Friday, 13 June 2025
PoliticsQUIZ

‘นักวิชาการ’ ชี้!! สารพัดปัจจัยหนุน ภท.เนื้อหอม ‘มีเอกภาพ-ไร้ขัดแย้ง’ พื้นที่ปลอดภัยเอื้อ ส.ส.แห่ซบ

นักวิชาการ ประสานเสียงวิเคราะห์เหตุ ‘ภูมิใจไทย’ เนื้อหอม ส.ส.แห่ย้ายร่วม เชื่อสารพัดปัจจัยหนุน มีเอกภาพ-ไร้ความขัดแย้ง ดันเป็นพรรคหลักตั้งรัฐบาล

ไม่นานมานี้ รศ.ดร.โอฬาร ถิ่นบางเตียว อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มองความเคลื่อนไหวดังกล่าวถึงกระแสข่าวเรื่อง 37 ส.ส.จากหลายพรรคการเมือง เตรียมสมัครเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทยนั้น ว่า…

อันนี้น่าจะเป็นสัญญาณบวกของพรรคภูมิใจไทย ที่พรรคเขามีกระแสพอสมควร โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา เพราะนักการเมือง คงไม่ย้ายไปพรรคที่ไม่มีอะไรขายเลย แต่ย้ายมาขนาดนี้ แสดงว่า มีจุดขาย ข้อต่อมา คนที่ย้าย เขาคงมีความมั่นใจในนโยบายพรรค ว่าดีพอสู้กับคู่แข่ง ที่เห็นเด่น ๆ คือ เป็นนโยบายที่พูดได้ ทำได้ นอกจากนั้น ผลงานที่ผ่านมาในการผลักดันนโยบายของพรรคได้พิสูจน์ความตั้งใจที่จะทำให้สำเร็จ ตรงนี้ ประชาชนเห็น แม้ว่ามีพรรคการเมืองอื่นพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้นโยบายผ่านเป็นกฎหมาย เพราะบางพรรคกลัวเสียผลประโยชน์ในทางเศรษฐกิจการเมือง แต่พรรคก็สู้ยิบตาเพื่อรักษาสัจจะที่ให้ไว้กับประชาชน ที่ต้องไม่ลืม คือ ลักษณะเด่นในการทำงานการเมืองของพรรคภูมิใจไทย คือ ไม่สร้างเงื่อนไขทางการเมือง ไม่มีวาระซ่อนเร้นกับประชาชน มีจุดยืนชัดเจน ทำให้ ส.ส.ลูกพรรคสบายใจในการทำงาน ซึ่งความสบายใจดังกล่าว มันก็มาจากความเป็นเอกภาพในพรรค ที่ไม่มีการกลุ่มมุ้ง ไม่แบ่งก๊ก แบ่งกลุ่ม เพื่อต่อรองเรียกร้องผลประโยชน์ของกลุ่มเหมือนพรรคการเมืองอื่นๆ จนนำไปสู่ปัญหาความขัดแย้งภายในพรรคจนพรรคแตก แล้วพรรคพยายามวางบทบาทสถานะทางการเมืองที่ไม่เป็นคู่ขัดแย้งกับใคร นี่คือ พื้นที่ปลอดภัยสำหรับนักการเมืองจำนวนไม่น้อย

“ความมีเอกภาพทำให้ลูกพรรคไม่ต้องลำบากใจในการทำงานการเมือง และไม่มีแรงกดดันทางทั้งภายในภายนอก ไม่ต้องวิ่งหาอำนาจอื่น หรือผู้มีบารที่อยู่เหนือพรรคหรือนอกพรรคมากดดันผู้บริหารพรรค จนทำให้หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคเป็นเพียงตำแหน่งสมมติตั้งลอยให้ครบองค์ประกอบเท่านั้น สภาพปัญหาดังกล่าวที่เกิดขึ้นในพรรคการเมืองอื่นทำให้ ส.ส.เหล่านี้ต้องตัดสินใจทิ้งพรรคการเมืองที่ไม่มีระบบ มีอำนาจซับซ้อนเกินไป หัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรคไม่มีอำนาจจริงตัดสินใจอะไรไม่ได้ จึงไม่น่าแปลกใจที่ ส.ส.เหล่านั้นต้องย้ายมาสังกัดพรรคภูมิใจไทยเพราะมีความเป็นระบบมากกว่า อย่างน้อยที่สุดก็มั่นใจได้แน่ว่าหัวหน้าพรรค คือ หัวหน้าพรรคตัวจริง และ มีอำนาจจริง ไม่ใช้ตุ๊กตามนุษย์ที่เขาอุปโลกน์ให้เป็นหัวหน้าพรรคแต่ในนาม จากนี้ พรรคภูมิใจไทย จะกลายเป็นพรรคขนาดใหญ่รองจากเพื่อไทยที่จะมีบทบาทการเมืองสูงหลังการเลือกตั้ง และในการจัดตั้งรัฐบาลหน้าภูมิใจไทยจะไม่ใช่พรรคตัวแปรอีกต่อไป แต่จะเป็นพรรคที่จะมีอิทธิพลทางการเมืองสูงในการจัดตั้งรัฐบาล เป็นพรรคที่จะกำหนดวาระการเมืองซึ่งจะทำให้ความขัดแย้ง 2 ขั้วคลี่คลายลงได้ การวางบทบาทในการกำหนดวาระการเมืองเพื่อคลี่คลายความขัดแย้ง 2 ขั้ว คือ การปูทางไปสู่อนาคตทางการเมืองของภูมิใจไทยในสมัยต่อไป”

ด้าน ผศ.ดร.วันวิชิต บุญโปร่ง อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ ม.รังสิต มองว่า นักการเมืองวิเคราะห์แล้วว่า ถนนทุกสายทางการเมือง ทุกค่าย ทุกขั้วกลุ่มการเมืองต่างยอมรับว่าพรรคภูมิใจไทย จะเป็นพรรคที่เติบโตมากขึ้นเป็นเท่าตัว หลังจากการเลือกตั้งปี 2566 อะไรที่ทำให้หลายๆ คนเชื่อเช่นนั้น แน่นอนว่าองค์ประกอบสำคัญยืนยันด้วยหลักฐานเชิงประจักษ์ดังนี้... 

'พิธา' ยัน!! ความสัมพันธ์ 'เพื่อไทย' แน่นแฟ้น ชี้!! ค่าแรงต้องขึ้นต่อเนื่องไม่ใช่แค่ช่วงเลือกตั้ง

(14 ธ.ค. 65) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยประกาศนโยบายค่าแรงวันละ 600 บาท ว่า ตนคิดว่า นโยบายค่าแรงเป็นสิ่งที่พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยมีความคิดเห็นตรงกัน เป็นสิ่งที่ตนอยากจะชวนพรรคเพื่อไทยมาทำร่วมกันในระบบประชาธิปไตย ที่มีระบบรัฐสภาซึ่งสามารถเสนอนโยบายของแต่ละพรรคได้ เพื่อให้เกิดผลดีที่สุดกับประชาชน ถือว่าเป็นนิมิตหมายที่ดีที่ทั้งสองพรรคเห็นผู้ใช้แรงงานเป็นจุดศูนย์กลาง เพราะฉะนั้นในภาพใหญ่เรายืนยันว่าเรามีความสัมพันธ์ที่ดีกับพรรคเพื่อไทยมาโดยตลอด รวมถึงในอนาคตอาจจะมีบางอย่างที่เห็นไม่ตรงกันบ้างในเรื่องของการทำงาน แต่ตนคิดว่าน่าจะหาจุดร่วมกันได้ ที่เห็นตรงกันชัดเจนที่สุดคือสวัสดิการความเป็นอยู่ของประชาชนผู้ใช้แรงงาน

“ผมขอยืนยันว่า เรามีความสัมพันธ์ที่ดีกับพรรคเพื่อไทยมาตลอด ตั้งแต่ในอดีต ปัจจุบัน และหวังว่าในอนาคต เมื่อเราเริ่มแถลงนโบายก็มีหลายเรื่องที่เห็นตรงกัน ถ้าเราเป็นรัฐบาลร่วมกันก็สามารถที่จะแบ่งงานกันทำได้ และทำงานไปในทิศทางเดียวกัน” นายพิธากล่าว

‘อดีตบิ๊ก ศรภ.’ เผยต่างชาติสนใจไทยจัดการ ‘คดีตู้ห้าว’ พร้อมเตือนสติคนไทย อย่ามัวหลงทางเรื่องค่าแรง 600

‘พล.ท.นันทเดช’ เผยทั่วโลกกำลังจับตาดูไทยในการใช้กฎหมายจัดการทุนจีนสีเทา เตือนอย่าไปหลงทางกับเรื่องเล็ก ๆ อย่างค่าแรง 600 บาท

(15 ธ.ค. 65) พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) โพสต์เฟซบุ๊ก ในหัวข้อ ‘ตู้ห้าว’ กำลังเป็น ‘ตู้ว่างเปล่า’ มีเนื้อหาว่า ปรากฏการณ์ของ ‘มาเฟียทุนจีนสีเทา’ กำลังส่งผลกระทบต่อสังคมไทยอย่างรุนแรงตลอดระยะเวลาเกือบ 2 เดือนที่ผ่านมา ขอย้ำว่าเวลาผ่านมาแล้วถึง 2 เดือน แต่คดีคืบหน้าไปอย่างแผ่ว ๆ ถ้าไม่มีคุณชูวิทย์ ป่านนี้คงจะเงียบไปแล้ว

น่าเศร้าที่สังคมไทยกำลังตกเป็นเหยื่อของคนต่างชาติกลุ่มหนึ่ง องค์กรที่ดูแลสังคม รวมทั้งพรรคการเมืองต่าง ๆ ก็พลอยเงียบไปด้วย ที่มันแปลก คือ เงียบไปทั้งฝ่ายค้าน และฝ่ายรัฐบาล

เช็กชื่อ 31 ส.ส. แห่ยื่นใบลาออก พปชร. คาดเปิดตัวกับพรรคภูมิใจไทย 16 ธ.ค.นี้

หลังจากที่มีกระแสข่าวจะมีส.ส.ยื่นใบลาออกจากตำแหน่งจำนวนมากในวันที่ 13-14 ธ.ค.เพื่อเตรียมไปเปิดตัวกับพรรคภูมิใจไทยในการประชุมพรรควันที่ 16 ธ.ค.นั้น เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.ที่ผ่านมา ก็ได้มี ส.ส.จำนวน 31 คน ยื่นหนังสือลาออกต่อสำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรแล้ว โดยให้มีผลในวันที่ 15 ธ.ค.นี้ ประกอบด้วย พรรคพลังประชารัฐ 11 คน ได้แก่ 

1.นายจักรพันธ์ พรนิมิตร ส.ส.กทม. 
2.นายกษิดิ์เดช ชุติมันต์ ส.ส.กทม. 
3.น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส.กทม.
4.นายมณเฑียร สงฆ์ประชา ส.ส.ชัยนาท 
5.นายสัมฤทธิ์ แทนทรัพย์ ส.ส.ชัยภูมิ 
6.นายปฐมพงศ์ สูญจันทร์ ส.ส.นครปฐม 
7.นายกฤษณ์ แก้วอยู่ ส.ส.เพชรบุรี 
8.นายอนุชา น้อยวงศ์ ส.ส.พิษณุโลก 
9.นายประทวน สุทธิอํานวยเดช ส.ส.ลพบุรี กาญจนบุรี 
10.นายธรรมวิชญ์ โพธิพิพิธ ส.ส.กาญจนบุรี 
11.นายอัฎฐพล โพธิพิพิธ ส.ส.กาญจนบุรี

พรรคเพื่อไทย จำนวน 7 คน ได้แก่ 
1.นายธีระ ไตรสรณกุล ส.ส.ศรีสะเกษ 
2.นายประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ ส.ส.กทม. 
3.นายนิยม ช่างพินิจ ส.ส.พิษณุโลก 
4.นายจักรพรรดิ ไชยสาส์น ส.ส.อุดรธานี 
5.นายวุฒิชัย กิตติธเนศวร ส.ส.นครนายก 
6.นายสุชาติ ภิญโญ ส.ส.นครราชสีมา 
7.นายนพ ชีวานันท์ ส.ส.พระนครศรีอยุธยา

พรรคก้าวไกล 5 คน ได้แก่ 
1.นายขวัญเลิศ พานิชมาท ส.ส.ชลบุรี 
2.นายเอกภพ เพียรพิเศษ ส.ส.เชียงราย 
3.นายพีรเดช คําสมุทร ส.ส.เชียงราย 
4.นายเกษมสันต์ มีทิพย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 
5.นายคารม พลพรกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อ 

‘ศุภชัย’ ยัน!! กัญชาไม่ได้กลับไปเป็นยาเสพติด หลังที่ประชุมตัด ม.3 ออก ทำหลายฝ่ายเข้าใจผิด

‘ศุภชัย’ แจง ยันกัญชาไม่ใช่ยาเสพติด หลังเกิดการเข้าใจผิดในที่ประชุมขอตัดมาตรา 3 บอกตัวเองขอคิดบวก มองจะทันสมัยประชุมนี้ ดักทางเพื่อนสมาชิก เพื่อไม่ให้ย้อนแย้งกับที่สิ่งที่ห่วงไม่มี กม.ดูแลเยาวชน ควรดันให้ผ่านโดยเร็ว

(15 ธ.ค. 65) เวลา 10.00 น. ที่รัฐสภา นายศุภชัย ใจสมุทร ประธานคณะกรรมาธิการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชา กัญชง แถลงข่าวกรณีที่มีกระแสข่าวจะนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดว่า ตนเห็นข่าวที่ออกมาแล้วคิดว่า ไม่ตรงกับความเป็นจริง โดยร่าง พ.ร.บ.กัญชากัญชงมาตรา 3 ระบุว่า กัญชาไม่ถือเป็นยาเสพติดตามกฏหมายยาเสพติดอื่น ซึ่งเป็นการเขียนขึ้นเพื่อย้ำว่ากัญชาไม่ใช่ยาเสพติด แต่เมื่อวานในที่ประชุมมีการลงมติกันว่าจะตัดความมาตรา 3 ออก ทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่ากัญชาจะกลับไปเป็นยาเสพติดอีกครั้ง ซึ่งตนขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง

“การตัดความในมาตรานี้ออกแปลว่าจะไม่ปรากฏความในมาตรานี้ แต่มันไม่ได้ทำให้เกิดการเข้าใจผิดว่ากัญชาจะกลับไปเป็นยาเสพติด มีสื่อบางฉบับออกข่าวว่ากัญชากลับไปเป็นยาเสพติด เพราะตัดความในมาตรา 3 ซึ่งมันไม่ใช่” นายศุภชัยกล่าว

‘เพื่อไทย’ จวก 'ประยุทธ์' อย่าลอยตัวเหนือปัญหา หลังส.ส.ออกเพียบ แนะ!! ต้องเร่งตัดสินใจยุบสภา

วันที่ (15 ธ.ค. 65) นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวกรณี 31 ส.ส. เตรียมลาออกเพื่อย้ายไปสังกัดพรรคการเมืองใหม่ว่า 8 ปี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ทำการเมืองย้อนยุค ก่อรัฐประหาร ฉีกรัฐธรรมนูญ เขียนกติกาที่ตัวเองได้ประโยชน์ เพื่อการสืบทอดอำนาจ สร้างความเสียหายต่อประชาธิปไตย และส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ

ปรากฏการณ์ ส.ส. ย้ายพรรคครั้งมโหฬาร สะท้อนการปฏิรูปการเมืองเป็นวาทกรรมลวง ปฏิรูปก่อนเลือกตั้งไม่มีอยู่จริง ปฏิรูปหลังเลือกตั้งมีแต่ความว่างเปล่า ในอดีตเคยมีปุ๋ยสูตร 15-15-15 ปัจจุบันการประมูลซื้อตัว ส.ส. อาจมาในสูตร 30-50-80 หว่านพืชก็ต้องหวังผล ลงทุนก็ต้องหวังกำไร ถ้ามีการประมูลซื้อตัว ส.ส.100 คน คนละ 80 ล้านบาท ต้องใช้เงินจำนวนมากมายมหาศาลขนาดไหน การถอนทุนทางการเมืองในอนาคตก็จะตามมา

‘พัชรินทร์’ เปิดใจ หลังลาออกจาก พปชร. พร้อมขอบคุณ ‘บิ๊กป้อม’ ที่ให้โอกาสเสมอมา

‘ดร.พัชรินทร์’ โพสต์เฟซบุ๊กเปิดใจ เหตุลาออกพรรค ‘พลังประชารัฐ’ ขอเดินไปกับผู้มีพระคุณ พร้อมขอบคุณ ‘ประวิตร’ ให้โอกาส ก่อนติดแฮชแท็ก #พูดแล้วทำ เตรียมเข้าสังกัดพรรค ‘ภูมิใจไทย’ เชื่อเป็นทางเลือกใหม่ของคน กทม.

วันนี้ (15 ธ.ค. 65) ดร.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ โพสต์เฟซบุ๊ก เปิดใจภายหลังยื่นลาออกจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และพรรคพลังประชารัฐ ว่า เมื่อถึงทางแยก ที่ต้องตัดสินใจครั้งใหญ่ การเดินทางบนเส้นทางการเมืองของตน นับตั้งแต่วันที่เริ่มเรียนรู้งานการเมือง จนกระทั่งถึงวันที่ก้าวสู่การเมืองอย่างจริงจัง ในการลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. กทม. เขต 2 ปทุมวัน บางรัก สาทร

ตนได้รับความไว้วางใจจากประชาชนในพื้นที่ ให้เป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชน ดำรงตำแหน่งอันทรงเกียรติ คือ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในนามของพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งในวันที่ลงสมัคร ส.ส.กรุงเทพมหานคร ตนไม่ได้เป็นทายาททางการเมืองของใครในพื้นที่ กทม. เลย แต่ที่ตนมาในจุดนี้ได้ ต้องขอบพระคุณ ‘พี่บี พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์’ ที่เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจในการทำงานของตน และผลักดันให้ส้มเข้าสู่สนามเลือกตั้งในปี พ.ศ. 2562 ตลอดระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่ง ส.ส. ตนมั่นใจว่า ได้ทุ่มเท และตั้งใจอย่างเต็มที่ ในการปฏิบัติหน้าที่ของตัวเอง ทั้งในสภา ในพื้นที่ รวมทั้งงานในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ จนกระทั่งผู้ใหญ่ในพรรคเห็นถึงความตั้งใจทำงานจึงได้มอบโอกาส ในการรับหน้าที่ที่สำคัญของพรรค คือ การเป็นโฆษกพรรคพลังประชารัฐ ต้องกราบขอบพระคุณท่าน พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ รวมทั้งผู้ใหญ่อีกหลายๆ ท่าน ที่ให้การสนับสนุน และเห็นถึงความตั้งใจในการทำงาน ไว้วางใจ และมอบหมายหน้าที่อันสำคัญนี้

‘หมออ๋อง’ จับพิรุธ กกต. เพิ่มวงเงินหาเสียง 4 เท่า ชี้!! พรรคที่จะได้ประโยชน์ คือ พรรครัฐบาล

‘หมออ๋อง’ จับพิรุธ กกต. เพิ่มกรอบวงเงินหาเสียง 4 เท่า เอื้อพรรครัฐบาลหรือไม่ จี้ทำงานสร้างบรรยากาศการเมืองเป็นธรรม เชื่อประชาชนรู้ทัน เลือกพรรคที่ตรงไปตรงมา

(15 ธ.ค. 65) ปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก เขต 1 พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ส่งหนังสือถามพรรคการเมืองถึงกรอบวงเงินค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งของผู้สมัคร ส.ส. และพรรคการเมือง ที่เพิ่มกรอบวงเงินหาเสียงเลือกตั้งสูงสุดกรณีสภาอยู่ครบวาระมากกว่า 4 เท่า ว่ากรอบวงเงินที่ กกต. ออกมามีความย้อนแย้งกับกฎการคำนวณค่าใช้จ่ายเลือกตั้ง 180 วัน ที่ออกมาก่อนหน้านี้หรือไม่ น่าสงสัยว่า กกต. อาจได้สัญญาณจากผู้มีอำนาจเหนือ กกต. ว่าพวกเขาอาจอยู่ครบอายุสภา

ปดิพัทธ์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ กกต. กำหนดออกกฎ 180 วัน เจตนาเพื่อป้องปรามไม่ให้นักการเมืองใช้จ่ายเงินในการหาเสียงมาก โดยอ้างเหตุผลเรื่องความเสมอภาคและความเป็นธรรม แต่การกำหนดกรอบวงเงินของ กกต. รอบใหม่ที่ออกมานี้ ย้อนแย้งกับสิ่งที่ กกต. เคยอ้างหรือไม่ เพราะการกำหนดกรอบวงเงินในการหาเสียงของ ส.ส. เพิ่มขึ้นจาก 1.5 ล้านบาท เป็น 6.5 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นมากกว่า 4 เท่า ถือเป็นค่าใช้จ่ายที่มากกว่าเงินเดือน ส.ส. 4 ปีรวมกันเสียอีก

บิ๊กตู่ กล่าวขณะร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน - สหภาพยุโรป สมัยพิเศษ ณ กรุงบรัสเซลล์ ประเทศเบลเยียม

ผมเชื่อว่าพลังแห่งความร่วมมือกันอย่างสร้างสรรค์ จะเป็นตัวขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืน สร้างคุณประโยชน์ให้กับประชาชนของอาเซียน สหภาพยุโรป และชาวโลกในภาพรวม

‘บิ๊กตู่’ ปลื้ม!! ผลสำเร็จเวทีอาเซียน-อียู ชี้!! ไทยเนื้อหอม หลายชาติให้ความสนใจ

นายกรัฐมนตรี เป็นปลื้ม​ ผลสำเร็จเวทีอาเซียน-อียู ชี้​ ไทยเนื้อหอม​ หลายภูมิภาคหันมาให้ความสนใจ ลั่น​ เมื่อไหร่ประเทศชาติยากลำบากต้องร่วมมือกันสู้ข้าศึก ไม่ใช่คนไทยมาสู้กันเอง โต้​ อย่าบอกรัฐบาลนี้ไม่ทำอะไรโวเจรจาFTA คืบหน้า ถ้าง่ายคงเสร็จมาหลายรัฐบาลแล้ว 

(15 ธ.ค. 65) พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​กลาโหม กล่าวภายหลังกลับจากเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหภาพยุโรป สมัยพิเศษ เพื่อฉลองวาระครบรอบ 45 ปี ความสัมพันธ์อาเซียน-สหภาพยุโรป ว่า การไปประชุมในครั้งนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยเป็นการประชุมครั้งพิเศษ ได้พบปะกับอียู 27 ประเทศในเวลาเดียวกัน นอกจากมีการประชุมตามวาระแล้วมีโอกาสพบภาคธุรกิจและภาคธุรกิจของอียู ซึ่งต่างพร้อมร่วมมือกับไทย 

นอกจากนี้ยังหารือถึงปัญหาอุปสรรต่างๆ ซึ่งการเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ ต้องเตรียมความพร้อมของเรา บางครั้งการเดินหน้าทางธุรกิจไปได้ยาก จึงต้องพยายามปรับเปลี่ยนพอสมควร แต่เราต้องไม่เสียเปรียบและต้องได้ประโยชน์ต่างตอบแทนเท่าๆ กันขอให้ช่วยกันติดตามด้วย นอกจากนี้ยังหารือทวิภาคีกับผู้บริหารอียูหลายประเทศที่ต่างให้ความสนใจ ซึ่งวันนี้หลายภูมิภาคกลับมาให้ความสนใจอาเซียนเนื่องจากเราเป็นภูมิภาคที่มีความพร้อมมีควาสงบสุข โลกกำลังเปิดกว้างเราต้องเตรียมการอาเซียนให้พร้อม ซึ่งในครั้งนี้ได้ย้ำนโยบายเศรษฐกิจของไทยเจริญเติบโตควบคู่ความยั่งยืน

พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้เราหวังพึ่งใครฝ่ายเดียวโดยไม่สนับสนุนไม่ร่วมมือก็ไม่สำเร็จ จึงขอทุกคนมีส่วนร่วมโดยให้ความสำคัญการเจริญเติบโตเศรษฐกิจควบคู่ความยั่งยืน โดยไม่ผลีผลามว่าจะให้เท่านั้นเท่านี้ เราต้องให้ทั้งปลาและเบ็ดตกปลา ฝากประชาชนด้วย ยืนยันรัฐบาลสนับสนุนทุกวิถีทางให้ประชาชนอยู่ดีกินดียิ่งขึ้น ถ้าเปิดใจให้กว้างจะเห็นหลายอย่างเกิดขึ้นในประเทศไทย ถ้าเปิดตาให้กว้างจะเห็นว่าหลายอย่างเปลี่ยนแปลงในทางดีขึ้นหลายอย่างอาจไม่ทันใจแต่เมื่อถึงเวลาไม่มีอะไรสำเร็จเริ่มได้วันเดียว จนพยายามทำเต็มที่ให้สำเร็จลงได้

นายกรัฐมนตรี​ กล่าวว่า การประชุมในครั้งนี้ยังมีการหารือเกี่ยวกับเรื่องพลังงาน ที่จากการติดตามสถานการณ์ถือว่าดีขึ้น แต่ที่ผ่านมาเราได้มีการเอาเงินส่วนหนึ่งมาชดเชยไว้เป็นจำนวนมากที่จะต้องทำอย่างไรเพื่อให้เกิดการหมุนเวียนชดเชยในส่วนที่ลดลงและส่วนที่ขาดทุนเนื่องจากใช้เงินกู้มาเติมเต็มในส่วนนี้ทั้งสิ้น ส่วนราคาก๊าซวันนี้มีราคาสูงขึ้นในขณะที่ราคาน้ำมันลดลงซึ่งมีความเกี่ยวพันกันทั้งคู่ เพราะเป็นแหล่งผลิตพลังงานซึ่งในยุโรปและหลายๆ ประเทศก็มีความเดือดร้อนทั้งหมดจากราคา 10 กว่าเหรียญก็ขึ้นเป็น 30 เหรียญ 50 เหรียญ 100 เหรียญ ซึ่งมีปัญหามากกว่าประเทศไทยพอสมควรจากอากาศพื้นที่อากาศหนาว แต่ประเทศไทยไม่เคยเจอสภาพนี้เราได้แต่ให้ความเห็นใจ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top