Friday, 13 June 2025
PoliticsQUIZ

นายกฯ ซัด​ ส.ส.เป็นผู้ใหญ่ต้องรู้หน้าที่ตัวเอง​ ฉุนสภาฯ ล่ม​ คนโทษนายกฯ​ ทั้งที่กำชับทุกพรรคแล้ว

พลเอกประยุทธ์​ จันทร์โอชา​ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม​ กล่าวถึง​ การขอการสนับสนุนกับต่างประเทศในการเป็นเจ้าภาพการจัดงานภูเก็ต Expo​ ในปี​ 2028​ พร้อมกับระบุนี่คืออนาคต สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เราต้องทำถ่ายทอดให้กับคนรุ่นหลังๆ 

ทั้งนี้ นายกฯ ยังได้กล่าวด้วยว่า "ใครจะเป็นรัฐบาล ก็มาทำเถอะครับ แต่ไม่ทำแล้วมาเล่นงานกันตอนนี้ จะไปวันข้างหน้าได้ไหมเล่า ตนบอกไว้แล้วว่า จะพูดในหลายๆ เรื่องเมื่อกลับมา วันนี้ก็พูดไปแล้ว การเมืองคือการเมือง การบ้านคือการบ้าน ประชาชนคือการบ้าน ที่ตนต้องทำให้เขา การเมืองเป็นการต่อสู้ในสภาก็ว่ากันไป เมื่อเลือกตั้งมาแล้วก็ให้ไปดูเอา ที่พูดกันมาที่ทำกันมา ทำไปได้มากน้อยเพียงใด​ ถึงเวลาเวลานั้น มันจะได้หรือไม่ได้ ถ้าได้ผมก็ดีใจ ถ้าไม่ได้ก็เสียใจเท่านั้นเอง คำว่าเสียใจคือทำให้ประชาชนมีความสุขไม่ได้ ไม่ใช่ว่าเสียใจที่ผมไม่ได้เป็นหรือได้เป็น เข้าใจนะ อย่าถามกันบ่อยนัก"

นายกฯ กล่าวต่ออีกว่า ส่วนใครจะไปใครจะมาใครจะลาออก ไปอยู่พรรคไหน ก็เรื่องของเขา เป็นเรื่องของสภาฯ สภาฯ ไม่พอสภาฯ ล่ม โทษนายกฯ​ ก็ผมบอกไปแล้วสั่งทุกพรรคไปแล้ว ให้ไปร่วมประชุมสภาฯ​ เขาก็ตอบรับว่าครับ​ ครับ​ ครับ​ ถึงเวลาไปไม่ครบนายกฯ ทำไมไม่ควบคุม ผมไม่โทษใครไม่โกรธใครอยู่แล้ว​ อยากให้ประชาชนเข้าใจว่าทุกคนมีหน้าที่ ทุกคนบอกนายกฯ มีหน้าที่ มีความรับผิดชอบต้องดูแลบ้านเมือง ดังนั้นส.ส.ทุกคน ก็ต้องมีหน้าที่ของตัวเอง ในการทำงานในสภาฯ เป็นผู้ใหญ่แล้วโตกันหมดแล้วอีกเรื่องใครจะออกใครจะเข้าพรรคไหนก็เรื่องของท่าน ผมไม่เคยทะเลาะกับใคร โอเคเท่านี้แหละ

'เพื่อไทย' เดือด 'ทิพานัน' ยังไม่หยุดพูดจาล้ำเส้น จ่อ 'แจ้งความ-ร้องกกต.' เหตุใส่ร้าย พท.ด้วยความเท็จ

ตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ฝ่ายกฎหมายของพรรคเพื่อไทย ได้ดำเนินคดีเอาผิดกับ ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมาแล้ว หลังเผยแพร่ข่าวผ่านเว็บไซต์รัฐบาลไทย www.thaigov.go.th ระบุว่า ‘ทิพานัน ห่วงเพื่อไทยเปิดนโยบาย ซ้ำรอยอดีต คิดใหญ่ โกงเป็น จี้หยุดวาทกรรมเศรษฐกิจไม่ดี ยกผลประกอบธุรกิจตระกูลชินวัตร ตอกกลับขณะที่ภาคธุรกิจ 112 องค์กรจ่อขึ้นเงินเดือน’ โดยใช้ถ้อยคำในลักษณะที่ทำให้ผู้เห็นและอ่านข้อความ มีความเข้าใจว่าพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคการเมืองที่ไม่ดี คิดทำนโยบายเรื่องใหญ่เพื่อหวังจะโกงหรือทุจริต ซึ่งล้วนเป็นความเท็จทั้งสิ้น

พรรคเพื่อไทยจึงได้ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลมักกะสัน ให้ดำเนินคดีกับ ทิพานัน ศิริชนะ และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง กรณีนำเสนอข่าวดังกล่าว ทำให้พรรคเพื่อไทยได้รับความเสียหายต่อชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง อันเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 และมาตรา 328 และความผิดฐานอื่นที่เกี่ยวข้อง จนกว่าคดีจะถึงที่สุด  

นอกจากนี้ ฝ่ายกฎหมายของพรรคเพื่อไทย ยังได้ยื่นคำร้องต่อประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)  ขอให้ดำเนินการสืบสวนและไต่สวน และดำเนินคดีกับ ทิพานัน ศิริชนะ ตามมาตรา 169 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ 2561 เป็นการฝ่าฝืนมาตรา 73(5) เป็นความผิดตามมาตรา 159 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ 2561 เนื่องจากการกระทำของ ทิพานัน ศิริชนะ เป็นการเจตนาใส่ร้ายด้วยความเท็จ เพื่อจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัครและพรรคเพื่อไทย และจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งงดเว้นการลงคะแนนให้กับผู้สมัครและพรรคเพื่อไทย

'เต้น' แจง 'เพื่อไทย' เลื่อนจัดกิจกรรม 18 ธ.ค. ขอประสานความพร้อม พบกันหลังขึ้นปีใหม่

(16 ธ.ค. 65) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟซบุ๊กพรรคเพื่อไทย (พท.) โพสต์ข้อความว่า ครอบครัวเพื่อไทย เวทีสมุทรสาคร ขอเลื่อนการจัดกิจกรรม เพื่อประสานความพร้อมในพื้นที่ 18 ธ.ค. นี้ไม่มีการจัดงาน พบกันหลังขึ้นปีใหม่ ครอบครัวเพื่อไทย บ้านหลังใหญ่ หัวใจเดิม

สำหรับกำหนดการเดิมนั้น จะมีการปราศรัยในหัวข้อ 'การยกระดับเศรษฐกิจเดินหน้าค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทต่อวัน เงินตอบแทนปริญญาตรี 25,000 บาทต่อเดือน' พร้อมแนะนำตัวผู้ประสงค์ลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส.ในกลุ่มภาคกลางบางส่วนและภาคตะวันตก ได้แก่ สมุทรสาคร, สมุทรสงคราม, ราชบุรี, เพชรบุรี, ประจวบคีรีขันธ์, กาญจนบุรี และนครปฐม ที่หอประชุมเอนกประสงค์ เทศบาลนครอ้อมน้อย จ.สมุทรสาคร

'ชูศักดิ์' ชี้!! ส.ส.ย้ายพรรคพร้อมกัน 'ตามใบสั่ง' ศรัทธาพรรคการเมืองวูบ ในสายตาประชาชน

(16 ธ.ค. 65) นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวกรณีส.ส.ลาออกและย้ายพรรคพร้อมกันจำนวนมากเป็นประวัติการณ์แม้สภายังไม่หมดวาระว่า ที่ผ่านมาการย้ายพรรคเป็นเรื่องปกติ ส่วนใหญ่มักจะเกิดหลังยุบสภาหรือสภาหมดอายุ และเป็นรายคน มิใช่เป็นแบบกระบวนการ กรณีที่เกิดขึ้นเวลานี้ดูจะชัดเจนว่าการลาออกเพื่อไปสังกัดพรรคใหม่ เป็นไปตามคำสั่งของพรรคที่จะย้ายไป ทราบว่าเพื่อกันปัญหาการเป็นสมาชิกพรรค 90 วัน และเพื่อความชัวร์ว่าคุณมาแน่ การลาออกและย้ายพรรคกันเป็นล็อต 30-40 คน ชัดเจนว่าเกิดจากการวางแผนกันมา โดยไม่สนใจว่ายังมีภารกิจในฐานะตัวแทนประชาชนที่ต้องทำอยู่หรือไม่ ไม่สนใจว่าประชาชนเขาเลือกเรามาให้ทำหน้าที่ในสภามีระยะเวลาสี่ปี 

“ผมเป็นส่วนหนึ่งในการสอบสวนทางวินัยจรรยาบรรณ ส.ส.หลายคน ขอบอกอย่างตรงไปตรงมาว่าที่มาที่ไป คือ เพราะได้ผลประโยชน์ ได้โครงการ ได้การดูแลที่พรรคเดิมไม่อาจให้ได้ หลายคนยอมเป็นงูเห่าถ้าจะขับก็ยินดี แถมบอกให้รีบขับเร็ว ๆ แสดงว่าจริง ๆ แล้วไม่เกี่ยวกับอุดมการณ์อะไรทั้งสิ้น สภาพการเมืองเช่นนี้น่าห่วง ส่วนหนึ่งแสดงว่ารัฐธรรมนูญปราบโกงล้มเหลวสิ้นเชิง การปฏิรูปการเมืองตามรัฐธรรมนูญและนโยบายของรัฐบาลชุดนี้ล้มเหลว การเมืองย้อนไปสู่ธนกิจการเมือง การเมืองแบบแจกกล้วย ดูแล้วคล้าย ๆ ก่อนยุครัฐธรรมนูญ 2540 ที่เป็นเหตุให้ตัองปฏิรูปการเมืองขนานใหญ่” นายชูศักดิ์ กล่าว

แต่งตั้ง 'พีระพันธุ์' นั่งเลขาธิการนายกฯ แทน 'ดิสทัต' ปฏิบัติหน้าที่สำคัญตามนายกรัฐมนตรีมอบหมาย

(16 ธ.ค. 65) รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้ลงนามในคำสั่งแต่งตั้ง นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรี แทนนายดิสทัต โหตระกิตย์ ที่จะไปเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี

ทั้งนี้ ให้มีผลภายหลังจากนำคำสั่งเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติ คาดว่าจะเป็นวันอังคารที่ 20 ธันวาคม 2565

รายงานข่าวเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีได้เก็บข้าวของของนายดิสทัตไว้ที่ตึกสำนักงานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี คาดว่าจะเป็นห้องทำงานของนายดิสทัต

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แต่งตั้ง นายดิสทัต โหตระกิตย์ เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี

‘ก้าวไกล’ สวน!! 'โสภณ' ปั้นภาพสวยให้สายสีส้ม เอาความเห็นส่วนตัวมาพูดโดยไม่ยึดมติที่ประชุม

(16 ธ.ค. 65) ที่รัฐสภา สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองเลขาธิการพรรคก้าวไกล ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการการคมนาคม พร้อมด้วย ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคประชาชาติ ในฐานะ กมธ.การคมนาคม แถลงข่าวตอบโต้กรณี โสภณ ซารัมย์ ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย ประธาน กมธ.การคมนาคม และ นิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา รองประธาน กมธ.การคมนาคม ออกมาแถลงข่าวเชิงฟอกขาวให้โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ซึ่งไม่เป็นไปตามมติที่ประชุม กมธ.การคมนาคม ว่า การกระทำดังกล่าวเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง เนื้อหาที่แถลงเป็นความเห็นส่วนตัวของประธาน กมธ. ซึ่งมาจากพรรคภูมิใจไทยที่กำกับดูแลรถไฟฟ้าสายสีส้ม ไม่ได้เป็นมติที่ประชุม จึงไม่สามารถแถลงในนาม กมธ. ได้ ตนและทวีจึงต้องออกมาแถลงในนามพรรคร่วมฝ่ายค้าน

สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ตนเป็นผู้นำเรื่องรถไฟฟ้าสายสีส้มเข้าที่ประชุม โดยสัปดาห์ที่ผ่านมา การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ไม่เข้ามาชี้แจงตามนัด ตนจึงกดดันประธาน กมธ. ว่าฝ่ายนิติบัญญัติต้องใช้อำนาจตรวจสอบทางการเมือง ไม่ใช่บอกว่าเมื่อโครงการอยู่กับฝ่ายตุลาการแล้ว จะแตะต้องไม่ได้เลย ในกรณีนี้ ทั้งสองอำนาจสามารถเดินหน้าไปพร้อมกันได้ ตนยืนยันว่า กมธ.ของสภาผู้แทนฯ สามารถตรวจสอบได้ โดยเฉพาะโครงการใหญ่ที่ต้องมีความโปร่งใส

“มติจริง ๆ ของ กมธ.การคมนาคม เมื่อวานนี้ (15 ธันวาคม 2565) คือ ขอเอกสารประกอบและให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตอบคำถาม ไม่ได้ฟอกใสตามที่ประธาน กมธ.การคมนาคมแถลง ทั้งประเด็นส่วนต่างราคาและการกีดกันการเสนอราคา นอกจากนี้ จากการตรวจสอบกับคนอื่นๆ รวมทั้งนิกร พบว่าไม่มีใครใน กมธ.การคมนาคมบอกว่าเป็นมติที่ประชุมอย่างที่ประธาน กมธ.การคมนาคมแถลงข่าวไป เพราะเรื่องนี้ต้องมีการประชุมกันอีก” สุรเชษฐ์กล่าว

‘เพื่อไทย’ เดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 159 พร้อมยกเลิกมาตรา 272 ตัดสิทธิ์ ส.ว. เลือกนายกฯ

(16 ธ.ค. 65) เวลา 10.00 น. ที่รัฐสภา นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) พร้อมคณะ ยื่นหนังสือถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ผ่านนพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติมมาตรา 159 และการยกเลิกมาตรา 272 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 

โดยนพ.ชลน่าน กล่าวว่า สิ่งที่พรรคเพื่อไทย มีเจตจำนง และมุ่งมั่นมาตลอดคือการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 60 โดยเฉพาะมาตราที่เห็นว่าเป็นปัญหาที่สุดในการบังคับใช้ และกระทบต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข คือมาตรา 272 ที่รัฐธรรมนูญฉบับนี้บัญญัติไว้ชั่วคราวว่า ให้ส.ว.250 คน สามารถเลือกนายกรัฐมนตรีได้ โดยเราพยายามยื่นแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญมาตลอดแต่ไม่สำเร็จ เนื่องจากกติกาการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เขียนไว้ มีส่วนทำให้ไม่สามารถแก้ไขเพิ่มเติมได้ คือ การต้องอาศัยเสียงไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของสมาชิกรัฐสภา และต้องมี ส.ว. เห็นชอบด้วยในวาระรับหลักการไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ของสมาชิกที่มีอยู่ ด้วยกลไกเหล่านี้ทำให้เรายื่นร่างแก้ไขแล้วไม่สำเร็จ ซึ่งในสมัยประชุมที่ผ่านมาเราก็ยื่นแต่ก็ถูกตีตกไปในขั้นรับหลักการ แต่เราก็ไม่ย่อท้อ เพราะตามข้อบังคับแล้วในสมัยประชุมที่เปิดมาเราสามารถยื่นแก้ไขเพิ่มเติมในมาตราที่สภาไม่รับหลักการได้

ตาดคาด ส.ส.หลากพรรค ตบเท้าซบ 'ภูมิใจไทย' ร่วม 40 คน ด้าน 'ปารีณา' โผล่ควงพี่ชาย 'สีหเดช' ร่วมสมัครสมาชิกฯ

(16 ธ.ค. 65) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่พรรคภูมิใจไทย ถ.พหลโยธิน พรรคภูมิใจไทยมีการรับสมัครสมาชิกพรรคใหม่ โดยบรรยากาศตั้งแต่ช่วงเช้า ปรากฎว่ามีบรรดาสมาชิกพรรคทยอยเดินทางมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือว่าเป็นการจัดงานใหญ่ครั้งแรกหลังการปรับปรุงอาคารที่ทำการพรรคใหม่ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 8 เดือนเสร็จสิ้นลง โดยการปรับปรุงอาคารใหม่ทั้งหลัง 4 ชั้น รวมถึงปรับปรุง ห้องกรรมการบริหารพรรค ห้องพักสมาชิก ห้องแถลงข่าว และห้องสื่อมวลชน นอกจากนี้ยังได้นำต้นกัญชาต้นใหญ่บริเวณลานจอดรถหน้าเสาธง และภายในตัวอาคาร วางเป็นจุด มาประดับไว้ที่ทำการพรรคด้วย 

ทั้งนี้ เวลา 13.00 น. บริเวณห้องแถลงข่าวชั้น 2 ซึ่งจะมีการต้อนรับสมาชิกพรรคใหม่ เป็นอดีต ส.ส.ที่ย้ายมาจากพรรคการเมืองอื่น อาทิ พรรคพลังประชารัฐ, พรรคเพื่อไทย, พรรคก้าวไกล เกือบ 40 คน ที่จะเข้าร่วมกับพรรคภูมิใจไทย ในการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ ซึ่งบรรดาสมาชิกพรรคใหม่จะเริ่มสมัครสมาชิกพรรคกับนายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะนายทะเบียนพรรค

จากนั้น นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย, นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะเลขาธิการพรรค พร้อมแกนนำพรรคให้การต้อนรับ พร้อมทั้งสวมเสื้อแจ๊คเก็ตให้กับสมาชิกใหม่ และถ่ายภาพที่ระลึกด้วย

จากนั้นเป็นการประชุม ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ประจำสัปดาห์ ซึ่งคาดว่าจะมีการแนะนำตัวสมาชิกใหม่ รวมไปถึงการวางนโยบาย วางกลยุทธ์ ทั้งในระดับพื้นที่และภาพรวมทั้งประเทศ เพื่อเตรียมรับมือสู้ศึกเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง และเมื่อเสร็จสิ้นการประชุม นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค เวลา 15.30 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ ส.ส.ที่มาร่วมจำนวนมาก อาทิ อดีต ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ นายจักรพันธ์ พรนิมิตร นายกษิดิ์เดช ชุติมันต์ น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ นายอนุชา น้อยวงศ์ น.ส.อนุสรี ทับสุวรรณ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลัง นายธนัสถ์ ทวีเกื้อ กูลกิจ นายธนะสิทธิ์ โควสุรัตน์ ส.ส.อุบลราชธานี  อดีต ส.ส.พรรคเศรษฐกิจไทย นายเอกภาพ เพียรวิเศษ อดีต ส.ส.เชียงราย พรรคก้าวไกล นายคารม พลพรกลาง นายเกษมสันต์ มีทิพย์ อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล นายนิยม ช่างพินิจ อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคเพื่อไทย นายจักรพรรดิ ไชยสาสน์ อดีต ส.ส.เพื่อไทย นางนันทนา สงฆ์ประชา อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาภิวัฒน์ เป็นต้น

นอกจากนี้ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ อดีต ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ได้นำพี่ชาย นายสีหเดช ไกรคุปต์ มาสมัครเป็นสมาชิกพรรค เพื่อลงสมัครเป็น ส.ส.ราชบุรี ขณะที่ น.ส.กรณิศ งามสุคนธ์รัตนา ส.ส. กทม. พรรคพลังประชารัฐ นำดอกไม้มาร่วมแสดงความยินดีและจะลาออกจากพรรคพลังประชารัฐ เพื่อลงเลือกตั้ง ส.ส.กทม.ในนามพรรคภูมิใจไทย ร่วมกับ น.ส.ภาดาท์ วรกานนท์ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ จะสมัครเข้าพรรคภูมิใจไทยเช่นกัน

‘สมคิด’ ตอก ‘ประยุทธ์’ เลิกปัดสวะให้พ้นตัว แซะ!! คุมสภายังทำไม่ได้ เลิกหวังสร้างสุขให้ปชช.

วันนี้ (16 ธ.ค. 65) นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย (พท.) ฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้านหรือวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า การที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ออกมาให้สัมภาษณ์กรณีที่ประชุมสภาล่มบ่อยเป็นเรื่องของสภานั้น การพูดเช่นนี้ใช้ไม่ได้ ถ้าเป็นรัฐบาลแล้วทำให้สภาล่มบ่อยจะเป็นรัฐบาลไปทำไม การพูดเช่นนี้เป็นการปัดสวะให้พ้นตัว ในฐานะที่พล.อ.ประยุทธ์เป็นหัวหน้ารัฐบาล เป็นเสียงข้างมาก จะมาปัดสวะแบบนี้ไม่ได้ ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์เป็นผู้บริหาร เป็นนายกฯ จะมาหนีแบบนี้ไม่ได้ อยากให้ไปถามนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ที่เคยพูดไว้ว่าเรื่ององค์ประชุมเป็นเรื่องของรัฐบาล ดังนั้นการที่สภาล่มก็มาจากฝ่ายรัฐบาล แต่วันนี้พล.อ.ประยุทธ์บอกว่าไม่เกี่ยว พล.อ.ประยุทธ์กินยาผิดซองหรือเปล่า

‘ชาติพัฒนากล้า’ เตรียมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. 4 เขต มั่นใจ!! สามารถผลักดันเศรษฐกิจสงขลาให้รุ่งเรืองได้

(16 ธ.ค. 65) นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า ในวันเสาร์ที่ 17 ธันวาคม 2565 พรรคชาติพัฒนากล้าจะยกทีมใหญ่ลงจังหวัด สงขลา ประกอบด้วย นายเทวัญ ลิปตพัลลภ เลขาธิการพรรค นายวรวุฒิ อุ่นใจ รองหัวหน้าพรรค และนายอรัญ พันธุมจินดา ผู้อำนวยการพรรค พร้อมด้วยคณะผู้บริหารพรรค เพื่อเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.สงขลา ทั้ง 4 เขต โดยทั้ง 4 คน ได้ลงพื้นที่พบปะประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง และมีกระแสการตอบรับจากประชาชนที่ดีมาก รับรองมีเซอร์ไพร์ส อย่างแน่นอน 

หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวด้วยว่า ในวันดังกล่าวจะมีการเปิดธีมนโยบายที่จะแก้ปัญหาปากท้องให้กับชาวจังหวัดสงขลาโดยมีเป้าหมายไปสู่ ‘งานดี มีเงิน ของไม่แพง’ โดยการขยายโอกาสในการทำกินของเมืองสงขลา หาดใหญ่ เราจะลงมือทำ และ ต่อยอดโครงสร้างพื้นฐานของหัวเมืองเศรษฐกิจหลักของภาคใต้ตอนล่างอย่างสงขลา เชื่อว่าจะสามารถพลิกโฉมอนาคตเศรษฐกิจของชาวสงขลาให้รุ่งเรืองได้


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top