Tuesday, 13 May 2025
NewsFeed

รองโฆษกรัฐบาล ประกาศแล้ว โครงการเราชนะ เริ่มลงทะเบียน 29 ม.ค. นี้ ใช้ซื้ออาหาร สินค้า และจ่ายค่าแท็กซี่ รถตู้ มอเตอร์ไซค์รับจ้างได้ ตั้งแต่ 18 ก.พ. – 31 พ.ค. 64

รองโฆษกรัฐบาล ประกาศแล้ว โครงการเราชนะ เริ่มลงทะเบียน 29 ม.ค. นี้ ใช้ซื้ออาหาร สินค้า และจ่ายค่าแท็กซี่ รถตู้ มอเตอร์ไซค์รับจ้างได้ ตั้งแต่ 18 ก.พ.–31 พ.ค.64

รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกรัฐบาล ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวประกาศเกี่ยวกับโครงการเราชนะ มีข้อความว่า

โครงการเราชนะ เริ่มลงทะเบียน 29 ม.ค.นี้

ใช้ซื้ออาหาร สินค้า และจ่ายค่าแท็กซี่ รถตู้ มอเตอร์ไซค์รับจ้างได้ ตั้งแต่ 18 ก.พ.–31 พ.ค.64

ส่วนร้านค้า แท็กซี่ รถตู้ มอเตอร์ไซค์รับจ้าง ที่สนใจร่วมโครงการ ลงทะเบียนได้ตั้งแต่ 29 ม.ค. - 31 มี.ค.64 ทางเว็บไซต์เราชนะ

สอบถามเพิ่มเติม

ธนาคารกรุงไทย โทร.021111114


ที่มา: เฟซบุ๊ก รัชดา ธนาดิเรก -รองโฆษกรัฐบาล

‘ธนาธร’ ยันเป็นบทบาทตรวจสอบการทำงานรัฐบาล ชี้ชำแหละการเอื้อประโยชน์เอกชนไม่ใช่เพิ่งเริ่มทำ อัด ‘ประยุทธ์’ หยุดบิดเบือนความผิดพลาดด้วยการอ้างสถาบันกษัตริย์ มากลบเกลื่อนความไม่มีประสิทธิภาพของตนเอง

อาคารไทยซัมมิททาวเวอร์ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า แถลงข่าวกรณีรัฐบาลแจ้งความดำเนินคดีตนเองจากการไลฟ์ในข้อกล่าวหาทำผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา112 โดยระบุว่า

เพื่อไม่ให้เป็นการเข้าใจผิด ขอยืนยันว่าเราสนับสนุนให้รัฐบาลมีการเจรจาเรื่องวัคซีนกับบริษัทต่างๆ เพื่อให้ประชาชนได้มีใช้อย่างครอบคลุมและรวดเร็วที่สุด เราให้กำลังใจเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข รวมถึงทุกคนที่ทำหน้าที่นี้ ซึ่งเราเองก็เคยนำเสนอให้แนวทางไปแล้ว อดีตเพื่อนร่วมงานของตนคือ ส.ส.พรรคก้าวไกล ก็มีการนำเสนอเรื่องการจัดหาวัคซีนตั้งแต่ครั้ง พ.ร.ก. เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท เข้าสภาเมื่อต้นปีที่แล้ว

นายธนาธร กล่าวว่า เราให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกคน แต่ประเด็นที่ทำให้ต้องออกมาแถลงข่าว คือข้อเท็จจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ว่า 1. ประเทศไทยตอนนี้จัดหาวัคซีนที่มีความชัดเจนแล้วเพียง 21.5 เปอร์เซ็นต์ของประชากร โดยมาจากแอสตราเซเนกา 26 ล้านโดส จากซิโนแวค 2 ล้านโดส ซึ่งแน่นอนว่ามีความพยายามขอซื้อจากแอสตราเซเนกาเพิ่มเติม โดยมีมติ ครม. ออกมาแล้วแต่ยังไม่มีความชัดเจนเรื่องสัญญาจัดซื้อจัดจ้าง

2.ประเทศไทยยังไม่ได้เริ่มฉีดวัคซีน ขณะที่ประเทศอื่นๆ เริ่มไปแล้ว ซึ่งเร็วที่สุดคือประเทศอิสราเอล รองลงมาคือสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อังกฤษ สหรัฐอเมริกา และ 3. หลายประเทศทั่วโลกมีกลยุทธ์การจัดหาวัคซีนคือซื้อจากหลากหลายๆ บริษัท ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเรื่องสำคัญมากเพราะเกี่ยวกับอนาคตของประเทศ เกี่ยวกับเศรษฐกิจของประเทศ

เพราะลองคิดดูว่าถ้าประเทศไทยจัดซื้อจัดหาวัคซีนได้ช้ากว่าประเทศเพื่อนบ้าน จัดหาได้น้อยกว่า รวมถึงฉีดวัคซีนได้ช้ากว่าจะเกิดอะไรกับเศรษฐกิจ เพราะวัคซีนเหมือนแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ จะทำให้เราจะหลุดพ้นจากเศรษฐกิจที่ชะงักงันที่เกิดจากโควิดได้ แต่ทว่าตอนนี้ เรายังอยู่ในอุโมงค์กันอยู่ ตราบใดที่ไม่มีวัคซีนฉีดมากพอที่จะสร้างภูมิคุ้มกันให้สังคมได้ เราก็ยังคงมืดมิด เราก็ยังคงอยู่ในอุโมงค์

"วันนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่ามีหลายประเทศจัดหาวัคซีนได้มากกว่าจำนวนประชากร โดยบางประเทศได้ถึง 200-300 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนประชากร ขณะที่ประเทศไทยเราแค่ 21.5 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ซึ่งความเสียหายคือ ถ้าประเทศไหนสร้างภูมิคุ้มกันเสร็จก่อนก็มีโอกาสฟื้นตัว ฟื้นฟูประเทศได้เร็ว ก็จะทำให้นักท่องเที่ยวกลับมา ทำให้การเจรจากับต่างประเทศ การนำเข้าส่งออกกลับมา ประชาชนใช้ชีวิตเป็นปกติเร็วกว่าคนอื่น แต่ถ้าช้ากว่านี้สัก 6 เดือน ประชาชนต้องทนกันต่อไป และก็ไม่มีใครรู้ด้วยว่าอาจเกิดการระบาดรอบ 3 รอบ 4 รอบ 5 ได้ เรื่องนี้ไม่มีใครรู้ ซึ่งประชาชนก็คงต้องใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางความหวาดกลัวต่อไป และนี่คือเหตุผลที่เราต้องออกมาบอกรัฐบาล ออกมาพูดกับประชาชนถึงสิ่งที่เกิดขึ้น" นายธนาธร กล่าว

นายธนาธร กล่าวว่า วันนี้ เรามีดีลวัคซีนที่ทำกับ บริษัท แอสตราเซเนกา อย่างเป็นทางการขนาดใหญ่ดีลเดียวเท่านั้น และที่สำคัญคือมีบริษัทเอกชนเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งเมื่อขึ้นชื่อว่าเป็นบริษัทเอกชนก็ย่อมเป็นองค์กรที่แสวงหากำไร สมมติว่าเราลองปิดชื่อผู้ถือหุ้นบริษัทนี้ออกไป บริษัทนี้ได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลมหาศาล จากเดิมที 600 ล้าน แล้วเป็น 1,400 ล้านบาท แล้วประชาชนจะไม่ควรตรวจสอบเลยหรือ ว่าดีลที่เกิดขึ้นนั้นมีความถูกต้อง ว่าดีลนี้มีความเหมาะสมหรือไม่ เพราะเงินสนับสนุนนี้มาจากภาษีประชาชนคนไทยทุกคน

สำหรับ 3 ดีลใหญ่ๆ ที่เหมือนจะเป็นก้อนเดียวกันนั่นคือ 1.ระหว่าง บริษัท แอสตราเซเนกา กับ บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ 2.ระหว่าง บริษัท แอสตราเซเนกา กับ รัฐบาล และ 3. ระหว่างรัฐบาล กับ บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ ซึ่งนี่คือ 3 ก้อนใหญ่ๆ ที่ไม่ได้เกิดขึ้นอย่างเป็นอิสระต่อกัน แต่คือดีลเดียวกันที่มีการพูดคุยเจรจาร่วมกัน มีความเกี่ยวโยงกัน และที่สำคัญคือวัคซีนที่เรากำลังพูดถึงนี้มาจากภาษีประชาชน

"ยืนยันว่าเราทำงานตรวจสอบการใช้เงินที่มาจากภาษีประชาชนกับทุกบริษัทเอกชน บทบาทของผมเอง ของพรรคอนาคตใหม่ รวมถึงอดีตเพื่อนร่วมงาน คือ ส.ส.พรรคก้าวไกล เราทำเรื่องนี้ เราพูดเรื่องการเอื้อประโยชน์บริษัทเอกชนที่ชัดเจนมาก ผมพูดเรื่องการที่รัฐบาลเอื้อประโยชน์ให้กับ บริษัท คิงพาวเวอร์ ไม่รู้กี่ครั้ง หรือกรณีรถไฟฟ้าสายสีทองที่เอื้อให้กับเอกชนรายหนึ่ง ส.ส.พรรคก้าวไกล ก็เคยอภิปรายในสภาผู้แทนราษฎร การที่เราตรวจสอบการใช้ภาษีประชาชนไม่ใช่เรื่องที่เพิ่งทำ เราทำมาตลอด และกรณีนี้ เรามีความเชื่อว่า 3 สัญญาก้อนใหญ่ๆ ที่ได้พูดไปนั้น ไม่ได้เจรจาอย่างเป็นเอกเทศ เพราะเอกสารที่เรามีชี้ไปทางนั้นว่าไม่มีการคัดเลือก ไม่มีการเปรียบเทียบ ดังนั้น จึงจำเป็นที่จะต้องตั้งคำถาม" นายธนาธร กล่าว

นายธนาธร กล่าวด้วยว่า ที่สำคัญสุดคือ เมื่อเราตั้งคำถามกับการที่ประเทศไทยได้รับวัคซีนครอบคลุมประชากรน้อย ฉีดได้ช้า และรัฐบาลมีการเอื้อประโยชน์เอกชนรายใดรายหนึ่งเฉพาะหรือไม่ สิ่งที่ตนได้รับก็คือการถูกรัฐบาลฟ้องเอาผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ผิด ป.อาญา ม.112 ซึ่งก็เป็นอย่างนี้มาตลอด

เพราะถ้าย้อนไปดู จะพบว่าคุณประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พยายามบิดเบือนประเด็นทุกครั้งเมื่อมีคนวิพากษ์วิจารณ์ความผิดพลาด โดยยกเอาสถาบันกษัตริย์มากลบเกลื่อนความไม่มีประสิทธิภาพของตนเองมาโดยตลอด อ้างความจงรักภักดี อ้างว่าตนเองปกป้องสถาบัน และเพราะเหตุนี้หรือไม่ คุณจะชอบหรือไม่ชอบก็ตาม จึงทำให้มีคนออกมาตั้งคำถามกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งในกรณีนี้ก็ชัดเจนว่าคนที่ดึงสถาบันกษัตริย์มาเกี่ยวข้องกับเรื่องการจัดหาวัคซีนไม่ใช่ตน แต่เป็นคุณประยุทธ์นั่นเอง

ตอนหนึ่งนายธนาธรได้เปิดคลิปการแถลงข่าวของ พล.อ.ประยุทธ์ ในวันที่เป็นประธานการเซ็นจองวัคซีนโควิด โดยท่อนหนึ่งกล่าวว่า ในหลวงพระราชทาน บริษัทในพระปรมาภิไธยผลิตแจกจ่าย จากนั้น นายธนาธร กล่าวต่อว่า คลิปดังกล่าวเป็นการแถลงข่าวเมื่อกลางเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งคำถามคือ การที่ตนเองตั้งคำถามต่อการใช้งบประมาณของรัฐบาล แต่กลับถูกยัดเยียดคดีนั้นเป็นธรรมหรือไม่ ใครที่วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลจะถูกใช้คดีปิดปากเรื่อย ๆ อย่างนี้หรือไม่

เราในฐานะคนไทยซึ่งมีส่วนได้ส่วนเสียกับประเทศนี้ ต้องหาทางออกร่วมกัน ว่าตกลงการวิพากษ์วิจารณ์คุณประยุทธ์ การวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล เป็นการไม่จงรักภักดี คือการเป็นศัตรูกับสถาบันหรืออย่างไร ตนคิดว่าสังคมไทยทั้งสังคมต้องทำความเข้าใจเรื่องนี้ ทั้งนี้ นายธนาธรยืนยันด้วยว่า การใช้คำว่าพระราชทานนั้นตนเองไม่ได้เป็นคนเริ่ม หากแต่มีคนใช้คำนี้ก่อน ซึ่งสื่อมวลชนสามารถไปย้อนค้นดูได้ เพราะถ้าปล่อยให้เป็นเรื่องเอกชนไปก็คงจะไม่มีปัญหาอะไร

รมว.แรงงาน ส่งผู้ช่วยฯ ลงพื้นที่จังหวัดชลบุรี ตรวจคัดกรองโควิด-19 เชิงรุกในสถานประกอบกิจการพื้นที่เสี่ยง บูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หาเชื้อโควิด -19 เข้าสู่กระบวนการรักษาตามขั้นตอนของกระทรวงสาธารณสุขได้อย่างรวดเร็ว

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ลงพื้นที่เสี่ยงในจังหวัดชลบุรี เพื่อดำเนินการตรวจคัดกรองโควิด-19 เชิงรุกในสถานประกอบกิจการ แก่ลูกจ้างผู้ประกันตน ม.33 ตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เพื่อป้องกัน และควบคุมโรคติดต่อไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดไปยังแหล่งชุมชน หรือสถานที่ทำงาน หรือสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ รวมไปถึงร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า ร้านบริการต่างๆ

อีกทั้งเป็นการแบ่งเบาภาระงานของกระทรวงสาธารณสุขในการติดตาม สอบสวนโรค ตลอดจนสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุน นักท่องเที่ยว ผู้ประกอบการ ลูกจ้าง ธุรกิจการท่องเที่ยว และการโรงแรม รวมถึงประชาชนทั่วไป มีความมั่นใจในการเดินทางเข้ามาพื้นที่ในจังหวัดชลบุรีได้อย่างปลอดภัยและปราศจากการติดเชื้อโควิด-19 เพราะมีมาตรการตรวจคัดกรองโควิด-19 ในทุกมิติ

ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า รัฐบาล ภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และกระทรวงแรงงานภายใต้การกำกับดูแลของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้มีความห่วงใยพี่น้องแรงงานและประชาชนทุกกลุ่มได้มีการสั่งการและดำเนินการตามมาตรการมาอย่างต่อเนื่อง จึงได้มอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานบูรณาการกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ทำงานเชิงรุก เพื่อเป็นการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าวให้มีการจำกัดอยู่ในพื้นที่ไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดในวงกว้าง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศทั้งทางตรงและทางอ้อม ตลอดจนสุขภาวะของประชาชนทั่วประเทศ

ในวันนี้ท่านสุชาติ ชมกลิ่น ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มีความห่วงใยเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน บุคลากรทางการแพทย์ที่ปฏิบัติหน้าที่ รวมถึงแรงงานทุกคน จึงได้มอบหมายให้ผมลงพื้นที่ชลบุรีเพื่อตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานที่ด่านคัดกรองโควิด – 19 ที่เสียสละเวลาในการปฏิบัติงานดูแลความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน พร้อมมอบสิ่งของอำนวยความสะดวกและอุปกรณ์สนับสนุนกิจกรรมป้องกันโควิด – 19 ซึ่งท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้ให้การสนับสนุนมาโดยตลอด ตั้งแต่การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด – 19 ครั้งที่ผ่านมา โดยตรวจเยี่ยมในครั้งนี้ พบว่า ทุกหน่วยงานมีการบูรณาการการทำงานร่วมกันเป็นอย่างดี

การตรวจคัดกรองโควิด-19 เชิงรุกในวันนี้ ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากผู้ประกอบกิจการ เช่น ห้างสรรพสินค้า ร้านค้า และโรงงานที่ตั้งอยู่ในพื้นที่อำเภอศรีราชา และอำเภอเมือง ทั้งนี้ เป็นการบูรณาการงานร่วมกันระหว่างสำนักงานประกันสังคมจังหวัดชลบุรี และโรงพยาบาลในเครือข่ายประกันสังคม อาทิเช่น โรงพยาบาลพญาไท และโรงพยาบาลวิภาราม ในการเข้าตรวจคัดกรองหาเชื้อโควิด-19 เชิงรุกให้แก่ผู้ประกันตน ม. 33 ประมาณ 800 คน

รมช.พาณิชย์ ‘วีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล’ สั่งสถาบัน ITD เตรียมความพร้อมนักลงทุนไทย ลุยต่างประเทศหลังโควิด-19 จบลง โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าเกษตรซึ่งไทยมีจุดแข็งและมีความพร้อมในการสร้างรายได้กลับเข้าประเทศมากที่สุด

นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าได้สั่งการให้ สถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา (องค์การมหาชน) หรือ ไอทีดี เร่งหาแนวทางในการส่งเสริมทักษะความรู้และถ่ายทอดประสบการณ์ในการลงทุนในต่างประเทศให้แก่นักลงทุนไทย เพื่อให้พร้อมก้าวสู่ตลาดต่างประเทศได้อย่างมั่นใจ หลังสถานการณ์โควิด 19 คลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น

ซึ่งขณะนี้ประเทศไทยกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างเศรษฐกิจที่สำคัญ จากอุตสาหกรรมที่เน้นการใช้แรงงานเข้มข้นไปสู่อุตสาหกรรมที่เน้นการใช้ทักษะแรงงาน และเทคโนโลยี รวมทั้งการก้าวไปสู่การให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจภาคบริการ กดดันให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมที่เน้นการใช้แรงงานเข้มข้นจำเป็นต้องปรับตัวโดยการออกไปลงทุนต่างประเทศ

ซึ่งเมื่อพิจารณาจากความสามารถในการแข่งขันระหว่างประเทศแล้วพบว่า ประเทศไทยถือเป็นผู้ผลิตและส่งออกสินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูปอันดับต้น ๆ ของโลก ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมเกษตรของไทยมีทักษะความรู้และประสบการณ์ในการประกอบการธุรกิจแปรรูปสินค้าเกษตร ให้สามารถแข่งขันได้จนเป็นผู้นำในตลาดโลก เป็นเจ้าของเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับการประยุกต์ใช้ในประเทศกำลังพัฒนา ทั้งเทคโนโลยีการผลิตและการแปรรูปสินค้าเกษตรซึ่งเป็นที่ต้องการของประเทศกำลังพัฒนา

มีนโยบายพัฒนาภาคการเกษตรเพื่อความมั่นคงทางอาหารและยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกร ซึ่งเป็นประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ ประสบการณ์และความชำนาญของผู้ประกอบการไทยจึงเป็นที่ต้องการของประเทศเพื่อนบ้านที่กำลังพัฒนาภาคการผลิตและมีนโยบายปฏิรูปเศรษฐกิจ

แม้เงื่อนไขและปัจจัยแวดล้อมต่าง ๆ สนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยออกไปลงทุนต่างประเทศ แต่การลงทุนต่างประเทศต้องอาศัยพร้อมในหลายมิติ ทั้งด้านเงินทุนและบุคลากร รวมทั้งหน่วยงานภาครัฐต้องมีนโยบายและมาตรการสนับสนุน ทั้งด้านการให้ความช่วยเหลือด้านการเงินและการให้แรงจูงใจด้านภาษี เพื่อผู้ประกอบการไทยซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็กให้สามารถแข่งขันในตลาดการลงทุนต่างประเทศได้

ทั้งนี้ ปัจจัยพื้นฐานสำคัญของการออกไปลงทุนต่างประเทศ คือ “ทักษะความรู้และเครือข่าย” ที่ผู้ประกอบการต้องเตรียมความพร้อม ความรู้และทักษะที่จำเป็นต่อการออกไปลงทุนสามารถเรียนลัดได้โดยการถ่ายทอดจากผู้มีประสบการณ์ที่ผ่านสนามจริงจนสามารถสร้างกิจการในต่างประเทศให้เติบโตยืนหยัดมาได้

ประสบการณ์เหล่านี้ต้องครอบคลุมทั้งมิติด้านการปฏิบัติตามกฎหมายในต่างประเทศ ทั้งกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ กฎหมายแรงงาน กฎหมายทรัพย์สินทางปัญญา ความเข้าใจเรื่องการแสวงหาแหล่งเงินทุนและการบริหารเงินทุนเพื่อผลตอบแทนการลงทุนที่เหมาะสม ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยน

ต้องมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการตลาดในยุคดิจิทัลซึ่งสามารถใช้เป็นช่องทางในการเจาะตลาดในต่างประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งต้องเข้าใจการใช้ประโยชน์จากความตกลงด้านการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศเพื่อสร้างได้เปรียบและแต้มต่อทางการลงทุน

"ดังนั้น ผมจึงสั่งให้สถาบัน ไอทีดี จัดการอบรมทักษะการลงทุนในต่างประเทศขึ้น เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ ประสบการณ์การลงทุน และสอนทักษะที่จำเป็นในการลงทุนในแต่ละประเทศ โดยให้เน้นผู้ประกอบการในกลุ่มเกษตร อุตสาหกรรมเกษตร ท่องเที่ยว และยานยนต์ ซึ่งคาดว่าผู้ประกอบการจะได้เห็นและเข้าใจถึงคุณลักษณะของการเป็นผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จ เพื่อสร้างทัศนคติและทักษะที่เหมาะสม เกิดแรงบันดาลใจที่จะเป็นผู้ประกอบการ ตลอดจนสามารถนำไปใช้เป็นเครื่องมือสำหรับเริ่มต้นทำธุรกิจในต่างประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ" นายวีรศักดิ์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) ซึ่งได้ระบาดอยู่หลายพื้นที่ในประเทศไทย แม้ว่าสถานการณ์จะเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น แต่ยังมีโอกาสที่จะพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นได้อีก ซึ่งรัฐบาลได้ขอความร่วมมือให้ทุกหน่วยงานกำหนดมาตรการในการควบคุม ป้องกัน และเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรคอย่างต่อเนื่อง

ดังนั้น สถาบันไอทีดีอาจจะต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดกิจกรรมมาเป็นการจัดฝึกอบรมในรูปแบบออนไลน์ โดยแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ การเรียนรู้ผ่านระบบ Online Real-time Course โดยใช้โปรแกรม Zoom, Google Meet หรือ Microsoft Team เป็นต้น และการจัดทำวีดีโอคลิปเนื้อหาองค์ความรู้เพื่อเป็นสื่อประกอบการอบรมในรูปแบบสื่อผสม เพื่อให้ผู้เข้าร่วมอบรมได้เห็นภาพที่กว้างขึ้น และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้จริง

"ในการอบรมนั้นจะมีการติดตามผลการให้คำปรึกษาและการตรวจสอบความเข้าใจของผู้เข้าอบรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การอบรมเกิดประสิทธิภาพสูงสุด และนำไปพัฒนาต่อยอดในการสร้างผู้ประกอบการ ทั้งนี้สามารถติดตามการจัดอบรมเรื่องดังกล่าวได้ที่ www.itd.or.th" นายวีรศักดิ์ กล่าวทิ้งท้าย

จากสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ในอากาศเกินมาตรฐานตั้งแต่ปลายปี 2563 จนถึงตอนนี้นับวันทวีความรุนแรงต่อสุขภาพของคนกรุงมากขึ้นเรื่อย ๆ

จนกลายเป็นปัญหาระดับประเทศ หลายหน่วยงานทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน ยังคงหามาตรการในการลดปริมาณฝุ่น

เช่นเดียวกับแนวคิดที่น่าสนใจในการสร้างนวัตกรรมสีเขียวเพื่อต่อกรกับวายร้าย PM 2.5 คือ Project sky garden โครงการที่ริเริ่มโดยคนไทย คุณณภัทร ศรีกายกุลจากบริษัทเอิร์ธ คราฟต์ ทีเอช ได้ไอเดียมาจากประเทศเยอรมนี ที่ใช้มอสติดตั้งกับพัดลม ทำให้อากาศไหลเวียนและทำให้ฝุ่นลดน้อยลง

และนี่เองจึงจุดประกายให้เกิดการร่วมกันสร้างเครื่องมือดักจับฝุ่นหรือ "ไบโอฟิลเตอร์" โดยมีพระเอกคือ "มอส" ที่สามารถดักจับฝุ่นได้

ทำไม "มอส" พืชจิ๋วแต่ประโยชน์แจ๋วดักจบฝุ่นได้

เนื่องจาก "มอส" จะสร้างสารเคลือบผิวขึ้นมากักเก็บน้ำและความชุ่มชื้น ตัวสารเคลือบผิวนี้เองที่จะเป็นเหมือนกาวดักจับฝุ่นร้ายในอากาศแล้วย่อยสลายมันให้กลายเป็นปุ๋ย ทีมวิจัยจึงนำมอสมาทดลองในห้องปิดพร้อมติดตั้งระบบลม แล้วปล่อยควันและมลพิษต่าง ๆ เข้าไป พบว่า มอสทำให้ปริมาณฝุ่นค่อย ๆ ลดน้อยลงจนกระทั่งหมดไปในที่สุด

นอกจากแนวคิดนี้จะช่วยกำจัดฝุ่นร้ายให้หมดไปได้แล้ว หากแนวคิดนี้มีการพัฒนาให้มอสสามารถเติบโตในไทยได้ ที่ไม่เพียงฟอกอากาศให้สะอาด แต่ยังสร้างอาชีพให้กับคนไทยให้มีรายได้ด้วยเช่นกัน


ที่มา: เพจ PTT News / สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน)

‘บิ๊กตู่’ สั่งด่วนกำหนดแนวทางให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการขนส่งสินค้าทางเรือ ซึ่งได้รับผลกระทบจากวิกฤตการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั้งด้านปริมาณการค้าที่ลดลง ตู้สินค้าขาดแคลน และค่าระวางการส่งออกที่เพิ่มขึ้น

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้กระทรวงคมนาคม ร่วมกับกระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งพิจารณากำหนดแนวทางให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการขนส่งสินค้าทางเรือ ซึ่งได้รับผลกระทบการประกอบกิจการในช่วงภาวะวิกฤตจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

แนวทางช่วยเหลืออย่างเช่น การอนุญาตให้เรือบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่กว่าที่กำหนดไว้เดิมสามารถเข้าเทียบท่าได้เพื่อขนส่งสินค้าในปริมาณที่มากขึ้น การผ่อนปรนการเรียกเก็บค่าบริการท่าเทียบเรือ

“กระทรวงพาณิชย์ได้สะท้อนปัญหาของผู้ส่งสินค้าทางเรือและผู้ส่งออกต่อที่ประชุม ครม. ล่าสุดนายกรัฐมนตรีจึงมีข้อสั่งการให้หาทางช่วยเหลือผู้ประกอบการ และได้มอบหมายให้ให้กระทรวงคมนาคมกำกับติดตามการดำเนินการให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว”

ทั้งนี้ที่ผ่านมารัฐบาลได้ทยอยออกมาตรการเพื่อช่วยเหลือทั้งประชาชนและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โควิด-19 ตามแนวนโยบายของ นายกรัฐมนตรี ที่ต้องการให้การช่วยเหลือครอบคลุมประชาชนมากที่สุด

และล่าสุดรัฐบาลได้รับทราบถึงความเดือดร้อนของผู้ประกอบการกลุ่มผู้ส่งสินค้าทางเรือ ซึ่งเป็นกลุ่มกลไกสำคัญต่อเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะในภาคการนำเข้าและส่งออก ว่า ขณะนี้ได้รับผลกระทบหลายด้านโดยเฉพาะจากปริมาณการค้าที่ลดลงจากผลกระทบของโรคโควิด-19 ปัญหาตู้สินค้าขาดแคลน ผู้ส่งออกเองก็ประสบปัญหาค่าระวางของการส่งออกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้อาจส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกในระยะยาว

ด่วน! ประธานสภาผู้แทนราษฎร "ชวน หลีกภัย" ยื่นคำร้อง ศาลรัฐธรรมนูญ สั่ง "สิระ เจนจาคะ" หยุดปฏิบัติหน้าที่ รวมทั้งให้วินิจฉัยว่า ขาดคุณสมบัติเป็น ส.ส. ตามที่ ส.ส.ฝ่ายค้าน ยื่นคำร้องมาหรือไม่

นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้ทำหนังสือแจ้งต่อ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะ ประธานกรรมาธิการ ป.ป.ช. สภาผู้แทนราษฎร โดยระบุว่า ขณะนี้ได้มีการยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้ นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ หยุดปฏิบัติหน้าที่

รวมทั้งให้วินิจฉัยว่า นายสิระนั้น ได้ขาดคุณสมบัติ การเป็น ส.ส. ตามที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ และ สมาชิกสภาผู้แทนราาฎร ในปีกฝ่ายค้านกว่าร้อยคน ได้ยื่นคำร้องเมื่อวันที่ 15 มกราคม ที่ผ่านมา หรือไม่ อีกด้วย

 

เครือข่ายลดบริโภคเค็ม และสมาคมโรคไตแห่งประเทศไทย เผยผลวิจัยล่าสุด พบพฤติกรรมคนไทยบริโภคโซเดียม (เกลือ) เกิน 2 เท่า "ภาคใต้" ครองแชมป์กินเค็ม

สะเทือนไตคนไทยทั้งประเทศ เมื่อเครือข่ายลดบริโภคเค็ม สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และสมาคมโรคไตแห่งประเทศไทย เผยผลงานวิจัยล่าสุด ที่ได้รับการพิมพ์ในวารสาร Journal of Clinical Hypertension โดยความร่วมมือกับองค์การอนามัยโลก (WHO) ตีแผ่พฤติกรรมคนไทยบริโภคโซเดียม (เกลือ) เฉลี่ยสูงที่สุดในภาคใต้, ภาคกลาง, ภาคเหนือ, กรุงเทพมหานครและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

โดยค่าปริมาณการบริโภคโซเดียมเฉลี่ยประชาชนไทยเท่ากับ 3,636 มิลลิกรัมต่อวัน หรือเท่ากับเกลือถึง 1.8 ช้อนชา ด้านองค์การอนามัยโลกระบุ จากผลการศึกษานี้ทำให้ต้องตระหนักถึงความจำเป็นที่จะต้องเพิ่มความพยายามในการลดปริมาณการบริโภคโซเดียมในประชากรไทยให้มากขึ้น โดยเฉพาะเด็กไทยที่บริโภคเกลือมากเกินไป

รศ.นพ.สุรศักดิ์ กันตชูเวสศิริ ประธานเครือข่ายลดบริโภคเค็มและนายกสมาคมโรคไตแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ประเทศไทยมีเป้าหมายที่จะลดปริมาณการบริโภคโซเดียมลงให้ได้ร้อยละ 30 ภายในปี พ.ศ. 2568 เพื่อลดโรคความดันโลหิตสูง และภาวะแทรกซ้อน แต่เนื่องจากข้อมูลการบริโภคโซเดียมในประชากรไทยนั้นมีจำกัด จึงทำให้เกิดงานวิจัย ชื่อ Estimated dietary sodium intake in Thailand: A nation-wide population survey with 24-hour urine collections (J Clin Hypertens. 2021;00:1–11.)

โดยงานวิจัยชิ้นนี้ได้รับความร่วมมือกันระหว่างเครือข่ายลดบริโภคเค็ม สมาคมโรคไตแห่งประเทศไทย ภาควิชาเวชศาสตร์ชุมชน คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล และคณะสาธารณสุขในมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ทั่วประเทศ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และองค์การอนามัยโลก(WHO) ได้นำไปตีพิมพ์ในวารสาร Journal of Clinical Hypertension โดยเก็บข้อมูลการบริโภคโซเดียมในประชากรไทยทั่วประเทศกว่า 2,388 คน ด้วยวิธีการตรวจเก็บปัสสาวะ 24 ชั่วโมง นำมาวิเคราะห์ปริมาณโซเดียมทางห้องปฏิบัติการ ซึ่งเป็นวิธีการที่น่าเชื่อถือและแม่นยำที่สุดในขณะนี้

ตัวเลขที่ได้จากห้องปฏิบัติการจะถูกคำนวณรวมกับปริมาณโซเดียมที่ขับออกทางอื่นนอกเหนือจากปัสสาวะอีกร้อยละ 10 โดยงานวิจัยชิ้นนี้ มีกลุ่มตัวอย่างอาสาสมัครที่ได้เก็บข้อมูลได้อย่างครบถ้วนและผ่านเกณฑ์การเข้าร่วมวิจัยทั้งหมด 1,599 คน โดยมีอายุเฉลี่ย 43 ปี เป็นเพศหญิงร้อยละ 53 และมีภาวะความดันโลหิตสูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 30 โดยค่าปริมาณการบริโภคโซเดียมเฉลี่ยประชาชนไทยเท่ากับ 3,636 มิลลิกรัมต่อวัน หรือเท่ากับเกลือถึง 1.8 ช้อนชา

ซึ่งผลการวิจัยพบปริมาณการบริโภคโซเดียมเฉลี่ยสูงที่สุดในประชากรภาคใต้จำนวน 4,108 มก./วัน, ภาคกลาง จำนวน 3,760 มก./วัน, ภาคเหนือ จำนวน 3,563 มก./วัน, กรุงเทพมหานคร จำนวน 3,496 มก./วันง แบะภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 3,316 มก./วัน ตามลำดับ

รศ.นพ.สุรศักดิ์ กล่าวว่า ทางทีมวิจัยยังพบว่าผู้ที่มีระดับการศึกษาสูง น้ำหนักตัวเกินเกณฑ์ปกติ และคนที่มีความดันโลหิตสูง มีการบริโภคโซเดียมมากกว่ากลุ่มอื่นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ โดยสรุปแล้ว คนไทยบริโภคโซเดียมเกินเกณฑ์ที่องค์การอนามัยโลกแนะนำถึงเกือบ 2 เท่า (องค์การอนามัยโลกแนะนำให้บริโภคโซเดียมไม่เกินวันละ 2,000 มิลลิกรัม) การศึกษานี้เป็นการศึกษาแรกในประเทศไทยที่ใช้วิธีสำรวจมาตรฐานอย่างเป็นระบบ จึงเป็นประโยชน์มากต่อการเปรียบเทียบข้อมูลการบริโภคโซเดียมของคนไทยในอนาคต

ด้าน นพ.แดเนียล เคอร์เทสซ์ ผู้แทนองค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย กล่าวเสริมว่า “งานวิจัยฉบับนี้ใช้วิธีการเก็บข้อมูลที่เป็นมาตรฐานระดับสูงสุด ซึ่งชี้ให้เห็นว่าประชาชนไทยบริโภคโซเดียมเกินปริมาณที่ควรบริโภคต่อวันถึงเกือบ 2 เท่า ผลการศึกษานี้ทำให้ตระหนักถึงความจำเป็นที่เราจะต้องเพิ่มความพยายามในการลดปริมาณการบริโภคโซเดียมในประชากรไทยให้มากขึ้น ซึ่งจะช่วยลดการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรได้หลายพันคน จากโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคไต และโรคเรื้อรังต่าง ๆ และยังจะช่วยลดความสูญเสียทางเศรษฐกิจได้อีกด้วย”

ส่วน พญ.ดร.เรณู การ์ก เจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์ (โรคไม่ติดต่อ) สำนักงานผู้แทนองค์อนามัยโลกประจำประเทศไทย กล่าวว่า สิ่งที่น่าเป็นห่วงมากคือ เด็กไทยบริโภคเกลือมากเกินไป โดยเฉลี่ยเด็กไทยบริโภคโซเดียมมากถึง 3,194 มก. ต่อวัน ซึ่งเป็นระดับการบริโภคที่สูงเกินกว่าเกณฑ์แนะนำสำหรับกลุ่มเด็กมาก ยิ่งกว่านั้นปริมาณโซเดียมที่เด็กไทยบริโภคถือว่าอยู่ในระดับที่สูงมากเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่น ๆ ในโลก ซึ่งทำให้เยาวชนตกอยู่ในความเสี่ยงที่อาจจะมีภาวะความดันโลหิตสูง และโรคไตเมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ดังนั้น เราต้องเร่งดำเนินมาตรการเพื่อลดการบริโภคโซเดียมทั้งในผู้ใหญ่ และเด็ก

เจ้าหน้าที่ WHO ยังแนะนำว่า ให้บริโภคโซเดียมไม่ควรเกิน 1 ช้อนชา หรือคิดเป็นปริมาณโซเดียม 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน แต่ปัจจุบันคนไทยบริโภคเกินกว่า 2 เท่า หากรัฐบาลผลักดันนโยบายเก็บภาษีผลิตภัณฑ์อาหารที่มีโซเดียมสูงเกินมาตรฐาน โดยเก็บภาษีผลิตภัณฑ์บรรจุหีบห่อ และผลักดันให้ผู้ผลิตอาหารปรับรูปแบบอาหารบรรจุหีบห่อให้มีโซเดียมน้อยลง จะช่วยปกป้องสุขภาพของประชาชน และลดความเสี่ยง NCDs จากการบริโภคโซเดียมมากเกินความพอดีได้สำเร็จ

หลังคณะรัฐมนตรีมีมติออกมาตรการ 'เราชนะ' เพื่อเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 โดยจะมอบให้กับกลุ่มบุคคล 3 กลุ่ม จำนวนทั้งสิ้น 7,000 บาท เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2564 ที่ผ่านมา กลุ่มบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รับเงินเป็นกลุ่มแรก 5 กุมภาพันธ์

ทั้งนี้ จะมีการกำหนดช่วงเวลาในการรับเงิน โดยจำแนกเป็นแต่ละกลุ่มบุคคล ดังนี้

กลุ่มที่ 1 บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

- รับโอนเงินครั้งแรก (จำนวน 675 บาท หรือ 700 บาท): วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564

- รับโอนครั้งต่อไป (ทุกวันศุกร์) : วันที่ 12, 19, 26 กุมภาพันธ์ 2564 และ 5, 12, 19, 26 มีนาคม 2564

กลุ่มที่ 2 เป๋าตัง

- ตรวจสอบสถานะ: วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564

- กดยืนยันสิทธิ์ พร้อมรับเงินครั้งแรก (จำนวน 2,000 บาท) : วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564

- รับโอนเงินครั้งถัดไป (จำนวน 1,000 บาท ทุกวันพฤหัสบดี) วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2564 และ 4, 11, 18, 25 มีนาคม 2564

กลุ่มที่ 3 เราชนะ (กลุ่มไม่ได้อยู่ในฐานข้อมูล)

- รับสมัครลงทะเบียน: วันที่ 29 มกราคม 2564

- ตรวจสอบสถานะ: วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2564

- ปิดรับลงทะเบียน: วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2564

รับโอนเงินครั้งแรก (จำนวน 2,000 บาท) : วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564

- รับโอนเงินครั้งถัดไป (จำนวน 1,000 บาท ทุกวันพฤหัสบดี) วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2564 และ 4, 11, 18, 25 มีนาคม 2564

‘เทพไท’ ขอบคุณรัฐบาล ที่เปิดลงทะเบียน ‘เราชนะ’ผ่านธนาคาร เสนอรัฐปรับปรุงข้อมูล ตรวจสอบสิทธิ์ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อให้ประชาชนคนยากคนจนจริงๆ ได้มีโอกาสใช้

นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงโครงการ”เราชนะ”ของรัฐบาล ที่เปิดให้มีการลงทะเบียนผ่านแอพพลิเคชั่นนั้น จะมีประชาชนส่วนหนึ่งที่ไม่มีโทรศัพท์แบบสมาร์ทโฟน จึงไม่สามารถลงทะเบียนได้ จนทำให้นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้โพสต์เฟซบุ๊กยืนยันว่า ประชาชนที่ไม่มีสมาร์ทโฟน ก็สามารถลงทะเบียน "เราชนะ" ได้ โดยได้ประสานงานกับธนาคารของรัฐให้ช่วยอำนวยความสะดวกแล้วนั้น

ผมต้องขอขอบคุณที่นายสุพัฒนพงษ์ แทนพี่น้องประชาชน ผู้ไม่มีโทรศัพท์แบบสมาร์ทโฟน และลงทะเบียนผ่านแอพพลิเคชั่นไม่เป็น ที่ได้รับฟังความเห็น หรือข้อเสนอของตนที่ได้นำเสนอไปก่อนหน้านี้ และได้เห็นความสำคัญหรือข้อจำกัดของประชาชนระดับรากหญ้า ที่ไม่มีโอกาสได้ใช้โทรศัพท์แบบสมาร์ทโฟนที่มีราคาค่อนข้างสูง จะได้มีโอกาสลงทะเบียนในโครงการเราชนะผ่านธนาคารของรัฐได้ เช่น ธนาคารกรุงไทย,ธนาคารออมสิน,ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์(ธกส.) ซึ่งมีอยู่ในทุกอำเภอ

จึงอยากจะให้ทางรัฐบาลได้ประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจกับประชาชน ที่ไม่สามารถลงทะเบียนผ่านแอพพลิเคชั่นได้ ให้ใช้วิธีการลงทะเบียนผ่านธนาคารของรัฐได้ทุกแห่ง และขอให้รัฐบาลได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ธนาคารของรัฐทั้งหมด ได้อำนวยความสะดวกช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ เพราะประชาชนในต่างจังหวัด จะมีส่วนหนึ่งที่มีความรู้น้อย อาจจำเป็นต้องการคำแนะนำ และการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ธนาคารของรัฐมากที่สุด

ส่วนการที่รัฐบาลจะโอนเงินจากโครงการเราชนะ ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่มีผู้ถือบัตรจำนวน 13.8 ล้านคนนั้น ก็เป็นสิ่งที่น่ายินดี ที่ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐหรือบัตรคนจน จะได้มีเงินเพิ่มขึ้น แต่อยากจะเสนอให้รัฐบาลได้ปรับปรุงข้อมูล หรือตรวจสอบสิทธิ์ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อความถูกต้องและเป็นไปตามนโยบาย ที่ต้องการให้ประชาชนคนยากคนจนจริงๆ ได้มีโอกาสใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

และยังมีผู้ตกค้างไม่ได้ลงทะเบียนที่เป็นคนจนอีกจำนวนมาก ที่รัฐบาลจะต้องให้โอกาสกับคนเหล่านี้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐด้วย และเมื่อข้อมูลของผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐถูกต้องตรงกับสภาพความเป็นจริง ก็จะเป็นฐานข้อมูลที่สำคัญของรัฐบาล ในการใช้เป็นข้อมูลพื้นฐาน เพื่อการช่วยเหลือประชาชนที่ยากจนในโอกาสต่อไป


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top