10 วินาทีออกมาเรียกนํ้าย่อย แล้วพบว่าเธอแอบมาซุ่มถ่ายทำมิวสิควีดิโอเพลงเดี่ยวเพลงแรกที่ทำภายใต้บริษัท LLOUD ของตัวเอง ที่บ้านเกิด ประเทศไทย

พร้อมเลือกสถานที่ยอดนิยมอย่าง เยาวราช และห้างนิวเวิลด์ บางลำพู ให้ปรากฏอยู่ในเพลงที่จะเผยแพร่ออกสู่สายตาชาวโลก

ในทีเซอร์เพลง ROCKSTAR มีฉากที่เห็นได้อย่างชัดเจนว่าถ่ายทำในประเทศไทย คือ ฉากลงมาจากบันไดเลื่อนในห้างที่มืดมิด มีเพียงแสงไฟสีแดงดวงเดียวส่องอยู่ด้านหลัง ซึ่งคนที่คุ้นเคยจะรู้ดีว่านั่นคือภายในของห้างสรรพสินค้า นิวเวิลด์ บางลำพู ที่ถูกทิ้งร้างมานานกว่าสิบปี แต่ล่าสุด ทางสำนักงานเขตพระนคร ได้เข้าปรับปรุงพื้นที่เพื่อพัฒนาเป็นสถานที่ท่องเที่ยว และแลนด์มาร์กแห่งใหม่ในบริเวณเกาะรัตนโกสินทร์

สถานที่อีกแห่งคือ ย่านเยาวราช โดยมีซีนที่ลิซ่ายืนตระหง่านอยู่กลางถนนยามค่ำคืน มีป้ายไฟนีออนเขียนชื่อร้านเป็นภาษาไทย ภาษาจีนปรากฏอยู่เป็นฉากหลังอย่างสวยงาม และซีนที่ลิซ่าเดินอยู่บนถนนท่ามกลางเหล่าแดนเซอร์ ทำให้จินตนาการถึงภาพการเต้นยับ กลางถนนเยาวราช ที่เราจะได้เห็นกันใน MV ตัวเต็ม

นอกจากนี้ยังมีซีนผู้ชาย 3 คนนั่งอยู่หน้าร้านสัก ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นอีกอย่างของประเทศไทย ในสายตานักท่องเที่ยวเช่นกัน

ทั้งนี้ แม้ว่า Blackpink จะยังต่อสัญญากับต้นสังกัดเดิมในส่วนของงานวง แต่สมาชิกทั้ง 4 คนนั้นไม่ได้ต่อสัญญาเดี่ยวกับทาง YG Entertainment โดย ลิซ่า เลือกเปิดบริษัทของตัวเองที่ชื่อ บริษัท LLOUD Co. พร้อมจับมือทำสัญญากับค่ายเพลงระดับโลกอย่าง RCA Records ในการทำผลงานเพลงเดี่ยว ซึ่งเพลง ROCKSTAR นี้ถือเป็นผลงานเพลงชิ้นแรกภายใต้ความร่วมมือดังกล่าว

ติดตามรับชม MV เพลง ROCKSTAR ของ ลิซ่า ได้เช้าวันศุกร์ที่ 28 มิถุนายน 2567 นี้ เวลา 07.00 น. ตามเวลาประเทศไทย

'เยาวราช' ร้อนแรง!! หลัง 'ลิซ่า' ปล่อย 'ROCKSTAR' สู่สายตาชาวโลก ด้านรัฐบาลช่วยเสริมแรง ปักหมุดร้าน STAR ชวนคนต้องมาลอง

(28 มิ.ย.67) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศถนนเยาวราช หลัง 'ลิซ่า' ลลิษา มโนบาล ศิลปินระดับโลก ปล่อยคลิปทีเซอร์มิวสิกวิดีโอเพลง 'Rockstar' โดยมีฉากหลังเป็นถนนเยาวราช และมีภาพของลิซ่ายืนโดดเด่นอยู่กลางถนนเยาวราชยามค่ำคืนนั้น ทำให้มีการพูดถึงกันอย่างมากบนสังคมออนไลน์ 

และจะเรียกว่าเป็นซอฟต์พาวเวอร์ก็ไม่ผิด เพราะได้ทำให้ถนนเยาวราชคึกคักยิ่งกว่าเดิมอีกครั้ง โดยบรรยากาศถนนเยาวราชในวันธรรมดา มีคนไทยและชาวต่างชาติแห่มาถ่ายภาพตามรอยลิซ่าจำนวนมาก

สำหรับโลเคชันใน MV ที่มีการถ่ายทำที่ประเทศไทยถึง 90% อาทิ ถนนเยาวราช, โรงหนังออสก้าเก่า เพชรบุรี 39, ห้างนิวเวิลด์ บางลำพู ที่ถูกทิ้งร้างมานานกว่าสิบปี โดยล่าสุดทางสำนักงานเขตพระนคร ได้เข้าปรับปรุงพื้นที่เพื่อพัฒนาเป็นสถานที่ท่องเที่ยว และแลนด์มาร์กแห่งใหม่ในบริเวณเกาะรัตนโกสินทร์

และหลังจาก MV 'Rockstar' ฉบับเต็ม ได้ถูกปล่อยออกมาแล้วเมื่อเช้านี้ (ตามเวลาประเทศไทย) ณ ปัจจุบัน ก็มียอดวิวพุ่งทะยานเข้าสู่หลักสิบล้านไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ขณะที่ฟากรัฐบาลก็ได้เสริมแรง Ignite Tourism Thailand ด้วยการปักหมุดร้านดัง โดยนายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก หลัง 'ลิซ่า' ปล่อย MV TEASER เพลงใหม่ ‘ROCKSTAR’ ผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว @lalalalisa_m และทุกช่องทางของค่ายเพลงของตัวเอง ‘LLOUD’ ว่า... “เสริมแรง ignite Tourism Thailand อีกแล้วครับท่าน ททท.เดินหน้าไม่หยุดยั้ง….ท่านนายกฯ คอยตรวจการบ้านอยู่…..”

ทำถึง ทำเกิน! ลิซ่า - ลลิษา มโนบาล ปล่อย MV เพลงใหม่ ROCKSTAR โดยใน MV ได้ปรากฏภาพ “เยาวราช” เป็นหนึ่งในโลเคชันในการถ่ายทำ จนกลายเป็นกระแสให้แฟน ๆ อยากไปตามรอย

งานนี้ขอแนะนำเหล่า ROCKSTAR ถ้าไปเยาวราช ต้องห้ามพลาดกิน ร้าน STAR ร้านอาหารสุดอร่อยการันตีด้วยมิชลินสตาร์ ทั้งร้านอาหารหนึ่งดาวมิชลิน ร้านบิบ กูร์มองด์ ร้านมิชลิน เพลท และร้านที่อยู่ในมิชลินไกด์ จะมีที่ไหนบ้าง ปักหมุดเลย!

✯ โพทง - หนึ่งดาวมิชลิน 📍 maps.app.goo.gl/M8s2JKMmApm5fX

✯ ข้าวผัดปูช้างเผือก (สาขาเวิ้งนครเกษม) หรือ เวิ้งข้าวผัดปู - บิบ กูร์มองด์ 📍maps.app.goo.gl/gMYcQazjdw9PG2

✯ ลิ้มเหล่าโหงว (สาขาเยาวราช) - บิบ กูร์มองด์ 📍maps.app.goo.gl/rj3FHJ5w9wGMov

✯ ก๋วยจั๊บนายเอ็ก - มิชลิน เพลท📍maps.app.goo.gl/unbAmvbAkzBAF3

✯ ปาท่องโก๋เสวย - มิชลิน เพลท📍maps.app.goo.gl/g76987qLzBHomt

✯ ก๋วยจั๊บอ้วนโภชนา - มิชลิน เพลท📍maps.app.goo.gl/7gv1EAqrqDVDSP

✯ นายหมงหอยทอด - ร้านอาหารในมิชลินไกด์📍maps.app.goo.gl/H6ZPDLJvthxEuE

✯ จกโต๊ะเดียว - ร้านอาหารในมิชลินไกด์📍 maps.app.goo.gl/bYmzk3JgGf9o9u

เพจดัง ชี้ ‘Soft Power’ ของประเทศไทย มีมานาน หลายสิบปีแล้ว ยก ‘สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ’ เป็นผู้นำความเป็นไทย โดดเด่นในเวทีโลก

เมื่อวานนี้ (28 มิ.ย. 67) ผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อว่า ‘เอ ภักดี’ ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับเรื่อง ‘Soft Power’ โดยได้ระบุว่า

#ซอฟต์พาวเวอร์คนแรกของไทย ก่อนที่เรามักจะได้ยินคำว่า #SoftPower ที่เป็นคำฮิตฮอตและกระแสในไทยตอนนี้ โดยเฉพาะน้องลิซ่า (LISA) ที่ไม่ว่าจะหยิบจับอะไรก็กลายเป็นกระแสที่โด่งดังไปทั่ว และที่สำคัญน้องลิซ่าจะให้ความสำคัญกับวัฒนธรรมไทยและสิ่งต่างๆ ที่เกี่ยวกับประเทศไทยอยู่เสมอ (มันคือความน่ารักของน้องลิซ่า) 

แต่หากเราย้อนไปเมื่อหลายสิบปีก่อนบุคคลสำคัญที่พยายามนำความเป็นไทยสู่สายตาคนทั่วโลกคงหนีไม่พ้น #สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ไม่ว่าจะเป็นผ้าไทย ชุดไทย เครื่องประดับที่พระพันปีหลวงทรงฉลองพระองค์อยู่เสมอเมื่อคราวเสด็จประพาสต่างประเทศ รวมถึงต้อนรับประมุขหรือแขกสำคัญจากประเทศต่างๆ หรือแม้แต่ส่งเสริมวัฒนธรรมไทยในหลากหลายด้าน เช่น โขนและศิลปหัตถกรรมไทย เป็นต้น อีกทั้งยังนำศิลปะและหัตถกรรมเหล่านี้มาแสดงและต้อนแขกสำคัญของประเทศอีกด้วย นำมาซึ่งอาชีพของประชาชนที่ยากไร้หรือในถิ่นทุรกันดาร ในมุมมองของแอดพระองค์คือ ‘Soft Power’ ในยุคที่ไม่มีใครรู้จักคำว่า ‘Soft Power’

บทความนี้เรียบเรียงโดยเพจ Love Thai Culture และเพจ Thai Culture and Thai Travel

'พี่บัวขาว-น้องลิซ่า' สองขุนพลแห่งสยามยุคใหม่ ผู้พา 'ศิลปะ' และ 'ความเป็นไทย' สู่สายตาชาวโลก

(29 มิ.ย.67) เพจ 'Bangkok I Love You' ได้โพสต์ข้อความ ระบุว่า...

วินาทีนี้บุคคล 2 คนที่คนไทยและชาวโลกรู้จักคงไม่พ้น พี่บัวขาว สุดยอดนักมวยไทยแชมป์เวทีมวยระดับโลกหลายสมัย และน้องลิซ่า ดาวค้างฟ้าที่ทำสถิติใหม่แทบจะตลอดเวลา 

แต่ สิ่งหนึ่งที่ทุกคน พูดเป็นเสียงเดียวกันก็คือ สองคนนี้ คือ ตัวแทนของประเทศไทย ที่นำศิลปะและ ความเป็นไทย ออกไปเผยแพร่ให้โลกเห็น จึงนับได้ว่า สองคนนี้เป็นแม่ทัพ ของ Soft Power ประเทศไทย ตัวจริง 

ทว่า กว่าจะมาถึงจุดนี้ ทั้งสองคนก็ผ่านการฝึกซ้อมมาอย่างหนัก ซึ่งเป็นแบบอย่างให้กับ ทุกๆ คน กับคำว่า ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่น

ประโยคที่ว่า คนไทยไม่แพ้ใครในโลก เป็นจริงได้เสมอและในโลกปัจจุบัน ที่ ทุกคนสามารถเข้าถึง ศิลปะวิทยาการ ได้อย่างเต็มที่ ก็หวังว่าจะมี คนเก่งๆ มาเสริมทัพ ที่บัวขาว และน้องลิซ่า อีกมากๆ เพื่อให้ชื่อเสียงของประเทศไทยขจรกระจายไปทั่วโลก นะครับ

'ดร.เอ้' ชื่นชม!! 'ลิซ่า-ทีมงาน' ไม่เคยลืมความเป็นไทย ส่งต่อของดีของไทยสู่สายตาชาวโลก สร้างมูลค่าทาง ศก.มหาศาล

(30 มิ.ย.67) จากเฟซบุ๊กของ ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หรือ 'ดร.เอ้' ได้โพสต์ข้อความ ระบุว่า...

ปรากฏการณ์ Rockstar จากน้อง Lisa และ กระแสเยาวราช fever สะท้อนอะไรถึงนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยวันนี้?

หลังจากน้องลิซ่าได้ปล่อย teaser รวมทั้ง MV ซิงเกิ้ลใหม่ตั้งแต่เมื่อเช้าวันศุกร์ที่ผ่านมา กับยอด view สูงถึงเกือบ 32 ล้าน view เพียงในวันแรก จนทุก Platform ลุกเป็นไฟ

จนตอนนี้ไม่มีย่านไหนที่จะฮอตอยู่ใน spotlight ความสนใจของคนไทยและคนทั่วโลกเท่ากับ ’เยาวราช‘ พื้นที่เก่าแก่ ที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจมหาศาลสำหรับเมืองไทยและคนกรุงเทพ 

ต้องชื่นชมความน่ารักของน้องลิซ่าและทีมงานที่ไม่เคยลืมเมืองไทย คนไทย เป็นตัวอย่างความกตัญญูของคนรุ่นใหม่ ที่ไม่เคยลืมถิ่นกำเนิด นำเสนอของดีของไทยในแบบของเธอเอง ซึ่งเข้าใจและเข้าถึงคนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี 

ตั้งแต่ ปราสาทหินพนมรุ้ง ใน MV เพลง ‘La Lisa’ สวมผ้าซิ่น ‘ผ้าฝ้ายหมักโคลนย้อมคราม‘ จากอุดรธานี ไปทริปไหว้พระกับเพื่อนๆ ปรากฏการณ์ ‘ลูกชิ้นยืนกิน‘ ที่เธอพูดถึงในรายการ Woody show อีกทั้งโรตีสายไหม ร้านเจ้ไฝ และนมถุงหนองโพ ก็ได้เป็นไวรัล ที่ ‘เข้าใจจริง‘ และช่วยสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้แก่คนไทยได้อย่างมหาศาล แบบประเมินค่าไม่ได้เลยทีเดียว

สิ่งเหล่านี้และครับที่ผมคิดว่าเราควรจะยกให้เธอเป็น ‘ผู้นำ Soft power ของแทร่‘ อย่างที่คนสมัยนี้เขาพูดกัน กับผลงานที่จับต้องได้ และเป็นประโยชน์กับคนไทย ช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจไทยในระดับชาติ ซึ่งคนไทยน่าจะได้จากรัฐมากกว่าการไปร่วมเปิดงานกับชาวต่างชาติ ใส่ชุดที่ตัดจากผ้าไทย แล้วบอกว่านี่แหละคือ Soft power แล้ว?

ถ้าผู้ปกครองชุดปัจจุบันแค่จะมองให้ลึก เข้าใจให้จริงถึงสิ่งที่มีค่าของ ‘อัตลักษณ์แบบไทย‘ ที่สามารถโดนใจคนทั่วโลก และมีวิสัยทัศน์มากขึ้นอีกนิดที่จะวางนโยบายผลักดัน ’ของดีของไทย’ ให้ไปสู่สายตาคนทั่วโลก และวางนโยบายที่ส่งต่อสิ่งเหล่านี้ให้ขับเคลื่อน สร้างกระแสเศรษฐกิจไทย มากกว่านโยบายที่แจกเงินประชาชนแล้วก็จบไป ประเทศไทยเราคงไปได้ไกลกว่านี้แน่นอน

เพราะผมเชื่อเหลือเกินในศักยภาพคนไทย ถ้าตั้งใจ ทำจริงแล้วละก็ ไม่มีแพ้ชาติใดในโลก ยังมีคนไทยเก่งๆ แบบนี้อีกเยอะ มาช่วยกันรวมพลัง สร้างคลื่นคนไทยแบบ ‘T-Wave คลื่นลูกใหม่ ไทยนิยม‘ ให้ไปสะเทือนเวทีโลกกันได้อีกแน่นอน ซึ่งจะส่งผลดีกับเศรษฐกิจไทย ด้วยการเริ่มใส่ใจกับการพัฒนาศักยภาพ และการศึกษาของคนไทยตั้งแต่วันนี้ครับ

ผมเองอาจสามารถเรียกได้ว่า เป็นแฟนเพลงตัวจริงของน้องลิซ่า แต่ก็แอบชื่นชมผลงานอยู่ไกลๆ รวมทั้งยังขอเป็นติ่งน้อยๆ ของคนไทยที่ร่วมภาคภูมิใจที่เธอไปเขย่าเวทีโลก ให้ต่างประเทศต้องจับตามองและติดตามศิลปินหญิงคนหนึ่งจากประเทศเล็กๆ ที่ชื่อว่า ‘ประเทศไทย’ ขอบคุณที่เป็นตัวอย่างดีๆ ของคนรุ่นใหม่ และพี่เอ้เองด้วยนะครับ

ว่าแล้ว จะชวนทีมงานน้องๆ พรรคประชาธิปัตย์ไปหาของอร่อยกินที่เยาวราชตามรอย Rockstar กันดีกว่า มีเพื่อนๆ พี่ๆ ท่านไหนสนใจไปด้วยกันไหมครับ? :)

‘หลานม่า’ โดนใจผู้ชมนานาชาติ คว้ารางวัล ‘Audience Award’ ในงานเทศกาลหนัง ‘New York Asian Film Festival 2024’ สหรัฐฯ

(5 ส.ค. 67) นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลตั้งเป้าผลักดันอุตสาหกรรม Soft Power ทั้ง 11 สาขา โดยนำความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรมและเทคโนโลยีมาประยุกต์กับทุนทางวัฒนธรรมเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและบริการของประเทศ ซึ่งอุตสาหกรรมภาพยนตร์เป็นหนึ่งในนโยบายขับเคลื่อน Soft Power ของรัฐบาลตามยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ Thailand creative content agency (THACCA) กับ 11 กลุ่มอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ในปี 2567 กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) จึงร่วมกับคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านภาพยนตร์ สนับสนุนภาพยนตร์ไทยเข้าร่วมเทศกาลภาพยนตร์ในต่างประเทศ เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยให้เป็นที่รู้จักในระดับสากลและสอดคล้องกับนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ของรัฐบาล

“เมื่อเร็วๆ นี้ วธ. โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ได้ร่วมสนับสนุนภาพยนตร์ไทย จำนวน 6 เรื่อง ได้แก่ หลานม่า, แดนสาป, เพื่อน (ไม่) สนิท, สมมติ, Pattaya Heat ปิดเมืองล่า และ Operation Undead (ช.พ.1 สมรภูมิคืนชีพ) เข้าร่วมฉายในเทศกาลภาพยนตร์เอเชียนิวยอร์ก (New York Asian Film Festival) (NYAFF) ซึ่งปรากฏว่าภาพยนตร์ไทยที่เข้าร่วมเทศกาลดังกล่าวได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมงานจำนวนมาก ซึ่งเป้าหมายในการผลักดันภาพยนตร์ไทยเพื่อโปรโมตผลงานภาพยนตร์ไทยและสร้างโอกาสทางการตลาดให้กับผู้สร้างภาพยนตร์ไทย ทั้งนี้เทศกาลภาพยนตร์ฯ ถือว่าเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติที่ถือกำเนิดมายาวนานต่อเนื่องกว่า 20 ปี และเป็นอีกหนึ่งเวทีที่ช่วยเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ภาพยนตร์จากเอเชีย สู่การรับรู้ของผู้ชมทางฝั่งตะวันตก ที่สำคัญคือหนังไทยที่เป็น Soft Power ของประเทศเรานั้น ไม่เคยห่างหายจากเทศกาลระดับโลกนี้เลย สำหรับ NYAFF ปีนี้ มีหนังทั้งเก่าและใหม่นำมาเข้าฉายให้ชมกันกว่า 60 เรื่อง เพื่อเผยแพร่ความเป็นเอเชียในภาพยนตร์ให้ออกสู่สายตาชาวโลกมากขึ้นทั้งยังเปิดโอกาสให้หนังเอเชียเข้าถึงผู้ชมทุกกลุ่มอีกด้วย” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าว    

อย่างไรก็ตาม ภาพยนตร์ที่ได้รับการสนับสนุนครั้งนี้แต่ละเรื่องมีความโดดเด่นและน่าสนใจเฉพาะตัว เช่น ‘หลานม่า’ ที่สะท้อนความอบอุ่นและความสัมพันธ์ในครอบครัว, ‘แดนสาป’ ที่เล่าเรื่องราวลึกลับในดินแดนห่างไกล, ‘เพื่อน (ไม่)สนิท’ ที่เน้นเรื่องราวความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนในกลุ่มเพื่อน ‘สมมติ’ การนำเสนอเรื่องราวที่มีความลึกซึ้งและสร้างสรรค์ การใช้ภาพและเสียงที่มีความละเอียดอ่อนเพื่อสื่อถึงความรู้สึกและอารมณ์ของตัวละครระหว่างโลกแห่งความจริงและจินตนาการ ‘Pattaya Heat ปิดเมืองล่า’ ภาพยนตร์แนวแอคชั่นที่เล่าเรื่องราวของการต่อสู้เพื่อความยุติธรรมในเมืองพัทยาซึ่งมีฉากแอคชั่นที่ตื่นเต้นและการไล่ล่าที่มันส์สะใจ และ ‘Operation Undead (ช.พ.1 สมรภูมิคืนชีพ)’ ภาพยนตร์แนวสยองขวัญและแอคชั่นที่เล่าเรื่องราวของการต่อสู้กับซอมบี้ในสมรภูมิที่เต็มไปด้วยอันตราย สยองขวัญและการต่อสู้ที่ตื่นเต้น เรื่องราวที่เต็มไปด้วยความลุ้นระทึกและการเอาตัวรอดในสถานการณ์ที่เลวร้าย

ทั้งนี้ เป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างมาก เนื่องจากได้รับรายงานว่า ภาพยนตร์เรื่อง ‘หลานม่า’ ได้คว้ารางวัล Audience Award จากเทศกาลภาพยนตร์ New York Asian Film Festival ซึ่งถือว่าภาพยนตร์ไทยโดยคนไทยเรื่องแรกที่คว้ารางวัลดังกล่าวจากเทศกาลภาพยนตร์ New York Asian Film Festival 2024 ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้แก่ภาพยนตร์ในเทศกาลที่ได้รับการโหวตจากผู้ชมมากที่สุด จากภาพยนตร์ที่เข้าร่วมฉายในเทศกาลนี้มากกว่า 100 เรื่อง

“ในอนาคต วธ. มีแผนที่จะสนับสนุนภาพยนตร์ไทยเข้าร่วมเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติอีกหลายแห่ง เช่น เทศกาลภาพยนตร์ลอคาร์โน สวิตเซอร์แลนด์, เทศกาลภาพยนตร์เวนิส อิตาลี, เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติโตรอนโต แคนาดา, เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเซบาสเตียน สเปน และเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติปูซาน สาธารณรัฐเกาหลี นอกจากนี้ยังมีแผนการสนับสนุนอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยในอีกหลายมิติ เช่น การสนับสนุนการผลิตภาพยนตร์ไทย การพัฒนาบุคลากรในอุตสาหกรรมภาพยนตร์และการสนับสนุนให้เกิดเทศกาลภาพยนตร์ในประเทศและต่างประเทศ เพื่อส่งเสริมศักยภาพและความสามารถของผู้สร้างภาพยนตร์ไทยในการแข่งขันในตลาดโลก เพราะการส่งเสริมภาพยนตร์ไทยไม่เพียงแต่เป็นการโปรโมตวัฒนธรรมไทยให้เป็นที่รู้จักในระดับสากล แต่ยังเป็นการเสริมสร้างเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของประเทศ และเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาที่ยั่งยืน” นางสาวสุดาวรรณกล่าว

‘หญิงแย้’ แจง หลังรับสมัครเลขา ค่าจ้าง 17,000 ภาระงานครอบจักรวาล ชี้!! เป็นเพียงเงินเดือนเริ่มต้นช่วงทดลองงาน หากมีหน้าที่มากขึ้นจะปรับให้

(5 ส.ค. 67) เรียกว่าเจอดรามาถล่มไม่น้อยเลยทีเดียว หลังจากอินฟลูฯ คนดัง ‘หญิงแย้ นนทพร’ ออกมาโพสต์รับสมัครงานเลขา เงินเดือน 17,000 แต่คุณสมบัติและหน้าที่คือจัดเต็ม ควบหลายตำแหน่ง จนชาวเน็ตทั้งอึ้งทั้งทึ่งไปตาม ๆ กัน ทำงานจิปาถะ ถ่ายวิดีโอ ตัดต่อ ทำกราฟิกดีไซน์ ดูแลโซเชียล เป็นแอดมินได้ ช่วยแพ็กของ ส่งของต่าง ๆ

งานนี้ หญิงแย้ เลยเจอทัวร์ลง หลายคนมองว่างานขนาดนี้ ทำหลายตำแหน่ง แต่ให้เงินเดือน 17,000 หนักไปไหม หน้าที่ครอบจักรวาลสุด ๆ เรื่องจริงหรือคอนเทนต์กันแน่ ทำไมให้เงินเดือนน้อยขนาดนี้ เมื่อเทียบกับหน้าที่ ความรับผิดชอบตามตำแหน่งงาน

ก่อนที่ล่าสุด หญิงแย้ จะออกมาโพสต์ชี้แจงแบบละเอียดยิบ เกี่ยวกับลักษณะงานของเลขา ที่เจ้าตัวรับสมัคร ว่าต้องทำอะไร อย่างไรบ้าง พร้อมทิ้งท้ายว่า “เป็นเพียงเงินเดือนเริ่มต้นในช่วงทดลองงาน หากมีภาระหน้าที่ที่มากขึ้น ก็จะมีการปรับเงินเดือนให้” โดยรายละเอียดทั้งหมดมีดังนี้

“จากที่แย้ได้ลงประกาศรับสมัครเลขาส่วนตัว 1 ตำแหน่ง เงินเดือน 17,000 บาท จนทำให้เกิดกระแสดรามาต่าง ๆ เรื่องการจ้างงานแย้ออกไปนะคะ

ก่อนอื่นแย้ต้องขออภัยและกราบขอโทษที่ทำให้ทุกคนที่ได้อ่านโพสต์ของแย้แล้วรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ แย้ต้องขออภัยที้ไม่ได้แจ้งอย่างชัดเจนให้ทุกคนรับทราบ ในลักษณะงานของน้องเลขาใหม่ที่แย้ต้องการค่ะ

ก่อนอื่นแย้ต้องขอชี้แจงว่า ปกติแย้จะมีน้องเลขาดูแล 1 คน มีพี่ผจก.ดูแลแย้อีก 1 คน

และในส่วนงานคอนเทนต์ แย้จะเป็นคนครีเอทงานเกือบทั้งหมด ในส่วนของงานคลิปวิดีโอ ตัดต่อคลิป งานกราฟิก แย้จะทำเอง และให้เลขาแย้ช่วยทำ และจะมีจ้างฟรีแลนซ์มาช่วยบ้าง

ถึงตรงนี้ต้องขออธิบายเพิ่มว่าในส่วนงานใช้กล้อง ถ้าเป็นงานที่ลูกค้าต้องการความเป็นส่วนตัว หรือ Real แย้ใช้แค่กล้องเล็กหรือมือถือ แย้จะใช้เลขาหรืออุ๋งที่ไปด้วยกันช่วยถ่ายให้

แต่ถ้าเป็นงานลูกค้าที่ต้องการทีมใหญ่ แย้จะใช้ทีมตากล้องถ่ายงานและส่งงานให้ทีมฟรีแลนซ์ตัดต่อคลิปวิดีโออีกทีนึงค่ะ

แต่เนื่องจากเมื่อไม่นานมานี้ ทุกคนที่ติดตามแย้อาจจะได้ทราบว่า แย้ได้มีการทำธุรกิจใหม่แตกออกมาเพิ่มนอกจากงาน influencer ทำให้งานของน้องเลขาและพี่ผู้จัดการเพิ่มขึ้นโดยอัตโนมัติ แย้เลยได้มีการปรึกษากับ พี่ ผจก.ว่าเราควรรับคนเพิ่ม โดยไหน ๆ ก็จะรับคนใหม่ละ แย้อยากได้เด็กรุ่นใหม่ ๆ ให้มาแบ่งงานในส่วนTikTok ให้ช่วยมาดูแลส่วนนี้โดยเฉพาะ โดยสามารถทำคอนเทนต์สั้น ๆ ถ่ายคลิปสั้น ๆ บนมือถือลง TikTok เพื่อมาช่วยแย้ดูแลงานในส่วนช่อง TikTok ได้

ส่วนที่แย้แจ้งว่า คุณสมบัติดูแลหลังบ้าน Fb Ig TikTok Line OA ต้องยอมรับว่า ทุกคนในบริษัทแย้ที่ผ่านมา 10 ปี เราทำงานกันแบบครอบครัวที่รัก เข้าใจ เห็นอกเห็นใจกัน สนิทกันมาก ๆ ทั้งพี่ผจก. ทั้งน้องเลขา แย้ และอุ๋ง ที่ผ่านมาเราจะช่วยกันตอบคอมเมนต์ และตัวแย้เองจะให้ทุกคนสามารถเข้าถึงสื่อออนไลน์และช่วยกันดูแลหลังบ้านในสื่อต่าง ๆ ของแย้ได้ทั้งหมด เรียกว่าทุกคนสามารถเป็น Admin ได้จากสิทธิ์ที่แย้ไว้วางใจให้ดูแลได้ค่ะ

และในส่วนการแพ็กของ จะมีบางช่วงเวลาที่แย้ Live ขายสินค้าของตัวเองบ้าง วีคละครั้ง หรือ เดือนละครั้ง โดยทั่วไปแย้และแม่บ้านและน้องเลขาจะเป็นคนช่วยแพ็ก

ซึ่งตรงนี้แย้ขอโทษและยอมรับผิดที่รีบโพสต์จนไม่ได้อธิบายทุกอย่างให้ละเอียด แย้อยากให้ทุกคนเข้าใจ ให้ความรักและเอ็นดูแย้เหมือนที่ผ่านมานะคะ ไม่อยากให้เข้าใจเจตนาแย้ผิดพลาดไป กราบขออภัยทุก ๆ คนอีกครั้งนะคะ

ทั้งนี้ ปัจจุบันแย้ยังเปิดรับเลขาให้เข้ามาทดลองงานอยู่นะคะ และขอบพระคุณทุกท่านที่สมัครกันเข้ามากันมากมาย แย้จะรีบตอบกลับให้ไวที่สุดค่ะ แย้ต้องการคนรุ่นใหม่เก่งพร้อมจะมาทำงานให้กับแย้ สร้างโอกาสให้ตัวเองใครที่พร้อมจะเติบโตและรับการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นในอนาคตกับแย้ส่ง Resume แนะนำตัวเองเข้ามานะคะ รักและเคารพทุก ๆ คนมาก ๆ ค่ะ

ในส่วนของเงินเดือนที่หลายท่านมองว่าน้อยไปสำหรับเลขาคนใหม่ของแย้ เป็นเพียงเงินเดือนเริ่มต้นในช่วงทดลองงาน หากมีภาระหน้าที่ที่มากขึ้น ก็จะมีการปรับเงินเดือนให้ค่า”

'อินฟลูฯ ต่างชาติ' ยกย่อง!! ประเทศไทยดูแลประชาชนได้ดีจริงๆ ยกเคส 'เติมลมยางรถฟรี' แต่ที่อังกฤษต้องเสียเงินและมีเวลาจำกัด

เมื่อไม่นานมานี้ ‘คุณลูค’ หรือ เจ้าของบัญชีติ๊กต๊อก (TikTok) ที่ใช้ชื่อว่า ‘imlukematthew’ ซึ่งเป็นอินฟลูเอนเซอร์ชาวต่างชาติจากสหราชอาณาจักร ที่มาท่องเที่ยวประเทศไทยจนรู้สึกติดใจและอาศัยอยู่ในประเทศอยู่ยาวมาข้ามปีกว่าแล้ว ได้ลงคลิปความประหลาดใจกับสาธารณูปโภคของไทยที่สะดวกในการใช้บริการแบบที่บ้านเกิดของเขาไม่มี โดยได้มีการยกตัวอย่าง การเติมลมยางรถในปั๊มน้ำมันของไทย ที่ใช้กันได้ฟรี ๆ ว่า…

'Thailand is King ประเทศไทยคือ ราชา'

โดยเนื้อหาในคลิปดังกล่าวจะเห็นคุณลูคอยู่ในปั๊มน้ำมันเชลล์ พร้อมกับพูดถึงว่า ใคร ๆ ต่างก็พูดกันว่าประเทศไทยเป็นประเทศยากจน แต่สำหรับเขาที่ได้มาอาศัยอยู่ในประเทศไทยนั้นก็ได้พบว่า ประเทศไทยมีดีกว่าอังกฤษมาก พร้อมกับแพนกล้องไปที่เครื่องเติมลมยางรถในปั๊มเชลล์และเสริมว่า…

“ปกติในอังกฤษนะ เขาจะคิดเงินค่าใช้เครื่องเติมลม ไม่ได้ฟรี แต่ในไทย เราแต่จอดรถตรงนี้ (ที่เครื่องปั๊มลม)”

จากนั้นคุณลูคก็ได้อธิบายเปรียบเทียบความแตกต่างในการใช้บริการเครื่องเติมลมระหว่างปั๊มน้ำมันในไทยและอังกฤษว่า...

“ในอังกฤษมีช่องให้หยอดเหรียญ แล้วพอใส่เหรียญ เครื่องเติมลมก็จะทำงานในเวลาจำกัด แต่ที่ไทยให้ใช้ฟรีไม่จำกัดเวลา”

พร้อมกับย้ำว่า ประเทศไทยนั้นดูแลประชาชนดีจริง ๆ ไม่คิดเงินค่าลมยางรถที่เติมใส่ล้อรถ พร้อมกับทิ้งท้ายว่า 'ทีมไทยแลนด์!!'

ทางด้านชาวเน็ตต่างก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นกับคลิปของคุณลูค ซึ่งส่วนมากจะเป็นการสนับสนุนความคิดเห็นของเขาเช่นกัน “ไม่ใช่แค่ปั๊มเชลล์ครับ ทุกปั๊มเลยครับ แม้แต่ร้านซ่อมรถข้างทาง เขาก็ให้เติมลมฟรีครับ” 

นอกจากความคิดเห็นสนับสนุนแล้ว ชาวเน็ตคนไทยต่างก็ขอบคุณคุณลูคที่รักประเทศไทยและตื่นตาตื่นใจกับสิ่งที่ดูเหมือนธรรมดาสำหรับคนไทยอย่างเรื่องการเติมลมยางในปั๊มน้ำมัน แต่กลับเป็นเรื่องมหัศจรรย์ในสายตาชาวต่างชาติ

ถือเป็นหนึ่งในซอฟต์พาวเวอร์ของไทยในทางอ้อมจริง ๆ

'เชฟชุมพล' วอน!! 'พรรคประชาชน' โปรดพูดความจริงในสภาฯ อย่าบิดเบือนข้อมูลงบประมาณ Soft Power อาหารไทย

(5 ก.ย. 67) ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 วงเงิน 3.75 ล้านล้านบาท ปรับลด 7,824,398,500 บาท วาระที่ 2 เป็นวันที่ 3 มีช่วงหนึ่งที่ นายณัฐพล โตวิจักษณ์ชัยกุล สส.เชียงใหม่ พรรคประชาชน (ปชน.) ได้อภิปรายตั้งข้อสังเกตขอตัดงบประมาณโครงการซอฟต์พาวเวอร์ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม จำนวน 6 โครงการ วงเงิน 762,386,000 บาท ที่แบ่งออกเป็นโครงการด้านอาหาร 4 โครงการ และแฟชัน 2 โครงการ สามารถรีดไขมัน เพื่อประหยัดงบประมาณได้

อย่างไรก็ตาม ประเด็นในการตั้งข้อสงสัยที่ดูจะไม่ถูกต้องสักเท่าไร คือ โครงการ 1 หมู่บ้าน 1 เชฟ วงเงิน 468 ล้านบาท ที่ สส.คนดังกล่าว อ้างว่า มีค่าจัดเลี้ยงอาหาร อาหารว่างและเครื่องดื่ม 289 ล้านบาท หรือ 60% ของโครงการนั้น...

ด้าน เชฟชุมพล แจ้งไพร ประธานอนุกรรมการในโครงการดังกล่าว ในฐานะเชฟดีกรีมิชลินสตาร์ 2 ดาว และเป็นหนึ่งในทีมทำอาหารเลี้ยงผู้นำเอเปค 2022 ก็ได้ออกมาตอบโต้ผ่านจากประเทศแคนาดาทันที ว่า...

เมื่อสักครู่ได้ดูการถ่ายทอดการประชุมงบประมาณ ผมมีความไม่สบายใจหนึ่งนะครับ เพราะว่ามี สส.ท่านหนึ่งจากพรรคฝ่ายค้าน ที่อภิปรายโครงการ 'หนึ่งหมู่บ้าน หนึ่งเชฟ' ซอฟต์พาวเวอร์อาหารไทยงบ 468 บาท โดยนำข้อมูลที่มีความผิดพลาดมาอภิปราย ซึ่งอาจจะกลายเป็นความเข้าใจผิดที่สร้างความเสียหายต่อคนทำงานได้

ในฐานะที่ผมเป็นประธานอนุกรรมการ แล้วก็มีอนุกรรมการฯ ที่ทํางานด้วยกันร่วม 30 ท่าน จึงอยากขอชี้แจงผ่านจากประเทศแคนาดา เพราะว่าบางอย่างที่มันไม่ถูกนำเสนอเป็นเรื่องไม่จริง ไม่ควร และจะทําให้ผู้ที่ต้องการทํางานจริง ๆ เสียกําลังใจ

ทั้งนี้ ผมอยากจะให้มาดูข้อเท็จจริงนะครับว่า ค่าใช้จ่ายจริงในส่วนของปี 68 ที่เราขอจากคณะอนุกรรมการฯ และทางกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรมนั้น ที่ขอไปกว่า 500 ล้านบาทนั้น ได้ถูกปรับลดจากสํานักงบประมาณไปกว่า 120 ล้านบาทแล้ว จนเหลือ 468 ล้านบาท ซึ่งตัวเลขนี้เป็นเรื่องจริง

แต่ผมอยากให้ดูตรงรายละเอียดค่าใช้จ่าย 289 ล้านบาท ที่ สส.คนดังกล่าวอ้างว่า เป็นค่าอาหารจัดเลี้ยง ค่าอาหารว่างและเครื่องดื่ม ... ตรงนี้ไม่ใช่เลยนะครับ!!

ท่านไปนำค่าใช้จ่ายนี้มาจากที่ไหน?

เพราะความเป็นจริง ตัวเลข 289 ล้านบาทนี้ เป็นงบที่ใช้ไปกับบุคลากร 17,000 คน ตกคนละ 15,000 บาท ซึ่งรายการนี้จะต้องจ่ายไปที่มหาวิทยาลัย / วิทยาลัยต่าง ๆ แล้วก็อาชีวะทั่วประเทศ ที่ทํางานร่วมกับคณะกรรมการซอฟต์พาวเวอร์ ซึ่งจะมีหน้าที่ไปทำการอบรมพี่น้องประชาชนทั้งหมดทั่วประเทศครับ

ย้ำว่าเป็นการให้งบแก่สถาบันต่าง ๆ ไม่ว่าอาชีวะหรือมหาวิทยาลัย สังกัดอว. ที่เราจับมือเป็นพันธมิตรร่วมกันทั้งประเทศ ร่ววม 160 แห่ง โดยใครที่รับผิดชอบในการจะเทรนด์ให้กับพี่น้องประชาชน ... งบประมาณตรงนี้ ก็จะต้องจ่ายเป็นค่าหัวไปให้กับสถาบันต่าง ๆ ฉะนั้น ไม่ใช่ค่าอาหารจัดเลี้ยงและค่าอาหารว่างเครื่องดื่ม ตามที่ สส.ฝ่ายค้านคนดังกล่าวนำเสนอ!!

การนําเสนอแบบนี้มันสร้างความสับสนและการเสียหาย ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องที่น่าจะควรระวัง เพราะความตั้งใจของโครงการนี้ เกิดขึ้นเพื่อต้องการให้พี่น้องนั้นได้มีโอกาสเพิ่มรายได้ สร้างโอกาสให้กับชีวิทุก ๆ คน และเอาจริง ๆ งบรวมก้อนนี้ก็เหลือ 420 กว่าล้านไม่ใช่ 468 ล้านแล้วด้วย เพราะสํานักงานสํานักงบประมาณปรับลดลงไปอีก จึงอยากรบกวนและขอร้องให้เอาเรื่องจริงมาพูดครับ

เปิดตัวชุดประจำชาติ 'โอปอล สุชาตา' ใน MUT 2024 แรงบันดาลใจจาก 'สมเด็จพระมหาเทวีศรีสุริโยไท'

(18 ก.ย. 67) มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2024 เปิดตัวชุดประจำชาติ (National Costume) ‘สยามมานุสตรี’ ของ ‘โอปอล สุชาตา ช่วงศรี’ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2024 ตัวแทนสาวไทยในการเข้าร่วมการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2024 ที่จะจัดขึ้นที่ประเทศเม็กซิโก ในเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้

โดยในปีนี้ทางกอง TPN ตัดสินใจเลือก ชุดสยามมานุสตรี ที่ได้รับแรงบันดาลใจมากจากพระราชพงศาวดารกล่าวถึง ครั้งสมเด็จพระมหาเทวีศรีสุริโยไท ทรงกระทำยุทธหัตถีกลางสมรภูมิอย่างหาญกล้า ทรงเป็นวีรสตรีที่ละพระชนม์ชีพเพื่อเป็นตัวแทนปกป้องบ้านเมือง นี่คือตัวอย่างของพลังที่ไร้ขีดจำกัดของผู้นำหญิงของไทยที่มีมาแต่โบราณ ตอกย้ำความสามารถในการเป็นผู้นำด้วยความหาญกล้าของหญิงไทย นำมาสู่แรงบันดาลใจในการออกแบบชุดสยามมานุสตรี โดยใช้เทคนิคงานหัตถศิลป์ชั้นสูง รวมถึงงานประดับปีกแมลงทับอันวิจิตรบรรจงรวมผู้เชี่ยวชาญและครูช่างครบทุกแขนง นับเป็นความภาคภูมิใจและพลังในการขับเคลื่อนงานศิลปาชีพของไทยสู่สายตาชาวโลก

ซึ่งเป็นชุดที่โอปอลสวมใส่ขึ้นอวดความสวยอลังการในการประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2024 และเป็น 1 ใน 10 ชุดที่ดีที่สุดในรอบการประกวดดังกล่าว ผลงานการออกแบบโดย คุณบุหลัน ปั้นบรรจง ร่วมสร้างสรรค์โดยสมาคมภริยาช่างสิบหมู่

ย้อนชมชุดประจำชาติในยุคของ TPN Global

ปี 2023
‘ชุดเทวสตรี ศรีอโยธยา’ ได้รับแรงบันดาลจากรูปปั้น ‘พระแม่ธรณี’ ในช่วงยุคอยุธยาที่สามและสี่ของอาณาจักรสยามที่มีอยู่ในช่วงทศวรรษที่ 14 ถึง 18 

แม่ธรณีในประวัติศาสตร์พุทธไทย ถูกนับถือเป็นอย่างสูงและได้รับบูชาตลอดประวัติศาสตร์ไทย กล่าวถึงความเชื่อว่าตั้งอยู่ในดินแดนที่ทรงพระพรมความอุดมสมบูรณ์และความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ เป็นแทนความสำคัญของธรรมชาติต่อมนุษย์และแสดงถึงการปกป้องดินและความรุ่งเรืองของมันที่คนไทยเก็บไว้ในใจ ประดับประดาเครื่องแต่งกายด้วยเครื่องประดับ ที่ถูกสร้างให้เหมือนกับรูปปั้นจากอาณาจักรอยุธยา จิวเวลรีรวมกับการใช้ลวดเส้น และใช้สีหินและพลอยคำที่มีค่าเพื่อสอดคล้องกับข้อมูลธรณีวิทยาที่บันทึกไว้จริงจากสมัยนั้น ออกแบบโดย คุณกมลรส ทูลภิรมย์ จากห้องเสื้อทรงเสน่ห์ผ้าลายอย่าง

ปี 2022
‘ชุดสงกรานต์เทวี’ สัญลักษณ์ของเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากนางสงกรานต์ ประจำปี 2566 ‘นางกิมิทาเทวี’ ซึ่งเป็นหนึ่งในเทพธิดาทั้งเจ็ดของท้าวกบิลพรหม

ลวดลายของชุดได้แรงบันดาลใจมาจากหัตถศิลป์ หัตถกรรม ผ้าทอโบราณ ผ้าทอลายน้ำไหล ประดับตกแต่งด้วยงานปัก ลูกปัด คริสตัล เลื่อม และขวดน้ำที่เหลือใช้จากการบริโภค นำมาประยุกต์ให้มีความทันสมัย พร้อมขันเงินที่ทำโดยช่างฝีมือคนไทย สื่อถึงการรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ การเล่นน้ำ หรือใช้ในชีวิตประจำวัน แสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิต วัฒนธรรม ประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่นที่มีความประณีตสร้างสรรค์ รวมถึงสะท้อนให้เห็นถึงความสุข ความรัก ความอ่อนน้อมถ่อมตน และความงดงามที่สืบทอดต่อกันมาอย่างช้านานอีกด้วย ออกแบบโดย คุณแชมป์ พีรณัฐ วิริยะ ดีไซเนอร์เจ้าของแบรนด์ Ciqure

ปี 2021
‘ชุดนางคาด’ แรงบันดาลใจมาจากพลังเลือดนักสู้ในตัวหญิงสาว ผ่านรูปแบบศิลปะการต่อสู้ไทยโบราณอย่างมวยคาดเชือก ประยุกต์ให้เข้ากับความเป็นสากล ดุจดังพลังความหาญกล้า ผสมความงามของหญิงสาว ผ่านเส้นเชือกที่ร้อยต่อถักทอประดับโลหะคาดไปกับหมัดและร่างกายของสาวงาม เป็นพลังสำคัญที่จะประกาศให้ทั้งโลกได้เห็นถึงวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์และพลังนักสู้ของคนไทย 

ไม่เพียงเท่านั้นนางคาดยังแสดงให้คุณเห็นว่านางงามว่าเป็นได้มากกว่าภาพลักษณ์ที่สวยงาม อีกนัยสำคัญของคำว่า ‘คาด’ คือการนำพลังใจจากคนไทยทั้งประเทศเรียงร้อยรวมกันอย่างเหนียวแน่น เพื่อส่งใจเชียร์ตัวแทนสาวไทยอย่างแอนชิลี ผลงานออกแบบโดย คุณจาตุรณ แร่เพชร ซึ่งเป็นผู้ชนะเลิศในการออกแบบชุดประจำชาติ จากบรรดาดีไซเนอร์ที่ส่งแบบเข้าประกวดกว่า 200 ชุดบนเวทีมิสยูนิเวิร์ส 2021

ปี 2020
‘ชุดไตรรงค์อนงค์นาถสุพรรณมัจฉา’ หรือ ชุดปลากัดไทย แรงบันดาลใจมาจากนางสุพรรณมัจฉา นางในวรรณคดีเรื่องรามเกียรติ์ โดยได้นำความงามสง่าของนางสุพรรณมัจฉาแต่ปรับโฉมออกมาให้เป็นความงามของปลากัดไทย สัตว์น้ำประจำชาติที่ทรงคุณค่าและมีสีสันสวยงาม เสริมความโดดเด่นด้วยสีสันของธงไตรรงค์ลงบนครีบอันพลิ้วไหว 

ซึ่งลวดลายดังกล่าวเป็นลายเสมือนจริงของปลากัดหางสั้นลายธงชาติ ที่ขึ้นชื่อว่ามีราคาสูงสุดในประวัติศาสตร์ไทย ที่รู้จักกันในนามเจ้าไตรรงค์ ออกแบบโดย คุณอัครัช ภูษณพงษ์ หรือ อาร์ทอัครัช เนรมิตศิลป์ นักออกแบบชุดประจำชาติบนเวทีนางงาม ที่มีผลงานประจักษ์มาแล้วหลายเวที

ปี 2019
‘ชุดผีตาโขน’ แรงบันดาลใจมาจากเอกลักษณ์ท้องถิ่นอย่างประเพณีผีตาโขน ของอำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย นำเสนอลวดลายผ้าของภาคอีสาน ผ่านกระบวนการปักหลายเทคนิคเพื่อให้ความรู้สึกตระการตา ตัวชุดมีการนำวัสดุเหลือใช้อย่างเช่น ถุงก๊อปแก๊ปหลากสี ช้อนพลาสติก ขวดน้ำอัดลมพลาสติกสีเขียว เชือกฟาง หลอดดูดน้ำ ตะกร้าพลาสติกที่พังแล้ว ลูกโป่ง และพรมเช็ดเท้าสานแบบบาง มาเพิ่มคุณค่าในรูปแบบของงานศิลปะรีไซเคิล 

ซึ่งได้รับร่วมแรงร่วมใจกันจัดหาของกลุ่มแฟนนางงาม ตัวหน้ากากผีตาโขน ถูกออกแบบให้มีความสูงอยู่ที่ระดับ 2.5 เมตร จุดเด่นให้ครอบศีรษะลักษณะคล้ายหวดนึ่งข้าวเหนียว ใบหน้ายาว จมูกโค้งงอ ตกแต่งความงามให้สื่อถึงความบันเทิงและสนุกสนาน ออกแบบโดย คุณอลงกรณ์ กองอิน ผู้ชนะเลิศจากการแข่งขันประกวดชุดประจำชาติในโครงการ ความเป็นไทยร่วมสมัยที่ฟ้าใสจะใส่ไปคว้ามง

ซึ่งทั้ง 5 ชุดประจำชาติ ในปี 2019-2023 ซึ่งอยู่ในยุคของ TPN Global ยังไม่เคยมีชุดไหนได้รับรางวัลชุดประจำชาติยอดเยี่ยม ดังนั้น ‘ชุดสยามมานุสตรี’ ที่ ‘โอปอล สุชาตา ช่วงศรี’ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2024 จะสวมใส่ขึ้นในรอบ National Costume ในการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2024 ครั้งนี้ จึงเป็นอีกหนึ่งความหวังของแฟนนางงาม ว่าประเทศไทยจะสามารถคว้ารางวัลมาได้ หลังจากที่ตัวแทนสาวไทย ‘แนท อนิพรณ์ เฉลิมบูรณะวงศ์’ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2015 เคยคว้ามาได้จาก ‘ชุดตุ๊กตุ๊ก ไทยแลนด์’


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top